ขอแชร์ คำสัญญา ปาฏิหาริย์ "สมเด็จพระคำข้าว"

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Pattarakorn2010, 5 มกราคม 2015.

  1. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    พระอริยะสงฆ์หลายองค์ที่ละขันธ์ไปแล้ว
    ปรากฎว่าคำสอนของแต่ละท่านก็ไม่เห็นท่านใดเข้ม
    งวดเอาเป็นเอาตายให้ลูกศิษย์ยึดพระวจนะ
    สักองค์
    ส่วนใหญ่จะเน้นให้ลูกศิษย์หมั่นบำเพ็ญ
    ทาน ศีล และเจริญจิตภาวนาทั้งนั้น

    ถ้าทำถูกทาง ตรงทางแบบปล่อยวาง
    ก็เจริญในธรรมไปตามลำดับๆ โอกาส
    ที่จะถึงที่สุดแห่งธรรม
    โดยไม่ต้องโต้เถียงกัน

    ก็มีด้วยประการฉะนี้
     
  2. ชินนา

    ชินนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +248
    ดีครับ สาธุๆ

    นับถือพระจนเลิกเหล้าได้ บูชาพระเครื่องแล้วทำตัวดีขึ้น ก็คือมงคลแล้วครับ

    บูชาต่อไปครับ
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    นิดหน่อยก็หยุดไม่ได้
    เพราะต้องเป็นผู้ชนะเท่านั้นใช่ไหม??

    ของลุงแมวถือคติว่า ถ้าหยุด(โต้)แล้วหลุด(พ้น)
    ลุงแมวจะเลือกหยุดเพื่อหลุด อิอิ
     
  4. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ในที่นี้ไม่จำเป็นต้องหยุดเพื่อชนะ เราเป็นผู้สอน ใครมาแบบไหนเราก็สอนแบบนั้นจะได้รู้ตัวเองบ้าง. ถ้าให้เราหยุด ทุกวันเราก็หยุดอยู่ตลอดแล้วสำหรับเราเอง
     
  5. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ตลกจังลุงแมว ไม่ยึดถือพระพุทธเจ้าแล้วยึดถืออะไร. งง จัง. แล้วไม่ยึดถือพระพุทธเจ้าแล้วยึดอะไร? หรือ แล้วคำว่าหยั่งลงมั่นจะเกิดขึ้นได้อย่างไรตอบซิ
     
  6. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    เราสอนคนให้มีทิฎฐิอริยะ ไม่ได้สอนให้เลิกเหล้า ควายมันก็ไม่กินเหล้า
     
  7. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ...............แค่พอดี ก็ ดีพอ....:cool:
     
  8. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ประมาณไหนเรียกว่าพอดี ครับ ต้องเคาะถึงจะเข้าใจ งั้นมันเสียของ
     
  9. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    คนที่กำลังจะตาย ควรทำอะไรดีกว่าการได้ฟังธรรมครับ. พระศาสดากล่าวไว้เองครับว่าคนที่ใกล้ตายนั้นมีอินทรีย์ที่แก่กล้ามาก สามารถบรรลุธรรมะไดครับ. หรือจะเถียงพระพุทธเจ้าครับ สนใจพุทธวจนเถอะครับมีแต่ส่วนดีสำหรับทุกคนถูกตรง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2015
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,040
    อือหืออออ..ความจริงลืมๆไปก็ดีนะครับ ท่านผู้ฉลาดที่สุดในจักรวาล
    ขอบคุณมากนะครับ ที่มีความเป็นห่วง คริ คริ
    เด่วท่านผู้หลงตัวเองและฉลาดที่สุดในจักรวาล
    รบกวนช่วยอ่านสิ่งที่ผู้ที่ยังโง่ได้เขียนไว้
    ดังข้อความข้างล่างด้วยนะครับ...


    ''มงคลในพุทธศาสนามี 38 ประการ
    ลองดูซิมีมั้ยวัตถุมงคล
    ถ้าไม่มีก็แสดงว่าเป็นวัตถุมงคลของคนที่คิดว่าใช่
    แต่ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า
    ''

    ข้อความที่ขีดเส้นใต้นี้ เป็นข้อความของ ตัวจิตบรมโง่ตัวหนึ่ง ที่มันหลงตัวเอง
    ระดับจักรวาลว่ามันเป็นผู้บรรลุธรรม ทั้งที่ตัวจิตมันไม่มีความสามารถอะไรเลย
    ที่มันจะพยายามกล่าวเพื่อมาเสริมความคิดของมัน แล้วมันก็มาเที่ยวด่าเที่ยว
    แย้งคนอื่นๆในทุกๆเรื่องที่มันได้ทำเอง..เป็นเองทั้งหมด แต่กลับไม่รู้ตัว.
    ก็เลยไปหาข้อมูลมา เพื่อประกอบการพิจารณา แต่ว่ามันก็ยังคงที่จะยึดเอา
    ความคิดมันเหมือนเดิม...

