ปิดกระทู้โดยสมบูรณ์ครับ

ขอบพระคุณที่แจ้งครับ

 

ผมโอนให้วันจันทร์นะครับ ขอโทษด้วยครับที่ช้า

 

รับทราบตามที่แจ้งมาครับ

 

โอนแล้วครับวันนี้เวลา 10.47 น.ครับ
ที่อยู่จัดส่ง ในกล่องข้อความครับ

 

จอง 1 องค์

 

รับทราบการโอนและที่อยู่ครับ (รายการฝาก) ภายในวันนี้จัดส่งด่วนๆ EMS ให้ครับ ขอบพระคุณครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับ

 

เพชรนนท์ = 7/4/2015 EMS : EL963020805TH ขอบพระคุณครับ

 

ได้รับแล้วครับ สวยครับ

 

ขอบพระคุณที่แจ้งครับ ขอให้มีความสุขกับวันปีใหม่ไทยนะครับ

 

Livelight = 16/4/2015 EMS : EN723447436TH ขอบพระคุณครับ

 

คุณทัต นอกเว็ป (กทม.) = 7/5/2015 EMS : EN186466611TH ขอบพระคุณครับ

Livelight = 7/5/2015 EMS : EN653681386TH ขอบพระคุณครับ

คุณบุญสูง นอกเว็ป (พระนครศรีอยุธยา) = 7/5/2015 EMS : EN653681390TH ขอบพระคุณครับ

คุณนกน้อย นอกเว็ป (สุพรรณบุรี) = 7/5/2015 EMS : EN653681426TH ขอบพระคุณครับ

 

zeantae = 8/5/2015 EMS : EN785470324TH ขอบพระคุณครับ

 

พระมหาจักรพรรดิ์ เนื้อชนวนผสม (ปิดทอง) ขนาด 5 นิ้ว
ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) จ.ลำพูน

พระพุทธรูปบูชาปาง " พระมหาจักรพรรดิ์ "

จัดสร้างเพื่อมอบแด่ผู้ที่เป็นเจ้าภาพผ้าป่า เนื่องในโอกาศยกช่อฟ้าวิหารพระมหาจักรพรรดิ์ ๗๘ องค์ แบ่งเป็น...

- เนื้อชนวนผสม (ปิดทอง) จำนวน ๓๙ องค์ ตอกโค๊ตใต้ฐานบัวด้านหน้า อุดแผ่นธรรมธาตุเงิน

- เนื้อโลหะผสมชนวน (ขัดเงา) จำนวน ๓๙ องค์ ตอกโค๊ตใต้ฐานบัวด้านหลัง อุดแผ่นธรรมธาตุทองเหลือง

ใต้ฐานอุดสิ่งของมงคลดังนี้

1. แผ่นธรรมธาตุ ที่เหลือจากการทำล๊อกเก็ตธรรมธาตุ(หลวงปู่พิศดูอธิษฐานจิต)

2. เหรียญขวัญถุง พิธีสมโภชน์เบิกเนตรพระวัดป่ายางปี ๒๕๕๗

3. มวลสารภายในตลับ ประกอบด้วย
- สายสิจญ์หุ้มเงิน หุ้มทอง ในพิธีสมโภชน์เบิกเนตรพระวัดป่ายางปี ๒๕๕๗
- เกศาครูบากฤษดา
- ตะกรุดเงิน ผ่านการอธิษฐานจิตหลายพิธี
- พลอยกินบ่เสี้ยง ผ่านการอธิษฐานจิตหลายพิธี
- จีวรครูบากฤษดา

อธิษฐานจิตในพิธีสมโภชน์เบิกเนตรพระวัดป่ายาง ๒๕๕๗

= ปิดเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ

*** 5/9/2015 EMS : EN723846875TH ขอบคุณครับ ***

 

เหรียญพระอุปคุตจิ๋ว รุ่นพระชนะมาร เนื้อนวะโลหะ
หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี วัดเทพธารทอง จ.จันทบุรี

เหรียญนี้จัดสร้างพร้อมกับล็อกเก็ตรุ่นโสฬสญาณมงคลปู่หลาน ในปีพ.ศ.2553 โดยคณะศิษยจ์อุปัฏฐากได้ขออนุญาติองค์หลวงปู่จัดสร้าง พิธีอธิษฐานจิตโดยท่านครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง และองค์หลวงปู่พิศดู ได้อธิษฐานจิตตลอดมาเป็นเวลาหลายเดือนก่อนจะเข้าสู่แดนนิพพาน นับเป็นวัตถุมงคลรูปพระมหาอุปคุตรุ่นสุดท้ายที่องค์หลวงปู่ได้สร้างเสกสรรไว้...

