การพูดบิดเบือนความจริงแต่เจตนาดีต่อเค้า เป็นบาปหรือผิดศีลหรือไม่

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Ahimsa, 26 กุมภาพันธ์ 2015.

  1. Ahimsa

    Ahimsa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +38
    สมมติแพทย์ต้องพูดอะไรที่ไม่ใช่ความจริงแต่ทำให้คนไข้สบายใจ หรือพูดอะไรที่บิดเบือนจากความจริง โดยไม่ทำให้เราหรือเค้าเสียหายนี่ เป็นบาปหรือผิดศีลหรือไม่ครับ ขอบคุณครับ
     
  2. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    การจะบอกว่าไม่ทำให้คนอื่นเสียผลประโยชน์ มีแต่อีกฝ่ายเท่านั้นที่จะตัดสินได้ว่าทำให้เขาเสียผลประโยชน์หรือไม่ เราไม่สมควรไปตัดสินแทนเขา แต่ในกรณีที่เขาตัดสินใจเองไม่ได้ อย่างกรณีของเด็กเราก็พิจารณาแยกไป
     
  3. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ความเห็นนะครับใช้วิธีพูดเลี่ยงๆดีกว่าใหมครับแบบอ้อมไม่จำเพาะเจาะจงลงไปให้ผู้ฟังต้องทนทุกขเวทนาแต่ก็ต้องให้เค้า/ด้เตรียมตัวเตรียมใจรับฟังความจริงในวันข้างหน้าเพราะไม่ว่าคุณจะพูดหรือไม่ความจริงก็คือความจริงไม่มีใครทำให้มันไม่จริงไปได้หรอกครับเพราะนั้นคือความจริงความจริงไม่ใช่เกิดจากคุณพูดหรือไม่พูดจริงใหมครับ. ค่อยๆพูดแบบเลียงๆตะล้อมๆไปนะครับจนกว่าเค้าจะทำใจยอมรับมันได้เพราะความจริงมันต้องเกิดอยู่แล้วไม่ว่าคุณจะพูดหรือไม่พูดล้วนไม่มีผลใดๆค่อยเลียบๆเคียงๆให้เค้าทำใจยอมรับความจริงผมว่าวิธีนี้ดีที่สุดสาธุครับ
     
  4. pim_jai

    pim_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +568
    เรื่องศีลข้อมุสาวาท

