ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จสิทธิพระที่นั่งมหาบัลลังก์(ปรารถนาเป็นหนึ่งกุณฑธานเถระ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ขอให้ได้ลาภใหญ่ๆเน้อพี่ๆทั้งหลาย :z2

    ลูกตาลน่าจะมีขายที่ตลาดนัดนะ เห็นเจอประจำเลย ลูกตาลลอยแก้วก็มี ลูกตาลสดปอกไว้ก็มี ต้องลองดูตามตลาดนะ ไม่งั้นก็ฝากพวกร้านขายขนมแบบเป็นหม้อๆ เวลาอุดหนุนขนมเค้า บอกเค้าว่าฝากซื้อลูกตาลก็ได้ แล้วนำไปไหว้ซะ
     
  2. thumniramit

    thumniramit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +130
    จะพยายามหาอีกครับ...ต้องได้ๆ
     
  3. chaiwatana

    chaiwatana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +279
    ยังหาลูกตาลไม่ได้เหมือนกัน
    แม่ค้าบอกหมดหน้าแล้ว
    ค้นในเนท มีเนื้อตาลอบแห้งขาย แต่โน่น เพชรบุรี
    คงต้องสั่งมาสักถุง ไว้ค่อยใช้ทยอยไหว้
     
  4. chaiwatana

    chaiwatana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +279
    เห็นคล้ายๆหั่นเป็นแว่น นึกว่าลูกตาล
    ถาม กลายเปนวุ้นมะพร้าว
     
  5. visa2505

    visa2505 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    560
    ค่าพลัง:
    +1,093
    โอนให้แล้วครับ4000/100 บาท
    ค่าบูชาพระตรีเนตรฯ จะpm อีกครั้งครับ
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อ่าน PM ครบ

    วันนี้หนักใจชะมัด มีคนมาปรึกษาเรื่องธุรกิจแย่ลงปลดคนงานออกเกือบหมดเลย ซึ่งเราก็ลองถามดูก็รู้ว่ายอดสั่งซื้อของเค้าน้อยลงมาก เเล้วก็ปลดเป็นประจำคือพอมีงานก็เรียกกลับมา ถ้างานน้อยก็ให้กลับไปทำไร่ทำนาที่บ้านตามสภาวะเศรษฐกิจ

    เราก็แนะนำหลายๆอย่าง ให้เค้าสวดมนต์แผ่เมตตา เค้าก็ไม่ทำบอกว่าไม่ใช่แนวไม่เคยทำ ไม่ชิน แนะนำเครื่องรางเครื่องมงคลต่างๆเค้าก็ไม่เอาบอกว่าไม่เคยใส่ไม่ได้นับถือของพวกนี้ ก็ไม่รู้จะพูดยังไงเลยทำได้แค่รับฟังความทุกข์และเป็นที่ระบายให้ ให้เค้าคิดซะว่าเศรษฐกิจไม่ดี

    ที่จริงบ้านท่านอยู่ใกล้วัดพระเกจิชื่อดังที่มรณภาพไปในอดีตถึงสองรูป คือหลวงพ่อสดและหลวงปู่โต๊ะ ซึ่งก็เกิดทัน แต่ท่านว่าไม่ได้นับถือ เห็นมาตั้งแต่เด็ก แต่รู้สึกเฉยๆไม่ได้สนใจ พอพูดแบบนี้เราก็ไม่รู้จะพูดยังไงดีแล้วด้วยเเหละ ประเภทของคนบางคนก็มีความยึดมั่นถือมั่น มีความเชื่อเป็นของตัวเองมีทิฏฐิแรงกล้า ถ้าเจอคนที่มีลักษณะแบบนี้บ่อยๆ ผมคงเหี่ยวตายแน่ๆเลย แต่ก็จะเป็นกำลังใจและเป็นที่ปรึกษาให้ ถือว่าพูดคุยกัน:'(

    อย่างน้อยถ้ามีพระพุทธเจ้า เชื่อเรื่องของพุทธคุณ สวดมนต์ไหว้พระบ้างก็น่าจะสบายใจขึ้นเองและมันจะมีอะไรดีๆหลายๆอย่างตามมา

