เมื่อพระยามัจจุราชมาทวงชีวิตข้าพเจ้า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย tjs, 14 มิถุนายน 2013.

  1. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    รูป ปรัมพิธีบวงสรวง ครับ

    การจัดก็ให้เลือกทำแบบพอดีให้ถูกต้องครับ ไม่อยากให้ทำแบบอลังการมาก เพราะค่าบายศรีแพงมากครับ งานใหญ่แบบอลังการ หลักแสนขึ้นครับ ก็เลยให้มีเท่าที่จำเป็นก็พอครับ ก็ถือว่า ทำให้ถูกต้องตามพิธีกรรมก็แล้วกันครับ

    สิ่งสำคัญคือ เป็นเรื่องของจิตใจนี่สำคัญที่สุด คือมีจิตที่เคารพรักเทิดทูนแต่คุณงามความดีที่บรรพบุรุษท่านสร้างไว้ เพื่อลูกหลานได้มีที่อยู่อาศัย ที่ทำมาหากินที่อุดมสมบูรณ์ ครับ
    และที่น่ายินดีมากคือ ฝนไม่ตกมานานแล้ว ชาวไร่เขาก็อยากให้ฝนตก ปรากฏว่า ในช่วงเย็นของวันที่ทำพิธี ฝนก็ตกลงมาอย่างหนักพอสมควรร่วมชั่วโมงครับ ในแถบตำบลซับจำปาก็ชุ่มชื่นไปด้วยฝนที่ตกลงมาตามที่ปราถนาทุกประการครับ

    สุดท้ายนี้ขอร่วมอนุโมทนากับชาวบ้าน ตำบล ซับจำปา อำเภอท่าหลวง ลพบุรีด้วยครับสาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • GEDC0486.jpg
      GEDC0486.jpg
      ขนาดไฟล์:
      148.5 KB
      เปิดดู:
      110
    • GEDC0444.jpg
      GEDC0444.jpg
      ขนาดไฟล์:
      183.2 KB
      เปิดดู:
      110
    • GEDC0442.jpg
      GEDC0442.jpg
      ขนาดไฟล์:
      284.2 KB
      เปิดดู:
      86
    • GEDC0481.jpg
      GEDC0481.jpg
      ขนาดไฟล์:
      182 KB
      เปิดดู:
      120
    • 9.jpg
      9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      129.9 KB
      เปิดดู:
      117
  2. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ====================

    ขอบคุณครับ

    ความเหนื่อยล้าทางกาย พักไม่นานก็หาย แต่ความเหนื่อยล้าทางใจ คือทุกข์ จะหายได้ก็ด้วยความดี ด้วยสติปัญญา รู้แจ้งในทุกข์

    ที่กล่าวอย่างนี้เพราะ ไม่ว่าคนเราจะสูงด้วยอะไรก็ตาม จะสูงด้วยความรู้ การศึกษา ยศฐาบรรดาศักดิ์ หรือแม้แต่ผู้ที่สูงด้วยธรรม ที่สุดแล้ว ผู้ที่มีสติปัญญา ย่อมเป็นผู้อยู่อย่างเรียบง่ายธรรมดา ไม่สูงไม่ต่ำ แต่อยู่แค่กลางๆ คือความพอดี ไปที่ไหน ก็จะรู้ว่าตนควรอยู่บนความพอดีในที่แห่งนั้นอย่างดีงามอย่างไร

    สิ่งที่ยากอย่างยิ่งคือ ผู้ปฏิบัติธรรม เมื่อบรรลุธรรมสูงขึ้น กลับเจริญอริยะมรรคต่อไปไม่ถูกไม่งามไม่เหมาะสม เพราะความที่ตนยังต้องข้องเกี่ยวกับสังคม และโลกใบนี้ บางคนเมื่อบรรลุแล้วก็ไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้แล้ว แต่ความจริงเราไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตได้ เพราะเมื่อใดที่เราหมดอายุไข เมื่อนั้นความตายก็มาเยือนใครก็ห้ามเราไม่ได้ เพราะถึงเวลาของมัน

    ฉนั้น การดำรงชีวิตอยู่อย่างอริยะบุคคล อย่างผู้มีเมตตาต่อโลก อย่างผู้ไม่ยึดติดโลก จึงเป็นสิ่งที่ยาก แต่ก็ต้องทำต้องฝึกฝนเรียนรู้ เพราะมันคือหน้าที่ ของความเป็นมนุษย์ที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งครับ สาธุ
     