    คือโดยปกตินะครับ ส่วนตัวไม่เคยประกาศออกตัวหรือบอกใครว่าฉลาดอยู่แล้วครับ
    ไม่เคยบอกใครว่าตัวเองบรรลุธรรม หรือ พยายามไปแสดงก้ามก้นเพื่อที่จะสอน
    คนโน้นคนนี้เพื่อให้เค้าบรรลุธรรมอะไรหรอกนะครับ..พยายามพูดให้ตัวเองเนี่ย
    ดูป่านว่า เป็นพระอริยะมาสอนคนโน้นคนนี้หรอกนะครับ...และประกาศด้วยซ้ำ
    ว่าที่รู้ที่ปฏิบัติมาปัญญาทางธรรมก็อยู่ในระดับหยาบๆเท่านั้น..
    เพราะอะไรไหมครับ เพราะว่าไม่ใช่คนหลงตัวเองครับ

    บุคคลที่จิตจะขึ้นอริยะเจ้าได้หรือว่าตกกะแสธรรมได้นั้น
    จะมีพลังงานที่ออกจากตัวจิตวิ่งไปเชื่อมกับครูบาร์อาจารย์ข้างบน
    ผ่านตรงกระโหลกศรีษะส่วนหน้าเป็นอย่างน้อยครับ...
    ไม่ใช่พวกภูมิจิตอสูรกายหลงตัวเอง คลืนสมองวิ่งวนอยู่แต่ในกระโหลก
    แล้วหลงตัวเองระดับจักรวาลอย่างนี้หรอกครับ .
    ตรงนี้พูดไป ความสามารถทางจิตมันก็สัมผัสไม่ได้อีก
    เพราะมันไม่เท่ห์ มันยอมรับไม่ได้ มันนึกว่ามันภูมิจิตระดับพระอริยะเจ้า..ถุยยยยย

    ด็ก ป. ๕ มาอ่านยังรู้เรื่อง ยังเข้าใจได้ ยังรู้เหตุรู้ผล ว่าอะไรเป็นอะไร...
    มันก็จะเถียงดำน้ำเน่าๆใน กทม.ไปเรื่อย..
    การที่จิตมันจะวางได้ นั่นมันระดับอภิญญา ๖ หกแล้วไอ้เบื้อก..
    มันหมายความว่า คนที่จะวางได้เค้าต้องมีพื้นฐานทางจิตสูงมาก่อนแล้ว
    พอสมควร ผ่านการรับรู้ทางด้านนามธรรมมาพอสมควรแล้ว
    แม้ว่าจะมาทางสายวิปัสสโกก็ต้องเข้าใจได้จริงๆแล้ววว..
    ที่นี้มันดาวโลกนะครับ ไม่ใช่อมรโคยานทวีป หรือดาวอื่นๆนะครับ
    คนมันต้องมีกำลังสมาธิ ผ่านการสร้างสะสมความดี
    สร้างบารมีมาพอตัวมีกำลังจิตสะสม มีสติปัญญาพอที่จะรู้แล้ว
    เค้าถึงจะพอมีกำลังที่วางตรงนี้ได้...ไม่ใช่ไปอ่าน พุทธวจนะ ไปอ่าน
    พระไตรปิฏก แล้วมาทำความเข้าใจ มาวิเคาระห์ มาใช้ความเห็น
    ตีความเข้าข้างความคิดตัวเองแล้วจิตมันถึงจะวางได้.
    .ถามหน่อยพ่อเบื้อก จิตไม่เคยสัมผัสอะไร ไม่เคยรู้ ไม่เคย
    เข้าใจอะไรมาก่อน มันจะมีปัญญาความสามารถในการวางไหมครับ...

    เช่น บอกว่าทุกข์มันเป็นอย่างนี้อย่างนั้น แต่จิตไม่เคยทุกข์ แล้วมันจะเอา
    อะไรไปรู้ทุกข์ ไปเข้าใจทุกข์ เอาปัญญาอะไรไปวางทุกข์ครับ..
    มันใช้การอ้างระดับพระพุทธฯ อ้างพุทธวจนะ หรือครับในการวาง...
    เห็นปุ๊บ อ่านปั๊บ มันวางทุกข์ได้จริงๆหรือ ครับเรื่องง่ายแค่นี้ก็ยังไม่รู้..
    ความสามารถทางจิตอะไรก็ไม่มีอย่างนี้ ฝึกมีกี่ปีแล้วก็หัดดูตัวเองหน่อย....
    อย่าหลงตัวเองให้มันมากไปกว่านี้เลย ที่บอกว่าพอก็ควรพอได้แล้ว
    ไม่ต้องไปสนใจคนอื่นๆเค้าหรอกว่าเค้าจะห้อยพระหรือไม่ห้อยพระก็เรื่อง
    ของเค้าครับ...เอาตัวเองให้มันรอดก่อนเถอะนะไอ้ภูมิจิตอย่างนี้...

