ทางที่ต้องเลือกเดินในจักรวาลแห่งความรัก

พระพุทธศาสนายอมรับสัจจะอยู่สองอย่าง คือ สมมุติสัจจะ และ ปรมัตถสัจจะ
เมื่อว่าโดยสมมุติแล้ว ความดี ความชั่วมี ผลของกรรมดี กรรมชั่วมี
แต่เมื่อว่าโดยปรมัตถ์สัจจะแล้ว สิ่งทั้งปวงไม่มี ความดี ความชั่ว
ผลแห่งความดี ความชั่วนั้น รวมอยู่ในคำว่า "สิ่งทั้งปวง" ฉะนั้น
จึงพลอยไม่มีไปด้วย คำสอนปรมัตถ์สัจจะของพระพุทธศาสนานั้น
สำหรับบุคคลผู้ยอมรับสมมุติสัจจะโดยสมบูรณ์แล้ว คือ
จะมุ่งไปสู่ปรมัตถ์สัจจะเลย โดยไม่ผ่านสมมุติสัจจะนั้นไม่ได้
แปลว่า ผู้ที่มีภูมิจิตถึงปรมัตถ์สัจจะ จะไม่ต้องทำความชั่วเพราะเรื่องสมมุติแล้ว

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะ 2016 สวัสดีโลกสดใส นำใจสู่รับพลังงานใหม่ค่ะ

สวัสดีความรัก ของทุกดวงจิตที่มีพลังอำนาจแห่งความรัก
ที่เปี่ยมล้นกันทุกดวงใจ

พลังงานยุคใหม่ คือ พลังงานของจิตสำนึกด้านบวกของทุกคน
ขอให้อำนาจของความรักนี้ ทำให้โลกสวยสดงดงามค่ะ

ทุกคนมีกระแสพลังงานนี้อยู่ในตัวตนของทุกคน มันเป็นพลังอำนาจของตน
ขออวยพรให้ทุกท่านนำออกมาให้กันให้ได้ และ ใช้กันให้เป็นนะคะ

 

จิตใจของผู้เข้าสู่พลังงานยุคใหม่

พลังงานยุคใหม่ คือ พลังงานจิตสำนึกด้านบวกของทุกคน

1.ปฏิบัติสมาธิสร้างปัญญาในการคิดรู้ เพื่อหยั่งรู้
หยุดยั้งกระบวนการทางอารมณ์ และการนึกคิดที่ขาดสติ
ละวางตัวตนจากการรับรู้ใด ๆ ไม่นำอารมณ์มาเป็นตัวตนให้จิตยึดเหนี่ยว

2.แผ่เมตตา ปลดปล่อยพลังงานแห่งความรัก
อดทน อดกลั้น ต่อผู้อื่นที่กระทำไม่ถูกต้องแก่ตน
ต่อผู้ที่กำลังเผชิญทุกข์ ต่อผู้ที่ด้อยกว่า ในทันทีที่เผชิญ
เป็นความรู้สึกที่แท้จริง ไม่ใช่แสแสร้ง

3.รู้สึกถึงการกระทำไม่ถูกต้องต่อตนเอง
พร้อมจะขออภัยและยอมรับมันด้วยจิตสำนึก
ไม่ดื้อรั้น ไม่ถือทิฐิ โดยไม่ต้องมีใครชี้นำ
แต่เกิดสติสำนึกด้วยตนเอง เป็นการหยั่งรู้ระดับต้น
พร้อมที่จะปรับปรุงเปลี่ยนทัศนคติ และ ความรู้สึกนึกคิดของตนทันที

4.การค้นพบความปิติสุขในจิตใจตน รักษามันไว้ให้ยาวนาน
ไม่ยอมให้สิ่งกระทบใด ๆ จนให้ความสุขใจเสียไป
ไม่ว่าจะเป็นมองโลกในแง่ดี หรือ เลียนแบบวิธีเด็ก ๆ นำความเป็นเด็กในตัวเองออกมาก็ตาม

5.มีความรู้สึกเพลิดเพลินกับผลการกระทำที่ดีงามของตนต่อมนุษย์คนอื่น
ทำให้ดียิ่งขึ้นโดยไม่มีจิตคิดหวังสิ่งใดตอบแทน
มีเพียงความพอใจที่ได้ทำเท่านั้น

6.รักษาศีลเพื่อเพาะบ่มจิตใจให้สงบ ละเว้นการกระทำที่ไม่ถูกต้องต่อคนอื่น
ให้อันที่จะทำให้ผู้อื่นเกิดความรู้สึกด้านลบในจิตใจอันเกิดจากเราเป็นเหตุ
มีความปฏิบัติดีงามต่ผู้อื่น

7.ปฏิบัติคิดรู้เพื่อการหยั่งรู้ในระดับใดระดับหนึ่ง
หยั่งรู้สูงสุด คือ หลุดพ้นจากทางกายทางจิต

8.เข้าถึงความเป็นพระเจ้าในตัวเอง คือ เข้าถึงความดีงามในจิตใจของตนเองให้ได้

ความรู้นี้เหมือนเรากำลังปฏิบัติอยู่ กำลังทำอยู่ และทำมาแล้วโดยไม่รู้ตัวว่า
มันคืออะไร? หากปฏิบัติสมาธิจะมีคำตอบให้เรากระทำ แต่เหมือนรู้สึกว่า
ชีวิตและจิตใจของเราสงบสุขขึ้น จนเราได้ค้นเจอคำตอบนี้พอดี จากหนังสือ
ของ อ.ปริญญา ตันสกุล ว่าทำไมช่างเหมือนและสอดคล้องกับที่เราทำอยู่
จนเรารู้ว่าการปฏิบัติแบบนี้ คือ การเตรียมพร้อมนำจิตใจเข้าสู่พลังงานยุคใหม่นั่นเองค่ะ

 