  3. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    หน้าที่ทางโลก ก็คือหน้าที่ทางโลก เราต้องทำความเข้าใจให้ดี ว่า มันหมายถึงอะไร
    คนเรามีหน้าที่มากมาย
    1ในฐานะ บุตร ต้องเลี้ยงดูบิดารมารดา บรรพบุรุษ
    2ในฐานะพ่อแม่ ต้องเลี้ยงดูบุตร
    3ในฐานะ ศิษย์ ต้องตอบแทนคุณครูอาจารย์
    4ในฐานะ ประชาชน ต้องตอบแทนคุณประเทศชาติและแผ่นดิน ต่อพระศาสนา ต่อพระมหากษัติย์
    5.ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
    6ในฐานะ เจ้านาย ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน
    7 ในฐานะ อื่นๆ อีกมากมาย

    ฉนั้น จงถอดอัตตา ของตนออกไปให้หมดสิ้น สักแต่ว่าทำหน้าที่ของตน ให้ดีงามเท่านั้นเองครับ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_7932.jpg
      IMG_7932.jpg
      ขนาดไฟล์:
      148.4 KB
      เปิดดู:
      56
    • IMG_7933.jpg
      IMG_7933.jpg
      ขนาดไฟล์:
      160 KB
      เปิดดู:
      78
  4. kengloveyou

    kengloveyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +2,077
    ผมได้อ่านข้อความนี้ของคุณ tjs แล้วรู้สึกเทิดทูนกับคนดีอย่างคุณจริงๆครับ อย่างนี้สิถึงเรียกว่าของจริง
    ผมถือว่าผมโชคดีมากที่ได้มาพบกับคุณ tjs ซึ่งอาจจะบังเอินหรือเพราะกรรมนำพามาแล้วก็ไม่รู้ล่ะ แต่ที่รู้ๆ
    คือกำลังใจของผมไม่ได้เศษเสี้ยวของคุณ tjs เลยนี่สิ

    วันนี้ผมลางานมาครึ่งวันครับ จู่ๆกินอาหารเที่ยงเสร็จเกิดมึนหัวเรี่ยวแรงอ่อนล้า ผมจึงขอลาป่วยที่ทำงานออก
    มาครึ่งวันแบบบ้าๆเลยครับ ถ้าจะพูดไปแล้วผมเบื่อที่จะต้องทนทำงานที่สุดครับ เบื่อเจ้าร่างกายระยำที่เต็มไป
    ด้วยทุกขเวทนานี้ด้วย เบื่อโลกนี้ที่สุด เบื่อทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ เบื่อการเวียนว่ายตายเกิด ในวัฏฏะสงสาร
    นี้ ผมละเบื่อชีวิตมนุษย์ระยำนี้ที่สุดเลยครับคุณ tjs ทำไมผมมันถึงได้เบื่อโลกถึงขนาดนี้ครับ เบื่อจริงๆเบื่อ
    ที่สุด อยากจะหนีทุกสิ่งทุกอย่างให้มันพ้นๆไปเสียทีวันละหลายสิบรอบเลย ผมเบื่อโลกนี้จริงๆ ผมเบื่อร่างกาย
    นี้จริงๆ ผมเบื่อหน้าที่การงานทางโลกจริงๆ ผมเบื่อทุกสิ่งทุกอย่างในวัฏฏะสงสารนี้จริงๆ ผมอยากจะไป
    บ้านใหม่ใสแจ๋ววิมานของผมเหลือเกิน ผมเบื่อโลกนี้จริงๆ เมื่อไรผมจะได้ไปบ้านใหม่วิมานใสแจ๋วของผม
    เสียที ทำยังไงดีครับคุณ tjs ครับ
     
  5. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    เหตุใดคนบางคนถึงต้องทำสาระพัดอย่าง เขาจะเหนื่อยไปเพื่ออะไรกัน ทำไมเขาไม่เลิกทำ
    ทำไมเขาไม่หยุดอยู่เฉยๆบ้าง

    ความจริง เราไม่มีทางที่จะเข้าใจในสิ่งที่เขาทำได้มากมายนักหรอก จนกว่า วันหนึ่งเราได้ เดินตามและทำตามท่านผู้มีบารมีมากเหล่านั้น เมื่อนั้นแหละเราจะเริ่มเข้าใจท่านได้มากขึ้น เข้าใจได้ดียิ่งขึ้นอย่างแท้จริง

