ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

ทุกคนในสนามประลอง ต่างตื่นเต้น จนแทบลืมหายใจ
ไม่มีเสียงอันใด มีแต่เสียงลมที่พัดมาเบาๆ

เข้มและสิงห์ยืนจ้องตากัน ไม่มีใครกระพริบตา
เข้มเริ่มสืบเท้าก่อน ไปทางด้านซ้ายของสิงห์ และเป็นด้านขวาของตนเอง
กลแรก ที่ต้องรู้ รุกด้านเราถนัด ให้คู่ต้อสู้รับด้านไม่ถนัด

 

ไม่ใช่การเดิน เป็นการสืบเท้า ลากเท้าไปบนพื้นดิน ไม่ให้เกิดฝุ่น
ให้เท้านั้นมั่นคง ในพริบตาเดียวคู่ต่อสู้อาจโจมตีกลับ ถ้าเป็นการก้าวปกติ
จะมีช่วงที่เท้าเรายกขึ้น ทำให้โดนกระแทกให้ล้ม หรือโดนเตะตัดขา
เตะพับข้อเท้าได้ง่าย
กลสอง เท้าสำคัญที่สุด ถึงแม้จะใช้ดาบออกอาวุธ เท้าต้องยืนให้มั่น
ไม่ว่าจะยืนบนพื้นดิน หรือยืนบนร่างกายคู่ต่อสู้ ล้มเพียงหนึ่งครั้ง
อาจไม่มีโอกาสให้แก้ตัว มีโอกาสที่คู่ต่อสู่้ จะใช้เข่ากระแทกซ้ำ
อาการจุกจากเข่านั้นรุนแรง อาจทำให้มือไร้เรี่ยวแรง จักทำให้รับกลับเป็นรุกไม่ได้

 

สิงห์นั้นหันหน้า ไปชำเลืองมองเข้มด้วยหางตา ไม่รับรู้สภาพรอบข้าง
จิตสิงห์รวมเป็นหนึ่ง เป็นแสงราวกลับเข็มหลายร้อยหลายพันเล่มมุ่งสู่จุดกลางกาย

วาโย ข้าจักรับรู้ถึงลม สิงห์รับรู้ได้ ถึงลมจากการสืบเท้าของเข้ม
เข้มนั้น งุนงงนัก ใยสิงห์ไม่หันตามตน หากคู่ต่อสู้เช่นสิงห์บิดตัว
จักเป็นจังหวะให้โจมตีเปิดเพลงดีที่สุด เข้มเห็นท่าไม่ดี โยกตัวกลับ
แล้วเริ่มโจมตีอย่างรวดเร็ว

 

พยายามจักหาคำบรรยาย ฉากการต่อสู้ แต่ถ้าแปลเป็นข้อเขียนมัันยากมาก
ในนาทีเดียวไม่รู้ รัก รับ ปัด ป้อง เปิด กันกี่เพลง

 

เข้มเห็นท่าไม่ดี สืบเท้ากลับ แล้วกระโดดลอยตัว เปิดเพลงด้วยท่าดาบคู่
ฟันลงไป สิงห์แก้เพลงด้วยการย่อตัว ยกดาบมือขวาขึ้นบังหน้า ขนานไปกับผืนดิน
ขาข้างที่ย่อ วาดออกไปด้านข้าง ข้างหนึ่งย่อ อีกข้างยัน
แล้วสะบัดดาบซ้ายขึ้นมารับคู่
เพียงเสี้ยววินาที เปลี่ยนจากรับเป็นรุก จังหวะการกระโดด โถมตัวของเข้มสะดุด
เหมือนมีแรงดันกลับ จากสิงห์ เข้มต้องใช้ขาขวา ลงด้านข้าง แล้วโยกตัว
มาอยู่ท่ายืน ตั้งดาบคู่ ส่วนสิงห์ โยกตัวไปทางซ้าย ตามขาที่วาด แล้วยืดตัวขึ้น
คราวนี้สิงห์เริ่มควงดาบ จากท่าประจัญหน้า ทั้งคู่เมื่อตั้งหลักกลับท่ายิืนได้
การประจัญหน้าหมุนย้อนเข็มนาฬิกา

