-> ตีแผ่ --> สมเด็จวังหน้า + สมเด็จวัดพระแก้ว + สมเด็จพระธาตุพนม

พระรอดขุดพบครั้งแรกตอนสมัยร.5 พ.ศ.2435 สมเด็จโตสิ้น2415

 

ผมเคยให้พวกๆดูเขาบอกไกเซอร์ไม่น่าสนใจ แต่กลับสนใจพระรอด ผมยังเคยคิดจะแงะออกมา แต่กลัวพระจะแตกเลยนิมนต์ขึ้นหิ้งเก็บไว้ที่เดิม เป็นไปได้ไหมพระสอง องค์นี้หลุดมาจริงแต่สร้างหลังจากสมเด็จโต และผมได้ข่าวมาว่าพระชุดที่หลุดออกมา ถูกไล่ตามเก็บกับไว้ที่เดิมแล้ว จริงเท็จไม่ทราบนะครับ

 

อาจเป็นไปได้ครับ แต่จากรูปสมเด็จ ผมดูยังไม่เก่าถึงยุคสมเด็จโตนะครับพระรอดขอข้ามดูไม่เป็นครับ

 

ผมก็ดูไม่เป็น ทั้งพระสมเด็จ ทั้งพระรอด
แต่เท่าที่ทราบ พระรอดก็มีสร้างหลายยุค หลายสมัย และ บรรจุอยู่หลายกรุ หลายแห่ง
ด้านหน้า-ด้านหลังพระสมเด็จก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่พอจะค้นหาทางประวัติศาสตร์ได้ จึงขอผ่าน
เพราะกระทู้นี้ผมค้นคว้าหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ แต่ละช่วงเวลา ตามเรื่องเล่าไว้ในนิยายหลอกขายพระ
ว่าช่วงนั้นๆ เป็นไปตามนิยายหลอกขายพระหรือไม่ อย่างไร

ต้องรอท่านผู้รู้ ครับ

ขอบคุณที่นำพระมาร่วมกันศึกษา

การศึกษาร่วมกัน ต้องมาแบบนี้
ไม่ใช่เอะอะก็มาว่า พระกรูแท้อยู่คนเดียว แล้วเที่ยวกระแนะกระแหน เย้ยหยัน คนอื่น อวดความยิ่งใหญ่ อวดร่ำอวดรวย
พอมีคนบอกให้หาหลักฐานอ้างอิงมา ก็เอะอะโวยวาย หาว่าคนอื่นโง่ ไม่รู้เรื่องพระ เชื่อแต่ตามเซียน กรูเก่งกรูรู้มากกว่าคนอื่น
พอหาหลักฐานไม่ได้ ก็พาลเขาไปทั้งกระดาน ตอบแถไปเรื่อยๆ ได้แต่มโนเอาว่าเป็นยังโง้นยังงี้ แถไปเรื่องอื่นเรื่อยไป

ขอบคุณที่นำพระเข้ามาร่วมกันศึกษาอีกครั้งครับ

 

ลองเทียบความเก่าดูนะครับกับพระคงลำพูน องคืนี้ผ่านงานประกวดแต่ไม่ติดรางวัลครับ

 

นี่พระหลวงปู่อ้นวัดบางจาก ลองเอาของลูกศิษย์สมเดเ็จโตลองเทียบความเก่ากับสมเด็จ องค์นี้ดูครับ นี่ก็ผ่านงานประกวดแต่ไม่ติดรางวัลครับ

 

ขอบคุณครับ คุณthitinoo เรืองเนื้อพระเก่าใหม่ผมก็ดูไม่เป็นเอาซะเลย ใครให้มาผมก็เก็บอย่างเดียว วันดีคืนดีก็มานั้งส่องเล่น เพลินๆ ส่องไปส่องมาก็มโนเองในใจ ว่าองค์นี้แท้ พอสอบถามพี่ๆเพือนๆในบรอดพลังจิต ส่วนมากคอตกครับ อิๆ

 

