เรื่องเล่า พ่อท่านบ้านเรา อริยสงฆ์เมืองใต้

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย wichu, 5 พฤษภาคม 2015.

  1. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,698
    พ่อท่านดำ ปัณณกัณโห กับเรื่องเล่า ท่านย่อตัวให้เล็กสรงน้ำในกาน้ำ

    หลังจากผมได้อ่านเรื่องปาฏิหารย์ ในการปลุกเสกพระของพ่อท่านดำ
    ณ อุโบสถ วัดสระแก้ว(หนา) แล้ว
    ผมก็อยากบูชาพระรุ่นดังกล่าวในทันที

    มีโอกาส จึงได้เดินทางไปวัดสระแก้ว(หนา) ได้พบกันท่านเจ้าอาวาส
    แต่พระเครื่องที่เสกในพิธี ปี๒๕๕๕ หมดจากวัดแล้ว

    แต่ก็มีพระของพ่อท่านดำ บางส่วนเหลืออยู่ พอได้บูชามาปลอบใจบ้าง
    ผมได้เหรียญชุดนี้มา โม้เพื่อนๆ ตื่นเต้นกันใหญ่...

    [​IMG]

    ผมบอกว่า ได้ "เหรียญบิน ของพ่อท่านดำ ปัณณกัณโห มาจากวัดสระแก้ว"

    เพื่อนบางคน เตรียมจองตั๋วเครื่องบิน เพื่อจะมาเหมา ที่นครศรีธรรมราช ทันที
    แต่... แต่ แต่แล้วก็ต้องระงับการเดินทาง...
    เมื่อได้ฟัง คำเฉลยต่อท้ายของผม

    เหรียญด้านซ้ายมือ ๒ เหรียญ ทางใต้เรียกว่า "เหรียญไม่ตัดปีก" (เหรียญมีขอบ)
    "เหรียญไม่ตัดปีก" ก็แสดงว่าเป็น "เหรียญมีปีก" เมื่อ "มีปีก" ก็ต้องบินได้ไงครับ...555

    ได้นั่งพูดคุยกับท่านเจ้าอาวาส ท่านเล่าเรื่องราวของพ่อท่านดำ
    ซึ่งคนเฒ่าคนแก่ ในพื้นที่ใกล้วัดเล่าให้ลูกหลานฟังกันมา

    เรื่องพ่อท่านดำ ท่านมีวิชา ย่อหดตัวให้เล็ก ลงสรงน้ำในกา

    ปกติพ่อท่านดำ ท่านไม่เคยสรงน้ำเลย
    ที่เห็นกันก็แค่ ท่านล้างมือ ล้างเท้า แต่ตัวท่านกลับไม่มีกลิ่นกายเหม็นแต่อย่างใด

    ท่านเจ้าอาวาสเล่าว่า ...
    มีลุงที่บ้านอยู่ด้านหน้าวัด ในตอนหนุ่มๆได้บวชเป็นพระจำพรรษาที่วัดสระแก้ว
    ในสมัยที่พ่อท่านดำ เป็นเจ้าอาวาส อยู่ที่นี่...

    ในคืนนึง เดินผ่านกุฏิ พ่อท่านดำ ซึ่งมีลักษณะเป็นกุฏิไม้หลังเล็กๆ ไม่มีห้องน้ำ
    ผนังกุฏิ กั้นด้วยแผ่นไม้ มีรอยแตกและช่องให้มองผ่านได้
    พระหนุ่ม(ตอนนี้เป็นปู่แล้ว) ก็สงสัยว่าพ่อท่านดำ จุดเทียนสว่าง อยู่ในกุฏิทำอะไร...
    ก็เลยแอบดู ในช่องรอยแตก ก็เห็นพ่อท่านดำ ที่มีขนาดร่างกายเล็กๆ นั่งสรงน้ำอยู่ในกาน้ำ...

    เนื่องจากในยุคนั้น พื้นที่รอบวัดก็เป็นป่าไม้ และทุ่งนา ไม่มีความเจริญ
    คนในพื้นที่ ใกล้ๆวัด ที่ได้พบเห็นเรื่องราวนี้ ก็มีหลายคน
    คนในรุ่นนั้น ตอนนี้ ก็เป็นรุ่นปู่ รุ่นตา กันแล้ว เล่าเรื่องราวให้ลูกและหลานต่อๆกันมา

    มีเรื่องเล่าอีกเรื่อง ที่ศิษย์ที่ดูแลพ่อท่านดำ ในทุกครั้งเวลาท่านอาพาธเข้าโรงพยาบาล จนกระทั่งท่านมรณภาพ ได้เล่าไว้
    เป็นเรื่องของ อีกคนที่ ได้พบเห็น ปาฏิหารย์ พ่อท่านดำย่อตัวให้เล็กได้

    ปาฏิหาริย์นั่งในกาน้ำ

    ในสมัยที่พ่อท่านดำอยู่วัดสระแก้วหนานั้น
    ได้รับการบอกเล่าจากลูกหลานของอดีตเสือปล้น
    คือเสือเปลื่องซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปนานแล้ว
    ได้เล่าให้ลูกหลานฟังว่า
    “เมื่อก่อนได้ยินเรื่องพ่อท่านดำมีความศักดิ์สิทธิ์
    ครั้งนึงเมื่อไปปล้นเสร็จแล้วเดินผ่านวัดสระแก้ว(หนา)
    จึงแวะไปแอบดูที่กุฏิพ่อท่านดำ อยากรู้ว่าท่านกำลังทำอะไร
    ก็เห็นพ่อท่านดำมีตัวเล็กกำลังสรงน้ำในกาน้ำชาอยู่
    ทึ่งในฤทธิ์อภิญญาของพ่อท่านดำมาก
    ที่สามารถย่อตัวให้เล็กลงจนสามารถลงในกาน้ำได้”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • d888.jpg
      d888.jpg
      ขนาดไฟล์:
      119.4 KB
      เปิดดู:
      3,014
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2015
  2. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,698
    พ่อท่านดำ ปัณณกัณโห รักษาคนที่เสียจริต


    เรื่องนี้ ศิษย์ของพ่อท่านดำ ที่อยู่กับท่านที่โรงพยาบาลเป็นผู้เล่าว่า
    ได้รับการบอกเล่าจาก อบต.สุเทพ บัวภูมิ
    ซึ่งเป็น สมาชิก อบต.ในพื้นที่ๆวัดสระแก้วตั้งอยู่
    ได้เล่าไว้ว่า สมัยที่ตนเองเกิดอาการไข้ เจ็บป่วย สติคุ้มคลั่ว ฟั่นเฟือน
    ไปรักษาที่โรงพยาบาลที่ไหนก็ไม่หาย
    จึงได้มาขอบารมีพ่อท่านดำได้ช่วยรักษา

