แบ่งปันพระเครื่องดี รับประกันความแท้ครับ มาใหม่9เม.ย.61 น.43

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย kayasid, 13 มีนาคม 2015.

  1. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    สวัสดีครับ เพื่อนสมาชิกทุกท่าน วันนี้ขอเปิดกระทู้ใหม่ แบ่งปันวัตถุมงคลในราคามิตรภาพครับ

    1.พระผงพระพุทธศรีมณฑป วัดสุวรรณดาราราม อยุธยา ปี2517



    ชุดพระผงได้เริ่มสร้างขึ้นมาก่อนที่วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร
    เรียกว่า “ปูชนียวัตถุมงคลพระเนื้อผง” โดยนายเรียน นุ่มดี และ พระครูปริยัติสุกิจ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน และพระเณรสมัยนั้นเป็นผู้ สร้างกันที่วัดสุวรรณฯ
    ประกอบไปด้วย ผงเกสรปูชนียวัตถุนำมาจากปูชนียสถานต่างๆ ว่าน 108
    ผงอิทธิเจ ปะถะมัง และตรีนิสิงเหของพระอาจารย์ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อ.อุทัย จ.อยุธยา (จากเอกสารของวัดสุวรรณดาราราม)
    มีพระ 3 สมัย (เชียงแสน สุโขทัย อู่ทอง) พระสมเด็จทรงนิยม(หลังสมเด็จโต) พระภควัมบดี พระสมเด็จไกรเซอร์ และพระศรีมณฑป ฯ
    พุทธาภิเษก 6 เมษายน 2517

    พระอาจารย์ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา ปลุกเสกไตรมาสเดียว

    และจัดพิธีนั่งปรกปลุกเสก โดยพระคณาจารย์ 16 รูป ณ วัดสุวรรณดาราราม
    พระคณาจารย์ผู้ร่วมพิธีฯมีรายนามดังนี้


    1. หลวงปู่สี ฉนฺทสิริ อายุ 125 ปี วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์

    2. พระครูประสาธน์วิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลาง อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา


    3. พระครูสันทัศธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดบ้านช้าง อ.วังน้อย จ.อยุธยา

    4. พระรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลยก์ อ.เมือง จ.ลพบุรี


    5. พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง) อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี


    6. พระครูกวย ( หลวงพ่อกวย) วัดโฆสิตารามอ.สรรค์บุรี จ.ชัยนาท


    7. หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จ.อยุธยา

    8. พระราชสุวรรณโสภณ วัดพนัญเชิง อ.เมือง จ.อยุธยา

    9. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี


    10. พระครูสังวรวิมล(หลวงพ่อโต๊ะ)วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี จ.พระนคร

    11. พระโบราณคณิสสร(หลวงพ่อใหญ่) วัดสะแก อ.อุทัย จ.อยุธยา

    12. พระครูกัลยานุกูล(หลวงพ่อเส่ง)วัดกลัยาณมิตร ธนบุรี จ.อยุธยา


    13. พระครูอดุลวรวิทย์(หลวงพ่อไวยท์) วัดบางซ้าย จ.อยุธยา

    14. พระครูสังฆรักษ์(พระอาจารย์เฉลิม)วัดพระญาติการาม จ.อยุธยา

    15. พระครูภัทรกิจโสภณ(พระอาจารย์หวล)วัดพุทไธสวรรย์ จ.อยุธยา


    16. หลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์


    นี้คือรายชื่อพระที่ร่วมปลุกเสกตามเอกสาร ของวัดสุวรรณดาราราม และได้สอบถามเจ้าอาวาสวัดสุวรรณดารารามด้วยตนเอง ท่านบอกว่า ได้จัดพิธีกันในอุโบสถของวัดสุวรรณนี้ล่ะ (หลวงปู่สีท่านไม่ได้มาท่านอายุมากแล้ว)

    แต่น้อยคนจะรู้ว่า ท่านเจ้าอาวาสและพระเณร ทำการผสมผงและกดพิมพ์กันในวัดสุวรรณดาราราม และได้ผ่านพุทธาภิเษกใหญ่ในปี 2517 มาแล้ว ดังนั้นต้นกำเนิดเดิมแท้ ของพระเนื้อผงมาจากวัดสุวรรณดาราราม ส่วนเหรียญถูกสร้างมาภายหลัง (และได้จัดพิธีที่วัดหอรัตนชัย) ตามเอกสารของวัดรัตนชัยต่อไป
    ส่วนพระที่ปรากฏและเป็นเอกสารตามรูป นายเรียน นุ่มดี ได้แบ่งเอาพระสามสมัย เชียงแสน สุโขทัย และอู่ทอง พระสมเด็จทรงนิยม พระภควัมบดี(พระปิดตามหาลาภ) ไปเข้ารวมพิธีอีกครั้ง เพราะพระในส่วนนี้นายเรียน นุ่มดี ที่จะนำไปสร้างกุศลที่วัดบ้านเกิดวัดเขาใหญ่ สุพรรณบุรี รวม พระเนื้อผง เข้าพิธีถึง 2 ครั้ง 2 วาระ นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2017
  2. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    รายการที่1.ปิดรายการ-หมดครับ

    รายการที่1.พระผงพระพุทธศรีมณฑป วัดสุวรรณดาราราม อยุธยา ปี2517 เนื้อผงอิทธิเจ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ผงธูปไหว้พระ ผงดอกไม้บูชาพระของลป.ดู่ และมวลสารต่างๆมากมายครับ ปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ 16 รูป อาทิ ลป.ดู่ วัดสะแก , ลป.โต๊ะ วัดประดุ่ฉิมพลี , ลพ.กวย วัดโฆสิตาราม ฯลฯ (ตามรายชื่อด้านบนครับ)

    สภาพพระสวย ผิวเดิม ไม่ผ่านการบูชาครับ

    นำมาแบ่งบูชา องค์ละ 1,050 บาท (รวมค่าส่งems)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • r91.jpg
      r91.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.6 KB
      เปิดดู:
      1,194
    • r92.jpg
      r92.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.5 KB
      เปิดดู:
      597
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2015
  3. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    ประวัติ หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด



