ปุถุชน....คนช่างสงสัย...

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย raming2555, 4 กุมภาพันธ์ 2015.

  1. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    แสดงว่าไม่ใช่ทั้งสองอย่างนะคะคุณนพฯ
    ไม่เป็นประโยชน์ งั้นดิฉันลบๆๆ
    ขอบคุณค่ะคุณนพ :cool: งั้นข้าเจ้าขอตัวไปงีบล่ะ ที่นี่ตี 3 ครึ่งแล้ว
    ดิฉันเพิ่งทราบว่าคุณนพฯ ทำงานด้วย (จากแร๊บที่ #309 โหยยย..... สุดยอดเลย ดิฉันนอนไม่ถึง 5 ชั่วโมงเนี่ย แทบเดี๊ยงเลย หน้านี้ดูไม่มีสีเลือดเลยค่ะ)

    ปล. ดิฉันเห็นข่าวลงหมอเสน่ห์ด้วยล่ะ
     
  2. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,516
    ไม่รู้ทำไม ในฝันจะไม่ค่อย รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ เลยค่ะ
    เคยฝันว่าเจอ ป๋า ระมิงค์ ค่ะ แต่ท่านแก ไม่ยอมปรากฎกายอ้วน เอ๊ยกายหยาบ

    ส่งมาแต่เสียง อบรม บ่น แจ๊ดๆๆฉอดๆๆๆ

    มีฝันที่ น่าเอาหัวไปตัด ๗ ชาติ
    แต่เล่าใน ห้องหลุมดำ ไม่เป็นไรมั้งเนอะ

    คือ ฝันว่า ไปรูดทรัพย์ เทวดา กษัตริย์

    ในฝันเพื่อนป่วยมาก แกอ่อนเพลีย เรี่ยวแรงไม่มี และมี ภูติผีมีพลังแรงร้ายคุกคามแกอยู่

    ก็ถามว่า จะช่วยแม่นางได้อย่างใด
    ก็ประมาณว่า แกต้องได้แหวนพระธัมรงค์ทรงศักดิ์ ๒ วง (จากสมเด็จ พระนเรศวร)

    แล้ว เกษตรกรไร่เผือก(ข้าเจ้า) ก็แว๊บไป ที่แท่น สีทอง มีเทวดา ทรงเครื่องสีทอง อร่าม รูปหล่อ แสงทอง ออกมาเรืองๆ

    เกษตรกรไร่เผือกตรงเข้าไปทันที แล้วชี้ไปที่นิ้ว เทพบุตร
    ซึงมีแหวน ๒ วง

    บอกว่า หนูขอ แหวน ไปช่วยเพื่อนค่ะ อยู่ที่มือคุณ ๒ วง เลย ได้ไหมคะ

    เทพบุตร องค์นั้น ก็ ตอบว่า

    เราไม่ได้หวงนะ แต่แหวนจากนิ้วเรา ไม่มีใคร ถอดได้ ถ้าถอดได้ ก็ ได้

    ในฝันเลยท่องพุทโธ ๆๆ

    ก็ ถอดออกมา ได้ โดยง่าย

    ระหว่างที่ ดึงแหวน เทวบุตรก็ชวนคุยโน่นนี่ ก็ไม่สนใจ แน่วแน่แต่รูดทรัพย์

    ท่านบอกว่า พี่เป็นพี่ชาย นะ หนูชื่อหนูกิ๊พ รึป่าว

    ในฝันดูรำคาญ เทพบุตร นิดๆ ตอบในใจว่า กิ๊พเกิ๊พไรไม่รู้จักค่ะ
    หนูไปละ

    พอจะก้าวออกจากที่นั้น ก็นึกได้ว่า เราจะเอา แหวนจากพระมหากษตริย์ นี่ฝ่า

    แล้วที่เอามา แบบกักขฬะนั้นล่ะ เราไม่ถูกตัดหัวรึวะ

    ก็เอาแหวน ไปให้เพื่อน (ไงต่อไม่รู้คงหนีตายต่อไป มั้งพอดีตื่นก่อนค่ะ)
     
  3. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    น่าโมทนาและยินดีกับทุกท่าน ที่มีคุณงามความดีมาแต่เก่าก่อน ทำให้มีความสามารถนั้นติดตามมาในปัจจุบัน จนเป็นเหตุให้มีความพิเศษหรือได้รับความเมตตาจากครูบาอาจารย์ทั้งที่มีชีวิตและภพภูมิต่างๆ ในการให้คำแนะนำและช่วยเหลือ ทำให้มีสัมผัสพิเศษต่างๆได้ดีกว่าคนทั่วไป....

    แต่ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก ที่ไม่มีของเก่า หรือวิชาเก่าที่ดีๆ ติดตัวมาจากอดีตชาติ...หรืออาจจะมีก็ไม่รู้...หรือว่าจะเป็นพวกความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฎ...

    มาปัจจุบันชาตินี้ มีความต้องการจะฝึกฝนบ้าง เพื่อหวังอภิญญาสมาบัติก็ตาม หรือหวังจะมีสัมผัสต่างๆอย่างคนอื่นเขาบ้าง...มีทิพยจักขุญาณบ้าง...ไปจนถึงมีปัญญาทางธรรมกับเขาบ้าง...แต่ว่าจนใจไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร...เพราะเกิดมาไม่มีอะไร...ฝึกไปฝึกมาก็ไม่มีผลอะไรเกิดขึ้น ตามประสาปุถุชนคนธรรมดาอย่างกระผมเนี่ยเป็นต้น...

