เรื่องจริงไม่อิงนิทาน ประสบการณ์ตั้งแต่ 3 ขวบ จนถึงอายุ 57 ปีของผม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย บุญทรงพระเครื่อง, 19 มิถุนายน 2015.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    *************************
    ดีใจจริงที่ทราบว่าท่านบวชค่ะ อยากเห็นท่านด้วย อ่านๆไปถือว่าท่านเป็นHeroท่านหนึ่งเลยค่ะ :cool:
     
  2. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    :cool:({) สวัสดีครับ อาซือเจ๊ต้อย ผมเองไม่ได้เข้มา ๒-๓ วันแล้วครับ บางครั้ง มันก็ขี้เกียจ คิดเสมอ ว่าเราเอง ยังเอาตัวไม่รอด จะไปเล่า หาอะไร อีกใจหนึ่ง ก็คิดว่า เผื่อ มีประโยชน์ บ้างต่อ คนบางคน ก็จะพยายาม เข้ามาเล่า ครับ และช่วงนี้ อากาศ กำลัง เปลี่ยนแปลง เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวฝนตก ก็ทำให้คนในบ้าน ไอ หวัด ไข้ เป็นเกือบ หมดบ้านแล้ว ตัวผมเอง ก้พยายาม กินยา ป้องกัน พอเป็น ก็กินยา ๒-๓ มื้อ แต่ก้ไม่ค่อบ จะพ้น ตอนนี้ ก็เริ่ม จะไอ ค๊อก ไอแค๊ก เสียอีกแล้ว คงมาจาก อากาศ และติดต่อกัน


    เมื่อวันวาน อยากไปกราบ พระศพ ของหลวงปู่สี ฉน.ทสิริ วัดเขาถ้ำบุนนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ พระอรหันต์ ๗ แผ่นดิน ไม่ได้ เข้าไป ร่วม ๓ ปีแล้ว กะว่า เมื่อกราบ ทำบุญกฐิน ทำบุญต่างๆ ที่วัดเสร็จ ก็จะไปกราบพระศพหลวงปู่ บุดดา ถาวโร อ.บางระจัน จ.สิงบุรี กะว่า จะไป ให้เลย แล้วแวะที่ อ.อินทร์บุรี นานๆ ไปแทบนี้ สักครั้ง จำทางไม่ค่อยได้ ขนาด ถามชาวบ้านอยู่เรื่อย ยังหลง กับมาทางชัยนาท เลยไม่ไป เอาไว้ วันอื่นๆ ดีกว่า ขี้เกียจ ย้อนไปน่ะครับ มันไกล :cool:
     
  3. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เลยตัดสินใจ ไปทาง วัดหลวงพ่อ ธรรมจักร ข้ามสพานแม่น้ำ เจ้าพญา ไปกราบ หลวงปู่ศุข กับ กรมหลวงชุมพร เขตุอุดมศักดิ์ และพระศพ หลวงพ่อ สำราญ ที่หลวงพ่อเคยไปอยู่ กับท่านปี ๒๕๐๘ กับ พ.ศ.๒๕๐๙ ช่วยสร้างวัด ปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จงชัยนาท ผมก็เลย ทำบุญกฐิน ใส่ตู้ และจุดต่างๆ รวมแล้ว ๒ วัด ตก ๔,๐๐๐ บาท ไอ้ที่ ว่าหลง เลยให้ผมเปลี่ยน โปรแกรม นี่อาจ เพราะ เมื่อกลับถึงบ้าน ไม่นาน มีพระมาหา คุยธุระด้วยกัน น่ะครับ ถ้าพาด จุดนี้ ไม่ขอพูดน่ะครับ ธุระส่วนตัว เพราะเหตุนี้ นี่เอง ทำให้หลงทาง ไม่ได้ไปกราบ หลวงปู่ บุดดา ถาวโร แบบนี้ ก็เคย เป็น รวมๆแล้ว ก็หลายสิบครั้ง ในชีวิตนี้ครับ
     
  4. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    :cool:({) อาซือเจ๊ครับ เรื่องพระโมเช่นี้ ผมเอง ก็อยากเจอ กับท่านเหมือนกัน และถ้ามีโอกาศ เมื่อรู้เช่นนี้ อาจจะไปอยู่กับท่านสักพัก ถ้ายังไม่ตายเสียก่อน เพราะผมเอง ภาระกิจ ก็ยังมีอยู่ อีกเยอะครับ ท่านก็เป็น คนมีบุญ และบุญของเก่า คงเยอะน่ะครับ ความสามารถ ก้ไม่เบา ทีเดียว และคนไทยส่วน ใหญ่ ถ้าได้ รู้จักกับท่าน จะชอบน่ะครับ :cool:
     
  5. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,241
    9ามอ่านตลอดครับ

    อากาศเริ่มหนาว

    รักษาสุขภาพบ้างนะครับ
     
  6. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:({) สวัสดีครับคุณ chattrg<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_9807508", true); </SCRIPT> ขอบคุณครับที่เตือน ผมเอง คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยเนี่ย ตอนนี้ มันก็เริ่ม จะรุนแรงขึ้น แต่ก็กินยา รักษาสุขภาพตลอด ยิ่งป็นแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้เรา ใฝ่ฟ้าทำบุญให้สุดขั้ว หนีชั่ว ให้สุดขีด มันเหลืออยู่ที่ว่า ทำอย่างไร ทำให้ตัวเอง ทำให้พ้นทุกข์ ได้เท่านั้นเองครับ พื้นฐานผมว่าผมเอง มีอยู่ครบครับ เหลือแบบที่ว่ามานั่นแหละครับ เรามันเสือกเกิดมาแล้วนี่ ทำไงได้ และไม่ทำตัวเองให้พ้นทุกข์ จึงว่าใครไม่ได้ ต้องด่าตนเองนั้นแหละ ถึงจะถูก แต่ก้ไม่วาย เข้าข้างตนเอง น่ะครับ นี่วิสัย ของสัตว์ และมนุษย์


    พระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย ที่มีบารมีมาก กว่าท่านจะมาถึงขั้น ปรมัตถบารมี มันไม่ง่ายเลย ท่านรักชีวิต ผู้อื่น เสมอ ด้วยตัวท่านเอง และรักคนอื่น มากกว่าตัวท่าน เอง จริงๆ ถ้าท่านไม่ห่วงผู้อื่น ท่านตัดช่องน้อย ไปเฉพาะตน มันง่ายกว่าอย่างอื่น ท่านจึงแสวงหา สงเคราะ คนสัตว์ ไม่เลือกชั้นวรรณะ จนกว่าท่านเหล่านั้น มาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า เพื่อ สงเคราะ สัตว์โลก ให้พ้นทุกข์ ตามพระองค์ น้ำพระทัย ของท่าน ทุกข์พระองค์ ที่ตรัสรู้ไปแล้ว จึงหาประมาณมิได้ และที่กำลัง จะมาในข้างหน้า ก็เช่นเดียวกันครับ ขอบคุณครับ ที่ติดตามอ่าน :cool:
     
  7. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน วันนี้ก็มาพบกันเช่นเคย ความเดิม ตอนที่แล้ว มาจบลงตอนกับมาอยู่ ที่ถ้ำ ตะเพินคี่ เหมือนเดิมครับ วันนี้ขอพูดย้อนหลังไป เมื่อ อยู่หมู่บ้านตะเพินคี่ เป็นที่บำเพ็ญกุศล สำหรับผมเอง ตอนนั้น รักษาสิล ๘ อยู่ บ้างก็เรียกชื่อหลายชื่อ ตาม ถนัด แล้วแต่ละคน บ้างก็เรียก พรหาม์ ผ้าขาว ชีพราหม์ เถร ฤาษี แล้วแต่จะเรียก ตอนนั้นไว้หนวดเครา ได้อาศัย บิณถบาตร กับชาวไทยกระเหรี่ยง กินเลี้ยงชีพ มาโดยตลอด แต่ก็ยังดีนะ ที่มีหลายท่าน ใส่บาตรให้กิน มีชีวิต อยู่ได้ พร้อมกับเลี้ยง หมาที่มาอาศับ อีก ๒-๓ ตัว เหลือเฟือ กินข้าวมื้อเดียว นานๆครั้ง จะมี ๒ มื้อ


    ปี ๓๕ ผมเอง นอนอยู่หลัง องค์พระ ตอนในพรรษา ได้มีพระมาอยู่ ร่วมด้วย ถึง ๔ องค์ อยู่คนละที่กันไป อีกองค์ อยู่ ในถ้ำ อีกซีกหนึ่ง สมาทานไมพูด ๑ พรรษา อีกองค์ คอยรับอาหารจาก คณะแม่ชี ๗ องค์ อยู่ที่เดียวกัน หน้าถ้ำ และกุฏิจาก ที่ผมทำเอาไว้ และไปบิณถบาตร กับชาวบ้าน อีก ๒ องค์ ไปอยู่ใกล้กับ เขาเทวดา ชาวบ้าน ปลูกกุฏิ ให้อยู่ มี ลำห้วย น้ำออก ใกล้ หมู่บ้าน ๒ ลำห้วย แล้วไหล วนไปบรรจบ ท้ายหมู่บ้าน เป็นลำห้วยเดียวกัน แล้ว ก็ไหลลงไป เป็น น้ำตกตะเพินคี่ ใหญ่ กับน้ำตกตะเพินคี่เล็กครับ ๒ องค์นี้ ถือธุดงค์คนละแบบกัน อีกองค์ สนิทกับผม พอสมควร รู้วาระจิต ได้ ฌาณโลกีย และได้เข้าป่าด้วยกัน หลายเที่ยว แต่ไม่ไกลนักครับ แค่ ๑๐ กว่า โล ๒๐ โล ในป่าดงดิบ ห้วยขาแข้ง ไปอยู่ เป็นจุดๆครับ
     
  8. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    หลังจากนั้นไม่นาน ท่านก็สึกไปมีครอบครัว หรือ ทำธุระกิจส่วนตัว องค์นี้ ในสมัยนั้นสมาทานธุดงค์วัตร เอกา นั่งอย่างเดียว ไม่นอน ถ้านอน คือ นั่งหลับเอาครับ ทั้งพรรษา ท่านเป็นคนชอบยิ้ม พูดน้อย พรรษานี้ทั้งพรรษา ผมเอง คงทำหน้าที่ หาอาหารหลายประการมาให้ คณะแม่ชี ทำอาหาร ส่งให้พระ และ ขบฉัน เฉพาะ คณะแม่ชี เพราะว่า บิณถบาตร อาจไม่พอฉัน คณะของพวกเราส่วนใหญ่ มาในสาย ของหลวงปู่ปาน หลวงพ่อ ฤาษี วัดท่าซุง คือศึกษามาในสายนี้ พอสมควร และก็อาศัย ไปกราบ สาย หลวงพ่อ สังวาลย์ วัดทุ่ง สามัคคีธรรม อ.สาวชุก สุพรรณ สาย มหานิกาย แต่ปฏิบัติแบบ ธรรยุติ ไม่จับเงิน สายของท่านแตกแขนงไปทั่วประเทศ


    และสายหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ เคยอ่านหนังสือ และ ได้เจอะเจอ ในสายลูกศิษย์ ของท่านหลายองค์ ๆสำคัญๆ และได้อ่านประวัติ หลวงปูมั่น ในสายหลวงปู่มั่น ได้กราบ ได้ สนธนากันในหลายแบบ หลายองค์ ตามพอสมควรแก่ ธรรม และได้กราบ พระสำคัญในประเทศไทย ที่มีทรงคุณธรรม เป็นพระสุปฏิปันโน ทั้งพระโพธิสัตว์ ทั้งพระฆาวาส ผู้หณิงผู้ชาย อย่างน้อย เกินกว่า ๕๐ พระองค์ ถ้า ระดับ ธรรฒดา ฌาณ โลกีย หรือพระอริยเจ้าขั้นใดนั้นไม่ทราบ ก็อีกหลายร้อยคน ยิ่งในสายหลวงพ่อ ฤาษีนี้ ถือว่า พวก ที่ได้ มโนมยิทธินี่ นับหลายร้อยคน มีทั้ง รักษาไว้ได้ กับที่พังไป ก็เยอะมากมายหลายร้อยคนด้วยกัน ได้พบปะ อีกในหลายๆสาย ทั้งของจริง ของปลอม เจอมาสารพัด แต่ก็ไม่วาย ตามไม่เคยทัน
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    **********************
    พูดแล้วทําให้นึกถึงเพื่อนของหลวงพ่อปานที่ถูกวัวเขาอ่อนขวิดเอา
     
  10. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เอ่ตอนนี้ มันพูดเลื่อยเปื่อยไป ถึงไหนแล้วเนี่ย มาว่ากันต่อ นะครับ ในปีนี้ พรรษานี้ ผมได้ หาบของ ที่คนบ้านล่าง นำมาทิ้งไว้ หมู่บ้านกล้วย ผมนี้ได้ ลงไปหาบของมาให้ คณะแม่ชี ทั้ง พรรษา ทางอ้อม ก็ ตก ๑๔ โลก ทางตรงก็ ๙ โลกว่าๆ หาบขึ้นห้วยลงเขา แล้วก็ ท้ายหมู่บ้านหาบ ขึ้นเขา ล้วนๆ หยุดแค่ครั้งเดียวเสียส่วนใหญ่ ที่น้ำตก ตะเพินคี่ นานๆครั้งๆ จะมีหยุด ๒ ครั้ง ตอนนั้น ผมเอง ไม่รู้ทำไปได้อย่างไร ถ้าเราลองมองย้อนหลังไปดู ในครั้งนั้น คนบ้านล่าง แค่ตัวเปล่าๆ ก้เดิน หยุดกัน หลายครั้งแล้ว เดินกัน เกือบวัน ค่อนวัน ว่างั้นเถอะ ถึงจะถึง ตะเพินคี่ ด้วยอาศัย ที่ผม มีพละกำลัง พอสมควร ยังอยู่ในวัย ๓๐ เศษๆ เขาเรียก วัยทอง


    มีอยู่วันหนึ่ง กลางพรรษาเห็นจะได้ พระองค์นั้นในสมัยนั้น ได้ ชวนผม กับทายก ไฮสง ที่หมู่บ้านตะเพินคี่ ออกเดินทาง ไปเหนือเขื่อนเจ้าเณร ออกจากหมู่บ้านตะเพินคี่ ไปทาง หมู่บ้านน้ำพุ เมืองกาญ ขึ้น อ.ศรีสวัส ได้เดิน ลัดเลาะ ไปทาง ที่ว่านี้ ขึ้นห้วยลงเขา ไปเรื่อยๆ หลายชั่วโมง ก็ทะลุ ห้วย ไผ่สีทอง หรือห้วยปิ่นทอง จำชื่อผิด ขออภัยนะครับ แล้วเดินลัดเลาะ ไปเรื่อยๆ ไปโผล่โน่น แพน้ำเอ่อ เขื่อนเจ้าเณร ผมเองก็จำไม่ได้ ว่า คืนนั้นไปค้างคืนกันที่ไหน มันนานมากแล้ว ๒๐ กว่าปี และได้ผ่านหมู่บ้าน เกรียงไกล และไปหมู่บ้าน ไกลเกรียง ๒ หมู่บ้านนี้ ชื่อ หมู่บ้าน สลับหัวท้ายกันครับ แต่คนละหมู่บ้าน มีทั้งคนไทย อยู่กับแพในน้ำ ในเขื่อน และชาวบ้านไทยกระเหรี่ยง ปลูกอยู่ปะปลายและจะอยู่กันเป็นกลุ่มๆ หรือหมู่ๆไปครับ
     