             หลวงพ่อโอภาสี เดิมชื่อ ชวน มะลิพันธ์ ถือกำเนิดที่ บ้านตรอกไฟฟ้า อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ได้เล่าเรียนอักขระสมัยในสำนักวัดใต้ นครศรีธรรมราช แต่เนื่องจากวัดใต้ไม่มีสำนักเรียนในในสำนักวัดโพธิ์ สามเณรชวนจึงได้ถือกำเนิด ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์นี้เอง ในสำนักเรียนพระปริยัติในวัดโพธิ์สามเณรชวนเล่าเรียนปริยัติด้วยความขยันขันแข็ง และฉลาดเฉลียวเป็นที่พอใจของเจ้าสำนักบาลีเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับออกปากว่าสิ้นประโยคนักธรรมในวัดแล้วจะส่งมาเรียนในกรุงเทพฯ ให้ถึงที่สุด สามเณรชวนได้รับการนำมาถวายตัวเป็นศิษย์ในองค์สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรฌานวงศ์ซึ่งได้รับไว้ในพระอุปการะ และทรงทำการอุปสมบทให้เป็นภิกษุในพัทธสีมาวัดบวรโดยทรงนั่งเป็นพระอุปัชฌาย์พระภิกษุชวนเล่าเรียนพระปริยัติจนสอบได้เปรียญ 7 ประโยค เข้ารับพระราชทานพัดจากพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเรียกกันติดปากคนทั่วไปว่า มหาชวนเปรียญเอกหลังจากได้พบกับหลวงพ่อกบแล้ว พระมหาชวนก็เก็บตัวนั่งวิปัสสนาตลอดวัน ออกบิณฑบาต และฉันเช้าเพียงครั้งเดียว จะเปิดกุฏิก็ตอนบ่าย เปิดมาก็เอาสิ่งของต่างๆ มาเผา ตอนแรกก็น้อยๆ ก่อน คนจีนแถวบางลำพูเห็นเข้าก็เรียกท่านว่า เซียน จึงพากันมาถวายของให้เผาเป็นการใหญ่

    ข้อคิดเรื่องฉายาโอภาสี

             มีผู้นมัสการเรียนถามพระมหาชวนหลายต่อหลายคนด้วยกัน ด้วยคำถามที่ซ้ำๆ กันว่า "  พระมหาชวนทำไมจึงเป็นโอภาสี  "  ท่านก็ตอบออกมาเหมือนกันทุกครั้งว่า " มหาชวนมรณภาพไปแล้ว ที่อยู่นี่คือ โอภาสี  โอภาสี คือ ผู้ถวายเพลิงเป็นพุทธบูชา "  "  หลวงพ่ออายุเท่าใดแล้วขอรับ ” ใครคนหนึ่งถามด้วยความอยากรู้เป็นกำลัง หลวงพ่อโอภาสีตอบแบบให้กลับไปคิดว่า " ในโลกก็หกสิบปีแล้ว แต่อายุจริงนั้นอาตมาไม่รู้เลย มันเนินนานเป็นยิ่งนัก "

             หากจะวิเคราะห์กันถึงประเด็นนี้ ท่านผู้รู้ได้กล่าวไว้เป็นสองนัยด้วยกันคือนัยแรก วิญญาณของมหาชวนเดิมนั้นถึงวาระต้องแยกจากสังขารด้วยการมรณภาพตามธรรมดาปกติวิสัย แต่เมื่อวิญญาณมหาชวนออกไปแล้ว วิญญาณมหาชวนของเทพ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรสักอย่างได้มาสวมร่างของมหาชวนบำเพ็ญบารมีธรรมต่อไปท่านจึงบอกว่า อายุในโลกนั้นหกสิบ แต่อายุจริงนั่นไม่รู้ นัยที่สอง เป็นปริศนาธรรมว่า จะรู้อายุไปด้วยเหตุใดกัน หกสิบแล้วก็เท่านั้นแหละ มันไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องมาเรียนรู้เลย แต่จากปากคำของผู้ที่เป็นศิษย์รับใช้มหาชวนตั้งแต่เริ่มมาอยู่วัดบวร ยืนยันว่า มหาชวนเดิมนั้นเป็นพระเรียบร้อย พูดจาเสียงเบาๆ และสำรวมมีสมณสารูปอันน่าเลื่อมใส สมกับเป็นมหาเปรียญเจ็ดประโยค

             แต่เมื่อเป็นโอภาสีแล้ว ผิดกันเป็นคนละคน พูดจาเสียงดัง และโฮกฮากมีอารมณ์ร้อนเหมือนไฟ เหมือนกันเป็นคนละคน แสดงให้เห็นว่า มหาชวนเดิมนั้นน่าจะตายไปจริงตามที่ท่านบอก และที่น่าประหลาดใจก็ คือ ตั้งแต่มหาชวนกลายเป็นหลวงพ่อโอภาสีนั้น จะสะสม  พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ไว้เต็มไปหมด และท่านก็เคยถ่ายภาพในอิริยาบถที่ประคองพระบรมรูปไว้หลายครั้งด้วยกัน ผู้เขียนนั้นออกจะเชื่อผู้ที่ว่า โอภาสี คือดวงวิญญาณดวงหนึ่งที่เข้ามาอาศัยสังขารของมหาชวนในการบำเพ็ญบารมี และน่าจะเป็นวิญญาณที่มาจากต่างมิติ และต่างภพ ซึ่งต้องการมาสร้างบารมีให้แก่กล้าในมนุษย์โลก