โดยออกแบบให้เป็นรูปพระมหาอุปคุต พระหัตถ์ข้างหนึ่งจกบาตร อีกพระหัตถ์หนึ่งถือดอกบัว
เพื่อบูชาพระพุทธองค์ และแหงนพระภักร์ชำเลืองมาร(มิให้ทำกิจอันเดือดร้อนวุ่นวายต่อผู้ที่นับถือพระศาสนา)
เพราะองค์พระมหาอุปคุตเป็นผู้เลิศในทางฤทธิ์ เป็นผู้ที่พระพุทธองค์ทรงพุทธทำนายเอาไว้ว่า
ต่อไปภายหน้าหลังพุทธปรินิพพานแล้ว 200 ปีเศษ ท่านพระอุปคุตจะมาเกิด
และจะบรรลุโมขธรรมนำพาเวนัยสัตว์น้อยใหญ่ให้พ้นจากบ่วงของมาร
ท่านจักเป็นผู้ทำกิจบางอย่างในพระศาสนาแทนพระพุทธองค์
และพระพุทธองค์ยังทรงยกย่องให้ท่านเป็นอนุพุทธะ(พระพุทธเจ้าน้อย) ที่ปราศจากมหาปุริสลักษณะ
ท่านพระมหาอุปคุตองค์นี้จะเป็นผู้ปราบพยามารให้ละพยศ เพื่อให้ตั้งความปราถนาซึ่งพุทธภูมิต่อไป
และด้วยองค์ท่านพระมหาอุปคุต ท่านอาศัยอยู่ในย่านปราสาทแก้วกลางสะดือทะเล
จึงออกแบบองค์พระให้ท่านประทับอยู่ในซุ้มปราสาทกลางน้ำ
ส่วนด้านหลัง ออกแบบให้เป็นอักขระขอมนำมาผูกร้อยเรียงกันเป็นยันต์ อ่านได้ว่า " พระชนะมาร "
จำนวนสร้างทั้งหมดได้สร้างออกเป็นของ 2 วัด คือวัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง)
ด้านหลังจะไม่ได้บอกชื่อวัดเป็นแต่เพียงมียันต์อย่างเดียว
โดยได้สร้างถวายไว้รวม 2 เนื้อ คือเนื้อทองเหลือง และทองแดง รวมกันได้ 2,000 องค์

ส่วนที่ออกที่วัดเทพธารทอง ด้านล่างของยันต์จะเขียนบอกชื่อวัดเทพธารทอง จำนวนการสร้างโดยแบ่งเป็น...
- เนื้อเงิน 19 องค์
- เนื้อนวะโลหะ 200 องค์
- เนื้ออัลปาก้า 200 องค์
- เนื้อทองเหลือง 1,000 องค์
- เนื้อทองแดง 1,000 องค์
- เนื้อตะกั่ว ไม่ตัดปีก 59 องค์

เครดิตข้อมูล : พี่ทุเรียนทอด

= ปิดเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ

*** 4/8/2015 EMS : EN188919561TH ขอบคุณครับ ***

 

ล็อกเกตพระมหาจักรพรรดิ์ ฉากแดง/แผ่นธรรมธาตุทองเหลือง
ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) จ.ลำพูน

ล๊อกเก็ตพระมหาจักพรรดิ์ วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง)
จัดสร้างเพื่อมอบแด่ผู้ที่ร่วมบุญ เนื่องในโอกาศยกช่อฟ้าวิหาร
จำนวนการสร้าง ๑๖๖ องค์
- ฉากทอง ๒๔ องค์ ปิดแผ่นธรรมธาตุเงิน
- ฉากแดง ๑๔๒ องค์ ปิดแผ่นธรรมธาตุทองเหลือง