  11. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    :cool:({) สวัสดีครับ อาซือเจ๊ พระประเภทนี้ เจอมาหลายท่านครับ บางองค์ หรือบางคน เรานึกอะไรอยู่ รู้ ใจเรา นี่ก็เจอหลายคนพอสมควรแต่ก้พังไปเยอะครับ ไม่ว่ากันครับ ดีกว่า จะมาทำให้ผิด ในผ้าเหลือง ในเมื่อ อาซือเจ๊ต๊อย พูดมาแบบนี้ ก็มีอยู่หนึ่งครับ สนิทกันกับผม พอสมควรและเคยอยู่ อ.ปาท่อ ที่จังหวัดราชบุรี ด้วยกันอีก หลายเดือน และมาพบกันบ่อยๆ ที่ วัดท่าซุง ท่านชื่อ พระ อ.ยุติ ฉายา จำไม่ได้ครับ ระยะหลังๆ ท่านได้ ไปจำพรรษา อยู่ที่ วัดพระพุทธบาท เขาน้อย เขาเรียก หมู่บ้าน ท่าล้อ ใกล้เมืองกาญจนบุรี


    สำหรับ หลวงพี่ ท่านอ.ยุติเมื่อก่อนผมเรียกท่านว่า หลวงพี่ ก็เหมือน หลวงพ่อนันท์ เจ้าอาวาส วัดท่าซุง เมื่อก่อน ผมก็เรียก หลวงพี่ ตอนนี้ผมให้เกียจท่าน เรียกหลวงพ่อ ท่านเป็นถึงท่านเจ้าคุณ และเรียกให้เด็ก รุ่นหลังๆ หรือลูก เรียกตาม บางคน เด็ก รุ่นลูก ยังเรียก ท่านหลวงพี่อยู่ เลย ไม่ได้ ดูกาละเทสะเอาเสียเลยน่ะครับ บางคนนะครับ อ.ยุธ องค์นี้ บวช ครั้งแรก ถ้าจำไม่ผิด ๑๗ พรรษา ท่านเก่งมโนมยิทธิครับ แล้วศึกออกไป มีคู่ครอง ไม่รู้กี่ ปีครับ ไม่มีลูก ผมเองไม่ได้ติดตาม ประวัติ ท่านเท่าใดนัก ตอนหลังเข้ามาบวชใหม่ และก้ได้มาเจอ กับผมอีก ที่วัด หลวงพ่อ วัดท่าซุงครับ ติดต่อ กันมาโดยตลอด
     
  12. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    และเมื่อเวลาผ่านไป ผมไม่เจอท่านอยู่ ไม่แน่ใจว่า กี่ปี มาได้ข่าวอีกที ท่านมรณะไปแล้ว เมื่อ คณะลูกศิษย์ ได้ เอาท่านใส่ โกดัง โบกปูน ต่อมา ไม่แน่ใจว่า ๒ ปีหรือ ๓ ปี ท่านไปเข้าฝัน บรรดาลูก ศิษย์ของท่าน ให้เอาร่างท่านออกมา ปรากฎว่า เมื่อทุบ เอาร่างท่านออกมา ร่างท่าน กายเป็นหินไปหมดแล้ว พระน้องชายท่าน ตอนนี้เขาก้เอาไปเป็นเจ้าอาวาส แทนท่าน ชื่อ พระ อาจารย์ วันชาติ ผมเคยไปกราบท่าน ๆเล่าว่า เมื่อทุบ เอาร่างพระพี่ชายออกมา ร่างเป็นหิน แล้ว เลย เอาทองคำเปลว ปิด องค์ท่านไว้ แล้วนำไปใส่โลงแก้ว ไว้ให้คนกราบไหว้บูชา ทุกวันนี้ นานๆผมผ่านไปจะแวะไปกราบท่าน


    พระอาจารย์ ยุติ ท่านเป็นพระอารมย์ดี ร่าเริงชอบพูดแบบกันเอง ตลกปกฮา ทีเล่นทีจริง บางครั้ง ท่านพูดแบบเล่นๆแต่อาจเป็นจริงก้ได้ และตอนนี้ พระน้องชาย อ.วันชาติ ท่านสร้างพระใหญ่ หน้าตัก ๑๐ กว่าวา ๒๐ กว่าเมตร หน้าจะยังไม่เสร็จผมเองไม่ได้ไป ๒ ปีแล้ว สร้างพระหน้าตัก ๔ ศอก หลาย สิบองค์ และหน้าตัก ๓ วา อีก ๕-๖ องค์ เสร็จแล้ว พระทุกๆองค์ เอาแร่ นิล เม็ดเล็กๆ มาผสม แทนหินเกร็ด หล่อเป็นองค์พระทุกๆองค์ครับ องค์กี่ตัน ผมเองจำไม่ได้ครับ ท่านกล่าวว่า ผมเองไม่อยากสร้างแล้ว มีคนนำเงินมาถวายท่าน ๆ จึงสร้าง และองค์นี้ หน้าตัก ๒๐ กว่าเมตร ท่านพระ อาจารย์เล็ก สุธัมมะปัญโญ วัดท่าขนุน ให้ไป เอาเงิน เดือนละ ๑.๐๐๐,๐๐๐ บาท ๑ ล้านบาท ต่อเดือน ท่านอุปถัม ช่วยสร้าพระ ใหญ่ให้เสร็จ ท่านว่าอย่างนั้นครับ ท่านเล่าให้ผมฟังว่า เกรงใจ พระอาจารย์เล็ก บางทีบางเดือน ท่านขี้เกียจไปเอาเงิน ที่อาจารย์เล็ก ท่านว่าอย่างนั้น นี่ก้เล่ามาแค่ค่าวๆครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2015
  13. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน วันนี้ก็มาพบกันใหม่ หลายวันมานี้ รู้สึกว่า หายใจขัดๆบ้างเป็นบางครั้ง เรื่องไอ นี่เป็นมาหลายวัน ยังไม่หาย กินยา หลายอย่าง แค่ให้บรรเทา จริงๆมันไม่หายหรอก ไม่ว่ายาอะไร ในปัจจุบัน มันแค่ระงับเวทนา ในการไอ ผมเคยถามหมอ และสังเกตุ ดูอาการ มันตรงกันที่ว่า ถ้าเป็นจนแก่ หลายวัน มันจึงค่อยๆหาย ไปในที่สุด โรคไอ และไข้หวัด มันเป็นเชื้อโรค ที่ติดกันเร็วมาก ผมถ้าเป็น มะนจะใช้เวลา เป็นครึ่งเดือน หรือ เกือบเดือน จึงหาย ไอธรรมดา ก็ค่อยยังชั่ว ถ้าไอแล้ว กระแทก หน้าอก และกระแทกท้อง ทำให้ ทรมานและเจ็บครับ และครั้งนี้ มันไอแล้ว ทำให้ เสลด ไปกั้น ตรงคอ ทำให้ จะหายใจติดขัด คล้าย หัวใจจะหยุดเต้น เอาง่ายๆ แสดงว่า การตาย มันมาเยือนเราเป็นปรกติ แต่เรารู้ไม่เท่าทันมันนั่นเองครับ


