เมื่อพระยามัจจุราชมาทวงชีวิตข้าพเจ้า

มีคำถามที่อยากให้ตอบดังนี้ค่ะ
อาการจิตวิปริตที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เกิดจากอะไร ในเมื่อเจ้ากรรมนายเวรไม่อยู่แล้ว
และมีวิธีแก้ไขให้หายขาดอย่างไรคะ
เวลาที่เมย์เข้าสมาธิรู้สึกเหมือนโดนดีดหลุดออกมา เกิดจากอะไรและมีวิธีแก้ไขอย่างไรคะ
ดวงชะตาของเมย์เป็นอย่างไรและมีช่วงควรระวังช่วงไหนบ้างคะ

 

สวัสดีคุณ tjs ครับ ผมมีเรื่องสำคัญอยากให้คุณ tjs ช่วยยืนยันหรือบอกความจริงให้ผมหน่อยครับ

คือสิ่งที่ผมเห็นด้วยจิตข้างใน ตาภายในใจ หรือจะเรียกมโนมยิทธิหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ
แต่สิ่งที่ผมเห็นนั้น ผมเห็นได้ตลอดถ้าผมนึกอยากจะเห็นครับ คือนึกเห็นปุ๊บได้เห็นปั๊บครับ
ผมไม่อาจจะเล่าสิ่งที่ผมเห็นได้ด้วยใจต่อสาธารณะชนได้ครับ เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียด
อ่อนมาก จึงส่งข้อความที่ผมสงสัยทั้งหมดเข้า PM ของคุณ tjs แล้วครับ ขอรบกวนคุณ
tjs เข้าไปตอบหรือยืนยันในสิ่งที่ผมเห็นด้วยครับ ว่านั่นเป็นของจริงสถานที่จริงๆที่ผมไม่ได้
นึกไปเอง หรือว่าเป็นแค่เพียงภาพที่มโนเอาเองน่ะครับ แต่ผมเห็นด้วยใจจริงๆนะครับ ภาพ
ไม่เคลื่อนไปไหน นึกเห็นอย่างไรก็ได้เห็นตลอด ไม่ต้องตั้งท่าตั้งทางกำหนดสมาธิอะไร
เลย นึกอยากให้ตนเองเข้าไปอยู่ไปเที่ยวในสถานที่นั้นได้สบายๆ เหมือนเป็นของตนเอง
ยังไงยังงั้นเลยครับ ยังไงรบกวนแล้วครับ ถ้าคุณ tjs ผ่านมาอ่านพบข้อความนี้ก็ช่วยดูหรือยืนยัน
ให้ผมด้วยนะครับ เพราะผมไม่รู้จะไปรบกวนใครที่มีทิพจักขุและเจโตปริยญาณได้ที่ไหนอีกแล้ว
มีแต่คุณ tjs เท่านั้นที่ผมไว้ใจและเชื่อใจในสิ่งที่คุณเห็นว่า จะตรงกับสิ่งที่ผมเห็นหรือเปล่า ผม
จะได้รู้ความจริงสักทีว่าผมไม่ได้หลอกตนเองครับ รบกวนด้วยนะครับ เรื่องละเอียดอ่อนเกิน
ที่จะเปิดเผยต่อสาธารณะชนได้ ผมจะรอคำตอบจากคุณว่าสิ่งที่ผมเห็นนั้นตรงกับที่คุณ tjs เห็น
ด้วยหรือเปล่านะครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าครับคุณ tjs ผู้มีทิพและเจโต

 

ขอทราบคำตอบทาง pm คะ เมื่อได้คำตอบแล้วจะลบข้อความนี้คะ ถ้าไม่สะดวกใจ
ในคำตอบแจ้งทาง pm ก็ได้คะจะได้ลบข้อความนี้คะ

 

มาขอบคุณผ่านทางหน้าบอร์ดด้วยค่ะ เพราะตอบไวมาก เป็นบุญคุณอย่างสูงค่ะ ขอให้คุณ tjs พบแต่ความเจริญยิ่งขึ้นไป

 

รบกวนคุณ tjs ช่วยดูให้หน่อยคะว่าดิฉันมีกรรมอะไรจึงปวดหลังและบันเอวไม่หายสักที่ และปี 2558 นี้ดวงดิฉันเป็นอย่างไรบ้างคะและต้องแก้อย่างไร คุณtisช่วยบอกด้วนนะคะ (เกิดวันพุธที่ 6 เมษายน 2503 ปีชวด)ปกติดิฉันจะปฏิบัติธรรมตลอดท่ามีโอกาสและทำบุญใส่บาตรเป็นประจำและให้อาหารหมาแมวจรจัดแทบทุกวัน ถ้าไม่ติดธุระอะไรจะไหว้พระสวดมนต์ทุกเย็นที่บ้านหรือที่วัดแล้วแต่โอกาสคะ