สิ่งที่เราได้รับผลกระทบกับโลกที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้
อันสืบเนื่องมาจาก โลกกำลังปรับเข้าสู่พลังงานยุคใหม่
อันเนื่องจากมาจากแกนแม่เหล็กที่อยู่ใจกลางโลกเหนือใต้
ได้เอียงไปจากเดิม เพื่อให้เกิดการยกระดับโครงข่ายสนามแม่เหล็กใหม่
เราจึงเรียกกันว่า ยุคพลังงานใหม่

โครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกถูกยกระดับให้สูงขึ้น
ที่มีผลต่อสติปัญญาของมนุษย์ และ จิตสำนึกของมนุษย์ก็ถูกพัฒนาและ
ยกระดับขึ้นด้วย ส่งผลให้มนุษย์ทุกคนสามารถเข้าถึงความเป็นจริงของสัจธรรม
กันได้ง่าย และ เข้าถึงศาสตร์พลังงานมิติที่สาม ศาสตร์ของจักรวาล
และติดต่อระหว่างดวงดาวมนุษย์ต่างดาว ที่มากกว่ายุคใด ๆ

ถ้าสนามแม่เหล็กโลกอ่อนกำลังลัง ก็ส่งผลให้สติปัญญาของมนุษย์
ตกต่ำ ผู้คนจิตใจขาดคุณธรรม ขาดศีลธรรม ขาดมโนธรรม และ
จิตสำนึกการเป็นมนุษย์ตกต่ำลง เข้าถึงความจริงแห่งสัจธรรมกันได้ยากยิ่ง

เชื่อหรือไม่เราเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานในจักรวาลนี้
เราและโลกไม่ต่างกันเลย ต่างก็เป็นมิติแก่นแท้ทางมิติพลังงานด้วยกัน
ทุกสิ่งล้วนเป็นพลังงาน ที่ต้องทำหน้าที่มอบพลังงานให้แก่กันและกัน

ภัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับโลกอยู่ ณ ขณะ นี้จึงสืบเนื่องมาจากการปรับเข้าสู่พลังงานยุคใหม่นี่เอง

 

กำเนิดจักรวาลhttps://www.youtube.com/watch?v=69GnJx6LT8M

ขออภัยค่ะ กดดูแล้วไม่สามารถเข้าไปดูได้ กำลังหาวิธีแก้ไขอยู่ค่ะ
ใครที่สนใจศาสตร์จักรวาล และ พลังงาน เรื่องนี้น่าดูมากเลยทีเดียวค่ะ

แก้ไขได้แล้วค่ะ เชิญชวนให้กดดูค่ะ

 

ทดสอบ: สารคดีกำเนิดจักรวาลแบบดูได้ทันทีค่ะ


<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/69GnJx6LT8M?feature=player_detailpage" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

<IFRAME height=360 src="https://www.youtube.com/embed/jNIz2PZAQMw?feature=player_detailpage" frameBorder=0 width=640 allowfullscreen></IFRAME>


ตามสารคดี จะเห็นได้ว่า "รู้หรือเปล่าชีวิตเราคือ ธาตุ พลังงาน มวลสสาร รวมเป็นเรา"

ตามพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า

"สิ่งเหล่านี้สักว่า ธาตุ" คือ ส่วนต่าง ๆ ตามธรรมชาติ เท่านั้น
กำลังเป็นไปตามเหตุ ตามปัจจัยอยู่เนืองนิจ

สิ่งเหล่านี้ ก็หมายคือ ทุกสรรพสิ่งในสากลจักรวาล

สิ่งเหล่านี้ เช่น ปัจจัย 4 และ บุคคลผู้บริโภคปัจจัย 4 นั้น
เป็นเพียงสิ่งที่ทรงสภาพของความเป็นดิน(ปฐวีธาตุ) ไฟ(เตโชธาตุ)
ลม(วาโยธาตุ) ช่องว่าง (อากาสธาตุ) และสิ่งที่รู้อารมณ์ (วิญญาณธาตุ)เท่านั้น

เป็นสักว่าธาตู คือ สิ่งที่ทรงสภาพที่แตกต่างกัน
สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นผู้เกี่ยวข้อง ไม่เป็นสัตว์
สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นผู้เป็นไป ไม่เป็นชีวิต
สิ่งเหล่านี้ว่างจากบุคคลและของของบุคคล

ส่วนรูปต่าง ๆ ที่เราเห็นสัมผัสกันได้อยู่ทุกวันนี้ เป็น สิ่งสลายแปรปรวน
1.มหาภูตรูป 4 เกิดจากการประชุมรวมตัวกันของธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ
2.อุปาทยรูป 24 (รูปที่อาศัยมหาภุตรูปเกิด) เช่น สี เสียง กลิ่น รส

ข้อมูลในทางวิทยาศาสตร์

นายฮาโรลด์ ยูเรีย์ กับ สแตนลีย์ มิลเลอร์ ได้ทดลองเอาก๊าซสำคัญบางอย่าง
ที่มีอยู่ทั่วไปในชั้นบรรยกาศ เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรเจน มีเธน และ
แอมโมเนีย ซึ่งชื่อว่าเป็นก๊าซสำคัญในยุคแรกของกำเนิดโลก ในจักรวาลนี้
นำทั้ง 4 อย่างมาทำการทดลองกระตุ้นด้วยไฟฟ้า เพื่อเลียนแบบฟ้าแลบ ฟ้าผ่าเหมือนธรรมชาติ
ก็พบว่า มันทำให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งจากการทดลองภายในไม่กี่ชั่วโมง
ปรากฎว่า ผลจากการทดลองนั้น มันสามารถทำให้มวลของก๊าซผสมทั้ง 4 ตัว ซึ่งไม่มีชีวิต
เกิดมวลสารที่เป็นสิ่งมีชีวิตขึ้นมาได้ มันคือ "โมเลกุลของกรดอะมิโน"