    จบไปเรื่องแรก เรื่องที่สอง ก็เช่นเดิม มีคนโทรมาปรึกษาจะบูชาอะไรดี ขายของไม่ดีเลย ขางของที่ตลาดนัด เจ๊งเลยไม่มีคนซื้อเครียดมาก โหฟังแล้วแทบน้ำตาไหลตามค่าใช้จ่ายค่าเทอมลูกสารพัด คุยไปคุยมาก็คือเค้าอยู่กับสามีอยู่กับลูก ก็เลยถามว่าเเล้วพ่อแม่ล่ะ เค้าตอบว่าพ่อตายนานแล้วแม่ยังอยู่ ปากเรามันก็ไปเองว่าได้กลับไปหาแม่บ้างรึเปล่า เค้าเงียบทันทีซักพักบอกว่าไม่ได้ไปเลย เราถามว่านานแค่ไหนแล้ว เค้าบอกว่านานจนจำไม่ได้ เราก็เลยตอบไปว่า ไม่ต้องมาบูชาอะไรที่นี่หรอก เอาเงินไปซื้ออาหารซื้อขนมที่แม่ชอบกลับไปไหว้แม่ดูแลแม่ก่อน เดี๋ยวอะไรๆมันก็เจริญขึ้นเอง

    คือสภาวะสมัยนี้นะ น้ำใจคนแต่ละคนทำไมมันดูแปลกๆไปทุกวัน ไม่สนใจพ่อแม่ ไม่เชื่อหรือศรัทธาศาสนา ไม่รู้หน้าที่ของตนเอง เต้นไปตามกระแสโลกแต่กลับอยากทำตัวให้สวนกระแส พอไม่ได้ก็เครียดและคิดมากไปต่างๆนานา สุดท้ายวิธีแก้มันก็เป็นเพียงจุดเล็กๆง่ายๆคือเริ่มแก้ที่ตัวเราเองเสียก่อน ทำได้อะไรๆมันก็ดีขึ้นเอง อย่างเรื่องแม่นี่ เราไม่อยากพูดเลยว่าจะรอให้เค้าตาย ค่อยกลับไปเคาะโลงเยี่ยมหรือยังไง เป็นลูกยังไง ไม่เจอแม่นานแค่ไหนจำไม่ได้ เชื่อมั๊ยว่าแม่นั่นแหละจะเป็นฝ่ายที่จำได้ว่าลูกไม่ได้มาหากี่ปี กี่เดือน กี่วัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2015
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ประสบการณ์องค์ครุฑ ก้อปจากPM มาให้อ่านกันเหงา

    พ่อพญาสุเรนทรชิตแรงมากครับ เลี่ยมเสร็จขึ้นคอวันแรกเป็นไข้เลย ปรับธาตุหนักมาก แต่เป็นวันเดียวก็หาย เพิ่งเคยเจอ สมัยก่อนตอนเล่นพราย การปรับธาตุก็แค่ปวดหัว ไม่สบายตัวแต่ไม่เคยเป็นไข้ (เลิกเล่นพรายแล้วครับตอนนี้)
    และสมแล้วที่เป็นวัชรธาตุครับเย็นมาก ยิ่งตอนกุมไว้ตอนสวดมนต์นี่รู้สึกได้เลยว่าความเยือกเย็นแผ่ซ่านออกมารอบข้างเลย รู้สึกได้ว่าใจคอหนักแน่นเยือกเย็นยิ่งขึ้น คนรอบข้างรู้สึกว่าเรามีสง่าราศีแถมออกอาการเกรงใจมากขึ้นด้วย สุดยอดมากครับ รู้สึกถูกจริตกับองค์พ่อพญาสุเรนทรชิตจริง ๆ ตอนนี้ห้อยคอติดตัวตลอด ขอบพระคุณพ่ออาจารย์พลมาก ๆ ครับ
     
  8. PALA 5

    PALA 5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    293
    ค่าพลัง:
    +822
    วันนี้ได้รับพระหลวงปู่เทพโลกอุดรแล้ว ขอบคุณครับ
     
  9. thumniramit

    thumniramit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +130
    ได้รับพระแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. oomdi

    oomdi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    405
    ค่าพลัง:
    +1,260
    ผมแจ้งโอนค่าจัดส่งหลวงปู่เทพฯให้แล้วอ่ะครับ คุณกรได้รับ pm ยังครับ =)
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ตอบคำถาม

    วันนี้ก็จะมาคุยกันเช้าๆนี่แหละ

    มีหลายคนถามว่าทำไมพ่ออาจารย์ท่านออกวัตถุมงคล ทำไมไม่สอนธรรมมะ ทำไมไปสอนให้ยึดติด

    ก็จะตอบรวมๆแบบนี้ ท่านว่าคนเรานี่มีหลายแบบ กว่าจะลุถึงประโยชน์ยิ่งใหญ่ได้นั้น ต้องเจออะไรมากมาย ผ่านการขัดเกลาอย่างหนัก ธรรมมะนั้นถึงจะเข้าใจด้วยตนเองไม่ใช่ด้วยว่าผู้ใดสอน

