ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผมลองพิมพ์ September 23rd 2015 แล้ว ไปปรากฎที่ เซิร์น Route de Meyrin 385 1217 Meyrin สวิตเซอร์แลนด์ ดูภาพ ที่ผมนำมาจาก Google Map ครับ

    [​IMG]

    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc

    FYI ~~~> นี้เป็นส่วนหนึ่งที่ไหนที่ฉันพูด ... "ฉันบอกคุณด้วย?" <~~~
    พิมพ์ September 23rd 2015 ใน Google Maps ... ปลายทางจะทำให้คุณตกใจ!
    FYI ~~~> THIS IS THE PART WHERE I say... "I TOLD you so?" <~~~
    Type September 23rd 2015 into Google Maps…The Destination Will Shock you!

    https://intelrevolution.com/type-september-23rd-2015-into-google-maps-location-cern/
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc ผ่าน Disclose.tv

    fyi ~~~>>> guys, this is REVOLUTIONARY <<<~~~
    TESLA REVOLUTION: นักวิทยาศาสตร์ได้ดำเนินการเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ผ่าน Wi-Fi ( TESLA REVOLUTION: SCIENTISTS MANAGE TO RECHARGE BATTERIES VIA WI-FI )

    "ความฝันอื่นๆ ของ Nikola Tesla อาจกลายเป็นความจริง: ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ได้ดำเนินการเพื่อชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายต้องขอบคุณการดำเนินการ" เราเตอร์ " แบบพิเศษ ระบบซึ่งนักวิจัยได้เรียกว่า PoWiFi ซึ่งมีไว้เพื่อชาร์จแบตเตอรี่. ที่ระยะ 8.5 เมตร โดยการรวบรวมพลังงานจาก WiFi และชาร์จอุปกรณ์ในลักษณะที่ต่อเนื่อง. "

    "อ่านไฟล์ PDF เพิ่มเติมได้ที่ http://www.arxiv.org/pdf/1505.06815v1.pdf ( via ewao.com )"

    http://www.disclose.tv/news/tesla_r...l&utm_source=facebook.com&utm_campaign=buffer
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ขนาด Google MAp ยังเป็นไปด้วย

    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc

    [​IMG]

    ~~~> สวัสดี ฉันได้รับคำถามมากมายเกี่ยวกับการเข้ามา 'GALACTC WAVE / WAVE X "> บน <ข้อความของฉัน ......
    ~~~> hi guys, I am getting many Questions about the incoming 'GALACTC WAVE/ WAVE X" > on < my posts......

    เศร้าฉันไม่สามารถตอบพวกเขาทั้งหมดเพราะหลังจากวันที่โพสต์เหล่านี้จะลง waaaay ไม่เคยที่จะเห็นอีกครั้ง .....
    sadly I can't Answer them all because after a day those Posts are waaaay down never to be seen again.....

    ~~~ >>> หากคุณมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับการมาถึงของ "คลื่นความรัก" ความปลาบปลื้มใจ การเปลี่ยน, เหตุการณ์, คัมภีร์ของศาสนาคริสต์, คติโลก, ฯลฯ (FYI ... เหล่านี้ทั้งหมด เหตุการณ์เดียวกัน ... ) แล้วโปรดlj'จดหมายฉันที่ด้านบนของหน้าของฉัน ขอบคุณ thanQ อีโมติคอนพริบ
    ~~~>>> If you do have ANY Questions about the incoming "Love Wave", Ascension, the Rapture, the Shift, the Event, the Apocalypse, Armageddon, Lifting of the Veil, etc (fyi... these are ALL the SAME Event...) then please inbox me at the top of my page, thanQ อีโมติคอน wink

    ที่อยู่ของเฟสคุณ Nibiru ครับ https://www.facebook.com/pages/Nibi...-QuakesT-Cyclones-etc/192579757479228?fref=ts

    ฉันขอให้คุณทั้งหมดมีสิ่งที่ดีๆ ในช่วง 41 วันในขณะที่เราปรับดีเอ็นเอของเรา มันไม่ได้เป็นขั้นตอนที่ง่าย คุณจะต้องไม่เพียงจัดการกับอัตตา (ตัวตน) แต่ร่างกายของคุณจะไปถึง ขั้นตอน 'fluey', ไม่นอนหลับ, ไม่นอนมากเกินไป อารมณ์ความรู้สึกที่ไม่ดี ความโกรธ ความวิตกกังวล ปวดศีรษะ ฯลฯ .... และผมสามารถสัญญาว่ามันไม่ได้สนุกไม่ได้ ... แต่เมื่อคุณได้แยกออก อัตตาeGo, มันทั้งหมดจะดีขึ้น อีโมติคอนหัวใจ
    I wish you all well during these last 41 days while we are UpGrading our Dna, it will nOt be an easy process, you will have to not only deal with eGo BUT your body will go through 'fluey' stages, no sleep, sleep tOo muCh, bad moods, bitchyness, anger, anxiety, head aches etc.... and I can promise you that it is nOt fun... BUT once yOu have sorted out eGo, ALL WILL BE WELL อีโมติคอน heart
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc ผ่าน RiseEarth
    ~~~> จดไว้ ..... ".... ยุคใหม่ของ" สั่นสะเทือน "...... "
    พวกคุณกำลังฟัง .... ? พลังงานจากคลื่นที่เข้ามานี้มีอยู่แล้วที่นี่
    คุณ วิญญาณของคุณ หัวใจจะต้องเรียนรู้ที่ "เชื่อมต่อ" กับมัน b4 จุดสูงสุดของคลื่นจะมาถึงในปลายเดือนกันยายน ......... !!!! อีโมติคอนหัวใจ
    ~~~> TAKE NOTE guys..... ".... a New era of "VIBRATION"......"
    are you guys listening....? this enerGy from the incoming WAVE is already here,
    YOU, your Soul, your he อีโมติคอน heart rt will HAVE TO LEARN TO "CONNECT" with it b4 the peak of the Wave arrives in late September.........!!!! อีโมติคอน heart


    เดวิด วิลค็อก - ระบบสุริยะกำลังเข้าไปในพื้นที่ใหม่ของการสั่นสะเทือน
    ความรู้ที่เป็นความจริงเกี่ยวกับโลก 02:11 โดย Gregg Prescott, M.S.

    ตามการวิจัยของเดวิด วิลค็อก ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในระบบสุริยจักรวาลของเรา ที่จะให้พวกเราทุกคนมีโอกาสที่จะทำให้ก้าวกระโดดในด้านจิตสำนึก

    ฉันกำลังเฝ้าดู "การติดต่อในทะเลทราย" วิดีโอที่มีเดวิด วิลค็อก และเขานำขึ้นข้อมูลบางอย่างที่น่าสนใจทีเดียว

    คนที่อยู่ในสภาพปัจจุบันบนโลกจะต้องเปลี่ยนเพื่อให้อยู่รอด หลายสิ่งหลายอย่างที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ดังนั้นคนจะต้องเปลี่ยนแปลงไปกับโลก

    ระบบสุริยะจัรกวาลกำลังเคลื่อนที่เข้าไปในพื้นที่ของอวกาศหนึ่งที่มีการสั่นสะเทือนที่สูงขึ้นกว่าเดิมมาก ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในลักษณะของดาวเคราะห์ นอกจากนี้ยังจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในประชาชนของดาวเคราะห์

    การสั่นสะเทือนบนดาวเคราะห์ดวงนี้จะเริ่มสูงขึ้น ดังนั้นคนที่จะต้องยกระดับการสั่นสะเทือนของเขาเองเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกของคุณ การสั่นสะเทือนเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นโดยความนึกคิดของผู้คน: ความคิดที่ดีขึ้นของทุกอย่างในการสร้างสรรค์ ความคิดด้านจิตวิญญาณจะมากขึ้น ความคิดจะยกคนบนโลกออกมาจากความมืด และโคลนตม ที่พวกเขาอาศัยอยู่มานาน( ก็เป็นไปตาม ความเร็วสัมพัทธ์ (Relative Velocity) น่ะครับ เราจึงรูสึกว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม)

    โลกและระบบสุริยะกำลังจะย้ายเข้ามาในพื้นที่ใหม่ของการสั่นสะเทือน โดยมีเงื่อนไขที่พวกเราบนดาวเคราะห์นี้จะไม่รอด

    หลายดาวเคราะห์อยู่ในฐานะที่เราทำ แต่อย่างไรก็ตาม มีคนอื่น ๆ ที่ทำไม่ได้เพราะพวกเขาไม่ได้มาเพื่อความเข้าใจในชีวิตที่เรามี พวกเขากำลังที่จะเข้าใจ แต่บางส่วนจะช้ากว่าคนอื่น ๆ

    ชีวิตของเราเป็นวิธีที่เหมาะของชีวิต เรามีทุกอย่างในความอุดมสมบูรณ์ ทุกคนมีอิสระ เราไม่ได้พยายามที่จะปกครองคนอื่น ลูกหลานของเราได้รับอนุญาตให้แสดงตัวเอง ไม่ปรารถนาของพ่อแม่ในขณะที่คุณเรียกพวกเขา แต่ละคนถูกปกครองโดยไม่มีใคร แต่ผู้สร้าง

    David Wilcock - The Solar System Is Moving Into A New Area Of Vibration | RiseEarth
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “เขตปลอดมุสลิม” ในสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น กลุ่มสิทธิพลเมืองขอให้ก.ยุติธรรมตรวจสอบ

    “ต้องมีแถลงการณ์ที่ชัดเจนจากกระทรวงยุติธรรมว่าการปฏิบัติทางธุรกิจที่ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเช่นนั้นจะไม่ได้รับอนุมัติ” ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของสภาความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลาม ซึ่งเป็นกลุ่มสิทธิพลเมืองกลุ่มหนึ่ง ได้เขียนเอาไว้ โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ส.ค. 12, 2015

    [​IMG]
    (ภาพ) ร้านขายปืน Jace Firearms ในเมืองไวท์เบิร์ก รัฐเคนทักกี้
    วอชิงตัน – ด้วยความตื่นตัวจากการเพิ่มจำนวนขึ้นของธุรกิจในอเมริกาที่ประกาศตัวว่าเป็น “เขตปลอดมุสลิม” (Muslim-free zones) กลุ่มสิทธิพลเมืองกลุ่มหนึ่งจึงได้เรียกร้องให้รัฐบาลกลางสอบสวนในเรื่องความถูกต้องตามกฎหมายของการปฏิบัตินี้

    สภาความร่วมมืออเมริกัน-อิสลาม (Council on American-Islamic Relations) หรือ CAIR เป็นกลุ่มตัวแทนเพื่อสิทธิและความเท่าเทียมของมุสลิมที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของประเทศ CAIR ระบุว่า ธุรกิจต่างๆ ที่มีการแบนลูกค้ามุสลิมกำลังแพร่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว และอาจละเมิดทั้งกฎหมายสิทธิพลเมืองและรัฐธรรมนูญ ที่ให้การรับรองสิทธิแก่ชาวอเมริกันในการปฏิบัติตามศาสนาของตนอย่างอิสระโดยไม่มีการแทรกแซง

    “กระทรวงยุติธรรมมีความสามารถที่จะสะกัดกั้นบรรยากาศที่ผิดกฎหมายและไม่เป็นอเมริกันในระดับชาติได้ และป้องกันไม่ให้มันกระทบต่อสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียมทางศาสนาที่เราทุกคนหวงแหน” อิบรอฮีม ฮูเปอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของ CAIR กล่าวในแถลงการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “ต้องมีแถลงการณ์ที่ชัดเจนจากกระทรวงยุติธรรมว่าการปฏิบัติทางธุรกิจที่ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเช่นนั้นจะไม่ได้รับอนุมัติ และเจ้าของธุรกิจที่ปฏิเสธการบริการแก่ผู้ใดด้วยเหตุผลทางศาสนาของพวกเขาจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย”

    ร้านขายปืนแห่งหนึ่งในนิวยอร์คประกาศตัวว่าเป็น “เขตปลอดมุสลิม” เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากประกาศนโยบายใหม่ของเขาบนเฟสบุ๊คแล้ว จอห์น สวาร์ตส์ เจ้าของร้านได้เหตุผลของเขาในการให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า

    “บนเฟสบุ๊คของผม ผมคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และผมพูดไปหมดแล้ว มีองค์การหนึ่งเดียวเท่านั้นที่กำลังสนับสนุนการเข่นฆ่าชาวอเมริกัน พยายามที่จะให้มีผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ท้องถิ่น และบางส่วนก็ประสบความสำเร็จ พวกเขาไม่ใช่ชาวแคนาดา พวกเขาไม่ใช่ชาวฝรั่งเศส พวกเขาคือมุสลิม” สวาร์ตซ์บอกกับสำนักข่าว WNYT ในรัฐอัลบานี โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงว่า ผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงมีเปอร์เซ็นต์เพียงน้อยนิดเท่านั้นจากจำนวนมุสลิมทั่วโลกที่มีประมาณ 1,600 ล้านคน

    ความเคลื่อนไหวของสวาร์ตส์ทำให้เกิดปฏิกิริยาผสมผสานกัน ซาแมนธ่า ดีมาสซิโอจาก WNYT ระบุว่า ภายในหนึ่งสัปดาห์ที่เขาเขียนโพสต์ สวาร์ตส์ได้ “เปลี่ยนท่าทีเล็กน้อย โดยบอกว่าเขาจะไม่ขายปืนให้กับใครก็ตามที่เขาไม่รู้สึกสะดวกใจด้วย ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ตาม”

    ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเห็นด้วยว่า การก่อการร้ายในพื้นที่ ที่ขับเคลื่อนโดยกลุ่มเชิดชูคนผิวขาวและกลุ่มหัวรุนแรงปีกขวา เป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยที่ร้ายแรงที่สุด เมื่อเดือนมกราคม เฮดี เบริช ผู้อำนวยการโครงการข่าวกรองของศูนย์กฎหมายเพื่อคนยากจนภาคใต้ (Souther Poverty Law Center) หรือ SPLC บอกกับสำนักข่าว MintPress ว่า “เห็นได้ชัดว่า การเพิ่มจำนวนของกลุ่มเกลียดชังนี้เป็นผลสะท้อนของปฏิกิริยารุนแรงในประเทศนี้ที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านประชากร” และในเดือนมิถุนายน มูลนิธิอเมริกาใหม่ (New America Foundation) ศูนย์การวิจัยไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดที่มีฐานอยู่ในวอชิงตัน ได้เปิดเผยการศึกษาฉบับหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า มีผู้ถูกสังหารในสหรัฐฯ โดยกลุ่มก่อการร้ายปีกขวามากกว่าการโจมตีของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง นับตั้งแต่เหตุการณ์ 9/11

    ตามข้อมูลของ CAIR ธุรกิจต่างๆ ในรัฐเคนทักกี้, ฟลอริด้า, อาร์คันซอ และนิวแฮมเชียร์ ได้เริ่มใช้นโยบายที่แบนมุสลิมด้วย ถึงแม้กฎหมายสิทธิพลเมืองปี 1964 ถือว่ามันเป็นความผิดทางอาญาสำหรับสถานที่ใดก็ตามที่เป็น “ที่พักอาศัยของประชาชน” ที่ปฏิเสธการให้บริการแก่ผู้ใดด้วยเหตุผลทางศาสนา, เชื้อชาติ, สีผิว หรือชาติกำเนิด
    ฮูเปอร์เปรียบเทียบ “เขตปลอดมุสลิม” กับการแบ่งแยกทางเชื้อชาติ และการปฏิบัติทางธุรกิจในประวัติศาสตร์ที่แบนลูกค้าผิวดำ

    “การประกาศอย่างหัวรั้นเหล่านี้ไม่แตกต่างอะไรกับป้าย ‘เฉพาะคนผิวขาว’ ที่ติดอยู่ตามบริษัทต่างๆ ในช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติของเราที่เราเคยหวังว่ามันได้ผ่านไปแล้ว” เขากล่าว


    Source :Civil Rights Group Asks DOJ To Intervene Over Muslim-Free Zones


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    “เขตปลอดมุสลิม” ในสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น กลุ่มสิทธิพลเมืองขอให้ก.ยุติธรรมตรวจสอบ | abnewstoday
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานการสอบสวนพิเศษ เผยรายละเอียด “การทุจริต” ของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน

    [​IMG]

    ตามผลการสอบสวนของ SIGAR ทั้งสมาชิกจากกองทัพสหรัฐฯ และผู้รับเหมาของรัฐบาลรับสารภาพว่ากระทำความผิดข้อหาทุจริต ที่ประกอบด้วยการลักขโมย ติดสินบน ฟอกเงิน และสมรู้ร่วมคิดเพื่อฉ้อโกงรัฐบาลสหรัฐฯ โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ส.ค. 12, 2015

    (ภาพ) ทหารสหรัฐฯ ลาดตระเวนใกล้หมู่บ้าน Tarok Kolache ที่กำลังมีความพยายามฟื้นฟูประเทศ เมื่อ 1 เมษายน 2011 ในหุบเขาแม่น้ำ Arghandab ของอัฟกานิสถาน รายงานฉบับใหม่เกี่ยวกับการทุจริตในความพยายามฟื้นฟูประเทศในอัฟกานิสถานของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่ามีการบริหารจัดการเงินหลายล้านอย่างผิดพลาดโดยกว้างขวาง (Flickr / ISAF Regional Command-South / Ensign Haraz Ghanbari)
    ปลายเดือนที่แล้ว (ก.ค.) หน่วยงานพิเศษเพื่อการตรวจสอบทั่วไปสำหรับการฟื้นฟูอัฟกานิสถาน หรือ Secial Inspector General for Afghanistan Reconstruction (SIGAR) ได้เปิดเผยรายงานหนาฉบับหนึ่งที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินหลายล้านดอลล่าร์ไปอย่างสิ้นเปลือง ฉ้อฉล และทุจริตในความพยายามเพื่อการฟื้นฟูอัฟกานิสถานของสหรัฐฯ และรัฐบาลผสม