    จะเริ่มต้นกันอย่างไรดี??? นี่เป็นคำถามที่หลายๆคน ที่ผ่านเข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้ว นึกอยู่ในใจ... ไม่กล้าถาม...แต่อยากได้คำแนะนำ หรือแนวทาง...
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ถามมาแบบ ป๋า มิงค์ คาดว่าจะโดนกันถ้วนหน้า แม้กระทั่งตัวผมเอง..
    แต่ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากนะครับ...ด้วยวิสัยที่ชอบพูดแบบตรงๆ...
    ขอไม่อ้อมนะครับ เอาแบบแทงข้างหลังทะลุถึงขั้วหัวใจเลยแล้วกัน ๕๕๕(มุขเสี่ยว)
    ไม่ต้องไปพูดเรื่อง ความสามง สามารถ อะไรเลย เอาแบบคนธรรมดานี่หละ
    ถ้าคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เห็นคนเค้าไปวัด ไปปฏิบัติธรรม
    ทำบุญ ทำทาน รักษาศีล เด่วก็ฝึกโน้นฝึกนี้ เด่วก็ดูดวงบ้าง ไหว้โน้น
    ไหว้นี้บ้าง ห้อยโน้นห้อยนี้บ้าง และก็จะฝึกอะไรกัน
    ทำไม่ต้องทำตัวอย่างนี้อย่างนั้น และทำไปเพื่อเม็ดขนุนอะไร..?

    ส่วนห่มเหลือง ท่านต่างๆก็เห็นทำโน้น ทำนี่ ร้อยแปด ท่านทำเพื่ออะไร ?
    ที่เกริ่นนำมาก่อนหน้านี้ ถ้ายังคิดอยู่ก็ให้ลืมๆไปซะ ไม่ต้องไปวิพากษ์ วิจารณ์
    ไปใช้ความเห็นในการตีความ ไปใช้ความพยายามในการเข้าใจ เพราะมันเป็น
    ตัวขวางการปฏิบัติธรรมทั้งนั้น...เป็นไปได้ ให้มันหายไปจากระบบความคิดซะ...

    เราเป็นฆารวาสไม่ต้องไปคิดอะไรมาก เอาว่าจะปฏิบัติแบบไหนก็ตาม ใครจะเป็นสอน
    จะอ่านตำราเล่มไหนก็ตาม ได้ยินใครพูดให้ฟังมาก็ตาม ใครโม้ให้ฟังมาก็ตาม ใครด่า
    ใครติ ก็ตาม....
    เราทำแล้ว ใจเรามันดีขึ้นไหมครับ ดีขึ้นอย่างไรมาดูกัน...

    ...๑.เลิกนินทา(เว้าพื้น)ชาวบ้านชาวช่องได้หรือยังหรือมันอดไม่ได้ที่กล่าวถึงฮ๋าาาา
    ..หรือถ้าจะพูดถึง พูดแต่มุมที่ดีๆของคนอื่นๆเป็นบ้างไหม.?

    ...๒.เลิกเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นได้หรือยัง เวลาหมามันเห่ายังคิดล้างแค้นมันอยู่หรือไม่
    หรือต้องตามไปด่ามันคืนก่อนค่อยหายแค้น?
    ...๓.ศีล ๕ ที่บอกพื้นฐานความเป็นมนุษย์เรายังกระท่อนกระแท่นอยู่หรือเปล่า
    เรารักษาถึงขั้นเข้าถึงระดับความคิดได้หรือยัง เนียนพอที่จะรักษาศีล ๕ ได้ครบถ้วน
    หรือไม่เวลาอยู่ร่วมกับสังคม หรือคิดว่านานๆทีซักหน่อยไม่เป็นไรหรอกมั่งโดย?
    แล้วค่อยมาอารธนาศีลภายหลังอย่างนั้นหรือ?

    ...๔.เลิกโหยหาอดีตอันแสนรันทด พ่อเทพบุตรสุดเวหา ที่มันหายไปอยู่กับกินรีตนไหนก็ไม่ทราบ
    เลยโหยหากับ หญิงงานพาโชคร้ายที่ตอนนี้เปลี่ยนสามีไป ๘ คนแล้วได้หรือยัง..
    เลิกเพ้อเจ้อถึงอนางอ ที่ยังมาไม่ถึงได้แล้วหรือยัง?
    ...๕.เลิกขึ้อิจฉา ริษยา คนอื่นๆได้หรือยัง..ใครสวยกว่า หล่อกว่า ดีกว่า พูดชม
    ให้ออกจากใจเป็นหรือยัง เคยพูดไหม เคยคิดจะพูดไหม หรือพูดเป็นแค่งั้นหละกับเชอะ?

    ...๖.เมตตาที่ออกจากใจนะฝึกกันบ้างหรือยัง หรือเมตตาแต่ปาก เมตตาเลือกฝ่าย..
    หรือเมตตาได้แต่ต้องเงื่อนไข เพราะว่าเค้าสวยเหมือน สุภัสสรา ธนชาตเก้า
    หรือว่าเค้าหล่อเหมือน เจมส์ จิรายะ ๕๕๕
    ...๗.กับสัตว์นะยังเลือกเมตตาไหม กับสุนัข กับเมี๋ยว รักกันจริง ทีกับยุง กับแมลงสาป
    เห็นแล้วมีตบ มีกระทืบ.แบบไม่ต้องคิด...โดยลืมว่ามันก็สัตว์เหมือนกัน...

    ...๘.กับภพภูมิแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายไหม ยึดถือแต่ฝ่ายที่ตนเคารพไหม ฝ่ายไหนที่เราไม่เคารพ
    ไปดูถูก ดูแคลนเค้าไหม ไปวิพากษ์วิจารณ์เค้าไหม ไปรังเกียจแบ่งแยกเค้าไหม
    ให้ความเคารพในทุกภาคส่วน โดยให้ความเคารพ แต่ว่าไม่ยึดติดได้หรือยัง?