    ซึ่งขั้นตอนทั้งหลายนั้นก็จะเริ่มจากการเชื่อและศรัทธาในพระรัตนตรัยก่อน มีศาสนาขึ้นมาในใจก่อน เครื่องมงคลที่ทำทั้งหลายนั้น ก็ทำให้เขาเพื่อเอาไปใช้ประโยชน์ให้รู้ว่าพุทธคุณนั้นมีจริง เทวานุภาพนั้นมีจริงให้เค้าออกจากทุกข์ที่ฉาบฉวย มีกำลังใจในการปฏิบัติ มีชีวิตที่ดี ก็สุดแท้แต่เขาจะเลือกอะไร ตามจริตของเค้า ตามวาระของเค้าที่จะประสบเคราห์กรรมอะไร โฉลกจะใช้เครื่องมงคลใด ตามความเชื่อเดิมที่หยั่งรากลึกในจิตใจของเค้าที่จะถูกกระตุ้นขึ้นมา

    ซึ่งการขัดเกลานั้นมันต้องค่อยเป็นค่อยไป เพาะบ่มไปเรื่อยๆ เหมือนเธออยากกินผลมะม่วง เธอปลูกวันนี้พรุ่งนี้จะได้กินเลยนั้นก็หาไม่ มรรคผลนิพพานก็ดุจเดียวกัน เมื่อมามีศรัทธาตรงนี้ เราก็ให้หมั่นไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิทำกรรมฐาน เพราะทุกอย่างมันต้องทำต้องเก็บ เป็นปัจจัตตังจะรู้ได้ด้วยตนเอง เราพูดเสมอว่าไม่มีใครสวดมนต์เฉยๆแล้วเป็นพระอรหันต์ สมาธิก็เช่นกันนั่งได้แล้วเป็นอรหันต์ฤา ก็เปล่า แต่มันเป็นการฝึกจิตของเรา ให้เรามีมหาสติที่มั่นคงขึ้นเพื่อจะนำเราไปในขั้นต่อไป เพื่อจะให้เห็นสัจธรรม

    คนเรานั้นผ่านทุกขเวทนามามากมาย รับทุกข์แล้วก็เจ็บเนื้อร้อนใจ ทำไมเธอไม่คิดกันเล่าว่าโชคดีแค่ไหนแล้ว ที่มีความทุกข์เข้ามาให้เห็นให้พิจารณากันประจำ ทำไมมีโอกาสถึงปานนั้น จะไม่มองไอ้ตัวทุกข์นี้ให้ออก พิจารณาเข้าไปสิว่าทุกข์นี้คืออะไร ผลเป็นอย่างไร สาเหตุมาจากอะไร ต้นตออยู่ที่ไหน พิจารณา พิจารณา พิจารณา มันจะทำให้เรานี้เคยชินไปเอง มีทุกข์กี่เรื่องก็พิจารณามันเข้าไป มันจะทำให้เราเข้าถึงปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ เธอจะได้ชื่อว่าผู้รู้พึงรู้เฉพาะตนของเธอ เพื่อที่จะมองให้เห็นทุกข์ เพื่อจะกระทำที่สุดแห่งทุกข์ เพื่อที่จะหาหนทางออกจากทุกข์

    คนสมัยนี้มีเม็ดมะม่วงคือตัวทุกข์อยู่ในมือกันทุกคน แต่ไม่อยากลงทุนปลูกรอเวลาเสียเลย เขาอยากจะกินเนื้อมะม่วงเลย หายใจเข้า หายใจออกเขาจะไปนิพพานกันเลย บันไดมีให้เดิน กลับหาหนทางที่จะกระโดดเพราะคิดว่าไวกว่าคนอื่นเค้า หาได้ใส่ใจเลยว่าจิตตนเองนั้นพัฒนาการไปถึงขั้นไหน ตกลงมาจะเจ็บแค่ไหน คนที่เค้าค่อยๆเดินๆอย่างมั่นคง ทำไมเค้าไปถึงก่อน จริงหรือไม่

    เรื่องของเครื่องมงคลของคาถาอาคมนั้น มันทำให้คนรู้จักท่องบ่นมนต์ ทำตัวอยู่ในศีลในธรรมตามคำสั่งสอนครูบาอาจารย์ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานนำไปสู่การสวดมนต์ทำสมาธิ เจริญสติ พิจารณาทุกข์ หาหนทางดับทุกข์ที่เป็นของเฉพาะตนต่อไป ก็ลองมองส่วนที่ดีที่มีประโยชน์แก่โลกบ้างก็ยังดี ก่อนจะไปกล่าวหาใครว่างมงาย มันก็เหมือนไปชี้หน้าตราหน้าด่าบรรพบุรุษตัวเองตั้งแต่กษัตริย์ยันไพร่ในอดีตไม่รู้กี่ชัวคน ที่เค้าใช้สิ่งเหล่านี้เป็นอุบายธรรมสืบทอดกันมา ขอให้มีคนที่เข้าใจ มีคนที่ดีขึ้นซักหนึ่งคนก็ยังดี เมล็ดพันธุ์เหล่านี้สมควรจะเร่งปลูกฝังกันไว้