    ปาฏิหาริย์ครั้งสุดท้าย

             พุทธสมาคมแห่งประเทศอินเดียได้ทำจดหมายนิมนต์หลวงพ่อโอภาสีไปนมัสการสังเวชนียสถาน และให้ญาติโยมได้นมัสการอย่างใกล้ชิด หลวงพ่อรับจดหมายมาอ่าน ในจดหมายแจ้งกำหนดการให้หลวงพ่อไปอินเดียวันที่ 28 ต.ค.2498 แต่แล้วหลวงพ่อให้ศิษย์ตอบจดหมายไปว่าขอเลื่อนไปวันที่ 31 ต.ค. จะสะดวกกว่า จึงมีการเปลี่ยนหมายกำหนดการที่กำหนดไว้เดิมออกไป การไปอินเดียคราวนี้ องค์สรภาณมธุรส บ๋าวเอิง แห่งวัดสมณานัมวรวิหาร สะพานขาวได้ขอเดินทางร่วมไปกับหลวงพ่อโอภาสี โดยไปเรียนให้ทราบถึงสำนักสงฆ์บางมด หลวงพ่อโอภาสีได้ตอบว่า...“ ไม่ได้ดอกคุณ ไปคราวนี้อาตมาไปแบบพิสดารไม่มีพาสสปอร์ต ไม่มีใครไปด้วยเลยสักคน อีกอย่างหนึ่งคุณมีกิจธุระมากไปไม่ได้ จะห่วงหน้าพะวงหลังต่างๆ ”องค์สรภาณมธุรส บ๋าวเอิง ได้กล่าวกับศิษย์ใกล้ชิดว่า อาตมาสงสัยอยู่แล้วว่าจะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่นอน แต่ไม่กล้าซักถามท่าน เกรงบารมีท่านจริงๆ ไม่งั้นคงถามให้รู้เรื่องไปเลย วันที่ 31 ต.ค. ที่ประเทศอินเดีย มิสเตอร์ ยี.อี.เอิร์ด นายกพุทธสมาคมแห่งประเทศอินเดีย กำลังพักผ่อนอิริยาบถในบ้าน  พลันที่ผนังเบื้องหน้าก็ปรากฏกลุ่มควันจางๆ พวงพุ่งขึ้น และจับกลุ่มกันหนาขึ้น ภายในกลุ่มควันนั้นปรากฏใบหน้าของหลวงพ่อโอภาสีขึ้น ใบหน้าของท่านดูแจ่มใสมีรัศมีกระจายออกมาอย่างสวยงาม ท่านยิ้มให้ มร.เอิร์ด อย่างเมตตา พลันกลุ่มควัน และภาพของท่านก็มลายหายไปทันที มร.เอิร์ด

             ซึ่งเคยได้ข่าวว่าหลวงพ่อจะมาอินเดียแบบพิสดารจากท่าน บ๋าวเอิง ก็รู้สึกว่า น่าจะมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นแน่ๆ ครั้นตอนสายหน่อยกำลังจะออกจากบ้าน คนรับใช้ก็เข้ามาเรียนบอกว่า มีนักบวชในศาสนาพุทธมาคอยพบอยู่ที่ห้องรับแขก มร.เอิร์ด จึงรีบออกไปพบในห้องรับแขกนั้นเอง ร่างของหลวงพ่อโอภาสีนั่งคอยอยู่ มร.เอิร์ด เข้าไปกราบแทบเท้าท่านด้วยความเคารพ ทำไมหลวงพ่อไม่บอกล่วงหน้า ถึงเวลาที่จะมาจะได้เอารถไปรับจากสนามบิน หลวงพ่อเดินทางมาที่บ้านผมลำบากมากไหม ไม่ลำบากเลย สบายมากฉันมาตามคำพูดของฉันให้คุณได้ประจักษ์ว่า คำพูดของโอภาสีเชื่อถือได้ ฉันลองบอกว่าจะมาแล้วละก็ อะไรก็ห้ามฉันไม่ได้ ฉันมาแล้วละ เธอสบายใจได้ มร.เอิร์ด จึงให้นำน้ำชามาต้อนรับหลวงพ่อโอภาสี และขอตัวไปเตรียมตัวจะเอารถพา หลวงพ่อโอภาสีไปเที่ยวชมภายในเมือง แต่หลวงพ่อโอภาสีได้กล่าวเป็นคำสุดท้ายว่า... ไม่ต้องวุ่นวายหรอกคุณ ฉันเพียงแต่มาให้เห็นเท่านั้นแหละ ไม่ต้องวุ่นวาย มร.เอิร์ด หายไปเพียงสิบนาที ก็พร้อมที่จะนิมนต์หลวงพ่อขึ้นรถ แต่พอมาที่ห้องรับแขก ร่างของหลวงพ่อโอภาสีก็ไม่มีอยู่แล้ว จึงออกไปดูหน้าบ้านก็ไม่พบอีก จึงเรียกคนรับใช้มาสอบถาม คนรับใช้ก็บอกว่า นั่งมองดูหน้าบ้านเป็นเวลานานแล้วไม่เห็นมีพระออกมาเลย มร.เอิร์ด รู้สึกใจหายวาบไม่ยอมออกจากบ้าน เพราะเกรงว่า หลวงพ่ออาจมาเตือนอันตราย แต่แล้วในตอนบ่ายสามโมง โทรเลขด่วนก็มาถึง มร.เอิร์ด  พอฉีกโทรเลขออกอ่าน มร.เอิร์ด ก็เข่าอ่อนทรุดลงนั่งอย่างหมดแรง  ข้อความในโทรเลขมีใจความว่า... “ หลวงพ่อโอภาสีมรณภาพเวลา 07.30 น. วันที่ 31 กำหนดการงดทั้งหมด ”

             หลวงพ่อโอภาสีมรณภาพตอน 07.30 น. แล้วภาพในกลุ่มควันนั้นเป็นอะไรกันแน่  มร.เอิร์ด รู้สึกเหมือนถูกทุบหัวด้วยตะลุมพุกแล้วหลวงพ่อโอภาสีที่ได้คุยกันอยู่เมื่อครู่มาได้อย่างไรกัน นอกจากจะเป็นกายทิพย์ของหลวงพ่อโอภาสี มร.เอิร์ด รีบจองเที่ยวบินที่ด่วนที่สุดเดินทางมาบางมด เมื่อมาถึง...ก็ได้พบศพของหลวงพ่อโอภาสีนอนมรณภาพ มีมุ้งกางไว้เหมือนคนนอนหลับร่างกายไม่แข็ง แต่นิ่มเหมือนคนนอนหลับทั่วๆ ไป เรื่องราวของหลวงพ่อโอภาสี ไปปรากฏร่างถึงอินเดียจึงปรากฏขึ้นจากปากของ มร.เอิร์ด เสียงร่ำไห้ของศิษย์จึงดังระงมขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ศพของหลวงพ่อโอภาสียังไม่ได้เผา ตั้งไว้ที่วัดโอภาสีบางมด จนถึงทุกวันนี้ และไม่เน่าไม่เปื่อย กลับแข็งเป็นหินโดยตลอด สมกับเป็นผู้อุดมด้วยศีลาจารวัตรผู้มาจากต่างมิติสวมร่างของมหาชวน ซึ่งสิ้นบุญมรณภาพไปในช่วงแห่งความตายที่วัดบวรนิเวศวิหาร ก่อนหน้ามรณภาพในต้นปี 2498 นั้น คณะศิษย์ได้ขออนุญาตสร้างวัตถุมงคลเป็นเหรียญหลวงพ่ออนุญาต แต่ได้สั่งว่า “  เหรียญนี้จะไม่มีรูปโอภาสี เพราะในโลกนี้จะไม่มีโอภาสีอีกต่อไป ครุ คือ อำนาจเสมากับอุณาโลม และรัศมีคือตัวโอภาสีอีกต่อไป  ”