    บางทีกินยา มันจะสอึก สอื้น คล้าย หายใจ จะหยุดเต้น ไอ้เราก็กลัวตาย แต่ถ้ามันจะตายจริงๆ เราเอง คงห้ามมันไม่ได้ แน่นอนครับ เมื่อเวลามาถึง หายใจเข้า ถ้าไม่หายใจออก มันก็ตาย หายใจออกไม่หายใจเข้า มันก็ตาย แต่เรารู้ไม่เท่าทันมันเอง ต่างหาก มันเป็นกฎของธรรมดา ของชีวิต สัตว์ และคน เกิดมาต้อง ตาย เที่ยงแท้ แน่นอนที่สุด จริงๆตัวเราไม่ได้ตาย ไอ้ที่ตาย คือ ตัวนอก ที่เรามาอาศัยมันอยู่ชั่วคราว ตัวเราจริงๆ คือ ตัวใน คือ จิต หรือ กายในนั่นเอง หรือ อทิสมานกาย เมื่อ ร่างกายแตกดับ ตัวเราแท้ ต้องไปเกิด หรือ ย้าย หรือ เคลื่อน ไปอยู่ ภพภูมิอื่น ที่เราทำ หรือ สัตว์ คนนั้นๆ ที่ทำไว้ ตอน เป็นคน หรือ สัตว์ นั่นเอง
     
  14. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เอ่านี่เราพูด ฟุ้งเฟ้อ ไปถึงไหนเนี่ย ย้อนมาคุยกันเรื่อง ที่เล่าค้างไว้ เมื่อคราวที่แล้วนี้ครับ เมื่อคราวที่แล้ว พูดคุยกันมาถึงตอน ผม ทายก ไฮสง และนักบวช อีก ๑ คนคือเป็นพระในสมัยนั้น (ปัจจุบัน สึกไปนานมากแล้วครับ) องค์นี้ ที่ว่า รู้วาระจิตได้พอสมควร ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิกรรมฐาน สมาทานธุดงค์ เอกา นั่งอย่างเดียว คือ ไม่นอน ทั้งพรรษา ฉันเมื้อเดียว ห่มผ้า ๓ ผืน เวลา ผ้าห่มขาด ท่านจะ เย็บเอง แบบในสาย หลวงปู่มั่น ถ้าจะหลับ ก็นั่งในท่าหลับ นี่ ธุดงค์ ๑๓ ข้อ จริงๆทำทีเดียวได้ หลายข้อ และไม่จำเป็นต้องๆไป เดิน ธุดงค์ในป่า ถ้าเข้า ใจในการถือ ธุดงค์วัตรปฏิบัติ แล้วแต่จริต ท่านนั้นๆด้วยครับ อันนี้ จะไม่ค่อยเมือนกัน แล้วแต่ใครชอบแบบไหน ทีจะสร้าง อบรม บุญญาบารมีของตน จิตใจของๆตน


    ก็ขอเล่า เรื่องลัดตัดตอน เมื่อถึงเวลา อันสมควร เพราะหัวเขื่อนเจ้าเณร เมื่อก่อน ผมเองก็รู้จักหลายท่าน และทายก ไฮสง มีพักพวก เป็นชาวไทยกระเหรี่ยง อันนี้ ยิ่งง่ายในการ ดูแลพอสมควร ถึงจะไม่ใช่พี่น้องกัน ชนชาติ ไทยกระเหรี่ยง เขาจะรักกัน เสมือนแนพี่น้อง นะ ตอนนนี้ ก้จะเริ่ม คลายตัว ไปบ้างแล้ว ในหลายๆหมู่บ้านครับ แต่ก็ถือว่า ยัง รักกันอยู่ จะรักกันในสายเลือด เผ่าพันธุ์ น่ะครับ มีอะไรเกิดขึ้น ในพันเผ่าเดียวกัน ถุกผิด จะเข้าข้างกันไว้ก่อน นี่ที่ผม สัมผัดมานะครับ เพราะไปฝังตัว มานาน เกือบตก ๒๐ ปี แต่พูด ภาษาไทยกระเหรี่ยง ไม่ได้เลยครับ เพราะ ไม่ได้ ใส่ใจนั่นเองครับ ถึงไม่รู้ ถ้าสนใจคงไม่เกิน วิสัยของผมหรอกครับ
     