    เมื่อมีเครื่องมงคลแล้วรู้จักการไหว้พระสวดมนต์ทำสมาธิ ก็อย่าเพิ่งไปหยุดแค่จุดตรงนั้น ต้องก้าวต่อไปด้วยเพื่อพัฒนาการของตนเอง ก้าวเข้าไปหาความทุกข์ ใช้สติ ใช้การพิจารณา ทำต่อไปทีละขั้น ทีละขั้น ถ้ามันยังไม่พอก็กลับมาสวดมนต์ทำกรรมฐานใหม่ ฝึกไปเรื่อยๆ ฝึกจิตฝึกใจตนเองเพาะบ่มไปชาตินี้ไม่ได้ ชาติหน้าก็ยังมี ด้วยว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลนั้นก็ยังรอวาระที่จะอุบัติอยู่ ดีกว่าพร่ำบ่นขอให้เกิดทันท่าน ขอให้นิพพาน ทันท่านแล้วอย่างไรเล่า เธอก็จะเป็นชนกลุ่มน้อยที่สดับธรรมแล้วไม่มีพัฒนาการสิ่งใด เพราะของเก่าเธอไม่มี เธอก็ต้องไปรอไปอธิษฐานถึงพระองค์อันจะอุบัติในกัปต่อไปเรื่อยๆอีก

    การสวดมนต์นั่งสมาธินี้ไม่ได้สอนเพื่อให้ทำแล้วว่าจะได้นิพพานใดๆ ธรรมมะทั้งหลายของพระพุทธเจ้าก็เช่นกัน ก็เป็นเพียงแนวทางให้เรานำไปปรับใช้ในชีวิต ให้เราศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่ด้วยว่ารู้ธรรมมากอ่านพระธรรมมามากจะเป็นอรหันต์แต่อย่างใด ธรรมมันต้องเกิดขึ้นในใจของเธอเอง เธอต้องมีธรรมที่เธอเข้าใจเป็นของเธอเอง เป็นธรรมที่เกิดจากการฝึกฝนขัดเกลา เป็นธรรมที่เหมาะแก่จริตของเรา ไม่ใช่จะไปงมงายยึดตามคนอื่นเสียหมด พระอรหันต์ในโลกนั้นมีอยู่ แต่จะเเสวงหาทำไม ได้ประโยชน์อะไร ไปหาธรรมต่างๆนานามามากมาย ฟังแล้วรู้เรื่องบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ตามไม่ทันบ้าง เพราะเธอไม่ได้ฝึกตนเอง เธอยังไม่ผ่านทุกข์ ไม่รู้จักทุกข์ ยังไม่เห็นธรรม แต่จะเที่ยวไปรับธรรมมาขบคิด คิดไม่ออกก็วิตกเป็นกังวลขึ้นมาอีก ไปนั่งสมาธิจิตก็ตก จิตก็หลอนเพ้อเจ้อต่อไปอีก จะแสวงหาสิ่งใดทำไม ในเมื่อเธอทั้งหลายหากคิดจะเริ่มทำที่สุดแห่งทุกข์ ตัวเธอก็เป็นอรหันต์ได้เองเช่นกัน

    ค่อยๆเดินไปตามทางเถิด พระพุทธองค์ท่านก็ยังค่อยๆเดิน หาได้ก้าวกระโดดใดๆไม่ แนวทางนั้นมีไว้ให้ปฏิบัติ ไม่ใช่เพื่ออ่านให้เข้าใจประกวดความรู้แข่งกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2015
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    มีคนโทรมาบ่นกับผม ก็เป็นพ่อค้าขายพระในเพจในกระทู้นี่แหละ ว่าจะพิมพ์ทำไมเรื่องพวกนี้ ห้องนี้เค้าเอาไว้โชว์ไว้ขายพระ

    ฟังแล้วก็ท้อๆ คือจะไม่อ่านก็ไม่ต้องอ่านแล้วก็ผ่านไปเลย จะมาอ่านแล้วบ่นแบบนี้ทำไม ที่พิมพ์ไว้ก็บอกแต่แรกแล้วว่ามีคนอ่านซักคนก็ยังดี ใช้เตือนสติคนได้หนึ่งคนท่านก็บอกว่าก็ยังถือว่าดี ถ้าไม่สนไม่อ่านคิดแต่เรื่องค้าขายก็ข้ามกระทู้นี้ไปเลย
     