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อเจ้าคุณที่เคารพอย่างสูง...
    หลวงพ่อ เอ๊ะ! วันนี้เป็นเจ้าคุณ ฉันขาดหลวงปู่ไปตำแหน่งนะนี่ หลวงตามาแล้ว ขาดหลวงปู่...หลวงทวด
    ผู้ถาม ลูกมีปัญหากลุ้มใจนิดเดียว เกี่ยวกับเรื่องศีลของหลวงพ่อ คือ ลูกเป็นแม่ค้าก็จำเป็นที่จะต้องโกหกอยู่เสมอ ไม่งั้นจะไม่ค่อยมีกำไร ลูกพยายามทุกอย่างแล้ว ธรรมะของหลวงพ่อทำครบหมด แต่ข้อนี้ทำไม่ได้ จึงขอบารมีหลวงพ่ออโหสิกรรมให้ลูกด้วยเถิดเจ้าค่ะ
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ซิ...ฟังให้ดีนะ จุดธูปตอนเช้า วันนี้ขอลาศีลมุสาวาทชั่วคราว...(หัวเราะ) เอาอย่างนี้ซิ...วิธีพูดน่ะ เราซื้อของมาถูก ต้องขายแพงตามท้องตลาดใช่ไหมล่ะ ก็บอกต้นทุนมันแพง ลดจากนี้ไม่ได้หรอกจ๊ะ เท่านี้หมดเรื่องกันไป ไม่โกหก อย่าไปบอกซื้อมาบาทนี่ขาย ๑๐ บาท นี่ซื้อมา ๙๙.๙๐ บาท โธ่...ได้กำไร ๑๐ สตางค์ กลัวศีลขาด บอกต้นทุนมันแพง ลดจากนี้ไม่ได้น่ะ นี่มันมีความจำเป็น ถ้าต้นทุนถูกลดจากนี้ได้มาเยอะแยะ แค่นี้ไม่ผิด
    ผู้ถาม หลวงพ่อคะ บางครั้งเราก็ไม่เจตนาไอ้เรื่องโกหกนี่มันอยู่ในสังคม บางครั้งอย่างนี้นะ เขาจะมาเบียดเบียนเราน่ะ เราโกหกเขาว่าเราไม่มี
    หลวงพ่อ อันนี้ต้องรู้คำว่า มุสา นี่ ต้องทำลายผลประโยชน์เขาไอ้ตัวนี้ไม่ใช่โกหก ไม่ใช่มุสา
    ผู้ถาม บางครั้งก็ไม่เข้าใจนะคะ
    หลวงพ่อ ดี...ถามอย่างนี้นะดี ทีนี้คำว่า “มุสา” นี่ต้องทำลายผลประโยชน์เขา แต่นี่เราทำเพื่อรักษาผลประโยชน์เรา ใช่ไหม...ยังไม่อยู่ในเกณฑ์มุสา อย่างนี้เขาไม่ถือว่าขาดศีล ๕
    ผู้ถาม บางครั้งพูดแล้วมันเสียดใจ มันตรงเกินไป
    หลวงพ่อ ก็ใช่ แต่เปล่า...ก็ต้องบอกเรารู้นี่ว่า ไอ้หมดนี่ถ้าหากมาขอยืมทีไร มันไม่ใช้ให้ทันที ใช่ไหม...นี่เราขืนให้ไปเราก็ไม่ได้ มีอยู่เหลือเฟือนี่ ไอ้เงินน่ะเรามี แต่เงินที่เราจะให้ยืมมันไม่มี เราก็บอกไม่มี เราก็บอกไม่มีเฉย ๆ ว่ายืมไม่ได้ ความจริงเรามีแต่เราจะต้องใช้นี่ ใช่ไหม...ถ้าเขาเอาไปเขาไม่เอามาส่งคืนเราก็ลำบาก ถ้าเรามีเหลือเฟือนี่มันไม่เป็นไร อันนี้เราถือว่าเรารักษาผลประโยชน์เรา เขาไม่ถือว่าเป็นมุสานะ
    อย่างพวกค้าขายนี่ก็เหมือนกันละ ลงทุนมาบาทเดียวแต่ขาย ๑๐ บาท เราขายตามราคาท้องตลาดเขาขอลดเราบอกลดไม่ได้หรอก ต้นทุนมันแพง มันแพงเท่าไรนี่เราไม่ได้บอก เราอย่าไปบอก ๙ บาท ๕๐ สตางค์ซิ เราบอกแพงเฉย ๆ ตามความนิยมของท้องตลาด อันนี้มันไม่เป็นไรนะ ไม่ถือว่าเป็นมุสาวาท อันนี้เข้าใจนะโยม ข้อนี้มีคนข้องใจกันมาก