 

================

1 เทวดาที่ดูแลรักษาคุณ เป็นท่านพระแม่อุมาเทวี ท่านพระศิวะนารายน์ บรมครู และปู่ฤาษีนารายน์ มีทางเทพธิดาผู้หนึ่งไม่ทราบชื่อ และท่านเทพารักษ์ รูปหนึ่งครับ

2 กรรมที่ต้องแก้ไขคือ การไม่ฆ่าสัตว์ และห้ามทานเนื้อสัตว์ใหญ่ ให้ทำบุญทานบ่อยๆ ควรปล่อยปลาให้ทานบ่อยๆจะดีมาก
อีกเรื่องคือการไม่หลงเชื่อเพื่อนฝูงที่ไม่ดีชักนำไปทำบาป เพราะเป็นคนจิตใจอ่อนโยน แต่บางครั้งก็อ่อนไหวมากไป เชื่อคนง่ายในบางครั้ง ควรฝึกสติปัญญา ฝึกจิตให้ก้าวหน้า เข็มแข็งรู้เท่าทันจิต เท่าทันกิเลสเครื่องปรุงแต่งก็จะดีมากครับ

3 ควรปฏิบัติธรรมสายพระป่า หลวงปู่มั่นครับ

 

เรื่องของน้องสาวครับ เกรงว่าจะลืมครับ รบกวนด้วยครับ คุณ TJS
ขอบพระคุณมากครับ

 

สวัสดีครับ...

ก่อนอื่นเราขออนุโมทนาในกิจหน้าที่ของท่าน tjs ด้วยครับ รวมถึงอนุโมทนากับครูบาอาจารย์ของท่านด้วยเช่นกัน

จากที่เราได้อ่านกระทู้ของท่าน tjs มาทั้งหมดนั้น เรารู้สึกว่า มีอีกหลายเรื่องที่มนุษย์ยังไม่ทราบหรือทราบแล้วแต่ยังเข้าใจไม่ถูกต้องชัดเจนนักและรู้อย่างผิวเผินหรือที่เคยแสดงไว้อยู่นั้นยังมีน้อย รวมถึงยังพร่องด้วยกุศโลบายอันแยบคายในการสื่อความแก่ผู้อ่านตามบารมีธรรมที่มี ในกระทู้นี้เราจึงปรารถนาให้ท่านและครูบาอาจารย์ของท่านได้เมตตาแสดงธรรมเทศนาที่ชัดแจ้งตามภูมิจิตภูมิธรรมอันประเสริฐ อันจักยังประโยชน์แก่จิตของผู้อ่านทุกท่านด้วยครับ

อันเรื่องราวที่มีคุณค่า โดยเปิดมิติโลกทัศน์แก่ผู้อ่านทั้งในมิติโลกปัจจุบัน,มิติโลกทิพย์ และมิติอื่นๆ เราก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ปรารถนารับฟังเรื่องราวที่มีประโยชน์เหล่านี้ เพื่อจรรโลงทุกจิตวิญญาณให้คลายทุกข์ เพื่อให้มนุษย์ได้รู้เห็นในสิ่งที่มิอาจพบเห็นได้ด้วยตนเองเนื่องเพราะกิเลสขวางและยังด้อยด้วยบารมีธรรม เราปราถนาฟังเรื่องราวและธรรมเทศนาที่สื่อผ่านจิตอันบริสุทธิ์ของท่านและที่สื่อผ่านจิตครูบาอาจารย์ผู้เห็นแจ้งสัทธรรมแห่งโลกกุตรภูมิอันประเสริฐนั้น...

* เรื่องแรก เราปรารถนาให้ท่านและครูบาอาจารย์โปรดเมตตาแสดงธรรมเทศนา เรื่อง “อนุสาสนีปาฏิหาริย์” โดยอธิบายในวิถีแห่งอนุสาสนีปาฏิหาริย์ เพื่อยังประโยชน์ให้แก่จิตผู้มีบารมีที่เข้ามาอ่านในกาลนี้และกาลข้างหน้าเทอญ อนุโมทนา สาธุ !

 

พุทธบุตร พุทธบริษัท พุทธสาวกทั้งหลาย

ธรรมอันเป็นเครื่องดำเนินไปคือ ธรรมอันเป็นเครื่องกำจัดทุกข์ มีอริยะมรรค คือมรรค8 คือเป็นผู้ไม่ประมาท เจริญอริยะมรรคแล้ว ย่อมมีดวงตารู้แจ้งในพระสัทธรรม ความรู้แจ้งเกิดขึ้นแล้วย่อมเป็นผู้มีสติปัญญารู้แจ้งโลกทั้งฝ่ายโลกียะและฝ่ายโลกุตระ มีความไม่ประมาทในธรรมคือ ความรู้จักไม่ตึงหรือจักไม่หย่อน คือเป็นผู้เดินสายกลาง