จริงๆ แล้ว ก็มีพระแตกกรุออกมาจากวัดพระแก้ววังหน้า นะครับ
แตกกรุออกมาช่วงที่จะมีการสร้างโรงละครแห่งชาติ
แตกกรุออกมาที่ฐานชุกชี กลางพระอุโบสถ
แต่พระที่แตกกรุออกมา ไม่ได้มีพระสมเด็จ

อยู่หน้าที่ 8

ผมเอาบทความนี้ลงในกระทู้นี้ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว
พวกปลอมพระ ก็ "ขโมย" เอาบทความนี้ไปแต่งเสริมเพิ่มเติมเข้าไปในนิยายหลอกขายพระของเขาอีก
มันน่าจริงๆ เลยครับ

 

พระเครื่องที่แตกกรุจากวัดพระแก้ววังหน้า


ฉบับเต็ม
เคยลงฉบับย่อไว้ที่หน้า 8

ผมเอาบทความนี้ลงในกระทู้นี้ ตั้งแต่ 3 ปีกว่าที่แล้ว
พวกปลอมพระ ก็ "ขโมย" เอาบทความนี้ไปแต่งเสริมเพิ่มเติมเข้าไปในนิยายหลอกขายพระของเขาอีก


จาก



ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับวังหน้า พระราชวังบวรสถานมงคลถูกบันทึกลงในความทรงจำของเรา โดยปากต่อปากเหมือนทุกคนจงใจเล่ายัดเยียดเข้าในความทรงจำของเรา ตอกแล้วย้ำอีกอยู่นั่นแหละ แม่นเสียยิ่งกว่าท่อง ไม่รู้เพราะอะไรหรือใครกำหนดทุกถ้อยคำที่พรั่งพรูเหมือนฉายภาพเหตุการณ์ให้บันทึกอดีต ที่มีทั้งจงรักภักดี และเคียดแค้นแน่นหัวอก<O</O
ตั้งแต่เข้าเรียนโรงเรียนประถมใกล้บ้านเราไปโรงเรียนเฉพาะวันหยุดอาทิตย์ละ ๓ วันเท่านั้น คือ วันพฤหัสบดี วันเสาร์ และ วันอาทิตย์

เปิดกรุวังหน้า เราอายุประมาณ ๘ หรือ ๙ ขวบมีการสร้างโรงละครแห่งชาติ และบูรณะอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส โดย พณ.ฯ มล. ปิ่น มาลากุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้อนุมัติงบประมาณ เพราะต้องบูรณะใหญ่ต้องรื้อฐานชุกชีกลางพระอุโบสถออก จึงมีการทุบเปิดกรุกลางชุกชีพบพระพุทธรูปมากมายทั้งโลหะใหญ่เล็ก และเนื้อดินเผา ตัวเรา พ่อ แม่ อยู่ในเหตุการณ์วันเปิดกรุ ขณะเจ้าหน้าที่ค่อยๆ ทะยอยหยิบพระขึ้นจากกรุ ด้วยความคุ้นเคยและเห็นหน้าค่าตากันทั้งหมดของในกรุจึงเป็นของหลวงบ้าง ของมึงบ้าง ของกูบ้าง ชิ้นไหนใหญ่มีจุดสังเกต ผู้ใหญ่จ้องมองสอดส่องมากก็เป็นของหลวงไป ส่วนพระเครื่อง พระเนื้อชิน เนื้อเงิน พระดินเผาลงรักปิดทอง เป็นพระพิมพ์ปางต่างๆ ทั้งประประจำวัน เศียรโล้น เศียรเกศ องค์เล็ก องค์น้อย ใครหยิบได้ฉวยได้ก็เอาไป แม่เรากอบทั้งองค์พระและผงก้นกรุใส่ปี๊บกลับบ้านกันเลย สองสามวันหลังเปิดกรุเสร็จท่านอาจารย์ ธนิต อยู่โพธิ์ ปล่อยข่าวว่าพระในกรุเป็นของต้องสาปของกรมพระราชวังบวรฯ ใครเอาไปให้นำกลับมาคืน ทั้งครู ทั้งนักเรียน ทั้งแม่เราหลงเชื่อ นำกลับมาคืนไว้ที่ฐานชุกชีพระประธาน เราไม่คืนเก็บไว้ ๓ องค์ จนทุกวันนี้ พร้อมผงก้นกรุที่แม่เก็บไว้ ๑ ปี๊บ

