หลวงปู่สงฆ์ วัดบ้านทราย ลพบุรี

ขอเริ่มจากประวัติหลวงปู่ ( ขออนุญาตินำข้อมูลจากเจ้าของเดิมครับ)


หลวงปู่สงฆ์ กนฺตธมฺโม วัดบ้านทราย จ.ลพบุรี
นามเดิมชื่อ สงฆ์ นามสกุล นามคำ
เกิดเมื่อ วันจันทร์ ที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๕ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๕ ปีชวด
ณ.บ้านยาง หมู่ที่ ๗ ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
บิดาชื่อ คุณพ่อไชย์ นามคำ ( พ่อกำนันตำบลน้ำคำ )
มารดาชื่อ คุณแม่คำ นามคำ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๘ คนดังนี้
๑. นายเทศน์ นามคำ
๒. นายพุฒ นามคำ
๓. นางเพียง นามคำ
๔. นางเสียน นามคำ
๕. หลวงปู่สงฆ์
๖. นายศร นามคำ
๗. นางกอง นามคำ
๘. นายสุหล้า นามคำ
ช่วงประถมวัย ด้วยการที่ถือกำเนิดมาในครอบครัวที่มีฐานะพอสมควรในตำบล จึงทำให้หลวงปู่สงฆ์ มีช่วงชีวิตวัยเด็กที่พอสุขสบายไม่ยากลำบาก เมื่อมีอายุครบเกณฑ์การศึกษาเล่าเรียนจึงเข้าเรียนเบื่องต้นที่
โรงเรียนบ้านน้ำคำ ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จนสำเร็จการศึษาสูงสุดในขณะนั้นที่ชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๔ ในปี่ พ.ศ.๒๔๖๕ มีอายุครบ ๑o ปีได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณร ณพัทธสีมา วัดหลวงสุมังคลาราม
อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ โดยมี พระมหาอิ่ม เป็นพระบรรพชาจารย์ เพื่อศึกษาเรียนรู้ในพระปริยัติธรรม จนสามารถสอบไล่ได้ นักธรรมตรี และได้ศึกษาเรียนรู้ใน พระวิปัสสนากรรมฐานญาณวิถี ในสำนักพระอา
จารย์เกี้ยว วัดหนองโน บ้านหนองโน ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ในปี พ.ศ.๒๔๗o มีอายุครบ ๑๕ ปี ได้ฝึกฝนปฎิบัติในทางพระธุดงควัตรทั้ง ๑๓ ยึดถือและปฏบัติตามแนวทางแห่งพระอริยะสงฆ์พระอริยะ
เจ้า และ ได้ออกเดินรุกขมูลปลีกวิเวกไปยังสถานที่แห่งสัปปายะพร้อมกันกับหมู่คณะโดยมี พระอาจารย์เกี้ยว เป็นหัวหน้าหมู่คณะผู้นำออกเดินธุดงค์ พระอาจารย์เกี้ยว ตามบันทึกกล่าวใว้ว่าเป็น อันเตวาสิก
สัทธิวิหาริกธรรมในหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ซึ่งเป็นศิษย์ในสายพระวิปัสสนากรรมฐาน สายพระป่า พระอรัญญวาสี เพียงแต่มิได้แปรญัตติในพระธรรมยุติกนิกาย ดำรงคงมั่นในสมณสารูปใน พระมหานิกาย
เพื่อที่จะได้ศึษาอบรมในศาสตร์สายวิชาในสำนัก สมเด็จลุน สังฆราชาข้างฝ่ายเมืองนครเวียงจันทร์ นครจำปาศักดิ์บุรีศรี ประเทศสาธารณประชาธิปไตยประชาชนลาว พระอาจารย์เกี้ยว ถือเป็นศิษย์ผู้พี่ของ
หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เหนือ ด้วยการอุปสมบทก่อนหน้า ๒ พรรษาอีกทั้งยังได้ศึกษาในศาสตร์พุทธาคม ศาสตร์พุทธเวท ในสำนักครูบาอาจารย์เดียวกันสามเณรสงฆ์ นามคำได้เข้าถึงในองค์แห่งพระ
วิปัสนากรรมฐานไปตามลำดับกำลังแห่งวัย แห่งสติปัญญา จนถึงมีอายุครบเกณฑ์ อุปสมบท
การอุปสมบท เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๕ ตรงกับวันแรม ๖ ค่ำเดือน ๗ ปีวอก ณ.พัทธสีมาวัดหญ้าปล้อง ต.หญ้าปล้อง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ โดยมี พระอธิการปิ่นเจ้าอาวาสวัดหญ้าปล้อง เป็นพระ
อุปัชฌายื พระมหาทองแดง พระอธิการเจ้าอาวาส วัดบ้านยาง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เกี้ยว พระอธิการเจ้าอาวาส วัดหนองโนเป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากได้อุปสมบทแล้วได้อยู่จำพรรษา
ที่ วัดหนองโน และได้เข้าศึกษาพระนวกะภูมิในสำนัก วัดหลวงสุมังคลาราม พร้อมกับการศึกษาในแผนกนักธรรม จนสามารถสอบไล่ได้นักธรรมเอก และการศึกษาในหนังสือไทยใหญ่ หนังสืออักขระธรรมอี
สาน พระมูลบทสังกัจจายน์ มูลบทบรรพกิจ พร้อมกับฝึกฝนอบรม ในพระวิปัสนากัสฐานชั้นสูง หลังจากนั้นได้เข้าศึกษาเล่าเรียนในแผนกพระปริยัติธรรม พระบาลีไวยกรณ์เปรียญธรรม ในสำนักพิชยญาติ
กรรม เขตคลองสาน กรุงเทพ ในปี พ.ศ. ๒๔๘o ด้วยอยู่ภายใต้การปกครองดูแลของ พระมหาเสาร์ เจ้าคณะ๗ การลาสิกขาบท เป็นความประสงค์ของ พ่อกำนันไชย์ นามคำ ที่ปรารถนาให้หลวงปู่สงฆ์ พระลูกชายได้สละเพศบรรพชิตออกมาอยู่ครองเรือนเพื่อสืบทอดกิจการงานเกษตรกรรมของครอบครัวที่มีที่ดินจำนวนมาก