    และไม่ต้องมาย้อน คนอื่นๆคืนหรอกครับ เพราะว่าเค้าไม่ได้สนหรอก
    ความเป็นอริยะ ความฉลาดปราดเปรื่องหลงตัวเองแบบนี้..
    เพราะฉนั้นก็ปล่อยให้คนอื่นๆเค้าโง่ของเค้าไปเถอะครับ
    รวมทั้งผมด้วยก็จะอยู่แบบโง่ๆอย่างนี้หละครับ
    แต่ถ้าบนโลกนี้มีคนที่คิดว่าฉลาดอย่างคุณอยู่กันเต็มโลก
    ผมคงเก็บตังค์ขึ้นยานอวกาศไปอยู่ดาวอังคารดีกว่าครับ...
    เพราะว่ามันฉลาดดดดดด เกิ๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนน
    ฉลาดของมันคนเดียวยากที่จะทานยาแล้วหายได้....จบ

    ปล.ข้างบนคือคำตอบที่คุณถามว่ามาแย้งหาอะไรนะครับ
    และก็ตอบหาวิมานอะไรครับ..ถ้าฉลาดแบบคุณ
    เชิญคุณเป็นพ่อฉลาดที่สุดในปฏฐีของคุณไปคนเดียวเลยครับ
    ตามสบายนะครับ..ขออยู่แบบโง่ๆแบบคนทั่วๆไปดีกว่า
    คงไม่มีภูมิปัญญาอะไรที่จะสนทนาอะไรกับคุณอีก
    ได้แล้วหละครับ
     
  11. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ในที่สุดก็เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงมาแล้วผู้รู้ รู้แม้กระทั้งว่าผู้ที่เป็นอริยะจะต้องมีจิตเปิดกระโหลกด้าบนเชื่อมต่อกับด้านบน แหมไหนบอกไม่อวดอ้าง. นี่แหละครับอวดอ้างทำเป็นรู้. คนเราตัวตนมันปิดไม่ได้หรอกจากตัวหนังสือ ไปเถอะครับหมั่นสร้างความดีเยอะๆนะ นพการท่านยังอีกยาวนานนัก ถ้าท่านไม่เข้าใจทิฎฐิแห่งอริยะที่ผมคุยไป และยังก็อย่ามาทำเป็นรู้ว่าจิตจะต้องเชื่อมด้าบนอะไรเลย อันนี้ล่ะที่เรียกว่าขี้คุยไง. ตัวตนท่านเองหยาบไม่เบานะ มีถุย!ด้วย หมดกันผู้นำพลังจิต แค่เพียงเล่าให้ฟัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2015
  12. Pattarakorn2010

    Pattarakorn2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2014
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +1,753
    ท่านbigtoo หากท่านไม่เห็นด้วยก็เฉยไปสิครับ ท่านผู้วิเศษ เก็บอารมณ์ไม่อยู่เลยนะครับ ผมจะยกตัวอย่างง่ายๆเลย ผมนี่มีลูก เพื่อนผมก็มีลูก เด็กแต่ละคนกินข้าวยากง่ายต่างกัน เด็กบางคนหิวกินเองได้ บางคนต้องให้ป้อน บางคนกินเองแต่ขอดูการ์ตูน
    บางคนทั้งให้ป้อนทั้งดูการ์ตูน จุดประสงค์ก็เพื่อความอิ่ม แต่ทางที่ถูกที่สุดควรจะให้ทานเองห้ามดูหนังการ์ตูน ทานเสร็จแล้วค่อยดู แต่เด็กน้อยคนจะยอมทำตามโดยเฉพาะ
    เด็กเล็ก เราก็ต้องมีวิธียากง่ายต่างกับเพื่อให้ลูกอิ่ม ท่านถนัดแนวทางของท่าน ก็ทำแบบของท่าน คนอื่นเค้าก็มีแนวทางของเค้าเหมือนกัน ขนาดพระยังมี ธรรมยุต มหานิกาย
    เลย เวลาท่านโพสแล้วมีแต่คนกด ไม่เห็นด้วยบ่อยๆ ไม่อายบ้างเหรอครับ
     