    แต่ว่าถ้าเราพูดไปเพื่อรักษาประโยชน์ของเรา เพราะอะไร...เพราะว่าถ้าเราไม่รักษาประโยชน์เราให้ไป มันก็ไม่คืนซักที ทีนี้เราก็พังละซิใช่ไหม...อย่างนี้ยังไม่ถือว่าเป็นมุสาวาท มุสาวาทมันต้องเป็นอย่างนี้ คือประโยชน์ของเขาที่จะพึงมีอยู่ด้วยเหตุนั้น เราไปบอกนี่แกอย่าไปทำเลยแบบนั้น ขาดทุนตาย แต่ว่าเราจะเอาซะเอง
    ก็เหมือนกับผู้ใหญ่เลี้ยงเด็ก ไอ้เด็กเกินไปชานบ้าน ถ้าขืนปล่อยไป เดี๋ยวมันหล่นใต้ถุนตายใช่ไหม...บอกไอ้หนูอย่าไป เดี๋ยวหล่นใต้ถุน เด็กมันไม่เชื่อ แต่เด็กมันกลัวงู ก็บอกแก บอกอย่าไปนะไอ้งูมันมี ตุ๊กแกมันมี เด็กก็กลัว อันนี้เรารักษาประโยชน์ของเด็ก ไม่เป็นมุสาวาท มันเป็นเมตตา แต่ว่าถ้าเราพูดตรงไปตรงมาเด็กเขาไม่เชื่ออาจจะหล่นใต้ถุนบาดเจ็บหรือตาย ถ้าเราบอกแบบนั้นก็เป็นการรักษาอวัยวะ หรือรักษาชีวิตของเขาใช่ไหม...อย่างนี้ไม่ถือว่าเป็นมุสาวาทนะ เป็นเมตตาจิต มันเป็นคุณ ไม่ใช่โทษ แล้วยังไงล่ะ?
    ผู้ถาม พอพูดแล้ว มันไม่สบายใจค่ะ
    หลวงพ่อ นี่ทีหลังเอาใหม่ซิ บอกว่าข้าไม่พูด ๆ ๆ มันไม่ได้ล่ะค่ะ
    หลวงพ่อ ทำไมล่ะ?
    ผู้ถาม มันต้องพูดกันอยู่นะคะ
    หลวงพ่อ ถ้าพูดกันอยู่ก็บอกว่า ไม่ได้หรอก สตางค์ที่ให้แกยืมน่ะ ไม่มีล่ะเว้ย ข้ามีเหมือนกันละ มีแค่จะซื้อข้าวสารกินหรือซื้อกับข้าวกิน ใช่ไหม ข้ามีอยู่เล็กน้อยแบ่งไม่ได้ เราต้องบอกมีเล็กน้อย เราก็ไม่มีมากใช่ไหม มันมีอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ความจำเป็นมันมีอยู่สำหรับเราก็ถือว่า มีเล็กน้อย ใช่ไหม ไม่ใช่มีมาก ถ้ามีมากเราต้องมีจนเหลือเฟือ ถ้าเขาถามมีไหม...บอกว่าจะว่าไม่มีเลยก็ไม่ใช่ มันมีเหมือนกัน แต่จะซื้อกับข้าวตอนเย็นนี่นะ แล้วไอ้ภาพกิจอื่นมันมีมันไม่ไหว ถ้าคุณเอาไปเสีย ฉันก็ให้ไม่ได้
    หรือบางทีเราก็ต้องบอกไปเลย บอกเงินให้ยืมไม่มีละ ฉันไม่มีแล้ว ใช่ไหม เราตัดไปจุดนั้นเลย ตัดไปจุดตะรางที่ว่า “ให้ยืมไม่มีไอ้คนตื๊อนี่ บอกมีเล็กน้อยเดี๋ยวมันเอานะ เราก็ต้องตัดไปว่า เงินให้ยืม นั้นไม่มีจริง ๆ ฉันไม่มีหรอกใช่ไหม อันนี้เราพูดถึงเงินให้ยืมใช่ไหม ไอ้เงินที่เรามีอยู่มันจำจะต้องใช้ อันนี้ก็ไม่ถือเป็นมุสาวาทนะ