หมายเหตุ.แผ่นธรรมธาตุชุดนี้เป็นชุดที่เหลือจาก
การทำล๊อกเก็ตธรรมธาตุซื้งเหลือเป็นชุดสุดท้ายแล้ว
แผ่นปิดบางอันอาจจะมีโค๊ตแปลกๆเพิ่มขึ้นเช่นกงจักร หรือเลข ๙
แต่ทุกอันจะต้องมีโค๊ต อุนาโลม ยืนพื้นทุกอัน

ด้านในบรรจุมวลสารมงคลและเกษาครูบากฤษดา สุเมโธ

รายนามพระเถรานุเถระที่ร่วมอธิษฐานจิต...
1. หลวงปู่พิศดู ธํมมะจารี วัดเทพธารทอง(แผ่นธรรมธาตุ)
2. หลวงปู่ฮก วัดมาบลำบิด(แผ่นธรรมธาตุ)
3. พ่อท่านคลาย วัดจันทราวาส(ล๊อกเก็ตและแผ่นธรรมธาตุ)
4. หลวงพ่อล้าน วัดขนาย(ล๊อกเก็ตและแผ่นธรรมธาตุ)
5. พระอาจารย์อนันต์ อกิญจโน วัดมาบจันทร์(แผ่นธรรมธาตุ)
6. ครูบากฤษดา สุเมโธ(ล๊อกเก็ตและแผ่นธรรมธาตุ)

และเข้าพิธีสมโภชน์เบิกเนตรพระ วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง)(แผ่นธรรมธาตุ)

= ปิดเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ

*** 29/9/2015 EMS : EN723884493TH ขอบคุณครับ ***

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/zbBaJlf7ddLXYzRa" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/bc4/zcL6aB.jpg" /></a>

เหรียญหลวงปู่ดู่ "มีจาร" รุ่น ร่มเงาโพธิญาณ

วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง เพื่อเป็นอาจาริยบูชาในวาระที่หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ อายุครบ 108 ปี
เพื่อนำรายได้ส่วนที่เหลือจากการจัดสร้างไปใช้ในการบูรณะ เจดีย์พระธาตุและ เรือนพระธาตุ ณ "สถานปฏิบัติธรรมม่อนแก้วจอมมณี" ซึ่งได้บรรจุดวงแก้วมหาจักรพรรดิ์ และ พระธาตุและพระเขี้ยวแก้ว ของสมเด็จองค์ปฐม รวมไปถึงของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน พร้อมทั้งมีเกศาของครูบาอาจารย์หลายองค์ อาทิเช่น หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ , หลวงปู่ขาว ,หลวงปู่ตื้อ , หลวงปู่แหวน สุจินโณ , พระอาจารย์วัน , พระอาจารย์จวน เป็นต้น (โดยรวมแล้วมีประมาณ 108 องค์)

ชนวนมวลสาร
ชนวนรุ่นเปิดโลก
ชนวนพระรุ่นต่าง ๆ ของหลวงปู่ดู่
ตะกรุดหลวงปู่ดู่

กดพิมพ์พระในวันที่ 5 พฤษภาคม 2555 ซึ่งเป็นวันฉัตรมงคล และเป็นวันเสาร์ขึ้น 15 ค่ำ วันที่ 5 ปี 2555

กำหนดการอธิษฐานจิตเหรียญหลวงปู่ดู่ รุ่น "ร่มเงาโพธิญาณ" วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม 2555
เวลา 10.00 น. อธิษฐานที่บ้านพุทธฉัตร อำเภอนครหลวง จ.อยุธยา
เวลา 12.30 น. นำเหรียญไปขอเมตตาหลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว อ.บางไทร อธิษฐานจิต
เวลา 15.39 น. นำเหรียญไปขอเมตตาหลวงพ่อหวล วัดพุทไธศวรรย์ อ.อยุธยา อธิษฐานจิต

รายละเอียดและความหมายของเหรียญ
อาจารย์ศุภรัตน์ แสงจันทร์ ได้กล่าวถึงที่มาของเหรียญรุ่นนี้ไว้ว่า "หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ เป็นผู้ทรงด้วยความเมตตา การที่เราได้อยู่ ได้ใกล้ชิดท่าน เราย่อมได้รับความสวัสดิมงคล เหมือนเราอยู่ใต้ร่มเงาแห่งพระโพธิญาณนั้น"
นอกจากนี้ อาจารย์ศุภรัตน์ ยังได้อธิษฐานสำหรับการสร้างเหรียญรุ่นนี้ไว้ว่า "แม้นไม่ได้พกติดตัว ถึงอยู่กับบ้านใคร ก็ขอให้บารมีแห่งพระโพธิญาณได้ปกปักรักษา แผ่ฉัพพรรณรังสี คุ้มครอง ป้องกันภยันตรายทั้งหลาย"