การอุปสมบทครั้งที่ ๒ ด้วยการที่หลวงปู่สงฆ์ ได้รับการเชื้อเชิญจาก ท่านผู้มีพระคุณท่านหนึ่ง ให้มาอบรมสั่งสอนในหลักสูตรนักธรรม สำนักเรียนวัดบ้านทราย ต.บ้านทราย อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรีเมื่อประมาณปี่
พ.ศ.๒๕๒๒ ทำหน้าที่ครูสอนนักธรรมประมาณ ๙ ปีผู้มีพระคุณท่านนั้น ได้ถึงกาลกิริยาแตกดับละสังขารลง หลวงปู่สงฆ์ จึงได้ประกอบการอุปสมบทเพื่ออุทิศบุญกุศลแด่ผู้มีพระคุณท่านนั้นและถือเป็นการอุป
สมบทแบบตลอดชีวิต มากกว่าสามสิบปีแล้วจนถึง ณ เวลาขณะนี้ด้วยบุญกุศลกรรมเก่าที่ให้เจริญรุ่งเรืองงอกงามไพบูลย์ ในพระพุทธศาสนา จึงไม่อาจแข็งขืนฝืนในกุศลกรรมเก่านั้นได้ เมื่อชะตาชีวิตฟ้าลิขิต
ให้ต้องเป็น พระเกจิคณาจารย์ เพื่อการอนุเคราะห์ญาติโยมทางธรรมเป็นไปทั้งการสร้างสมบุญญาบารมีในทางหนึ่ง และในอีกทางหนึ่งคล้ายเป็นการชดใช้เสียชึ่งกุศลกรรม และอกุศลกรรมเก่าที่ต้องชดใช้ผู้ที่
เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาแต่อดีตชาติเก่าก่อนก็ต้องหวนกลับมาพบเห็นเจอะเจอกันอีกครั้งหนึ่งเพื่อสานต่อในบุญบารมีทางธรรมกันจนกว่าจะได้พบดินแดนแห่งพระนิพพาน

 