  13. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ท่านครับ ที่นี่คือที่สนทนาเกี่ยวกับพุทธศาสนา(ความรู้ที่ถูกต้อง)และที่นี่ก็เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นตามที่ตนเองเข้าใจ เมื่อท่านเสนอเกี่ยวกับความเชื่อที่ท่านเชื่อเกี่ยวกับวัตถุมงคลอะไรๆนั้น ผมก็เสนอความคิดว่าสิ่งนั้นมันไม่ตรงกับสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสอน ผมก็หาเหตุผลมาลบล้าง ท่านอาจจะโต้แย้งผมได้ในทุกกรณีเราไม่ว่ากัน ไม่เห็นต้องกล่าวหากันว่าอวดตนเป็นผู้รู้ทำตัววิเศษกว่าผู้อื่น แน่นอนครับคนเราอาจจะมีความคิดที่หลากหลาย ผมไม่เคยปฎิเสธเรื่องแบบนี้ผมเข้าใจได้ เพราะความคิดคนมีถึง62แบบ แต่ที่เรามาศึกษาพุทธศาสนานี้ก็เพื่อความพ้นทุกใช่มั้ยครัย. และอะไรเล่าจะนำพาเราให้พ้นทุกข์จริงๆได้. มันก็ต้องเริ่มจากการสนใจในคำสอนของพระพุทธเจ้าจริงมั้ย และอะไรคือคำสอนที่ตกทอดกันมาถึงสมัยเราๆ มันก็มีเพียงตำราที่เราสามารถยึดถือได้จริงหรือไม และท่านลองย้อนไปในตำราซิ มีสักครั้งมั้ยที่พระพุทธองค์ปั้นอะไรสักอย่างให้เราเอาไปบูชานับถือไม่มีเลยใช่มั้ย และทำไมทุกวันนี้มีแต่ปั้นอะไรมากมาย ถ้าคนที่นุ่งหมสีเหลืองแล้วปั้นอะไรมาให้เราบูชาได้. ท่านลองนึกดูนะครับงั้น!ผมก็ปั้นได้ ท่านก็ปั้นได้ปั้นกันได้ทุกคน มันคงแปลกดีนะ. พระองค์มีแต่คำสอนซึ่งเป็นธรรมะให้เราเอามาปฎิบัติกัน เช่น ให้ทาน รักษาศิล ปฎิบัติภาวนา นี่ต่างหากคือสิ่งที่เราๆควรทำกัน. แต่ทุกวันนี้คนเราหลงผิดคิดว่ามีสิ่งหนึ่งที่จะให้อะไรกับเราได้ด้วยการที่เรายกมือไหว้แล้วก็อ้วนวอนขอในสิ่งที่ตนปรารถนา อันนี้ต้องยอมรับว่าสังคมเรามีมาก "นี่หรือชาวพุทธ." พระพุทธเจ้าที่กล่าวว่าถ้าการขอนั้นได้ผลจริงจะมีมนุษย์คนใดจะไม่สมปรารถนา สิ่งที่ผมกล่าวไปว่าให้ละวางพระเครื่องอะไรนั้นดูๆไปมันอาจจะแรงสำหรับคนที่สนใจในเรื่องนี้. แต่ถ้าท่านรักและเคารพในคำสอนของพระศาสดาและปรารถนาที่จะก้าวเข้าสู่อริยบุคคลท่านต้องวางสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด แล้วผ่านความกลัวยืนหยัดด้วยตนเองไม่พึ่งสิ่งที่ทำให้เรา ไม่ตายไม่ได้ อะไรที่ทำให้เราไม่ตายไม่ได้นั้นทิ้งไปได้เลย มีอยู่3อย่างที่เราพึ่งได้ซึ่งเป็นคุณสมบัติของอริยชนอย่างโสดาบันนั้นคือ ท่านจะต้องหยั่งลงมั่นในพระพุทธอย่างไม่หวั่นไหวและมั่นคงในพระรัตนตรัย เปรียบดังเสาหินฝังลงในดิน8ศอกโผล่พ้นดินมา8ศอก ไม่หวั่นไหวต่อแรงลมฉันใดก็ฉันนั้น และนี่ไม่ต้องกล่าวหาผมอีกนะว่าอวดรู้ นี่ไม่ใช่ภูมิความรู้ของผม นี่คือความรู้ของพระองค์ที่ทุกคนก็สามารถเข้าถึงความรู้นี้ได้ทุกคน. อ้อลืมไปมีคนมักจะบอกว่าพระเครื่องทำให้เราคิดถึงพุทธคุณฟังดูเหมือนจะดีนะครับ แต่จริงแล้วสิ่งเหล่านี้ทำให้เราชาวพุทธนั้นหลงงมงายกันผิดๆจนบานปลายมาถึงทุกวันนี้แก้ยากมาก ท่านดูจิตใจท่านเองเถอะจริงๆแล้วหวังอะไรในการไหว้ที่เรียกว่าพระเครื่องนั้น มันฝังลงรากเหง้าแห่งความเห็นผิดคิดว่ามีก้อนอะไรศักสิทธิ์กราบขออะไรก็ได้นี่แหล่ะครับความปรารถนาดีที่เกินขอบเขตของพระพุทธเจ้า การระลึกนึกถึงพุทธคุณนั้นเราต้องเข้าใจในคำสอนจริงๆถึงจะนึกถึงพุทธคุณได้ พระองค์มีทั้งพระปัญญาคุณ พระบริษุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ เพียงท่านบูชาท่านด้วยการปฎิบัติบูชาด้วยการ ทำทาน รักษาศิล ปฎิบัติภาวนานี่ต่างหากคือการบูชาพระพุทธองค์ มนุษย์ทำแค3อย่างนี้โลกก็จะเกิดสันติสุขอย่างแท้จริง. และสิ่งสุดท้ายผมขอกล่าวอย่างนี้ว่า สิ่งที่คุณทำอยู่มันไม่ผิดหรอกนะครับเพราะปุถุชนทั่วๆไปเขาก็ทำกันทั้งนั้น เช่นกราบภูเขาบ้าง ต้นไม้บ้างฯลฯ แต่อริยชนภายใต้บริษัทของพระองค์ไม่กระทำสิ่งเหล่านี้ พุทธวจนช่วยได้ (คำที่ออกจากปากของพระองค์ ไม่เกี่ยวกับอาจารย์ไหนนะครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2015
  14. attasade

    attasade เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +2,554
    พุทธวจนะ นี่ดีนะครับ แบ่งแยกพุทธบริษัทได้ดีทีเดียว เหนือชั้น เหนือชั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2015
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ผมเป็นของผมมาอย่างนี้นานแล้วหละครับ.เปิดเผยตัวเองยังไง.
    คิดมายังไง เอาเซลสมองส่วนไหนคิดครับ...
    ก็คุณมันเป็นคนที่โคตรของความหลงตัวเอง แถมยังไร้ความสามารถทางจิต
    พอคนอื่นๆเค้าทำได้ก็มาว่าเค้าอวดอ้าง ผมไม่ใช่ห่มเหลืองนะครับ.
    และอะไรที่ผมทำได้ปกติอยู่แล้ว และเอามาพูด บ้านคุณเค้าเรียกว่า
    อวดอ้างหรือครับ....

