เรื่องจริงไม่อิงนิทาน ประสบการณ์ตั้งแต่ 3 ขวบ จนถึงอายุ 57 ปีของผม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย บุญทรงพระเครื่อง, 19 มิถุนายน 2015.

  1. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ท่านเคยพูดว่า ถ้าท่านอยากจะรู้ใจคนหรือวาระจิตคนท่านสามารถ จะรู้พร้อมๆกัน ได้ไม่เฉพาะ ในประเทศไทย เท่านั้น ท่านสามารถ รู้ได้ทั้งโลกนี้เลย เรื่องแบบนี้ ผมไม่สงสัย เพราะว่า เจอจนชินแล้ว เมื่อก่อนนะครับ เรื่องอภินิหารต่างๆของท่าน และมีอีกคราว ท่านเรียก ผมให้ไปพบ ที่ตึกริมน้ำ ช่วงนั้น จะเปลี่ยนครู ใครจะอยู่กับ หลวงพ่อ หรือใครจะไปอยู่กับรัฐบาล ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ผมเอง ถูกกระทบ เหมือนลูกฟุลบอล อยู่ตรงกลางทำใจลำบาก ผลที่สุดต้อง การอยู่กับหลวงพ่อ ท่านบอกว่า มีอะไรควรเล่ามาให้หมด ให้เขียนอธิบายมา ท่านบอกว่า พ่อต้องการคนดีนะลูก พ่อไม่ต้องการเลี้ยงคนชั่ว ต้องการให้คนเป็นคนดี ไม่ต้องการเลี้ยงคนชั่ว


    และผลสุดท้าย ช่วงมีการเปลี่ยนแปลง คนดี ต้องออกไปด้วย อันนี้ น่าเสียดาย แต่ก็เป็นอดีดไปแล้ว ผมก็จำใส่ใจไว้ จะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง ทำตามความสามารถของเรา ท่านก็เคยถามว่า บุญทรง ทำอะไรได้บ้าง ผมตอบท่านไปว่า ทำเท่าที่ทำได้ครับ ท่านบอกมาว่า พูดอย่างนั้นไม่ได้ เป็นนักการภารโรง มันต้องตอบแบบนี้ และต้องทำให้ได้ ทุกๆอย่าง ตั้งแต่ ครูใหญ่ ถึง ครูน้อย ตั้งแต่ เล็กไปหาใหญ่ ตั้งแต่ ตรงนี้ ถ้าจำผิด ขออภัยครับ ตั้งแต่ สกกระเบือ จนยันเรือรบ ต้องเป็นหมด อันนี้ ท่านสอนบอกมันมีความหมาย เกินกว่านั้น
     
  2. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    และวันพระ ผมสังเกตุ หลายๆครั้ง ท่านน่าจะสอนผม ว่า เหมือนจะเจาะจง มาที่ผม ผมสังเกตุดู ท่านว่า จะสอนผู้อื่น ก้ต้องสอนตัวเองก่อน จะช่วยเหลือผู้อื่น ต้องช่วยเหลือตนเองให้ได้ก่อน และ แม้จะเกิดตามกันมา เป็น แสนๆชาติก็ตาม หรือเป็นอสงไขยก็ตาม ถ้ายังเอาดีไม่ได้ ก็ถือว่าเกิดมาเสียชาติเกิด นี่ผมยังจำได้เสมอๆมา แต่ทุกวันนี้ ก็ยังมิอาจเอาดีได้ สักทีครับ
     
  3. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    วันนี้ก็ขอคุยแค่นี้ก่อนครับ มีโอกาศ จะเข้ามาใหม่ ยังมีเรื่องสำคัญอีกเยอะที่จะเล่า บางเรื่องจำไม่ได้ ก้ผ่านไป ถ้าเรื่องไหนจำได้นึกได้ ก็จะนำมาพิมพ์ให้พี่ๆน้องๆได้อ่านกันต่อไปครับสวัสดีครับ
     
  4. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน ด้วยอาศัย ที่ผมได้ ทำงานในจุดต่างๆ ของวัดท่าซุง ผมก็กล้าพูดได้อย่าง เต็มปากเต็มคำ นะครับ ยากมาก ที่วัด ในประเทศไทย ของเรา จะมี สิ่ง ที่มนุษย์ ทุกคน หากิน เลี้ยงชีพ มีครบวงจรครับ ที่ผ่านๆมา แต่ว่า เมื่อมีของครบในวัด บางปี ที่ธรรมชาติ ได้ ทำลายลงไป อย่างน่าเสียดายครับ วัดท่าซุง อขงเราทุกคน ที่เป็นลูกศิษย์ในสาย หรือแม้ว่า คนไทยทั้งประเทศก็ว่าได้ เป็นต้นแบฉบับได้เป็นอย่างดี ทีเดียวครับ เอานะครับ ลองติดตามอ่านดูก็ได้ ว่าจริงไหม ที่ผมพูดมาครับ แต่หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นจริง ในปัจจุบัน ถ้าท่านเห็นว่า เห็นไม่มี เพราะ ท่านคงทำต่อไปไม่ได้ นะครับ