 

ตะกรุดสาริกา "นะหน้าทอง" (ขนาดประมาณ 1.5 นิ้ว)
อ.ธรรมนูญ บุญธรรม สำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ จังหวัดชลบุรี

สร้างจากแผ่นดีบุกขนาดประมาณ 1.5 x 5 นิ้ว ลงด้วยยันต์ทางเมตตามหาเสน่ห์ล้วนๆ โดยมียันต์นะหน้าทองเป็นยันต์หลัก ซึ่งยันต์นะหน้าทองของท่านปู่พ่วง มีสูตรการเรียกที่เป็นสุตรเฉพาะของสำนักไม่เหมือนที่ไหน และยันต์นะหน้าทองนี้อาจารย์เคยทำลงเป็นผ้าเช็ดหน้าอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อ 30 ปีก่อน เป็นที่เสาะหาของลูกศิษย์เป็นอย่างมาก จนเมื่อปี 2550 ท่านจึงได้ทำอีกครั้งหนึ่ง และเป็นครั้งสุดท้ายเพราะอานุภาพของผ้ายันต์นะหน้าทองนั้นมีอานุภาพมาก จนมีคนนำไปใช้ไม่อยู่กับร่องกับรอย ท่านจึงได้ยุติการทำผ้ายันต์นะหน้าทองตั้งแต่บัดนั้น

ตะกรุดสาริกา " นะหน้าทอง " นี้ ควรที่จะใช้ในเมื่อต้องการความรักความเมตตา ความสงสารเห็นใจจากผู้อื่น
เช่น ลูกจ้างใช้กับนายจ้าง ผู้น้อยใช้กับผู้ใหญ่หรือแม้แต่นักแสดงทั้งหลาย
อาทิ ตัวลิเก ตัวละคร ดารา นักร้อง นักแสดง เป็นต้น

คาถาบูชาตะกรุดนะหน้าทอง

นะจิตตัง โมจิตตัง พุทธังมะมะ พุทโธ (3 จบ)

ถ้าไม่ใช้ติดตัวจะเอาตะกรุดแช่ไว้ในน้ำมันหอม แล้วเอาน้ำมันหอมนั้นจุณเจิมร่างกายก็มีอานุภาพดุจเดียวกัน

เครดิตข้อมูล : พี่หมออานุภาพ

= ปิดเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ

*** 16/10/2015 EMS : EP054367950TH ขอบคุณครับ ***

 

สีผึ้งจันทร์เพ็ญ อาจารย์ธรรมนูญ บุญธรรม สำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ จ.ชลบุรี
"พิเศษ" ตลับนี้ฝังเหรียญย่าเฒ่า พิมพ์หยดน้ำ รุ่นแรก ตะกรุด ปลาตะเพียน มีจารตลับทั้ง 2 ด้าน พร้อมใบฝอยเดิมๆครับ

*** ผ่านการใช้งานมาแล้วตามภาพครับ ***

สีผึ้งของอาจารย์ธรรมนูญนั้นทำขึ้นจากวัสดุธรรมชาติล้วนๆ และเป็นมงคลอย่างยิ่ง
มิได้สร้างขึ้นจากวัตถุอาถรรพ์ที่อาจมีโทษมีอันตรายเมื่อภายหลังได้ เพราะสำนักของท่านปู่พ่วงใช้แต่พระพุทธคุณ
ไม่มีส่วนผสมของกระดูกผี ขี้เถ้าศพ น้ำมันพราย อะไรทำนองนี้

ตำรับการทำสีผึ้ง ของสำนักท่านมีพิธีกรรมและขั้นตอนการทำที่ยุ่งยากมาก
โดยในปี 2552 จู่ๆ ท่านก็นึกอยากทำสีผึ้งขึ้น
ก็เริ่มเตรียมการตั้งแต่ซื้อหม้อใหม่มาลงอักขระเลขยันต์
แล้วลงยันต์ในกระดาษสาวางที่ก้นหม้ออีกทีหนึ่ง