    ความสุขก็ส่วนหนึ่ง ความปราถนาอยากช่วยเหลือก็ส่วนหนึ่ง ความเคารพกตัญญุตา ก็ส่วนหนึ่ง ความเป็นผู้เห็นประโยชน์อันดีงามในประเพณีที่ควรรักษาสืบทอดก็ส่วนหนึ่ง
    แต่ที่สุดแล้ว ภายในจิต หาได้มีอะไรไม่ครับ มันไม่มีอะไรเป็นเพียงความว่างเปล่า ที่มีตวามดีเกาะพวงอยู่ข้างๆก็เท่านั้นครับ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC08556.jpg
      DSC08556.jpg
      ขนาดไฟล์:
      102 KB
      เปิดดู:
      71
    • DSC08560.jpg
      DSC08560.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95.2 KB
      เปิดดู:
      61
  6. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ผมนี่เหมือนคุณนิพานสุขเลยเบื่อทุกอย่างจะทำยังไงดีช่วยแนะนำหน่อยครับ
     
  7. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ===============

    ผู้เป็นอริยะบุคคล ต้องประกอบด้วยสติปัญญา ทุกขณะจิต ความรู้สึกต่างๆที่เกิดขึ้น ความปราถนาอยากและไม่อยากต่างๆที่เกิดขึ้น แม้ความเบื่อหน่าย ขอให้ทำความเข้าใจว่า ย่อมเป็นสิ่งที่ทำลายความผ่องใสผ่องแผ้วของจิต

    จิตอริยะ ย่อมมีสติปัญญา และมีความสะอาดผ่องแผ้ว แต่ถ้ายังไม่ผ่องแผ้ว คือยังมีทุข มีห่วง มีกังวล ยังอยากแม้นิพพานก็ยังทุกข ฉนั้นจึงควรทบทวนสภาวะของจิตตนดูใหม่ ควรใช้สติปัญญาชำระสิ่งเหล่านั้นออกไปเสีย แม้ความเบื่อหน่ายก็ควรต้อง ชำระไปให้หมดสิ้นเช่นกัน

    นี่แหละวิถีแห่งอริยะมรรค ทั้ง8 ข้อ พึงทบทวนทุกข้อให้ดี หากเข้าใจดีแล้ว ก็จะเป็นพระอรหันต์ที่ยังมีลมหายใจอยู่บนโลกใบนี้อย่างดีงามสมแก่ความเป็นพุทธบุตรครับ สาธุ
     
  8. kengloveyou

    kengloveyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +2,077
    สาธุตาสว่างจ้าเลย ธรรมดาของโลกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง "ถึงเวลาเมื่อไรก็ได้ไปเมื่อนั้น เมื่อยังไม่ถึงเวลาก็ต้องปลดกันต่อไป" สาธุ สาธุ สาธุ คุณ tjs สาธุครับ
     
  9. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    เรื่องจริง งานพิธีกรรม อีกด้านหนึ่งที่ไม่มีใครทราบ

    ผมผ่านมาหลายงาน ทั้งงานเล็กงานใหญ่ ทั้งแบบบวงสรวงและไหว้ครู
    ที่ผ่านมาทำให้มีประสพการณ์ว่า พ่อพราหม บางท่าน เรียกร้องเงิน ค่าร่าง ซึ่งอ้างว่ายังต้องกินต้องใช้ นั่นก็แสดงว่า เขาทำเป็นอาชีพเลี้ยงชีวิตเขา ต่างกับเรา เราไม่มีค่าร่าง มีแต่ค่าครู39บาททุกพิธีกรรม และค่าน้ำมันรถ ที่เราต้องเดินทางไปหาเขาเพื่อทำพิธี ส่วนค่ากินใช้นั้นไม่มีเพราะอย่างการกินเราก็ต้องกินตามเวลาของมันอยู่แล้ว