    พ่อท่านดำให้ อบต.สุเทพเข้าไปนอนในมุ้งกลดของพ่อท่านหนึ่งคืน
    ตอนที่เข้านอนรู้สึกเย็นสบายมากจนเผลอหลับไปนาน

    รุ่งเช้าตื่นมาก็หายจากอาการเจ็บไข้ สติกลับคืนมาเหมือนเดิม
    มีความรู้สึกว่าเราไม่ได้บ้า ไม่ได้เสียจริตแต่อย่างใด

    ต่อมานายสุเทพ ก็ลงสมัครและได้รับเลือกเป็น อบต. หมู่๕ วัดสระแก้ว(หนา)

    และ นายสุเทพ ยังเล่าเพิ่มเติมอีกว่า ลูกน้องของตนซึ่งทำงานก่อสร้าง
    ขึ้นนั่งร้านพลัดตกลงมาจากชั้น ๔ แต่รอดตายอย่างปาฏิหาริย์
    ด้วยบารมีความศักดิ์สิทธิ์ของเหรียญพ่อท่านดำที่ห้อยติดตัวไว้เพียงเหรียญเดียวเท่านั้น
     
  3. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,698
    พ่อท่านดำ ปัณณกัณโห สรงน้ำแล้วฝนตก

    มีเรื่องเล่าจากคุณยายท่านหนึ่งท่านอยู่ตำบลช้างซ้าย
    สมัยยังสาวๆ เคยเห็นปาฏิหาริย์ของพ่อท่านดำ
    ท่านว่าปีนั้นทางเมืองนครศรีฯเกิดภัยแล้งหนัก ฝนไม่ตกเลยหลายเดือน
    ทั้งชาวบ้าน และพระสงฆ์เดือดร้อน เพราะพืชที่เพาะปลูกไว้เหี่ยวแห้งตายหมด
    ชาวบ้านจึงนิมนต์ ขอให้พ่อท่านดำสรงน้ำ

    เป็นที่รู้กันว่า ปกติพ่อท่านดำไม่เคยอาบน้ำ ท่านเพียงแต่ล้างมือ ล้างเท้า
    ท่านไม่เคยอาบทั้งตัวแต่น่าแปลกที่ท่านไม่มีกลิ่นกาย
    ตอนนั้นพ่อท่านดำยอมสรงน้ำ

    หลังจากท่านสรงน้ำได้ไม่นาน ท้องฟ้าก็มีเมฆมืดครึ้ม
    สักพักฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่...
     
  4. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,698
    พ่อท่านดำ ปัณณกัณโห กับเรื่อง "ย่นแผ่นดิน"


    เรื่องนี้ ผมได้ฟังจาก ท่านเจ้าอาวาส วัดสระแก้ว ร่อนพิบูลย์ เล่าให้ฟัง
    เนื่องจากท่านเอง ถูกโทรมาต่อว่า เรื่องที่ปล่อยให้พ่อท่านดำเดินกลับวัดศรีมาประสิทธิ์ อำเภอชะอวด เอง

    ซึ่งต่อมา ทางศิษย์ที่ดูแลพ่อท่านดำ ได้เล่าเรื่องนี้อีกครั้ง

    [​IMG]

    คุณพ่อแดง กาญจนวงศ์ เป็นศิษย์ใกล้ชิดรับใช้พ่อท่านดำ
    และเคยบวชเณรรับใช้พ่อท่านดำกว่า ๑๐ ปี ที่วัดสระแก้วหนา
    ได้เล่าว่า มีลูกศิษย์ได้นิมนต์พ่อท่านไปปลุกเสกพระที่วัดสระแก้วหนา อำเภอร่อนพิบูลย์

    เมื่อปลุกเสกเสร็จพ่อท่านได้เดินมานั่งที่ศาลาการเปรียญ
    มีญาติโยมติดตามมานั่งคุยกันเต็มศาลา
    ครั้น เวลา ๐๓.๐๐ น. พ่อท่านดำ จะกลับวัด
    แต่คนขับรถนั่งคุยกับคนในศาลากันเพลิน

    ท่านเกรงใจจึงกลับวัดศรีมาประสิทธิ์ที่อำเภอชะอวดตอนไหนก็ไม่มีใครรู้
    หลังจากนั้นทางวัดศรีมาประสิทธิ์ได้โทรมาต่อว่า
    “ทำไมปล่อยให้พ่อท่านดำเนินเท้ากลับวัดมาเองได้ยังไง”

    ชาวบ้านที่วัดสระแก้วต่างพากันแปลกใจ
    เพราะคิดว่าพ่อท่านจำวัดอยู่ เพราะระยะทางจากวัดสระแก้วถึงวัดศรีมาฯ ไกลตั้ง ๕๐ กิโลเมตร
    พ่อท่านเดินกลับไปได้อย่างไร ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง
    คิดว่าจะเป็นวิชาย่นระยะทางหรือย่นแผ่นดินให้ใกล้ก็ได้
    นับเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์เรื่องหนึ่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • d102.jpg
      d102.jpg
      ขนาดไฟล์:
      102.2 KB
      เปิดดู:
      2,966
  5. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,698
    พ่อท่านดำ ปัณณกัณโห "วาจาสิทธิ์่"

    วาจาสิทธิ์ คือ วาจาที่ตรงกับใจ พูดอย่างไร ใจอย่างนั้น
    ผมไปกราบพ่อท่านดำหลายครั้ง
    ปกติท่านจะนั่งนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด
    เราถามไป บางทีท่านก็พยักหน้า หรือพูดตอบแค่สั้นๆ

    พ่อท่านเป็นพระที่มีวาจาสิทธิ์ กล่าวขานติดปากมานานแล้ว
    จากที่คณะศิษย์ ที่อยู่ใกล้พื้นที่วัดสระแก้วได้เล่าไว้

    [​IMG]

    ปกติในช่วงเดือน ๑๑ น้ำจะท่วมเป็นประจำที่วัดสระแก้ว(หนา) ร่อนพิบูลย์
    ซึ่งเป็นทางที่นำไหลจากพื้นที่ภูเขาด้านตะวันตกของอำเภอร่อนพิบูล
    ย์ผ่านลำคลองมา และน้ำหลาก
    จะไหลผ่านวัดสระแก้วก่อนระบายออกไปทางพื้นที่อื่น
    และลงลำคลองออกสู่ทะเล