             เหรียญรุ่นสุดท้าย คือ เหรียญครุฑแบกเสมา อันเป็นเหรียญรุ่นแรก และ รุ่นเดียวที่ไม่มีรูปหลวงพ่อโอภาสี แม้หลวงพ่อโอภาสีจะมรณภาพไปเป็นเวลาเกือบ 39 ปีแล้ว  แต่ศิษย์ไม่เคยลืมเลือนควากตัญญูมีการจัดงานสรงน้ำรูปหล่อ และแห่รูปหล่อของหลวงพ่อเป็นประจำ และต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หลวงพ่อโอภาสีไม่เคยจากไปไหนเลย แต่อยู่กับพวกเราตลอดกาลนาน ท่านจะคอยดูแลพวกเราเสมอตราบเท่าที่พวกเรายังมีความเคารพในองค์ท่านอยู่ทุกลมหายใจ มหาชวน มะลิพันธ์ กลายเป็นโอภาสี และโอภาสีได้กลายเป็นพุทธบุตรที่เปี่ยมด้วยพลังเทพต่างมิติ ทุกวันนี้ปัญหาที่ขบไม่แตกก็คือ ท่านหลวงพ่อโอภาสีเป็นใครนักบุญ ผู้มาจากต่างกาลเวลา หรือพระพุทธบุตรผู้มีมหาอภิญญาจิต ท่านผู้อ่านคิดว่าหลวงพ่อโอภาสีเป็นใครกันแน่

    คาถาของหลวงพ่อโอภาสีที่ท่านได้มอบให้ศิษย์หมั่นท่องบ่นภาวนาได้เป็นประจำวันว่า...

     “ อิติสุคะโต  อะระหังพุทโธ  นะโมพุทธายะ  ปะฐะวีคงคา  พระภุมมะเทวา  ขะมามิหัง ”

     สวดอยู่กับบ้านป้องกันอันตราย สวดก่อนออกจากบ้านคุ้มกันอันตรายตลอดการเดินทาง ไปต่างถิ่นสวดป้องกันอันตรายต่างๆ ทั้งจากเทวดา และภูตผีปีศาจทั้งหลาย เดินไปในทางเปลี่ยวหยุดภาวนาที่ต้นไม้ใหญ่ หรือ ศาลเจ้าเรียกให้ท่านช่วยติดตามปกป้องภัยได้อีกด้วย เรียกว่า คาถาสำเร็จแห่งหลวง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2015
  4. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    รายการที่ 2 ปิดรายการครับ

    รายการที่ 2 ดอกพิกุลเนื้อเงิน จารมือ หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด กรุงเทพ ฯ เป็นเครื่องรางอีกอย่างหนึ่งที่นิยมและหายากในปัจจุบัน
    ที่หลวงพ่อเมตตาจารอักขระและภาวนากำกับตั้งธาตุทีละดอก พุทธคุณนั้นเด่นด้านเมตตามหานิยม เจรจาค้าขาย และดีด้านโชคลาภเงินทอง มีประสบการณ์มากและเป็นที่นิยมมากในหมู่ศิษย์ นิยมเลี่ยมบูชาเป็นคู่ครับ ลักษณะที่มีการจัดสร้าง มี 2แบบครับ คือแบบบัวตูม และบัวบานครับ บางองค์ท่านติดบนเหรียญเงินขวัญถุงก็มีครับ



    ขนาดดอกพิกุลเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 ซ.ม.ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2015
  5. teerjarun

    teerjarun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +272
    ขอจอง รายการที่1.พระผงพระพุทธศรีมณฑป วัดสุวรรณดาราราม อยุธยา ปี2517
    องค์ที่8
     
  6. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    สวัสดีครับ รับทราบการจอง ขอขอบคุณมากๆครับ :cool:
     
  7. teerjarun

    teerjarun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +272
    แจ้งครับ

    ***ขอยกเลิกการจองรายการนี้ครับ.....ขออภัยด้วยครับ
     
  8. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    รับทราบครับผม
     
  9. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    รายการที่ 3 ปิดรายการครับ

    รายการที่ 3 พระกริ่งปวเรศ (กริ่งประสบการณ์สึนามิ) หลวงปู่สุภา วัดสีลสุภาราม จ.ภูเก็ต ปี 2547 เนื้อทองฝาบาตร ผิวไม่ปัดแต่ง สภาพสวยมากๆ สร้างน้อยเพียง 939 องค์ ปัจจุบันหายากแล้วครับ มีตอกโค๊ดกันปลอมใต้ฐาน 3 ตัว เด่นมากด้าน คุ้มครองป้องกันภัย และยังดีทางด้าน เงินทอง โชคลาภ ความอุดมสมบูรณ์ อีกด้วยครับ

    รับประกันความแท้ 100 % ตลอดชีพนะครับ

    หลวงปู่สุภาหรือพระมงคลวิสุทธิ์ พระเถระผู้ใหญ่เต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมีกระแสจิตเร็วและแรง ความจำดีเลิศเป็นศิษย์เอกรูปเดียวของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า (ศิษย์ร่วมสำนักเดียวกับสมเด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์) หลวงปู่สุภาได้ชื่อว่าเป็นยอดของพระอริยสงฆ์ยุคกึ่งพุทธกาลเพียบพร้อมด้วยบารมีอายุและพรรษาสรรพวิชาภูมิรู้ ภูมิธรรมเป็นผู้รู้ราตรีนานอุดมไปด้วยอิทธิฤทธิ์และปาฎิหาริย์ ยากนักที่จะหาพระอริยสงฆ์ระดับนี้ได้อีกในแผ่นดิน