    มีทั้ง บุ๋น และ บู๊ มีทั้ง ปฏิบัติ ปฏิยัติ ปฏิเวท ทั้งทางโลกและทางธรรมครับ มีครบวงจรครับ อดีด ที่ผ่านมา เช่น มีการสอน กรรมฐาน เช้า กลางวัน เย็น ตอนกลางคืน ก็ทำเอง ฟังเทป วันละ ๔ เวลา มีทั้ง ธรรมมะ ทุกรูปแบบ ไว้ครบวงจร แม้ฟังเทป และอ่านหนังสือ สามารถ ไปสอบ นักธรรมในขั้นต่างๆ ได้ด้วยครับ มีโรงเรียน โรงพยาบาล มีสอน ดนตรี ไทย อังกระรุง ดนตรีสากล เครื่องยนต์ โขน สอน เจียระในเพชร ปัจจุบัน เลิกไปหลายอย่างแล้วครับ ไร่สวน หลายระบบ มีนา ร้อยกว่าไร่ มีเครื่องจักรกล มากกว่าชาวบ้าน ทั่วไปครับ มี สวนหย่อม ตก ร้อยไร่ มีป่า ธุดงค์ ตก ๓๐๐ไร่ มีโรงสีข้าว ตั้งแต่อดีด ถึงปัจจุบัน
     
  5. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เมื่อก่อน ในปีหนึ่งๆ สามารถ ผลิตคนงาน ออกไปเป็นช่าง ต่างๆมากมาย เช่น ช่าง ก่ออิฐ ถือปูน ช่างไม้ ช่างเหล็ก ช่างหล่อพระ ไปทั่ว ประเทศ มาแล้ว นับไม่รู้กี่ร้อย กี่พันคน ก่อให้เกิด รายได้ กะจายไปทั่ว ทั้งประเทศ มาแล้ว อดีด ถึงปัจจุบัน ทั้งรูปลักษ์ กลายเป็น ต้นแบบของประเทศไปแล้วครับ นี่ยังมาอธิบายไม่หมดครับ เพราะจำได้ไม่หมด นี่ก็แค่เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เท่านั้น แต่ความเป็นจริง มีมากกว่าที่คิดกัน แล้วแต่ใครจะเห็นความสำคัญอันนี้ครับ แม้ ทางวัดท่าวุง ที่หลวงพ่อพระเดชพระคุณ ท่านได้วางแผนเอาไว้ และทำมาโดยตลอดชีวิตของพระองค์ท่าน คือ จัดเป็นศูนย์สงเคราะ คนจน ในถิ่นทุระกันดาร และอุทกภัย วาตะภัย ในทุกพื้นที่ของประเทศมาแล้ว ทั้งภาคกลาง ตะวัน ออกตก เหนือใต้ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
     
  6. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    และผมเอง ได้ทำงาน ในหลายๆแบบของวัด มาโดยตลอดครับ เช่นทำงานในครว ล้างถ้วยชาม ก็อยู่ ๓-๔ ปี เป็นนักการภารโรง อยู่เกือบ ๓ ปี ทำนา ๑ ปี ปลูกป่าธุดงค์ เกือบครึ่งปี ขับรถขนหญ้าขนขยะต่างๆ ล้างส้วม ห้องน้ำ กวาด ลานวัน ตามถนนหนทาง ฉีนยาหญ้า ตัดหญ้า ช่วย เดินสายไฟ กับพระบ้าง ต่อท่อน้ำปะปา ไปในที่ต่างๆ ตามโอกาศ ที่พระให้ทำ ก้เจอประสบการณ์ ในวัดมากมาย แล้วแต่โอกาศ ก็ในสมัยหลวงพ่อ ต้องเจียมเนื้อ เจียมตัว เพราะเรามันแค่ คนธรรมดา แบบลูกกระจ๊อกเขา เลยไม่ค่อย ไม่ มีใครสนใจอะไรเท่าไหร่ คนจะมองข้ามไปเสมอๆ บางทีก้โดนดูถูก จาก คนรอบข้างบ้าง เหมือนกัน ในหลายรูปแบบครับ จึงต้องเจียมเนื้อเจียมใจ เมื่อก่อนนะ เมื่อหลวงพ่อท่านสิ้นไปแล้ว ก็ไม่ค่อยจะขึ้นกับใคร เพราะว่า โดน ถูกกฎมาพอสมควร ครับ เจอในหลายรูปแบบครับ
     