    รายงานฉบับดังกล่าว ที่ออกให้แก่สภาคองเกรสเมื่อ 30 กรกฎาคม แสดงถึงผลการสอบสวนของ SIGAR ที่เปิดเผยถึง “ค่าใช้จ่ายที่น่าสงสัย” จำนวน 37.4 ล้านดอลล่าร์ในไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งจนถึงปัจจุบันนี้ SIGAR ระบุว่าค่าใช้จ่ายที่น่าสงสัยเหล่านี้มียอดรวมทั้งสิ้น 279.5 ล้านดอลล่าร์

    “ค่าใช้จ่ายที่น่าสงสัย” เหล่านี้ ในบางกรณีต้องมีการสอบสวนทางอาญาเพื่อให้เกิดการยอมรับว่ากระทำความผิดและการปรับ ตามผลการสอบสวนของ SIGAR ทั้งสมาชิกจากกองทัพสหรัฐฯ และผู้รับเหมาของรัฐบาลรับสารภาพว่ากระทำความผิดข้อหาทุจริต ที่ประกอบด้วยการลักขโมย ติดสินบน ฟอกเงิน และสมรู้ร่วมคิดเพื่อฉ้อโกงรัฐบาลสหรัฐฯ ในความพยายามเพื่อการฟื้นฟูอัฟกานิสถาน

    เนื้อหาบางส่วนจากรายงานของ SIGAR เกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้าง 36 ล้านดอลล่าร์ในจังหวัด Helmand แสดงให้เห็นว่ามีการกระทำผิดและการบริหารจัดการที่ผิดในความพยายามเพื่อการฟื้นฟูอัฟกานิสถาน (SIGAR) :

    “ขณะที่การกระทำของ General Vangjel และ General Richardson ไม่ได้เป็นการกระทำผิด แต่ SIGAR เชื่อว่าการกระทำของทั้งสองเป็นการบริหารจัดการที่ผิด อันประกอบด้วยการสิ้นเปลืองและใช้ในทางที่ผิด และกระทรวงกลาโหม (DoD) ควรดำเนินการให้สอดคล้องกัน SIGAR ยังเชื่อด้วยว่าการกระทำของ พ.อ.Allen ที่พยายามจะสอนพยานที่เกี่ยวข้องการการสอบสวน และส่งเสริมบุคลากรทางทหารไม่ให้ความร่วมมือกับ SIGAR เป็นทั้งการกระทำผิดและการบริหารจัดการที่ผิด และกระทรวงกลาโหมควรดำเนินการให้สอดคล้องกัน”

    ไม่น่าประหลาดใจนักที่การสอบสวนของ SIGAR ไม่เป็นที่ยินดีต้อนรับอย่างเต็มที่จากกองกำลังสหรัฐฯ และผู้รับเหมาในอัฟกานิสถาน ขณะที่ SIGAR รายงานก่อนหน้านี้ว่า มีความพยายามจากบุคลากรทางทหารของสหรัฐฯ ที่จะขัดขวางการตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นสำหรับอาคารสั่งการและควบคุมมูลค่า 36 ล้านดอลล่าร์ ในจังหวัด Helmand ของอัฟกานิสถาน

    ตามรายงานการสอบสวนของ SIGAR พันเอก Norman F. Allen “พยายามที่จะสอนพยานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการสอบสวน และส่งเสริมบุคลากรทางทหารไม่ให้ให้ความร่วมมือกับ SIGAR รายงานฉบับนี้ยังระบุต่อไปว่า “SIGAR เชื่อว่าการกระทำเหล่านี้เป็นทั้งการประพฤติผิดและการบริหารจัดการผิด และละเมิดความรับผิดชอบทางหน้าที่และทางจริยธรรมในฐานะเป็นทนายความของกองทัพ”

    เจ้าหน้าที่ทางการทหารถูกระบุในรายงานฉบับนี้ว่ามีการเสนอและอนุมัติ “ให้ดำเนินการเชื่องช้า” ในการสอบสวนเรื่องค่าใช้จ่ายของโครงการ

    สิ่งที่ยุ่งยากพอๆ กับการสอบสวนของ SIGAR น่าจะเป็นการสรุปการตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของ SIGAR หนึ่งในการสรุปรายงานเมื่อ 30 กรกฎาคม ก็คือว่า “หน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มียุทศาสตร์ที่ครอบคลุมเพื่อช่วยพัฒนาการบังคับใช้กฎหมายในอัฟกานิสถาน ระบบการจัดการประสิทธิภาพการดำเนินงานที่เป็นปัญหาทำให้หน่วยงานต่างๆ มีความยากลำบากที่จะพิจารณาประสิทธิภาพของโครงการตามกฎหมายอย่างเต็มที่”

    กล่าวคือ รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีแผนที่แท้จริงในการรับมือกับการทุจริตในอัฟกานิสถาน และถึงแม้ว่าจะมีแผนการเช่นนั้นอยู่ ก็ไม่มีวิธีการใดๆ ในปัจจุบันที่จะวัดความสำเร็จของมัน

    สงครามในอัฟกานิสถานได้ทำให้สหรัฐฯ ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปแล้วประมาณ 1 ล้านล้านดอลล่าร์ รวมถึงชีวิตของทหารอเมริกันมากกว่า 2,300 นาย ตามการศึกษาที่มหาวิทยาลัย Brown University ได้พิมพ์เผยแพร่เมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้ ได้ประมาณไว้ว่าพลเรือนชาวอัฟกันราว 26,270 คน ต้องเสียชีวิตจากความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับสงครามโดยตรง และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 29,900 คน นับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามในปี 2001

    ถึงแม้สภาคองเกรสจะมีความเข้มงวดในการจัดสรรงบประมาณ และเกิดความสับสนในหมู่ประชาชนเกี่ยวกับการทำสงคราม แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ยังมีแผนการที่จะรักษากองกำลังทางทหารภายในอัฟกานิสถานเอาไว้อย่างไม่มีกำหนด


    Source : Special Investigator’s Report Details US Corruption In Afghanistan
    โดย Dan Wright
    แปล กองบก.เอบีนิวส์ทูเดย์

    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    รายงานการสอบสวนพิเศษ เผยรายละเอียด “การทุจริต” ของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน | abnewstoday
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    [​IMG]

    "การปฏิเสธข้อตกลง (นิวเคลียร์) กับอิหร่านจะสร้างความเสียหายให้กับเงินดอลล่าร์ (แต่สนับสนุน) การแซงชั่นรัสเซียต่อไป "- จอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯกล่าว
    --------------
    ฮึ่ม… อย่างนี้นี่เองอเมริกันสแตนดาร์ด (ผลิตภัณฑ์ห้องน้ำ) เมื่อวันที่ 11 ส.ค.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "Rejecting Iran deal could damage the dollar, support for Russia sanctions – Kerry" ตรงนี้สามารถตอบคำถามได้ว่าทำไมจักรวรรดิเฮเกถึงเลือกที่จะยกเลิกแซงชั่นอิหร่าน? ตอนนี้นักการเมืองของสหรัฐฯเสียงแตกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายดีโมแครทที่เป็นรัฐบาลต้องการยกเลิกแซงชั่นอิหร่าน (แม่จะไม่เต็มใจแต่ก็ไม่มีทางเลือก ต้องหาประโยชน์จากการยกเลิกต่อไป) ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งก็คือรีพับลิกันที่ไปในทางเดียวกันกับอิสราเอลคือไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกแซงชั่นอิหร่าน สนับสนุนให้การใช้ความรุนแรงแทน แต่อียู รัสเซีย และจีนบอกว่ายังไงซะก็ต้องปลดปล่อยอิหร่านจากกงเล็บพญาเหยี่ยวจอมมารเฮเก้ให้ได้ สุดท้ายหนึ่งหรือจะสู้ 5 ได้ (P5+1) จึงนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านและ การยกเลิกแซงชั่นอิหร่านในระดับหนึ่ง แต่ในส่วนของสหรัฐฯนั้นจะต้องผ่านสภาคองเกรสซะก่อนถึงจะมีผล ปัญหาของรัฐบาลโอบาม่าก็อยู่ตรงที่คองเกรสนี่แหละ ว่าจะยกมือสนับสนุนการยกเลิกแซงชั่นอิหร่านให้หรือไม่ ล่าสุดนายแคร์รี่ก็ออกมาพูดโน้มน้าวให้สมาชิกสภาคองเกรสเห็นด้วยกับฝ่ายรัฐบาล น่าสนใจ... ลองอ่านดูนะครับ แปลตามต้นฉบับข่าวให้เลยนะ
    นายจอห์น แครี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯกล่าวว่า "การปฏิเสธข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน อาจจะทำให้อนาคตของเงินดอลล่าร์ของสหรัฐฯในฐานะที่เป็นสกุลเงินสำรองทั่วโลกตกอยู่ในความเสี่ยง" (ฮี่ๆๆ เริ่มกลัวตายขึ้นมาบ้างแล้วสิท่า) นักการทูตของสหรัฐฯยังกล่าวต่ออีกว่า "มันอาจจะเป็นการเสี่ยงอันตรายต่อการสนับสนุนของฝั่งยุโรปในการแซงชั่นต่อต้านรัสเซียด้วยก็ได้" (…it could jeopardize European support for anti-Russia sanctions.) (อุ๊ย! จักรวรรดิเฮเก้ก็กลัวอียูด้วยนิ? ไม่ได้กลัว แต่หวั่นว่าพันธมิตรจะตีจากหันไปสวีทกับรัสเซียและจีนแทนนะสิ)
    แคร์รี่พูดในรายการ Reuters Newsmaker เมื่อวันอังคารนี้ว่า "ดูเหมือนว่าจะมีผลกระทบที่เป็นลบต่อสหรัฐฯ หากสภาคองเกรสตัดสินใจปฏิเสธข้อตกลงกับอิหร่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื่องจากได้มีการเจรจาต่อรองในความร่วมมือกับมหาอำนาจทั่วโลกแล้ว รวมถึงพันธมิตรระดับต้นๆของอเมริกาในยุโรปด้วย" นายแคร์รี่กล่าวว่า "ที่น่าสังเกตเป็นอย่างมากก็คือเงินดอลล่าร์เองนั่นแหละที่จะได้รับความลำบาก หากอเมริกาพยายามที่จะลงโทษฝ่ายเดียวต่อไป ในสถานการณ์ที่แม้ว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายกันแล้ว" (แหม… ทีอย่างนี้หละกล้าพูดนะว่าลงโทษ (แซงชั่น) ฝ่ายเดียว ก็ไม่ใช่จักรวรรดิเฮเกหรอกรึที่เป็นต้นตำหรับในการหาเรื่องแซงชั่นประเทศนั้นประเทศนี้อยู่ตลอดเวลา หากเขาไม่ยอมทำตามคำสั่งของตัวเอง?)
    "Are you kidding me? (ล้อเล่นหรือเปล่านี่?)" นายแคร์รี่กล่าวตอบโต้ข้อโต้แย้งที่ว่า การแซงชั่นเพียงฝ่ายเดียวจากสหรัฐฯ (unilateral US sanctions) อาจจะทำให้ทั่วโลกทำตามบ้าง แคร์รี่กล่าวว่า "สหรัฐฯกำลังจะเริ่มทำการแซงชั่นพันธมิตรของพวกเรา และธนาคารต่างๆของพวกเขาและธุรกิจของพวกเขา [ซึ่งทำธุรกิจอยู่ในอิหร่าน] เพราะว่าพวกเราเดินหนีจากข้อตกลง" (เขาหมายถึงว่าถ้าแซงชั่นอิหร่านก็จะเท่ากับเป็นการแซงชั่นธุรกิจของพวกอียูซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯที่อยู่ในอิหร่านด้วย แล้วกรณีของรัสเซียหละนายจะอธิบายว่าอย่างไรหรือแคร์รี่? อย่างนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าดับเบิลสแตนดาร์ดหนะ? จักรวรรดิเฮเกบอกว่า ไม่ใช่ เฮเก้มีมาตรฐานเดียวคือ คำพูดของเฮเก้ถูกต้องเสมอ แม้บางครั้งในสายตาชาวโลกจะมองว่าตรงกันข้ามกับความจริงก็ตาม คริๆ)
    นายแคร์รี่กล่าวต่ออีกว่า "ท่านประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า และสหรัฐฯได้ใช้จ่ายทุนทางการเมืองไปเป็นจำนวนมากเพื่อเกลี้ยกล่อมประเทศต่างๆเช่น จีน อินเดีย และประเทศอื่นๆ เพื่อให้ถอยหนี (back off) จากการซื้อน้ำมันของอิหร่านในช่วงที่มีการแซงชั่น ซึ่งได้สร้างแรงผลักดันให้บรรลุแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีทางการทูตที่ขัดแย้งกันต่อปัญหาโปรแกรมนิวเคลียร์ของอิหร่าน"
    รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯกล่าวต่ออีกว่า "คุณพอจะนึกภาพของการพยายามแซงชั่นพวกเขาหลังจากที่ชักจูงให้พวกเขายุติการแซงชั่นเพื่อนำอิหร่านกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาออกไหม? (นึกไม่ออกครับคุณแคร์รี่ แต่เท่าที่จำได้นี่ก็คือสหรัฐฯต่างหากที่เป็นฝ่ายเริ่มต้นแซงชั่นเขา แล้วก็พยายามที่จะแซงชั่นอีกต่อไปเรื่อยๆ แต่คนที่เสนอและผลักดันให้เกิดการยกเลิกแซงชั่นอิหร่านก็คือรัสเซียกับจีน ไม่ใช่สหรัฐฯ อย่าพูดเอาดีเข้าตัว แย่งผลงานคนอื่นมาเอาหน้าหน่อยเลย ส่วนอียูที่เห็นด้วยกับรัสเซียและจีนนั้นก็เพราะเรื่องของผลประโยชน์ที่จะได้รับจากอิหร่านต่างหากเล่า ถ้าไม่มีจีนกับรัสเซีย จ้างให้อิหร่านก็ไม่มีวันนี้ และในอนาคตอิหร่านคงจะไม่ต่างจากเกาหลีเหนือก็เป็นได้) และเมื่อพวกเขาไม่เพียงเข้าสู่โต๊ะเจรจาเท่านั้น แต่พวกเขายังได้ทำข้อตกลงร่วมกันด้วย เราหันไปรอบๆ แล้วก็ปฏิเสธข้อตกลง (nix the deal) แล้วก็บอกกับพวกเขาว่า พวกคุณจะต้องยอมทำตามกฎของพวกเราในการแซงชั่นอยู่แล้ว (เพราะเราคือจักรวรรดิเฮเก้) นั่นคือสูตรสำเร็จ รวดเร็วทันใจ... สำหรับเงินดอลล่าร์ของอเมริกาที่จะสิ้นสุดในการเป็นสกุลเงินสำรองของโลกอีกต่อไป" (กลัวหละสิ? ฮ่าๆๆ ลองพลิกลิ้นดูสิ แล้วจะรู้ว่านรกมีจริง)
    แคร์รี่กล่าวว่า "หากจีน รัสเซียและยุโรปทั้งหมดตัดสินใจต่อต้านความพยายามของอเมริกาในการที่จะคงการแซงชั่นอิหร่านไว้ตามเดิม แม้การเจรจาต่อรองต่างๆเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศกับอียูก็อาจจะได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะว่าอาจจะมองว่าสหรัฐฯไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ซึ่งได้มีการเจรจาโดยนักการทูตของตนเองแล้ว" (หน้าแตกสิครับ แล้วใครจะกล้าคบค้าสมาคมกับคุณอีกต่อไป ในเมื่อบนโต๊ะเจรจานานาชาติคุณบอกว่า "Yes" แต่พอกลับไปที่สหรัฐฯคุณบอกว่า "No")
    แคร์รี่ขู่พวกฝ่ายที่คัดค้านข้อตกลงอิหร่านว่า "ก.คลังของสหรัฐฯกำลังทำการประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อดอลล่าร์สหรัฐฯในกรณีที่มีการปฏิเสธข้อตกลง และผลการประเมินนั้นก็จะมีการนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะด้วย" (อย่าพูดเฉยๆนะกำลังรอดูอยู่)
    "แนวความคิดที่ว่าพวกเราสามารถที่จะฟันข้อตกลงโชะ แล้วก็เดินจากไปแต่ฝ่ายเดียว ตามที่สภาคองเกรสต้องการให้ทำ จะมีผลกระทบในแง่ลบสุดจะคณานับต่อความรู้สึกในภาวะความเป็นผู้นำและความน่าเชื่อถือของอเมริกาในหมู่ประชาชน" (เขาพยายามใช้คำพูดที่ทำให้พลเมืองของตัวเองมีความรู้สึกว่าชาวอเมริกันไม่เท่าเทียมหรือเสมอภาคกับคนอื่นๆ เพราะเขาคิดว่าตัวเขาเองอยู่เหนือกว่าคนอื่น American leadership มักจะมีคำพูดในลักษณะนี้ปรากฎตามสื่อฯต่างๆและจากนักการเมืองของอเมริกาปรากฎให้เห็นอยู่บ่อยๆ แล้วจะสอนเรื่องประชาธิปไตยและเรื่องเสรีภาพไปทำแป๊ะอะไรหากต้องการที่จะอยู่เหนือคนอื่นตลอดเวลา)
    แล้วต่อกรณีของรัสเซียกับยูเครนหละ นายแคร์รี่มีความเห็นอย่างไรบ้าง? รายงานข่าวบอกว่า หนึ่งในสถานการณ์ที่อาจจะเป็นไปได้ซึ่งแคร์รี่ระบุเอาไว้รวมถึงอนาคตของการแซงชั่นรัสเซียต่อกรณีความขัดแย้งในยูเครน สหรัฐฯและอียูได้ทำการแซงชั่นรัสเซียทั้งด้านเศรษฐกิจและการเงินมาหลายรอบ และแคร์รี่กล่าวว่า การถอยห่างจากข้อตกลงอิหร่านอาจจะทำให้ยุโรปทบทวนความต่อเนื่องของการแซงชั่นเหล่านั้นก็ได้ (หมายถึงว่าถ้าไม่ยกเลิกแซงชั่นอิหร่าน อียูอาจจะเลิกแซงชั่นรัสเซียก็ได้ และแล้วแผนปิดล้อมและทำลายรัสเซียของสหรัฐฯก็จะเหลวในที่สุด)
    แคร์รี่กล่าวว่า "นั่นคือสูตรสำเร็จ (ใบเสร็จ) รวดเร็วทันใจเลยหละเพื่อนเอ๋ย... สำหรับพวกเขาที่จะเดินออกจากยูเครน" โดยอ้างถึงข้อเท็จจริงที่ว่าการแซงชั่นไม่ได้รับความนิยมในหลายประเทศในกลุ่มอียู "พวกเขาพร้อมที่จะพูดว่า พวกเรา (อียู) เป็นฝ่ายที่จะต้องจ่ายในการ (เล่นเกม) แซงชั่นของคุณ"
    สหรัฐฯกดขี่ข่มเหงอียูให้ทำการแซงชั่นรัสเซียต่อไป... ส่วนการแซงชั่นรัสเซียนั้น Jim Jatras อดีตนักการทูตของสหรัฐฯและนักข่าวอิสระและผู้เชี่ยวชาญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมองว่า "การแซงชั่นต่อต้านรัสเซียนั้นกลุ่มประเทศยุโรปถูกกรุงวอชิงตันบีบบังคับ" ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RT โดยเรียกการแซงชั่นรัสเซียว่าเป็นรูปแบบของอันธพาลทางการเมืองของสหรัฐฯ (American political bullying) Jim Jatras ยังกล่าวอีกว่า "บางคนก็เกาหัวของตัวเอง และคาดเดาถึงการกดดันแบบไหนที่สหรัฐฯอาจจะนำมาใช้เพื่อทำให้ยุโรปยอมศิโรราบ"
    Jim Jatras กล่าวว่า "มันไม่เหมือนกับการแซงชั่นอิหร่าน ที่ได้รับการรับรองจากคณะมนตรีความมั่นคง (สหประชาชาติ) แน่นอนว่าไม่มีการแซงชั่นใดๆที่มีต่อรัสเซียได้รับการรับรองจากคณะมนตรีความมั่นคงฯ ประเทศอื่นๆ จีน อินเดีย เป็นต้น ไม่ได้เห็นด้วยกับพวกเขาเลย และผมมั่นใจว่าหลายคนในยุโรปกำลังพูดกับ (/ถาม)ตัวเองว่า: ทำไมพวกเราถึงต้องทำสิ่งนี้ด้วย?" (นั่นสิ... ชาวยุโรปบอกว่าตัวเองฉลาดและเก่งนักไม่ใช่รึ?)
    Jim Jatras พูดตบท้ายว่า "พูดกันอย่างแฟร์เลยนะ ผมคิดว่า บางคนกำลังประหลาดใจว่าภัยคุกคามแบบไหน การกดดันแบบไหนคือสิ่งที่พวกเรากำลังหยิบยื่นให้กับเพื่อนชาวยุโรปของพวกเรา สำหรับผมแล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่มองว่าเป็นมิตรเลย ในการที่จะบังคับให้พวกเขาเห็นด้วยกับการแซงชั่น ที่เห็นได้ชัดว่าไม่อยู่ในผลประโยชน์ของพวกเขาเลย แน่นอนว่า มันได้สร้างความวิตกกังวลให้กับธุรกิจต่างๆในยุโรป แต่นี่คือที่ที่คุณทำการค้าขายระหว่างนโยบายทางเศรษฐกิจและผลประโยชน์ของตนเอง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถือว่าเป็นอันธพาลการเมืองและอุดมการณ์ที่มาจากกรุงวอชิงตันนั่นเอง" (จักรวรรดิเฮเก้ได้ยินหรือเปล่า? ก็ไม่รู้นะ)
    The Eyes
    13/08/2558