 

เพลงดาบที่ครูเอกสอนเข้มนั้น เน้นหลบหลีก พริ้วไหว เฉียบคม
ไม่ใช้กำลังอันรุนแรงประทะ ผิดกลับเพลงดาบของสิงห์ที่กำลังจะเล่น

ดุดัน รุนแรง เน้นจุดตาย

 

การควงดาบของเข้ม ในตอนแรก รวดเร็ว พลิ้วไหว
แต่เมื่อสิงห์เริ่มควงดาบ การควงของสิงห์นั้น มือลดระดับพร้อมกัน
สิงห์ควงดาบเริ่มจากกลางไปหัว หัวลงมากลาง กลางไปล่าง
รวดเร็ว ว่องไว แสงดาบที่กระทบเปลวแดดนั้น เกิดเป็นแสงจ้า
แยงตาคู่ต่อสู้ เข้มนั้นจ้องปลายดาบ ตาโดนแสงเข้าไปเต็มๆ
สิงห์นั้นจิตจับที่ใบหน้าเข้ม ในวินาทีที่เข้มหยีตาข้างหนึ่งลง
เพราะแสงและหยาดเหงื่อที่เริ่มหยดลงที่ตา สิงห์ออกอาวุธทันที
ดาบซ้ายที่รำอยู่ ฟันลงไป เข้มใช้ดาบขวารับ สิงห์กระโดดเข่าเข้าหาเข้ม
แล้วใช้ดาบขวาฟันซ้ำ เข้มรับดาบได้ แต่หลบเพลงเข่าไม่พ้น โดนไปหนึ่งดอก
เข้มเซไปเล็กน้อย สิงห์ตวัดดาบ งัดขึ้น ใช้แรงประทะกลับเข้มที่เด้งอกรับ
ดาบสองข้างของสิงห์กลับลงพื้น ยันตัวสิงห์ให้เด้งกลับ แล้วรัวดาบลงไป
ทั้งซ้ายขวา ตัดล่างกลาง บน สลับกัน จนเข้มรับอย่างยากลำบาก
เพลงดาบสอดประสาน ดาบคู่นั้น ไม่ได้มีไว้ฟันเป็นคู่พร้อมกัน แต่ข้างนึงรับ
ข้างนึงรุก หากมีช่องเปิด ถึงจักเผด็จศึกด้วยดาบคู่

 

ดาบไทย มีสามช่วง ช่วงล่าง ด้ามดาบ ยาวถึงข้อศอก
ถ้าเป็นดาบของแม่ทัพ ดาบพิเศษ สั่งตีโดยเฉพาะ
จะเป็นโลหะ เพราะด้ามดาบไม่ได้มีแค่ไว้จับ
แต่เป็นการ์ดให้แขนช่วงตั้งแต่ข้อมือ ถีงข้อศอก
บางคนพันไว้ด้วยเชือก เพื่อกันความลื่น ต้องพันให้พอดี กับกำมือของเรา
เมื่อควงดาบต้องไม่สะดุด ดาบด้ามไม้ก็เช่นกัน

ช่วงกลางดาบ ตีให้มีสันหนา เพื่อรับดาบ ใช้เป็นไม้รับโดยเฉพาะ
ไม่ใช้ปลายดาบรับเด็ดขาด ปลายดาบคือหัวใจ
ถ้าปลายดาบบิ่น หรือหัก จะเสียเชิงเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะเมื่อโดนตะลุมบอน