  7. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ทั้งพระทั้งฆราวาส ที่ท่าน ความมีเมตา ก็มีเยอะ คนที่เข้ามาวัด ท่าซุง นั้น มีหลายรูปแบบ ตั้งแต่ ที่เห็น ก็ตั้งแต่เชื้อพระวงค์ ลลงมา ถึงระดับพ่อ ค้า ประชาชนคนทั่วไป มีทุกระดับ ทุกชนชั้น แต่หลวงพ่อ มิเคย รักลำเอียง ท่านจะมีความเมตตา เสมอภาค แต่ว่าท่านจะให้ความสำคัญ ในด้านการปฎิบัติมากกว่า อย่างอื่น ๆ แม้แต่พระ ถ้าต้องการจะ ไปสอบนักธรรม ในขั้นต่างๆ ท่านให้ดูหนังสือไปสอบเอา ท่านไม่นิยม ในการส่งเสริมให้พระเรียน เพราะว่า เท่าที่ทราบ ท่านกว่าวไว้ว่า ส่วนใหญ่ พวกนักบวช เมื่อ เมื่อเรียน ได้ขั้น ได้ชั้นยศแล้ว จะติด ยศ อำนาจ หลงเสียส่วนใหญ่ ท่านจึงไม่นิยม แต่ท่านมิได้ห้าม แล้วแต่ความเหมาะสม และความจำเป็น


    ท่านตั้งโรงเรียนขึ้น มาเพื่อ สงเคราะคนจนๆที่พ่อแม่ ไม่สามารถ ส่งลูกเรียนกันได้ แต่ว่า ในสมัยมันเปลี่ยนไป ไม่เหมือนท่านอยู่ ก้เป็นธรรมดาแหละครับ และในสมัยนี้ มันสมัยเรียน ในด้าน หาความรู้กัน ในด้านสังคม แต่ท่านจะเน้น ในด้าน จริยธรรม ศิลธรรม คุณธรรมมากกว่า ถ้ามีคุณธรรม จริยธรรม ศิลธรรม จารีตประเพณีอันดีงาม ทำให้คนมีคุณธรรม มันก็ถ้ามีโอกาศ ไป ปกครองบ้านเมือง หรือไปทำงานในด้านอาชีพ ต่างๆ มันก็จะไม่มี คนคตโกงกิน บ้านกินเมือง ไม่กดขี่ ข่มเหง ชาวบ้านที่เขาอ่อนแอ่กว่า และท่านต้องการ ให้เด็กๆ ที่อยู่ในความอนุเคราะของท่าน เป็นคนมีมารตฐาน คุณภาพ เป็นตัวอย่างของประเทศชาติต่อไปในอนาคตครับ
     
  8. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกๆท่าน ที่เข้าติดตามอ่านกันมาโดยตลอด วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เข้ามา เล่าให้ฟังกันต่อไป แหมแต่ว่าไม่มีใครนำเอาเรื่องต่างๆ มาเล่าสู่กันฟัง ทำให้นึกเรื่องต่างๆไม่ออก และเรื่องที่จะเล่า มันเลยหายไปเยอะครับพี่น้อง ความเดิมตอนที่แล้ว มาจบลงตอน ที่ทำงานอยู่วัดท่าซุง เข้าๆออกๆ แต่เวลาเข้ามาอยู่ที่วัดใหม่ มันก็เหมือนกเป็นคนหน้าใหม่ต่อไปครับ บางที ก็อดเห็นคนรุ่นใหม่ บางคน เหมือนจะทำตัว ข่มผู้อื่นก็มี อันนี้มันอดไม่ได้ หรือ อดไอ้ที่บอก หรือทำแบบนั้น ก้เพื่อปรามมันที่บางคน จะทำท่าข่ม หรือจะ เหยียดหยาม นั่นแหละ เขาจึง ลามือหรือไม่มายุ่งกับเราไงครับ จริงๆไม่อยากบอกหรอก เพราะว่าผมยังเอาดีไม่ได้ ถ้ามีไม่ได้ครับ คนประเภทนี้ บางที เราเองไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราเคยมาอยู่ บางทีก้อดไม่ได้ ก้เลยแสดงตนเสียหน่อยนะ จริงๆก้ไม่อยากให้ใครรู้หรอก หรืออวดเบ่งหรอกครับ มันทนไม่ได้จริงๆ ที่จะบอกว่า ผมน่ะ เคยมาอยู่ในสมัยโน้นแล้ว โน่นผมจะบอกเลย ให้มันรู้กันบ้าง ผมเข้าวัดมา ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๙ โน๋น