    ที่มา:หลวงพ่อตอบปัญหา (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
     
  5. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    ถ้าคนไข้มารู้ความจริงทีหลังว่าไม่ใช่ตามที่หมอบอกละครับ แล้วสุดท้ายก็หมดใจสู้ ท้อแท้ ตายในที่สุด

    ถ้าเราพยายามบิดเบือนความจริง ต่อให้เถียงกันไปสัก 100 ปีก็ไม่จบหรอกครับ มิหนำซ้ำถ้าเราพยายามหาเหตุผลใดๆมาอ้างเพื่อความชอบธรรมในการทำผิดศีลของเรา หนักเข้าจะเป็นความเคยตัว เคยชิน ยึดใจของตนเองเป็นใหญ่ สุดท้ายก็หลงในอัตตา
     
  6. pim_jai

    pim_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +568
    แนะนำนิดนึงนะคะ คือไม่ต้องโกหกคนไข้ แต่ก็ต้องรักษาน้ำใจเขาค่ะ

    เช่นคนไข้ถามว่าโรคนี้จะหายไหมหมอ..
    ถ้าเป็นโรคที่รักษาไม่หาย เราก็พูดรักษาน้ำใจว่า ก็ค่อยๆทานยารักษาไปนะคะ เดี๋ยวก็ดีขึ้นค่ะ ทานยาไปก่อนนะคะ แล้วค่อยว่ากันค่ะ

    หรือคนไข้เป็นโรคร้ายจะต้องตาย เราก็อาจจะให้กำลังใจว่า โรคนี้รักษาหายยาก แต่หมอจะทำให้เต็มที่ ดูแลคุณให้เต็มที่นะคะ ไม่ต้องเป็นห่วง ทำใจให้สบายนะคะ

    ถ้าคนไข้บางคนเป็นโรคร้ายเช่นมะเร็ง แล้วบอกกับญาติว่าถ้ารู้ว่าเป็นมะเร็งจะฆ่าตัวตาย
    เราก็บอกคนไข้ไปว่าเป็นเนื้องอกนะคะ หมอกำลังรักษาอยู่ค่ะ ทำใจดีๆไว้นะคะ
    (เนื้องอกมันมีทั้งชนิดดีกับไม่ดี เราไม่ได้บอกว่าเป็นชนิดไหน แต่เราก็ไม่ได้โกหก) เวลาที่ผ่านไปกับอาการของโรคที่หนักขึ้น
    จะทำให้ผู้ป่วยค่อยๆยอมรับเองค่ะ สำคัญว่าเราเป็นหมอที่ให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างเขาตลอดค่ะ

    ถ้าคนไข้กำลังจะตาย แล้วญาติมา เราก็บอกไปตามความจริงค่ะว่าอาการตอนนี้เป็นอย่างไร หมอทำอะไรไปแล้วบ้าง บอกไปตามตรงว่าคนไข้อาจจะไม่รอด แต่หมอจะทำให้ดีที่สุดนะคะ

    ไม่โกหกแต่ก็รักษาน้ำใจค่ะ ถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว ถ้าเขาจะเสียใจก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาโลก ของการเจ็บป่วยและตาย ย่อมเสียใจเป็นปกติ
    สำคัญที่เราทำดีที่สุด พยายามรักษาจิตใจของคนไข้และญาติด้วยความเมตตาแล้ว ที่เหลือก็วางอุเบกขา เพราะเราช่วยเขาได้เท่านี้ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2015
  7. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    เห็นด้วยจริงๆครับเป็นวิธีที่ดีมากๆครับทั้งไม่ทำให้ผู้อื่นต้องทุกขเวทนาและยังไม่มุสาให้ตนผิดศีลด้วย. อนุโมทนาสาธุครับ
     
  8. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
    แพทย์ ก็ผิดศีลขอ มุสาฯอยู่ดี และ ถ้าไม่บอกความจริงแก่คนไข้ ก็จะทำให้คนไขเสียประโยชน์แทนที่คนไข้ จะ ได้เตรียมตัวเตรียมจิตทำสติให้เป็นกุศล ก่อนตายเช่นทำอานาปานสติ สมาธิซึ่งอาจจะทำให้เขาได้ไปในสุขคติภูมิ ก็ได้ แต่ถ้าหมอมัวแต่โกหก คนไข้ว่าจะหาย ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าไม้หาย จะทำให้คนไข้หลงเชื่อ ก็เลยปล่อยจิต ปล่อยใจให้อยู่ในอกุศล ไม่มีการเตรียมจิต ซึ่งอาจทำให้ ไปตกในอบายได้
     