หลังจากนั้นก็นำต้นเทียนชัยยาวเป็นวา ที่อาจารย์เก็บรักษาไว้จากงานพุทธาภิเษกของวัดเครือวัลย์
ซึ่งเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงพ่อแก้ว ผู้สร้างพระปิดตาอันโด่งดังไปทั้งประเทศ
อาจารย์ได้เอาเทียนชัยต้นนั้นมาผ่าเอาไส้เทียนออกแล้วแผ่ให้แบน
จากนั้นลงจารพระยันต์ที่ล้วนแล้วแต่เป็นเลิศทางเมตตามหานิยม และโชคลาภโดยเฉพาะ อาทิ
ยันต์สุกิตติมา ที่หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ยกย่องว่าเป็นเลิศ
ยันต์ช้างประสมโขลง ที่พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทองบอกว่าเมตตาไม่มีใดเทียม
ยันต์เทพรำลึก
ยันต์เทพรัญจวน
ยันต์นะฤาชัย ยันต์นะฤาชา
ยันต์มหาละลวย ฯลฯ
แต่ที่จะขาดเสียมิได้คือ ยันต์นะหน้าสิงห์ และยันต์นะหน้าทอง

จากนั้นก็นำเทียนชัยที่ลงอักขระเลขยันต์ไว้แล้วมาทำการเสกจนแน่ใจ แล้วนำไปเคี่ยวประสมกับขี้ผึ้งแท้และน้ำมันมะพร้าว โดยต้องเคี่ยวกลางแดดเมื่อเที่ยงตรงเพราะอาศัยฤกษ์ให้ทรงฤทธาว่าเขาย่อมมีใจกับเราอย่างเที่ยงตรงดี ไม่คด ไม่โกง ไม้พายที่ใช้กวนสีผึ้งทำจากไม้กาหลง แล้วต่อด้ามด้วยไม้รักซ้อน ส่งผลให้ผู้คนทั้งหลงใหลและรักแล้วรักอีกซ้ำซ้อนเหมือนชื่อไม้ ทั้งหม้อบรรจุ เตาไฟ และไม้ฟืน (ต้องเป็นไม้มะยมกับไม้รักเท่านั้น) ก็ล้วนลงอักขระเลขยันต์ตามตำรับตำราไว้ถ้วนทั่ว จะหาเครื่องประกอบยาแม้สักชิ้นหนึ่งที่มิได้ลงอักขระพระยันต์ไม่มีเลย

เมื่อเคี่ยวกวนยามเที่ยงวันแล้ว ครั้นตกถึงเที่ยงคืนอันเป็นวันศุกร์ยอดแห่งความเย็น
ทั้งยังเป็นเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง เดือนสิบสอง ปี 2549 อาจารย์ก็นำหม้อสีผึ้งมาเคี่ยวบริกรรมภาวนากลางแจ้งรับแสงจันทร์เพ็ญ ให้ซึมซาบเอิบอาบความเยือกเย็นและผ่องอำไพ เป็นเคล็ดว่าเมื่อใครเห็นหน้าก็ดูสดใสชวนให้หลงใหลเหมือนได้มองพระจันทร์เมื่อวันเพ็ญนั่นแล

ในขั้นตอนการทำสีผึ้งของสำนัก อาจารย์ธรรมนูญเล่าให้ฟังว่า ถ้าจะให้เข้มขลังเอกอุจะต้องหุงถึง 3 ไฟ
ซึ่งอาจารย์ได้เล่าให้ฟังว่า ตัวท่านเป็นคนโลภมาก ทำอะไรก็อยากทำให้ดี มีวิชาอะไรก็ใส่ไปหมด ดังนั้นสีผึ้งนี้ท่านจึงทำถึง 3 ไฟ ด้วยกัน คือ...