    ถ้าเขาดี ผมจะไม่ให้รู้เลย คนเรา จะเข้ามาก่อน หลังก็ไม่สำคัญๆที่เราเคารพให้เกียจกัน เคารพสิทธิซึ่งกันแลกัน ยอมรับกัน เท่านี้แหละผมพอใจ แหมบางคนก็วางท่านะ ไอ้แบบนี้ มันน่าตบสักฉาด สองฉาด ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    มีวัดนึงที่เคยทราบมาว่ามีคนเปิดประตูวัดให้คนเข้าด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสทุกวัน ที่สุดก็มีคนถามปรากฎว่าท่านนั้นคือเจ้าของบริษัทที่มีคนเป็นร้อยๆทํารายได้เป็นล้านๆ นี่แหละค่ะ อัตตาของคน อยู่ที่ว่าเราจะลดตัวอัตตาลงได้แค่ไหน
     
  10. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    อยู่ในวัดท่าซุงตอนหลวงพ่อ ท่านมีชีวิตอยู่นี่ ใครๆก็ต้องระวัง จิตตัวเอง คิดดีคิดชั่ว ผมเองก้เช่นเดียวกันคนอื่นๆนั่นแหละครับ กลัวหลวงพ่อ ทำบุญแล้วต้องรีบออกไปทันทีครับ มีอะไรกระทบอะไร ท่านก็จะเมตตาเสมอๆมา บางที ท่านก็จะมาให้กำลังใจ เดินผ่านมาบ้าง มาทักบ้างคำสองคำ พอให้เราได้รู้ ว่าพ่อรู้นะ ว่ามีเหตุอะไร รู้กันแค่ ๒ คนคือหลวงพ่อ กับผมเท่านั้น บางที่ก็มาถึงพยักหน้าให้ บางทีก็ ดีแล้วลูกเอย มันอยู่ที่ความคิดด้วยในคณะนั้นน่ะครับ ท่านเป็นผู้รู้ จริงๆอย่างแท้จริง


    อะไรๆก็ปิดบังท่านมิได้เลยจริงๆครับ ทั้งด้าน อิทธิฤทธิ ปาฏิหาริย์นี่ ทั้งด้านธรรมะ ท่านฉลาดในการสอนทุกระดับ ทั้งรู้วาระจิตนี่ ไวมาก ทั้งเราจะอยู่ที่ไหน อธิษฐานมาจากไหน ท่านรู้หมด และสงเคราะได้โดยทั่วถึง ถ้าประเภท มาลองดี มีทิฏฐิ ท่านไม่สงเคราะ หรือโปรด ถ้าผู้ลองดี และละคายทิฏฐิมานะลงได้ ท่านจะสงเคราะ ทันที ถ้า ละไม่ได้ ท่านไมสนใจบุคคลพวกนี้อยู่แล้ว ท่านดูตรงนั้นด้วย ไม่ใช่ ท่านจะโปรดดะนะครับ ก็เหมือนพระพุทะเจ้านั่นแหละ ใครไม่เชื่อ หรือไม่มีศรัทราในพระองค์ท่านๆก็หลีกไป ไม่สนใจแยแสทั้งสิ้น เพราะบุคคลพวกนี้ โปรดไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2015
  11. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:({) สวัสดีครับ อาซือเจ๊ต้อย ที่ติดตามอ่านตลอด ไม่เคยขาดเลย โมทนาสาธุด้วยนะครับ ขอบคุณครับที่เข้าใจ จริงๆก็มีทุกวัด แหละครับมากบ้างน้อยบ้าง เป็นธรรมดา แต่บางที่มันก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันน่ะซีครับ ถือตัวถือตนมากเกินไป และยิ่งพวก เป็นครู สอนกรรมฐาน ญาณ ๘นี่ ถือว่าเป็นผู้รู้แล้ว เป็นครูสอนเขามันน่า จะนำความรู้นั้นๆมาสอนจิตใจขัดเกรา กิเลสตนเอง กลับ มีใจอิจฉาริษยา ให้ร้ายผู้อื่น อันนี้ผมเองก็ทนได้ยากยิ่งจริงๆครับ แต่ถ้าเราทำเป็นตัวแทน มันก็เลย ไม่เท่าไหร่ เขาทำเราแต่เราไมสนใจ เราแค่เป็นตัวแทน มันไม่ใช่ของๆเรา ก้เลยไม่โดนเรา เขาทำ ก่เหมือนเขาทำกับพระโดยตรงตรงนี้แหละครับ อันตรายมากๆเลยครับ :cool:
     