เมื่อเราโตเป็นครูฝึกสอนของโรงเรียนนาฏศิลปแล้วไปอ่านประชุมพงศาวดารภาค ๑๓ ตำนานวังหน้า จึงรู้ว่า อาจารย์ ธนิต อยู่โพธิ์ หลอกเรื่องพระในกรุเป็นพระต้องสาป เพราะพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) สร้างโดยกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพในรัชกาลที่ ๓ ส่วนคำสาปนั้น สาปโดยกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทในรัชกาลที่ ๑ และฐานชุกชีที่บรรจุพระพิมพ์ต่างๆ สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๔ โดยพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ เพราะพระองค์มีพระราชดำริจะเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่กลางฐานชุกชีนี้ จึงโปรดฯ ให้สร้างขึ้น และโปรดเกล้าฯ ให้เขียนประวัติพระพุทธสิหิงค์รอบพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) ขึ้น ดังปรากฎภาพหลักฐานอยู่จนทุกวันนี้ ที่ว่ากรุวังหน้าพบพระที่โคนสมอนั้น เราเกิดและเติบโตที่นี่ยังไม่เคยพบเคยเห็นหรือทราบว่าวังหน้ามีต้นสมอเลย แม้แต่ต้นเดียว

สรุปพระกรุวังหน้าไม่ต้องคำสาปใดๆ ทั้งสิ้น ใครได้ไปมีแต่เจริญรุ่งเรือง ดีวัน ดีคืน
----------------------------------------

แตกกรุ ก็ คือแตกกรุ
มิได้มีหลักฐานยืนยันว่า เอาไปบรรจุกรุไว้ที่วัดพระแก้วมรกต
ตามนิยายหลอกขายพระ แต่อย่างใด
-----------------------------------------
การนำพระเครื่องไปบรรจุกรุที่วัดพระแก้วมรกต ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ในเขตพระบรมมหาราชวัง เหตุการณ์ที่จะสามารถนำพระเครื่องไปบรรจุกรุได้ ในความคิดของผม มีทางเป็นไปได้ 2 ทาง คือ
1. มีการบูรณะสิ่งปลูกสร้างต่างๆ หรือ
2. มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่

ในการนำพระเครื่องไปบรรจุกรุไว้ในสิ่งปลูกสร้างในวัดพระแก้วมรกต ไม่มีทางเป็นไปได้โดยเด็ดขาด ด้วยการ เจาะสิ่งปลูกสร้างเดิม เพื่อนำพระเครื่องไปเก็บไว้ในกรุ ดังนั้น การค้นคว้าของผม จึง เน้นหาประวัติศาสตร์ตามข้อ 1 และ 2 ในช่วงเวลาตามข้อความในนิยายหลอกขายพระ

หรือท่านใดมีเหตุผล ที่ต่างออกไป แสดงความคิดเห็นได้นะครับ










<O

 

ยอดเยี่ยมครับ ท่าน teraprat

มาถูกทางแล้วล่ะครับ ....เหมือนผมเลย ที่ตั้งพื้นฐาณ ด้วยการ

สงสัย ก่อนเป็นอันดับแรก

ตอนที่ผมได้มาเป็นเข่ง ผมนี่ โอ้โฮเลยนะ ตรูรวยแน่ฯ

ความโลภ เข้าครอบงำครับ เพราะ คนที่บ้านเขาหมดเงิน หมดทองไปเยอะ

พอมาอยู่ในมือผม ผมก็ไม่ยอมรับ ในตอนแรกฯ ใครติ ใครสวด

ผมน้ำตาซึมเลยครับ... ในใจคิด "พระของพ่อกรู จะไม่แท้ได้ยังไง"