    เราไม่มีข้อแม้อะไรมากมาย เราก็ช่วยเขาทำทุกอย่างเท่าที่เราช่วยได้ ไม่ได้สนใจว่า เราเป็นใครหรือไม่เป็นใคร สนใจว่า เมื่อมาช่วยแล้วก็ต้องช่วยทุกอย่าง ถ้ามีคนช่วยเยอะเราก็เบาลง ถ้ามีคนช่วยน้อยเราก็ทำเอง เราไม่ได้มายึดติดหรอกว่า งานนี้ไม่ใช่หน้าที่เรา ก็ไม่ได้ เพราะสิ่งที่เราทำมันหมายถึงความมีน้ำใจที่เรามีให้ ทั้งการช่วยเหลือและความตั้งใจให้งานเขาออกมาดีที่สุดตามกำลัง

    พราหมบางท่านเคยไปแต่งานใหญ่ๆ ถือว่าต้องใหญ่หรือดีเลิศ เพราะเป็นการสมศักดิ์ศรี แก่พราหม ถ้าให้ไปงานเล็กๆ ท่านก็ไม่รับ เพราะไม่สมศักดิ์ศรีท่าน บางท่านบอก ไปทำให้ไม่ได้เพราะเราจัดเตรียมของให้ไม่ดีพอ ไม่มากพอ

    เคยเจองานไหว้ครูบางงาน จัดงานใช้เงินประมาณ3แสนบาท เขาก็ลงแรงกันเอาไว้แบบงานบวชงานแต่ง แต่ในปัจจุบันเศรษฐกิจไม่ค่อยดี แรงที่เคยลงเอาไว้ พอถึงเวลาจัดงานของตน ส่วนหนึ่งก็มาไม่ได้ไม่ได้มาติดธุระ ซองก็ใส่น้อยลง ก็ว่ากันไม่ได้ สุดท้ายก็ ขาดทุนเป็นหนี้เป็นแสน ค่าใช้จ่ายที่แพงมาก ไม่ใช่ค่ากินหรอก แต่เป็นค่าบายศรี ค่าพราหมโหรา ที่นำทำพิธี ตลอดจนวงระนาดที่มาตีดนตรีให้จังหวะ

    ถ้าจัดงานหรือทำพิธี เพื่อสักการะ บูชา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วต้องมาทุกข์มากมายจากหนี้ที่เกิดขึ้น อย่างนี้ ทำบุญได้บาปกับตนเอง แล้วเทพพรหมที่ไหน ท่านจะยินดีในงานพิธีได้อย่างไร

    ฉนั้นปัจจุบันนี้ ทำอะไร ก็ขอให้มีสติปัญญา มีความรู้แจ้งในแก่นแท้ความจริง รู้จักคิดรู้จักทำ รู้จักแยกแยะ ทำอะไรต้องอยู่บนพื้นฐานของความดีงาม ความพอเหมาะพอดี ความเหมาะสม ตามแต่กำลังของตน จงทำด้วยเจตนาที่ดีงาม และหากทำได้ แน่นอน ผลเร็จ ย่อมเกิดสนองแก่ตนมากล้นทวี ครับ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • sesadsada.jpg
      sesadsada.jpg
      ขนาดไฟล์:
      188.2 KB
      เปิดดู:
      137
  10. ไก่ต่อ

    ไก่ต่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +277
    สาธุค่ะ
     
  11. ZIGOVILLE

    ZIGOVILLE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +792
    ขอบพระคุณมากๆครับ แหม คุยกับท่านทีไร ต้องจี้ใจดำผมทุกทีสิน่า ป่านนี้คงเห็นไปถึงกระดูกดำผมแล้วล่ะมั้งท่าน ๕๕๕ แฉผมออกสื่อตลอดเลยนะครับ อิอิ...

    ...เมื่อท่านเหนื่อย ขอท่านจงนึกถึงพวกผมและเพื่อนๆหลายๆท่านในนี้ที่ยังคอยเป็นกำลังใจช่วยท่าน TJS ผู้ลำบากทั้งภาระทางโลก และทางธรรมเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ผมและเพื่อนๆ หลายๆคนพร้อมที่จะช่วยเหลือให้การสนับสนุนท่านตามกำลังเสมอเมื่อโอกาสมาถึง...ช่วงนี้ผมหมดช่วงเพลินแระ จะขอตัวเข้าสู่การฝึกวิทยายุทธขั้นตอนต่อไปสักระยะ แต่จะเข้ามาติดตามและเรียนรู้ผลงานท่านเรื่อยๆ...และหวังว่าอีกไม่นานเราคงได้สนทนาธรรมอีกนะครับ ดูแลสุขภาพร่างกายบ้างนะครับท่านอาจารย์
     