  13. thumniramit

    thumniramit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +130
    ขอให้กำลังใจเขียนต่อไปนะครับ รออ่านอยู่ ทุกอย่างย่อมมีประโยชน์ในตนเองเสมอ อยู่ที่มุมมองและทัศนคติของแต่ละคน ดั่งคำที่มีครูบาอาจารย์กล่าวไว้ว่า..."ในน้ำเน่ายังมีเงาจันทร์"
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    มีคนถามมา ว่าจะทำอย่างไรดี กับอาการต่างๆที่เกิดตอนสวดมนต์ จะมีลมออกบ้าง แน่นน่าอกบ้าง เรอบ้าง ขนลุกขนพองบ้าง มีความรู้สึกหวาดกล้วเหมือนนั่งอยู่ท่ามกลางสายตาที่มองไม่เห็นเต็มไปหมด คืออาการแปลกที่นั่งเฉยๆไม่เป็น แต่สวดมนต์ทีไรจะเป็นตลอด

    ก็เคยบอกไปแต่กระทู้เก่าแล้ว ลืมรึยัง ไม่รู้กระทู้นี้ได้พูดมั๊ยนะ คืออาการเหล่านี้ไม่ต้องไปทำอะไรมันเลย ปล่อยให้มันเป็นไปตามสภาวะของมัน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาเราสวดมนต์เนี่ยนะเรามองกันไม่เห็น แต่เจ้ากรรมนายเวรที่เค้าอยู่กับเรา เจ้าที่เจ้าทางตรงที่เราอยู่เขาได้ยินเขาก็มาฟัง เทวดาทั้งหลายรู้ว่าเป็นคำพูดของพระพุทธเจ้า เค้าได้ยินเค้าก็มาชุมนุมกันฟังว่าเป็นโอวาทของพระพุทธองค์

    ทีนี้อาการเหล่านี้มันก็เป็นปฏิกิริยาที่เจ้ากรรมนายเวรเค้าแสดงออกมา สวดเสร็จก็อย่าลืมแผ่เมตตาด้วย หรืออีกนัยยะหนึ่งก็คือกายหยาบของเรา อยู่ท่ามกลางทิพย์กายที่เค้าลงมาฟังกันมากมาย ไหนจะพ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งหลายก็จะมีอาการ ขนลุกขนพองบ้าง เหมือนถูกจ้องมองบ้าง เค้าก็มาตามเสียงสวดมนต์ เสียงธรรมเทศนานั่นแหละ ไม่ได้มาร้ายอย่างใดเลย เป็นเพียงแค่อาการที่ร่างกายเราแสดงออกมาเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องไปใส่ใจอะไร ให้สังเกตุดูว่าสวดทุกครั้งก็จะเป็นทุกครั้งถ้ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงมามาก ยิ่งมากเราก็รู้สึกได้มากด้วยตัวของเราเอง

    อย่าลืมแผ่เมตตาให้เขาทั้งหลาย จะสัมภเวสีผีไร้ญาติเจ้ากรรมนายเวร เจ้าเกณฑ์เจ้าชะตา เจ้าที่เจ้าทาง เทพยดาเจ้า แผ่ไปให้ทั้งหมด แผ่กุศลส่งไปให้ไพศาลเท่าที่เราจะเเผ่ได้ ก่อนสวดครั้งต่อไปก็ชุมนุมเทวดาเสียเลยให้เค้ามาฟัง จบแล้วก็แผ่อีกทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ เจ้ากรรมนายเวรเค้าจะค่อยๆคลายความอาฆาตพยาบาทของเค้าไปเอง นี่คือสิ่งที่ได้กับตัวเองในการสวดมนต์ มันเกิดอยู่ข้างใน ไปฟังใครอื่นเค้าสวดก็ไม่ได้เหมือนตัวเอง
     
  15. thumniramit

    thumniramit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +130
    ด้วยความศรัทธา...พระเจ้าเงินตรา(พระแม่ลักษมี รุ่น 2...องค์นี้ของแฟนครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 กันยายน 2015
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ฟังเรื่องปรับธาตุไป เลยอาราธนาองค์ปรพรหมอาตมันที่เตรียมจะส่งพรุ่งนี้มาอธิษฐานดูพลัง แปปเดียววิ่งขึ้นหัวเราเริ่มปวดหัวขึ้นมา พลังงานไม่วิ่งไหลลงไปทั่วร่างแบบจับอย่างอื่น น่าจะเป็นของสูงจริงๆถึงอยู่แต่บนหัว ไม่ไหวเลย ทานยาพาราเตรียมเลย ไม่งั้นคืนนี้ไข้มาแน่ๆ
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    คาถาวันละนิด