    ...๙.อ่อนน้อมถ่อมตนเป็นไหม รู้จักสัมมาคารวะเป็นไหม ฟังความคิดเห็นอื่นๆเป็นไหม
    ฟังคนอื่นๆพูดให้จบก่อนเป็นไหมแล้วค่อยพูด..
    ...๑๐.ไปที่ไหนก็ตาม อยู่ที่ไหนก็ตาม ต้องการให้คนอื่นเค้ายอมรับในตัวเองไหม ว่าตนเอง
    นี่หละเก่ง ตนนี่แระสวย ตนนี่แระหล่อ ตนนี่หละแหร๋มสุดในทุกๆด้าน เลิกยกสถานะทางสังคม
    จอมปลอมของตนเองมาแบ่งแยกคนอื่นๆได้หรือยัง พูดง่ายๆว่าเลิกถือตัวนั่นหละ....

    ...๑๑.เลิกมีความอยากที่จะไปยังสถานที่ต่างๆ ที่มันมีเสียงอึกทึกครึกโครมได้หรือยัง..
    หรือนานๆที ขอไปเย้วๆ เด่งไปเด่งมาซักหน่อย? พูดง่ายๆว่า หัดอยู่เงียบๆสำรวม นั่งๆนิ่ง
    เป็นหรือไม่ หรือไปไหนต้องมีบริวารห้อมล้อม ไม่ว่าบริวารสวยๆ หล่อๆ หรือผู้ใต้บังคับบัญชา

    ...๑๒.หน้าที่การงาน รับผิดชอบตัวเองดีหรือยัง(ส่วนตัวก็ยังทำไม่ค่อยได้ ๕๕๕) ทำงาน
    ให้มันสำเร็จลุล่วงได้แล้วหรือยัง...หรือว่าทำไม่เสร็จแล้วมานินทาเจ้านายต่อ มานินทาเพื่อนร่วม
    งานต่อ หรือ นินทาคนที่ผ่านมาในชีวิตประจำวันฮ๋าาา

    ...๑๓.สอนคน ตำหนิคน ผู้ใหญ่ เด็ก สตรี คนชรา คนท้อง ติได้ทุกเรื่อง แต่เป็นเรื่องที่ตนเอง
    ก็เคยทำมาแล้วทั้งนั้น แต่เห็นคนอื่นๆทำไม่ได้ มันขัดหูขัดตาอยู่หรือไม่...

    ...๑๔.อยากไปโน้น ไปนี่อยู่หรือไม่ อยากได้โน้นได้นี่อยู่หรือไม่ อยากมั่งอยากมี อยากดีอยากเด่น
    อยากรวยอยากดัง อยากเป็นใหญ่เป็นโต อยากกินโน่นกินนี่

    ๑๕.อุทิศส่วนกุศลให้ ภพภูมิภาคส่วนต่างๆ เป็นประจำไหม เพื่อฝึกเพิ่มเมตตาในตัวเอง
    เพื่อฝึกการเป็นผู้ให้ การเป็นเสียสละโดยไม่หวังผลตอบ เพื่อขยายวงสมาธิ ลดความตระหนี่
    ถี่เหนียวในใจตน เพื่อลดความเกลียดชังบุคคล ความคิดอาฆาตบุคคลอื่นๆ...
    ๑๖.ทำบุญทำทาน ต่อเนื่องมีความสม่ำเสมอไหม หรือนึกถึงพระ นึกถึงวัดเฉพาะเวลา
    ที่ตัวเองดวงตก ทานบารมี ๑๐ ลองสำรวจดูว่า เราขาดตกบกพร่องอะไรบ้าง
    มีอะไรที่เราไม่เคยทำบ้าง...

    ...๑๗.อยู่กับปัจจุบันเป็นไหม อยู่กับเพื่อนที่ดีสุดที่มันไม่เคยทิ้งเราบ้างไหม หรือย้อนหวนคืนอดีต
    ที่มันผ่านมาเป็น ๑๐ ปี ๒๐ ปีพูดอยู่นั่นหละ คิดทำไม พูดทำไม มันนั่งไทม์แมทชีนกลับไป
    แก้ได้ไหม หรือ มันนั่งไทม์แมทชีนไปยืนดูอนางอที่ยังมาไม่ถึงได้ไหม..หรือแสวงหาแต่ที่พึ่ง
    ภายนอกต่างๆ ไม่ว่าคน วัตถุ สิ่งของ ไม่ว่ามองเห็นและมองไม่เห็น..
    ไอ้ที่มันไม่เคยทิ้งเราไปไหน มันอยู่กับเรามาตั้งแต่เกิด ไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวขึ้น
    กระทบกระเทือนจิตใจเรามากแค่ไหนก็ตาม ไม่ว่าเราจะสุขเราจะทุกข์ เราจะเสียใจ
    เราจะดีใจ ไม่ว่าเราวันนี้เราจะเหมือนกับเราอยู่คนเดียว
    ในจักรวาลนี้ อยู่คนเดียวในระบบกาแลคซี่นี้ มันก็ไม่เคยทิ้งเรา.และพร้อมที่จะตาย
    พร้อมกับเรา..เคยหันมามองมันบ้างไหม
    เคยนึกถึงมันบ้างไหม คบกับมันจริงๆจังๆหน่อยได้ไหมคบกับมันให้นานๆหน่อยได้บ้างไหม..
    เพื่อนที่ดีที่สุดคนนี้ก็คือ
    ''ลมหายใจ"
    ปล.ประมาณนี้ก่อน ยังไม่ต้องไปเรื่องอื่นๆ.
    แห๋มๆว่าไปตอนจบถือว่าเท่ห์พอตัว ๕๕๕๕
     
  5. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    อ๊าาายยย ...คุณคุณพฯ ดิฉันมีเกือบทุกข้อ แต่มีวงเล็บว่า มันน้อยลงได้ไหมคะเนี่ย คือ ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนนะคะ และถ้าใครมาตอบว่าไม่มีสักข้อเนี่ย ไม่ต้องฝึกอะไรแล้วมั๊งคะเนี่ย เพราะแค่ทำให้ไม่มีสักข้อที่คุณนพฯพูดเนี่ย อริยะชั้นต้นๆแล้วนะคะ :cool::cool:

    นึกถึงตัวเองนะคะ เมื่อก่อนคิดๆอยู่ว่าถ้าตาดี เหาะได้ หายตัวได้ แล้วไง ...?
    ยังโกรธและด่าคนรอบข้างได้ง่ายๆอยู่เลย :'( แบบนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกปฎิบัติธรรมตอแหล ...

    ดิฉันสนับสนุนคำถามและคำตอบท่านระมิงค์และคุณนพฯนะคะ เพราะโน้นนแน่ะ เห็นมาหลายต่อหลาย พวกที่มีดีกว่าเพื่อนๆเนี่ย เอาตัวรอดได้ไม่กี่รายเองนี่
     
  6. *ธรรมดา*

    *ธรรมดา* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +924

    เอาใว้เป็นตัวเทียบสภาวะจิตปัจจุบันได้ดีเลยครับ ชาบูๆคับ
     
  7. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    ...๕.เลิกขึ้อิจฉา ริษยา คนอื่นๆได้หรือยัง..ใครสวยกว่า หล่อกว่า ดีกว่า พูดชม
    ให้ออกจากใจเป็นหรือยัง เคยพูดไหม เคยคิดจะพูดไหม หรือพูดเป็นแค่งั้นหละกับเชอะ?


    ผมยังมีความอิจฉาคุณนพฯที่มีสาวๆมารุมล้อมขอจับมือครับ...แต่ไม่ริษยา...มีเป็นห่วงตรงคนบ้าที่จะมาขอจับนมนี่แหละครับ...น่ากัวมาก...
     
  8. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    คืองี้ครับ...เหตุที่ผมยกขึ้นมาสำหรับคนธรรมดาๆทั่วๆไป ที่อยากจะมีคุณวิเศษบ้างแต่หาความดีแต่เก่าก่อนจะมาทำต่อในชาตินี้ไม่ได้เลย...คนเหล่านี้มีมากด้วยกัน...ซึ่งก็รวมถึงผมด้วย...จริงๆว่าไม่อยากปรารถเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง...แต่ก็คิดว่าหลายๆคน คงอิจฉาคนที่เขามีบุญบารมี มีความก้าวหน้าในการฝึกสมาธิภาวนาเป็นอันมาก...แต่ว่าตัวเองทำไม่ได้แม้จะพยายามแล้วก็ตาม...

    มีคนมาถามผมว่าต้องทำยังไง ถึงจะมีคุณวิเศษเหมือนอย่างคนอื่นๆเขา...
    ผมตอบได้แต่เพียงว่า..."ต้องฝึกครับ" ... ไม่มีทางอื่น...
    ตั้งแต่ผมเริ่มจำความได้ผมก็ฝึก...ฝึกไปแล้วไม่เกิดผลอะไรเลย ผมก็ยังฝึก...
    ครูบาอาจารย์สั่งมายังไงผมก็ทำตามนั้น...ไม่มีเงื่อนไข...ฝึกกันมากกว่า40ปีผมก็ยังต้องฝึก...ใครเขาจะก้าวหน้าก้าวหลังได้ดีเพียงใดก็เรื่องของเขา...เรื่องของเราคือเราต้องฝึก...เหนื่อยก็ฝึก ร้อนก็ฝึก ทุกข์ก็ฝึก สุขก็ฝึก จนก็ฝึก รวยก็ฝึก โดนด่าอยู่ก็ฝึก ป่วยก็ยิ่งฝึก...ไม่มีทางอื่นเลยนอกจากฝึกไปเหอะ...

    เรื่องหลงทางนั้น เป็นเรื่องธรรมดา...หลงทางไปเถอะครับ จะเข้าป่าเข้าพงก็ไปมัน...ดีครับ หลงทาง จะได้รู้ทางใหม่ๆเพิ่ม...แต่ถ้าจะตกเหวนี่ผมจะตะโกนหาเบาๆ..ตกแล้วแหลกนะครับ..ไม่จำเป็นก็อย่าไปตกเหวเลยดีกว่า...ส่วนหลงทางน่ะ มันมีกันทั้งนั้นแหละครับ หลงไปเถอะ สนุกดีเหมือนกัน...

    ฝึกแล้วเกิดหลงทางหรือสงสัยอะไรขึ้นมาก็มาถามเอาในกระทู้นี้ได้ครับ...
    มีคุณนพฯผู้มีเมตตา ตอบให้กับทุกคน ไม่มีปิดบัง...อันไหนไม่รู้ก็จะไปถามครูบาอาจารย์มาตอบให้...โดยเฉพาะเรื่องพลังต่างๆ ตอบได้ละเอียดมาก ป่นมาเลยเชียวครับ...อันนี้ก็ความพิเศษเฉพาะทางส่วนตัว...ห้ามลอกเลียนแบบ...ผมก็ได้แต่มาตามอ่านเอาเหมือนกันครับ รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง ก็นะ...ทำเป็นเงียบๆไว้...คนอื่นเค้าจะได้ไม่รู้ว่าผมโง่น่ะ...
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    . .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2016
  10. *ธรรมดา*

    *ธรรมดา* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +924

    แหม่ๆๆป๋ามิงค์ ถามตรงจุดจริงๆครับ ก็อยากจะถาม ป๋านพ เหมือนกัน แต่ก็ยังบ่อยากถาม

    ปล. นอกจากจะมีป๋านพ แล้ว ยังมีป๋ามิงค์ผู้เก่งกาจอีกท่านนะครับทุกท่าน:cool::cool::cool:
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    อระมิงค์น่ะ ท่านถ่อมตัวประจําแหละ ใครๆก็รู้ ลองไปอ่าน"หลงทาง"ดิ แถมมีทั้งเจโตและ.....อีกหลายแต่ไม่ยอมบอกตัวเลขใช่ไหมคะ

    http://palungjit.org/threads/หลงทาง.493156/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2015
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ไม่ต้องห่วงครับ ส่วนตัวเคยเป็นมาหมดแล้วครับทุกข้อ ๕๕๕๕
    เอาให้ลิมิตมันเข้าใกล้ศูนย์ก็ถือว่าดีแล้วครับ..
    ถ้าทำได้ทุกข้อป่านนี้คงอยู่ป่าไปแล้วครับ ๕๕๕
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    ตอนที่ทําสมาธิอยู่ ก็ปรากฎ"หน้า" ชายบ้าง หญิงบ้าง หล่อบ้าง สวยบ้าง ขี้เหล่บ้าง ผ่านไปเร็วมาก แต่ไม่รู้จักใครสักคนเลย สงสัยค่ะ (นอกเรื่องที่กําลังคุยกันหรือเปล่าเนี่ย)ว่าใคร ขออภัยค่ะ
     