  12. ZIGOVILLE

    ZIGOVILLE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +792
    ป.ล. ยังมีอีกหลายคำถามด้านบนของเพื่อนๆหลายๆท่าน ที่ยังรอความช่วยเหลือ รอคำตอบจากท่านอยู่นะครับ
     
  13. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ===================

    เมื่อก่อนผมก็มีความกลัว เช่นคุณ ตอนเด็กๆ เคยได้ยินเสียงเปรตกรีด ร้อง น่ากลัวมาก และเคยเห็น เปรตรูปร่างสูงเท่าต้นมะพร้าว แขนขายาวตัวใหญ่ ปากเล็กเท่ารูเข็ม หน้าตัวน่าเกรียดเหมือนคนป่วยหรือพิการ ดำคล้ำ ผอมแห้ง

    ความกลัว แท้จริงมันเป็นสัญชาติญาณของความเป็นสิ่งมีชีวิต ที่กลัวเจ็บกลัวตาย กลังเขามาทำร้าย กลัวต่างๆนานๆเพื่อให้ชีวิตปลอดภัยก้าวต่อไปได้อย่างมีความสุข

    เมื่อเราปฏิบัติธรรม เราจะเข้าใจแก่นแท้ว่า แท้จริง ไม่มีอะไรน่ากลัว ความปรุงแต่งที่เกิดขึ้นทั้งจริงและไม่จริง มันเป็นสิ่งที่ดึงจิตใจเราไป
    แท้จริงแล้วชีวิตเรา ก็ต้องเจ็บ ต้องป่วย ต้องตายทุกคน เพราะขันธ์5ของเรามันไม่เที่ยง และสิ่งภายนอก มันก็ไม่เที่ยงแท้เช่นกัน ทุกอย่างเป็นธรรมดาเป็นธรรมชาติ ของรูป นาม เป็นเช่นนี้เสมอ

    ให้พิจารณาความกลัวดูให้ดีว่า ทำไมถึงกลัว เรากลัว อะไร มันจะส่งผลอย่างไร แล้วสุดท้าย มันมีอะไรที่เที่ยงแท้จีรังยั่งยืนหรือไม่ แล้วคนอื่นๆเขาเป็นแบบเราไม๊ แล้วจิตวิญญาณทั้งหลาย เขาจะมาทำร้ายเราเพราะเหตุใด เขากับเราต่างกันแค่เขาไม่มีร่างกายเหมือนเรา แต่เรามีร่างกายอยู่อาศัย เขาไม่มีโอกาสได้สร้างกุศลเหมือนเรา เราจึงโชคดีกว่าเขาในกรณีนี้ มีแต่เขาที่ต้องพึ่งพาเรา เราต่างหากที่สามารถช่วยเหลือเขาได้

    ผมเคยพิสูจน์ ความกลัว ด้วยการเดินเข้าไปในวัดและป่าช้า ตอนสี่ทุ่มถึงเที่ยงคืน ความกลัวมันประดังเข้ามาทุกทาง ตอนแรกเราก็กลัวมากแต่ก็ใจสู้ตัดสินใจมาแล้ว ก็ต้องเดินหน้า ในขณะที่เรากลัว เราจะระแวงทุกอย่างจิตใจจะไม่สงบ ผมก็ใช้วิธีการ ขอบารมีพระรัตนตรัย และหลวงปู่ทวด ยึดมั่น ทำให้ไม่กลัว ในขณะที่ผ่านหลุ่มศพป่าช้า หมาที่เห่าหอนน่ากลัว ผมได้ที่นั่งสมาธิหน้าพระพุทธรูปกลางเลยป่าช่้าไปเล็กน้อย เมื่อทำสมาธิ ก็โยนิโสธรรมารมณ์ ตรวจสอบกายและจิต ทำให้พบปัญญาว่า แท้จริง ความนึกคิดปรุงแต่งในจิตตนก็มีอำนาจมาก เมื่อเราตัดละตรงนี้ได้ก็เบาสบายโล่ง ไม่มีอะไรให้กังวล แม้ว่าเราจะรู้เห็นอะไรทั้งจริงและไม่จริงก็ตาม หากเรามีสติปัญญารู้ทัน เราก็ปล่อยวางละความกลัวดับความกลัวได้หมดสิ้น