ช่วงปลายดาบ แหลมคม ตีให้คม บาง ถ้ามองด้วยสายตาตามระดับแล้ว
ปลายดาบก็มีด้านนึงที่สันหนา กว่าอีกด้าน แต่บางกว่าช่วงกลาง
เมื่อทิ่มลงไป จะทะลุทะลวงง่าย ทิ่มไปแค่ช่วงค่อนปลายดาบด้านบน
โจมตีจุดตาย แล้ว ใช้เท้าถีบ พร้อมขักดาบกลับ
วิธีดังกล่าว จะสามารถ ฟัน เสียบ แล้วตั้งรับรุกต่อได้เลย

 

ขณะที่ทั้งคู่ และคนทั้งสนามกำลังจับจ้องกับเพลงดาบ
ครูเอกที่ลูกศิษย์พามาดู ก็ได้มานั่งที่แคร่ใต้ล้มไม้ใหญ่
โดยมีลูกศิษย์ และแม่เอื้อมประคองอย่างไกล้ชิด
พ่อครูเอกนั้น ทุกข์กายจากแผลที่โดนฟัน ยังมีอาการพิษไข้สุมอยู่บ้าง
แต่เมื่อได้มองการประดาบอันสวยงาม ดุดัน ได้มองเพลงดาบ
ก็ให้เกิดปิติในใจ เพลงดาบของข้าและครู คงไม่สูญสิ้น
ไอ้เข้มสมเป็นศิษย์เอกข้า สมที่ยกให้มันเป็นครูคนหนึ่ง
ส่วนสิงห์ แม้ไม่ได้สอนเพลงดาบโดยตรง แต่ท่าพลิกแพลง
ที่สิงห์นั้น โจมตี ก็มีพื้นฐานมาจากมวยทั้งสิ้น

 

นอกเรื่องนิดหนึ่ง บ้านพี่สิงห์ในอนาคต มีดาบสวยมาก
เป็นสิบๆคู่ แต่ดาบที่สิงห์ใช้ในการต่อมา เป็นดาบเหล็กน้ำพี้
ที่ตีเองกับมือ และลงคาถา อาคม บรรจุธาตุศักดิ์สิทธิ์ และเข้มขลัง
ไว้ในด้ามดาบ หลอมไปพร้อมกับประตูเจ็ดป่าช้า???
และเมื่อยามศึก ยามมีภัย เมื่อสิงห์หลับไหล หรือกำลังจะเข้าไป
ฆ่าศตรู ดาบจะสั่นได้เอง เหมือนดาบ มันชอบอาบด้วยเลือด
ดาบกระหายเลือด.... ดาบที่มีจิตวิญญาน
วันๆ ถ้าไม่ได้รบ ก็จะนำดาบมาขัดถู ลงคาถาอาคม
ประมาณว่าดาบนั้น รักมาก หวงมาก ถนอมมาก
ถ้าเป็นสมัยนี้ คงเป็นพวกว่างๆ เอาปืนมาขัด
อะไรทำนองนั้น

 

ทั้งสิงห์และเข้ม ประดาบกันอย่างเต็มกำลัง
แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการรับ ได้บังเกิดขึ้นในใจสิงห์และเข้ม
จากริมที่มุมปาก ก็กว้างขึ้น จนกลายเป็นเสียงหัวเราะ
ทั้งคู่ประดาบกันไป หัวเราะไป ทำให้ผู้ชมมึนงงนัก
มีแต่ครูเอกเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจ

มันจะมีอันใด อุ่นใจเท่า มีคนที่ไว้ใจคอยระวังหลังให้

เกิดสายใย เกิดเพื่อนตาย เกิดพี่เกิดน้อง เข้มข้นกว่าสายเลือด

 

จากเพลงดาบ รับ รุก ย่อ ยก ปัด ป้อง ปิด เปิด
เพลานั้น สิงห์แก้มวย แก้เพลงดาบให้กับเข้มทุกท่า
ไม่ใช้แต่เพลงดาบ ยังแก้ด้วย การถีบ ยก กระแทกศอก