    ภาพจาก U.S. Secretary of State John Kerry © Brendan Smialowski / Reuters

    ----------
    Rejecting Iran deal could damage the dollar, support for Russia sanctions – Kerry — RT USA
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    [​IMG]

    รัสเซียสั่งสอนจักรวรรดิเฮเกที่รังแกไทยกรณีวิจารณ์จำคุกพวกทำผิดกฎหมายอาญาม.112 โดยเล่นคดีสหรัฐฯสั่งจำคุก Chelsea Manning เป็นเวลา 35 ปี และพึ่งจะเพิ่มข้อหามียาสีฟันและนิตยสารไว้ในครอบครองอีกด้วย
    --------------
    กรณีจักรวรรดิเฮเก้ออกมาเล่นละครตำหนิศาลไทยสั่งจำคุกพวกเดนมนุษย์หมิ่นสถาบันฯว่ามากเกินไปนั้น งานนี้เฮียปูให้สื่อฯรัสเซียช่่วยตบปากทั้งนักการเมืองจักรวรรดิเฮเก้และนังโฆษกรับจ้างยูเอ็นให้เรียบร้อยแล้ว แบบเนียนๆ ไม่ต้องพาดพิงถึงไทยก็พอจะเข้าใจได้
    ศาลทหารไทยมีคำพิพากษาลงโทษบุคคลที่กระทำผิดกฎหมายอาญา ม.112 ด้วยการจำคุกรัฐบาลวอชิงตันวิจารณ์ไทย หมิ่นสถาบันถูกลงโทษหนักนายพงศ์ศักดิ์ ศรีบุญเพ็ง อายุ 48 ปี รับโทษจำคุกเป็นเวลา 60 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือ 30 ปี และน.ส. ศศิวิมล ปฐมวงษ์ฟ้างาม อายุ 29 ปี ให้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 56 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพเช่นกัน จึงได้รับการลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 28 ปี
    แล้วนายมาร์ค โทเนอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐก็ออกมาแถลงข่าวว่า "ตกตะลึง" กับคำพิพากษาดังกล่าว ส่วนนังโฆษกยูเอ็นก็ออกมาประท้วงศาลไทยว่าลงโทษรุนแรงเกินไป ที่จำคุกคนทำผิดกฎหมายอาญาของไทยเพียง 30ปี กับ 28ปี ในขณะที่กองทัพสหรัฐฯสั่งจำคุก Chelsea Manning อดีตทหารของสหรัฐฯ 35ปี ในข้อหาทำให้กองทัพเสื่อมเสียชื่อเสียงและข้อหาอื่นๆ พวกนี้กับไม่รู้สึกตะลึง หรืออาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย หรืออาจจะยิ่งตกตะลึงแต่ด้วยอิทธิพลของจักรวรรดิเฮเก้จึงพูดไม่ออกซักคำก็ได้
    อยากรู้ไหมว่า Chelsea Elizabeth Manning เป็นใคร? จะเล่าให้ฟังคร่าวๆ จากนั้นค่อยไปดูข่าวในสื่อฯรัสเซียกันนะครับ เอาไว้ตบปากพวกสื่อฯจอมเสี้ยมขี้ข้าอเมริกาทั้งหลายที่ชอบด่าประเทศตนเอง Chelsea Elizabeth Manning เกิดเมื่อ 17 ธันวาคม 1987 เป็นทหารบกในกองทัพของสหรัฐฯ (United States Army) ซึ่งถูกพิจารณาตัดสินเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2013 ในข้อหาละเมิดพระราชบัญญัติการจารกรรมและความผิดอื่นๆ หลังจากลุ่มแฮ็กเกอร์ WikiLeaks ได้เปิดเผยเกือบสามในสี่ของเอกสารทั้งที่เป็นความลับและไม่ได้เป็นความลับของกองทัพและการทูตหนึ่งล้านฉบับออกมา (ประมาณ 700,000 ฉบับ)
    Manning ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 35 ปี เมื่อเดือนสิงหาคม 2013 และจะถูกปลดออกจากกองทัพเนื่องจากข้อหาสร้างความอับอายให้กับกองทัพสหรัฐฯ Manning เป็นบุคคลที่มีความผิดปรกติทางเพศตั้งแต่เกิด เป็นเพศหญิงแต่บุคคลิกภายนอกทั้งร่างกายและจิตใจดูเป็นผู้ชาย ในการฟ้องร้องคดีนั้น ทางการสหรัฐฯได้เรียกร้องให้มีการลงโทษจำคุก Manning ถึง 60 ปีด้วยซ้ำ
    วันนี้สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวเรื่องหนึ่งว่า "Chelsea Manning Could Wind Up in Solitary Confinement Over Toothpaste" (แปลว่าคุณ Chelsea Manning อาจจะจบลงด้วยการถูกขังเดี่ยวข้อหามียาสีฟัน) (ว้าววว! กฎหมายของสหรัฐฯนี่ไม่รุนแรงเลยนะ นักโทษบางคนมียาสีฟันไว้ในครอบครองต้องโดนขังเดี่ยว ถ้าเขาตรวจพบว่า Manning มีไม้จิ้มฟันในครอบครองอีกจะโดนโทษอะไรบ้างหละนี่?)
    สื่อรัสเซียรายงานต่อว่า Chelsea Manning จอมแฉผู้โด่งดัง (whistleblower) ปัจจุบันนี้ถูกจำคุกเป็นเวลา 35ปี (อยู่ฐานทัพ Fort Leavenworth ในเมือง Leavenworth County รัฐ Kansas ประเทศสหรัฐอเมริกา) ตามคำกล่าวทนายของเธอบอกว่า ขณะนี้อดีตพลทหาร (Army Private E-1) ปัจจุบันนี้กำลังเผชิญกับข้อหาใหม่ที่อาจจะทำให้เธอจบลงด้วยการถูกขังเดี่ยว อาชญากรรม? การมียาสีฟันและแม็กกาซีนไว้ในครอบครองนี่นะ? (เจอสื่อฯรัสเซียเข้าให้ เจ็บไหมหละ?)
    ทางการกล่าวหาว่า Manning มีวัตถุต้องห้ามไว้ในครอบครอง (อึ่มมมม! ก็เธออยู่ในคุก ภายใต้การดูแล้วที่เข้มงวด (?) ของกองทัพสหรัฐฯไม่ใช่หรือ แล้ววัตถุต้องห้ามเหล่านั้นหลุดเข้าไปได้อย่างไร? อ้อรายงานข่าวบอกว่านิตยสารที่เธอมีนั้นเป็นนิตยสารแฟร์ชั่นชื่อ Vanity Fair และเป็นก็อปปี้ด้วย)
    เหมือนรัสเซียก็รู้ว่าจักรวรรดิเฮเกจ้องจะเล่นงานและรังแกไทยซึ่งเป็นพันธมิตรกับรัสเซียอยู่ จึงได้ลงข่าวเกี่ยวกับ Manning สั่งสอนจักรวรรดิเฮเกซะเลย เอ… หรือว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ แม้จะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่เราก็ชอบ คริๆ อ้อ… งานนี้สื่อฯตะวันตกก็ลงเหมือนกัน
    The Eyes
    13/08/2558

    ภาพจาก © Flickr/ torbakhopper

    ----------
    Chelsea Manning Could Wind Up in Solitary Confinement Over Toothpaste / Sputnik International
    Chelsea Manning Tweets for Help in Legal Appeal / Sputnik International
    https://en.wikipedia.org/wiki/Chelsea_Manning
    Chelsea Manning may face solitary confinement for having Jenner Vanity Fair issue | US news | The Guardian
    Bradley Manning given 35-year prison term for passing files to WikiLeaks | US news | The Guardian
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    [​IMG]

    อ๊ะๆ..มีวัตถุอะไรซักอย่างจากกระเป๋าโดเรมอนหล่นลงในรัสเซีย (หรือว่ารัสเซียกำลังพัฒนาผ้าคลุมล่องหนอย่างในหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์?)
    -------------
    พาดหัวให้แค่ดูน่าตื่นเต้นเท่านั้นครับ ฮ่า หลายวันก่อน SPUTNIK ได้ลงข่าวโดยพาดหัวว่า UniversalSoldier Russian Style : ชุดทหารแห่งอนาคตต้องมากกว่าล่ำยุค มันจะต้องมีอะไรที่เหมือนกับมีเวทมนต์ สังเกตุ sputnik ใช้คำว่ามากกว่าล้ำยุคนะครับ (must be more than ultramodern) ไปดูกันต่อว่ารัสเซียกำลังจะสร้างอะไร นี่เป็นเรื่องแน่นอน (exactly)ที่ทีมนักวิยาศาสตร์ 27-strong กำลังทำงานกันในขณะนี้
    เริ่มในปี 2014 นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Saratov State University ได้วิจัยวัสดุที่มีวัตถุประสงค์พิเศษในห้องปฏิบัติการ เพื่อพัฒนาเครื่องแบบทหารที่จะทำให้ผู้สวมใส่ "ถูกมองไม่เห็น" เอ๊ะ..หรือว่าสิ่งที่หล่นลงมาจะเป็นผ้าคลุมล่องหนโดเรมอน ไม่ถึงขนาดนั้นครับ มาว่ากันต่อวัสดุพิเศษชนิดนี้จะทำให้เครื่องแบบทหารให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว ให้ความเย็นในฤดูร้อน รวมทั้งปกป้องจากสารเคมีอันตราย แค่นี้ก็เจ๋งแล้ว..ไม่รู้ว่าจะขายให้พลเรือนบ้างหรือปล่าวนะหากสำเร็จ
    แม้ว่าจะดูเหมือนเสื้อผ้าทั่วไปหากมองด้วยตาเปล่า แต่มันประกอบไปด้วยเส้นใยนาโนขนาดเล็กมากๆๆ (microscopic fibers) ซึ่งจะก่อให้เกิดความแปรปวน(warp) เมื่อนำไปผสมกับเนื้อผ้าปกติทำให้เกิดคุณสมบัติแบบผิดปกติขึ้นมา องค์ประกอบทางเคมีของ microscopic fibers จะช่วยกันก๊าซและของเหลว เพื่อรักษาความร้อนหรือให้ความเย็นต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังมีความสามารถต้านทานได้อย่างน่าตะลึง
    การวิจัยได้ถูกพัฒนาใน 3 ทาง อำพราง,ป้องกัน(รวมทั้งสารเคมี),สนับสนุนช่วยเหลือชีวิต นี่จะเป็นรูปแบบใหม่ในการอำพลางตัว ด้วยการใช้วัสดุนาโนกับเครื่องแบบทหารที่จะทำให้ภาพความร้อน(thermal imagers) (ร่างกายคนจะมีการแผ่ความร้อนออกมา) มองไม่เห็น (make the wearer invisible) แม้กระทั่งกล้องมองกลางคืน (night vision scopes) ทีมนักวิทยาศาสตร์ Saratov มีเวลา 3ปีในการพัฒนาวัสดุแบบใหม่เพื่อเข้าประจำการในกองทัพรัสเซีย ....และแล้วชุดล่องหนแฮรี่พ็อตเตอร์ ภาคกลางคืน ของจริงกำลังจะมาแล้ววววๆๆๆ
    Saratov State University ยังมีงานวิจัยพัฒนาเรื่อง ระบบนำทางจากสนามแม่เหล็กโลก geomagnetic navigation technology ที่จะทำงานร่มกับระบบGLONASS ที่ในมุมมองด้านความปลอดภัยที่ดีกว่าและเติมเต็มซึ่งกันและกัน อย่างกรณีการขาดหายไปของสัญญาณดาวเทียม ....มีข้อเสียนิดนึง ที่ว่าเป็น real time ยิ่งกว่าระบบGLONASS ที่ไม่มีปัญหาเรื่องสัญาญาณรบกวน (NA) เหมือนระบบGPS ของสหรัฐฯ .....ห้ามให้ภรรยาใช้เด็ดขาด ฮ่า ฮา ฮา
    ป.ล. โพสต์นี้แอ็ดมินรบกวนให้คุณ Noraseth Tuntasiri แปลให้นะครับ (ตัวเองขี้เกียจ) ม่ายช่ายยย แอ็ดมินไปแปลข่าวอื่นอยู่ครับ เห็นว่าเป็นเรื่องเทคโนโลยีทางกองทัพของรัสเซียจึงรบกวนแฟนเพจบางท่านช่วยแปลให้หน่อย อ้อ… ขอบคุณผู้แปลด้วยนะครับ
    The Eyes
    13/08/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Alexey Filippov

    ----------
    Universal Soldier Russian Style: Nano Armor and Invisible Cape / Sputnik International
    Saratov scientists develop geomagnetic navigation technology - News - Science - Russian Radio
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    อัพเดทข่าวโศกนาฎกรรมเหตุการณ์ระเบิดคลังสินค้าบริษัทโลจิสติกครั้งใหญ่ในเทีียนจินของจีน

    [​IMG]