และจากการทดลองหลายครั้ง ยังได้พบอีกว่าพลังงานความร้อนสูงที่เกิดจากรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต
อันเป็นแสงสว่างขนาดใหญ่ของจักรวาล เป็นพลังงานคือ ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดกรดอะมิโน
ซึ่งเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของโมเลกุลชีวเคมีของสิ่งมีชีวิตในจักรวาลนี้ ซึ่งรวมทั้งมนุษย์เองด้วย
ในจักรวาลอันไพศาลนี้ทุกสรรพสิ่งล้วนมีองค์ประกอบพื้นฐานของมวลสารที่เป็นกรดอะมิโนด้วยกันทั้งสิ้น

และระบบสุริยะของเรา พวกเทหวัตถุต่าง ๆ ล้วนก็มีองค์ประกอบกรดอะมิโน

ภายในร่างกายของเรา เซลล์ทุกเซลล์ ล้วนมีองค์ประกอบโดยรวมด้วยการจับตัวกันของกรดอะมิโน

ดั่งคำที่ว่า "เกิดจากสิ่งใดเป็นสิ่งนั้นใช่หรือไม่" โลกและเราจึงเป็นพลังงานที่ไม่ต่างจากกันเลย

รูปร่างที่เห็นกันอยู่นี้จึงไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง

 

โลกในอนาคต

 

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/ogFTzwS3nns?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


ถ้าตามวีดีโอด้านด้านบน หลุมดำมีแรงดึงดูดที่สูงมาก
ไม่มีวัตถุใดสามารถออกไปได้แม้กระทั่งแสง
ถ้าจะออกจากหลุมดำได้วัตถุนั้นต้องเร็วกว่าแสง
จึงไม่สามารถมีวัตถุใดสามารถออกได้

แม้แต่แสงก็หนีการดึงดูดของมันไม่พ้น

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/4OSoy3E8VYw?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

หากจิตมีความเร็วเท่ากับแสง ก็แสดงว่าจิตถูกแรงดึงดูดเอาไว้ไม่ให้หลุดพ้น

ไม่มีอะไรหลุดรอดพ้นไปได้ เปรียบเสมือนประตูขังจิตวิญญาณ

หากจิตไม่บริสุทธิ์ ไม่เป็นกลาง มีพลังงาน + และ - ติดอยู่กับจิต
แสดงว่าจิตมีมวลน้ำหนัก ถึงถูกแรงโน้มถ่วงดึงดูดไว้

กระแสห้วงน้ำเปรียบเสมือน ตัณหา ที่ถูกหลุมดำดูดเอาไว้ ด้วยแรงดึงดูด

หากจะหลุดพ้นจากหลุมดำไปได้ สิ่งนั้นต้องไม่มีมวลน้ำหนัก ที่จะให้หลุมดำดึงดูดเอาไว้ได้

คือ ทำจิตให้หลุดพ้นไปจากมวล บริสุทธิ์ ไม่มีกรรมใด ๆ

หรือ หลุมดำเป็นแค่ประตูต่างมิติของจักรวาล

คิดเล่น ๆ นะคะ

****************************

หลังจากที่ได้โพสเรื่องนี้เกี่ยวกับหลุมดำในกระทู้ของคุณ Forzen flower

ที่ชื่อกระทู้ กายวัชระ หรือ กายทิพย์ขั้นเพชร และ การบำเพ็ญอาวุธทิพย์ขั้นเพชร เสร็จเมื่อเวลา 01:57 น.

กลับมาที่หน้าห้องวิทยาศาสตร์ทางจิต เห็นกระทู้ของตัวเองทางที่ต้องเลือกเดินในจักรวาลแห่งความรัก มียอดView เข้ามาดู 8666 ครั้ง

ทางที่ต้องเลือกเดินในจักรวาลแห่งความรัก 1234567 เมื่อวาน 02:56pm 127 8666

กลายแก้ว jityim(จิตยิ้ม)

ก็มาสะดุดใจตรงยอด 8666 ครั้ง

ออกจากเว็บทานข้าวแล้วกะว่าจะทำอย่างอื่นต่อ แต่จิตมุ่งมั่นไปแต่ยอดที่ 8666

ระลึกตลอดเวลา ผ่านไปทำอย่างอื่นไม่ได้ ก็เลยต้องมาเปิดเว็บนำเรื่องนี้

เลยนำมาไว้ที่กระทู้นี้ด้วย

เลข 8 คือ มรรค 8

666 หมายถึง ยุคพลังงานใหม่ New Age

คือ การก้าวเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ต้องใช้ มรรค 8

มรรคมีองค์ 8 คือ เป็นทางที่ต้องใช้เดินไป

แล้วก้าวเราเข้าสู่ยุค New Age ยุคพลังงานใหม่ได้อย่างไร

ทำไมจึงเรียว่า พลังงาน+ใหม่

 

ทุกอย่างมันมีเวลาของมัน
บางทีเราก็ได้อะไรมาโดยบังเอิญ บางทีก็ไม่ใช่เรื่องโดยบังเอิญ
สิ่งอัศจรรย์ใจที่ปรากฏกับตัวเองในหลาย ๆ ครั้ง หลายเรื่องราว ที่เกิดขึ้นใชีวิต
บางทีอันอาจเกิดขึ้นเพื่อให้เรารู้เรื่องเกี่ยวกับข้อความพลังงานยุคใหม่ก็ได้ค่ะ

 

ณ เวลาหลายวันมานี้บ้านใครท้องฟ้าเป็นน้ำบ้างไหม
หมายถึงไม่เห็นฟ้าใสเลยท้องฟ้าเป็นสีขาวขุ่นเกือบตลอดผืนฟ้า

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/hSu-79R7Ha0?
feature=player_detailpage" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