    ในปีนั้นทางวัดสระแก้วหนาจัดสร้างวัตถุมงคลของพ่อท่านดำ
    และจะปลุกเสกในช่วงนี้พอดี
    ทางเจ้าอาวาสก็เป็นกังวลทุกข์ใจว่าน้ำจะท่วมในวัดที่วัดมีงาน

    ขณะที่คณะศิษย์จำนวน ๕ คน นั่งพิมพ์ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้าพ่อท่านดำอยู่
    ได้ยินพ่อท่านดำพูกกับพระอาจารย์ชัย เจ้าอาวาส ว่า
    “อย่ากังวลไปเลย ปีนี้น้ำไม่ท่วม จัดงานได้”

    ทางศิษย์ใกล้ชิดที่ได้ยินพ่อท่านพูดก็ไม่กล้าบอกใคร
    กลัวว่าหากเกิดน้ำท่วมที่วัดขึ้นมาพ่อท่านดำจะถูกคนปรามาส
    พอใกล้วัดงานฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน
    ระดับน้ำในพื้นที่ใกล้ๆวัดก็ทำท่าจะท่วม

    แต่แล้ว จู่ๆ ฝนก็หยุดตกทิ้งช่วงไป ระดับขึ้นเพียงขอบสระน้ำเท่านั้น
    ทางวัดจึงสามารถจัดงานพุทธาภิเษกได้สำเร็จ ตามคำพูดของพ่อท่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • d202.jpg
      d202.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.6 KB
      เปิดดู:
      2,769
  6. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,241
    .พง่อท่านดำส
    ท่านเมตตาสุดๆ ครับ

    กราบๆๆๆ
     
  7. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,698
    ครับ ท่านพูดน้อย เสียงเบาแทบไม่ได้ยิน
    แต่ ท่านกลับพร้อมทำสิ่งต่างๆให้กับเราทุกอย่างที่ ขอท่านครับ
     
  8. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,698
    พ่อท่านดำ ปัณณกัณโห กับอนาคตังสญาณ ท่านรู้อนาคต

    เป็นประสบการณ์ของเพื่อนผมเองที่สนิทกัน
    และมีความศรัทธานับถือพ่อท่านดำมาก มักไปกราบทำบุญกับท่าน
    ให้ท่านลูบหัวและเป่าหัวให้อยู่เสมอ ชอบไปชวนท่านคุยถามเรื่องต่างๆจากพ่อท่านดำ

    [​IMG]

    ในปี พ.ศ.๒๕๕๖ ลูกของเพื่อนผมอยู่ชั้นป.๖ จะสอบเข้าชั้นม.๑
    ซึ่งตั้งใจอยากสอบเข้าเรียนโครงการพิเศษหลักสูตรภาษาอังกฤษและวิทย์คณิตเข้มข้น
    ของโรงเรียนประจำจังหวัด ซึ่งในแต่ละปีจะรับรวมกัน ๒๓๒ คน

    หลักสูตรนี้เป็นที่รวมของเด็กเก่งๆในลำดับต้นๆของจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียงต้องการเข้าเรียน
    การแข่งขันจึงสูงมาก เพื่อนผมได้ไปถามพ่อท่านดำว่า ลูกเค้าจะสอบเข้าเรียนได้หรือไม่
    พ่อท่านดำตอบเบาๆ ว่า “ได้”
    ปรากฏว่า เมื่อประกาศผล ลูก

    เค้าสอบได้ลำดับที่ ๒๕๒ ซึ่งไม่ติดอันดับตัวจริงที่รับเพียง ๒๓๒ คน
    แต่ติดอันดับสำรองคนที่ ๒๐ พอดี และทางโรงเรียนได้ให้ไปรอในวันที่ลงทะเบียนด้วย
    ในวันนั้นมีคนสละสิทธิ์มาก ถึง ๒๐ คน เลยได้เข้าเรียนแบบหวุดหวิด

    แล้วก็มาถึงเรื่องของผม ในปีถัดมา พ.ศ.๒๕๕๗
    ลูกผมก็จะสอบเข้า โครงการเดียวกัน
    ผมก็ไปถามพ่อท่านดำ ว่า "ลูกผมจะสอบเข้าเรียนโครงการพิเศษได้หรือเปล่า"

    พ่อท่านดำนิ่งไปนิดนึง ท่านส่ายหน้าแล้วพูดเบาๆ "ไม่ได้"
    เส้นทางแรกไม่ได้

    ผมก็ถามต่อ ถ้าสอบเข้าโครงการพิเศษ โรงเรียนอันดับ๒ ได้หรือเปล่า
    ท่านนิ่งไปนิด แล้วพยักหน้า ตอบว่า "ได้"

    ผมยังอยากรู้ต่อ ว่าถ้าสอบเข้าเรียน ในหลักสูตรธรรมดา ของโรงเรียนอันดับ๑ ของจังหวัดจะได้หรือเปล่า
    ท่านนิ่งไป แล้วพยักหน้า ตอบว่า "ได้"

    ในการสอบแข่งขันทางวิชาการ ของโรงเรียนมีชื่อเสียงในจังหวัด ลูกผมสอบได้ในอันดับที่น่าพอใจ จนคิดว่าน่าจะมีโอกาศลุ้น

    ผลการสอบแข่งขันเข้าเรียน ผลดังนี้
    หลักสูตรโครงการพิเศษ โรงเรียนอันดับ๒ รับ ๒๑๐ คน ลูกผมสอบได้ลำดับที่ ๒๐๖ สอบได้ครับ หวุดหวิน ท่านบอกถูกว่าสอบได้

    ต่อมาถึงรอบสำคัญ สอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัด โครงการพิเศษ
    เนื่องจากวันสอบ ตรงกับการรายงานตัวเข้าเรียนของโรงเรียนแรกที่สอบได้
    จึงต้องสละสิทธิ์ เพื่อมาลุ้นในโครงการพิเศษ ของโรงเรียนอันดับ๑
    ผล ปรากฏว่า รับเด็กนักเรียนตัวจริง ๒๓๒ คน เรียกสำรองวันรายงานตัวอีก ๒๐ คน
    ...ลูกผมสอบได้ลำดับที่ ๒๕๒ คือ ติดสำรองคนที่ ๒๐ พอดี
    ลูกเพื่อนผมก็ได้ลำดับที่ ๒๕๒ และมีเด็กสละสิทธิ์ มากกว่า ๒๐ คน
    ในปีนี้ ลูกผมได้ ๒๕๒ มีเด็กสละสิทธิ์ ๑๙ คน ลูกผมติดสำรองคนที่ ๒๐ ไม่ได้เข้าเรียนหลักสูตรนี้จริงๆ