    -------------
    + เบื้องหลังบริษัทคลังสินค้าระเบิดที่เทียนจินเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
    -------------
    เมื่อวันที่ 13 ส.ค.58 สำนักข่าว Global Times ของจีนพาดหัวข่าวว่า "Backgrounder: The company with explosive warehouses in Tianjin" ก็อยากรู้ว่าสถานที่เกิดเหตุมีความเป็นมาอย่างไรบ้าง เพราะว่าตอนนี้ทางการจีนยังไม่เปิดเผยถึงสาเหตุของการระเบิดครั้งใหญ่นี้ออกมา
    รายงานข่าว (อ้างข่าวจากซินหัว) ว่าการเกิดเหตุระเบิดที่คลังสินค้า (warehouse blast) ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนที่ Tianjin ในคืนวันพุธที่ผ่านมานั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย และได้รับบาดเจ็บกว่า 400 ราย (ข่าวล่าสุดบอกว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 50 รายบาดเจ็บอีก 701 คน) ต่อไปนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบริษัทด้านโลจิสติก (logistic) ที่เป็นเจ้าของคลังสินค้าดังกล่าว
    ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของบริษัท Tianjin Dongjiang Port Rui Hai International Logistics Co. Ltd พบว่าบริษัทฯก่อตั้งขึ้นในปี 2011 และเป็นแหล่งจัดเก็บสินค้าและศูนย์กลางกระจายภาชนะบรรจุสินค้าวัตถุอันตรายที่ท่าเรือเทียนจิน
    ธุรกิจของบริษัทประกอบด้วยการจัดเก็บ การขนส่ง กระจาย และผ่านพิธีการที่ศุลกากรเกี่ยวกับวัตถุเคมีอันตราย ปริมาณการขนส่งสินค้า (Freight volume) ที่ผ่านบริษัทแห่งนี้อยู่ที่ 1 ล้านตันต่อปี บริษัทมีรายได้มากกว่า 30 ล้านหยวนต่อปี (ประมาณ 166 ล้านกว่าบาทขึ้นไป) ศูนย์กลาง (ของการระเบิด) รวมทั้งคลังสินค้าวัตถุอันตรายทั้งสองแห่ง คลังสินค้าแห่งหนึ่งอยู่ถัดจากอาคารสำนักงาน (ของบริษัท) ผู้บริหาร (หลายคน) ของบริษัทถูกควบคุมตัวไว้แล้ว (เจ๋ง)
    + ท่าทีของสื่อฯจีนต่อการนำเสนอข่าวเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในครั้งนี้
    -------------
    บทบรรณาธิการเมื่อวันที่ 13 ส.ค.58 ของหนังสือพิมพ์ Global Times ของจีนเขียนได้น่าสนใจมาก โดยตั้งชื่อเรื่องว่า "Editorial: Efficiency, transparency needed for rescue work after Tianjin blasts" (บทบรรณาธิการ: ประสิทธิภาพ โปร่งใสเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับงานกู้ภัยหลังเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ในเทียนจิน) ในบทบรรณาธิการนี้ก็ให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ียวกับการเกิดเหตุระเบิดในครั้งนี้ ซึ่งก็เหมือนกับการรายงานข่าวจากสื่อฯทั่วไป
    บางส่วนของบทบรรณาธิการกล่าวว่า "ตอนนี้พวกเราได้รู้แล้วว่าสินค้าที่ไม่ปลอดภัยเป็นอันตรายเป็นอย่างไร ในสถานที่ที่ดูเหมือนว่าปรกติและทันสมัยจอแจหรือโซนทำงาน อาจจะมีวัตถุระเบิดที่เทียบเท่ากับระเบิด TNT หลายสิบตันอยู่ใกล้ๆ ซึ่งอาจจะเกิดการระเบิดขึ้นหลังจากความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆและก่อให้เกิดความสูญเสียมหาศาล การพัฒนาให้ทันสมัยนั้นไม่ใช่มุ่งแต่ที่จะส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองเท่านั้น แต่จะต้องลดอำนาจการทำลายล้างที่อาจจะเกิดขึ้นได้ด้วย ในขณะเดียวกัน การรักษาความปลอดภัยจะต้องมีการเน้นย้ำในระดับชาติด้วย หน่วยงานที่อยู่ใกล้่งานที่อันตรายเช่นนั้นจำเป็นจะต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบทางด้านสังคมเป็นอย่างมาก"
    … รายงานเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าผู้คนที่เสียชีวิตและสูญหายส่วนมากแล้วเป็นนักผจญเพลิง (เจ้าหน้าที่ดับเพลิง) อุบัติเหตุเกิดขึ้นในตอนกลางคืนซึ่งมีผู้คนอยู่ในพื้นที่เพียงเล็กน้อย แต่บรรดานักผจญเพลิงผู้กล้าหาญเหล่านั้นได้รีบเร่งที่จะดับไฟให้ได้ ความตายของพวกเขาได้แสดงให้เห็นว่าอะไรคืออาชีพดับเพลิงที่ยิ่งใหญ่และจริงจัง และพวกเราก็เชื่อว่า ทุกๆคนได้กล่าวขอบคุณพวกเขาจากก้นบึ้งของหัวใจแล้วเช่นกัน (แด่บรรดานักผจญเพลิงชาวจีนผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่ที่ละโลกไปในเหตุการณ์ครั้งนี้ และที่ยังปฏิบัติหน้าที่ต่อไป)
    หนึ่งในอันตรายที่ใหญ่หลวงที่เหล่านักผจญเพลิงกำลังเผชิญอยู่ก็คือภัยคุกคามจากการระเบิด ในขณะที่พวกเขาเข้าไปดับไฟ แต่ก็มีความไม่แน่นอนเป็นอย่างมากในประเมินว่าการระเบิดหรือภัยพิบัติครั้งที่สองขนาดใหญ่จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ด้วยหน้าที่ของพวกเขา นักดับเพลิงเหล่านี้มีความจำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตของพวกเขา
    มีการตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว และนักดับเพลิงที่ทำงานเพื่อควบคุมเปลวไฟ ทางการของเทียนจิน กำลังใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพและตอบคำถามที่สังคมยกขึ้นมา เช่นอากาศโดยรอบสถานที่เกิดเหตุระเบิดปลอดภัยหรือไม่? ยังมีข้อมูลต่างๆเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถยืนยันได้ เช่นจำนวนของการสูญเสียและสาเหตุของการเกิดระเบิดในครั้งนี้
    ในช่วงเริ่มต้นของเหตุการณ์นั้น สังคมมุ่งคำตำหนิและการกล่าวหาไปที่รัฐบาลเทียนจิน (ต้นฉบับเขาใช้คำว่า "Tianjin government" หมายถึงรัฐบาลท้องถิ่นของเทียนจินนะครับ ไม่ใช่รัฐบาลกลางของจีน) และสื่อฯที่เสนอข่าวล่าล้าและรายงานข้อมูลที่ไม่เพียงพอเกี่ยวกับการระเบิด (ต้องมีบางคนถูกด่าเป็นธรรมดา และต่อไปนี้น่าสนใจ จะเหมือนกับบ้านเราหรือเปล่าคิดเอาเองนะครับ) ยกตัวอย่างเช่น Tianjin TV ยังคงออกอากาศละครเกาหลีเป็นเวลา 10 ชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว (ไม่รู้ว่าประชาชนเขาติดละครเกาหลี หรือว่าสื่อฯบางช่องของเขาเน้นละครกับโฆษณากันแน่) ความวุ่นวายเช่นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ ณ ตอนเริ่มต้นของวิกฤตที่เกิดขึ้นในทันที รัฐบาลเทียนจินจะต้องรับการวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอแนะและทำให้มั่นใจว่าได้เปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้องและทันเวลา แนวความคิดที่ว่าพวกเขาต้องการที่จะลดเสียงการรายงานข่าว และปิดบังข่าวนั้นจะต้องถูกขจัดออกไป.... (The idea that they wanted to tone down the reporting and even cover it up must be eliminated) (ว้าววว ดูจีนวันนี้สิ ชัดเจน โปร่งใส ตรงไปตรงมา แต่อย่าอ้างการนำเสนอข่าวแล้วแฝงด้วยการเสี้ยมสังคมแบบสื่อฯบางสำนักหละ)
    (ส่วนตรงนี้ บก.เขาก็เตือนการนำเสนอข่าวของสื่อฯอีกนั่นแหละ) … ตอนนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อยู่ภายใต้การตรวจสอบของสื่อฯแล้ว และข้อมูลเพิ่มเติมใดๆก็จะถูกนำมาเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้ผ่านสื่อฯของรัฐและช่องโทรทัศน์ของสื่อฯทั่วไป สิทธิของสังคมที่จะรับรู้จำเป็นจะต้องได้รับการปกป้องและบังคับใช้ ในขณะที่รัฐบาลกำลังจัดการกับภัยพิบัติ สังคมสามารถที่จะเข้าใจได้มากขึ้นเกี่ยวกับว่ามีต้องการข้อมูลประเภทไหน ณ ตอนเริ่มต้นของเหตุการณ์ภัยพิบัติว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสม และข้อมูลอะไรยังคงต้องการเวลาในการเผยแพร่ (อย่าเที่ยวปล่อยข่าวลือสุ่มสี่สุ่มห้าเหมือนหลายสำนักข่าวสื่อฯขี้หมาแห้งทั้งหลายเพียงเพราะต้องการทำเรตติ้ง แล้วก็ไม่รับผิดชอบอะไรกับผลที่จะตามมา ซึ่งเป็นความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง โดยอ้างเพียงแค่เสรีภาพของสื่อฯเท่านั้น) เมื่อรัฐบาลและสังคมสามารถบรรลุข้อตกลงในจุดนี้ได้แล้ว ปัญหาที่โต้เถียงกันก็จะลดลงไปได้เป็นอย่างมาก (เขาก็แนะนำดีนี่... แล้วพวกสื่อฯจอมเสี้ยวจะอ้างว่าอย่างไรบ้าง? เขาก็จะบอกว่าไม่เชื่อใจรัฐบาลที่พวกไม่ใช่พวกเดียวกับพวกเขานะสิ สังคมก็จะบอกว่าไม่เชื่อใจสื่อฯจอมเสี้ยมเหมือนกัน)
    สุดท้าย บก. Global Times ก็บอกว่า ขณะนี้เทียนจินและเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งหลายต้องการการสนับสนุนและกำลังใจ (support and encouragement) จากพวกเรา สิ่งนี้ควรจะเป็นความห่วงใยในระดับแรกสุดในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ (สุดยอดครับท่าน บก.)
    อ้อ… สุดท้าย งานนี้ผู้นำจีนทั้งสองท่านคือประธานาธิบดี Xi Jinping และนายกรัฐมนตรี Li Keqiang ได้ออกมาสั่งการดูแลสถานการณ์ด้วยตัวเองเลย จีนส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเสริมเข้าไปอีกพันกว่าคน ส่งทั้งตำรวจและทหารลงพื้นที่ด้วย รายงานข่าวบอกว่า เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในการจัดการกับวัตถุนิวเคลียร์และวัตถุเคมีจากกองทัพจีนจำนวน 214 นายได้ถูกส่งลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือด้วย โรงเรียที่อยู่ในละแวนั้นเปิดให้ผู้ไร้ที่พักเนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากระเบิดดังกล่าวให้เข้าไปพักอาศัยชั่วคราว และใช้เป็นสถานที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น
    ตอนนี้ทางการจีนยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอะไรออกมามากนัก จึงบอกอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ ก็ต้องรอฟังข่าวจากจีนอีกครั้งหนึ่ง สื่อฯฝั่งรัสเซียก็ลงข่าวนี้เหมือนกัน แต่ไม่มากเท่าไร
    The Eyes
    14/08/2558

    ภาพจาก © REUTERS/ Jason Lee

    ----------
    Backgrounder: The company with explosive warehouses in Tianjin - Xinhua | English.news.cn
    Backgrounder: The company with explosive warehouses in Tianjin - Global Times
    Editorial: Efficiency, transparency needed for rescue work after Tianjin blasts - Global Times
    50 killed, 701 injured in massive Tianjin blasts - Global Times
    Death Toll in China's Tianjin Explosions Rises to 44 / Sputnik International
    http://en.people.cn/n/2015/0813/c90000-8935141.html
    After the blasts - Global Times
    http://en.people.cn/n/2015/0813/c90000-8935543.html
    Firefighters contain blaze, 44 people killed - Xinhua | English.news.cn
    Firefighters struggle to contain Tianjin fire - Global Times
    At least 50 dead in Tianjin blasts - Global Times
    Tragedy raises questions over safety planning - Global Times
    Heroes of Tianjin: firefighters battle blasts on the frontlines - Global Times
    http://en.people.cn/n/2015/0813/c90882-8935361.html
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    [​IMG]

    สามารถเช็กข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดที่เทียนจินได้จากเว็บเพจนี้ของสำนักข่าว People's Daily Online| http://en.people.cn/n/2015/0813/c90882-8935361.html

    ภาพจาก English--People's Daily Online

    ล่าสุดก็ประมาณในโพสต์ก่อนหน้านี้แหละครับ ส่วนที่เหลือก็เป็นงานกู้ภัย ยังไม่มีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมมาก จีนส่งทหารอากาศเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพิ่มอีก 200 นาย มีการขนย้ายสารเคมีที่เป็นวัตถุอันตรายอาจก่อให้เกิดระเบิดได้ ออกจากพื้นที่เกิดเหตุแล้ว สถานที่เกิดเหตุเป็นนิคมอุตสาหกรรม รายงานข่าวบอกว่า รถยนต์ยี่ห้อ Renault ของฝรั่งเศสจำนวน 6,000 คันถูกเผาเรียบ ส่วนรถยนต์ของ Volkswagen ถูกเผาไป 2,748 คัน ยี่ห้ออื่นๆเช่น Toyota, Honda และ Mitsubishi ก็รวมอยู่ด้วย รายงานข่าวยังไม่ได้บอกว่ารถยนต์เหล่านั้นเตรียมส่งออกหรือว่าพึ่งจะนำเข้ามายังจีน แต่ที่จีนก็มี Dongfeng Renault ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Dongfeng ของจีนกับ Renault ของฝรั่งเศสเช่นกัน สงสัยว่างานนี้ฝรั่งเศสคงจะอ่วมไปด้วยไม่น้อยเลย
    http://en.people.cn/n/2015/0814/c90000-8935738.html
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    รัสเซียขยายสั่งห้ามนำเข้าอาหารอีก 5 ประเทศ: อัลบาเนีย มอนเตรเนโก ไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ และยูเครน

    [​IMG]

    -------------
    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีดิมิทรี เมดเวเดฟ (Dmitry Medvedev) ของรัสเซียได้มีคำสั่งเพิ่ม อัลบาเนีย มอนเตรเนโก ไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ และยูเครน ลงในบัญชีห้ามนำเข้าอาหารสู่รัสเซียเพื่อเป็นการตอบโต้กลุ่มประเทศยุโรปที่ทำการแซงชั่นรัสเซีย
    นายกฯ Dmitry Medvedev กล่าวในที่ประชุมครม.ว่า "กลุ่มประเทศทั้งหมดที่ได้เพิ่มเข้านั้นอยู่นอกเหนือจากสหภาพยุโรป ออสเตรเลีย แคนาดา นอร์เวย์ และสหรัฐฯ ซึ่งรัสเซียห้ามส่งออกอาหารทะเลบางชนิดไปยังรัสเซีย ประเทศเหล่านี้ประกอบด้วย Albania, Montenegro, Iceland, and Liechtenstein, รวมทั้ง Ukraine ซึ่งอยู่ภายใต้สถานการณ์บางอย่างด้วย"
    นายกรัฐมนตรีของรัสเซียกล่าวต่ออีกว่า "ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับยูเครนนั้น การสั่งห้ามส่งออกสินค้าการเกษตร (เข้าไปในรัสเซีย) จะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลของประเทศยูเครนดำเนินกิจการด้านเศรษฐกิจในส่วนของข้อตกลงสมาคมกับสหภาพยุโรป (Association Agreement with the European Union) ซึ่งกรุงเคียฟได้ลงนามเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วเท่านั้น ซึ่งรัสเซียได้ตัดสินใจขยายเวลาให้จนถึงเดือนมกราคมปีหน้า เพื่อแก้ไขสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และหลังจากวันนั้นไป หากเราไม่สามารถทำการตกลงกันภายใต้การไกล่เกลี่ย (mediation) จากสหภาพยุโรปได้ และผมก็ไม่เห็นสัญญาณใดๆที่ เอกสารเหล่านี้ซึ่งมีการยอมรับกันแล้วก่อนหน้านี้ จะมีผลบังคับใช้และจะกำหนดระบบการค้าขายตามปรกติ และห้ามนำเข้าอาหารจากยูเครน"
    หมายความว่าถ้ายุโรปยังยึกยักเล่นเกมนี้อีกต่อไป ไม่เพียงแต่อียูเท่านั้นที่จะโดนด้วย ยูเครนก็จะโดนเรื่องการสั่งห้ามนำเข้าอาหารไปในรัสเซียด้วยเช่นกันเมื่อเลยเส้นตาย เมื่อถึงเวลานั้นใครจะช่วยซื้ออาหารและสินค้าการเกษตรให้ยูเครน เพราะอียูเองก็เอาตัวไม่รอดอยู่แล้วในตอนนี้ ต่อไปก็คงจะเห็นเกษรตกรของยูเครนขนอาหารออกมาเผาทิ้งอย่างในยุโรปกันบ้างหละ แล้วก็โทษรัสเซียอีกว่าทำให้เศรษฐกิจของยูเครนแย่ และเกษตรกรได้ชาวยูเครนได้รับความเดือดร้อน
    ส่วนพวกที่ลักลอบนำเข้า ถ้าจับได้ก็ทำลายทิ้ง ณ จุดผ่านแดนนั่นเลย แล้วก็ไล่ตรวจตามจุดขายต่างๆทั่วรัสเซียว่ามีหลุดลอดไปบ้างหรือเปล่า ถ้าเจอก็ขนไปทำลายและฝังกลบให้หมด รัสเซียให้เหตุผลว่าถ้าอ้างว่านำไปแจกจ่ายให้กับคนยากจน หรือนำไปทำอย่างอื่นก็จะเปิดโอกาสให้มีการทุจริตคอรัปชั่นตามมา เพราะขนาดมีคำสั่งห้ามอย่างนี้ก็ยังมีหลุดลอดเข้ามาได้เลย ถ้าอนุญาตให้อาหารที่ถูกจับได้ไปทำอย่างอื่น ก็เป็นการเปิดช่องทางให้ผู้กระทำผิดกฎหมายหาผลประโยชน์เข้าตัวอีก ซึ่งจะทำให้มาตรการแซงชั่นทางเศรษฐกิจไม่ได้ผล
    The Eyes
    14/08/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Sergey Pivovarov