จริงๆก็ไม่มีอะไรมากครับ ก็แค่อยากให้มีพื้นที่ เผยแพร่ ประวัติ เรื่องราว และ รวมภาพวัตถุมงคล ของ หลวงปู่ เพื่อให้ง่ายต่อการติดตาม เพื่อนๆท่านใดมีและศัสธา เชิญครับ ร่วมสืบสานกัน

 

ติดตามครับ

 

รุ่นเจริญพรไตรมาศ รูปแแบจำนวนการสร้างครับ

 

ไปอ่านเจอมาครับ พิจราณาข้อมูลดูเองนะครับ

 

หลวงปู่สงฆ์ วัดบ้านทราย พระเกจิรัตตัญญู จ.ลพบุรี

มงคลข่าวสด



หลวงปู่สงฆ์ กันตธัมโมพระเกจิชื่อดังแห่งวัดบ้านทราย อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ผู้สืบทอดพุทธาคมสายสมเด็จลุน แห่ง แผ่นดินฟากฝั่งตะวันออกแม่น้ำโขง และสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

เป็นพระเกจิชื่อดังและพระนักพัฒนาที่ชาวเมืองลพบุรีต่างเลื่อมใสศรัทธาอย่างดียิ่ง ด้วยความเป็นพระเถระที่มีเมตตาธรรม ขั้นสูง เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เข้มขลังในวิทยาคมเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจ

อีกทั้งยังเป็นพระเกจิรัตตัญญูที่มีอายุยืนยาวกว่า 103 ปี

มีนามเดิมว่า สงฆ์ นามคำ เป็นชาวศรีสะเกษ เป็นบุตรคนที่ 5 ของ นายไชย และ นางคำ นามคำ เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 1 เม.ย. 2455 ที่บ้านยาง หมู่ที่ 7 ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ

ช่วงเยาว์วัย ชีวิตไม่ลำบาก ด้วยถือกำเนิดมาในครอบครัวที่มีฐานะ เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนบ้านน้ำคำ ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ

พ.ศ.2466 อายุครบ 10 ขวบ บรรพชาที่วัดหลวงสุมังคลาราม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ มีพระมหาอิ่ม (หลวงพ่ออิ่ม) เจ้าอาวาสวัดหลวงสุมังคลาราม เป็นพระอุปัชฌาย์

ภายหลังบรรพชา พำนักอยู่ที่วัดหลวง สุมังคลาราม ศึกษาด้านพระปริยัติธรรม เมื่อมีเวลาว่างก็ปรนนิบัติรับใช้พระอุปัชฌาย์

ในพรรษาแรก สามารถสอบได้นักธรรม ชั้นตรี ต่อมาพักการเรียนนักธรรมไว้ก่อน หันมาปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานกับหลวงพ่ออิ่ม เป็นเวลา 2 พรรษา

จากนั้น ท่านกราบฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิปัสสนากัมมัฏฐานในสำนักพระอาจารย์เกี้ยว วัดหนองโน ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดหลวงสุมังคลาราม

ขณะที่เป็นสามเณรน้อย ศึกษาแนวทางปฏิบัติกับพระอาจารย์เกี้ยว ตรงกับปี พ.ศ.2470 อายุ 15 ปี ท่านตั้งใจศึกษาฝึกปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานอย่างจริงจัง พร้อมกับปฏิบัติธรรมปลีกวิเวกออกธุดงค์ไปยังสถานที่ ต่างๆ พร้อมกับหมู่คณะ โดยมีพระอาจารย์เกี้ยว เป็นหัวหน้าออกนำธุดงค์ เพื่อศึกษาอบรมในศาสตร์สายวิชาสำนักสมเด็จลุน สังฆราชาเมืองนครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาชนลาว และสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

อักขระภาษาขอม ที่พระอาจารย์เกี้ยวสอนให้นั้น เป็นอักขระขอมลาว ซึ่งไม่เหมือนกับอักขระภาษาขอมที่เราได้พบเห็นในการเขียน-การจารของพระเกจิอาจารย์ไทย

ศึกษาเล่าเรียนด้านวิปัสสนากับพระอาจารย์ เกี้ยวนานถึง 5 ปี ที่วัดหนองโน ได้รับถ่ายทอด แนวทางปฏิบัติจิตตภาวนา

กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย.2475 ที่วัดหญ้าปล้อง ต.หญ้าปล้อง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ โดยมีพระอธิการปิ่น เจ้าอาวาสวัดหญ้าปล้อง เป็นพระอุปัชฌาย์

ท่านศึกษาด้านพระปริยัติธรรม แผนกธรรม จนสอบได้นักธรรมชั้นเอก

จำพรรษาอยู่ที่วัดหนองโน ศึกษานวกภูมิ ในสำนักวัดหลวงสุมังคลาราม ศึกษาแผนกธรรม ศึกษาหนังสือไทยใหญ่ อักขระขอม มูลบทกัจจายน์ และฝึกฝนวิปัสสนากัมมัฏฐานชั้นสูง ตลอดจนศึกษาพระปริยัติธรรม ในสำนักวัดพิชยญาติการาม กรุงเทพฯ

ต่อมาลาสิกขาตามคำขอร้องของบิดา ในปี พ.ศ.2480

หลวงปู่สงฆ์อุปสมบทครั้งที่ 2 ด้วยเหตุ ที่ท่านได้รับเชิญจากผู้มีพระคุณท่านหนึ่ง ให้มาอบรมสั่งสอนในหลักสูตรนักธรรม สำนักเรียนวัดบ้านทราย อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ทำหน้าที่ครูสอนนักธรรม ประมาณ 9 ปี ผู้มีพระคุณก็เสียชีวิต

พ.ศ.2522 หลวงปู่สงฆ์จึงได้อุปสมบทเพื่อ อุทิศบุญกุศลต่อผู้มีพระคุณ อีกทั้งชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสศรัทธา กลายเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่มีชื่อเสียงรูปหนึ่ง

เมื่ออุปสมบทครั้งที่ 2 จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านทราย อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี มาโดยตลอด วัตรปฏิบัติของท่านเป็นที่ศรัทธา

ท่านจัดสร้างวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง ในวาระต่างๆ เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ศิษยานุศิษย์ วัตถุมงคลหลวงปู่สงฆ์ ที่ออกมาแต่ละรุ่น ได้รับความนิยมสูงจากบรรดานักสะสมพระในตัวจังหวัดลพบุรีและใกล้เคียง

วัตถุมงคลของท่านจัดสร้างเพื่อนำรายได้บูรณะเสนาสนะของวัดบ้านทราย ที่ท่านพำนักอยู่

ในยุคต้น หลวงปู่สงฆ์ จัดสร้างตะกรุดโทน ผ้ายันต์ เป็นส่วนใหญ่ พอทำเสร็จก็แจกให้กับผู้ที่ต้องการนำไปบูชา มิได้จัดสร้างจำนวนมากแต่อย่างใด ภายหลังได้จัดสร้างตะกรุดสามกษัตริย์ออกให้บูชาที่วัดบ้านทราย มีการตอกโค้ดและหมายเลขกำกับลำดับที่ดอกตะกรุด

เคล็ดลับการจัดสร้างตะกรุด ท่านจะจารอักขระเลขยันต์เป็นอักขระขอม-ลาวทั้งหมดที่ได้สืบทอดตามตำรับพระอาจารย์เกี้ยว

วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม อาทิ เหรียญกลม รุ่นแรก ปี 2551, พระกริ่งมหาปรารถนา รุ่นแรก ปี 2556, พระชัยวัฒน์มหาปรารถนา รุ่นแรก, หนุมานมหาปรารถนา รุ่นแรก, ล็อกเกตมหาปรารถนา, เหรียญเสมา รุ่นมหาเศรษฐี, ล็อกเกตมหาเศรษฐี, เหรียญหล่อโบราณ รุ่นแรก, เหรียญสรงน้ำรุ่นแรก, เหรียญเม็ดแตง รุ่นแรก, เหรียญเจริญพร เป็นต้น

ในด้านการเผยแผ่ธรรม หลวงปู่สงฆ์ ใช้ธรรมะสั่งสอนชาวบ้าน ให้รู้จักทำมาหากินด้วยความสุจริต มีความอดทน ขยันหมั่นเพียร มิให้ลุ่มหลงมัวเมาในอบายมุข ใช้ชีวิตอย่างสมถะและพอเพียง