  12. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ในปี ๒๕๓๓หรือ ๒๕๓๔ ในปีนั้นผมมา อยู่วัด หลวงพ่อเทศวันพระ ที่ศาลาพระพินิจอักษรทองดี เทศเสร็จ ท่านก็เหยียดขา ๒ ข้างออกมา หน้าธรรมมาส บอกว่า เอ่อ มันปวดไปทั่ว หมดเลย แย่มากๆ ปรกติ หลวงพ่อเทศผมจะอยู่ใกลมาก กลางศาลาไม่งั้นก็โน่นเกือย สุด ศาลา บังเอิญวันนั้นหลวงพ่อ พรรณาเรื่องการป่วย แม้เทสจบสักประเดี๋ยวท่านจะลง จากธรรมมาส วันนั้น ท่านยังไม่ยอมลง ผมเอง เมื่อคิดว่า วันนี้ หลวงพ่อคง มีอะไรให้เราอีกเป็นแน่ ผมเองก็แข็งใจเดินเข้าไปที่ธรรมมาส แล้วเข้าไปนวดขาหลวงพ่อ สักพักหนึ่ง ท่านบอกว่า เอ่อ ค่อยยังชั่วหน่อย


    หลังจากนั้นผมก็ถอยหลังแล้วเดินออกมา พอเดินมาเกือบสุด ศาลาพระพินิจ บังเอิญผมก้ยกมือมาดมดู ปรากฎว่า แทบทนไม่ไหว มันเหม็นมาก จนบอกไม่ถูกครับ เหม็นคล้ายซากศพ เรียกว่า แทบ รีบเอามือ ออกจากจมูกไม่ทันเลย มันจะอาเจียรครับ ผมก็ นึกในใจ หลวงพ่อ ให้น้ำมนต์ผมก็ถูๆหัว เช็ดหัว มันก็ไม่หายเหม็นกับเหม็นหนักขึ้นๆ ผมดมดูหลายเที่ยว แล้วนึกใจใจว่า หลวงพ่อ ให้กรรมฐานเรา คงให้พิจรณา ร่างกายเป็นหลัก ผมเดินไปล้าง ที่ก๊อกน้ำ แล้วเช็ดมือ ปรากฎว่าไม่มีกลิ่นเหม็น ให้ปรากฎอีกเลยครับ
     
  13. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน วันนี้ก็มาคุยกันเช่นเคยครับ ความเดิมตอนที่แล้วมาจบลงตอนที่ไปฟังเทศหลวงพ่อ ที่ศาลาพระพินิจอักษรทองดี วันนี้มาเล่าเรื่องเกล็ดเล็กเกร็ดน้อย กันดีกว่า เรื่องพระองค์ที่ ๑๐ ในวันฉลองงานทำบุญวัดท่าซุง ปีนั้น เป็นปี ที่มีพระอริยเจ้ามามากที่สุดในประวัติการ หลวงพ่อท่านบอกว่า พระองค์ที่ ๑๐ ได้มาบอกล่วงหน้าไว้แล้ว จะมาในลักษณะ ของพระหนุ่ม อายุในราว สัก ๓๐ ปี และก็พระองค์ที่ ๑๑ และพระป่าจะมามาก เพื่อให้เป็นกำลังใจในการปฏิบัติ ในความดี ของลูกๆหลานของหลวงพ่อเรา ท่านจึงได้เชิญพระต่างๆมาในงานมากมายจริงๆ

    ผมคนหนึ่ง ที่คอยจดจ่อจดจ้องไปกราบพระ ต่างๆที่สำคัญตามท่หลวงพ่อท่านบอกไว้ ด้วยเหตุนี้ผมจึงตระเวนหาพระต่างๆที่ผิดสังเกตุ ที่มาในงานวัด ตั้งแต่เริ่มงานก็ได้มีพระจากที่ต่างๆ มาจากทิศทั้ง ๔ มีทั้งห่มกรัก แดง กรักดำ กรักเปลือกขนุน สีเหลือง เหลืองทอง มีทั้งมาแบบปรักกรด และก็มีพระที่ปลอมตัวมาหากิน ก็มีหนึ่งท่าน ตอนนั้นหลวงพ่อยังไม่ได้สร้าง ศาลา ๔ ไร่ ผมเองก้ได้ไปดูแต่ไม่ได้ทำบุญด้วยเห็นว่าแปลกๆเอาแต่เงิน พูดวิธี หว่านล้อม แต่ตอนหลัง หลวงพ่อแจงมาว่า น้ำถึงไหนปลาถึงนั่น พระดีมาจากไหน นักบวชเลว ก็มาหากินด้วยเสมอๆ แต่ภายหลัง หลวงพ่อให้ทหารตำรวจ ไล่ออกจากวัดไป และพระที่จับเงิน หลายประการ และจับเงินแต่ไม่เอาไป แต่กับให้ตำรวจทหาร เอาเงินไปให้หลวงพ่อแทนนี่มันเป็นอย่างนี้ มีทั้ง ปลอมตัวมา และก็แท้ที่มาโปรด จริงๆ นี่ก็เป็น อุทาหารณ์ สอนใจกระผมเอง คือประสบการณ์อีกแบบหนึ่งครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2015
  14. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    วันงานของวัด ผมได้ทำงานช่วยวัดจุดต่างๆแต่เมื่อมีช่วงว่างๆหน่อยก้จะปลีกตัวออกตระเวนหาพระที่มาแบบแปลกๆ มาโปรดญาติโยม ตามที่ต่างๆ ผมก็ตะเวนไปทั่ว จนกระทั่ง สักในราว ๓ โมงถึงไม่ถึง อย่าเอามาเป็นประเด็นสำคัญเลยครับ เอาเนื้อเรื่องเป็นสำคัญเรีอกว่าให้ผิดน้อยที่สุดครับเพราะมันมีเรื่องราวต่างๆให้ได้จดจำอีกมากมายก่ายกอง เมื่อมาถึง ริมศาลาวัดเก่า มุมหนึ่งของศาลาเก่า ผมก็เข้าไป แล้วก้มลงกราบ ๓ ครั้งพอว่าเริ่มลงกราบเท่านั้น ท่านกว่าวออกมาอย่างไพรเราะ ว่าเธอตั้งใจหาเรามาเนิ่นาน แล้วมิใช่หรือ เธอตามหาเรา ตั้งแต่ ตี ๕ มา ณ บัดนี้ ได้พบเราแล้ว