    หลวงปู่เป็นพระบริสุทธิ์สงฆ์แห่งแดนทักษิณ อยู่แดนใต้มาเกือบครึ่งชีวิตเป็นสงฆ์ที่มีพรรษามากที่สุดในประเทศไทยเป็นนักพัฒนาสร้างวัด สาธารณสถาน โรงพยาบาลตึกสงฆ์อาพาธกว่า 39 แห่ง และที่สำคัญหลวงปู่เป็นศิษย์
    หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าเพียงรูปเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ นอกจากนี้หลวงปู่ยังเป็นศิษย์หลวงปู่สีทัตต์ วัดท่าอุเทน,หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค, อาจารย์เฒ่า วัดเส้าหลิน, โยคีนารายณ์ อินเดีย นอกจากนี้หลวงปู่ยังเป็นพระสงฆ์รุ่นเก่ามีสหธรรมมิกแลกเปลี่ยนวิชามากมาย เช่น หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด, หลวงพ่อสังข์ วัดน้ำเต้า, หลวงพ่อทบ วัดชนแดน เป็นต้น เหนือสิ่งอื่นใด ความอัศจรรย์ ทางจิตสื่อฌาณครูบาอาจารย์ และอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ของหลวงปู่มีมากมายเกินกว่าที่จะกล่าวได้หมด



    พระกริ่งปวเรศ อมตะพระกริ่งของหลวงปู่สุภา พระกริ่งปวเรศเป็นพระกริ่งสูงค่าอมตะเป็นพระกริ่งองค์แรกที่กำเนิดในแผ่นดินไทยโดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวิยาลงกรณ์ ทรงไว้ทั้งพุทธศิลป์และความขลังศักดิ์สิทธิ์มีจำนวนน้อยส่วนใหญ่ตกอยู่กับเชื้อพระวงศ์คนทั่วไปคงจะเห็นแค่รูปภาพและเรื่องราวเป็นตำนานเท่านั้นด้วยความเป็นพระกริ่งแรกในแผ่นดินสร้างโดยพระมหาเถระเจ้าชั้นสูง ถูกต้องตามตำราพิธีกรรมพระกริ่งโดยแท้จึงเป็นทำเนียมสืบต่อมาว่า พระมหาเถระผู้ทรงทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ สูงด้วยภูมิธรรมเท่านั้นจึงจะสร้างพระกริ่งสำคัญนี้ได้ อาทิ ท่านเจ้าคุณพระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงพ่อโต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี) สร้างพระชัยปวเรศ ปี 2522 สมเด็จพระฌานสังวร สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน สร้างพระกริ่งปวเรศ ปี 2530

    บัดนี้ พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระมงคลวิสุทธิ์ หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล พระมหาเถระผู้มีอาวุโสอายุถึง109 ปี (ปัจจับน 118 ปี) เพียบพร้อมทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ ทรงคุณธรรมมีวัตรปฏิบัติปฏิทาศิลาจารวัตรอุดมสมบูรณ์และยัง
    เต็มไปด้วยพลังแห่งวิชาอาคม พลังจิต และบารมีได้ปลุกเสกสุดยอดพระกริ่งปวเรศ พระกริ่งอมตะแห่งยุคฝากไว้ในแผ่นดิน

    รายละเอียดองค์พระบรรจุของศักดิ์สิทธิ์ไว้ 3 อย่าง

    เป็นพระกริ่งที่จัดสร้างเหมือนองค์พระกริ่งปวเรศองค์ครูของวัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อทรงไว้ซึ่งคุณค่าพิมพ์ทรงที่สง่างามมีเอกลักษณ์เฉพาะองค์ภายในองค์พระกริ่งได้บรรจุของวิเศษ 3 ชนิด เพื่อให้แตกต่างจากของเก่าและเป็นการบ่งบอกถึงพลานุภาพขององค์พระเปิดตำนวนพระกริ่งปวเรศของหลวงปู่สุภาอีกโสตหนึ่ง

    ของมงคล 3 อย่างคือ

    1. พระธาตุสัญฐานเมล็ดถั่วแตก พระธาตุองค์เดิมได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระฌาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชเพื่อบรรจุในพระเจดีย์ต่อมาเมื่อบูชาไว้ (ยังไม่ได้บรรจุ) มีพระธาตุเสด็จมาเพิ่มขึ้นเองจำนวนมากพระธาตุองค์เดิมได้อัญเชิญบรรจุในเจดีย์ไปแล้วส่วนพระธาตุที่เสด็จมาเพิ่มเองนี้ได้ขอนำมาบรรจุในพระกริ่งปวเรศ หลวงปู่สุภาซึ่งเป็นมหามงคลสูงค่า พระธาตุที่เสด็จมาเองนี้เรียกว่า พระธาตุเทพนิมิตร มีเทวดารักษาอยู่ ผู้บูชาจะเจริญรุ่งเรืองด้วยยศศักดิ์เป็นมหาบารมีอย่างสูงสุด

    2. เกศาหลวงปู่สุภา เป็นเกศาที่หลวงปู่ปลงและเสกเก็บไว้ เกศาบางส่วนได้รวมกันจับเป็นก้อนจะสังเกตว่า เกศาหลวงปู่สุภามีความสว่างใสเป็นแก้วอย่างน่าประหลาด เกศาถือว่าเป็นของดีของมงคลมากโบราณ จะพูดว่าเกศาเป็นส่วน ที่อยู่สูงสุดของร่างกาย วิชาอาคมพลังสมาธิจิตต่างๆ จะถูกบรรจุอยู่ในเกศาทั้งหมด เกศาถือเป็นตัวแทนขององค์หลวงปู่เหมือนมีหลวงปู่อยู่กับพระกริ่งปวเรศทุกองค์