ความรู้สึกในตอนนั้น ทั้งโกรธ ทั้งอาย ทั้งเจ็บใจ

จนมาวันนึง ฟ้าสงสาร หรือ ครูบาอาจารย์ อยากให้ผมหายโง่มังครับ

ผมก็ได้เห็น รูปฯ หนึ่งที่ทางพระราชวัง จัดส่งพระให้เป็นของขวัญกับใครผม

จำไม่ได้.. เท่านั้นล่ะครับ ปัญญาเกิดทันที

เพราะพระพุทธรูปองค์นั้น ช่าง วิจิตร งดงาม เกินพรรณณา เรียกได้ว่า

หาที่ติมิได้... เห็นว่าเป็นของสมัยอยุธยาครับ

เเล้วก็มานึกถึงของเรา โอ๊ย... เก๊ยกเข่งเลยนี่หว่า !!!

(จุดสังเกตุ ของผม.. ช่างสมัยโบราณ ไม่มีเครื่องมือสร้างพระ

เหมือนสมัยนี้ แต่ สร้างพระ ได้ งดงาม วิจิตร กว่าสมัยนี้เสียอีกครับ)

ผมวาง พระอุปโลก พระเก๊ ไว้ในเข่ง ตามเดิม ไม่ยุ่ง ไม่เอาไปหลอกขาย

ใครต่อ... ให้มันจบที่ผมครับ เพื่อดำรงไว้ซึ่งความถูกต้อง ไม่ต่อกรรมเวร..

หลังจากนั้น ผมเริ่มหาข้อมูล ดูรูป จากร้านพระเครื่องในเวปหลายฯเวป

ยิ่ง เพิ่มความเข้าใจ ให้มากขึ้นไปอีก.. แต่ก็ยังไม่เก่งสักที

เพียงแต่ ทุกวันนี้ พอจะเเยก พระเก๊ กับ พระเเท้ ได้สักบางเกจิ

แค่นี้ก็พอใจเเล้วครับ

ก็ต้อง ขอขอบคุณ อาจารย์ พี่ฯ เเละ เพื่อนฯ

รวมถึง ทางทีมงานผู้ดูแล เวปพลังจิต ทุกฯท่าน มา ณ.โอกาศนี้ด้วยนะครับ

ทุกฯท่าน ก็เป็น ครูของผมด้วยครับ :d

 

นั่งไล่อ่านอยู่เมื่อคืน เห็นรูปเขาลงแล้วต๊กกะใจเลย สงสัยงานนี้ผมรวยสะดือปลิ้นแน่ เห็นเขาบอกนวะหายาก อิอิ ท่านจั่นเจารบกวนเป็นธุระที ฮ่าๆ

 

ไปเอาข้อมูลมาจากวิกีพีเดียแต่ไม่ให้เครดิตเขาเลย ซ้ำยังไปกล่าวหาวิกีพีเดียอีกว่าข้อมูลเชื่อถือไม่ได้ แล้วยกตนขึ้นข่มเพ้อเจ้อว่าตนเองเคยเขียนบทความลงที่โน่นที่นั่น ข้อมูลที่ยกเอามาก็ยืนยันว่า ถ้าออกพระนามเต็มๆ พระเจ้าวรวงศ์เธอ สมเด็จพระสมณเจ้า กลมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ แล้วทำไมต้องเอาท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯมาเทียบศักดิ์กับพระองค์ด้วย ผมไม่เข้าใจคนพวกนี้จริงๆ

 

สวยจริงๆครับ

 

เกรงว่า ท่าน ดร มะละกอผู้นั้น จะได้รับทานยา จากหมอ

แล้วครับ เลยทำให้ ได้สติกลับมา.. เพราะเป็นยา..นอกที่หายาก

ต้องสั่งจาก ดาวอังคาร..!!!