    วันนี้เอาใจสายปราบปรามหน่อย เดี๋ยวนี้โจรผู้ร้ายภัยอันตรายต่างๆมันเยอะ

    คาถาบทนี้เป็นคาถาที่ใช้กับปืน ให้จดจำกันให้ดี ท่องให้ขึ้นใจ ผสานกับจิตที่เป็นสมาธิและมีพลังของเรา ใช้ได้ในทุกสถานการณ์เลย

    พระคาถาว่าดังนี้
    อุอะนะ มะอัด สังฆะนะ มะอัด สังฆะนะ อะอัด สังฆะนะ อุอัด สังฆะนะ มะอัด ผู้ข้านี้เป็นตาครู สั่งเหยียบเหล็กแงดได้มื้อหมื่น ครูกูนี้กลืนกินได้มื้อละแสนลูก ปืนแดงดังปั้ง ตีนกูเหยียบ มื้อกูคาบ อะงะวะนะพุด ตีนกูตบนกปืนเยียบยุด ชะหะ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ได้หลายกรณีท่องไว้ให้ขึ้นใจ เวลาเค้าจะยิงเรา สั่งให้ปากกระบอกปืนแตกก็ได้ซืึ่งแบบนี้จะอันตรายมากผู้ยิงนิ้วจะฉีกมือจะเละเลย สั่งให้ลูกยิงออกก็ได้ สั่งให้ลูกยิงไม่ออกปากกระบอกก็ได้ จะปืนชนิดไหนก็ใช้ได้ทั้งหมด บูรพาจารย์แต่เก่าก่อนท่านก็ใช้แต่เพียงนี้ ขึ้นอยู่ที่อำนาจจิตของเราด้วยว่าจะแข็งกล้าเพียงใด ถ้าจิตมีพลังมากก็คุมคนได้ทั้งกองทัพไม่ว่าจะกองร้อยหรือกองพัน ถ้าจิตมีกำลังน้อยก็ใช้ได้แบบเฉพาะเจาะจงหรืออาจใช้ไม่ได้เลย

    พ่ออาจารย์ท่านให้มอบให้ไว้เป็นวิทยาทาน คาถาทั้งหลายนั้นจะสำเร็จได้ มิใช่แค่ท่องแต่อำนาจจิตถือเป็นสิ่งสำคัญ ท่านว่าจะได้มีกำลังใจฝึกฝนกันต่อไป อย่าเพิ่งไปรีบท้อถอย
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    คาถาต่างๆให้เพื่อเป็นยากระตุ้น ท่านว่าเมื่ออยากจะใช้คาถา จะได้เร่งกลับไปฝึกจิตกันให้ดี ดูง่ายๆว่าจิตใช้ได้รึยังก็ที่คาถานี่แหละ ถ้ายังใช้ไม่ขึ้นก็แปลว่ายังฝึกมาน้อยไป กลับไปทำตบะสมาธิใหม่ ลองไปเรื่อยๆ วันไหนหยิบบทนั้นบทนี้มาใช้ แล้วมันใช้ได้คล่อง ก็แปลว่าจิตตนเองมีกำลังแล้ว นี่คือจุดประสงค์จริงๆของการให้คาถา เหมือนจะบอกเป็นนัยๆว่าให้ไปทำสมาธินั่นเอง
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เมื่อคืนยอมรับเลยว่าช่วยอะไรใครไม่ได้เลย555+ คือมีคนโทรมาถามว่าตัวเองนั้นมีอาการแปลกเหมือนถูกผีสิง พูดภาษาอะไรก็ไม่รู้อยู่ดีๆก็พูดออกมาเองเต็มไปหมด ไปหาร่างทรงก็บอกว่ามีเจ้าจะมาอยู่ด้วย แต่จากที่ผมพยายามคุยเดี๋ยวองค์ก็ลงพูดมาทางโทรศัพท์บ้าง คือผมต้องดีใจใช่มั๊ยที่ได้คุยกับจอมเทพอย่างท้าวเวสสุวรรณผ่านสายโทรศัพท์ เลยถามว่าเคยไปหาร่างทรงบ่อยมั๊ย เค้าว่าไปมา 2-3 ตำหนัก แต่ละตำหนักบอกว่ามีองค์ไม่ซ้ำกันเลย เค้าลงมาผ่านร่างบ้างอะไรบ้าง เค้าก็เชื่อตามสารพัดปู่ที่ไปหานะ บอกว่าไม่ต้องทำอะไร ให้องค์ผ่านไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ลงเอง

    เราก็พยายามคุยด้วยแบบมีสติ พิจารณาไป คิดยังไงก็วิกลจริต เลยบอกให้เค้าลองสวดมนต์ไหว้พระระลึกถึงพระพุทธเจ้าดู เค้าบอกว่าเค้าทำไม่ได้ พอสวดๆไปสติก็หลุดองค์ลงพูดไม่เป็นภาษา