    ...แต่ยังไงก็ตาม เมื่อเข้าสอบในโครงการปกติ ของโรงเรียนอันดับ๑ ของจังหวัด ก็สอบได้อยู่ในลำดับที่น่าพอใจครับ

    ตรงกับที่พ่อท่านดำ ตอบไว้ทุกอย่าง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • d104.jpg
      d104.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.9 KB
      เปิดดู:
      3,251
  9. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,698
    พ่อท่านดำ ปัณณกัณโห กับจิตที่อยู่เหนือเวทนา


    ในช่วงวันที่ ๑๕ พฤศิจายน ๒๕๕๘ พ่อท่านดำท่านนั่งนิ่ง ไม่ฉันภัตตาหาร ไม่พูดจา
    ท่านอยู่ในลักษณะนี้ ถึง ๒ วัน
    ผู้ที่รักและห่วงใยท่าน ทนเห็นอาการของท่านที่เป็นอยู่ไม่ได้ จึงได้แจ้งทางศิษย์ของท่านที่อยู่ในตัวเมืองนครศรีฯ

    [​IMG]

    เมื่อมาถึง พบเห็นสังขารและอาการของท่าน
    พ่อท่านดำ ปัณณกัณโห นั่งนิ่ง ต้นขาบวม และร่างกายผ่ายผอม
    ต้องขอแรงคนที่อยู่ใกล้ ได้ช่วยกันยกผ้าปูที่ท่านนอนอยู่ ขึ้นรถ...ไปโรงพยาบาลประจำจังหวัด

    ...ผลการตรวจเอกซเรย์ ปรากฏว่า กระดูกต้นขาข้างขวา ของพ่อท่านดำหัก

    หากเป็นเรา ลองคิดดูว่า ถ้ากระดูกต้นขาเราหัก เราจะเจ็บปวดขนาดไหน...
    จะต้องเป็นไข้เพราะกล้ามเนื้ออักเสบ ...และเลือดเสียที่ไหลคั่งบริเวณที่กระดูกขาหัก...

    ...แต่พ่อท่านดำ ท่านกลับนั่งเฉย... ไม่ส่งเสียงแสดงทุกข์เวทนาแม้แต่น้อย
    ขาหัก อาการไข้เพราะอักเสบ ท่านก็วางเฉย นั่งพิจารณาถึงการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และรอให้ดับไป...

    ผมเองไม่รู้ว่านี่เป็นข้อธรรมในหมวด สติปัฏฐาน เวทนานุปัสสนา การตั้งสติกำหนดพิจารณาเวทนา หรือไม่
    ...แต่ ท่านต้องกำหนดยกระดับจิตขึ้นสู่ระดับไหน ที่จะสามารถทนอยู่กับเวทนาที่เกิดได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • d103.jpg
      d103.jpg
      ขนาดไฟล์:
      101.3 KB
      เปิดดู:
      2,629
  10. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,698
    พ่อท่านดำ ปัณณกัณโห กับจิตของพระอริยะ ที่ยกขึ้นเหนือเวทนาทั้งปวง

    ผมเองได้ทราบข่าวและได้ไปกราบเยี่ยมพ่อท่านดำ ที่โรงพยาบาล ก็วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ แล้ว
    เนื่องจากท่านชราภาพมาก อายุ ๙๖ ปีแล้ว และท่านมีโรคหอบ เป็นโรคประจำตัว
    ทำให้คุณหมอที่ต้องรักษาด้วยวิธีใช้ตุ้มถ่วงดึงขาเพื่อจัดกระดูกให้เข้าที่...
    ในช่วงนี้ พ่อท่านดำยังฉันข้าวได้ ลุกขึ้นนั่งได้บ้าง

    [​IMG]

    แต่แล้วที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ พ่อท่านดำมีอาการสมองบวม และเส้นเลือดในสมองซึกซ้ายตีบ
    ทำให้แขนและขาด้านขวาอ่อนแรง
    ต้องใช้อาหารเหลวสำหรับผู้ป่วยสอดทางจมูกเข้าหลอดอาหาร
    และต้องสอดท่อออกซิเจนทางปากเข้าช่องปอด เพื่อช่วยหายใจ

    [​IMG]

    การที่ท่านกระดูกต้นขาหัก... และต่อมาสมองบวม เส้นเลือดในสมองซีกซ้ายตีบ
    จะเป็นด้วยเหตุการณ์ลื่นล้ม และศรีษะกระแทกกับของแข็งหรือไม่ ...ไม่มีใครรู้

    แต่ ตั้งแต่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ....
    ท่านจะนอนหลับตา ไม่ค่อยพูดหรือตื่นมาเท่าไหร่
    แม้ ใครจะเรียก หรือพูดคุยกันเสียงดังเพียงใด...ท่านก็ไม่ลืมตามาดู

    ...แต่หากกระซิบเรียกท่านเบาๆ ที่ข้างหูท่าน ท่านก็จะลืมตามาดู
    ...เพราะนี่เป็นวิธี ที่ท่านได้บอกไว้
    หรือการนอนหลับตาของท่าน... เป็นการยกจิตขึ้น ให้อยู่เหนือเวทนาทั้งปวงที่เกิด
    เพราะหากท่านกระดูกต้นขาหัก และศรีษะกระแทกพื้น...
    อาจเป็นได้ว่า ในศรีษะท่าน มีเส้นเลือดฝอยแตก เลือดคั่ง และเกิดการอักเสบจนสมองบวม

    เวทนาที่เกิด จะหนักแค่ไหน...
    แต่ท่านเพียงหลับตา ท่านอาจภาวนายกจิตเข้าสู่ ฌานสมาธิ เข้าสู่เส้นทางแห่งจิตของพระอริยะ
    ดวงจิตที่สว่าง ดุจแก้วใสเป็นประกายพรึก ได้แต่มองสภาพของสังขารที่กำลังดับไป
    แล้วเมื่ออวัยวะ ในส่วนต่างๆของท่านค่อยๆหยุดการทำงานไปในแต่ส่วน
    ทั้งปอดที่ไม่ทำงาน ต้องสอดท่อออกซิเจนช่วย
    กระเพาะอาหารที่เริ่มไม่รับอาหารจนสำลักออกทางปาก และไตวาย
    ในที่สุด วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๘ ท่านก็ละสังขาร ด้วยอาการสงบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • d106.jpg
      d106.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.3 KB
      เปิดดู:
      2,688
    • d304.jpg
      d304.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110.9 KB
      เปิดดู:
      2,596
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2015
  11. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,698
    พ่อท่านดำ ปัณณกัณโห พระผู้เมตตา ที่วัดสระแก้วหนา ร่อนพิบูลย์