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ถามมาเลยครับ ถ้าตอบได้ก็จะเล่าให้ฟังแล้วลองไปสังเกตุดูนะครับ..
    ถ้าขึ้นมาตรงๆหน้าเราเลยคือเทียบสายตาปกติแบบที่มองออกไปตรงๆนะครับ
    ก็คือ บุคคลท่านต่างๆที่เคยมีสัมพันธ์กับเรามาก่อนในอดีตชาติที่ผ่านมาครับ
    ต่ำแหน่งนี้เป็นได้ทุกระดับครับ..
    ย้ำว่าเห็นแต่หน้า หรือถ้าเห็นตัวจะไม่เห็นสภาพแวดล้อมนะครับ...
    แต่ถ้าประเภทเห็นหน้าแต่รวมๆแล้วมันไม่สมประกอบ ไม่ใช่ว่าหน้าขี้เหร่นะครับ
    คือการจัดเรียงอวัยวะบนหน้ามันผิดเพี้ยนนี่คือจิตปรุงแต่งไปเอง
    แต่ถ้าเห็นตัวด้วยเห็นสภาพแวดล้อมด้วย ตรงหน้านี่คือที่ตายชาตินี้ครับ.
    งานนี้ตัวใครตัวมันครับ ๕๕๕๕..
    และถ้าลอยๆเฉียงๆหน่อยมาในมุมวัดจากตาแต่
    ไม่เกินไรผมตรงหน้าฝาก นี่เป็นญาติๆเรานี่หละครับ
    ตรงนี้สังเกตุได้ลอยมาหากับลอยออกไปพิกัดเดิมแป๊ะๆ

    ถ้าลอยมามุมสูงด้านขวาของศรีษะเป็น ระดับสูงๆ ตรงนี้ไม่ต้องบอกน่าจะทราบ..
    แต่ถ้ามาในมุมขวาเหมือนกัน ไม่ได้ลอยมานะครับ ปรากฏให้เห็นเลย
    ว่าเป็นระดับเทพสูงๆทั้งหลาย..นี่เป็นเทวปบุตรมารนะครับ ไม่ใช่เทพจริงๆนะครับ
    ไม่เชื่อสร้างสติทางธรรมให้มากๆ แล้วจองไปนานๆ เค้าอาจจะแยกเคี้ยวและ
    ยิ้มหรือยักคิ้วให้เราได้แบบฮาๆ ประมาณว่า แห๋มๆมันดันรู้ทัน

    ถ้าเห็นตรงหน้าแต่เฉียงไปทางขวาเล็กน้อยมีระยะห่างพอควรไม่ใช่ใกล้ๆ
    เหมือนเทวปบุตรนะครับและเห็นสภาพแวดล้อมต่างๆด้วย
    นี่เป็นภูมิระดับเทพมีฤิทธิ์ด้วยครับ คือเป็นเทพไม่ใช่ว่าบารมีน้อยๆนะครับ
    ปล.ประมาณนี้ก่อนนะครับ เอาเฉพาะตอนนั่งนะครับ ไม่รวมท่านอนสมาหลับครับ
    และคำตอบพวกนี้ มันมาจากสติทางธรรมล้วนๆครับ..
    จำไว้ นามธรรมต่างๆถ้าเห็นแล้วลืมตามาแล้วเราไม่ทราบ ให้ลืมมันไปเลยครับ

    แล้วมาสร้างสติทางธรรมต่อ เด่วมันจะย้อนรู้ที่เคยเห็นได้เองอัตโนมัติครับ..
    และเข้าใจอยู่ครับ ปากอาจจะบอกว่าไม่สนใจหรอก แต่ลึกๆก็ไม่เคยลืม
    และก็ชอบแอบเก็บมาคิด และสงสัย
    ค้นคว้าหาคำตอบ และก็บอกว่าไม่สนใจหรอก
    แต่สุดท้ายก็ยังไม่ลืมถ้าไม่ได้คำตอบ
    ประมาณนี้ เรื่องปกติครับ..๕๕๕๕
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,040
    โดยส่วนตัวเชื่อว่า ถ้าเรามีความเพียรและมีความสม่ำเสมอในการฝึก
    มีเป้าหมายเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อบุคคลอื่นๆมากกว่าส่วนตัว
    และใช้ประโยชน์ในทางธรรม..ไม่ว่ากรรมฐานอะไรก็
    สามารถฝึกสำเร็จกันได้ทุกคนครับ
    .