หากเราติดตามเราจะเห็นได้ว่า การเกิดภัยพิบัตินี้
เกี่ยวอย่างไรกับการสลับขั้วของโลก และ จะนำเข้าสู่พลังงาน New Age
คือ ตอนนี้เรากำลังอยู่ระหว่างรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
ถ้าเราสนใจเข้าไปดูในยูทูปต่าง ๆ เราจะเห็นองค์การนาซ่าจะพูดถึง
โลกกับการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับระบบสุริยะ ที่มีผลกระทบต่อ
โลกของเราอย่างวันนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเราอยู่ในโลกเป็นธรรมดา
ที่เราต้องสนใจเรื่องนี้เป็นอย่างมากเพราะมันอาจเกี่ยวข้องกับชีวิตของเรา
และ เพื่อนร่วมโลกของเราด้วย

เน้นค่ะ อย่าเพิ่งเชื่อเลยทีเดียวค่ะ ขอให้พิจารณาด้วยสติปัญญาของตนก่อน
ข้างใน VDO ไม่ได้น่ากลัวอย่างในรูปหรอกนะคะ แค่เป็นความรู้ที่เรายังไม่รู้ค่ะ

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/uUBBkCgo_qE?feature=player_detailpage" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เพียงแค่สนใจว่าขณะเป็นช่วงรอยต่อของพลังงานยุคใหม่ New Age หรือเปล่านะคะ

เกิดน้ำท่วมโลกจริงหรือ

อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างในจักรวาลนี้ล้วนเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
แต่ข้อมูลที่ถูกต้องและมากพอทำให้เราตัดสินใจต่อทุกสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง
ที่เอาว่าก็เพื่อมาแชร์แบ่งปันความรู้ เพื่อให้เกิดสติที่ใครๆ ต่างก็พูดถึงพลังงานยุคใหม่กัน และ จริง ๆ แล้วคืออะไร

รายละเอียดประกอบแกนโลกสลับขั้ว ไขความจริงบนสมมุติฐานนาซ่า

แกนโลกสลับขั้ว ไขความจริง สมมติฐานนาซ่า เกิดน้ำท่วมโลก จริงหรือ ???

ชี้ให้เห็นว่าพลังงานยุคใหม่เริ่มเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร

 

ข้อมูลที่น่าสนใจ: การยกระดับสู่มิติที่ 5 แห่งพลังงานยุคใหม่

Rombodhidharma.net: การยกระดับสู่มิติที่ 5 แห่งยุคพลังงานใหม่

น่าสนใจทีเดียว

 

คนที่จะเข้าในยุคพลังงานใหม่ น่าควรจะเข้าใจเรื่องนี้ไว้บ้างนะ
โลกอนาคต คือ โลกยุคพลังงานสนามแม่เหล็ก

-คลื่นกระแสจิต เป็นคลื่นพลังงานที่สื่อถึงกันได้ เรียกว่า "โทรจิต"

-การที่เกิดพฤติกรรมภายนอก และภายในก็มาจากคลื่นความคิดในสมองของเรา ที่เรียกว่า "คลื่นพลังชีวิต"

-ถ้าเราถ่ายภาพพลังงานออกมาจากร่างกาย หรือใครที่มองเห็นพลังงานจากร่างกายได้แสงนั้นเรียกว่า "ออร่า"

-นักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์สามารถพัฒนาเครื่องมือในการตรวจหาคลื่นกระแสในร่างกาย หรือเครื่องแมมโมแกรม
หรือเครื่องตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ สมอง กล้ามเนื้อ แม้แต่การตรวจวัดความดันโลหิต ก็เป็นการตรวจวัดคลื่นพลังงานในร่างกายคน

-ใครที่เคยนั่งสมาธิ แล้วเห็นกระแสคลื่นสั่นสะเทือนในร่างกายบ้าง การรู้ลม ความร้อน อุ่นเย็น นั่นก็บ่งบอกว่าในตัวเราเป็นคลื่นพลังงาน

-แล้วยีนส์ หรือ DNA ที่วิทยาศาสตร์บอกว่าทำหน้าที่ถ่ายทอดพันธุกรรมเกี่ยวกับระบบการทำงานต่าง ๆ ในร่างกาย
ที่สามารถฟื้นฟูสมรรถภาพของตัวเองได้ และสามารถสร้างตัวเองได้ใหม่เสมอ
ยีนส์หรือDNA ก็เป็นระบบเซลล์ ก็ทำงานด้วยระบบไฟฟ้ที่สิงสถิตอยู่ในร่างกาย

แล้วพลังงานคืออะไร ข้อมูลบอกว่า อนุภาคขนาดเล็กที่เกี่ยวพันกันอยู่มีการสั่นสะเทือนตลอดเวลาเรียกว่า “พลังงาน”

“พลังจิต” ที่ถูกเหวี่ยงออกมาก็เป็นคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็ก ภาษาจิตเป็นภาษาที่ไม่ต้องพูดเป็นสมบัติของจิตอัตโนมัติอยู่แล้ว
เป็นภาษาที่สามเรียกว่า ภาษาสากลจักรวาล

และการสั่นสะเทือนทางจิตเพื่อแสดงพฤติกรรม หรือ อาการใด ๆ ก็ตาม
มันจะก่อให้เกิดคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็กเสมอ

 

ดาวเคราะห์โลกของเราก็เป็นพลังงาน ยุค New Age เกี่ยวอะไรกับโลกด้วย

-ดาวเคราะห์โลกดวงใดก็ตามในระบบสุริยะ ถ้าดาวเคราะห์โลกนั้นไม่มีสนามแม่เหล็ก ที่เกิดจากตัวของมันเองปกคลุมห่อหุ้มเอาไว้เหมือนดาวเคราะห์โลก กรดอะมิโนเหล่านั้นจะไม่มีวันรวมกันเป็นโปรตีนแล้วพัฒนาจนเป็นสิ่งมีชีวิตได้เลย พลังอำนาจเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็ก ก็คือ พลังผู้สร้างโอกาสแก่กรดอะมิโน จับมือกันเป็นโปรตีน เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตในจักรวาล และ อำนาจสนามแม่เหล็กสามารถป้องกันอันตรายจากแสงอัลตราไวโอเล็ต ที่ทุกคนต่างก็ทราบเรื่องนี้กันดีค่ะ