    ในช่วงที่พ่อท่านดำ อาพาธอยู่โรงพยาบาล
    คณะศิษย์ที่รักเคารพในพ่อท่าน มีความหวังเต็มเปี่ยม ว่าท่านจะหายโดยเร็ว

    ทางท่านเจ้าอาวาสวัดสระแก้วหนา และศิษย์ที่ดูแลพ่อท่านดำ
    ได้ก่อสร้างกุฏิหลังใหม่ขึ้น เพื่อให้เป็นสถานที่เหมาะสมกับการพักฟื้น ดูแลสุขภาพของพ่อท่านดำ

    แม้ ความหวังนี้ดับสิ้นลง
    แต่เพื่อแสดงถึงความรัก กตัญญู ต่อพ่อท่านดำ
    ที่ท่านเคยมาอยู่เป็นเจ้าอาวาส ที่วัดสระแก้วหนาถึงสิบปี

    [​IMG]

    ท่านวัดและคณะศิษย์ จึงได้พร้อมใจกันสร้างรูปเหมือนพ่อท่านดำ
    เป็นรูปยืนอุ้มบาตร สูง ๙ เมตร
    ด้านหน้าวัด ซึ่งหันหน้าสู่ทิศตะวันออก และเส้นทางที่รถไฟวิ่งผ่าน
    เพื่อให้ผู้เคารพศรัทธาในตัวท่าน ได้มากราบไหว้ในคุณธรรมความดีของท่านต่อไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • d105.jpg
      d105.jpg
      ขนาดไฟล์:
      159.8 KB
      เปิดดู:
      2,653
  12. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,050
    ค่าพลัง:
    +5,460
    [​IMG]
    อิทธิคุณพลังจิตอสังขธาตุพ่อท่านดำ ปณฺณกณฺโห ที่ท่านอธิฐานไว้ในวัตถุมงคลปาฏิหาริย์ สายสินธ์มงคลพ่อท่านดำ อยู่ทามกลางเพลิงที่พิโรธผลาญกุฎิที่วัดสระแก้ว(หนา) แต่ไม่อาจระคายแม้เศษปลายขนด้ายสายสินธ์ที่ท่านเสกไม่

    [​IMG]
    จากภาพที่ละลายเกาะสายสินธ์เป็นกล่องพลาสติกที่ใส่สายสินธ์ แต่ไม่อาจระคายสายสินธ์ที่ท่านเสกได้ ที่สุดแห่งพลังพุทธคุณที่พิสูจน์ได้จริง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. thaiart

    thaiart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +249
    ผมมีโอกาสเดินทางไปหาดใหญ่ครับรบกวนแนะนำเกจิเส้นทาง จ.สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช-พัทลุง-สงขลา ตอนนี้ผมสนใจเก็บสายใต้ อยู่ครับ
     
  14. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,698
    เส้นทางจาก สุราษฎร์ ไปหาดใหญ่ มี 2 เส้นทางครับ
    คือ
    ๑. จากพุนพิน สุราษฎร์ ไปทาง อ.ทุ่งสง ไปชะอวด พัทลุง และหาดใหญ่
    ๒. จากสุราษฎร์ มาทาง อ.ขนอม อ.สิชล ตัวเมืองนครศรีธรรมราช แล้วไปทาง อ.หัวไทร ไปสงขลา และหาดใหญ่
    ไม่ทราบใช้เส้นทางไหนครับ

    ถ้าที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ฯ ก็มี
    ๑.พ่อท่านจ่าง วัดเกาะกลาง (เดิมท่านอยู่วัดน้ำรอบ) ท่านเคยร่วมออกธุดงค์กับพ่อท่านวงศ์่(พึ่งมรณภาพ) ศิษย์หลวงพ่อชาญณรงค์ ถึง ๑๐ ปี
    พ่อท่านจ่าง เป็นศิษย์สายวิชาเขาอ้อ ครับ แต่ก็เรียนวิปัสนากรรมฐานสายหนอด้วย หลังเพล ๑๒.๐๐ น. ท่านจะพักผ่อนถึง ประมาณ๑๕.๐๐น.นะครับ

    หากต่อจาก อำเภอพุนพิน ก็มีแยกอำเภอเคียนซา
    ๒. พ่อท่านชื่น วัดในปราบ ปกติ ท่านจะพักอยู่ โรงพยาบาลเคียนซา ครับ
    แต่ถ้าหาวัตถุมงคลท่าน ก็ไปที่วัดได้เลย ผาลไถท่านมีชื่อเสียงมาก ลองอ่านดูในเน็ตก่อนครับ ผาลไถพลิกฟื้นดวงชะตาครับ

    ที่เหลือคงต้องไปที่ พัทลุง มีเยอะมากครับ สายเขาอ้อ

    เส้นนี้ ที่ผมไปๆมา มรณะภาพซะเยอะมาก
    ตั้งแต่ พ่อท่านวงศ์ วัดประชาวงศาราม
    พ่อท่านพุ่ม วัดดอยเจดีย์
    พ่อท่านดำ วัดศรีมาประสิทธิ์

    เดี๋ยวค่อยมาต่อครับ
     
  15. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,698
    วัดในเส้นทาง จากสุราษฎร์ ถ้ามาสาย อ.ขนอม อ.สิชล ผ่านนครศรีธรรมราช
    ไป ทางอ.เชียรใหญ่ ไปสงขลา ไปหาดใหญ่

    ถ้าผ่าน อ.พุมพิน สุราษฎร์
    ก็ แวะ พ่อท่านคลาย วัดจันทราวาส ครับ เครื่องรางเขี้ยวเสือ โดยเฉพาะลูกอมท่าน มีชื่อเสียงเพราะแจกไปแล้ว เด็กนำไปห้อยคอโดนหมาพันธ์ฝรั่งกัดเสื้อผ้าขาด พาส่งโรงพยาบาล มีแต่รอย แต่กัดไม่เข้าครับ

    ถ้าเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช ก็
    ในตัวเมือง ต.ปากพูน
    พ่อท่านบุญให้ วัดท่าม่วง

    อำเภอเชียนใหญ่
    พ่อท่านเคล้า วัดแดง สายคาดเอวท่านสืบสายวิชาพ่อท่านหนูจันทร์ วัดพัทธสีมา วัยรุ่นแห่มาบูชากันมากครับ กับประสบการณ์ด้านเหนียว กันปืน
     
  16. thaiart

    thaiart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +249
    ขอบคุณครับท่าน รายละเอียด ข้อมูลแน่น เป็นประโยชน์มากครับ ว่าแต่ จ.สงขลา พอจะมีคำแนะนำไหมครับ
     