    ความกลัว และสิ่งภายนอกไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวคือความรู้ไม่เท่าทัน ความปรุงแต่งนึกคิดของจิตที่มาทำร้ายจิต ของตน ครับ สาธุ

    สรุปให้ฝึกฝนพิจารณาให้เห็นแก่นแท้ของรูป นาม ที่มันไม่เที่ยงไม่มีอะไรให้ยึดมั่น ฝึกกรรมฐานมรณานุสติ จนชำนาญแล้วต่อด้วยอสุภะกรรมฐาน ก็จะหลุดพ้นความกลัว และหากในเบื้องต้นยังกลัวอยู่ให้อาศัยบารมีพระพุทธเจ้า หลวงปู่ทวด ท่านเมตตาช่วยเหลือคลุ้่มครอง เป็นที่ยึดเหนี่ยวก่อน ได้ครับ จนกว่าจะหลุดพ้นความกลัวแล้วจึงปล่อยวางได้หมดครับ สาธุ
     
  14. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ====================
    1 ผู้หญิงคนนี้ มีเทวดาที่รักษาตนคือพระแม่สุพรรณกัลยาครับ นุ่งห่มชุดไทยสีชมพูครับ
    2 เธอจะประสพความสำเร็จ แต่ต้องอาศัย คุณช่วยเหลือ และ้เธอต้องทำบุญ ถือศีล สวดมนต์ภาวนาด้วยจะดีมาก เพราะมีกรรมเก่าหลายอย่าง ดวงการเงินดี แต่มีเคราะห์กรรมเก่าเบียดเบียน ทั้งสุขภาพและภัยอันตราย ครับ ทุกปี ชวด เถาะ มะเส็ง มะเมีย วอก จะไม่ดีมากต้องทำบุญให้ดีครับ สองปีที่ผ่านมาดวงเธอไม่ค่อยดีนักแต่ก็โชคดีที่สั่งสมบุญมาเรื่อย จึงช่วยให้่เบาลงได้ครับ
    ปีนี้เธอจะได้งานใหม่หรือมีการโยกย้ายครับ

    3 เธอเป็นเนื้อคู่ของคุณ แต่คุณต้องมีกรรมมาใช้คืนเขาครับ
    ก็ถือว่ามีวาสนาร่วมกันครับ อีก4-5ปีข้างหน้า เขาจะได้รับทรัพย์ก้อนใหญ่ คือในปีกุน อันหมายถึงการแต่งงานหรือมีคู่เป็นครอบครัวครับ

    ขอให้ชักนำให้เธอทำบุญและปฏฺบัติธรรม ให้สม่ำเสมอนะครับ แล้วชีวิตจะก้าวหน้า ตลอดจนจะผ่านพ้นเคราะห์กรรมไปได้ด้วยดีครับ
    อีกนิดให้เธอตั้งใจไม่ทานเนื้อสัตว์ใหญ่ และห้ามฆ่าสัตว์ ตลอดจนให้ทานมังสะวิรัติบ้างตามโอกาสนะครับ ทุกบุญกุศลให้อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร เทวดาที่รักษาตนและเทวดาประจำวันทั้ง9พระองค์ ตลอดจนบิดารมารดาครูอาจารย์ผู้มีพระคุณทุกท่านให้ท่านอนุโมทนาครับ
     
  15. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ขอรบกวนถามหน่อยครับผมแย่เลยตอนนี้ทำยังไงจะดีขึ้นครับ
     
  16. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    =================

    ครูอาจารย์สายพระอริยะสงฆ์ มีหลายท่าน ส่วนใหญ่เป็นสายอภิญญามีหลายท่าน เช่นหลวงปู่ทวด สมเด็จโต หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษี ลิงดำ ครับ

    ส่วนการได้ทิพยจักษูเคยทำได้ครับ แต่ก็เสื่อมลง เพราะไม่ปฏิบติให้ต่อเนื่อง ต้องภาวนาทุกวัน รักษาศีลให้ดีครับ ก็จะทรงตัวครับ