    3. ผ้าขาวม้า ผ้าขาวม้าเป็นของวิเศษอีกอย่างหนึ่งที่เกจิยุคโบราณจะนิยมทำให้เฉพาะศิษย์ไว้ป้องกันตัว ไปที่ไหนเข้าที่ไหนก็ไม่เสื่อมจากอาคมโบราณกาลเชื่อว่าผ้าขาวม้ามีตามาก (ตาลายผ้า) จะป้องกันภัยได้ดี หลวงปู่สุภาเป็นพระเกจิยุคโบราณร่างกายสูงใหญ่ ท่านรู้ถึงเคล็ดวิชาผ้าขาวม้าดี ท่านได้ปลุกเสกผ้าขาวม้าไว้ให้ 3 ผืน เพื่อบรรจุในพระกริ่งผ้าขาวม้าของหลวงปู่เคยมีคนไม่เชื่อว่าผ้าขาวม้าที่เสกแล้วขลังเอาปืนไปทดลองยิง ปรากฏว่ายิงไม่ออก 2 นัด ยิงออกแต่ไม่ถูกผ้า1 นัด

    สนใจกรุณาติดต่อต้น 084-0789309 หรือโพสต์จองในกระทู้ครับ(จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ)

    การโอนเงิน - บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ตรีเพชร เลขที่ 006-2-70184-6 ชื่อบัญชี นายกิตติศักดิ์ โสภาที
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • r29.jpg
      r29.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.2 KB
      เปิดดู:
      254
    • r30.jpg
      r30.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.9 KB
      เปิดดู:
      166
    • r31.jpg
      r31.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38 KB
      เปิดดู:
      173
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2015
  10. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร


    บันทึกไว้กันลืม
    นี่คือรูปของพระอาจารย์ของหลวงปู่ทองทิพย์ "พระฤๅษีกไลยโกฎิ" หรือคนแถบภาคอีสานจะเรียกท่านว่า "ปู่ฤๅษีผ้าลาย" หรือ "องค์ผ้าลาย" ซึ่งอยู่ที่ภูเขาควาย ประเทศลาว โดยท่านจะรับเฉพาะลูกศิษย์ที่เป็นเชื้อสายของพระโพธิสัตว์เท่านั้น อย่างเช่นครูบาคำน้อย วัดภูกำพร้าอายุ 300 ปี และปู่บุญเหลือผู้สร้างศาลาแก้วกู่ จ.หนองคาย ก็เป็นลูกศิษย์ของท่านปู่ฤๅษีผ้าลายนี้เช่นกัน
    และที่ภูเขาควายนั้นยังเป็นที่ตั้งของ "ธรรมสภา" (ไม่ใช่เทวสภา) ซึ่งธรรมสภานี้จะอยู่ในถ้ำขนาดใหญ่อันลึกลับ ใช้เป็นที่ประชุมของพระอภิญญาเพื่องานค้ำชูรักษาพระพุทธศาสนาจึงมีทั้งพระ ที่ยังมีชีวิตอยู่และพระที่ละสังขารไปแล้วอยู่มากมาย เชื่อกันว่าพระอภิญญาที่ละสังขารไปแล้วนั้นท่านก็ยังสามารถอธิษฐานร่างกาย ขึ้นมาใหม่ได้ โดยผู้ที่พบเห็นสามารถจับมือพูดคุยได้เหมือนคนธรรมดาทั่วไป จนไม่สามารถแยกออกได้ว่าท่านยังอยู่หรือสิ้นไปแล้ว



    หลายท่านยังไม่ทราบว่าหลวงปู่ทองทิพย์นั้นท่านเป็นพระพี่พระน้องกับหลวงปู่ เทพโลกอุดรมาหลายภพหลายชาติ ดังนั้นลูกศิษย์ที่อยู่อุปัฏฐากหลวงปู่ทองทิพย์ที่วัดหลายท่านจึงได้มีโอกาส พบกับหลวงปู่เทพโลกอุดร ซึ่งท่านมักจะแวะมาเยี่ยมเยียนพระน้องชายของท่านอยู่เสมอ ผมได้คุยกับพระท่านหนึ่งที่อุปัฏฐากหลวงปู่ทองทิพย์สมัยที่ท่านนั้นยังเป็น เณร ท่านเล่าว่าเคยได้มีโอกาสบีบนวดหลวงปู่เทพโลกอุดร แต่ตอนนั้นไม่รู้เพราะเห็นแต่เป็นพระหนุ่มผอมๆ เข้ามาเยี่ยมหลวงปู่ แต่เมื่อท่านกลับไปแล้วหลวงปู่ทองทิพย์จึงบอกว่าพระที่เณรบีบนวดรับใช้อยู่ นั้นแท้จริงแล้วก็คือหลวงปู่เทพโลกอุดรซึ่งเป็นพระอภิญญาที่หลายๆ คนต่างอยากได้มีโอกาสพบเจอสักครั้งในชีวิต

    แม้แต่การที่หลวงปู่ทองทิพย์ได้มาอยู่ที่วัดป่าสีดาฯ นี้ ก็ด้วยเป็นความต้องการของหลวงปู่เทพโลกอุดรที่ต้องการให้หลวงปู่ทองทิพย์ได้ มาอยู่ประจำการเพื่อรักษาพระศาสนาในเขตอีสานเหนือนี้ โดยหลวงปู่เทพโลกอุดรเป็นผู้พาหลวงปู่ทองทิพย์เหาะมาจากภูเขาควายด้วยตัวของ ท่านเองทีเดียว เนื่องจากบริเวณวัดป่าสีดาฯ นี้เป็นสถานที่สำคัญที่พระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์จะต้องมาบำเพ็ญเพียรซึ่งก็ผ่านมาแล้ว 4 พระองค์ ในอนาคตก็จะเป็นที่บำเพ็ญเพียรของพระศรีอาริย์ (สถานที่จริงจะอยู่ลึกลงไปเป็นชั้นๆ ตามกฏที่ว่าเมื่อหมดหนึ่งพุทธันดรแล้วแผ่นดินจะสูงขึ้น 1 โยชน์)
    เคยสงสัยกันไหมครับว่าทำไมเหล่าลูกศิษย์ของหลวงปู่ทองทิพย์จึงเคารพรักท่าน มาก สงสัยกันไหมครับว่าทำไมชื่อของท่านคือ "คำศรี รัตนโคตร" ทำไมตอนท่านบวชใหม่ๆ แล้วธรรมะไม่ก้าวหน้าจนท่านเปรยๆ ขึ้นว่าอยากจะสึกก็เกิดมีเสียงค้านลงมาจากท้องฟ้าว่า "พระศรี (อาริย์) ห้ามสึก" ทำไมท่านจึงเป็นพระองค์เดียวที่มีผู้นำแหวนมาสวมที่นิ้วทั้ง 10 ของท่านได้ เคยดูรูปของพระศรีอาริย์ที่มีแหวนสวมทั้ง 10 นิ้วว่าเหมือนกันไหม ทำไมหลวงตายี วัดดงตาก้อนทอง ผู้แสดงการยืดเหรียญบาทได้ (หนึ่งในลูกศิษย์ของหลวงปู่เทพโลกอุดร) จึงนำพวกลูกศิษย์ของท่านมากราบหลวงปู่ทองทิพย์แล้วบอกว่าพระองค์นี้คือ "พระศรีอาริย์"