  17. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,698
    ทางจังหวัดสงขลา ผมเองไม่ค่อยได้ไปครับ
    เท่าที่เคยผ่าน
    สำนักสงฆ์ต้นเลียบ ซึ่งเป็นสถานที่ๆกล่าวในตำนานว่า ได้ฝังรกหลวงพ่อทวดไว้
    อดีตเจ้าอาวาส ตาหลวงเนียน สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อย
    ผมเคยแวะไปกราบ ยังมีพระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน ซึ่งเสกโดยอดีตเจ้าอาวาส เหลือให้บูชาอยู่ครับ

    [​IMG]

    ส่วนที่ พ่อท่านแก้ว วัดสะพานไม้แก่น อยู่ไกลหน่อย แต่ดีมากๆครับ

    ที่หาดใหญ่ วัดชัยชนะสงคราม
    เป็นวัดสอนกรรมฐาน ในต้นเดือนสอน มโนมยิทธิ เฉพาะวันที่กำหนดโดยพระจากวัดท่าซุง
    ในวันทั่วๆไป สามารถไปขอรับการฝึก วิชาธรรมกาย ได้ครับ
    เป็นวัดสาขา ของวัดปากน้ำภาษีเจริญ

    ส่วนพระเกจิ ที่เหลือของจังหวัดสงขลา มีเพื่อนๆนำมาเผยแพร่ใน ห้องประสบการณ์เรื่องเล่าแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,698
    พ่อท่านเสือเล็ก หิรัญโญ พระผู้เฒ่าผู้สืบวิชาไสยเวทพุทธาคม สำนักเขาอ้อ


    ๒๓ มกราคม ๒๕๕๖ ผมได้มีโอกาส ไปกราบทำบุญกับ พ่อท่านเสือเล็ก วัดควนซางเป็นครั้งแรก
    ในตอนนั้น ท่านอายุย่าง ๑๐๐ ปีแล้ว
    “พระครูสังฆรักษ์ หิรัญโญ” หรือ พ่อท่านเล็ก เป็นนามของท่าน
    ก่อนที่ ต่อมา จะได้รับการเรียกขานในชื่อ พ่อท่านเสือเล็ก หิรัญโญ
    เนื่องจากพระครูเจ้าอาวาสเห็นดวงตาของท่านกลมใสเป็นประกาย เป็นแวว คล้ายตาเสือ เลยเรียกพ่อท่านเสือเล็ก และชาวบ้านก็เรียกจนติดปาก

    [​IMG]

    กุฏิพ่อท่านเสือเล็ก บนฝ้าเพดาน จะผู้สายสิญจ์โยงเป็นตาข่าย

    พ่อท่านเสือเล็ก อยู่ในกุฏิหลังเล็กๆ นอกจากห้องด้านหน้าที่มีโต๊ะหมู่บูชาแล้ว
    ด้านหลังก็มีห้องสำหรับจำวัด ที่มีเพียงเตียง และมุ้งที่กางไว้กันยุง และห้องน้ำ
    ท่านอยู่แบบสมถะ มีเพียงพัดลม ที่ช่วยคลายร้อน และกาต้มน้ำไว้ชงน้ำปานะ
    ไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆแต่อย่างใด

    เวลาว่างของพ่อท่าน จะอยู่กับการภาวนา และบทคาถาพุทธมนต์ที่ได้ร่ำเรียนมา
    ผมเองไปพบท่านแต่ละครั้ง จะเห็นสิ่งที่คุ้นตาคือ
    หากพ่อท่านนั่งอยู่ ท่านจะนั่งฉีกผ้าจีวร เพื่อนำมาทำตะกรุดคู่สายคาดเอว
    หรือไม่ท่านก็ใช้มีกรีดใบตาล เพื่อทำลูกตรุด หรือลูกตะกร้อ

    [​IMG]

    บางทีประตูกุฏิปิดอยู่ ผมก็มองดูทางหน้าต่าง
    ท่านเอนตัวนอน แต่ไม่หลับ นอนเอามือก่ายหน้าผาก นอนท่องบ่นคาถาพุทธาคมเบาๆ
    เวลาในแต่ละวัน จิตของพ่อท่านอยู่กับการภาวนา การทรงฌาน...

    การเขียนอักขระยันต์แต่ละตัว ในใบตาล เพื่อทำลูกตรุด(ลูกตะกร้อ)
    หรือเขียนแผ่นตะกรุด ต้องท่องคาถากำกับตามวิชาที่เรียนมา
    พ่อท่านจะเขียนอักขระยันต์ด้วยตัวเองทุกตัวอักษร

    [​IMG]

    ตะกรุดสายคาดผ้าจีวร ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้า และลูกตรุด พ่อท่านเสือเล็ก
    ปกติลูกตรุดท่านเขียนยันต์เฉพาะด้านใน แต่บางทีท่านก็เมตตาเขียนยันต์เพิ่มให้ด้านนอกอีกครั้ง

    ได้สอบถามพี่สมชาย ซึ่งเป็นศิษย์ที่อยู่ดูแลพ่อท่าน ทราบว่า
    พ่อท่านเสือเล็ก นั่งลงตะกรุด,นั่งเขียนอักขระในใบตาลและสานมันขึ้นมาเป็นลูกตะกร้อ
    ซึ่งท่านเรียกเครื่องรางชิ้นนี้ว่า “ลูกตรุด” มานานหลายสิบปีแล้ว
    และในทุกวันนี้พ่อท่านเล็กยังคงตื่นจากจำวัดแต่เช้าเพื่อมานั่งสมาธิ ทำวัตรเช้า เขียนตะกรุด สานลูกตรุดหรือทบทวนวิชา


    เคยถาม เรื่อง ประสบการณ์ ของวัตถุมงคลพ่อท่าน กับพี่สมชาย
    ได้รับการบอกเล่าว่า “พวกตำรวจแถวกันตังพกลูกตรุดของท่านทุกคน
    เขาว่าไปยิงกับคนร้ายแล้ว ฝ่ายผู้ร้ายยิงไม่ออก พากันมาขอจากท่านกันทั้งโรงพัก”
    แม้ล่าสุดที่ผมถาม ในเดือนมกราคม ๒๕๕๘ เรื่องประสบการณ์เครื่องรางของพ่อท่านเสือเล็ก พี่สมชายก็เล่า ประการณ์ที่เด่นๆก็ที่กันตัง และต่อมาก็มีที่ปัตตานี
    เป็นประสบกาารณ์ของทหารพรานที่ปัตตานี ที่มีปลอดภัยจากอันตราย ด้วยอาศัยความขลังศักดิ์ จากเครื่องรางของพ่อท่านเสือเล็ก