    ----------
    Russia Extends Food Embargo to Five European Countries / Sputnik International
    Russia extends food embargo to 5 countries: Albania, Montenegro, Iceland, Liechtenstein & Ukraine — RT Business
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    จีนประกาศลดค่าเงินหยวนครั้งที่ 3 รัสเซียประกาศซ้อมรบขีปนาวุธจริงที่แหลม Kamchatka ต้อนรับปฏิบัติการซ้อมรบ Red Flag สหรัฐฯและนานาชาติที่อลาสก้า อเมริกามีเสียวแน่งานนี้

    [​IMG]

    -----------
    วันนี้ (13 ส.ค.58) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าธนาคารแห่งชาติของจีน (People’s Bank of China) ได้ปรับลดค่าเงินหยวนอีกครั้งหนึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่าสกุลเงินหยวนจะมีความเข้มแข็งขึ้น (แข็งค่า) เมื่อตลาดมีเสถียรภาพ
    รายงานข่าวบอกว่าธนาคารแห่งชาติของจีนได้ปรับลดค่าเงินหยวนลงอีก 1.1 เปอร์เซ็นต์ต่อดอลล่าร์สหรัฐฯในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดค่าเงินหยวนลงเป็นวันที่ 3 ติดกัน รายงานข่าวจากธนาคารระบบการค้าขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของจีน (China Foreign Exchange Trade System - CFETS) ซึ่งเป็นธนาคารในเครือของธนาคารกลางของจีน
    เจ้าหน้าที่จากธนาคารกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การดำเนินการในครั้งนี้ สกุลเงินหยวนจะมีความเข้มแข็งเมื่อตลาดมีเสถียรภาพ และไม่มีกฎเกณฑ์ (no basis) ในการปรับลดค่าเงินเงินหยวนในครั้งต่อไป รายงานข่าวจาก Wall Street Journal (เล่นเอาสหรัฐฯมึนตึ๊บเลย เดาทางจีนไม่ออก เพราะเฮียบอกว่า ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ซวยแล้วไหมหละ)
    เมื่อวันอังคารนี้ ธนาคารกลางของจีนได้ลดอัตราแลกเปลี่ยนของเงินหยวนเทียบเงินดอลล่าร์สหรัฐฯลงที่ 1.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันพุธนี้ ลดลงอีก 1.6 เปอร์เซ็นต์
    สกุลเงินหยวนของจีนได้มีเสถียรภาพอยู่ที่ 8.3 หยวนต่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐฯจนกระทั่งถึงปี 2005 เมื่อเงินหยวนเริ่มแข็งค่า ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2008 มา อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนอยู่ที่ 6.8 เหรียญต่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐฯ และในเดือนกันยายน 2010 ก็มีการปรับค่าเงินเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย เงินหยวนแข็งค่ามากที่สุดเมื่อเดือนมกราคมปี 2014 ที่ 6.0 เหรียญต่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐฯ
    เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เงินหยวนได้แข็งค่าตามเงินดอลล่าร์ ทำให้การส่งออกของจีนมีราคาแพงมากขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกงานในภาคการผลิตในอตุสาหกรรมที่มีการจ้างงานหลายสิบล้านอัตรา
    งานนี้จีนบอกว่าต้องรีบทำกำไรจากการส่งออกให้ได้มากที่สุด Pepe Escobar คอลัมนิสต์จาก Sputnik news ของรัสเซียเขียนเหน็บพวกนักวิจารณ์ฝั่งสหรัฐฯว่า "ตอนที่สหรัฐฯเริ่มดำเนินการผ่อนคลายเชิงปริมาณในระยะยาว นั่นมองว่าโอเค ตอนที่อียูทำคิวอีด้วย ก็บอกว่านั่นก็โอเคเช่นกัน แต่พอธนาคารของจีนตัดสินใจว่ามันเป็นผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของประเทศในการปล่อยให้ค่าเงินหยวนล่วงลงนิดหน่อยแทนการขึ้นค่าเงินสุดจะคณะนับได้ นั่นกลายเป็นอาร์มาเก็ดดอนไปเลย (สำหรับสหรัฐฯ)"
    เมื่อวานนี้มีรายงานข่าวว่าการตัดสินใจลดค่าเงินหยวนของจีนลงอีกครั้งได้ทำให้ตลาดทั่วโลกสั่นสะเทือนไปด้วย พร้อมที่จะมีการปรับลดค่าเงินดอลล่าร์ออสเตรเลียตามหยวนของจีนด้วยเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญมองว่า อนาคตเศรษฐกิจของออสเตรเลียผูกติดกับจีนมากกว่าที่เคยเป็นมาก่อน (ตอนนี้จีนเข้าไปลงทุนและทำการค้าร่วมกับออสเตรเลียมากกว่าประเทศอื่น ดังนั้นเมื่อจีนหันซ้าย ออสซี่ก็ต้องซ้ายตาม ถ้าจีนหันขวา ออสซี่ก็ต้องขวาตาม ไม่งั้นจะตามไม่ทันและเศรษฐกิจของออสซี่จะเดี้ยงเอาง่ายๆ สะใจ)
    หันมาดูทางรัสเซียบ้าง วันนี้สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Russian Missile Forces in Kamchatka Put on High Alert for Live-Fire Drills" (กองกำลังขีปนาวุธของรัสเซียในคาบสมุทรคัมชัตคาแจ้งเตือนขั้นสูงในการซ้อมรบด้วยขีปนาวุธจริง)
    วันพฤหัสบดี โฆษกมณฑลทหารตะวันออกกระทรวงกลาโหมของรัสเซียออกแถลงการณ์ว่า "กองกำลังขีปนาวุธจากหน่วยลาดตระเวนชายฝั่งแหลมคัมชัตคาแห่งกองเรือแฟซิฟิกของรัสเซียกำลังเตรียมพร้อมเพื่อปฏิบัติการซ้อมรบด้วยกระสุนจริง (ขีปนาวุธจริง)"
    Roman Martov กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "โดยหลักตรรกะแล้วภารกิจการฝึกซ้อมภาคสนามจะเป็นการซ้อมรบด้วยกระสุนจริง โดยการใช้ขีปนาวุธ Redut และ Rubezh ในมหาสมุทรแปซิฟิก"
    ตามคำให้สัมภาษณ์ของ Roman Martov นั้น หน่วยขีปนาวุธนี้ (Missile divisions) มีบุคคลากรด้านกองทัพมากกว่า 300 นายได้เข้าประจำตำแหน่งในแหลม Skalisty และ Tolsty เรียบร้อยแล้ว
    Redut Missile เท่าที่ค้นหาดูในอินเตอร์เน็ทพบว่าชื่อ "4K44B Redut / 4K44 Utyos / SSC-1B Sepal Coastal Defence Systems" เป็นขีปนาวุธแบบนำวิถีพิสัยกลาง (P-35cruise missile, P-5 Pyatyorka cruise missile) พัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 1963 บรรจุหัวรบขนาด 1,000 กก.พิศัยทำการ 450 กม. ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 0.9 มัค มีไว้รักษาชายฝั่ง เอาไว้จมเรือรบของข้าศึกโดยเฉพาะ
    ที่มันเจ็บก็คือตัวนี้ Rubezh ชื่อเต็มก็คือ "RS-26 Rubezh" เรียกโดยทั่วไปว่า "Avangard" เป็น Road Mobile ICBM คือขีปนาวุธข้ามทวีปแบบเคลื่อนที่ ติดหัวรบแบบ hypersonic พึ่งพัฒนาในระดับสูงเมื่อต้นปีนี้นี่เอง (พัฒนามาจาก RS-24 Yars รุ่นก่อนหน้านี้) ความเร็วเหนือ 20 มัค (24,500 กม.ต่อชั่วโมง) พิศัยทำการประมาณ 5,800 กม. นี่มันข้าวหลามยักษ์ชัดๆนะนี่ สงสัยเฮียปูตินชักจะเริ่มหงุดหงิดกับปฏิบัติการซ้อมรบ Red Flag ของจักรวรรดิเฮเก้กับพวกที่อลาสก้าขึ้นมาแล้วหละมั๊งนี่? รัสเซียพึ่งจะประกาศเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เองว่าประสบผลสำเร็จในการทดลอง RS-26 ICBM ไปหยกๆ แต่นาโต้ก็ช่างขยันยั่วยุบ่อยเหลือเกิน คราวนี้จะยิงของจริงหละนะ คาบสมุทร Kamchatka ก็อยู่ตรงข้ามกับอลาสก้านั่นเอง ส่วนพวกนาโต้ก็ซ้อมรบเครื่องบินรบอยู่แถวๆนั้นซะด้วย หวังว่าปูตินคงไม่ให้ลูกน้องติดหัวรบนิวเคลียร์ที่ Rubezh ก่อนยิงออกไปด้วยนะ ไม่งั้นซวยทั้งโลกแน่ๆ
    The Eyes
    13/08/2558

    ภาพจาก © REUTERS/ Jason Lee

    ----------
    China Bank Devalues National Currency for Third Day in a Row / Sputnik International
    What the Latest Currency 'War' is All About / Sputnik International
    Yuan's Fall Gives Global Market the Shivers, Sends Australian Dollar Lower / Sputnik International
    Russian Missile Forces in Kamchatka Put on High Alert for Live-Fire Drills / Sputnik International
    Weapon
    Soviet/Russian Cruise Missiles
    https://russianmilitaryphotos.wordp...ariant-spu-35v-mobile-coastal-defense-system/
    Russia Successfully Test-Fires RS-26 Ballistic Missile / Sputnik International
    RS-26 Rubezh Intercontinental Ballistic Missile | Military-Today.com
    Yars Intercontinental Ballistic Missile | Military-Today.com
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc

    วีดีโอการระเบิดที่จีนครับ คลิกเพื่อชม -> https://www.youtube.com/watch?v=JtowX2Jg6cA

    เรื่อง การระเบิดขนาดใหญ่ในพื้นที่ท่าเรือเทียนจิน ประเทศจีน ฆ่า 50 ได้รับบาดเจ็บกว่า 700 ..... Huge explosions in China's Tianjin port area kill 17, hurt 400 [FULL VIDEO­ โดย GLOBAL TRENDS เผยแพร่เมื่อ 13 ส.ค. 2015

    ~~> ว้าวพวก จับตาดู ระเบิดขนาดใหญ่ ........
    ระเบิดขนาดใหญ่ที่ท่าเรือจีนฆ่า 50 ได้รับบาดเจ็บกว่า 700 .....
    การระเบิดในประเทศจีนเมื่อวันที่พฤหัสบดี 13 สิงหาคม, 2015
    ปรับปรุง # 3:
    ลักษณะ
    ~~~> wOw guys, WATCH the explosion, it was massive........
    Huge blasts at Chinese port kill 50, injure more than 700.....
    Explosion in China on Thursday, 13 August, 2015
    Update #3:
    Description

    As Chinese rescue workers and emergency services raced to respond to the deadly explosions that rocked the port city of Tianjin Wednesday, another group of Chinese officials, with a very different purpose also sprang into action: the country's censors and security officials intent on limiting coverage of the disaster by conventional media outlets and social media. Authorities in Tianjin have been attempting to tightly control information about the disaster.
    Journalists and nonessential personnel were being kept six miles away from the scene of the blasts, the Los Angeles Times reported. In addition, a CNN correspondent reporting live from outside a hospital was seen being accosted by security officials live on air. In the video below [the confrontation starts around 1:48] reporter Will Ripley is confronted by several men, demanding that he end his broadcast, and shouting "stop recording" in Chinese. His feed is then cut, and the studio anchor comments that such incidents have "happened many times over the years in any number of stories in China." In addition, local Chinese outlets reportedly had trouble being able to report on the incident. One journalist who took photographs inside a Tianjin hospital was threatened by security guards and told to delete the images, the Hong Kong Free Press reported. Local station Tianjin Television was reportedly airing a Korean soap opera 8 hours after the incident, as reporters waited for permission to start covering the story. Media censorship of this kind is not new in China, particularly when it comes to coverage of national disasters. After a 2011 train crash that left 39 people dead and over 200 injured, propaganda directives issued by Chinese authorities leaked online, which showed that reporters were warned not to run investigative reports or commentary, but rather focus on "stories that are extremely moving, for example people donating blood and taxi drivers not accepting fares," the BBC reported. "From now on, the Wenzhou train accident should be reported along the theme of 'major love in the face of major disaster'," the directives added. The strategy ultimately backfired, prompting online anger from citizens who accused the authorities of "arrogance." In the world of social media, users of Sina Weibo, China's hugely popular version of Twitter, were reporting Thursday that some of their posts about the Tianjin disaster were being censored or deleted, according to the Associated Press. In addition, the number of searchable posts on the disaster fluctuated, in a sign that authorities were manipulating or placing limits on the number of posts.
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    ผลกระทบจากค่าเงินรูเบิลตก... ชาวจีนแห่เที่ยวรัสเซียเพิ่มมากขึ้น ว้าววว!
    [​IMG]

    -------------
    ในยามที่จีนมีภัยรัสเซียก็ไปช่วย ในยามที่รัสเซียมีภัยจีนก็ไปช่วย เฮียสีบอกว่าไม่ต้องไปเที่ยวหละยุโรป อเมริกา หรือแม้แต่เมืองอิสตันบูลประเทศตุรกีที่เคยเป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับโลก เพราะถ้าคนจีนไปเที่ยวที่นั่นอาจจะถูกทำร้ายด้วยการเอามีดไล่แทงอีกก็ได้ ยิ่งตอนนี้มีการก่อการร้ายเกิดขึ้นที่อิสตันบูลด้วย ไม่ปลอดภัย ไปเที่ยวมอสโคว์บ้านพี่เมืองน้องชายแดนติดกันดีกว่า ว่าแล้วสำนักข่าว People's Daily Online ก็พาดหัวข่าวว่า "Falling Ruble Attracts more Chinese Tourists to Russia" (เงินรูเบิลตก ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนไปรัสเซียเพิ่มมากขึ้น)
    รายงานข่าวเมื่อวันที่ 13 ส.ค.58 จากสื่อฯรายงานว่า การอ่อนค่าของเงินรูเบิลรัสเซียได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เข้าไปยังรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวชาวจีนถือว่าเป็นส่วนสำคัญในจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ สหภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของรัสเซียกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (เมื่อวานนี้เอง)
    สำนักข่าว Interfax (สื่อฯรัสเซียแต่ไม่ใช่สื่อฯของรัฐบาล) อ้างคำพูดของ Irina Tyurina โฆษกหญิงของสหภาพฯว่า "เมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา กรุงมอสโคว์ได้ประสบกับปัญหานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไหลออกอย่างเห็นได้ชัด สืบเนื่องจากเหตุการณ์ในยูเครน แต่หลังจากเดือนมิถุนายนปี 2015 เป็นต้นมา ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้เริ่มสังเกตเห็นถึงการฟื้นตัวและในเดือนสิงหาคมนี้ ก็แนวโน้มเชิงบวกก็ดีขึ้น"
    ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม (การท่องเที่ยว) กล่าวว่า "การเดินทางท่องเที่ยวในรัสเซียในปีนี้ มีค่าใช้จ่ายเกือบจะเพียงครึ่งเดียวของเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว เนื่องจากเงินรูเบิลอ่อนตัวลงมาก เมื่อวันพฤหัสบดีนี้การซื้อขายเงินรูเบิลอยู่ที่ 63.7 เหรียญต่อ 1 ดอลล่าห์สหรัฐฯ เทียบกับ 52-55 เหรียญเมื่อปลายเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม"
    ภูมิภาคต่างๆหลายแห่งในรัสเซียได้ยืนยันว่ามีแขก (guests นักท่องเที่ยว/ไม่ใช่ชาวอินเดีย) จากเมืองจีนเพิ่มขึ้น ที่เมืองเซ้นต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St. Petersburg) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ และเป็นปลายทางของนักท่องเที่ยวส่วนมาก จำนวนผู้มาเยือนชาวจีนเพิ่มขึ้นถึง 150 เปอร์เซ็นต์ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคมของช่วงเดียวกันเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
    ภูมิภาค Sverdlovsk ในเทือกเขาอูราล (/อูราวล์) (Ural Mountains) (นึกถึงมอร์เตอร์ไซค์พ่วงกับรถบรรทุกหกล้อยี่ห้อ Ural ที่เคยนำเสนอไปแล้วครั้งหนึ่งขึ้นมาทันทีเลย) และท้องถิ่นต่างๆโดยรอบทะเลสาบ Baikal Lake ทางตอนใต้ของไซบีเรีย ก็เป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยวชาวจีนในปีนี้เช่นกัน (เท่าที่อ่านข่าวจากสื่อฯฝั่งรัสเซียมานี้ สังเกตเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะชอบไปเที่ยวแถวไซบีเรียกันนะ อากาศดีมาก ธรรมชาติก็ดี ปูตินก็เอาเสือไปปล่อยไว้แถวนั้นแหละ ที่พูดนี้ไม่เคยไปหรอกนะครับ ฮ่าๆๆ... แต่อ่านมาดูคลิปมาบ้างหนะ)
    รายงานข่าวบอกว่าในปี 2014 มียอดนักท่องเที่ยวมาที่รัสเซียจำนวน 2.5 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามียอดลดลง 4 เปอร์เซ็นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้น ข้อมูลอย่างเป็นทางการ (เนื่องจากช่วงนั้นทั้งสหรัฐฯและอียูได้แซงชั่นการท่องเที่ยวของรัสเซีย ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังแบนอยู่ แต่ในปีนี้ทั้งจีนและรัสเซียบอกว่านักท่องเที่ยวรัสเซียเพิ่มขึ้น เพราะจีนไม่สนว่าพวกตะวันตกจะแบนการท่องเที่ยวรัสเซียหรือไม่ คนจีนจะไปเที่ยวรัสเซียซะอย่าง จักรวรรดิเฮเกกับสมุนตะวันตกเกี่ยวอะไรด้วย จักรวรรดิเฮเกพูดอะไรสั่งอะไร ทั่วโลกจะต้องน้อมรับคำสั่งโดยดีทุกครั้งหรือไง? จีนกับรัสเซียไม่ใช่ขี้ข้าของอเมริกานะ ไทยก็ไม่ใช่ ยกเว้นพวกที่อยากจะเป็นเท่านั้น เขาพูดอะไรมาก็ ถูกครับพี่ ดีครับนาย ใช่ครับผม อเมริกาพูดอะไรมาถูกทุกอย่างเลยครับ)
    ป.ล. ไหนก็พูดถึงการท่องเที่ยวแล้วก็เลยเก็บภาพสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในจีน โอ๊ะ! ไม่ใช่… ในรัสเซียมาฝากครับ เผื่อวันข้างหน้าจะได้ไปเยี่ยมเฮียปูตินบ้าง คริๆ
    The Eyes
    14/08/2558