หลักธรรมในการปฏิบัติที่หลวงปู่สงฆ์ พร่ำสอนพุทธศาสนิกชน "ให้มีสติ ดูลมหายใจเข้าออก ทุกลมหายใจให้มีสติรู้อยู่กับลม จิตก็ไม่ส่ายไปทางไหน ฝึกบ่อยเข้าบ่อยเข้าก็เกิดเป็นนิสัย ความสงบเย็นก็เกิดมี ในจิต เมื่อจิตสงบมากขึ้น ก็เกิดเป็นปัสสัทธิ คือ สงบเย็น"

ภารกิจของท่านมีมากมายในรอบสัปดาห์ รอบเดือน ท่านไม่เคยได้อยู่ประจำจังหวัด ต้องเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ตามที่ได้รับนิมนต์ ยกเว้นวันพระ ท่านจะอยู่ประจำวัดไม่ไปไหน

ทุกวันนี้หากไม่มีกิจนิมนต์ที่ต้องเดินทางไกล ผู้มีโอกาสไปวัดบ้านทราย จะเห็นภาพของพระเกจิร่างเล็กกวาดใบไม้ลานวัดหน้ากุฏิอยู่เสมอ ท่านบอกว่าอยากให้วัดมีความสะอาด มีความเป็นระเบียบ ใครมาวัดก็จะได้ดูร่มรื่นสบายใจ และถือว่าเป็นการ ออกกำลังกายไปในตัวด้วย

หลวงปู่สงฆ์มีสุขภาพจิตดีและมีอารมณ์ ขันมาก เวลามีบรรดาญาติโยมมากราบนมัสการ ท่านก็เมตตาออกรับแขกทุกคนโดยไม่เลือกชนชั้นวรรณะ จะมีเรื่องเก่าๆ แฝงด้วยคติคำสอนเล่าให้ฟังตลอดเวลาที่สนทนา

แม้ล่วงวัยกว่า 100 ปี แต่ท่านยังคงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง

นับเป็นพระสุปฏิปันโนอีกรูปหนึ่งของลพบุรี

 

ภาพ

 

เหรียญหล่อ ที่ดูสวย ทั้งรูปแบบและเนื้อเหรียญ

 

ไม่รู้ว่าใครถ่ายภาพ หลวงปู่ สวยถูกใจจริงๆ

 

ท่านใจดีมากครับ คุยสนุก จารให้ทุกเหรียญเลย

 

ทราบอย่างนี้ ผมต้องหาโอกาสไปกราบบ้างแล้วครับ ตอนนี้ทะยอยบูชาเหรียญอยู่ จะได้ติดไปด้วย

ไปยากไหมครับพี่ ที่วัดนี่

 

แค่เห็นรูปก็เกิดศัสธา ท่านใดเป็นอย่างนี้บ้าง

 

แม้ประสปการณ์ ที่มีมาแชร์กันในตอนนี้ยังจะมีมาไม่มาก แต่เริ่มมีอะไรบางอย่างที่กำลังจะเปลี่ยนไป ผมยังไม่ได้ไปกราบ แค่อ่านประวัติและเห็นรูปก็เกิดศัทธาครับ ท่านใดมีศัสธาใน หลวงปู่สงฆ์ เชิญมาพูดคุยกันครับ

 

ผมเพิ่งทราบข่าว การละสังขารของ หลวงปู่สู่แดนนิพพาน

ผมขอน้อมกราบ หลวงปู่

กราบ กราบ กราบ

 

ผมเสียดายเป็นอย่างมากที่ไม่ได้เดินทางไป กราบท่านสังครั้ง ด้วยตัวเองทั้งที่อยู่แค่ลพบุรี
พระที่เราๆท่านๆ จะกราบๆด้อย่างหมดใจ

ก็หวังว่าท่านใดที่ผ่านเข้ามาใน กระทู้นี้ จะช่วยบอกเล่าเรื่องราวของท่าน ไว้ให้ศึกษาและเป็นวิทยาทาน ต่อท่านอื่นต่อๆไป

ขอเป็นวิทยาทาน ที่ไม่มุ่งหวังทางอื่นๆครับ