  15. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เอ่านี่เราพูด ฟุ้งเฟ้อ ไปถึงไหนเนี่ย ย้อนมาคุยกันเรื่อง ที่เล่าค้างไว้ เมื่อคราวที่แล้วนี้ครับ เมื่อคราวที่แล้ว พูดคุยกันมาถึงตอน ผม ทายก ไฮสง และนักบวช อีก ๑ คนคือเป็นพระในสมัยนั้น (ปัจจุบัน สึกไปนานมากแล้วครับ) องค์นี้ ที่ว่า รู้วาระจิตได้พอสมควร ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิกรรมฐาน สมาทานธุดงค์ เอกา นั่งอย่างเดียว คือ ไม่นอน ทั้งพรรษา ฉันเมื้อเดียว ห่มผ้า ๓ ผืน เวลา ผ้าห่มขาด ท่านจะ เย็บเอง แบบในสาย หลวงปู่มั่น ถ้าจะหลับ ก็นั่งในท่าหลับ นี่ ธุดงค์ ๑๓ ข้อ จริงๆทำทีเดียวได้ หลายข้อ และไม่จำเป็นต้องๆไป เดิน ธุดงค์ในป่า ถ้าเข้า ใจในการถือ ธุดงค์วัตรปฏิบัติ แล้วแต่จริต ท่านนั้นๆด้วยครับ อันนี้ จะไม่ค่อยเมือนกัน แล้วแต่ใครชอบแบบไหน ทีจะสร้าง อบรม บุญญาบารมีของตน จิตใจของๆตน


    ก็ขอเล่า เรื่องลัดตัดตอน เมื่อถึงเวลา อันสมควร เพราะหัวเขื่อนเจ้าเณร เมื่อก่อน ผมเองก็รู้จักหลายท่าน และทายก ไฮสง มีพักพวก เป็นชาวไทยกระเหรี่ยง อันนี้ ยิ่งง่ายในการ ดูแลพอสมควร ถึงจะไม่ใช่พี่น้องกัน ชนชาติ ไทยกระเหรี่ยง เขาจะรักกัน เสมือนแนพี่น้อง นะ ตอนนนี้ ก้จะเริ่ม คลายตัว ไปบ้างแล้ว ในหลายๆหมู่บ้านครับ แต่ก็ถือว่า ยัง รักกันอยู่ จะรักกันในสายเลือด เผ่าพันธุ์ น่ะครับ มีอะไรเกิดขึ้น ในพันเผ่าเดียวกัน ถุกผิด จะเข้าข้างกันไว้ก่อน นี่ที่ผม สัมผัดมานะครับ เพราะไปฝังตัว มานาน เกือบตก ๒๐ ปี แต่พูด ภาษาไทยกระเหรี่ยง ไม่ได้เลยครับ เพราะ ไม่ได้ ใส่ใจนั่นเองครับ ถึงไม่รู้ ถ้าสนใจคงไม่เกิน วิสัยของผมหรอกครับ
     
  16. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เมื่อทำภารกิจ เสร็จสิ้นแล้ว พระ พวกผม ก้เข้าไป ในเขื่อน ไปดู ตามเรือนแพ ที่มี ชาวไทย อาศัยอยู่ พ่อค้า แม่ขาย ที่รับซื้อ ปลา ชนิดต่างๆมากมาย มีทั้ง ปลาเป็นปลาตาย มากมาย ที่พ่อค้าแม่ค้า ซื้อชาวบ้าน ที่เป็นประมง พื้นบ้าน นำมาขายให้ พวกผม ก้เข้าไป ซื้อ ปลาตาย จำพวก ปลาตะเพียน ขาว หางแดง ปลากระสูบ ตัวยาวกว่าตัวออกกลมๆไม่แบนเหมือน ปลาตะเพียน ก็เลือกซื้อปลาพวกนี้ ที่ตาย แวะท้อง ใส่เกลือ คนละตกเกือบ ๒๐ โล หรือ กว่า ๒๐ กว่า ทายก ไฮสง ใช้ หัวโง ส่วนผม ใช้ ตัดไม้ไผ่ หาบ ทำเป็นไม้คานหาบ ก็หนักเอาการ สำหรับผม ซึ่งเราเอง ไม่เคยหาบของมานาน ตก ๓๐ กว่าปี ก็มาหาบของขึ้นเขา มาบ้าน ตะเพินคี่ ในพรรษานี้นี่แหละ จริงๆไม่อยากหาบหรอกครัย สถาณการณ์ มันเหมือนบีบบังคับ ไปในตัว