    ด้วยบารมีที่เราบำเพ็ญมาดีแล้ว ๔ อสงไขยกำแสนกัป ขอเธอทั้งหลาย จงเป็นผู้ หมดทุกข์ด้วยกัน ทุกท่านเทอญ อะไรประเภทเนี้ยครับ ท่านจะให้พรบ่อยๆ จากที่ผู้ที่มาทำบุญกราบท่าน พวกลูกฤาษีลิงดำ ท่านพูดไพรเราะมากเลยครับ ฟังดูกังวาลจับใจ เมื่อได้ฟังครั้งแรกนี่ ก็ได้จับใจความว่า คำพูดแบบนี้ มันเป็นคำพูดของพระพุทธเจ้าเท่านั้นครับ พระสาวก ไม่มีใครพูดแบบนี้แน่นอน ด้วยผมเองก็ใช้ปัญญา คิดไตร่ตรอง และความคิด ต้องแยกแยะออกให้ได้ ไม่ว่าฟังอะไรมา แล้วผมก็ออกมาอยู่ด้านซ้าย มือผม ขวามือของพระองค์ที่ ๑๐
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    ตรงนี้แหละค่ะ อ่านแล้วตื่นเต้นมาก(จากหลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุน)เกี่ยวกับพระองค์ที่๑๐และพระองค์ที่๑๑ สาธุธรรมค่ะ
     
  16. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    มาตอนหลังได้เห็น หลวงพี่ อ.เล็ก สุธัมมะปัญโญ วัดท่าขนุน นั่งอยู่ใกล้ๆด้านหลังพระซ้ายมือพระ ขวามือผม ท่านบอกว่า ลูกศิษย์ฤาษีดื้อจังบอกให้ออกไปไม่ค่อยออกไป แต่ผมเอง เพื่อไม่ให้คนอื่น หรือเอาเปรียบ ผมจะเบี่ยงเบนไม่ให้ ไปขวาวผู้อื่นด้วยมารยาท คอยฟังท่านพูดและให้พร มีคนเข้าคนออกตลอดเวลา เงินตรงหน้าท่านก็เต็มอยู่เรื่อย ท่านก็ให้ตำรวจ ทหารเอาไป ให้เธอจงเอาไปให้ท่านฤาษี บางที่ท่านก็จะพูดว่า พ่อของพวกเธอ สอนแบบๆนี้ อะไรจำไม่ได้ บางที่แต่ละคนเข้าไป ท่านจะสอนไม่เหมือนกันนะครับ ทุกอย่างเหมือนท่านรู้ใจไปหมด พูดแทงใจดำ จริงๆ แต่ถึงผมจะเข้าใจว่า ท่านเป็นพระองค์ที่ ๑๐ แน่นอน แต่ก้ยังเครือบแครงในใจอยู่ดี


    เมื่อเวลาผ่านไป ถึง ๑๑ โมงเช้า มีคนเอาอาหารไปถวายท่าน หลายอย่าง ในคณะนั้น ท่านก็หันหน้ามาที่ผม ท่านกว่าวว่า เธอจงไปเอาน้ำ มาให้เรา ผมก็หาของที่จะใส่มาให้ท่าน ผมหาอยู่พักหนึ่ง ก็ไปเจอแก้วน้ำมาล้างแล้วเอาน้ำฝนในก๊อกแท๊งน้ำ เข้าไปถวายท่าน เพื่อให้ท่านฉันได้สดวกผมก้เลยลงมาด้านล่าง เลยเล่นสักพักว่าพอท่านฉันเสร็จจะฟังดูท่าให้พร พอท่านให้พร ท่านสวดดังกังวาลไพรเราะมากครับ เมื่อให้พรเสร็จ ผมก็ไปกินข้าว ก้เข้าไปช่วย ยกถังสังฆทานอีกพักหนึ่ง พอได้จังหวะ ผมก็ฉากตัวออกไป จะเป็นเวลาประมาณบ่ายโมงประมาณเนี้ยครับ
     