    ภาพจาก English--People's Daily Online

    ----------
    Falling Ruble Attracts more Chinese Tourists to Russia - People's Daily Online
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    รัสเซียสั่งแบนปลา sprat กระป๋องของโปแลนด์ สมาชิกรัฐสภาอียูของโปแลนด์วิ่งแจ้นจะไปเที่ยวไคร์เมียเพื่อเจรจาการค้า ฮ่าๆๆ

    [​IMG]

    -------------
    สุดจะฮาครับท่าน ดูอียูเต้นเป็นเจ้าเข้าเมื่อคิดจะเล่นสงครามแซงชั่นทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย วันนี้มีสองข่าวที่ (อาจจะ) เกี่ยวเนื่องกันมาเล่าให้ฟังแบบหนุกๆ ข่าวแรก... สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Russia Bans Polish Sprat Over Law Violations" (รัสเซียแบนปลาสแพร็ทของโปแลนด์เนื่องจากละเมิดกฎหมาย) (ซวยแล้วไหมหละ? อยากให้จักรวรรดิเฮเกเข้าไปตั้งฐานทัพในโปแลนด์คุกคามความมั่นคงของรัสเซียดีนัก)
    + รัสเซียแบนปลาสแพร็ทบรรจุกระป๋องของโปแลนด์
    -------------
    รายงานข่าวจากกรุงมอสโคว์บอกว่า องค์การ Rospotrebnadzor เฝ้าระวังด้านสุขภาพของรัสเซีย (คล้ายๆกับ อย.ของบ้านเรา?) ได้สั่งห้ามนำเข้าปลา sprat จากโปแลนด์เนื่องจากทำผิดกฎหมายหลายข้อ (ข่าวบอกว่าเป็นจำนวนมาก) รวมทั้งความคลาดเคลื่อน (discrepancy) ของฉลากติดผลิตภัณฑ์ด้วย การสั่งห้ามมีผลบังคับใช้ในวันศุกร์นี้ ตามแถลงการณ์ของ Rospotrebnadzor ของรัสเซีย
    การดำเนินการสั่งห้ามนำเข้าปลา sprat กระป๋องของโปแลนด์ในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัสเซียตรวจพบว่า ข้อมูลที่แสดงอยู่บนฉลากกระป๋องปลา sprat ของโปแลนด์นั้นไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ที่บรรจุอยู่ในกระป๋อง (อ้าว… เป็นงั้นไป แบบนี้เรียกว่ายัดไส้หรือของปลอมได้หรือเปล่านี่? ทำไม่พวกอียูถึงมีพฤติกรรม... แบบนี้นะ? ไหนว่าเป็นชาติที่เจริญแล้วไง? เอาเชียะนะแอ็ดมิน คริๆ โปรตะวันตกดิ้น!)
    เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมารัสเซียได้สั่งห้ามนำเข้าปลาหวานบรรจุกระป๋องจากลัตเวียและเอสโตเนีย (กลุ่มประเทศบอลติก) เป็นการชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า มีสารพิษที่เรียกว่า "benzopyrene" อยู่ในระดับสูง (ในปลากระป๋องดังกล่าว) (โอ้ว... กะจะวางยาพิษคนรัสเซียกันเลยหรือไงนี่?)
    Janis Duklavs รมว.เกษตรของลัตเวียคาดการในเดือนมิถุนายนปี 2015 ว่าอุตสาหกรรมการประมงของลัตเวียจะสูญเสียรายได้ถึง $225 million (ประมาณ 7.8 พันล้านบาท) เนื่องจากพลาดการส่งออกไปยังรัสเซีย
    รายงานข่าวบอกว่าการสั่งแบนอาหารในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่กรุงมอสโคว์กำลังแซงชั่นกลับไปยังประเทศต่างๆที่มุ่งเป้าหมายมาที่รัสเซียด้วยการแซงชั่นรัสเซียโดยกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในยูเครน (ยังไม่เห็นรัฐบาลของประเทศไหนในสามประเทศนี้ออกมาประกาศว่าสหรัฐฯอนุญาตให้นำเข้าอาหารที่ถูกรัสเซียสั่งห้ามนำเข้าแทนเลยนะ ทำไมถึงไม่ไปขอให้พี่เบ้มช่วยรับซื้อแทนหละครับ? จะไปง้อรัสเซียทำไม ให้ไทยเข้าไปเสียบแทนดีกว่า)
    + โปแลนด์ดิ้น... ขอเจรจาการค้ากับรัสเซียที่ไคร์เมีย
    -------------
    ฮ่าๆๆ ทำไมต้องเป็นที่ไคร์เมียซึ่งเป็นเมืองที่จักรวรรดิเฮเก้ห้ามไม่ให้ประเทศไหนเดินทางไปเยี่่ยมไม่ใช่หรือ? ขนาดคณะผู้แทนจากฝรั่งเศสก็ยังถูกยูเครนสั่งห้ามเดินทางเข้าไปในยูเครนเลย หลังจากที่เดินทางไปเยี่ยมไคร์เมียเมื่อเดือนที่ผ่านมา ทำยังกะว่าฝรั่งเศสกลัวยูเครนอย่างนั้นแหละ ยูเครนหนะหรือจะกล้าหือกับอียูเพราะต้องการจะเข้าร่วมกับอียูให้ได้ และสาเหตุที่เกิดความวุ่นวายในยูเครนมาจนถึงทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เพราะยูเครนต้องการจะเข้าร่วมกับอียูหรอกหรือ? แต่ไฉนยูเครนถึงได้กล้างัดกับฝรั่งเศสหละ? อ้าว ก็ลูกพี่ใหญ่ (จักรวรรดิเฮเก) สั่งให้ทำก็ต้องทำสิ สุดท้ายยูเครนก็จะทะเลาะกับอียูอีกฝั่งจนได้ เชื่อจักรวรรดิเฮเกแล้วจะฉ.ห.เอง ทำไปเหอะยูเครนเอ๋ย แล้วที่โปแลนด์จะไปเยี่ยมไคร์เมียนี่แสดงว่าเริ่มยอมรับแล้วสิว่ายังไงๆซะไคร์เมียก็เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างเป็นทางการไปแล้ว
    มาอ่านข่าวต่อดีกว่านะครับ... ข่าวที่สอง Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Polish EP Member Plans Crimea Visit, Calls for More Trade With Russia" (สมาชิกสภายุโรปชาวโปแลนด์วางแผนจะเดินทางไปเยี่ยมไคร์เมีย เรียกร้องให้ทำการค้ากับรัสเซียเพิ่มมากขึ้น) (อุบ๊ะ! แล้วจักรวรรดิเฮเกจะว่าอย่างไรบ้างหละนี่?)
    รายงานข่าวบอกว่านาย Janusz Ryszard Korwin-Mikke สมาชิก EP ชาวโปแลนด์กำลังเดินตามรอยเท้าของคณะผู้แทนชาวฝรั่งเศสที่ได้ไปเยี่ยมแหลมไคร์เมียในทะเลดำเมื่อเดือนที่แล้ว Korwin-Mikke กล่าวกับหนังสือพิมพ์ Izvestia ของรัสเซียว่า "กระผมพิจารณาการเดินทางของบรรดาสมาชิกรัฐสภาฝรั่งเศสที่ไปเยี่ยมไคร์เมียว่าเป็นก้าวที่ถูกต้อง (the right step) (ฮ่าๆๆ อูย… สหรัฐฯได้ยินหรือเปล่า? โปรดฟังอีกครั้ง "the right step") เพราะตระหนักถึงสถานะภาพที่ถูกต้องตามกฎหมายในปัจจุบันของไคร์เมีย เนื่องจากแหลมไคร์เมียได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ผมเต็มที่กับการเดินทางในครั้งนี้ และผมจะพยายามคลี่คลายปัญหาให้ได้"
    ฮิ้วววว! เดี๋ยวจะหาว่าเพจนี้เต้าข่าวเหมือนกับบางสำนักข่าวโปรอเมริกากับตะวันตก หรือแม้กระทั่งสื่อฯตะวันตกเอง เอาต้นฉบับภาษาอังกฤษมาให้อ่านกันเลย "I consider the French parliamentarians’ trip to Crimea the right step because it recognizes the current legal status of Crimea, since the peninsula has indeed become part of the Russian Federation. I am all for such a trip and I will try to carry it out" (ฮึ่ม… หายนะจะมาเยือนโปแลนด์หรือเปล่านะที่ออกมาพูดอย่างนี้หนะ? เพราะเมื่อวานนี้เตาปฏิกรณ์พลังงานนิวเคลียร์ในเบลเยี่ยามพึ่งจะหยุดทำงานไปโดยอัตโนมัติเฉยเลย ซวยแล้ว... เตือนครั้งที่หนึ่งกรุงบรัสเซลส์อย่าซ่าให้มาก อันนี้แอ็ดมินมโนเล่นๆนะครับ อย่าจริงจังมากหละ แต่เรื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ไม่ทำงานนั้นของจริง)
    กลับมาที่ข่าวนักการเมืองโปแลนด์ต่อนะครับเดี๋ยวค่อยเล่าข่าวนิวเคลียร์เบลเยี่ยมให้ฟังทีหลัง (สนใจหละซี คริๆ) Korwin-Mikke กล่าวต่ออีกว่า "พรรคของพวกเรา (Coalition for the Renewal of the Republic - Freedom and Hope) นับถือรัสเซียในฐานะเป็นประเทศที่ถ่วงดุลที่เข้มแข็งกับสหภาพยุโรป เราต้องการจะพัฒนาความสัมพันธด้านการค้ากับรัสเซียและจีนให้เข้มข้นมากขึ้น เศรษฐิจของโปแลนด์ควรจะมุ่งไปทางตะวันออก" (อุยโย๋... จุ๊ๆๆ พูดเบาๆครับท่าน เดี่๋ยวอเมริกากับอียูจะได้ยิน แล้วท่านอาจจะตกเก้าอี้ได้ง่ายๆนะท่านนะ คริๆ)
    + เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หยุดทำงานโดยอัตโนมัติ (ทำเป็นเล่นไป ไม่ใช่เตาไมโครเวฟที่จะตั้งเวลาเปิดปิดอัตโนมัติได้นะ)
    -------------
    แถมให้อีกซักข่าวตามที่ได้เกริ่นไว้ก่อนหน้านี้นะครับ รายงานข่าวจาก Sputnik news เมื่อวันที่ 13 ส.ค.58 ว่าโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ Tihange ของบริษัท Electrabel หนึ่งในสามแห่งของเบลเยี่ยมหยุดทำงาน ตามคำแถลงการณ์ของบริษัทฯ Tihange เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศ ผลิตไฟฟ้าได้ 55% สำหรับความต้องการใช้งานในประเทศกับสถานีพลังงานนิวเคลียร์อีกแห่งที่ชื่อ Doel Nuclear Power Station
    โฆษกหญิงของบริษัท Electrabel กล่าวว่า "พวกเรากำลังทำการตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ (พูดเป็นเล่นไปแม่คุณ) แต่ไม่มีภัยคุกคามต่อสภาพแวดล้อม" อ้างโดยสำนักข่าว Belga ของเบลเยี่ยม ตามรายงานข่าวบอกว่า โฆษกหญิงไม่ระบุว่าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์จะกลับมาทำงานได้อีกเมื่อไร
    ข้อมูลจากองค์กรควบคุมดูแลด้านพลังงานนิวเคลียร์ของเบลเยี่ยม (Belgian Federal Agency for Nuclear Control) บอกว่าได้เคยเกิดเหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้ขึ้มาแล้ว 10 ครั้งในไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่่านมากับสถานีไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ Tihange Nuclear Power Station แห่งนี้ (10 ครั้ง แต่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในครั้งที่ 11 นี่นะ?)
    รายงานข่าวเพิ่มเติมบอกว่า ภายใต้กฎหมายของเบลเยี่ยมในปัจจุบันนี้ พลังงานนิวเคลียร์จะถูกขจัดออกไปทั้งหมดภายในปี 2025 เนื่องจากประเทศเบลเยี่ยมจะเปลี่ยนไปพึ่งพาพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล (fossil fuels) และพลังงานทดแทน (renewable energy) ในการผลิตกระแสไฟฟ้าแทน
    ป.ล. โพสต์นี้ไม่ได้มีจุดประสงค์จะพูดถึงเรื่องพลังงานนะครับ แต่พอดีว่าช่วงที่กำลังเขียนข่าวเกี่ยวกับโปแลนด์และเม้าท์เพลินๆอยู่นั้น ก็นึกถึงข่าวนี้ที่อ่านผ่านสายตาเมื่อวันก่อนขึ้นมาทันที จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของเบลเยี่ยม สุดท้้ายเราก็ไม่พบคำตอบ เพราะเขาไม่ยอมบอกครับผม โชคดีนะเบลเยี่ยม
    The Eyes
    14/08/2558

    ภาพจาก © Flickr/ waledro

    ----------
    Russia Bans Polish Sprat Over Law Violations / Sputnik International
    Polish EP Member Plans Crimea Visit, Calls for More Trade With Russia / Sputnik International
    Nuclear Reactor Automatically Shuts Down in Belgium / Sputnik International
    Tihange 3 reactor out of action
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    อุ๊แม่เจ้า!... GAO ของสหรัฐฯรายงานว่า "จีนคว่ำสหรัฐฯในยอดการค้ากับกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซี่ยน"

    [​IMG]