ใช้ด้ามดาบ กระแทกที่ข้อมือเข้ม จนดาบหลุดไปหนึ่งข้าง

หยุดดดดดด เสียงพ่อครูเอก ตะโกน ไม่ดังนัก แต่ทั้งคู่ก็ได้สติ
ลดดาบ ลง

เข้มหันไปเก็บดาบ และยกดาบขึ้นเหนือหัว แล้วหันไปทิศที่พ่อครูนั่ง ก้มหัวลงกราบ
ในท่ายืน แล้วหันมาทางสิงห์ เอ่ยวาจาที่ติดตราตรึงใจสิงห์

สิงห์ ข้าแพ้เอ็งแล้ว บัดนี้หากเอ็งเมตตา จงสอนพี่ สอนคนในค่าย
พี่ไม่หวังสิ่งใด มากกว่า กุดหัวศตรูอังวะ และเหล่านักรับทมิฬที่ฆ่าพ่อพี่เท่านั้น
หากเอ็งเต็มใจ พี่ขอยกให้พ่อครูตัดสิน ว่าใครสมควรเป็นพ่อครู คนต่อไป
จงจำไว้ คำสาบาน แม้ชีวิตพี่ก็ให้เจ้าได้

 

สิงห์นั้นกล่าวว่า พี่เข้ม อย่ากล่าวเช่นนั้นเลย
ข้าซึ้งใจนัก เมื่อครู่ข้าออกอาวุธ เต็มกำลัง มิใช่อยากอวดตน
แต่ก่อนสู้พี่ต้องการให้ข้าสอนเพลงมวยคนในค่าย
ข้าจึงให้เกียรติพี่ โดยการสู้เต็มกำลังของข้า
เพลานี้ คนในค่ายที่ชมอยู่ คงได้กลมวย กลดาบ ที่จักรักษาชีวิตในยามศึก
หากข้าจักหนักมือ ไปบ้าง เพราะคิดว่า หากข้าสู้ไม่เต็มที่ พี่คงไม่กล้าออกมวยเต็มแรง
ข้าคิดว่า เราศึกกันไม่หนักพอ เมื่อไปเจอศึกจริง จึงพ่ายยับ

 

เพลงดาบ คล้ายที่เห็นในฝันมาก แต่ในฝันเร็ว แรง กว่ามาก

 

เอาไปอีกคลิบ อันนี้คล้ายของจริง แต่ในคลิบเป็นดาบปลอม

เริ่มดูตั้งแต่นาที ที่ 2:50-4:00

 

นอนดีฝ่า

 

ขออนุญาตเจ้าของกระทู้
คือเพิ่งไปเจอคลิปตลาดหนึ่งๆ ในประเทศเพื่อนบ้าน

เพิ่งรู้ ว่าในโลกมนุษย์มีตลาดแบบนี้ด้วย
แถมเป็นประเทศเพื่อนบ้าน
เป็นอะไรที่สุดๆมาก เกินบรรยาย

[ame]:http://www.youtube.com/watch?v=Bgsl2x0O2GM[/ame]

 

ต้องขอภัยผู้อ่าน เนื้อเรื่องมันค่อนข้างละเอียด การดำเนินเรื่องก็ช้า
ก็มีหลายสาเหตุ เพราะจุดเน้นคือกฏแห่งกรรม การรำลึกถึงคุณของบรรพบุรุษไทย
ทุกชนชั้น...จึงอาจเนิ่นช้าไม่ทันใจ ผู้คนสมัยนี้ แต่มันก็เป็นไสตล์ของตนเอง

 

จขกท. น่าจะเพลียโดนธาตุไฟแทรก พักผ่อนเยอะๆนะครับ

 

ต้องขออภัยจ้า พอดี ไปทัวร์วัดมาจ้า ก็มีปัญหาเพลียจิตมากกว่า
เพลียจากคนรอบข้าง ปกติของมนุษย์โลก ที่ยังละกิเลสไม่ได้