  9. Youkai

    Youkai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,683
    ก็เคยโดนบิดเบือนความจริงมาเหมือนกัน จนต้องสูญเสียคนที่ตัวเองรักมากไปให้คนอื่น จะเพราะหวังดีว่าไม่เหมาะสมกัน หรือยังไงก็ไม่รู้นะ แต่ตอนนั้นเสียใจมากเลย จนกล่าวคำสาปแช่งพวกคนที่รวมหัวกันทำเรื่องนี้เลยค่ะ แต่ตอนนี้ให้อภัยแล้ว ก็ปล่อยไปตามกฏแห่งกรรม สักวันพวกเขาก็คงโดนเหมือนที่เราโดน อยากบอกว่าพูดความจริงไปให้หมดดีกว่านะคะ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่ต้องตัดสินใจ ทุกข์ใจ หรือสุขใจ ก็เป็นเจ้าตัวเอง ใครก็มาทุกข์หรือสุขแทนกันไม่ได้หรอกค่ะ
     
  10. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ผมมีเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น2เหตุการณ์มาเล่าให้ฟังเป็นวิทยาทานนะครับณโรงพยาบาลแห่งหนึ่งคนไข้มาหาหมอเพราะปวดท้องมากคุณหมอก็ตรวจเพื่อรักษาแต่บังเอิญคุณหมอตรวจพบมะเร็งที่ตับในระยะสุดท้ายคุณหมอจึงต้องตรวจซ่ำเพื่อความแน่ใจจนสรุปได้ว่าเป็นมะเร็งจริงๆแต่บังเอิญคนไข้เป็นโรคหัวใจอยู่แล้วโดยคุณหมอก็รู้จากประว้ติแต่คุณหมอยังมือใหม่หัดขับอยู่ คุณหมอเรียกคนไข้และญาตเข้าไปฟังผลตรวจ คุณหมอก็บอกตามความเป็นจริงว่าหมอตรวจพบมะเร็งที่ตับคุณนะครับยังพูดไม่ทันจบคนไข้ชักตาตั้งแล้วไม่หายใจ ญาติคนไข้เข้ามารุมด่าคุณหมอสาดเสียเทเสียแถมยังถูกตรวจสอบมารยาทจริยธรรมวิชาชีพอีกคุณหมอท่านนี้คงนึกในใจนะครับว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตายแต่คนฟังตายพาเอาคนพูดเกือบตาย. อีกเรื่องนะครับมีคนรู้จักกันเค้าได้งานใหม่ทำจึงให้ผมช่วยพาไปตรวจร่างกายที่ร.พปกติเค้าเป็นคนแข็งแรงมากแม้แต่ผมยังเอาเค้าไม่อยู่เลย พอหมอตรวจพบว่าเค้าติดเชื้อh i vเอดส์นะครับพอหมอบอกท่านั้นเค้าซึมเลยผมก็ปลอบใจไปตามภาษาเพื่อนให้กำลังใจอย่างดีต่อมา3เดือนเค้าไปสวรรค์เลยครับผมพอรู้ก็ตกใจไปคุยกับญาติเค้าเค้าบอกว่าคนตายตั้งแต่รู้ว่าเป็นเอดส์ก็หมดอาลัยตายอยากร่างกายทรุดโทรมรวดเร็วมากแล้วก็ต้องจบชีวิตลงเร็วเกินคาด. ถ้าหมอไม่บอกพี่ว่าเค้าจะอยู่ได้อีกนานเลยนี่ถ้าเค้าไม่รู้ยังจะดีเสียกว่า นี่แหละครับการพูดความจริงกับคนบางคนบางครั้งก็ไม่ใช่ว่าจะมีผลดีตลอดไปนะครับอยู่ที่ผู้ฟังว่ายอมรับความจริงได้แค่ไหนต้องใช้วิจารณะญาณในการบอกกล่าวมันไม่ใช่สิ่งที่ใครก็สามารถทำใจยอมรับความจริงได้ทุกคนนะครับ. สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2015
  11. Ahimsa