    -------------
    ว้าวๆๆ... ข่าวนี้ไม่เล่าไม่ได้แล้วครับท่าน วันนี้ (14 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "China Beating US in Trade Volume With ASEAN Nations" (แปลตามชื่อโพสต์ข้างบนนั่นแหละครับ) รายงานข่าวจากกรุงวอชิงตันบอกว่า "จีนได้แซงหน้า (outstripped) สหรัฐฯในยอดการค้าขายสินค้าของตนกับสมาชิกกประเทศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ 10 ประเทศ (ASEAN)" สำนัก Government Accountability Office ของรัฐบาลสหรัฐฯกล่าว
    รายงานจาก GAO เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาบอกว่า "จีนได้แซงหน้าประเทศสหรัฐอเมริกาในการค้าขายกับ... กลุ่มประเทศอาเซี่ยน และธุรกิจการค้าขายในด้านบริการก็มีจำนวนที่เท่ากัน โดยในปี 2014 ยอดการค้าขายสินค้าทั้งหมดของจีนอยู่ที่ $480 billion (ประมาณ 16.8 ล้านๆบาท) ซึ่งมากกว่ายอดการค้าขายของสหรัฐฯถึงสองเท่าซึ่งอยู่แค่เพียง $220 billion (ประมาณ 7.7 ล้านๆบาท)" (โอ๊ะโอว!... โปรอเมริกาหงอยอีกแล้วครับท่าน)
    รายงานข่าวยังบอกอีกว่า ข้อมูลที่มีอยู่อย่างจำกัดแสดงให้เห็นว่าในปี 2011 สหรัฐฯและจีนได้มียอดการค้าขายของแต่ละประเทศในด้านบริการกับกลุ่มประเทศอาเซียนประมาณ $37 billion (ประมาณ 1.2 ล้านๆบาท) ตามรายงานของ GAO
    อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2012 สหรัฐฯได้ทำการลงทุนโดยตรงในกลุ่มประเทศอาเซียนมูลค่า $96 billion (ประมาณ 3.36 ล้านๆบาท) ซึ่งสูงกว่าของจีนที่รายงานบอกว่าอยู่ที่ $23 billion (ประมาณ 8.05 แสนล้านบาท)
    รายงานจาก GAO ของสหรัฐฯยังกล่าวอีกว่า "จากปี 2009 ถึงปี 2014 หน่วยงานต่างๆของสหรัฐฯได้สนับสนุนด้านการเงินให้กับบริษัทผู้ประกอบการของสหรัฐนในกลุ่มประเทศอาเซียนราว $6 billion (2.1 แสนล้านบาท ให้น้อยจัง จะสู้จีนได้ไง?) จีนรายงานว่าได้ให้การสนับสนุนด้านการเงินหลายพันล้านดออล่าร์สหรัฐฯมากกว่าสหรัฐฯ (ที่ให้การสนับสนุน) ทั่วโลก แต่ข้อมูลด้านการเงินของจีนในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ปรากฎ" (อเมริกากำลังจะบอกว่าที่จีนพูดนั้นเป็นแค่ราคาคุยเท่านั้น ขี้โม้ว่างั้นเถอะ ของสหรัฐฯสิมีข้อมูลตัวเลขที่ชัดเจน ซึ่งมีแต่สหรัฐฯเท่านั้นที่ทำตัวเลขขึ้นมาเอง ไม่มีประเทศไหนรับรองซักประเทศ พอไม่สามารถหาข้อมูลจากจีนหรือจากอาเซียได้ก็บอกว่าจีนไม่มีตัวเลข แต่ถ้าจีนมีตัวเลขมายืนยันพี่แกก็อาจจะแถไปอีกว่าตัวเลขนั้นไม่น่าเชื่อถือ สไตล์เฮเกโมนี่ก็จะเป็นเช่นนี้แล นั่นมันเรื่องในอดีต แต่เอาปัจจุบันนี้เลยดีกว่า GAO ของสหรัฐฯยอมรับเองแล้วใช่ไหมหละ?)
    รายงานข่าวบอกว่า 10 ประเทศสมาชิกอาเซี่ยนประกอบด้วย ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ เมียนม่าร์ (พม่า) เวียตนาม กัมพูชา บรูไน ลาว และฟิลิปปินส์ มีประชากรรวมกันทั้งหมดราว 600 ล้านคน และหนึ่งในภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็วมากที่สุดในโลก (ว้าววว!)
    สำนัก GAO ของสหรัฐฯเป็นองค์กรอิสระ มีความเป็นกลางทางการเมือง (ไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง nonpartisan) ซึ่งทำงานให้กับสภาคองเกรสและตรวจสอบว่ารัฐบาลกลางได้จ่ายเงินภาษีของประชาชนไปแล้วเท่าไร
    ดังนั้นเราจึงไม่แปลกใจที่พักนี้จะเห็นสื่อฯกระแสหลักทั้งของสหรัฐฯและตะวันตกออกมาเขียนข่าวโจมตีและดิสเครดิตเรื่องเศรษฐกิจของจีนอยู่เรื่อยๆ แต่พอไปอ่านข่าวเดียวกันจากสื่อฯฝั่งจีนและรัสเซีย หรือสื่อฯที่ไม่อยู่ในกำกับการควบคุมหรือได้รับอิทธิจากรัฐบาลของสหรัฐฯหรือตะวันตกก็จะเป็นอีกแบบหนึี่ง ทั้งๆที่ข้อมูลชุดเดียวกัน สถานการณ์เดียวกัน แต่ในแง่ของการวิเคราะห์กลับไปคนละทิศละทาง จุดมุ่งหมายก็คือหวังจะเล่นงานจีน (และรัสเซีย) ทุกประตูนั่นเอง หากอ่านข่าวจากสื่อฯของสหรัฐฯและตะวันตกโดยไม่ใช้วิจารณญาณให้ดี ก็จะถูกจูงต่อไปเรื่อยๆ
    ในขณะเดียวกันก็จะเคี้ยวเอื้องต่อไปเรื่อยๆเช่นกัน ไม่เชื่อหรืองั้นลองหาข่าวเกี่ยวกันเรื่องการปรับลดค่าเงินหยวนของจีน กับเรื่องการแข่งขันโครงการรถไฟหัวกระสุนระหว่างจีนกับญี่ปุ่นที่อินโดนีเซียมาอ่านดูสิ หรืออาจจะย้อนไปอ่านโครงการรถไฟควาเร็วสูงของจีนในรัฐแคลิฟอร์เนียมาอ่านดูก็ได้ ว่าสื่อฯกระแสหลักของสหรัฐฯและตะวันตกเขาเชียร์ฝั่งไหน? แต่สุดท้ายก็เสร็จจีนจนได้ ฮ่าๆๆ ขี้คร้านจะเอามาเล่าให้ฟัง เดี๋ยวโปรอเมริกาจะรับไม่ได้แล้วจะทำร้ายตัวเองซะเปล่า เป็นบาปเป็นกรรมเราอีก คริๆ
    ป.ล. รายงานต้นฉบับของ GAO ดูตามลิ้งค์ที่สองนะครับ ส่วนที่บอกว่ายอดการค้าของจีนแซงหน้าสหรัฐฯนั้นอยู่รายงานหน้าที่ 11 เดี๋ยวจะหาว่าสื่อฯรัสเซียมั่วหรือเพจ "ปอกเปลือก ทรราช" มั่วข่าว คริๆ
    The Eyes
    14/08/2558

    ภาพจาก © AP Photo/ Ng Han Guan, Pool

    ----------
    China Beating US in Trade Volume With ASEAN Nations / Sputnik International
    http://www.gao.gov/assets/680/671988.pdf
    U.S. GAO - Southeast Asia: Trends in U.S. and Chinese Economic Engagement
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    ได้เวลาเขี่ยเยอรมันออกจากยูโรโซน - นักเศรษฐศาสตร์อเมริกากล่าว (It Is Time for Germany’s Withdrawal From Eurozone – US Economist)

    [​IMG]

    -----------
    เมื่อวานนี้ (14 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news อ้างรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ DWN ของเยอรมัน ซึ่งลงข่าวว่านาย Patrick Chovanec นักเศรษฐศาสตร์สหรัฐฯมองว่าการเกินดุลการค้า (trade surplus) ของเยอรมันนีสูงเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุให้ขาดการถ่วงดุลอำนาจ (imbalances) ในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรเป็นสกุลเงินหลักของประเทศ (Eurozone) (เอาหละสิ ถึงคราวเชือดเยอรมันบ้างแล้ว โทษฐานร่ำรวยเกินหน้าเกินตาสหรัฐฯ และบังอาจไปทวงทองคำคืนจากสหรัฐฯด้วย)
    รายงานข่าวบอกว่าในปี 2014 ยอดการเกินดุลการค้าของเยอรมันอยู่ที่ €217 billion (ประมาณ 8.59 ล้านล้านบาท) และได้เป็นที่มีเศรษฐกิจดีอันดับสองของโลก รองจากจีน (the world's number 2 economy behind China) (โปรอเมริกาเซ็งอีกแล้วครับท่าน คริๆ) การเกินดุลการค้า (ของเยอรมัน) เกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่ารายได้จากการส่งออกสินค้า ดังนั้นเงินสำรองส่วนเกินจึงถูกนำไปปล่อยกู้และให้เป็นรางวัลกับรัฐต่างๆ (Trade Surplus คือ สถานการณ์ที่การส่งออกสุทธิเป็นบวกเมื่อเทียบกับการนำเข้า ซึ่งตรงกันข้ามกับ Trade Deficit - การขาดดุลการค้า ซึ่งหมายถึงสถานการณ์ที่การส่งออกสุทธิมีค่าเป็นลบ เพราะว่าส่งออกน้อยกว่าการนำเข้า ส่วนอีกสถานการณ์หนึ่งก็คือ ในกรณีที่การส่งออกสุทธิมีค่าเท่ากับ 0 หรือการที่มูลค่าการส่งออกมีค่าเท่ากับมูลค่าการนำเข้าพอดี หมายความว่าทั้งยอดส่งออกและยอดนำเข้ามีมูลค่าเท่ากัน ก็จะเรียกว่า "การได้ดุลกาค้า" Balanced Trade)
    DNW รายงานว่า ในกรณีนั้นเยอรมันได้ปล่อยกู้ให้กับประเทศต่างๆที่ใช้จ่ายมากกว่าสินค้าที่ประเทศเหล่านั้นผลิตได้เอง ซึ่งประสบกับภาวะการขาดดุลการค้า (อย่างเช่นกรีซเป็นต้น เมื่อวันอังคารที่ผ่านผู้แทนจากสถาบัน Ifo Institute for Economic Research ออกมาเปิดเผยว่าเยอรมันนีโกยกำไรจากวิกฤตหนี้สินของกรีซไปถึง $100 billion ประมาณ 3.5 ล้านล้านบาท ฮ่าๆๆ)
    อย่างไรก็ตาม นาย Patrick Chovanec นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน เขียนไว้ในนิตยสาร Foreign Policy ว่าแทนที่จะเป็นผลในเชิงบวกต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก การเกินดุลกาค้าของเยอรมันได้ส่งสร้างผลกระทบในทางตรงกันข้าม (ซะงั้น ฮ่าๆๆ เอากะอเมริกาดิ เห็นใครดีเกินหน้าเกินตาตัวเองไม่ได้ เป็นต้องออกมาเขียนวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศนั้นๆทันที แต่ถ้าจักรวรรดิเฮเกมียอดเกินดุลมากกว่าประเทศอื่นเขาจะพูดอย่างนี้หรือเปล่านะ?)
    Chovanec เขียนเอาไว้ว่า "วิกฤตของ (กลุ่มประเทศ) ยูโรโซนซึ่งมักจะเรียกกันอยู่บ่อยๆว่า วิกฤตหนี้ (debt crisis) แต่อันที่จริงแล้ว ยุโรปทั้งหมดไม่ได้มีปัญหาหนี้สินภายนอก (external debt problem หมายถึงหนี้สินที่กู้มาจากประเทศอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในยุโรปด้วยกัน แต่กู้จากไอเอ็มเอฟด้วยนี่นะ?) แต่เป็นปัญหาหนี้สินภายใน" (ไม่อยากเชื่อเลยว่าหมอนี่จะสอนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัย Columbia University จบจาก Wharton School of the University of Pennsylvania และ Princeton University ด้วย กรรม! อ่านข่าวให้จบก่อนดีกว่าแล้วค่อยเม้าท์ปิดท้ายทีหลังนะครับ เดี๋ยวจะหาข้อมูลเด็ดๆ เพิ่มเติมให้ คริๆ)
    ตามความคิดเห็นของนาย Chovanec การเกินดุลการค้าของเยอรมันนีและหนี้สินที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศยุโรปรอบนอกเป็นเหมือนเหรียญสองด้าน แทนที่จะเอาเงินเหล่านี้ไปลงทุนในเศรษฐกิจภายใน เยอรมันนำออกไปให้กับประเทศคู่ค้าของตนในยุโรป ซึ่งในทางกลับกันแล้ว (ประเทศเหล่านั้น) ก็ได้ใช้เงินจำนวนนั้นในการซื้อสินค้าของเยอรมันนั่นเอง (ก็ต้องมองว่างานนี้เยอรมันฉลาดสิถึงจะถูก สหรัฐฯก็ทำอย่างนั้นอยู่ไม่ใช่รึ? ด้วยการปล่อยกู้ประเทศอื่นแล้วบีบคอให้ซื้อสินค้าของตัวเองหนะ ดูที่ยูเครนเป็นตัวอย่างเห็นๆในปัจจุบันนี้สิ สหรัฐฯปล่อยกู้ทั้งจากไอเอ็มเอฟให้ยูเครน จากนั้นก็บีบคอยูเครนให้ซื้ออาวุธของสหรัฐฯ ทีอย่างนี้ไม่เห็นจะโวยวายอะไรเลย Oopz!… ว่าจะเม้าท์ทีหลังนะนี่ คริๆ)
    Chovanec แย้งว่า "ชาวเยอรมันอาศัยอยู่ในความเจริญรุ่งเรืองที่เป็นภาพลวงตา (illusion of prosperity) แทนที่จะทำงานจริงๆ (real work) พวกเขาพยายามที่จะพยายามที่อยู่รอดด้วยเงินที่อาจจะไม่ได้รับการชำระคืน"
    ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ (?) วิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดสำหรับเยอรมันนีก็คือ ถอนตัวออกจากยูโรโซน (ซะ) และหันกลับไปใช้เงินมาร์กเยอรมัน (ฮ่าๆๆ ฮิ้ววว) นาย Chovanec (จริงๆแล้วเขาเป็นถึงศาสตราจารย์เลยนะ) กล่าวว่าการเกินดุลการค้าหลายๆอย่างก็มีอยู่แล้ว แต่คำถามก็มีอยู่ว่าแล้วพวกเขา (เยอรมัน) จะใช้มันไปที่ไหน? (ก็ที่สหรัฐฯไง เอาให้เดี้ยงเหมือนกับกรีซเลยดีป๊ะ? คริๆ เอาทองคำของเยอรมันคืนมาซะดีๆ ทวงแล้วทวงอีกก็ยังหน้าด้านไม่ยอมคืนให้เขาอีก)
    สุดท้ายนาย Chovanec กล่าวว่า "การลงทุนภายใน (Domestic investment) อาจจะเป็นทางเลือกที่น่าพึงพอใจมากกว่า (สำหรับใคร? อเมริกานะสิไม่ว่า) ซึ่งอาจจะเป็นการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของชาวยุโรปอย่างแท้จริง" (เขาไม่ได้บอกว่าลงทุนภายในเยอรมันเองหรือว่าลงภายในกลุ่มอียูด้วยกัน ซึ่งตอนนี้เยอรมันก็ลงทุนในอียูอยู่แล้วถึงได้ทำให้เกิดการเกินดุลการค้าเป็นอย่างมากนี่ไง ดังนั้นเขาน่าจะหมายถึงการลงทุนภายในประเทศเยอรมันนีเอง เพื่ออะไร? ก็เพื่อไม่ให้เยอรมันนีร่ำรวยกว่าประเทศอื่นๆยังไงหละครับท่าน)
    คราวนี้ก็มาดูเรื่องดุลการค้าของสหรัฐฯย้อนหลังว่าเป็นอย่างไรบ้างนะครับ (โปรอเมริกาเห็นแล้วอย่าตกใจหละ? คริๆ) ข้อมูลจากเว็บไซต์ tradingeconomics ซึ่งเก็บตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจทั่วโลกของแต่ละประเทศมีหลายสำนักข่าวอ้างถึงอยู่บ่อยๆ ได้ทำกราฟว่าด้วย "United States Balance of Trade" ของสหรัฐฯ (ภาพที่ 4) ผลปรากฎว่าตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2014 จนถึงเดือนมิถุนายนปีนี้ ติดลบตลอด อย่างนี้หละมั๊งที่นักเศรษฐศาสตร์ของสหรัฐฯเขาชอบ อาจจะกล่าวได้ว่าหากสหรัฐฯยิ่งขาดดุลการค้ามากเท่าไรเศรษฐกิจของสหรัฐฯก็ยิ่งดีเท่านั้นหละมั๊ง? (คริๆ... กรรม!) อันที่จริงดุลการค้าของสหรัฐฯติดลบมาหลายปีแล้วนะ
    ไปดูข้อมูลจากธนาคารโลกบ้างนะครับ ในส่วนที่ว่าด้วย "Current account balance (BoP, current US$)" เขาได้ทำข้อมูลพร้อมกราฟแสดงดุลการค้าของประเทศต่างๆทั่วโลกไว้อย่างน่าสนใจ (เรียงตามตัวอักษร) แต่ตัดมาทำตารางใหม่เฉพาะประเทศจีน เยอรมันนี ญี่ปุ่น ไทย อังกกฤษ และสหรัฐอเมริกา (ภาพที่ 5) อุยโย๋... ตั้งแต่ปี 2010-2014 ดุลบัญชีเดินสะพัดของอังกฤษกับสหรัฐฯติดลบตลอดเลยอ่ะ ส่วนของจีน เยอรมันนี และญี่ปุ่นไม่ติดลบ ที่น่าสนใจก็คือของเยอรมันเพิ่มขึ้นตลอด ส่วนของญี่ปุ่นลดลงเรื่อยๆ ของไทยเป็นบวกในปี 2010 และปี 2011 ลดลงมาเรื่อยๆจนติดลบในปี 2012 และปี 2013 (ใครเป็นรัฐบาลอ่ะ? คริๆ) แต่กลับขึ้นมาเป็นบวกในปี 2014 อุ๊ยโย๋! ตอนที่เริ่มมีคสช.พอดีเลย คริๆ (Thank you ลุงตู่กับคสช.ที่เข้ามาช่วยได้ทันเวลานะครับ คริๆ)
    อ้อ…ไม่ใช่เฉพาะนาย Chovanec เท่านั้นนะที่ออกมาบอกว่าการที่เยอรมันนีมียอดการค้าเกินดุล (มากกว่าสหรัฐฯ) เป็นเรื่องไม่ดี นาย Ben S. Bernanke นักเศรษฐศาสตร์อเมริกันอีกคนก็ได้พูดไว้เหมือนกันในเว็บไซต์ของ Brookings เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2015 ซื่อตั้งชื่อบทความว่า "Germany's trade surplus is a problem" (การค้าเกินดุลของเยอรมันนีเป็นปัญหา) กรรม! เป็นปัญหาของใคร? ก็จะของใครอีกหละครับท่าน ก็ปัญหาของอเมริกาขี้อิจฉานั่นแหละมั๊ง? Brookings ทำกราฟประกอบให้ดูเลย เปรียบเทียบ 3 ประเทศ คือจีน เยอรมันนี และสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2000 ถึงปี 2014 ของอเมริกาติดลบตลอด ส่วนของเยอรมันนีกับจีนเป็นบวกตลอด แม้ว่าบางครั้งจะมีขึ้นๆลงๆบ้างแต่ก็ไม่ติดลบ ในสายตาของนักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกาทั้งสองคนนี้คงจะมองว่า การที่กราฟของจีนและเยอรมันดีวันดีคืนแบบนี้ไม่ดีต่อเศรษฐกิจโลกแน่ๆ (มั๊ง?) แต่ทำไมนักเศรษฐศาสตร์ชาวเยอรมันและชาวจีนหรือประเทศอื่นๆไม่เห็นพูดอย่างนักเศรษฐศาสตร์อเมริกันบ้างนะ? (ดูภาพที่ 6 ประกอบ คริๆ สุดจะฮาครับท่าน)
    คราวนี้ไปดูข้อมูลจากฝั่งสหรัฐฯเองบ้างนะ นี่อุตส่าห์ไปแงะข้อมูลมาจากสำนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (U.S. Bureau of Economic Analysis - BEA) และสำนัก U.S. Census Bureau (หน่วยงานด้านสถิติของสหรัฐฯ) ได้ทำตัวเลขเปรียบเทียบดุลการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนเอาไว้ตั้งแต่ปี 1985 จนถึงปีปัจจุบัน ในอดีตนั้นตัวเลขจะติดลบเป็นส่วนมาก (หมายถึงฝั่งสหรัฐฯนะ) ลองจับภาพแสดงตัวเลขการค้าขายระหว่างสหรัฐฯเฉพาะปี 2014-2015 มาให้ดู ในปี 2014 สหรัฐฯส่งออกไปจีนมูลค่า 123,675.7 ล้านดอลล่าร์ แต่นำเข้าจากจีนมูลค่า 466,754.5 ล้านดอลล่าร์ ขาดดุลการค้าไป 343,078.8 ล้านดอลล่าร์ (ยู้ฮู… สะใจครับพี่น้อง) ส่วนครึ่งปีแรกของปี 2015 สหรัฐฯส่งออกไปจีนมูลค่า 55,902.5 ล้านดอลล่าร์ แต่นำเข้า 226,671.8 ล้านดอลล่าร์ ขาดดุลอยู่ที่ 170,769.3 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ฮ่าๆๆ... อุ๊ย… ใครนะที่พูดว่า "ของจีนไม่ดีซักกะอย่างจำไว้!..." เมื่อวันก่อนนี้อ่ะ แล้วทำไมอเมริกาถึงนำเข้าจากจีนมากมายกว่าการส่งออกอีกหละนี่? คริๆ สุดจะฮาครับพี่น้อง
    มาดูอีกข่าวหนึ่งเพื่อเปรียบเทียบกันนะครับ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมปีนี้เอง เว็บไซต์ marketwatch.com ได้ลงบทความฉบับหนึ่งของ Jeffry Bartash นักข่าวของสำนักข่าว MarketWatch กรุงวอชิงตันดีซี โดยตั้งชื่อว่า "U.S. runs first trade surplus with Canada since 1990" แปลว่า "สหรัฐฯทำการค้าเกินดุลกับแคนาดาได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1990" (ฮ่าๆๆ ลองเดาดูซิว่านักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกันทั้งสองคนที่พูดถึงการเกินดุลการค้าเยอรมันจะดีใจหรือว่าเสียใจที่ได้อ่านบทความนี้?)
    รายงานข่าวจากกรุงวอชิงตันบอกว่า สหรัฐฯสามารถดำเนินการค้าขายเกินดุลการค้ากับประเทศแคนาดาได้เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม (ปีนี้) อย่างน้อยก็นับตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา เนื่องจากความต้องการในการใช้น้ำมันลดลง และเงินดอล่าร์แข็งค่าขึ้นซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการซื้อปิโตเลี่ยมจากต่างประเทศ (หมายความว่าถ้าเงินดอลล่าร์แข็งก็เป็นผลดีต่อการนำเข้าของสหรัฐฯ ผู้ส่งออกก็รวย คริๆ)
    Jeffry Bartash กล่าวต่ออีกว่า แม้ว่าดุลการค้ากับแคนาดาจะ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนการค้าที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เป็นบวก (แต่) การขาดดุลการค้าของประเทศก็ยังเพิ่มขึ้นถึง 2.9% ในเดือนพฤษภาคม ส่วนมากแล้วเนื่องมาจากสหรัฐฯส่งออกเครื่องบินและสินค้าอย่างอื่นที่ผลิตขึ้นมาลดลงด้วย
    ตกลงว่าสหรัฐฯอยากจะได้ดุลการค้ามากกว่าประเทศอื่นหรือว่าอยากจะให้ขาดดุลการค้ากับประเทศอื่นกันแน่นี่? อเมริกาจะเอายังไงก็ไปปรึกษากันให้ดีก่อนแล้วค่อยออกมาบอกชาวโลกก็ได้ แต่งานนี้ทั้งจีน เยอรมันนี รวมทั้งไทยด้วยบอกว่าต้องการจะส่งออกเยอะๆ ยิ่งเยอะยิ่งดี ดังนั้นแนะนำให้อเมริกานำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเยอะๆ จะได้ขาดดุลเยอะๆ ซึ่งอาจจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของอเมริกาก็ได้ ฮ่าๆๆ
    ป.ล. ดูจากที่สหรัฐฯปล่อยให้นักเศรษฐศาสตร์ออกมาเขียนข่าวแบบนี้ จึงทำให้เกิดความสงสัยว่าสหรัฐฯหวังดีกับยุโรปจริงๆหรือ? สหรัฐฯชอบใจหรือที่ยุโรปสามารถรวมตัวกันได้ และกำหนดสกุลเงินใหม่ขึ้นมาแข่งกับดอลล่าร์สหรัฐฯ ถ้าเขี่ยเยอรมันออกจากยูโรโซนได้ เหมือนกับที่อังกฤษไม่เล่นด้วย สุดท้ายแล้วยูโรโซนก็ต้องเดี้ยง อียูก็จบแห่ ใครได้ผลประโยชน์ ก็สหรัฐฯอีกนั่นแหละ เพื่อนกันเล่นกันเองซะแล้ว