  17. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    :cool:({) สวัสดีครับ อาซือเจ๊ ผมเองได้ฟังก็จริง ความจำมันจำไม่ค่อยได้ ฟังเวลานั้น อย่างน้อยก็ ๒ ชั่วโมงกว่า แต่ตอนบ่ายมาฟังต่อ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังต่อครับ กะว่าให้จบเลย เอาแต่ใจความเท่านั้น จริงๆมันมากมาย กราบหลายพระองค์ แต่ละๆจุดนี่ ผมก็คนหนึ่งตะเวนไปกราบทั่ว เหมือนกันครับ ขอบคุณครับที่ติดตามอ่าน :cool:
     
  18. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    พอผมออกมาจากช่วยยกถังสังฆทาน ที่พี่สมานเป็นหัวหน้า พระในสมัยนั้น ผมก็รีบปลีกตัวไปทันที ก่อนที่จะถึง ผมก้อธิษฐานว่า ถ้าองค์ที่ อยู่มุมศาลาเก่า เป็นพระองค์ที่ ๑๐ จริง ก็ขอให้ได้ฟังธรรมจากท่านเลย ถ้าไปถึง เมื่อผมไปถึงศาลาเก่า แต่ไม่เห็นท่านอยู่มุมเดิมแล้ว แต่เห็นคนที่โคนต้นโพธิ์ฝั่งแม่น้ำ แสกกรัง ลุมล้อมเต็มไปหมด พอผมแซกผู้คนเข้าไป ท่านก้เริ่มเทศ ทันที เรื่องอะไรบ้างก็ไม่ได้จำหรอกครับ น่าจะเป็น เรื่องอริยสัจ ๔ ด้วย หลายเรื่อง ผมก็มั่นใจ เต็ม ร้อยเปอร์เซ็น ไอ้ที่นั่งฟังอยู่ศาลาเก่า นั่นมันก็มั่นใจ แต่เพื่อ ความเป็นจริง ขอรับลองผล จากท่านอีกที ว่าใช่ไหมเท่านั้นเอง จึงอธิษฐานทับอีกครั้งครับ นี่เป็นแบบนี้ครับผม แล้วก็สัมฤทธิผล ดัง ที่ผมอธิษฐานไปครับ สมเจตนาเดิมของผมครับ


    แล้วแต่ละคน ที่ไปกราบพระต่างๆ หลายพระองค์ ล้วนแต่ประสบการณ์ ไม่เหมือนกันก็มีครับ ส่วนหลวงน้าเจริญ ท่านมรณะไปนานแล้ว ท่านบอก หลวงปู่โลกอุดรไปโปรดท่าน ท่านแสดงเป็นเณรมาครับ พระองค์ที่ ๑๑ นี่ ผมแค่ได้ทำบุญและไปกราบท่าน เท่านั้น และอีกหลายองค์ บ้างก็ว่า พระโมคคัลลาสารีบุตร อยู่แต่ละจุดๆ ผมก็เข้าไปทำบุญอุตลุด เหมือนกัน แต่ที่ปลอมตัวมาตอนหลัง หลวงพ่อบอก ว่า เหี้ย มาปลอมตัวมา ที่ให้ทหารไปไล่ บังเอิญผมก็เข้าไป แต่ไม่ได้ทำบุยด้วย เพราะเห็นไม่ชอบใจ ในจริยาน่ะครับ สังเกตุดูด ถึงเราไม่มีทิพย์จักษุญาณ ก็อาศัย ปัญญาไตร่ตรองดูด้วยเหตุผล เอาครับ
     
  19. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    และเมื่อหลังเสร็จงานของวัดแล้ว ผมก้แอบ ไปฟังหลวงพ่อ ที่ศาลาเก่านวราชบพิธ หน้าโบสถ เพื่อหาประสบการณ์ ว่าหลวงพ่อท่านจะพูดว่าอย่างไรบ้าง ด้วยที่ผมมีเวลาจำกัดเลย ไม่ค่อยได้ฟังรายละเอียดเท่าใดนัก เพราะมีงานประจำต้องทำ การปลีกตัวเป็นเรื่องลำบากหน่อยครับ ด้วยวิสัยผมมันชอบ หาเหตุผล ประสบการณ์ ด้วยตนเอง เสียส่วนใหญ่ และหลวงพ่อเอง ไม่สอนผมโดยตรง จึงไปถามท่านเพียงครั้งเดียวไม่เคยไปถามอีกเลยครับ ก้เสมือนท่านตีด้วยไม้หน้า ๓ เสียอย่างแรง จะไปถามอีกได้อย่างไรกัน ก็ท่านว่า อย่างนี้ครับ หนังสือ ก็มี ตำรา เยอะแยะมากมาย เทป ก็เปิดให้ฟังวันละ ๔ เวลา ท่านพูดมาก กว่านี้อีกครับ แต่จำไม่ได้ ผมประเภท ความจำไม่ดี ไม่เหมือนหลวงพี่ อ. เล็ก วัดท่าขนุน ท่านมากด้วย ปัญญาจริงๆ แค่เรียนพระ คาถาตำตระกรุด


