เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ขออนุญาตุผู้ดูแลกระทู้นี้ เข้ามาเก็บความรู้อันเป็นประโยชน์
และประสบการณ์ดีๆ อันหาไม่ได้ที่ไหน
ขออนุโมทนาบุญของท่านอ. ขอบพระคุณมากค่ะ

 

มาแล้วครับ

 

เรื่องเล่า เขากะลา ตั้งแต่ปี 2551

เดือนสิงหาคม 2551
กลุ่มเขากะลารุ่น 1 ได้ตั้งฐานปฏิบัติการชั่วคราวขึ้นที่
ห้องพักในอาคารฝักข้าวโพด ซอยรามคำแหง 40
มีการเชื่อมระบบ ขยายระบบ และประมวลพลังให้กับผู้สนใจ
ผู้สนใจกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มเขากะลา รุ่น 2
โดยมีชื่อกลุ่มเรียกรวมอย่างเป็นทางการว่า
กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

การเชื่อมระบบ คือการเชื่อมคลื่นพลังงานจากจิตวิญญาณชั้นสูงต่างดาว
การขยายระบบ คือการให้ธรรมะ ให้เห็นจริงในความเป็นไปของขันธ์5 ให้เกิดการปล่อยวาง และละอัตตาตัวตนให้ได้ในที่สุด

การประมวลพลัง คือการปฏิบัติสมาธิ/วิปัสสนา สัมผัสคลื่นพลังงานจากต่างดาว ที่มากระทบขันธ์5 เกิดการเคลื่นไหวและเกิดอาการต่างๆที่ไม่สามารถควบคุมได้

ผู้เข้าร่วมกลุ่มเขากะลา 2 ครั้งนั้น
จะได้รับการติดตั้งอุปกรณ์
อุปกรณ์ตัวนี้ว่ากันว่า ต่างดาวเป็นผู้ติดตั้งให้
เพื่อการทำงานช่วยเหลือมนุษย์ยามเกิดมหาภัยใหญ่
เกินกว่ามนุษย์ด้วยกันจะช่วยเหลือกันได้

เมื่อมีการติดอุปกรณ์ ทำให้เกิดความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์ธรรมดา เช่น ความสามารถในการสแกนกรรม ความสามารถในการรักษาคนเจ็บป่วยที่หมดทางรักษา หรือรักษากันมานานก็ไม่หายสักที
เป็นต้น
ทั้งนี้อยู่ในความเข้าใจว่า การสแกนกรรมก็ดี การรักษาก็ดี
เป็นการส่งคลื่นพลังงานผ่านมายังขันธ์5 ของผู้รักษา
ผู้รักษาเป็นตัวกลางส่งผ่านคลื่นดังกล่าวเท่านั้น

เมื่อเขากะลารุ่น 2 ผ่านขั้นตอนการเชื่อมระบบ. ขยายระบบ
และประมวลพลัง แล้ว ก็ถึงเวลาใช้อุปกรณ์ ให้รู้ให้เห็น เป็นตัวอย่างว่า มีประสิทธิภาพในการทำงานอย่างไร

(โปรดติดตามตอน2 ต่อไป)

 

เรื่องเล่าเขากะลา ตั้งแต่ปี 2551 (ตอนที่ 2)

ในปี พ.ศ. 2552
เขากะลารุ่น 2 เริ่มเดินสายทำงานให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า
สิ่งที่มนุษย์ธรรมดาทำไม่ได้ แต่มนุษย์ต่างดาวทำได้
โดยใช้ขันธ์5 ของมนุษย์นี่แหละ เป็นช่องทางส่งพลัง
ความสามารถพิเศษ มาช่วยเหลือมนุษย์ด้วยกัน

เขากะลา1 ร่วมกับเขากะลา 2 ออกสู่กิจกรรมต่างจังหวัด
เริ่มจากจังหวัดตราด จังหวัดลำปาง จังหวัดอุตรดิตถ์

มีตัวอย่างการสแกนกรรม/การรักษาที่ น่าทึ่งเช่น
ที่ลำปาง
เด็กหนุ่มวัยเพิ่งเริ่มทำงาน กำลังไปได้ดีกับงานที่ทำ
แต่แล้วอยู่ๆก็เกิดอาการตาพล่า มองอะไรไม่ค่อยเห็น
ทำให้ต้องออกจากงาน และตะเวนรักษามาแล้วทุกหมอ
ทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย ตลอดจนพึ่งเจ้าเข้าทรง
พึ่งไสยศาสตร์ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหาย เป็นเวลากว่า 2 ปี

น้าสาวทราบข่าวว่ากลุ่มเขากะลามีการจัดทริปสแกนกรรม/รักษาโรค โดยแพทย์แผนอนาคต(หรือที่เรียกกันเพลินๆว่า แพทย์หมดอนาคต)จึงพามาสแกนกรรม/รักษาโรค
กับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ที่ลำปาง