    เพราะส่วนตัวรู้ตัวว่า ตัวเองมีของเก่าเรื่องกสิณไฟมาก่อน ตั้งแต่ตอนที่เคยบวช
    ได้วันที่ ๓ แต่ตอนนั้น หลวงพ่อที่สอนท่านบอกว่าอย่าสนใจ..
    ให้ไปเดินปัญญาให้ได้ก่อน หรือว่า แยกรูปแยกนามให้ได้ก่อน
    และหลังจากเป็นทิดได้ ๗ เดือนท่านบอกว่า อือ พอฝึกได้และก็เตือนๆ
    อะไรอีกหลาย..
    และพอได้มาฝึกกสิณในกลุ่มๆหนึ่ง ก็เลยตัดสินใจว่าขอฝึกกสิณอะไร
    ก็ได้ที่ไม่ใช่ของเก่าตัวเอง เรียกได้ว่ากสิณกองนั้นตนเองเริ่มต้นเท่ากับศูนย์
    การเห็นน้อยกว่าบางคนที่เค้ามีของเก่าทางด้านนี้ด้วยซ้ำครับ..
    คือไม่เอากสิณไฟเพราะกลัวเด่วเค้าจะหาว่าเพราะมีของเก่าเลยฝึกได้เร็ว
    พูดง่ายๆไม่อยากฟังคนอื่นๆที่ฝึกไม่ได้แล้วเอาข้อนี้มาอ้าง

    (คือความคิดช่วงนั้น)

    เพราะต้องการพิสูจน์คำสอนหลวงพ่อสายวิชาพิเศษ
    ท่านได้กล่าวตอนท้ายๆว่า ประมาณว่า ''ในความเห็นของอาตมา อาตมา
    คิดว่า ถ้าเรามีความเพียรจริงๆ ไม่ว่าใครก็สามารถ ฝึกได้สำเร็จเช่นกัน''
    ที่นี้เราก็ต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่า กรรมฐานต่างๆในตำราที่เขียนไว้นั้น
    ไม่ได้เขียนในส่วนของรายละเอียดย่อยต่างๆไว้
    แต่จะเขียนในมุมกว้างๆ ที่ผู้อ่านทุกๆคน
    สามารถเข้าถึงได้..แต่ท่านจะเน้นย้ำเรื่องต่างๆ ไว้หลักๆ ๒ เรื่องก็คือ

    ๑.ข้อปฏิบัติเพื่อพฤติกรรมต่างๆของเรานั่นเอง
    ซึ่งท่านมีทฤษฏีเขียนไว้ชัดเจนว่าให้ทำอย่างไร.
    ..
    ๒.เรื่องเทคนิคต่างๆที่ท่านมักจะแทรกไว้ในเทปคำสอนต่างๆ
    เวลาท่านจะพูดเรื่องเทคนิค ท่านจะลดโทนเสียงลง เป็นเสียงเบา
    กว่าปกติ ตรงนี้ใครจับสังเกตุได้ก็ถือว่าได้เปรียบ...

    ที่นี้ไม่ว่าเราจะฝึกกรรมฐานกองไหนก็ตามในโลกนี้ เราก็อย่าลืมว่า
    เมื่อก่อนในอดีตมีคนเคยฝึกมาแล้วทั้งนั้น และท่านเหล่านั้นปัจจุบันนี้
    ที่อยู่ในระบบภาคทิพย์ก็ยังมี พูดง่ายๆว่าภพภูมิหรือมิติที่ ๔ ที่นี้ขึ้นอยู่
    กับว่าเราจะทำอย่างไร ที่จะทำให้ภพภูมิท่านต่างๆเหล่านั้น เมตตามาสอน
    เรานั่นหละครับ...เปรียบเหมือนเราเก่งกีฬาซักประเภทหนึ่ง แล้วเราไปเห็น
    เด็กคนหนึ่ง..ก็ไม่ได้เก่งอะไร แต่ว่ากำลังเล่นกีฬาอยู่ แต่เราเห็นว่ามีแวว
    เราก็อยากจะไปแนะนำ อยากจะไปสอน โดยที่ไม่ได้คิดหรือหวังผลอะไรนั่นหละครับ
    ที่นี้ก็คิดเอาเองว่า เราจะทำตัวอย่างไร ถึงจะมีภพภูมิมาสอนเราก็แค่นั่นเองครับ
    เด่วจะโม้ต่อใน #Rep ต่อไปนะครับ
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    *****************************
    ที่เห็นเยื้องไปทางซ้ายและตํ่าลงนิดนึงค่ะ
    จริงๆอย่างยิ่งค่ะ
    ขอบพระคุณค่ะ
    คงจะมีอีกซัก๒คําถามที่ สงสัยๆ
     
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ที่นี้ขอพูดในโหมดพิเศษนะครับ.มาดูว่าการที่เราจะมีอะไรพิเศษๆ
    หมายถึงมีความสามารถสัมผัสรับรู้ได้พิเศษ รวมทั้งการทำอะไรๆ
    ที่มันเกินวิสัยปกติมนุษย์จะทำได้นั้น เราควรมีลักษณะนิสัยเป็น
    อย่างไร ส่วนตามตำรานั้นคงหาอ่านได้ทุกคนนะครับ...
    และที่จะนำมากล่าวต่อไปนี้เป็นตำราส่วนบุคคลจริงๆนะครับ
    แต่ว่าขออนุญาตท่านอาจารย์ในดงที่สอนวิชาเดินธาตุแล้วครับ
    ขอถ่ายทอดบางส่วนที่เห็นว่ามีประโยชน์ครับ..
    พื้นฐานที่ควรมีเป็นทุนก็คือ...

    ๑.อย่าคาดหวังว่าจะได้รับการยอมรับเวลาที่เราไปไหนหรือไปอยู่
    ในสภาพแวดล้อมใดๆก็ตาม โดยหมายว่าตัวเองมีอะไรที่พิเศษ
    กว่าคนอื่นๆ..และอย่าเป็นเหตุในการทะเลาะวิวาทต่อความยาว
    ความความยืดแบบไม่รู้จักจบ..และไม่ควรไปอยู่ร่วมในที่ๆมีเสียง
    อึกทึกครึกโครมน่ารำคาญ ที่มันสร้างความไม่สงบให้กับจิตตนเอง

    ๒.ไม่อิจฉาริษยาใคร ไม่ยกตนข่มคนอื่นๆ ไม่ยึดมั่นถือมั่นจนกลายเป็นยึดติด
    จนเป็นเหตุให้จิตไม่ปล่อยวาง และไม่ทำตัวเหลาะแหละ