    การฆ่าวัว นั้นเคยทำกรรมไว้เมื่อชาติที่แล้วครับ ให้ผลในชาตินี้ครับ แต่ก็ไม่ได้ตกนรกครับ เพราะมีบุญกุศลที่เคยค้ำจุนพระศาสนา ทำให้ยังไม่ถึงเวลานั้นครับ และถ้าในชาตินี้ได้ทำบุญแก้ไขให้ดี และรับกรรมส่วนหนึ่งไป ก็จะห่างไกลจากกรรมส่วนนี้ครับ แต่ถ้าชาตินี้ทำไม่ดี ก็อาจจะต้องตกรนกได้ และอาจจะต้องใช้กรรมเก่าในชาติก่อนด้วยครับ ขอให้ไม่ประมาทและตั้งใจทำความดีให้มาก ให้ละบาปกรรมหนักทั้งปวง โดยเฉพาะการฆ่าสัตว์ ห้ามทำอีกครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2015
  17. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ===================

    1 ที่ไม่สบายบ่อยไม่เกี่ยวกับงานและลูกค้า แต่เกี่ยวจากกรรมในอดีต คือการได้เคยฆ่าสัตว์เลี้ยง คือหมูไก่ ปลา เอาไว้พอสมควรครับ อดีตชาตินับไปสองชาติที่แล้วครับ เป็นแม่ค้าขายเนื้อสัตว์ครับ ขอให้ ทำบุญแก้ไขเรื่องนี้ ด้วยการ ทำทานปล่อยปลาปล่อยชีวิตสัตว์บ่อยๆ ให้ตั้งมั่นไม่ฆ่าสัตว์ ให้กินมังสะวิรัติบ่อยๆ ห้ามทานเนื้อสัตว์ใหญ่ และเนื้อหมูควรทานให้น้อยที่สุดหรือเลิกทานไปเลยจะดีมากครับ แล้วให้สร้างพระ ร่วมสร้างพระถวายวัดบ่อยๆ จะดีขึ้นมากครับ

    2ยังไงก็ต้องทำงานเป็นลูกจ้างพนักงานเอกชน ต้องรอให้อายุผ่านพ้นไปก่อน จนกว่าอายุจะย่าง36แล้วจึงจะทำกิจการของตนเองอย่างเต็มตัวได้ งานที่ว่าคืออาชีพค้าขาย โดยในปัจจุบันต้องทำงานเป็นลูกจ้างไปก่อน ส่วนงานเสริมคือการขายของทั่วไปแบบกิ๊ฟช็อบ หรือแบบซื้อมาขายไปครับ หรือผลิตภัณฑ์ความงามครับ ไม่ใช่ของสด ก็จะสร้างพื้นฐานในอนาคตครับ

    ปั้นปลายจะร่ำรวยพอสมควร มีกิจการขนาดกลางเป็นของตนเอง ขอให้ตั้งใจทำความดี ละการทำบาป สวดมนต์ภาวนาบ่อยๆทุกวัน อธิฐานจะสมปราถนาครับ สาธุ
     
  18. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    =================

    เรื่องชะตาเกณฑ์คู่นั้น มีแน่นอนครับ แต่จะต้องรอเวลาครับ คือต้องรอครบอายุ24-25ปีก่อนครับ ดวงชะตาจะตกคู่มีครอบครัวแน่นอนในปีฉลูครับ และหากยังไม่ได้อยู่เป็นครอบครัว จะเจออีกรอบตอนอายุ 36-37ครับ มีสองรอบครับ

    ดวงชะตาในปีที่แล้วมีทุกขลาภคือทั้งดีและไม่ดีครับ ส่วนปีนี้ดวงตกชะตาขาดต้องทำบุญต่อชะตานะครับ ให้ถวายสังฆทาน และปล่อยปลา9ตัวครับ

    ทุกๆปีมะเมีย มะแม วอก ต้องทำบุญต่อชะตา ส่วนปีอื่นๆดีหมดครับดีมากคือปี เถาะกับมะเส็ง ครับ

    ที่ไปทำบุญให้คุณแม่มาท่านได้รับครับ แต่ต้องทำบ่อยๆเรื่อยๆนะครับเพราะตอนท่านจากไปก็ไม่ค่อยดีนัก สภาพจิตอ่อนกำลัง บุญก่อนก็มีไม่มากนัก ต้องทำให้ท่านเรื่อยๆครับ สาธุ
     
  19. newslowstep

    newslowstep สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +15

    เดี่ยวพี่ก้อง ตอบคำถามเพื่อนๆคนอื่นที่รอคำตอบอยู่ก่อนได้ครับ ค่อยมาอ่าน และตอบของผม ขออภัยที่ถามเยอะนะครับ