สนามแม่เหล็กของโลกห่อหุ้มตัวมันเอง คือ สิ่งจำเป็นต่อโครงสร้างทางชีววิทยาของสิ่งมีชีวิตบนโลก ถ้าไม่มีสนามแม่เหล็กสิ่งมีชีวิตต้องตาย และไม่อาจเจริญเติบโต หรือ วิวัฒนาการใด ๆ ได้เลย

ความสมดุลทางกายภาพของทุกสิ่งที่ดำรงอยู่บนพื้นผิวโลกมันมีผลต่อการเหวี่ยงรอบตัวเองของโลก โดยพลังงานที่สร้างความสมดุลให้แก่โลกคือพลังงานแม่เหล็กด้านบวก

การหมุนรอบตัวเองของโลก คือ การรักษาความสมดุลเพื่อให้ดำรงอยู่ได้พร้อมกับต้องโคจรรอบดวงอาทิตย์ไปด้วยกัน ก็มีการสั่นสะเทือนไปพร้อมกับตัวเราตลอดเวลาและมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน มนุษย์และทุกสิ่งต่างเป็นผู้เกาะอยู่บนพื้นผิวโลก ก็ต้องแสดงอาการสั่นสะเทือนเคลื่อนไหวไปกับโลกตลอดเวลา

ถ้าเราได้ดูเกี่ยวกับทฤษฎีสัมพันธภาพของไอไสตล์อย่างง่าย ๆ ในยูทูป เราจะเห็นได้ว่า ทุกสิ่งในโลก ตัวเองคือจุดศูนย์กลาง คือ ตัวเองเป็นผู้หยุดนิ่ง แต่สิ่งรอบ ๆตัว ต่างหากที่ต่างเวียนวนอยู่รอบตัวเองเสมอ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วไม่มีใครหยุดนิ่งต่างก็ต้องหมุนรอบตัวเองไปเช่นเดียวกันกับโลกเสมอ

<IFRAME height=360 src="https://www.youtube.com/embed/5eOXmdsVYR8?feature=player_detailpage" frameBorder=0 width=640 allowfullscreen></IFRAME>

ใครที่สนใจดูแล้วเข้าใจได้ง่ายขึ้น

ปรากฏการณ์ทางพลังงานที่ตาเนื้อของคนเราจะมองไม่เห็น แต่เราสามารถเรียนรู้โดยทำความเข้าใจกันได้ค่ะ

เราจะรู้ได้ว่าโลกมีส่วนประกอบสำคัญคือ แกนกลางแม่เหล็กโลก และ สนามแม่เหล็กโลก

ลึกลงไปใต้ฝ่าเท้าของมนุษย์ จะมีธาตุออกซิเจนเหลวที่เข้มข้นและบริสุทธิ์ 100 % ถูกกำหนดติดตั้งไว้เป็นแก่นของโลก ธาตุออกซิเจนจะมีลักษณะเป็นของเหลวข้น หรือ หนืดคล้ายตังเม มีสีใสดั่งมรกตเมื่อสะท้อนแสงแล้วจะมีปีกคล้ายแมลงทับ เป็นอ๊อกซิเจนที่บริสุทธิ์ยิ่งยวด อะตอมของออกซิเจนบริสุทธิ์ ซึ่งมีอนุภาคประจุไฟฟ้าอยู่จะมีความอ่อนไหวต่ออนุภาคประจุไฟฟ้าภายนอกอื่น ๆ มากกว่าคือ มันจะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีไฟฟ้าในระดับอะตอม การที่เป็นธาตุที่มีอะตอมว่องไวต่อนุภาคทางไฟฟ้า เมื่อกระทบสัมผัสกับคลื่นความถี่ทางแม่เหล็กไฟฟ้าภายนอก ก็จะมีปฏิกิริยาสัมพันธ์ต่อกันโดยตรง

คลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก ซึ่งเป็นคลื่นพลังงานจิต อันมีอนุภาคไฟฟ้าบวกเป็นคุณสมบัติของคลื่นพลังงานไฟฟ้านั้น เมื่อถูกเหวี่ยงออกมาแล้วก็จะแทรกซึมผ่านชั้นดินและชั้นหินของเปลือกโลกชั้นต่าง ๆ เข้าสู่ใจกลางโลก ส่วนนี้ที่เรียกว่า แกนกลางของโลก หรือที่เรียกว่าขั้วโลกเหนือ-ใต้

โลกซึ่งมีธาตุออกซิเจนเหลวข้นใสบริสุทธิ์เร้นเป็นแก่นอยู่ภายใน ทันทีที่คลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวกเข้าถึงกระทบสัมผัสกับแก่นโลกแล้วที่เป็นธาตุออกซิเจนบริสุทธิ์ กระบวนการทางพลังงานอันเกิดจากปฏิสัมพัทธ์ ระหว่าง อนุภาคคลื่นไฟฟ้าในอะตอมโมเลกุลออกซิเจน กับอนุภาคไฟฟ้าบวกจากคลื่นพลังงานในโลกร่วมกันทำปฏิกริยาเป็นปรากฎการณ์ทางไฟฟ้าในระดับอนุภาคของอะตอมขึ้นไป จะก่อให้เกิดการระเบิด หรือการแตกตัวออกจากกันของอะตอมในโมโลกุลของธาตุออ๊กซิเจน ทำไมสัญลักษณ์สีเขียว คือ สัญลักษณ์การรักษ์โลก พลังสีเขียวคือพลังของโลกสดใส แสงออร่าสีเขียวที่เป็นแสงเหนือ เป็นแสงออร่าจากพื้นดินในทวีปทางขั้วโลกเหนือใต้ ก็เป็นแสงที่มาจากปฏิกิริยานี้เช่นกันค่ะ