    มีเพิ่มในย่อหน้าสุดท้ายว่า... ป.ล. ดูจากที่สหรัฐฯปล่อยให้นักเศรษฐศาสตร์ออกมาเขียนข่าวแบบนี้ จึงทำให้เกิดความสงสัยว่าสหรัฐฯหวังดีกับยุโรปจริงๆหรือ? สหรัฐฯชอบใจหรือที่ยุโรปสามารถรวมตัวกันได้ และกำหนดสกุลเงินใหม่ขึ้นมาแข่งกับดอลล่าร์สหรัฐฯ ถ้าเขี่ยเยอรมันออกจากยูโรโซนได้ เหมือนกับที่อังกฤษไม่เล่นด้วย สุดท้ายแล้วยูโรโซนก็ต้องเดี้ยง อียูก็จบแห่ ใครได้ผลประโยชน์ ก็สหรัฐฯอีกนั่นแหละ เพื่อนกันเล่นกันเองซะแล้ว


    The Eyes
    15/08/2558

    ภาพจาก © AP Photo/ Markus Schreiber

    ----------
    It Is Time for Germany’s Withdrawal From Eurozone – US Economist / Sputnik International
    German Benefits From Greek Crisis Need Further Consideration - Institute / Sputnik International
    Germany's trade surplus is a problem | Brookings Institution
    Current account balance (BoP, current US$) | Data | Table
    Germany's trade surplus is a problem | Brookings Institution
    https://www.census.gov/foreign-trade/balance/c5700.html
    News Release: U.S. International Trade in Goods and Services
    U.S. runs first trade surplus with Canada since 1990 - MarketWatch
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    อเมริกากลัวน้อยหน้าจีน (?)… เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานเคมีที่เมือง Conroe เท็กซัสเมื่อวันศุกร์ ว้าววว! เอาจริงอ่ะ?

    [​IMG]

    -----------
    เมื่อวานนี้ (14 ส.ค.58) สำนักข่าว RT news ของรัสเซียรายงานว่า มีสัญญาณแจ้งเตือนไฟไหม้ดังขึ้น 3 รอบ เนื่องจากมีไฟไหม้คลังเก็บวัตถุเคมีที่ใช้สำหรับขุดเจาะน้ำมันที่เมือง Conroe รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา นักดับเพลิงพากันต่อสู้กับเปลวไฟ รายงานจากสื่อฯท้องถิ่น
    รายงานข่าวบอกว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไฟไหม้ที่โรงงานของบริษัท DrillChem Drilling Solutions ซึ่งตั้งอยู่ที่ Loop 336 East และ Highway 105 ตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการประกาศอพยพผู้คน - จบข่าว ไม่เห็นบีบีซีกับซีเอ็นเอ็นลงข่าวนี้เลย แต่สื่อฯรัสเซียจัดให้ เพื่อให้ประชาชนชาวอเมริกันได้รับรู้สถานการณ์ต่างๆในสหรัฐฯได้มากขึ้น
    The Eyes
    15/08/2558

    ภาพจาก © RE ACTION / YouTube

    https://youtu.be/y4JGG_jOYyI

    ----------
    3-alarm fire engulfs Texas chemical plant (PHOTOS, VIDEO) — RT USA
    Three-alarm fire destroys chemical business in Conroe | abc13.com
    PHOTOS: Massive fire burning at chemical warehouse in Conroe | abc7news.com
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    เกาหลีเหนือยัวะขู่ว่าระวังเกาหลีใต้จะกลายเป็นทะเลเพลิงหากไม่เลิกเผยแพร่แผ่นพับโจมตีกรุงเปียงยาง

    [​IMG]

    -----------
    คิมน้อยชักจะหงุดหงิดขึ้นมาหละ... ขอจัดข่าวเบาๆให้แฟนเพจก่อนนะครับ วันนี้ (15 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "N. Korea Threatens to Turn S. Korea Into 'Sea of Fire' Over Leaflets" (เกาหลีขู่ว่าจะทำให้เกาหลีใต้กลายเป็นทะเลเพลิง กรณีแจกใบปลิว) ฮึ่ม! คิมน้อยชักเริ่มฉุนขึ้นมาบ้างแล้วนะนี่ เดี่ยวก็ขอเจรจารวมชาติ เดี๋ยวก็รงณงค์โจมตีเกาหลีเหนือ คบกับอเมริกามากก็เป็นอย่างนี้แหละ
    รายงานข่าวบอกว่าเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ผ่านสำนักข่าว Korean Central News Agency ของทางการเกาหลีเหนือเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า "กองกำลังหุ่นเชิด (the puppet forces) ไม่ควรลืมแม้ช่วงเวลาที่ว่าเกาหลีใต้ทั้งหมดอาจจะกลายเป็นทะเลเพลิง เนื่องจากปฏิบัติการแพร่กระจายใบปลิวอย่างบ้าระห่ำ" ( "the puppet forces" อุยส์... คิมน้อยใช้คำตรงเกินไปหรือเปล่าครับท่าน? ไม่ไว้หน้ากองทัพเกาหลีใต้บ้างเลยหรือ? สะเทือนไปถึงกรุงโตเกียวเลยนะนั่นหนะ ฮ่าๆๆ)
    ใบปลิวแผ่นพับมีการวิพากษ์วิจารณ์และล้อเลียนการปกครองของราชวงศ์คิมฝ่ายเหนือ (สื่อฯรัสเซียเขาเข้าใจเล่นนะใช้คำว่า North's ruling Kim dynasty ว้าววว! สะใจครับท่าน) และเน้นความเจริญทางด้านเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในความหวังเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับประชาชนชาวเกาหลีเหนือเพื่อให้ (ลุกฮือ) ต่อต้านผู้นำของกรุงเปียงยาง (มันเป็นสงครามทางจิตวิทยา การปลุกระดมภาคประชาชนให้ลุกฮือขึ้นมาคล้ายกับการปฏิบัติสีและอาหรับอัพไรซิ่ง อะไรพวกนั้นแหละ)
    "แผ่นพับดังกล่าวถือว่าเป็นการ "การประกาศเปิดสงคราม (an open declaration of a war) ต่อต้านเกาหลีเหนือ" ตามแถลงการณ์ของทางการเกาหลีเหนือ ปีที่แล้วเกาหลีเหนือได้ยิงปืนใส่ลูกบอลลูนที่นักกิจกรรมปล่อยให้ลอยข้ามพรมแดนเข้าไปในเมืองของเกาหลีเหนือ
    นักกิจกรรมชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งกล่าวกับสำนักข่าว AP ของตะวันตก (เห็นมะใครอยู่เบื้องหลัง?) ว่า ได้มีการผูกแผ่น DVD หนังเรื่อง The Interview ซึ่งเป็นพล็อตหนังฮอลลิวูดในการลอบสังหารผู้นำเกาหลีเหนือแนบไปกับลูกบอลลูนที่ปล่อยให้ลอยไปนั้น (ช่วงที่หนังเรื่องนั้นกำลังจะเข้าโรง อเมริกาก็ปล่อยข่าวว่าแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทโซนี่พิกเจอร์ และข่มขู่ว่าอาจจะเกิดเห็นการที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นถ้ามีการฉายภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ทำให้โรงหนังหลายแห่งไม่กล้าเปิดฉาย ต่อมาทางโซนี่ฯก็ฉายทางออนไลน์แทน และก็ฉายตามโรงหนังทั่วไปก็ไม่เห็นว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไร สุดท้ายก็กลายเป็นว่าจักรวรรดิเฮเก ชงเองกินเอง หนังก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ส่วนที่ว่าแฮ็กคอมพิวเตอร์ของโซนี่นั้นก็ไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันว่าเป็นฝีมือของเกาหลีเหนือ พอถูกวิจารณ์หนักเข้า จักรวรรดิเฮเกก็บอกว่าแฮ็กเกอร์ของเกาหลีเหนือได้รับการช่วยเหลือจากจีนแผ่นดินใหญ่ อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่เอฟบีไอของสหรัฐฯ แต่ไม่มีหลักฐานอีกตามเคย แต่คาดว่าข้อมูลของโซนี่พิกเจอร์น่าจะอยู่ในมือของเอ็นเอสเอของสหรัฐฯเรียบร้อยหมดแล้ว ฮ่าๆๆ)
    สำนักข่าว AP ของตะวันตกรายงานต่ออีกว่า "เมื่อเร็วๆนี้รัฐบาลเกาหลีใต้ ได้เรียกร้องให้นักเคลื่อนไหวละเว้นจากปล่อยบอลลูนโฆษณาชวนเชื่อไปยังเกาหลีเหนือ โดยกล่าวว่ากิจกรรมเช่นนั้นมีแต่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเลวร้ายลง และทำให้ชาวบ้านในเกาหลีใต้ตามแนวชายแดนตกอยู่ในความเสี่ยง" (แต่รัฐบาลเกาหลีใต้ก็ไม่จริงจังกับการห้ามกิจกรรมดังกล่าว เข้าทำนองที่ว่าปากว่าตาขยิบ ปากบอกว่าอย่าๆๆๆ (อย่าหยุด) แต่ก็เหมือนหลิ่วตาให้)
    ส่วนกรณีที่มีข่าวจากฝ่ายเกาหลีใต้ว่า กรุงเปียงยางวางกับระเบิดจนทำให้ทหารเกาหลีใต้ได้รับบาดเจ็บสองนายในขณะลาดตระเวนเมื่อต้นเดือนนี้ (งานนี้สื่อฯตะวันตกประโคมข่าวกันมันเลยหละ) ทางเกาหลีเหนือออกมาปฏิเสธว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังระเบิดกับดัก โดยกล่าวว่าข้อกล่าวหาของทางเกาหลีใต้ที่ว่ามานั้นเป็นเรื่อง "ไร้สาระ" (absurb)
    สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือเผยแพร่คำแถลงการณ์ของคณะกรรมาธิการเกาหลีเหนือว่า "หากกองทัพของเรามีความจำเป็นจริงๆ เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ทางทหาร เราจะใช้อาวุธที่รุนแรงกว่านั้น ไม่ใช่แค่ระเบิดกับดักแค่ 3 อันเท่านั้น"
    ก็เลยไม่รู้ว่าฝีมือใคร? ปฏิบัติการ False Flag ที่เอาไปวางไว้เองแล้วโยนอี้ให้เกาหลีเหนือ แล้วประโคมข่าวผ่านสื่อฯกระแสหลักของสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และตะวันตกหรือว่าเกาหลีเหนือทำจริงๆ แต่ดูเหมือนว่านับจากนี้ต่อไปทั้งจีนและรัสเซียกำลังหาทางช่วยเกาหลีเหนือให้เปิดประเทศ และบีบให้อันธพาลโลกยกเลิกการแซงชั่นเกาหลีเหนือให้ได้ คล้ายกับกรณีของอิหร่านนั่นเอง
    ป.ล. ภาพที่สอง คิมน้อยกำลังถูกห้อมล้อมด้วยทีมนักกีฬาฟุตบอลหญิงของเกาหลีเหนือ ซึ่งเดินทางกลับถึงกรุงเปียงยางที่สนามบินนานาชาติ Pyongyang International Airport เมื่อวันจันทร์ที่ 10 ส.ค.58 ที่ผ่านมาหลังจากเอาชนะในการแข่งขัน 2015 EAFF Women's East Asian Cup งานนี้คิมน้อยลงทุนไปต้อนรับนักฟุตบอลทีมชาติหญิงเกาหลีเหนือที่สนามบินด้วยตัวเองเลย เกาหลีเหนือได้แชมป์ รองแชมป์คือเกาหลีใต้ ที่สามคือญี่ปุ่น และที่สี่คือจีน (ทีมหญิงนะ)
    The Eyes
    15/08/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Ilya Pitalev

    ----------
    N. Korea Threatens to Turn S. Korea Into 'Sea of Fire' Over Leaflets / Sputnik International
    South Korea Accuses North of Laying Mines That Wounded Two Soldiers / Sputnik International
    This Week in Pictures / Sputnik International
    https://en.wikipedia.org/wiki/2015_EAFF_Women's_East_Asian_Cup
    https://en.wikipedia.org/wiki/2015_EAFF_East_Asian_Cup
     

แชร์หน้านี้

Loading...