    จากพระกระเหรี่ยง หลวงปู่เนป่อง จากวัด คิตี้บน เมืองกาญ แค่บอกทวน ๒ หรือ ๓เที่ยว ท่านจำได้เลย ถ้าเป็นเราๆท่านๆ ต้องจดใส่กระดาษ หนังสือ แล้วท่อง ต้องใช้เวลา เป็นชั่วโมง ๆถึงจะท่องได้ แต่ นี่ท่าน ความจำเป็นเลิศจริงๆสมกับที่หลวงพ่อบอกว่า ตอนที่หลวงพ่อบวชให้ ปี ๓๐ บวช ๓๐ องค์ องค์สมเด็จท่าน ตั้งฉายาตรงกับ ที่บำเพ็ญบารมีมาแต่อดีด ที่ ชื่อ ฉายา พระสุธัมมะปัญโญ มีปัญาเป็นเลิศ ผมก็ได้ ที่ พระสุธัมมะวิระโย ใช้ความเพียร นำหน้า ผมเอง ขัดเคืองใจนิดหน่อย ไม่ชอบฉายานี้ อยากเป็นผู้มีปัญญามาก ในชาตินี้ จึงนึกในใจว่า ถ้ากูมีโอกาศ ได้บวชอีกถ้าเป็นไปได้ ปีหน้า กูจะเปลี่ยน ฉายาใหม่ ที่พระสุธัมมะปัญโญ พอนึกเช่นนั้น หลวงพ่อ บอกสวนหมัดมาเลย ท่านบอกว่า บัญชา ถ้าใครบวชปีหน้าอีก ให้ใช้ฉายาเดิม ฉายาใครฉายามัน นี่เป็นอย่างนี้ครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2015
  20. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับ พี่ๆน้องทุกๆท่าน วันนี้ก็เข้ามาเล่าสู่กันฟังอีกเช่นเดิม ความเดิมตอนที่แล้ว มาจบลงตอนที่ ฟังธรรมจากพระองค์ที่ ๑๐ และได้ เล่าเรื่องที่ผมกับ อ.หลวงพี่เล็กวัดท่าขนุน ได้รับฉายาจากหลวงพ่อ ตอนบวชพระครับ และความจำ ของ อ.หลวงพี่เล็ก ท่านนี่ผมยังไม่เคยเห็นใครๆ ความจำดีระดับนี้เลยครับ ผมเองอยู่กับกระเหรี่ยง มาหลายปีไม่เคยถามชื่อเสียงเรียงนาม อ.หลวงพี่เล็กมาแป๊บเดียว รู้จักคนไปทั่ว ชื่งเรียงนามเป็นมาอย่างไร รู้ไปหมด ไอ้เราอยู่ตั้งนาน เสือกไม่รู้จักแต่เห็นหน้าจำได้ นี่เป็นแบบนี้ครับ ปัญญา มันต่างกันอย่างนี้ นี่เขาจึงเรียกว่า ระหว่าง ปัญญา กับความเพียร


    ใครคิดอย่างไร ผมไม่รู้ แต่ผมคิดของผมแบบนี้ครับ แต่ว่า ถ้ามาพูดถึงเรื่องบารมีนี่ คือมันต้องทำหมดเหมือนกัน อย่างไหนจะนำหน้าเท่านั้นครับ แต่ละชาติ หนักด้านไหน และนำหน้า ด้วยบารมีอะไรเป็นหลัก ถ้าจะพูด ก็พูดตามหลัก ที่พระพุทธเจ้าเกิดเป็น พระโพธิสัตว์ บารมี ๑๐ ชาติสุดท้าย ให้ดูตัวอย่างแบบนั้นเลยครับ เหมือนกัน แต่ว่าอยู่ที่การพำเพ็ญว่า ถึงระดับใด เท่าเองครับ จะเป็นพุทธภูมิ หรือ ปัจเจกะภูมิ หรือ สาวกภูมิ มันเหมือนกัน แต่หนักเบาไม่เท่ากันครับ อยู่ที่การทำความปราถนา ว่าเราปราถนาจะเป็นอะไรเอาอะไร นี่ต่างหากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...