ไฟแรก จะต้องหุงและบริกรรมจนเกิดเป็นรูปนิมิตผู้หญิงห่มสไบลอยขึ้นมาเหนือสีผึ้งที่กำลังหุงอยู่
ซึ่งแค่ไฟแรกนี้ก็ถือว่าขลังใช้ได้แล้ว และหาคนที่จะหุงให้สำเร็จแบบนี้ได้ก็ยากเต็มที

ไฟที่สอง ต้องบริกรรมหุงไปจนกระทั่งรูปนิมิตดังกล่าวเปลื้องผ้าสไบออกหมด

ไฟที่สาม ท่านเล่าให้ฟังว่าต้องเพ่งจิตให้หนักเข้าจนรูปนิมิตนั้นเดินเข้ามากอดตัวเรา
จึงจะถือว่าสำเร็จ เป็นเมตตามหานิยมชั้นสูง

สีผึ้งนี้มีอานุภาพทางเมตตาอย่างร้ายกาจ ขนาดที่ลูกศิษย์อาจารย์สีปากไปทำงานในโรงงาน นั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อนร่วมงาน
พอดีเจ้านายเรียกจึงลุกพรวดพราดออกไป ทิ้งขันน้ำดื่มซึ่งตนเองดื่มไว้โดยที่ปากยังมันแผล็บจากสีผึ้ง มันจากสีผึ้งก็ลงไปลอยเป็นฝ้าอยู่ในน้ำ ปรากฏเจ้ากรรมผู้หญิงในโรงงานมาพอดีหยิบขันน้ำขึ้นกินทั้งสาวทั้งแก่ ทีนี้แหละตามลูกศิษย์ตัวดีมาเป็นภรรยาตั้ง 2-3 คน

เครดิตข้อมูล : พี่หมออานุภาพ

= Show only

@@@ โชว์เท่านั้น งดสอบถามราคาครับ ขอบคุณครับ @@@

 

รูปหล่อบูชาท่านย่าเฒ่านันทมาตา 3 นิ้ว ปี 2550
อาจารย์ธรรมนูญ บุญธรรม สำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ (ท่านย่าเฒ่า) จังหวัดชลบุรี

ท่านย่าเฒ่าท่านเป็นพระภิกษุณีในสมัยพุทธกาล มีพระนามว่า นันทมาตาเถรี
แม้กายสังขารของท่านจะเสื่อมสูญสลายไปแล้ว แต่ดวงจิตวิญญาณของท่านยังคงคอยดูแลลูกหลานอยู่
เพราะท่านตั้งจิตปรารถนาในพุทธภูมิ

อ.ทองหล่อ พงษ์แพทย์ บุตรชายของปู่พ่วง พงษ์แพทย์ ฆราวาสผู้เรืองอาคม
ได้รับถ่ายทอดวิชาต่างๆ จากบิดาท่าน ซึ่งทำได้ประจักษ์เห็นผลจริง
ท่านจึงไม่เชื่อเรื่องการทรงเจ้าเข้าทรง ท่านเชื่อมั่นแต่วิชาของบิดาท่าน
เมื่อคุณแม่ (ภรรยาใหญ่ของอ.ทองหล่อ) มาบอกว่า
ท่านย่าเฒ่าฝากบอกว่าเรียนแต่คาถาอาคม วิปัสสนาไม่เอามันจะดีอะไร
จึงเกิดการท้าประลองกันขึ้น

คุณแม่จึงนำอาสนะมาปูหนุนหลายชั้น ชั้นล่างสุดเป็นเบาะนุ่นแล้วกล่าวเชิญท่านย่าเฒ่า
ปรากฏมีเสียงเดินลงส้นบนพื้นไม้ในสำนักของอ.ทองหล่อ เสียงนั้นเดินไปจนถึงเบาะ
แล้วก็ปรากฏว่าเพียงครู่เบาะก็ยุบลงไปเป็นรูปคนนั่ง

ถึงตรงนี้ อ.ทองหล่อ ชักลังเล คุณแม่ก็ทำการกราบแล้วยื่นหน้าเข้าไปฟังเสมือนหนึ่งคุยกับใครที่มองไม่เห็นตัว
ครู่หนึ่งก็หันมาหาอ.ทองหล่อแล้วบอกถึงอักขระเลขยันต์ที่สักอยู่บนร่างของอ.ทองหล่อได้อย่างถูกต้อง ทั้งชื่อยันต์ ตัวอักขระ และคาถาที่ใช้เรียกใช้ปลุก ซึ่งยันต์เหล่านี้ปู่พ่วงเป็นผู้สักให้อ.ทองหล่อกับมือ นอกจากนี้ท่านยังบอกถึงเรื่องราวต่างๆ ในอดีตที่อ.ทองหล่อรู้เพียงลำพังคนเดียว ซึ่งไม่มีใครร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย

เช่น เมื่อตอนเป็นตำรวจผู้น้อยยังนึกแค้นใจผู้บังคับบัญชา คิดว่าน่าจะไปยิงมันเสียให้ตาย
ซึ่งเรื่องนี้ท่านนอนนึกอยู่บนสนามหญ้าหลังบ้านพักโดยมิได้บอกใคร
มิได้ออกเสียง เพียงนึกเอาเฉย ๆ และยังเป็นเรื่องที่ผ่านมานานหลายสิบปีแล้ว ท่านย่าทราบได้อย่างไร

ถึงตรงนี้อ.ทองหล่อก็กราบท่านย่าเฒ่าและยอมรับอย่างสนิทใจ
ตั้งแต่นั้นท่านนับถือเป็นครูบาอาจารย์องค์หนึ่ง จะประกอบพิธีสำคัญอะไร เป็นต้องออกชื่ออัญเชิญท่านมาทุกครั้งไป

เคยมีคนสงสัยว่าท่านย่าจะอยู่ดูแลลูกหลานอีกนานเท่าใด
ท่านย่าก็บอกว่า "เอ็งตายแล้วเกิด เกิดแล้วตายอีกกี่ชาติๆ ย่าก็ยังนั่งอยู่ตรงนี้แหละ"
และท่านได้มอบพระนามของท่านเอาไว้ ใครมีพระนามของท่านติดตัวจะได้รับความคุ้มครองจากท่าน
จึงเป็นเหตุให้ศิษย์ของสำนักนี้จะต้องสักพระนามของท่านย่าที่ข้อมือไว้เป็นสัญลักษณ์กันทุกคน

รูปหล่อท่านย่าเฒ่าขนาดบูชานี้ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่ 4 ที่จัดสร้างขึ้นมา
มีขนาด 9 นิ้ว 3 นิ้ว และห้อยคอ ซึ่งขนาด 3 นิ้ว และห้อยคอถือเป็นครั้งแรกที่ได้จัดสร้างขึ้น

ใต้ฐานบรรจุสารพัดผงวิเศษที่อาจารย์ธรรมนูญเก็บรักษาไว้ตั้งแต่สมัยท่านปู่พ่วง (อาจารย์ของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค)
จนมาถึงยุคของอาจารย์ทองหล่อ บุตรชายที่ได้รับการสืบทอดวิชาไว้มากที่สุดของท่านปู่พ่วง
และอาจารย์ธรรมนูญก็เป็นศิษย์หัวแก้วหัวแหวนคนเดียวของอาจารย์ทองหล่อ
นอกจากนี้ยังบรรจุไว้ด้วยข้าวเปลือกในงานพระราชพิธีพืชมงคล เพื่อเป็นเคล็ดว่าอยู่ที่ไหนก็ให้งอกเงยแลงอกงามไพบูลย์
แต่ทั้งนี้บางองค์เมล็ดข้าวเปลือกอาจจะฝังไว้อยู่ข้างใน จึงไม่เห็นทุกองค์
ที่สำคัญอาจารย์ได้ลงเหล็กจารจารึกพระนามท่านย่าเฒ่าไว้ตรงหน้าอาสนะท่านทุกองค์

รูปหล่อรุ่นนี้ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าท่านย่าเฒ่ามีดวงตาข้างเดียว
ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าท่านมีตาข้างเดียวจริงๆ แต่ท่านมาบอกให้ทำแบบนี้
เป็นเคล็ดว่า ท่านได้มอบของรักของหวงอันเสมือนแก้วตาดวงใจของท่านให้กับลูกหลานท่านไว้ดูแล

คาถาบูชาท่านย่าเฒ่า
นะโม 3 จบ “ วันทามิ สวา สวาหะบูชา มักคะติบูชา บูชาองค์ท่านผู้สำลุล่วง วันทามิ ”
เคยให้ครูบาอาจารย์ท่านพิจารณารูปหล่อท่านย่าเฒ่านี้ ท่านบอกว่า...อยากได้อะไรก็ขอท่านเลย

เครดิตข้อมูล : พี่หมออานุภาพ

= ปิดเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ

*** 23/11/2015 EMS : EP 0571 4444 9 TH ขอบคุณครับ ***