    [​IMG]

    “ลูกตรุด” เป็นเครื่องรางที่ขึ้นชื่อของพ่อท่านเล็ก หลายคนเมื่อเห็นก็อาจจะเรียกว่า ตะกรุดใบลาน,ลูกตะกร้อหรือตะกรุดนะโม ๒๙

    พ่อท่านเล็ก จะใช้ใบตาลแห้งมาลงปฐมอักขระนอโม ได้แก่
    “นอ โม พุ ทอ ธา ยอ สิ ทอ ทม ออ อา อิ อี อึ อื อุ อู ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ เอ แอ ไอ ใอ โอ เอา อำ อะ”
    ตามตำรายันต์ตะกร้อตำรับเขาอ้อ
    วิชานี้พ่อท่านได้เรียนมาจากพระอาจารย์(จำชื่อไม่ได้) ที่ปักกลดอยู่ในป่าช้าของวัดแห่งหนึ่ง
    ก่อนที่ท่านจะมอบวัตถุมงคลแก่ผู้รับท่านจะสอนผู้รับเสมอๆ ว่า
    “นะคือพ่อ โมคือแม่” ท่องให้ขึ้นใจไปไหนก็ไม่ต้องกลัวอันตราย

    [​IMG]

    นอกจากลูกตรุด และ ตะกรุดสายคาดผ้าจีวรแล้ว
    ยังมีเครื่องรางอีกชิ้น ที่ท่านทำไว้แจกเด็กๆ หรือใครจะขอไปให้ลูกให้หลาน
    "ตะกรุดผูกข้อมือเด็ก" ของท่านจะเขียนยันต์ในแผ่นกระดาษ แล้วม้วน ใช้ด้ายสายสิญจ์มาพัน สำหรับแจกให้เด็กๆ ใครมาขอ ท่านก็ให้
    เด็กเล็กๆ คนไหนร้องไห้ไม่หยุด เอาตะกรุดของท่านไปผูก ตั้งใจท่องนะโมสามจบ
    เด็กผู้หญิงผูกข้อมือซ้าย เด็กผู้ชายผูกข้อมือขวา ผูกเสร็จเด็กหยุดร้องทันตาเห็น

    "ตะกรุดผูกข้อมือเด็ก" ของท่านจะเขียนยันต์ในแผ่นกระดาษ แล้วม้วน ใช้ด้ายสายสิญจ์มาพัน สำหรับแจกให้เด็กๆ ใครมาขอ ท่านก็ให้


    พ่อท่านเสือเล็ก ในปี ๒๕๕๕ อายุ ๙๙ ปี ท่านเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่เมตตาปลุกเสก เหรียญบารมีหลวงพ่อทวด ที่มีประสบการณ์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    ล่าสุดเมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ กรณีที่มีคนร้ายนำวัตถุต้องสงสัยและธงชาติมาเลเซียวางปักในเขต จ.นราธิวาส
    ทหารชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด
    ได้เดินเตะเส้นลวดที่ต่อชนวน แต่ระเบิดไม่ทำงาน
    จากการสอบถามทราบว่า ทหารท่านนี้มี เหรียญบารมีหลวงพ่อทวด และ ตะกรุดผูกข้อมือ ของ พ่อท่านเสือเล็ก ซึ่งได้รับแจกมาพร้อมกัน

    ในตอนกลางคืน ทุกวัน ท่านก็จะนั่งสมาธิสวดมนต์
    พ่อท่านเสือเล็ก จะสวดมนต์ทบทวนวิชา
    ท่านสวดมนต์หรือท่องคาถาได้ทั้งเดินหน้า ถอยหลัง
    ไม่ว่าจะยาวหรือสั้นท่านสามารถท่องไปท่องกลับได้อย่างแม่นยำ

    และทุกวันเช่นกัน กลางคืนหลังนั่งสมาธิแล้ว
    ท่านจะจุดเทียน สวดมนต์ทำน้ำมนต์ ศิษย์ท่านเรียกว่า “น้ำมนต์ภาณยักษ์”
    น้ำมนต์ของท่านคนถูกผีเข้าหรือถูกของเอาไปพรมออกทุกราย
    เพราะท่านจะสวดมนต์ภาณยักษ์ทุกคืน

    ในการสวดมนต์เพื่อเสกน้ำมนต์นี้เอง
    ในแต่ละคืน ท่านจะสวดด้วยบทคาถา ที่ไม่เหมือนกัน
    แล้วแต่ว่าวันไหนท่านจะสวดด้วยมนต์บทใด
    บนฝ้าเพดานกุฏิ ท่าน จะมีตาข่ายสายสิญจน์ผูกโยงไว้เหมือนใยแมงมุม
    ศิษย์ท่านจะผู้สายสิญจน์โยงลงมาผูกกับกล่องไม้ใบใหญ่ ซึ่งเก็บวัตถุมงคลของวัดที่เก็บไว้
    ดังนั้น วัตถุมงคลของวัดทุกอย่าง ยิ่งอยู่นาน จะยิ่งขลัง เพราะจะได้รับพลังจากบทมนต์และอภิญญาจิตที่เข้มขลังของพ่อท่านเสือเล็กทุกคืน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • s101.jpg
      s101.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.5 KB
      เปิดดู:
      3,044
    • s107.jpg
      s107.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.9 KB
      เปิดดู:
      2,892
    • s108.jpg
      s108.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.6 KB
      เปิดดู:
      4,131
    • s109.jpg
      s109.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107 KB
      เปิดดู:
      3,083
    • s106.jpg
      s106.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110 KB
      เปิดดู:
      2,765
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2015
  19. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,698
    พ่อท่านเสือเล็ก หิรัญโญ

    พ่อท่านได้ถือกำเนิดขึ้นในปีพุทธศักราช ๒๔๕๖ ตรงกับปีนักษัตรปีขาล ณ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช

    เนื่องจากโยมพ่อของท่านเป็นผู้ที่สนใจในเรื่องของพระพุทธศาสนารวมถึงมีความชื่นชอบคาถาอาคมเป็นทุนเดิม
    จึงได้เดินทางมาอุปสมบทและฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์ทองเฒ่าเจ้าอาวาสวัดเขาอ้อ
    ในขณะนั้นเด็กชายเล็กวัย ๑๓ ขวบที่ติดตามมาด้วย ได้ตัดสินใจบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดเขาอ้อเช่นกัน

    [​IMG]