    พระโพธิสัตว์ซึ่งจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 1 และองค์ที่ 10 มาเจอกัน




    มีเรื่องเล่ากันมาว่าในวันหนึ่งที่หลวงป๋า เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสด อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ได้ขึ้นไปกราบหลวงปู่ทองทิพย์เป็นครั้งแรก เมื่อเข้าไปถึงวัดก็ปรากฏว่าหลวงปู่ทองทิพย์ท่านนั่งรออยู่แล้ว พอหลวงป๋าท่านเข้าไปกราบหลวงปู่ทองทิพย์ก็พูดขึ้นให้ได้ยินทั่วกันว่า "อ้าว พระสุมังคละมาแล้ว" ท่านเอ่ยทักทายเหมือนได้เจอเพื่อนเก่าอย่างนั้น ท่านพูดขึ้นมาเพื่อให้ลูกศิษย์ของท่านที่นั่งอยู่รอบๆ ทราบว่าพระผู้ที่มานี้ต่อไปจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 10 ที่มีพระนามว่า "พระสุมังคละพุทธเจ้า" นั่นเอง ทางด้านหลวงป๋าเองก็นับถือหลวงปู่ทองทิพย์มากโดยเมื่อมีเวลาว่างจากการสร้าง วัด ท่านก็มักจะแวะมากราบและน้อมถวายพระธาตุกายสิทธิ์แก่หลวงปู่ทองทิพย์เสมอ ครั้งหนึ่งหลวงป๋าท่านเตรียมพระเหล็กไหลองค์หนึ่งใส่ไว้ในย่ามเพื่อเตรียมจะ ถวายแก่หลวงปู่ทองทิพย์ ส่วนพระเหล็กไหลอีกองค์หนึ่งที่สวยงามกว่านั้นท่านก็ใส่ไว้ในอังสะเพื่อพก ติดตัว เมื่อไปถึงหลวงป๋าก็ล้วงเอาพระเหล็กไหลในย่ามเพื่อเตรียมถวาย แต่ปรากฏว่าหลวงปู่ทองทิพย์รีบชิงพูดขึ้นก่อนว่า "อ้าว แล้วองค์ที่อยู่ในอังสะไม่ถวายหรือ" หลวงป๋าท่านตกใจที่หลวงปู่ทองทิพย์รู้เรื่องที่ท่านซ่อนพระเอาไว้ ท่านจึงเอามือล้วงเข้าไปในอังสะเพื่อนำพระออกมาถวาย ส่วนหลวงปู่ทองทิพย์รับพระแล้วก็หัวเราะชอบใจมาก (ชอบใจพระ และชอบใจที่รู้ทันหลวงป๋า) หลวงป๋าท่านเคยเล่าให้ผมฟังพร้อมกับหัวเราะชอบใจเช่นกัน


    พระพุทธเจ้าอีก 10 พระองค์ ที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต
    พระอนาคตวงศ์นี้ เป็นเรื่องกล่าวถึงประวัติย่อของพระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย ผู้บำเพ็ญพระบารมีในชาติหนึ่ง ซึ่งปรากฏเป็นยอดปรมัตถบารมีอันประเสริฐ เกิดสำเร็จผล ทรงพระอภินิหาร ประกอบด้วยพระเดชามหานุภาพ เป็นพุทธสมบัติที่จะมาอุบัติตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสิบพระองค์ในโลก ณ อนาคตกาลภายหน้า นั้นคือ
    - พระศรีอาริยเมตไตรย์ พระองค์หนึ่ง
    - พระราม พระองค์หนึ่ง
    - พระธรรมราช พระองค์หนึ่ง
    - พระธรรมสามี พระองค์หนึ่ง
    - พระนารท พระองค์หนึ่ง
    - พระรังสีมุนีนาถ พระองค์หนึ่ง
    - พระเทวเทพ พระองค์หนึ่ง
    - พระนรสีหะ พระองค์หนึ่ง
    - พระติสสะ พระองค์หนึ่ง
    - พระสุมงคล พระองค์หนึ่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2015
  11. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    รายการที่ 4 ปิดรายการครับ

    รายการที่ 4 พระศรีอริยเมตไตรย หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร ปี2516 (แบบบรรจุกรุมีคราบน้ำมนต์) สภาพสวย ขนาดองค์พระกว้าง 2.3 ซ.ม. สูง 3.3 ซ.ม.