    ถามสั้นๆคุณทำได้อย่างผมไหมครับ มีปัญญามีความสามารถทางจิต
    ที่จะรับรู้ได้อย่างผมไหมครับ...ผมทำให้คนอื่นๆรับรู้ได้ด้วยนะครับ
    ถ้ามนุษย์คนไหนในโลกที่พอมีสัมผัส โทรมาหาผม ผมก็ทำให้เค้า
    รับรู้ได้หมดหละครับ ว่าจิตระดับพระอริยะเจ้าท่านขึ้นไปเป็นอย่างไร
    เพราะพระอริยะนั้นจิตท่านเปิดอยู่แล้วเป็นปกติครับ มีแต่จะหาคน
    ที่จะทำตัวให้จิตเข้าถึงท่านได้เท่านั้นหละครับ.

    ยิ่งคนที่มาทาง
    สายวิชาพิเศษ แค่โทรมาหาผม ไม่เกินนาทีหรอกครับ..
    เค้าก็จะทราบได้ด้วยตัวเค้าเองครับ.. ถ้าคุณมันจิตระดับอริยะจริงๆ
    คงไม่หน้าทน ดำน้ำ มหาทิฐิอย่างนี้หรอกครับ..ผมคงจะเกรงใจ
    คุณไปนานแล้วหละครับ...


    เจียมตัวเองบ้างปฏิบัติกี่ปีแล้ว คิดเอาเองว่าตัวเองเป็นระดับโน้นระดับนี้..
    ก็เลยบอกวิธีตรวจจิตคนที่เค้าเป็นระดับอริยะขึ้นไป. คนที่ทำได้จริง
    และแสดงให้คนอื่นๆรับรู้ได้ ที่สำคัญเป็นฆารวาส
    เค้าไม่เรียกว่าอวดอ้างหรอกครับ..เพราะปกติไม่เคยบอกว่าทำได้
    ไมเคยเอามาโม้.เพียงแค่บอกวิธีการตรวจสอบไอ้พวกที่มันหลงตัวเอง


    คนที่ทำไม่ได้แล้วชอบว่าคนอื่นๆเค้าอวด ว่าเค้าขี้โม้..
    พวกนั้นหละเค้าเรียกว่า พวกหลงตัวเอง
    แค่นั้นไม่พอยังขี้อิจฉาอีกต่างๆหาก ถามจริงเถอะทำได้อย่างผมไหมหละ
    ก็ตัวภูมิจิตอสูรกาย..หลงตัวเองว่าบรรลุแบบนี้
    พอเจอคนที่เค้าสามารถจับกระแสได้
    แล้วยังจะมาพยายามพูดสร้างภาพให้ตัวเองดูดีอีก
    จะว่าอะไรคนอื่นๆก็ไม่รู้จักดูตัวเอง
    ไม่ดูความสามารถทางจิตตัวเองเลย
    ไม่เรียกว่าหลงตัวเอง ไม่เรียกว่าขี้อิจฉา
    และยังไม่รู้อีกนะ ว่าไอ้ที่พยายามพูดในสิ่งที่ไม่ใช่ตน
    ในสิ่งที่ตนเองไม่มี ทำไม่ได้ ไร้ความสามารถในการทำ
    นั่นหละครับ เค้าเรียกว่า อวดอ้าง กลับไปเรียนภาษาไทยใหม่ซะไป ซิวๆ

    ผมไม่เคยปิดตัวเองหรอกครับ และไม่เคยมีภาพ
    เพราะสร้างภาพไม่เป็นครับ..ไม่เหมือนกับตัวคุณหรอกครับ
    ที่พยายามสร้างภาพหลอกตัวเองไปวันๆ ว่าตัวเองมีปัญญามาก
    ตัวเองบรรลุธรรม ทั้งที่ภูมิจิตระดับอสูรกาย ความสามารถทางจิตก็ไม่มี
    แล้วยังมาพยายามที่จะดึงคนอื่นๆให้เห็นความคิดของตนเอง
    ว่าต้องแบบฉันแบบตรูนี่หละ ที่จะถูกต้อง ขนาดผมอ้างข้อความ
    จากตำรามาเสริมก็ยังจะหน้าทน หน้าด้าน เถียงอยู่นั่นหละ
    กับเรื่องแค่ห้อยพระ..
    โดยรวมแล้วตัวจิตแบบคุณนั่นหละครับ ที่เค้าเรียกว่า น่าสมเพชที่สุดครับ...ถุยยยย