    และเริ่ม เดินทาง ออกจาก บ้าน ไกลเกรียง หมู่บ้านสุดท้าย พวกเรา จะไม่เข้า ไปทาง อนุรักษ์ กรึงไกล ซึ่งเป็นที่ เจ้าหน้าที่ อนุรักษ์ ห้วยขาแข้ง ทำงานอยู่ และพวกเรา ทายก บอก พวกเราว่า จะไปทางลัดกัน ไม่ใช่ไป ทางน้ำตก น้ำโจน แต่จะไป ขึ้น ทางลัดไกล้กว่านั้นอีก คือทาง น้ำตก ขี้ทู จะมีน้ำตกเฉพาะ หน้าฝนเท่านั้น หน้าแล้งไม่มี น้ำไม่พอ ตก คือน้ำ จะไหล แซก ภูเขาหิน หมุดลงไป ใต้เบื้องล่าง ลงสู่ลำห้วย ขี้ทู ตอนออกไป ผมบอกว่า กำลังเที่ยงๆ แดด ก็จัด คนโบราณ เขาไม่ให้ ออกเดินทางแดดกำลังเที่ยงตานี้ก็รออีกเวลาอีกหน่อย พอใกล้จะเวลา บ่ายโมงก็ออกเดินทางกัน แต่ก็ยังร้อนระอุ อยู่ดี เพราะต้องเดินไป ในไร่ ข้าวไร่ ซาก ไร่พืชผักของชาวบ้าน เรียกว่า เรียก เหงื่อ ออกท่วมตัว เลยที่เดียว และเดินสัก ชั่วโมงกว่าๆก็เข้าแนวเขตุ ป่าไผ่ และต้นไม้นานาชนิด ก็มันยังอยู่หน้าฝน และในพรรษาด้วย ด้วยเหตุนี้ ทั้งป่า มันยังรก ทึก เสียมากกว่า การเดินทางยาก ลำบากมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2015
  17. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เมื่อเดิน ทางเข้าป่ามาได้ สักระยะหนึ่ง ยิ่งเข้าป่าลึกเข้าไปเท่าใด ยิ่งลำบากมาก หาทางไปไม่ได้เลย ทายก ขอเวลาออกไปดู ทาง ก็ไปไม่ได้ ทางมันตันไปหมด หนาม เถาวัลย์ มันไข่ กันไปมา มัน ก้บ่าย สัก ๓ โมงกว่าได้แล้ว พวกเรานั่งหยุดพักกัน เพราะว่าเหนื่อย มาก ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย แถมยังบ่ายังหาบ ของหนักไว้อีก ต่างหาก เมื่อนั่งพักได้ ไม่นาน ไม่กี่นาที ทันใด นั้น ท้องฟ้า ที่เคยสว่าง ด้วยแสงพระอาทิตย์ ก็มึดคลึ้ม ปกคลุมไปด้วย เมฆ ดำทมึนขึ้นปกคลุมไปทั่ว อนาบริเวณนั้น ทันที ทั้งลม ทั้งฝน ฟ้าร้อง คำราม อย่างกึกก้องไปทั่ว ทั้งพนาไพร ฝนตกทั่ว ทั้งป่า แถมไม่ตก ธรรมดาเสียด้วย ตกหนัก มาก ไอ้ที่เคยร้อนมา มันก็เลยเกิด อาการหนาวสั่น เทิ้มไปทั้งตัว


    หนาวมันก็ไม่ใช่ หนาวแบบธรรมดาครับ มันเริ่มมีอาการ คั่นเนื้อคั่นตัว คล้ายจะเป็นไข้ ก้เลยกินยา แก้ไข้ ที่เตรียมมาครับ ผ้าผ่อน ท่อนไสบ มันคงเปียกปอนไปตามๆกัน ทั้งลม ทั้งฝน อื้ออึงกันไปหมด ทันใดนั้น พวกเราก้ได้ยิน เสียง ต้นไม้ ชนิดต่างในป่า เสียงดังมากๆเลย คือเสียง มันดัง โพ๊ะพ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงดัง ปนกับเสียง ฝน ลม แต่เสียงดังฟังชัดมาก ทายก ไฮสง บอกกับพวกเราว่า เสียงช้าง มาทางเรานี้แหละ คนอื่นเป็นยังไง ผมไม่รู้ ส่วนผมเอง ก็เลยร่ายยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตั้งนะโม ๓ จบ ในใจ นึกถึงพระ ครูบาอาจารย์ หลวงปู่หลวงพ่อ เป็นที่เคารพ ของเรา เจ้าป่าเจ้าเขา ทั้งหลาย ได้โปรด คุ้มครอง อันตราย ทั้งมวล ด้วยเถิด พระพุทธเจ้าข้า และตั้งจิต บอกเจ้าช้าง อย่าได้ มาทำอันตรายใดๆเลย มาดี ไม่ได้ คิดร้าย สิ่งใด และจะขอผ่านทางไปทางนี้ และโปรดอนุเคราะ อะไร ก็ว่าไป ตามประสา คนบ๊องๆ
     
  18. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เมื่อพวกเรา นั่งพักกันนานพอสมควร ฝนเริ่มซาลง เบาลง พวกเรา ก็บอกกันว่า ออกเดินทางกันได้แล้ว พอเดินมาได้ ไม่ไกลันัก ไม่น่าจะถึง ๑๐ วา ที่พวกเราได้ยินเสียง ต้นไม้หักดังโพ๊ะพ๊ะๆๆๆๆๆนั่น ไม่ใช่อะไร ช้างป่า ๑ เชือก มาทำทางให้พวกเรา รอยเท้า ขนาดใหญ่เท่า ถาด ลูก ย่อมๆได้ เราเอา รอยเท้าเราเข้าไปวัดในรอยเท้าช้าง โอย มันต่างกันมากเลย ทายก ไฮสงบอกเราว่า ช้างเชือกนี้ เป็นช้างสีดอๆ ชอบ เที่ยวไปแต่ผู้เดียว ไม่ชอบ รวมฝูง เป็นช้างเอกเทศ เปรียบได้ เรียกช้างโทนก็ได้ มีงายาว แค่คืบกว่าๆ ไม่ยาว เป็นช้างตัวผู้ และงาไม่ยาวเหมือนช้าง ตัวผู้ทั่วๆไปครับ เมื่อผม ดูแล้ว ก็คิดในใจว่า ช้างท่านรู้หนอ ว่าพวกเราหลงป่า จึงมาทำทางให้พวกเรา และคงรู้เจตนาของพวกเรา พวกเราก็ได้เดิน ตามทาง ที่ช้างทำทางไว้ให้นั่นเอง ถ้าช้างไม่ทำทางให้ ผมกล้าพูดได้เลยว่า อีกวัน หรือเกือบ ๒ วันจะไปถึง บ้านตะเพิน หรือเปล่า ก้ไม่รู้ครับ