    พูดแบบนี้ยิ่งรู้สึกแปลกเข้าไปใหญ่ คือคนเขาไหว้พระ หรือมีจิตใจจดจ่ออยู่กับพระพุทธคุณเวลาเหล่านี้นี่สำคัญนะ เทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายต้องอนุโมทนา ไม่ใช่สิงสู่ทำให้พิธีแตก ทำให้เค้าจิตหลุดคลายจากความตั้งมั่นตรงนั้น หรือว่าเทพเจ้าเค้าจะไม่รู้เลยว่าทำเช่นนี้มันดึงตัวท่านเองให้ตกไปในอบายภูมิ 4 ตกจากความเป็นเทพ ความเป็นทิพย์กายก็เสื่อมถอย

    ก็คิดได้สองทาง ว่าไม่เทพมิจฉาทิฏฐิก็เทพเก๊แล้วล่ะ แต่มันยังไม่จบ เราลองคุยดูก่อน ยังไม่อยากรีบสรุป

    ทีนี้ก็คุยต่อ ถามพี่เค้าว่าที่ว่ามีองค์นั้น องค์อะไร โอ้โหยกมาเลยทั้งพระอิศวร ท้าวเวสสุวรรณบ้างล่ะ องค์พระศรีอาริย์บ้างล่ะลงกันมาสารพัดเลย มีคำตอบในใจทันที ไม่ใช่คนพูดวิกลจริต ก็คงไปโดนไอ้ร่างทรงที่ไหนตุ๋นมาซะเปื่อย แล้วไอ้ที่ลงๆนั่นก็คงไม่ใช่เทพ คงเป็นสัมภเวสีจากสำนักไหนก็ไม่ทราบ

    แล้วเราจะช่วยอย่างไรดี ช่วยไม่ได้เลย เค้าไม่ฟังเราพูด เค้าปักใจเชื่อว่าองค์เค้าใหญ่ มียศมีศักดิ์สูงอย่างสมเด็จพระศรีอาริย์อย่างนี้ คือท่านจะลงคุณทำไมล่ะ ลงมาไม่ทำประโยชน์อย่างไร ลงมาขัดขวางคุณสวดมนต์มีศรัทธาในสมเด็จพระพุทธโคตมนี่นะ ลงมาทำไม ใช่กิจของท่านหรอ แล้วองค์อื่นๆอีก ท้าวเวสผู้เป็นอริยบุคคลเช่นเดียวกับพระอินทร์ ไม่อยู่ในขั้นโกลังโกละโสดาบัน ก็ได้สัตตักขุงปรมะโสดาบันแน่นอน มีพัฒนาการทางจิตที่จะไม่มีวันตกต่ำหรือเสื่อมถอยลงอีก ซ้ำเวลานี้ยังขึ้นถึงอนาคามี เค้าจะลงมายุ่งกับร่างมนุษย์ทำไม แค่สวดมนต์ไม่ได้นี่ก็ฟังไม่ขึ้นแล้ว เพราะเทพเจ้าเหล่านี้เค้าชอบฟังพระสัจธรรม พระโอวาทที่พระศาสดาท่านเทศนาไว้

    เลยบอกเค้าไปแบบนุ่มๆว่าให้ไปฝึกสติซะใหม่ เรียกว่าเจริญสติดีกว่า หายใจเข้าพุทธ หายใจออกโธ ไปเจริญสติทำสมาธิไปเลย ถ้าจอมเทพทั้งหลายยังไม่รู้กาลเทศะมาลงมายื้อร่างกายคุณอีก ทำลายตบะสมาธิผู้อื่นนี่บาปหนักหนามีนรกเป็นที่ไปทีเดียว กลัวแต่จะไม่ใช่เทพ ฟังอย่างไรก็สัมภเวสีที่แอบอ้างชื่อท่านชัดๆ และที่สำคัญเค้าปักใจเชื่อไปแล้วว่าเป็นองค์ของเค้าจริง มันยากนะคนที่เทใจเชื่อกับอาการทางจิตแบบนี้ สอนอย่างไรเค้าคงไม่ฟังเรา นึกถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่กาหลงเคยพูดกับเรา เวลาท่านครอบครูให้ใคร ท่านว่าเห็นของขึ้นกันทั้งนั้น เศียรครูยังไม่ทันลงหัวก็ดิ้นกันแล้ว ท่านว่าดูที่ขึ้นร้อยคนพันคนจะมีจริงมีแท้แค่คนสองคน อยากจะเอาตีนถีบมันจริงๆ ก็ต้องปล่อยวางกรรมใครกรรมมันแล้วกัน คิดซะว่าแม้แต่หลวงปู่กาหลงที่เรานับถือเหมือนครูอาจารย์เราคนนึงท่านก็ยังช่วยไม่ได้เลย เราจะไปอาจหาญให้คำแนะนำอะไรมากกว่านี้