( ไม่รู้ว่าใช่คนเดียวกันไหม ที่บอกว่า NASA ทำการดูหมิ่น ที่ส่งยานอวกาศ
ไปแตะพิ้นผิวของดาวอังคาร รบกวนชาวนาเม็ก เพื่อนของเขา..?? )

คงต้องรอให้ ยาหมด ซะมังครับ ... อาการเพ้อเจ้อจึงจะกลับมา

เนื้อนวะสวยซะด้วย.. สวยกว่าของ ด๊อก..มะละกอซะอีกครับ 55555

 

จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไปเชียวท่าน องค์นี้ไม่กล้าให้ใครต่อเลยครับ กลัวเขาโกรธเอา

 

พระกริ่ง ปวเรศ สมเด็จพระสมณเจ้า กลมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สร้างประมาณปี พ.ศ ๒๔๓๐ ถึง พ.ศ ๒๔๓๔ เซียนเรียกตามพระนามผู้สร้าง รูปแบบพระกริ่ง ปวเรศ มีความแตกต่างกับพระกริ่งพระชัยวัฒน์ประจำรัชกาล ที่สร้างตามกำลังวันพระราชสมภพ ส่วนพระกิ่ง ปวเรศ สร้างตามแบบพระกริ่งจีน เรียกว่าปางหมอยา หรือเรียกเต็มๆว่า พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถคต ผมพิมพ์ได้แต่ผมอ่านไม่เป็น5555 ซึ่งเป็นแบบพระกริ่งที่แตกต่างจากที่เคยสร้างมาแต่อดีต พระกริ่ง ปวเรศ จึงเป็นพระกริ่งองค์แรกแบบแรกที่ได้ถอดแบบหุ่นจำลองออกมาจากพระกริ่งจีนมาสร้าง ในกาลต่อมาวัดสุทัศน์นำเอาไปสร้างตามแบบและถือเป็นคตินิยมสร้างมา เป็นเอกลักษณ์การสร้างพระกริ่งของวัดสุทัศน์มาจนถึงปัจจุบันนี้ ประวัติของสมเด็จพระสมณเจ้า กลมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ เมื่อครั้งบวชเป็นเณรพระองค์ป่วยเป็นไข้ทรพิษ ถึงต้องสึกออกมารักษานานหลายปีจนหายแล้วจึงบวชใหม่ อันนี้อาจจะเป็นมูลเหตุให้พระองค์ทรงสร้างพระกริ่งปางหมอยาก็ได้น่ะครับ เพราะพระกริ่งจีนมีความเชื่อว่ารักษาป้องกันภัยโรคร้ายได้ ถ้าข้อมูลผิดพลาดต้องขออภัยไว้ด้วยครับ

 

มีเจ้าของเกาะอยู่ด้านหลังด้วยครับท่านพี ชลบุรี.555555

 

จริงเหรอครับท่านสุเขฐ.55555555555555555555555

 

ต้องขออภัยท่านจัวน้อย และทุกๆท่านด้วยนะครับ เมื่อคืนถ้าพูดจาล่วงเกินท่านจัวน้อยหรือท่านอื่นต้องขออภัยด้วยครับ เพราะเมือคืนจิบแอนกอฮอเยอะไปหน่อย ลิ้นพัน คุยไม่เป็นเรืองลาว อิๆ

 

โอไม่ต้องขออภัยหรอกอะไรครับท่าน ท่านไม่ได้กล่าวอะไรที่ล่วงเกินผมเลยครับ ผมต่างหากที่ต้องขออภัยท่าน ช่วงปะทะติดพันฝุ่นขวันดินปืนตลบอบอวนตอนนั่นยังคิดๆว่าเอ๊ะอวตาลเป็นปางอื่นมาหรือเปล่า5555555 ก็เลยมีลูกหลงใส่ท่านบ้างครับ ท่านเข้ามาติดตามกระทู้นี้เลยครับมีอาจารย์ที่รู้จริงๆเข้ามาตอบมาอธิบายพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันครับ ขอบคุณท่านterpratมากครับ