    ปล.ผมขอประกาศไว้เลย ณ กระทู้นี้ครับ..
    ใครก็ตามที่สงสัยเรื่องกระแสพลังงานที่ออกจากจิตระดับพระอริยะ
    เป็นอย่างไร หรือกระแสพลังงานที่อยู่ในพระคำข้าวนะครับ..
    ให้ขอเบอร์โทรผมมาครับทาง pm ผมจะพาท่านทั้งหลาย
    เชื่อมกับครูบาร์อาจารย์ของท่านเอง พาท่านสัมผัสกับกระแส
    พลังงานในองค์พระคำข้าวเอง.. ยิ่งท่านที่มาทางสายวิชาพิเศษท่านยิ่ง
    จะสัมผัสได้ง่าย แล้วสุดท้ายผมจะพาท่านเชื่อมกับ ไอ้หลงตัวเองที่มันชื่อว่า
    Bigtoo คนนี้
    แล้วให้พวกท่านไปลองเปรียบเทียบดูเอง...
    ถ้าไม่สามารถสัมผัสรับรู้ได้ว่ามันจริงอย่างที่ผมพูด
    หรือเปล่า อนุญาตให้เอาผมไปฆ่าทิ้งได้เลยครับ.
    จะได้รู้กันเอาไว้ว่าไอ้ภูมิจิตอสูรกายที่มันหลงตัวเอง
    กระแสจิตมันเป็นอย่างไรถ้าเทียบกับพระอริยะเจ้า
    ที่ท่านมีชื่อทั้งหลาย
    หรือเทียบกับกระแสพลังงานในพระคำข้าวครับ.
    ..จะได้ไม่ต้องเสียเวลา
    มาอธิบายและพูดกับมันให้เสียเวลาครับ...
    ขอบคุณมากครับ....
     
  16. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    คำก็ถุย ! สองคำก็ถุย. แล้วจะนำใครไปสู่จิตอริยะได้เหรอ
     
  17. purinankun

    purinankun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +61
    ครูบาอาจารย์ต่างๆ ท่านได้น่ะ คือได้ความสงบเสียก่อน เห็นความสงบเสียก่อน จิตพอสงบเข้าๆ มันก็รวมได้ เห็นแสงสว่างได้ มันจะเห็นนิมิตนั่น นิมิตนี่ล่ะ นั่นล่ะ...จิตไม่...ออกจากนั่นล่ะ หมุนใคร่ครวญอยู่นั่น มันเกิดอย่างนั้น เท่าที่ครูบาอาจารย์หลายๆ องค์ท่านเคยเป็นมา อย่างหลวงปู่ชอบนี่ เดินไปนี่ ทั้งวันก็อยู่ในสมาธิได้ จิตสงบอยู่อย่างนั้น เอาพุทโธอยู่อย่างนั้น เดินไปๆ เหยียบดินก็คล้ายกับว่าเดินอยู่บนอากาศ ถ้าจิตฟุ้งซ่านรำคาญก็จะเป็นเหมือนเอาไฟมาเผาหัวใจอยู่นั่น จะไฟอะไรก็ไฟราคะ โทสะ โมหะนั่นล่ะที่เผาอยู่นั่น

    จะไฟอะไรอีก...อันนี้ล่ะก่อกวนและปิดบังธรรมะของพระพุทธเจ้า ทิฐิมานะก็อีกตัวหนึ่ง ยกตัวเองอยู่นั่น แต่เห็นคนอื่นชั่วไปหมด แล้วอรรถธรรมของพระพุทธเจ้าจะโผล่ขึ้นได้ยังไง เพราะมันติดอยู่ จิตมันไม่สะอาด ให้ชำระจิตตนเองให้สะอาด โอ๊ย...กว่าจิตมันจะรวมได้ มันเป็นสัปปายะหมดล่ะ วางจิตลงเป็นผ้าเช็ดเท้าหรือเป็นดินโน่นแล้วอรรถธรรมของพระพุทธเจ้าจะโผล่ขึ้นมาให้เห็นเอง

    *โอวาทธรรมหลวงปู่ลี กุสลธโร*

    ก็อย่างที่คุณ นาธิยะ แสดงความคิดเห็นไว้ครับ ผมเห็นด้วยตั้งแต่อดีตมาก็มีพวกสำนักแบบนี้ ในสังคมพุทธมาโดยตลอด แต่ก็เสื่อมๆลงไปอยู่ได้ไม่นาน
    อันนี้ความเห็นส่วนตัวครับ ผมเคยอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งผมจำไม่ได้ว่าฉบับที่เท่าไรของสำนักข่าวไหน รู้แต่ว่า ปี 27 ก็มีสำนักแบบพุทธวจนะนี้ละครับ จำไม่ได้ว่าเป็นสำนักชื่ออะไร ท่านที่เกิดทันร่วมสมัยก็แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้นะครับ เพราะนานมาแล้ว

    ก็ประกาศตนว่าไม่ให้ลูกศิษย์กราบพระพุทธรูป หรือ ใสพระเครื่องใดๆทั้งสินเข้าวัด เพราะไม่ตรงตามคำสอนพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎก(มีการตีพิมพ์ตำราของสำนักตนด้วยครับ เพื่อแจกกับศิษย์ผุ้ศรัทธา) ตอนนั้นพาดหัวข่าวใหญ่โต เพราะถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ และสมัยนั้นพระกรรมฐานหลายๆท่านที่เป็นระดับครูบาอาจารย์ทั้งสายป่า ทั้งสายบ้าน ตลอดจนมหาเถระสมาคม ต่างออกมาวิพาก วิจารย์ กันใหญ่โต
    ถึงขนาดส่งพระ ระดับชั้น เทพ ชั้น พรหม เข้าตรวจสอบสำนักดังกล่าว