ผลจากการระเบิดแตกตัวของปฏิกิริยานี้ จะก่อให้เกิดปรากฎการณ์ต่าง ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกายภาพของโลกต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน คือ

1.การรับออกซิเจนเพื่อใช้ในการหายใจ และเพื่อการสงเคราะห์แสงในพืชเป็นอาหารตอบแทนให้แก่ชาวโลก ชั้นบรรยากาศ ภูมิประเทศที่สวยงาม ธรรมชาติที่น่าอยู่น่าอาศัยดุจราวดั่งสวรรค์

2.ปรากฎการณ์หมนุรอบตัวเองอย่างต่อเนื่องในอัตรา 24 ชม./รอบ การหมุนรอบตัวเองของโลกทำให้เกิดแรงดึงดูดเหนี่ยวรั้งทุกอย่างบนโลกให้เกาะยึดติดไว้กับโลกอย่างมั่นคง ซึ่งเราเรียกว่า “แรงโน้มถ่วง” ช่วยให้โลกมีพลังอำนาจมอบความรักให้แก่ทุกสิ่งที่อยู่บนโลก คือ ไม่ทำให้เกิดภัยธรรมชาติ และภูมิอากศวิปริตแปรปรวนจะไม่เกิดขึ้น จะไม่มีภัยใด ๆ จากโลกที่ส่งกระทบต่อเราเช่นทุกวันนี้

3.จะก่อให้เกิดคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็กแผ่ออกมารอบแกนกลางอย่างต่อเนื่อง ดาวเคราะห์โลกมีระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กห่อหุ้มเอาไว้โดยรอบ ที่ช่วยให้มนุษย์และทุกสิ่งบนโลกอยู่ได้

<IFRAME height=360 src="https://www.youtube.com/embed/JjAAEzC5ero?feature=player_detailpage" frameBorder=0 width=640 allowfullscreen></IFRAME>


ถ้าเราไปลอง ค้นดู VDO ที่นักบินอวกาศนาซ่า ได้ขึ้นจรวดไปในยานอวกาศแล้วไม่มีสนามแม่เหล็กโลก อยู่ไม่นานเกิดอการเจ็บป่วยไม่มีเรี่ยวแรง จนต้องสร้างสนามแม่เหล็กเทียมให้แก่นักบินอวกาศ

ชี้ให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตอื่น สามารถดำรงอยู่ได้ เติบโตได้และใช้งานได้ดี เพราะมีอำนาจแม่เหล็กโลกคอยทำหน้าที่กำกับ ระบบเซลล์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในร่างกายของคนเราให้เกิดการไหลเวียนกระแสไฟฟ้าแต่ละเซลล์ขึ้น เนื่องด้วยอำนาจการเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็กโลก ที่เรียกว่า กระบวนการเมตาโบลิซั่ม อันเป็นกระบวนการทางไฟฟ้าเคมีระดับเซลล์นี่เอง

4.การทำปฏิกริยาสัมพันธ์กับอนุภาคในอะตอมของโมเลกุลอ๊อกซิเจนในใจกลางโลก ทำให้เกิดการระเบิดแตกตัวออกมาแล้ว มีอำนาจแม่เหล็กโลกแผ่ออกมาโดยรอบ ด้วยเหตุนี้เอง คลื่นความถี่ของสนามแม่เหล็กโลก ที่ถูกเหวี่ยงออกมาโดยรอบจึงมีผลแปรตามกับผลรวมของการสั่นสะเทือนทางจิตสำนึกของมนุษย์โดยตรง

หากใครได้ดู VDO ยูทูป จะเห็นได้ว่า เวลากลางวันสนามแม่เหล็กโลกอ่อนกำลังกว่าเวลากลางคืน เพราะกลางวันมนุษย์ถ้ายุคนี้ได้ใช้ชีวิตระหว่างวันแล้วส่งมอบพลังงานด้านลบให้แก่กันมีผลให้สนามพลังงานแม่เหล็กอ่อนลง แต่ถ้ากลางคืนทุกคนนอนหลับไม่ได้มีปฏิกิริยาสัมพันธ์กัน ตอนนอนจิตบริสุทธิ์มากกว่าตอนตื่น เลยทำให้ค่าพลังงานไม่เท่ากัน นั่นเอง

5.ปฏิกริยาที่เกิดจากใจกลางโลก เกิดระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลก ถ้าโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกที่แข็งแรงที่หนาแน่นก็เปรียบเสมือนเป็นรั้วที่แข็งแกร่ง ถ้าอยู่ห่างออกจากจุดกึ่งกลางโลกได้มากเท่าไหร่ก็เปรียบเสมือนอณาเขตกว้างขวางมากขึ้นเท่านั้น ก็ย่อมป้องกันภัยจากผู้ร้ายหรือแขกที่ไม่ได้รับเชิญไม่ให้เข้ามาประชิดต่อตัวเราได้ง่าย มันช่วยป้องกันให้แก่ดาวเคราะห์โลก คือ ภัยจากอุกาบาตร เทหวัตถุขนาดใหญ่ทั้งหลายที่พัดหลงเข้ามาในระบบโลกนั่นเอง การประทะกับรั้วที่แข็งแกร่ง มันจะถูกให้เกิดการเสียดสีเกิดการลุกไหม้ เกิดการแตกร้าวออกจากมวลใหญ่กลายเป็นมวลเล็ก มีพิษสงน้อยลง ถ้าผ่านเข้ามาในชั้นบรรยากาศโลกก็ไม่สร้างภัยอันตรายใดๆ ได้เลย นักวิทยาศาสตร์และองค์การนาซ่าทราบเรื่องนี้ดี