    Ahimsa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +38
    ขอบคุณสำหรับทุกๆคำตอบมากครับ ตอนนี้ผมมีความตั้งใจจะรักษาศีล 5 ให้บริบูรณ์ แต่ศีลข้อ 4 ผมค่อนข้างมีปัญหา อยากถามว่า
    1.พูดเล่นแค่ไหนถึงจะไม่เป็นพูดเพ้อเจ้อ
    2.พูดคำหยาบแบบกู มึง แดก ถือว่าหยาบไหม ?
    ขอบคุณครับ : )
     
  12. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ศีลมุสาข้อ4คือห้ามพูดปดให้พูดแต่ความจริงหมายความว่ารู้เห็นแค่ไหนพูดแค่นั้นอย่าได้พูดคาดเดาหรือพูดในสิ่งที่ยังไม่แน่นอนว่าแน่นอน การพูดเพ้อเจ้อนั้นคือพูดไร้สาระไม่มีประโยชน์ต่อผู้อื่นการพูดเล่นหัวกับเพื่อนนั้นไม่นับเข้าข้อนี้ครับพูดได้ครับ. การพูดหยาบเป็นสิ่งไม่ควรแต่ที่สำคัญห้ามพูดด่าว่าผู้อื่นเด็ดขาด คำไหนที่ไม่ใช่ปิยวาจาไม่ควรพูดครับ แต่ถ้าเป็นเพื่อนสนิทและเค้ารับได้จะพูดหยาบบ้างก็ไม่เป็นไรครับไม่ผิดข้อนี้ สิ่งสำคัญหรือสาระสำคัญของข้อนี้คือห้ามพูดสิ่งที่ตรงข้ามกับความจริง ห้ามพูดส่อเสียด. ห้ามพูดสิ่งที่ตนไม่รู้ ห้ามพูดให้ผู้อื่นเกิดทุกขทางใจ. ห้ามพูดสิ่งที่ตนคิดแต่ตนยังไม่รู้ว่าจะจริงหรือไม่จริง. ถ้าต้องพูดอนาคตก็ต้องบอกด้วยว่าผมคาดว่าคือมันไม่แน่ไม่นอน สำคัญต้องไม่มุสาตนเองก่อนคือเราต้องยอมรังความจริงไม่โกหกตัวเองเพราะถ้าเราสามารถโกหกตัวเองได้คนอื่นไม่ต้องพูดถึงเพราะฉะนั้นเราต้องยอมรับตัวเองก่อนและข้อที่คนมองข้ามคือการผิดนัดหมายนั้นนะมุสาเต็มๆเลยคือพูดนัดหมายให้คนอื่นรอแล้วไม่ไปถือว่ามุสาเค้า ถ้ามีเหตุฉุกเฉินต้องแจ้งให้เค้ารู้ก่อนการไปสายก็เช่นกันเพราะฉะนั้นคนถือศีลข้อนี้จะไม่ไปสายเด็ดขาดแต่ถ้าจำเป็นก็ต้องแจ้งก่อนถึงไม่ผิดศีลข้อนี้นะครับ. อ้อห้ามพูดให้ร้ายผู้อื่นทั้งที่เจตนาก็ดีไม่เจตนาก็ดีห้ามพูดหมิ่นผู้อื่นทั้งต่อหน้าและลับหลัง. ถ้าจะพูดสิ่งที่เค้าเข้าใจผิดแล้วทำผิดให้พูดสิ่งที่ถูกที่ควรซึ่งจะเป็นตรงกันข้ามกับสิ่งที่เค้าทำให้เค้ารู้แล้วค่อยบอกเค้าตำหนิเค้าครับ. มีอื่นนะครับ. ยากไหมครับ. สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2015
  13. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    โกหกเพราะเจตนาดี ก็ผิดศีล แต่เพราะเจตนาไม่ได้เกิดจากอกุศลจิตแต่อย่างไรก็มีวิบาก ผลก็คือจะมีคนโกหกเราเพราะเจตนาดีก็เหมือนกัน เราก็เลยไม่ทราบความจริง เช่นป่วยหมดทางรักษา ญาติก็ไม่ยอมบอก เลยอาจทำให้หลงตายไม่ได้เตรียมตัวให้พร้อมต่อมรณกรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...