    แต่อยู่ไม่นานหรอกครับสำนักดังกล่าว เดี่ยวก็หายๆไปถูกตรวจสอบหรือถูกตักเตือนจากพระเถระเข้าหน่อยก็ยกธูปเทียนแพ มาขอขมาสูตรแบบนี้มีมานานแล้วตั้งแต่อดีตครับ ไม่ใช่พึ่งมามีและพออยู่ๆไปเจ้าสำนักตายก็เลิกกันไปเสื่อมไป

    หลังๆมาก็มี สำนักของพระยันตะเกิดขึ้น ทีแรกๆเลยนะครับ ถ้าท่านใดเกิดทันและสนใจสังคมพุทธในยุคนั้นก็มาแนวพระไตรปิฎกเช่นกัน แต่พอมีชื่อเสียงหน่อยก็มัวๆไปอธิบายความคิดตัวเองเข้าไปบ้าง แล้วตอนหลังก็ติดคดี แล้วก็เสื่อมไป

    มันมีเท่านี้ละครับ ไม่ตาย ก็ติดคดี แล้วก็เสื่อมไป แบบนี้มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

    ผมว่าท่านใดสนใจแบบพุทธวจนะก็ปฎิบัติไปให้รู้ให้เห็น จริงๆ ก่อนแล้วค่อยมาบอกมาสอนคนอื่น คำพูดถึงมีน้ำหนักพอให้คนก็เลื่อมใสศรัทธาตาม

    เพราะคำที่ท่านพูดเป็นคำของพระพุทธเจ้าก็จริง แต่เคยเอาธรรมของพระองค์มาปฎิบัติเพื่อเข้าถึงอย่างที่ท่านว่าหรือป่าว พูดตามธรรมของพระองค์แต่ไม่รู้ตามธรรมของพระองค์ ท่านก็ไม่สรรเสรินเช่นกัน

    ส่วนเรื่องพระเครื่อง พระพุทธรูปนั้นมีมานานแล้ว ทั้งพระอริยะสงฆ์สร้าง ทั้งสามัญชนสร้าง ทั้งระดับพระราชาสร้าง มีมาตั้งสมัยไหนแล้วจะมาลบล้างมันไม่ได้หรอกครับ เพราะคนพูดเองยังพิสูตรตนในธรรมของพระพุทธเจ้าที่อ้างนักอ้างหนา ยังไม่ได้เลยแล้วจะมีบารมีได้อย่างไร มันไรน้ำหนักครับ เพราะคนพูดปฎิบัตรไม่ได้ แล้วใครเค้าจะเชื่อ

    ที่เขาเชื่อว่าพระพุทธรูปเปรียบเหมือนสือถึงพระพุทธเจ้า แน่นอนผู้พูดมาตั้งแต่ทีแรกๆ ท่านพูดมีน้ำหนักเพราะท่านปฎิบัติได้ ปฎิบัติเข้าถึงธรรม

    เหมือนหลวงปู่สิม ท่านกล่าวว่าพระพุทธชินราชนี้ ศักดิ์สิทธิ์นะเทวดามาสร้างให้เพื่อระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า แล้วท่านก็อธิษฐานว่าถ้าท่านมีบุญวาสนาขอให้ได้สร้างพระพุทธชินราชจำรอง สักองค์ 19 ปีต่อมาท่านก็ได้สร้างจริงๆ

    แล้วคนส่วนใหญ่ทำไหมถึงเชื่อ เขาเชื่อเพราะว่าหลวงปู่สิมท่านปฎิบัติได้ และปฎิบัติตรงเข้าถึงมรรคผล เห็นมรรค เห็นผล จริงตามที่พระพุทธองค์ตรัส มิใช่อ่านมาจำมาพูด

    เหมือนพระสุธรรมเถรทรงใบลานป่าว ขนาดไปบิณฑบาตรที่บ้านท่านอนาถมหาอำมาต ถ้าจำไม่ผิด โดยท่านอนาถมหาอำมาตท่านนี้ เป็นพระโสดาบัน ท่านถามว่าพระสาบุตรและพระโมคลานะ ไม่มาหรือ ท่านสุธรรมเถรบอกว่า พระอะไรตื่นสายยังไม่ตื่นอีกตะวันโด่ป่านนี้

    ท่านอนาถมหาอำมาตนอกจากจะไม่เชื่อแล้วยัง ตำหนิพระนี้อีกว่าไม่ได้เรื่อง ทั้งๆที่ท่านสุธรรมเถร นี้สามารถอ่านพระธรรมพระพุทธเจ้าได้ทั้งหมด แต่ไม่ปฎิบัติ คำพูดจึงไม่มีน้ำหนักพอให้ใครเชื่อ เพราะถึงเขาจะเชื่อก็เชื่อธรรมพระพุทธเจ้าแต่ถ่ายเดียว แต่ที่เขาไม่ได้เชื่อเพราะคนพูดเองยังทำไม่ได้