เมื่อคณะรักษา รักษาแล้วยังไม่ดีขึ้น
จึงส่งมาสแกนกรรม
ผู้สแกนกรรม เห็นภาพชายหนุ่มในอดีตเคยจับหางงูแล้วฟาดหัวงูลงไปที่พื้น นั่นคือกรรมที่เขาได้รับในภพปัจจุบัน
จึงบอกวิธีแก้ไขไปให้

ประมาณเดือนเศษ น้าสาวของชายหนุ่มโทรมาแจ้งให้ทราบว่า
บัดนี้หลานชายตามองเห็นแล้ว และได้กลับเข้าทำงานเป็นปกติ

(โปรดติดตามตอนที่3)

 

" ผู้เข้าร่วมกลุ่มเขากะลา 2 ครั้งนั้น
จะได้รับการติดตั้งอุปกรณ์
อุปกรณ์ตัวนี้ว่ากันว่า ต่างดาวเป็นผู้ติดตั้งให้
เพื่อการทำงานช่วยเหลือมนุษย์ยามเกิดมหาภัยใหญ่
เกินกว่ามนุษย์ด้วยกันจะช่วยเหลือกันได้ "

กำลังสนใจเรื่องกลุ่มเขากะลาอยู่พอดี รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
การไปอยู่ ณ จุดนั้น ต้องได้รับการคัดเลือกจุดมนุษย์ต่างดาวหรือโดยความสมัครใจคะ
แล้วมนุษย์ต่างดาวที่มาสื่อสารกับกลุ่มเขากะลา เป็นเผ่าพันธ์ไหนคะ มีหลายกลุ่มมั๊ย ?

 

55555 ถามจิงเถอะ คนมีตาทิพย์ บางคน ไม่รู้จริงๆหรือ ว่า เขากะลา ทำงานให้ พวกมนุษย์ต่างดาวมิจฉา และ ลูซิเฟ่อร์ แล้ว ให้อุปกรณ์สมาชิก เพื่อจะควบคุมจิต และขอสิงร่าง เนี้ยนะ ช่วยโลก กำ ทำไปได้ นับถือ พระรัตนตรัย ดีกว่ามั้ย ท่าน

 

ในดีก็มีเสีย
ในเสียก็มีดี
มันเป็นเช่นนั่นเอง

 

เรื่องเล่าเขากะลา ตั้งแต่ปี 2551 ตอนที่ 3

การเดินทางออกไปทำกิจการสแกนกรรม/รักษาโรค
ของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ในต่างจังหวัดแต่ละครั้ง จะมีเจ้าภาพสถานที่และที่พัก ให้กับคณะของกลุ่มฯที่ไปทำงาน
เช่นที่ลำปาง จัดที่ศูนย์ฝึกอบรมแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
จำนวนผู้มารับการสแกนกรรม/รักษาโรค ประมาณ 80 คน

ที่อุตรดิตถ์ จัดที่สถานธรรมใกล้ตัวเมืองอุตรดิตถ์ มีเรือนพักรับรองและเรือนปฏิบัติธรรมใหญ่ บริเวณกว้างขวางมาก มีบึงน้ำใหญ่
ตั้งพญานาค9 เศียร ไว้สักการะบูชาอยู่ริมบึง

ต้องขออภัยที่ไม่สามารถจดจำชื่อท่านเจ้าภาพในครั้งนั้นได้

ระบบบอกอยู่เสมอว่า ทำแล้วให้ทิ้ง ไม่ต้องติดตามผลงาน
อะไรที่ระบบจะให้จำ ก็จะจำได้

โดยเฉพาะการสแกนกรรม ค่อนข้างแม่นยำมาก
อย่างน้อยผู้สแกนกรรมได้ จะต้องมีการปฏิบัติสมาธิต่อเนื่องกันมาหลายภพชาติ เมื่อมาผนวกกับอุปกรณ์สแกนกรรม เลยทำให้
รับสื่อออกถ่ายทอดได้อย่างแม่นยำ
ระบบส่งภาพอะไรมา. บอกออกไปเป็นได้เรื่องได้ราวทุกครั้ง
บางทีก็หาเหตุผลไม่ได้ว่า เขาส่งภาพนั้นลงมาให้รู้และให้บอกกล่าวทำไม ก็ถือว่าเป็นเรื่องของระบบ ไม่เกี่ยวกับผู้สแกน

จะถูกจะผิดก็เป็นเรื่องของระบบ ต้องไปว่ากันเอาเองนะครับ

อย่างเช่นการส่งภาพงูเหลือมตัวใหญ่มาก มาให้เห็น ขณะกำลังสแกนกรรมให้กับผู้หญิงวัยกลางคน คนสุดท้าย ที่สถานธรรม จ.อุตรดิตถ์
(มีผู้มาร่วมงาน จากจังหวัดใกล้เคียงด้วย นับเป็นร้อยคน)
พอพูดออกไปว่า เคยเห็นหรือเกี่ยวข้องกับงูเหลือมตัวใหญ่หรือไม่