    ๓.เป็นคนที่กำลังใจเข้มแข็ง มีความไม่กลัวด้วยมีความบริสุทธิ์ใจเป็นทุน
    ๔.มีความซื่อตรง มีความสัตย์ ไม่เบียดเบียนใคร เว้นจากการทำร้ายสรรพสัตว์
    ไม่ว่าคน สัตว์ และภพภูมิ และเป็นมิตรกับภพภูมิทุกระดับ โดยไม่มีการแยกแยะ

    ๕.รักสันติรักความสงบ มีความไม่โกรธ รู้จักการบริจาคให้ทาน
    ๖.เป็นคนที่รู้จักบังคับอินทรีย์ภายนอก เป็นคนมีธรรมะในใจ รู้จักการสวดมนต์
    ให้เป็นนิสัย

    ๗.ปฏิบัติตามหลักรู้ มีตบะ บำเพ็ญฌานเพื่อเป้าหมายให้กิเลสเบาบางลง..
    ๘.ทำดีทั้งในที่ลับ และที่แจ้ง รู้จักการเสียสละตัวเองบ้าง ไม่ว่าแรงกาย แรงทรัพย์
    แรงสมอง อย่างใดอย่างหนึ่งโดยที่ไม่หวังผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้น..

    ๙.ฝึกเมตตาไม่ว่า กับ คน สัตว์ ภพภูมิ รู้จักการอุทิศส่วนกุศลโดยไม่มีการแยกแยะ
    แบ่งฝัก แบ่งฝ่าย ว่าเค้าไม่ใช่เรา ว่าเค้าไม่เหมือนเราอย่างนี้ไม่ควรมีในใจ...

    ๑๐.ไม่กล่าวดูถูกหลบหลู่ ปรามาส บิดามารดา ครูบาร์อาจารย์ ตลอดจนผู้มีบุญคุณ
    ทุกๆท่านที่ผ่านมา ไม่ว่า ครูบาร์อาจารย์สายวิชาต่างๆ
    หรือครูพักลักจำต่างๆ

    ๑๑. ไม่วิพากษ์ วิจารณ์ รวมทั้งใช้ความเห็นในการตีความ ในองค์พุทธะ องค์มหาบารมี
    องค์พระมหาโพธิสัตว์ เหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย เหล่าผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั้งหลาย

    ๑๒.ไม่เป็นส่วนหนึ่งในการทำราย ทำลาย ส่งเสริมยุยุง เกี่ยวกับพุทธศาสนา อย่างใดอย่างหนึ่ง
    ไม่ว่าจะรูปปั้น รูปแทน รูปเหมือน หรือสิ่งเชื่อมโยงต่างๆ ไม่ว่าวัตถุ โบราณสถาน โบราณวัตถุต่างๆ

    ๑๓.ไม่กล่าวถึงอดีตที่ล่วงมาแล้วให้เกิดความอาลัยและเป็นเหตุให้จิตใจเศร้าหมอง
    ไม่กล่าวถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึงเป็นเหตุให้จิตใจฟุ้งซ่าน

    ๑๔.รู้จักรักษาสภาพจิตใจของตัวเอง ให้บริสุทธิ์เอาไว้ใน ณ เวลาปัจจุบันครับ
    ๑๕.และที่สำคัญทำตัวให้เหมือนน้ำ..น้ำแทรกซึมไปได้ทุกที ให้ชีวิตก็ได้ ให้ความ
    ชุ่มชื่นก็ได้ ใช้ในการดำรงชีวิตก็ได้ มีประโยชน์มากมายมหาศาล
    น้ำอ่อนก็ได้ น้ำจะแข็งก็ได้ และก็ไม่ลืมว่า มันสร้างชีวิตได้ มันก็ทำลายชีวิตได้เช่นกัน.

    ปล.ประมาณนี้ครับ.ที่พูดๆเนี่ยไม่ใช่จะบอกว่าตัวเองดีนะครับ..
    ''สอบได้เรื่องตลก สอบตกเรื่องธรรมดาครับ''
    อย่าซีเรียส เพราะถ้าเราดีจริงคงไม่ได้ลงมาเกิดแล้วครับ
    และการปฏิบัติธรรม ฝึกกรรมฐานอะไรก็ตาม
    อยู่คนเดียวก็สนุก อยู่หลายคนก็สนุกนะครับ
     
  18. ทองชมพู

    ทองชมพู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,802
    ขอบคุณค่ะ พลอยได้คำตอบจากอานิสงส์ท่านพี่ศุภธรไปด้วย แต่หนูไม่ได้เห็นตอนทำสมาธิ เห็นตอนลืมตาปกติ เห็นคนเดียวบ้าง หลายคนบ้าง แต่มันเร็ว และเปลี่ยนคนไปเร็ว ๆ แบบนี้เลยค่ะ แต่เห็นไม่นาน ไม่ถึงนาทีเห็นเป็นร้อยคน มักเป็นตอนเราอยู่เฉย ๆ บางครั้งรำคาญเหมือนกันค่ะ

    เล่าเรื่องผีขำ ๆ นะคะ บ้านที่อยู่ปัจจุบันนี้เป็นตึกที่เคยไม่มีคนอาศัยอยู่หลายปี (ตึกร้าง) ก่อนอยู่ที่นี่ก็เป็นคนกลัวผีอยู่เป็นทุน เราจึงนำทรายเสกของวัดท่าซุงมาโรยจนทั่วทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ยกเว้นในครัวเพราะลืมค่ะ เราก็อธิฐานว่าถ้าผีดีก็อยู่ได้ ถ้าไม่ดีก็เชิญไปซะดี ๆ ที่บริเวณหลังคาครัวเป็นสันไท ทั้งกลางวันและกลางคืนมักจะมีเสียง โป๊ก เป๊ก เหมือนมีอะไรหนัก ๆ ตกลงใส่หลังคาเป็นประจำ ขึ้นไปดูก็ไม่เคยเห็นมีวัตถุต้องสงสัยสักอย่าง แต่ก็ไม่ใส่ใจ