    ถ้าจะว่าไปก็เหมือนกับ ขอทานใส่ทอง ทองมีค่าขนาดไหน แม้เป็นของแท้น้ำหนักเต็มขนาดไหน แต่อยู่ในคอขอทาน คนทั่วไปก็เข้าใจว่าของปลอม เพราะคิดว่า ขอทานคงไม่มีปัญญาซื้อทองใส่

    อันนี้ก็เป็นความเห็นส่วนตัวครับ ส่วนท่านได้จะต่อต้านไม่เห็นด้วยก็สุดแท้แต่ครับ ขอแสดงความคิดเท่านี้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2015
  18. Pattarakorn2010

    Pattarakorn2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2014
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +1,753
    คุณ bigtoo ครับ ผมขอเล่าอะไรให้ฟังสมัยผมเด็กๆ ยังเรียนอนุบาล1 มีวันนึงครูนิมนต์พระมาที่โรงเรียนจำได้ว่า พระท่านให้เด็กๆ มองที่พระพุทธรูป หลับตาท่องพุทธโธ ช้าๆ ตามลมหายใจเข้าออก เด็กแค่ชั้นอนุบาลนั่งกันเงียบกริบ หลับตาท่องพุทธโธ ทำสมาธิกันได้แบบง่ายๆ ถามหน่อยๆเถอะว่า ถ้าให้เด็กมานั่งฟังสาธยาย พุทธวจน วันนั้นคงเละน่าดู วิธีการจับภาพพระ หลับตา จะท่องนะมะพะทะ หรือพุทธโธ หรือไม่ท่องอะไรเลย(หูหนวกเป็นใบ้) ก็สามารถเข้าสมาธิได้แบบง่ายๆเหมือนกัน อย่างเวลาเข้าโบสถ์ หรือทำพิธีกรรม
    สังเกตุง่ายๆ ต่อหน้าพระประทาน ทุกคนจะเงียบเสียง สำรวม นั่นถือเป็นการให้ความเคารพ
    พระประทาน หรือคุณ BIGTOO จะให้ศาสนาพุทธ ทุกวัด ทุกบ้าน เลิกกราบไหว้พระพุทธรูป แล้วเอาป้ายไวนีลเขียวว่า "พุทธวนจน" ไปติดไว้แทน ถ้าคนหูหนวกเป็นไบ้ ตาสียายสาอ่านหนังสือไม่ออก ก็หมดสิทธิ์เข้าถึงกัน หรือ ว่าคุณ BIGTOO จะตามไปอธิบายสั่งสอนให้ทุกสถานที่ ทุกคน ทั้งหูหนวกเป็นไบ้ คนอ่านหนังสือไม่ออก ขนาดคนอ่านหนังสือไม่ออก เป็นไบ้ เห็นพระพุทธรูป ทุกคนเข้าใจตรงกันคือต้องยกมือไหว้ สำรวม แต่ถ้าคุณ
    bigtoo จะบอกว่ากว่า99%ของคนนับถือพุทธ ที่เคราพกราบไหว้บูชา รูปแทน เค้าเห็นผิด ก็คงต้องรบกวนคุณ bigtoo ตามไปอธิบายให้ทุกคนเข้าใจกันหมดทั้งโลกแหละครับ
     
  19. attasade

    attasade เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +2,554
    คุณนพครับ บอกให้ PM ขอเบอร์โทรแบบนี้ งานจะเข้านะครับ อิอิ ผมคนแรก 555+
     
  20. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    สงสัยจะเข้าใจอะไรผิดเยอะนะ ผมบอกแล้วไงใครจะทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น จะนั่งหลับตาท่องอะไรสาระพัดก็ทำกันไป จะกราบไหว้อะไรแบบไหนก็ทำตามสบายเลยผมไปห้ามอะไรใครนี้ ผมเพียงแต่บอกว่าถ้าอยากจะข้ามปุถุชน จะต้องวางอะไรๆๆบ้าง จะต้องมีความเห็นอย่างไร พวกที่ได้สมาธิขั้นสูงๆในโลกนี้ก็มีมากเห็นเขาทำอะไรกันตั้งมากมายรู้ใจคน เหาะเหินเดินอากาส ดับเป็นทองแดงก็มีเห็นเขาอวดอ้าง. แต่อริยะชนนั้นไม่สนใจเรื่องพวกนี้ พระพุทธองค์ท่านเป็นคนกล่าวไว้อย่างนั้น ถ้าท่านจะเป็นข้าศึกต่อพระศาสดาก็ตามใจ หวังว่าคงเข้าใจนะทำอะไรก็ทำกันไป ถ้าฟังยังไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ผมเข้าใจได้อริยะไม่ได้เป็นกันง่ายๆ. สมัยก่อนผมไม่ต่างจากหลายๆท่านผมก็มีทุกอย่างเหมือนคุณนั้นแหล่ะ ไม่ง่ายเลยที่ผมจะข้ามสิ่งเหล่านี้มาได้ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นจะมีพลังอะไรผมไม่สนใจ ผมสนใจแต่ความพ้นทุกข์ ซึ่งการพ้นทุกข์นั้น คุณสมบัติแรกที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นคือสัมมาทิฎฐิ ข้ามสิ่งเหล่านั้นไปให้ได้ มีตนมีธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่น พอเข้าใจมั้ยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...