ข้อมูลนี้ถ้าข้อมูลใดเป็นความรู้ใหม่ที่ทางการวิทยาศาสตร์โลกยังไม่มี หรือ เป็นข้อมูลความรู้ใหม่เอี่ยมแล้วใจความสำคัญได้เรียบเรียงมาจาก คลื่นความคิดจากจิตจักรวาล เพื่อนำมาถ่ายทอดให้เกี่ยวกับการเข้าพลังงานยุคใหม่ ที่หลัก ๆ ก็ได้มาจากอ.ปริญญา และตัวเองบางส่วน บางส่วนค้นหาข้อมูลมาให้ค่ะ

 

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/m-z5BR5U1J0?feature=player_detailpage" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


พลังงานจักรวาลคืออะไร

พลังแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์เรียกว่า “พลังจักรวาล”

จักรวาลที่เป็นเอกภพ คือ เทหวัตถุและดวงดาวต่าง ๆ เกิดการเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันเพราะพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์ ที่แผ่กว้างไปในอวกาศและสะท้อนกลับมาในอวกาศได้ ทำให้ดวงดาวต่าง ๆ ยึดเหนี่ยวกันไว้และต่างก็มีอิทธิพลต่อกันการในการดึงดูดและรั้งกันไว้ในระบบ

“พลังจักรวาล” เป็นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า เช่นเดียวกันกับ “พลังแม่เหล็กโลก”

การระเบิดบนดวงอาทิตย์ ทำให้เกิดคลื่นพายุแม่เหล็ก และคลื่นแม่เหล็กโลก
ดวงอาทิตย์ประกอบด้วยสารเรืองแสง เกาะกลุ่มกันอยู่อย่างหนาแน่น มีขนาดใหญ่มากปริมาตรโตกว่าโลกล้านเท่า ปัจจุบันอยู่ในสภาวะลุกไหม้ จนก่อให้เกิดความร้อนสูง อุณหภูมิเฉลี่ยจากการระเบิดของไฮโดรเจนตรงกลาง ใกล้แกนกลางของดวงอาทิตย์ แต่ละวินาทีสูงหลายล้านองศาเซลเซียล ทำให้เกิดเปลวไฟ รังสีความร้อนแผ่ไปในอวกาศในวงกว้าง เรียกว่า ลมสุริยะ หรือ พายุสุริยะ มีความเร็วและอนุภาคสูงมาก จนเกิดพายุแม่เหล็กกระจายออกไปอย่างรุนแรง

อิทธิพลของดวงอาทิตย์ ที่กำเนิดพลังงานขนาดยักษ์ ขณะนี้ที่มีผลต่อโลกเราก็คือ การเปลี่ยนแปลงพลังงานสนามแม่เหล็กโลก อันมาจากผลพายุสุริยะที่รุนแรงแรงและหลายระลอกในขณะนี้ ทำให้โลกของกำลังเคลื่อนตัวไปสู่บริเวณใหม่ พิกัดใหม่ ระนาบใหม่ หรือ ที่หลาย ๆ คนเรียกว่า “ฟ้าใหม่” หรือที่เรียกว่า "พลังงานใหม่" New Age

 

แล้วสนามพลังงานจักรวาลมีอะไร

ทำไมคนยุคอิยิปต์โบราณ จึงสร้างปิรามิด ซึ่งเป็นภูมิปัญญาสมัยนั้นเพื่อดึงดูดพลังงานจักรวาลมาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/DDdyUduyOTQ?feature=player_detailpage" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


1.ฟื้นฟูร่างกายชีวิภาพให้เป็นหนุ่มสาว หรือ ที่สมัยนี้ พลังจิต พิชิตโรค รักษาโรคให้หายด้วยพลังจักรวาล
หรือสมัยโบราณยุคแอตแลนติคนำพลังจักรวาลเพื่อให้ชีวิตเป็นอมตะ คงความเป็นหนุ่มสาวให้ยาวนาน

2.พลังงานจักรวาล เป็นพลังงานอัศจรรย์ ที่ทำให้เกิดพลังเหนือธรรมชาติ สัมผัสพิเศษ

3.พลังจักรวาล มีผลต่อปัญญาญาณ รู้แจ้งจริงสัจธรรม

 

สนามพลังงานจักรวาล ที่มอบพลังงานให้แก่โลก คือ พายุสุริยะที่เป็นคลื่นแม่เหล็ก เป็นผลให้สนามแม่เหล็กเพิ่มขึ้น ผลนั้นที่จะเห็นได้ต่อธาตุในโลก ก็คือ จะมีผลต่อการเร่งปฏิกิริยาเคมีซึ่งเกิดในน้ำ

น้ำประกอบด้วยโมเลกุลของไฮโดรเจน และ ออกซิเจน จะมีความไวต่อพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้ามากที่สุด

ในวันพระจันทร์เต็มดวง หรือ วันพระ โบราณให้เข้าวัดปฏิบัติธรรม เพราะเป็นวันที่สนามแม่เหล็กพลังงานไฟฟ้าคลื่นความถี่สูง มีผลต่อกิจกรรมทางจิตวิญญาณ

จะสังเกตุได้อีกประการหนึ่ง ดวงจันทร์จะมีอิทธิพลต่อแรงดึงดูดของน้ำขึ้น-น้ำลง ก็เป็นผลมาจากปรากฎการณ์นี้

น้ำยังเป็นกระบวนการชีวภาพของมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีโต้ตอบกับพลังไฟฟ้าแม่เหล็กนอกร่างกาย ร่างกายมนุษย์จึงขาดน้ำไม่ได้

ร่างกายและจิตใจของมนุษย์ สามารถโต้ตอบกับพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าโลกได้ และ คลื่นความถี่ในสมองของมนุษย์เราก็เป็นคลื่นความถี่เช่นเดียวกันกับคลื่นแม่เหล็กโลก

 

ดาวเคราะห์โลกมีสนามแม่เหล็กห่อหุ้มไว้ทั้งดวง ซึ่งมาจากแกนกลางแม่เหล็กโลกนี่เองทำให้เกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้นมากมายแผ่ไปห่อหุ้มโลกใบนี้ไว้ ที่เรียกว่า คลื่นความถี่สนามแม่เหล็กโลก