    เห็นคนทุกข์ช่วยอะไรไม่ได้พอวางสายไปก็เหมือนเค้าเอาขยะมาทิ้งไว้ให้เรา นั่งปลงอยู่พักนึง เลยหยิบเหรียญองค์พระสยมของพ่ออาจารย์ขึ้นมาจับทำสมาธิ ก็เห็นนิมิตรปรากฏขึ้นมาแว้ปหนึ่งในประสาทสัมผัสของเราเป็นองค์พระสยมนั่งชักประคำอยู่ กายท่านสวยงามสว่างสุกใสมากเหมือนมีพลังงานแสงออกมาจากร่างกายท่าน มีกระแสพลังวิ่งจากเหรียญขึ้นไปบนหัวเราอย่างรวดเร็วแล้วก็กระจายออกไปทั่วร่างกายเรา เราก็เอาจิตตามพลังงานนั้นไป ให้อารมณ์ความรู้สึกเบาสบายและปลอดโปร่งขึ้นมาก เหมือนกองทุกข์ไอ้ตัวขยะที่เราเป็นกังวลอยู่มันหายไปแล้ว เหลือแต่ความเย็นความเบาสบาย พอสบายตัวแล้วก็กราบครูอาจารย์ทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว สวดชินบัญชรถวายเหรียญเจ้าขรัวแสง วัดมณีชลขัณฑ์ เนื้อธาตุกายสิทธิ์ของเราแล้วก็หลับสบาย มาฝันตอนใกล้รุ่งเป็นเสียงเตือนภัยให้เราระวังสตรีคนหนึ่ง ท่านว่าเค้าจะมาหลอก หมดเนื้อหมดตัวเชียวนะลูก พ่อพระสยมท่านคงเมตตามาเตือน เพราะช่วงนี้ตั้งแต่ใช้ตะกรุดวิชาของท่านก็มีคนนั้นคนนี้เข้ามาเรื่อยๆชวนให้เราไปหา ต้องเก็บออกไปซักสองสามวันให้พ้นวาระกรรมตรงนี้ไปก่อนก็คงจะดี

    ก็เอามาเล่าเอามาพูดคุยกันยามเช้า ใครมีเพื่อน หรือคนใกล้ชิดที่เป็นพวกร่างทรงก็ลองดู ลองให้เค้าสวดมนต์ไหว้พระทำสมาธิดูว่าจะมีอาการลงองค์ที่เรียกว่าตบะแตกหรือเปล่า ก็ดีนะมันเป็นวิธีพิสูจน์ที่ง่ายดี ง่ายมากๆแล้วล่ะ ถ้าเค้าไม่ยอมรับความจริง เอาแค่เรารู้เราเข้าใจของเราก็พอว่าคืออะไร ต่อเบื้องหน้าพระศาสดาและพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เทพผีปีศาจที่ไหนก็ต้องหมอบกราบถวายความเคารพพระพุทธองค์ ที่จะมาอวดอ้างประกาศศักดานั้นไม่มี จะมีก็แต่สิ่งที่มนุษย์จินตนาการขึ้นมาเองที่จะแสดงออกมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2015
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    วันนี้ไปซื้อไก่ทอดเจ้าประจำ ขายของดีมาก เก้าโมงเช้าขายหมดเกลี้ยงทุกวัน ที่ทอดๆไว้มีแต่คนโทรจองไม่ค่อยทันจะได้กิน วันนี้ยืนคุยกับเจ้าของเค้าว่าลุงใช้อะไร ทำไมขายของดีจัง ขายจนรวยจนพ่อค้าแถวนั้นเอาอิจฉากันหมด คือทอดเสร็จก็เหมือนแร้งลงแต่ละคนสั่งอย่างกับจะเอาไปถมที่ไม่ได้สั่งไปกินยังงั้น

    แกคว้าสีผึ้งขึ้นมาให้เราดู เอ้ะๆ คุ้นตาเนาะ เปิดตลับออกดูใช่เลย สีผึ้งนางแย้มรุ่นแรกของพ่ออาจารย์ท่าน เค้าว่าหลานเอามาให้ เวลาเปิดร้านลุงเค้าว่าจะเอามาเจิมป้ายทุกวันแล้วก็เจิมหัวตัวเอง อืม เป็นของหายากไปแล้ว จะขอแงะนางแย้มในตลับแกมาบูชาต่อ แกก็ไม่ยอมท่าเดียว ต้องทำใจตามแย่งซื้อไก่แกต่อไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...