    วันหนึ่งนอนอยู่คนเดียวข้างล่าง สามีเข้า กทม. เราลืมตาขึ้นมาเห็นที่บริเวณโต๊ะกินข้าว มีผีประมาณ ๑๐ กว่าผี นั่งโต๊ะเก้าอี้บ้าง ยืนบ้างตามอัธยาศัย บางตัวนอนเอกเขนกไขว่ห้างอยู่บนขื่อ เราเห็นแล้วก็รู้แล้วว่าผี แต่ก็เฉย ๆ ไม่อยากสนใจ ก็นอนต่อ แต่พอล้มตัวจะนอนมือไปโดนคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ เราก็คิดว่า อ้าว คุณสามีกลับมาเมื่อไหร่ ทำไมไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูเลย (ประตูเหล็ก) แต่ก็ดีใจที่เค้านอนอยู่ข้าง ๆ รีบเอาหน้าไปซบที่ไหล่เขาและกอดเขาไว้ จะได้ไม่ต้องเห็นผี

    พอเช้าตื่นขึ้นมาปรากฏว่า ว่างเปล่าไร้เงาคุณสามี เขายังไม่กลับมาซะหน่อย แล้วคนที่เรานอนกอดทั้งคืนก็....???

    มีอยู่คืนหนึ่งที่ชั้นสองตรงบันไดทางขึ้นดาดฟ้า เราก็ใช้ตรงนั้นเป็นที่ตากประเภทผ้าชั้นในเป็นประจำ เราเห็นว่าตรงนั้นถัดออกไป เห็นผีทั้งหญิงชายยืนเบียดเสียดยัดเยียดกันอยู่ตรงหน้าต่างและบนหลังคาครัว ผีหลายผียืนเบียดกันอยู่เพราะที่มันแคบ เราเห็นดังนั้นก็รู้สึกเห็นใจผีขึ้นมาทันที โถใจเขาใจเรา เราดันใช้เป็นที่ตากชั้นในทำให้เขาต้องเบียดกันขนาดนี้ เลยขยับพื้นที่ร่นเข้ามา ให้พวกเขามีพื้นที่เพิ่ม และขอโทษที่ตาไม่ดีไม่รู้ว่าพวกผีอาศัยกันตรงนี้

    และเร็ว ๆ นี้ กำลังจะย้ายไปอยู่ที่บ้านสวน อ.บ้านนา นครนายก ก่อนไปเราก็เซอร์เวย์หาดูที่ดิน จะหาซื้อเพื่อสร้างบ้านในอนาคต ในขณะที่ค้างบ้านเพื่อนของสามีที่หน้า ร.ร.เตรียมทหาร ก็มีนายทหารที่เป็นอดีตของเรานั้น เขาอยากทบทวนความหลังให้เรามาก พาเราไปบ้านเขาและกำลังพาขึ้นที่ชั้นสองของบ้าน เราก็รู้สึกว่าตัวเราหนัก ๆ แบบนี้ตัวในออกไม่ได้แน่ ๆ แล้วเราก็ไม่ได้อยากออกด้วย และไม่ได้อยากรื้อฟื้นความหลังกับท่านผีเลยด้วย ท่านผีก็พยายามมาก ตัวเราหนักขนาดนี้คุณผีใช้วิธีนี้ค่ะ Kiss คุณผีเขาไม่ได้ลามกนะคะ เจตนาเขาเพื่อให้เราเคลิ้ม ตัวในจะได้ออกง่าย ๆ แต่ตอนนั้นเราง่วงนอน อยากนอนมากกว่าเลยไม่เคลิ้มกับคุณผีด้วย

    ก็เลยเกิดคำถามค่ะว่า วิธีนี้ ตัวในของเราก็ออกได้ด้วยหรือคะ

    ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

    ปล.คนกลัวผีแต่มักจะมีปฏิสัมพันธ์กับผี ต้องทำใจทุก ๆ ที่ล้วนมีผีอยู่ เบื่อเหลือเกินไม่อยากเจอค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2015
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,040
    แบบคุณ ทองชมพู เป็นกิริยาที่ตัวหนักๆนั้นในขณะที่จิตมันยังเป็นทิพย์อยู่
    มันเป็นกิริยาที่เริ่มมีความคิด
    จากสมองเข้ามาแทรกครับ มันจะทำให้จิตหลุดจากสมาธิในช่วงอุปจารสมาธิได้ครับ..
    ถ้ายังผืนๆร่างกายต่ออีกซักพัก เพราะสติมันจะพื้นตัวและดึงให้จิตกลับเข้าสู่สภาวะปกติทั่วไป
    ซึ่งสภวะที่จิตเป็นทิพย์ปกติมันจะไม่รู้สึกรับรู้ที่ร่างกายหรือรู้น้อยมากจนแทบไม่รู้สึก
    เพราะเกินที่จิตจะสามารถควบคุมระบบประสาทได้นั้นเอง การ Kiss เป็นเพียงแค่อุบายอย่างหนึ่ง
    ที่เปลี่ยนหรือหล่อหล่อ ไม่ให้ความคิดมันเข้าในแทรกในสภาวะนั้นครับ

    ปล.ผีลามก ผีใจร้าย ชอบลวนลามเนี่ย ไม่ได้มีแต่ผี ช นะครับ.
    ดีว่าส่วนตัวยังไม่เคยเจอผีตู๊ด กับผีเกย์ .๕๕๕
     
  20. ทองชมพู

    ทองชมพู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,802
    จร๊าก ....ผีตุ๊ด..ผีเกย์...ก็ดีนะคะ ไม่ลองดูมั่ง...หรือว่ายังไม่ถึงคิว แม่ผีสาวยังกันท่าไว้อยู่
     

แชร์หน้านี้

Loading...