คลื่นความถี่สนามแม่เหล็กโลกเป็นคลื่นความถี่พลังงานด้านบวก

ไม่เฉพาะมนุษย์แม้กระทั่งพืช เช่นทานตะวัน และสัตว์ เช่น

นกพิราบมีเส้นใยเกลียวแม่เหล็กสองขั้วชิ้นเล็ก ๆ ที่สามารถโต้ตอบคลื่นแม่เหล็กโลกได้

ปลาวาฬ ปลาฉลาม ผึ้ง อาศัยคลื่นแม่เหล็กโลกเป็นเครื่องช่วยกำหนดทิศทาง

คลื่นสมองของมนุษย์เรา เป็นคลื่นเบต้า

พลังจิต ที่เป็นคลื่นความคิด ความรู้สึก เป็นคลื่นสั่นสะเทือนทางแม่เหล็กไฟฟ้า ทั้งพลังงานบวกและพลังงานลบ หากเกิดขึ้นแล้วคลื่นนี้จะแผ่ออกมาจากร่างกายมาสู่ภายนอก ที่หลายคนสามารถรับรู้ถึงกระแสจิตของใครบางคนได้ พลังงานที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเรานี้ ล้วนมีผลทำให้คลื่นสนามแม่เหล็กโลกยกตัวสูงขึ้นหรืออ่อนกำลังลงตามไปด้วย

ซึ่งเป็นกระบวนการของพลังงานมิติที่สาม

พลังรักษ์โลก พลังงานที่เราทุกคนสามารถมอบให้กับโลก ก็เป็นหนึ่งในกระบวนการนี้
ที่มีผลต่อปฏิกิริยาเคมีในอะตอม ตรงแก่นใจกลางโลกที่แตกกระจายออกมาให้โลก เพื่อให้พลังงานแก่คลื่นสนามแม่เหล็กโลกที่มีผลต่อระบบโลกและมนุษย์เราโดยตรงนั่นเอง

 

พลังงานของจิตวิญญาณเป็นคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็ก

สายใยทางพันธุกรรม (ยีนส์) หรือ DNA เป็นรหัสพลังงานในลักษณะคลื่นแม่เหล็ก

ในวัยแรกเกิด ร่างกายหรือชีววิทยาของมนุษย์ เซลล์ของทารกสามารถสร้างสายใย DNA หรือ ยีนส์ และสายใยเกลียวแม่เหล็กภายในนิวเคลียสในเซลล์ร่างกาย ทำหน้าที่โต้ตอบกับคลื่นแม่เหล็กโลก คือ บุพรกรรมทางแม่เหล็ก หรือ กรรมเก่า แปลงเข้าในระบบเซลล์ของชีวิต เป็นชีวภาพ ที่ทำให้ทุกคนมีหน้าตา ร่างกาย และ จิตใจที่แตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้

ภายในเซลล์แต่ละเซลล์ในร่างกาย เป็นกระบวนการทางเคมี คลื่นแม่เหล็กภายในเซลล์ร่างกายของแต่ละคน จะมีความอ่อนไหวพลังงานอารมณ์ด้านลบมากน้อยไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับกรรมเก่า หรือบุพรกรรมอำนาจแม่เหล็ก

การหงุดหงิด วิตกกังวล เครียด โกรธ และกลัว พฤติกรรมเหล่านี้ มันจะมีผลไปกระตุ้นกระบวนการชีวภาพในเซลล์ร่างกาย

การเกิดแก่เจ็บตายของมนุษย์ทุกคน ให้มีการเจริญเติบโตและต้องตายด้วยพลังงานกรรมของแต่ละคน ผ่านบุพรกรรมโดยเส้นใยเกลียวแม่เหล็ก 2 ขั้วนี่เอง มันจะทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ก็ต่อเมื่อ มันอยู่ในสนามพลังงานแม่เหล็กโลกเท่านั้น

มนุษย์อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ล้วนเป็นไปในลักษณะนี้เช่นกัน

มนุษย์ทุกคนล้วนมีระบบรหัสแม่เหล็ก หรือ คลื่นแม่เหล็กห่อหุ้มระบบชีววิทยาไว้ด้วยกันทั้งสิ้น

พลังอำนาจแม่เหล็กโลก ซึ่งห่อหุ้มร่างกาย มันมีอิทธิพลต่อความเป็นความตาย มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตทั้งระบบ มันยังเป็นคลื่นพลังงานที่กำกับดูแลสติปัญญาและจิตสำนึกของเราอีกด้วย

 

พลังจักรวาล-พลังจิตพิชิตโรค

ต่อมไพนีล เป็นต่อมที่รับสัญญาณ จากพลังงานจักรวาล

ต่อมไพนีล มีคุณสมบัติไวต่อคลื่นพลังงานด้านบวก

คุณสมบัติของต่อมไพนีล จะลดความมหัศจรรย์ในความคิดแบบมนุษย์ลงได้ทันที

คุณสมบัติที่สามารถพิสูจน์ได้ คือ มันมีความไวต่อแสงสว่าง ซึ่งเป็นคลื่นพลังงานชนิดหนึ่ง ที่เรารู้จักและมองเห็นอย่างดี มันสามารถตอบรับและมีปฏิกิริยากับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นอย่างดีอีกด้วย ทั้งในที่มืดและที่แจ้ง

ยุคพลังงานใหม่ ต่อมนี้จะได้รับการฟื้นฟู มีประโยชน์อย่างมาก มนุษย์ที่สามารถสร้างสมาธิ จะสามารถเปิดบานประตูเชื่อมมิติที่ถูกแง้มไว้อย่างง่ายดาย ขณะที่แต่เดิมมันถูกปิดไว้อย่างมิดชิด สามารถมองเห็นสิ่งที่เหนือธรรมชาติ เมื่อเกิดสมาธิได้อย่างชัดเจนและง่ายขึ้น