เท่านั้นเอง หญิงคนนั้นก็พูดออกมาด้วยความประหลาดใจ
บอกว่าใช่ๆ เมื่อสองวันก่อน มีงูเหลือมตัวใหญ่เลื้อยออกมาจากใต้ถุนบ้าน แล้วเลื้อยกลับเข้าไป ไม่รู้หายไปไหน
แล้วบอกต่อไปว่า รู้ได้ยังไงๆ
พลางลงไปนั่งจะกราบผู้สแกนที่พื้น
ต้องรีบยกตัวแกขึ้นมา. บอกว่าอย่าทำอย่างนั้น

ระบบน่าจะทดสอบว่าผู้สแกน เกิดอัตตา เกิดความเข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ หรือเปล่า กระมัง. (โปรดติดตามตอนที่ 4)

 

เรื่องเล่าเขากะลา ตั้งแต่ปี2551 ตอนที่ 4

ยังมีกิจกรรมสแกนกรรม/รักษาโรค อีกแห่งครับ
เกือบลืม คือที่ เขาค้อ เพชรบูรณ์
ในปี 2552 ซึ่งเป็นปีแห่งการทำกิจกรรมของ
กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) อีกกิจกรรมหนึ่ง

เจ้าภาพคุณวรวุฒิ ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
ขอขอบคุณ มา ณ ที่นี้อีกครั้งครับ

เสร็จกิจกรรมที่ต้องออกเดินทางไปต่างจังหวัดแล้ว
ในปี 2553
กลุ่มฯ ได้จัดกิจกรรมสแกนกรรม/รักษาโรค ในเขตกรุงเทพฯ
ขึ้นที่บ้านคุณจอห์นนี่ ภายในหมู่บ้านมัณฑนา ถนนประชาอุทิศ
ตอนนั้นจัดกันอาทิตย์เว้นอาทิตย์
แล้วก็เหลือเดือนละครั้ง
คนมาร่วมในแต่ละครั้ง ไม่ต่ำกว่า 50 คน
ตั้งแต่เวลาบ่าย 2 ไปจนมืดค่ำก็มี

ในการทำกิจกรรมทุกครั้ง
จะมีพี่สุดใจ ผู้อาวุโสเขากะลา รุ่น 1
คอยขยายระบบ ให้ธรรมะละวางอัตตาตัวตน
ให้เข้าใจความเป็นจริงของขันธ์5 แก่ผู้มาร่วมงาน เพิ่มเติมอีกด้วย

ขออนุโมทนากับทุกท่านที่เข้ามาอ่าน เรื่องเล่าเขากะลา
จนจบแบบรวบรัด เพื่อทราบพอเป็นสังเขปครับ

 

ของดีมีอยู่ในถ้ำเสือ
ไม่เข้าถ้ำเสือแล้วจะได้ของดี ได้อย่างไร

 

อันนี้ดีมาก อยากแบ่งปัน
"มณีเวช"
ท่าบริหารช่วยแก้ไหล่ติด
นิ้วลอค ปวดหลัง
เพียงวันละ 10-20 นาที
ทำ 1 เดือนทุกวันหาย

http://youtu.be/SD44HEbvU5M

เพื่อนๆ ลองดู ท่ามณีเวชนี้ได้รับการยอมรับในเรื่องการคลายกล้ามเนื้อได้ดีมากเลย

 

โอ้ว.......เพราะความโลภ อยากได้ของดี (ของผีต่างมิติ)นี่เอง จึงทำให้เห็นกงจักร เป็นดอกบัว ขอให้ท่านโชคดีละกัน นะ

 

.............................................

 

.............................

 

..................................

 

ตั้งแต่อาจารย์อาชวินจากไปก็เงียบเหงา

 

เรื่องราวจบหมดไปตั้งแต่ปี2009หรอครับ ไม่มีใครมาอัพเดทประสบการณ์เพิ่มอีกหรอคับ

 

อยากรู้ผล ไม่เหนมาอัพเดทเลยครับ

 

อยากฟังเรื่องนี้ต่อครับ ของคุณเมืองแก้ว

 

.เห็นถามกันมากเหลือเกินครับว่า ตาที่สามเปิดหรือยัง ....
.....วิธีตรวจสอบว่าตาที่สามเปิดแล้วหรือยัง มีดังนี้
1. หงายมือทั้งสองขึ้น ให้ปลายนิ้วกลางทั้งสอง
ห่างจากกันประมาณ 2 นิ้ว
วางมือทั้งสองบนฉากสีขาวเช่นกระดาษ
ให้ห่างจากฉากประมาณ 2 นิ้ว เพ่งตาไปที่ช่องว่างระหว่างนิ้วกลาง
ชี้ และ นาง แบบสะบาย ๆ ถ้าเห็นเป็นแสงสีต่าง ๆ ภายใน 1 นาที่
ตาที่สาม เปิดไปราว ๆ 20 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเห็นเป็นสีใสขุ่น ๆ เท่านั้น
ตาเปิดเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้ามอง ไม่เห็นอะไรเลย ยังไม่เปิดครับ

ลองทำดูเห็นนิ้วกลาง/นาง ข้างซ้ายยาวขึ้น ข้างขวาก็หดลงสล้บกัน บางครั้งก็ซ้อนกันแปลว่าอะไรค๊ะ ผู้รู้ช่วยตอบที