    วัดเขาอ้อ ถือเป็นสำนักไสยศาสตร์ชั้นดี โดยเฉพาะในยุคของพระอาจารย์ทองเฒ่า (พระครูสังฆาพิจารณ์ฉัททันต์บรรพต) เป็นเจ้าอาวาส
    จะมีทั้งบรรพชิตและฆราวาส หลั่งไหลกันเข้ามาเล่าเรียนวิชาอาคมกันเป็นจำนวนมาก
    สามเณรเล็กได้เรียนวิชาที่บิดาถ่ายทอดให้ซึ่งเป็นวิชาของ พระอาจารย์ทองเฒ่า
    และยังได้แสวงหาขอเรียนวิชาอาคมจากเหล่าผู้มาฝึกฝนเล่าเรียนวิทยาคมที่วัดเข้าอ้อ เพื่อเสริมให้ตัวเองมีความรู้เพิ่ม

    [​IMG]

    จนเมื่ออายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ท่านจึงอุปสมบทและศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย
    เรียนบาลีมูลกัจจายน์ และเรียนวิชาอาคมเวทย์มนต์ต่างๆ จากบรรดาครูบาอาจารย์ในวัดเขาอ้อจนมีความเชี่ยวชาญ
    บางครั้งก็มีพระจากเขมร จากลาว เดินทางเข้ามาเรียนวิชาของเขาอ้อ
    พ่อท่านก็ขอเรียนวิชา ไม่ต้องออกแรงเดินทางไปเรียนที่อื่น
    เอาวิชาของเขามาเรียนรู้ มาดัดแปลงและใช้ไปตามสภาพของแต่ละสถานการณ์

    [​IMG]

    ในปี ๒๔๘๓ ท่านจึงติดสินใจลาสิกขาบท ออกจากร่มกาสาวพัสตร์
    เพื่อช่วยเหลือครอบครัว บุพการีในการประกอบสัมมาอาชีพ
    และแต่งงานสร้างครอบครัวตามความตั้งใจของมารดา

    เมื่อท่านได้ครองเรือนมาระยะหนึ่ง ท่านบังเกิดความเบื่อหน่ายในเพศฆราวาส
    มีจิตใจขวนขวายกลับสู่เพศบรรชิตศิษย์ตถาคตอีกครั้งหนึ่ง

    เมื่อท่านอายุได้ ๓๓ ปีในปีพุทธศักราช ๒๔๙๐ ท่านจึงได้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์
    โดยมีพระครูวิเชียรรัตนากร วัดเขาแก้ววิเชียร เป็นพระอุปัฌาย์
    จากนั้นท่านได้จำพรรษา ณ วัดนันทาราม อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช

    ในช่วง ๕ ปีที่ วัดนันทานาม นอกจาก ท่านได้ศึกษาสรรพวิชาจนหมดสิ้นกระบวนแล้ว
    ท่านยังได้รับมอบหมายเป็นครูสอนธรรมะแก่พระภิกษุ สามเณร ในวัดนันทารามอีกด้วย
    จากนั้นท่านจึงได้ออกเดินทางธุดงค์ตามป่าเขา เพื่อแสวงหาความวิเวก อันสัปปายะเหมาะแก่การศึกษาข้อธรรมให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น

    [​IMG]

    ท่านมาสร้างวัดควนซางเมื่อปี ๒๔๙๘ ท่านเคยเล่าว่าสมัยนั้นบริเวณนี้ยังคงเป็นป่าและไม่มีวัด
    ชาวบ้านมาเห็นท่านปักกรดจึงนิมนต์ขอให้ช่วยสร้างวัด
    ผ่านไปปีเศษ พอวัดเริ่มเข้ารูปเข้ารอย ท่านก็ออกธุดงค์ เข้าป่าขึ้นเขา
    ด้วยความชอบของท่านที่ว่าอยู่ในป่าในเขาสบายดีไม่ต้องมีใครมากวนใจ

    จนกระทั่งในปี ๒๕๐๐ พ่อท่านได้เดินทางไปถึงวัดประสิทธิชัย(ท่าจีน) อำเภอเมืองจังหวัดตรังและจำพรรษาที่นั่นในปีนั้น
    ตลอดพรรษาพ่อท่านเล็กได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนวิชาจาก พระอาจารย์วัน มะนะโส พระผู้ใหญ่ของจังหวัดตรังในขณะนั้น
    เมื่อสิ้นพระอาจารย์วัน แล้ว ก็ได้ขอเรียนวิชาเพิ่มกับพระครูปฏิภาณธรรมรส(ภายหลังได้เลื่อนเป็น พระมงคลสิทธิการ) ผู้สืบวิชาและเป็นศิษย์เอกของพระอาจารย์วัน


    ในปี ๒๕๐๒ พ่อท่านเล็กได้เดินทางไปขอศึกษาเล่าเรียนกับ พระอาจารย์ศรีแก้ว กุลคุโณ วัดไทรใหญ่(วัดเก่า) ตำบลควนรู อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ตลอดพรรษา
    ในปี ๒๕๐๔ ท่านได้เดินทางมาจำพรรษา ณ วัดนันทาราม อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช และ ได้เป็นศิษย์เรียนวิชา กับพ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ

    จนกระทั่งถึงปี ๒๕๓๒ ท่านได้เดินทางจำพรรษา ณ วัดต่างๆ เพื่อศึกษาเล่าเรียนสรรพวิชาต่างๆให้จนหมดสิ้น .....

    ระหว่างปี ๒๕๓๓ ถึง ๒๕๔๘ ท่านได้เดินทางไปประจำพรรษา ที่วัดปากเชียร อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช .....

    กระทั่งในปีพุทธศักราช ๒๕๔๘ ถึงปัจจุบันพ่อท่านเล็กได้เดินทางมาจำพรรษา ณ วัดควนซาง อำเภอรัษฏา จังหวัดตรัง วัดที่ท่านได้ดำริและสร้างไว้เมื่อ ๕๐ ปีก่อนหน้านั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • s103.jpg
      s103.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85.6 KB
      เปิดดู:
      2,323
    • s104.jpg
      s104.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.3 KB
      เปิดดู:
      2,344
    • s105.jpg
      s105.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.3 KB
      เปิดดู:
      2,187
    • s110.jpg
      s110.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.8 KB
      เปิดดู:
      2,221
  20. สาปสาง

    สาปสาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2012
    โพสต์:
    470
    ค่าพลัง:
    +1,332
    เข้ามาติดตามหาความรู้เรื่อยๆครับ ผมได้ภรรยาเป็นคนหาดใหญ่ เดี๋ยวเวลาลงไปใต้คงได้แวะหาตระกรุดพ่อท่านเสือเล็กบ้างละครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...