    เมื่อมีทางเดิน พระที่ไปเป็นเพื่อนพวกเรา และหาอุบาย พาพวกเรา ไปในครั้งนี้ และพา ทายก ในหมู่บ้าน และก้เป็นผู้รู้จักป่าได้ พอสมควร เดินทางไปด้วย กับพวกเรา รวมทั้ง ๓ คน ผมเอง อาการ นั้น มันก็รุนแรงขึ้นไป ตามลำดับ ไข้เริ่ม ขึ้นสูงขึ้น ทั้งเหนื่อย เมื่อยล้า อ่อนแรง เจ็บปวดรวดร้าว มากเลย บางทีหรือ บ่อยๆมาก ขาเท้า ไปโดนเถาวัลย์ คันไปทั่ว และเผอๆ เท้าไปโดน ต้นช้าง ร้อง มันทั้งคัน ทั้งแสบ ปวด ไปพร้อมๆกัน ก้ได้แต่ทน ปรง แต่ปรงไม่ตกเลย เพราะการเดินทางนั้น มีแต่เวทนา ให้ใช้ กรรมฐาน กองไหนๆ เรียกว่า ตะบะแทบแตก ว่างั้นเถอะครับ ในชีวิตนี้ เรามาทำเพื่ออะไรกัน แบบนี้ มันคิดไปในหลายๆรูปแบบ แต่ว่า ในใจ ก้บอกตัวเองว่า เรามาสร้างบารมี ทำเพื่อ มรรคผลนิพพาน
     
  19. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เดี๋ยวไปทำธุระก่อนนะครับ มีคนมาหา คือว่า ตอนผมรื้อบ้าน ที่โรงรถ ผมได้ถวายกระเบื้องเก่า ผมถาม อาจารย์ ณัฐวุฒิ ว่าเอากระเบื้อง ที่ผมรื้อไหม อาจารย์ท่านบอกเอา ถ้าไม่เอา ช่างมันจะเอาครับก็เลยถวายวัดไป ดีกว่าได้อานิสงฆ์ แม้เก่า ยังใช้งานได้ครับ และมีพระที่กรุงเทพ เอา ธูปเทียน พรรษา ยูกยาต่างๆมาถวายอาจารย์ท่านๆมาฝากไว้ครับ วันนี้เลย ให้เด้กแวะเข้ามาเอาที่ฝากไว้บ้านผมครับ แค่นี้ก่อนครับ สวัสดีครับ
     
  20. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน วันนี้ก็มาพบกันเช่นเคย เมื่อวานความเดิมตอนที่แล้วได้ มาจบลง ตอน ยังอยู่ในป่า ที่ไป หาซื้อ ปลาตาย เพื่อจะนำไปให้ คณะ แม่ชี ทำอาหาร ขบฉันกัน และถวายพระ ในจุดต่างๆ ที่ไปจำพรรษา ที่หมู่บ้านตะเพินคี่ อาหารที่ บิณถบาตร อย่างเดียวคงไม่พอ แม่ชี ๗ องค์ อยู่ในถ้ำ พระ ๔ องค์ เถรอีก ๑ เป็นเท่าไหร่ ล่ะครับ จะให้พอได้ไง ในเมื่อ ชาวบ้าน ตอนนั้นมีแค่ ไม่ถึง ๔๐ หลังคาเรือน บางหลังคาเขาไม่ได้ใส่บารต เฉพาะ บ้านเขาเอง ยังหาเลี้ยงชีพไม่พอ กิน ด้วยซ้ำไป


    แต่คณะแม่ชี ก็บอกบุญ นำของไปแจก อยู่บ่อยๆ แม้ผมเอง ก้เคยเอา เสื้อผ้า มะพร้าว ไข่เป็ด ขนมนมเนย ปลากระป๋อง หมี่ไปเอาโน่น โรงงานหมี่ บ้านโป่ง ขึ้นราชบุรี ไปแจกหลายวาระ เอ่ามาเล่ากันต่อ คอยจะเอาเรื่อง อื่นๆ มาคั้น รายการอยู่เรื่อยๆครับพี่ๆน้อง วันนี้ พวกเราเดิน กันมาอย่างใจจดใจจ่อ ทั้งหนาว สั่น ไข้ ขึ้นสูง ในบ่าก็หาบปลา บางครั้ง ในใจ คิดว่า จะทำเพื่อ ประโยชน์ อันใด มาทรมานทำไม บางครั้ง อยาก จะโยน ปลานั้นทิ้ง ไปจากบ่า แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะหน้าที่ ของๆเรา ที่ต้องทำและต้องทำบารมี ของๆเรา และสัจจะ แม้มันจะตาย ก็ยอมด้วยเช่นกัน เพื่อ นำไป ให้ คณะแม่ชี พระได้ ขบฉัน ได้ บำเพ็ญ ความเพียร บำเพ็ญ สมณะธรรม ให้เต็มที่ แม้ใจ มันจะคิด โยนทิ้ง แต่คงทำไม่ได้ ด้วยแบบว่า ที่เล่ามา ทำด้วยความเต็มใจ ไม่มีใครบังคับเรา
     

แชร์หน้านี้

Loading...