    พิมพ์พระศรีฯ หลวงปู่บอกให้จัดสร้างครับ โดยหลวงพี่นิล สร้าง 84,000 องค์ มีเก็บไว้สามที่ 1. พระธาตุพนม 2.พระธาตุบังพวน 3.วัดป่าสีดาฯครับ

    บูชา องค์ละ 1,550 บาท (รวมค่าส่งems)


    สนใจกรุณาติดต่อต้น 084-0789309 หรือโพสต์จองในกระทู้ครับ(จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ)การโอนเงิน - บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ตรีเพชร เลขที่ 006-2-70184-6 ชื่อบัญชี นายกิตติศักดิ์ โสภาที
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2015
  12. werapong

    werapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,633
    ค่าพลัง:
    +7,800
    จองครับ

    รายการที่ 4 พระศรีอริยเมตไตรย หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ
     
  13. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    สวัสดีครับ รับทราบการจอง ขอบคุณมากครับ :cool:
     
  14. werapong

    werapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,633
    ค่าพลัง:
    +7,800
    โอนเเล้ว 1550 บาท
    ส่งตามที่อยู่ PM ครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    สวัสดีครับ รับทราบ ขอขอบคุณมากครับ จัดส่งแล้วจะแจ้งให้ทราบนะครับ :cool:
     
  16. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    รายการที่ 5 คุณ sritrang2010 จองแล้วครับ

    รายการที่ 5 พระศรีอริยเมตไตรย หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร ปี2516 (แบบบรรจุกรุมีคราบน้ำมนต์) สภาพสวย ขนาดองค์พระกว้าง 2.3 ซ.ม. สูง 3.3 ซ.ม.

    พิมพ์พระศรีฯ หลวงปู่บอกให้จัดสร้างครับ โดยหลวงพี่นิล สร้าง 84,000 องค์ มีเก็บไว้สามที่ 1. พระธาตุพนม 2.พระธาตุบังพวน 3.วัดป่าสีดาฯครับ

    บูชา องค์ละ 1,550 บาท (รวมค่าส่งems)


    สนใจกรุณาติดต่อต้น 084-0789309 หรือโพสต์จองในกระทู้ครับ(จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ)การโอนเงิน - บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ตรีเพชร เลขที่ 006-2-70184-6 ชื่อบัญชี นายกิตติศักดิ์ โสภาที
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2015
  17. sritrang2010

    sritrang2010 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +74
    ขอจองรายการที่ 5 ครับ
     
  18. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    สวัสดีครับ รับทราบการจอง ขอบคุณครับ
     
  19. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    รายการที่ 6 ปิดรายการครับ

    รายการที่ 6 พระศรีอริยเมตไตรย หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร ปี2516 (แบบบรรจุกรุมีคราบน้ำมนต์) สภาพสวย ขนาดองค์พระกว้าง 2.3 ซ.ม. สูง 3.3 ซ.ม.

    พิมพ์พระศรีฯ หลวงปู่บอกให้จัดสร้างครับ โดยหลวงพี่นิล สร้าง 84,000 องค์ มีเก็บไว้สามที่ 1. พระธาตุพนม 2.พระธาตุบังพวน 3.วัดป่าสีดาฯครับ

    บูชา องค์ละ 1,550 บาท (รวมค่าส่งems)


    สนใจกรุณาติดต่อต้น 084-0789309 หรือโพสต์จองในกระทู้ครับ(จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ)การโอนเงิน - บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ตรีเพชร เลขที่ 006-2-70184-6 ชื่อบัญชี นายกิตติศักดิ์ โสภาที
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2015
  20. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    รายการที่7. ปิดรายการครับ

    รายการที่7. เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ค่ายบางกุ้ง (วัดบางกุ้ง)จ.สมุทรสงคราม เนื้อทองเหลือง ปี2535 สภาพพระสวย ผิวเดิมครับ มีตอกโค๊ดด้านหน้ากันปลอม

    ค่ายบางกุ้ง (วัดบางกุ้ง)

    วัดบางกุ้ง เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ตามประวัติกล่าวว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ปีพ.ศ. ๒๓๐๘ กองทัพพม่ายกเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์จึงมีพระราชดำรัสสั่งให้หัวเมืองปากใต้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งที่ตำบลบางกุ้ง เมืองสมุทรสงคราม เรียกว่า “ค่ายบางกุ้ง” กองทัพพม่าซึ่งยกทัพเข้ามาตามลำน้ำแม่กลองและบุกลงมาจนถึงค่ายบางกุ้ง โดยที่กองทัพของกรุงศรีอยุธยาไม่สามารถต้านทานไว้ได้ค่ายบางกุ้งจึงแตก หลังจากพม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตกในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ ค่ายบางกุ้งก็ตกอยู่ในสภาพค่ายร้าง

    เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสถาปนากรุงธนบุรีแล้ว โปรดให้ชาวจีนรวบรวมสมัครพรรคพวกมาตั้งเป็นกองทหารรักษาค่ายเก่าที่บางกุ้ง จึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “ค่ายจีนบางกุ้ง” ในปี พ.ศ. ๒๓๑๑ หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาไปประมาณ ๘ เดือน กองทัพพม่านำโดยเจ้าเมืองทวายยกทัพบกและทัพเรือลงมาล้อมค่ายจีนบางกุ้งไว้ ทหารจีนที่รักษาค่ายบางกุ้งสู้รบอย่างเต็มที่แต่มีกำลังน้อยกว่าเกือบจะเสียค่ายแก่พม่า กรมการเมืองสมุทรสงครามจึงมีหนังสือกราบทูลไปยังกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงทราบจึงยกกองทัพมาตีทัพพม่าแตกพ่ายไป และต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๑๗ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยกกองทัพเรือนำทหารไปออกศึกที่บางแก้ว เมืองราชบุรี ในระหว่างการเดินทางได้หยุดกองทัพพักพลเสวยพระกระยาหารที่วัดกลางค่ายบางกุ้ง

    หลักฐานโบราณสถานที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ พระอุโบสถก่ออิฐถือปูนปัจจุบันถูกต้นไทรขึ้นปกคลุมทั้งหลังหน้าบันของพระอุโบสถ มีปูนปั้นลวดลายพันธุ์พฤกษาประดับด้วยเครื่องถ้วยซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย

    สนใจกรุณาติดต่อต้น 084-0789309 หรือโพสต์จองในกระทู้ครับ(จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ)

    การโอนเงิน - บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ตรีเพชร เลขที่ 006-2-70184-6 ชื่อบัญชี นายกิตติศักดิ์ โสภาที
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • s34.jpg
      s34.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.1 KB
      เปิดดู:
      149
    • s35.jpg
      s35.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.4 KB
      เปิดดู:
      161
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2015

แชร์หน้านี้

Loading...