    ครับผมขอบคุณมากครับ ชาตินี้เดี่ยวผมคิดว่าจะ ผ่อนบ้านให้หมดก่อน คาดว่าน่าจะ 5-10 ปี หรืออาจจะเร็วกว่านี้ขึ้นอยู่กับเงินเดือน + ยอดขายของ แล้วจะบวชยาวล่ะครับผม ที่คิดไว้ตอนนี้คืออาจจะบวชสั้นๆ 1 เดือนก่อน หลังจาก งานเสริม(ขายของ)มั่นคงและได้เยอะกว่างานประจำ จะลาออกจากบริษัทมาบวชประมาณเดือนนึงครับ

    ช่วงนี้ก็ต้องถือศีล ปฏิบัติธรรม กรรมฐาน ปล่อยปลา ไถ่โคกระบือไปด้วย

    ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีความสุขเหมือนเพื่อนคนอื่นๆตั้งแต่เด็กแล้วครับ ตอนนี้คิดไปคิดมาได้ว่าที่เผชิญอยู่ตอนนี้เป็นเพียงแค่เศษกรรม ก็อดคิดเรื่องอนาคตไม่ได้แล้วน่ะครับ



    1.ทำไมผมถึงอยู่ในวงจร เป็นเจ้าคนนายคน แล้วถึงใช้อำนาจข่มเหง บริวาร แล้วทำไมถึง ต้องเลี้ยงวัว ฆ่าวัวครับ เรื่องนี้พอจะมีเหตุผลหรือป่าวครับ ขึ้นอยู่กับชาติก่อนหน้านี้ทำกรรมด้านนี้มา บวกกับแรงอธิฐานหรือป่าวครับ ? ผมรู้สึกกลัวว่าชาติต่อไปผมพลาดอีกกลัวจะตนเองจะระลึกไมไ่ด้





    2
    การฝึกกสิณไฟ นี่ผมใช้คลิป youtube VDO เทียนไขได้ไหมครับ
    https://www.youtube.com/watch?v=E6hiIdxo2Gc
    https://www.youtube.com/watch?v=xNPzLTS5QIo

    ส่วนกสิณลม VDO นี้ได้ไหมครับ
    https://www.youtube.com/watch?v=mMboUKyx-VE
    https://www.youtube.com/watch?v=zbRNEA6Afxc&index=12

    และการฝึกกสิณไฟก่อน กสิณลม จะเป็นอะไรไหมครับ ? ลองอ่านแล้วบางที่บอกว่าควรฝึก กสิณอื่นก่อน ค่อยฝึกกสินไฟ เพราะกสิณไฟอันตราย พี่ก้องช่วยแนะนำหน่อยครับ ฝึกกสิณไฟก่อนได้ไหมครับ

    ส่วนเรื่องวิธีฝึกผมพอศึกษาคร่าวๆแล้วครับ

    3.ผมฝึกฌาน ถึงขั้นไหนแล้วครับผม ถ้าความรุ้สึกว่าแทบจะไม่หายใจ (หรือไม่หายใจแล้ว ไม่แน่ใจ) แต่หูยังได้ยินเสียง อยู่ แสดงว่ายังไม่ถึงฌาน 4 ใช่ไหมครับ



    4 ผมอยากให้แม่เชื่อเรื่องธรรมมะ กฏแห่งกรรมอะไรพวกนี้น่ะครับ
    รบกวนพี่ก้องช่วยดูสองคนให้หน่อยครับ ว่าเสียชีวิตแล้วไปอยู่ที่ไหน (ขอบรรยายลักษณะ รูปพรรณ หรือนิสัยให้ด้วยนะครับ)
    -เสาวลักษณ์ บุญลิมป์กุล (น้องสาวแม่)
    -พวงพกา บุญลิมป์กุล (น้องสาวแม่)



    ขอโทษที่รบกวนด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าด้วยนะครับ สาธุ ตอบผมทีหลังก็ได้ครับ ตอบคนอื่นที่ยังไม่ได้ตอบก่อนครับ
    ถ้าพี่ก้องมีอะไรให้ผมช่วย ผมยินดีนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2015
  20. blackmetal

    blackmetal สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +6
    ส่งข้อความไปทางpmครับ ขอบพระคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...