ทุกอย่างย่อมมีเหตุผล ที่มาที่ไปของมัน ผู้มีสติปัญญาย่อมรู้่ทันรู้แจ้ง ในเหตุปัจจัยและผลที่จะได้รับ เมื่อเจริญอริยะมรรคสมบูรณ์แล้ว ก็หาได้ยึดมั่นในเหตุปัจจัยและผลที่ปรากฏใดๆ มีที่สุดคือความว่างคือพระะนิพพานเป็นบรมสุข เรื่องที่พูดกันทำกันแม้จะเป็นเรื่องทางโลก ถึงถือว่าเป็น เดรัจฉานวิชาก็ดี มันก็เป็นเรื่องของโลก ผู้เข้าถึงอนุตระธรรมแล้วย่อมเข้าใจและสลัดทิ้ง

แต่เพราะด้วยยังมีธาตุขันธ์ดำรงค์อยู่ ความมนุษย์คือสัตว์สังคมยังเจริญอยู่ ฉนั้น จึงยังต้องอาศัยวิชาทางโลกเพื่อค้ำจุนโลก
จึงเป็นเรื่องไม่แปลกที่ควรกระทำ ในสิ่งที่ดีงามตามเหตุปัจจัย แต่ปัญญาก็ต้องแยกแยะเข้าถึงแล้ว ในความปล่อยวางไม่ยึดติด ก็เพราะมีเหตุปัจจัยในความดี ก็สักแต่ว่าทำความดี เมื่อทำแล้ว ผลเกิดขึ้นแล้วก็ปล่อยวางในความดี ก็สักแต่ว่าปล่อยวาง อาศัยอยู่โดยธรรม มีความว่างเป็นที่สุด

เป็นผู้อยู่ในโลกอย่างเข้าใจโลก เป็นผู้อยู่ในโลกอย่างไม่หลงโลก เป็นผู้อยู่ในโลกอย่างเหนือโลก เพราะท่านหลุดพ้นจากทุกข์ของโลกได้สำเร็จแล้วด้วยทางสายกลางคืออริยะมรรคนั่นเองครับ สาธุ

นั่นแลคือบุตรของตถาคตผู้เจริญรอยตาม คือบุตรผู้เข้าถึงแล้วซึ่งพระสัทธรรม เป็นผู้มีอริยะมรรคเจริญงอกงามดีแล้วนั่นเอง ครับ สาธุ

 

ธรรมเทศนาใดที่มนุษย์โลกอย่างเราๆ ท่านๆ แม้กระทั้งภพภูมิอื่นที่ต่ำกว่า ไม่มีโอกาสจักได้ยินได้ฟังได้เกิดปิติในจิตนั้น ทำให้เรานึกถึงพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าที่ทรงแสดงไว้แก่เหล่าเทพพรหมบนสวรรค์นั้น ซึ่งจักมีความปิติมากเพียงใด มีแต่เหล่าเทพพรหมนั้นที่รู้สึกสัมผัสได้

* เราและผู้อ่านที่มีบุญทั้งหลายจักมีโอกาสได้รับเมตตาจากท่าน tjs และครูบาอาจารย์ของท่านหรือไม่ ถ้าเราทุกคนได้ยินได้ฟังพระธรรมเทศนาที่พระสมณโคตมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันได้ทรงแสดงไว้แก่เหล่าเทพพรหม ณ กาลหนึ่ง พวกเราทุกคนจักมีปิติมากเพียงใดนั้น ขอท่านและครูบาอาจารย์โปรดเมตตาเพื่อนมนุษย์และสรรพวิญญาณให้มีโอกาสได้น้อมเกิดปิติในบุญนี้ด้วยเทอญ ขอโมทนา สาธุ !

 

===============

ขออนุโมทนาในเมตตาจิตที่ส่งเข้ามา ยังกระผม ทำให้กระผมรับรู้ได้ว่า เป็นพลังเมตตาบารมีที่มีกำลังมากแผ่ไพศาลออกมา

กระผมยินดีและตั้งใจจะทำหน้าที่ในการเป็นสื่อกลาง แต่ก็มีความสำเนียกสำนึกอยู่เสมอว่า นิมิตทั้งหลายย่อมเสื่อมลงได้ เพราะนิมิตของกระผม สมาธิของกระผมยังเป็นสมาธิฝ่ายโลกิยะ ซึ่งไม่ใช่สมาธิแบบพระอนาคามีหรือพระอรหันต์ ที่เป็นนิมิตหรือสมาธิฝ่ายโลกุตระไม่มีเสือม

กระผมจึงต้องพยายามรักษาจิตตน ชำระจิตตนให้ขาวสะอาด ไม่คิดชั่ว ละบาป ให้ได้มากที่สุด ละความโลภได้เกือบหมดแล้ว ความโกรธดับสนิทแล้ว ความหลงยังละได้ไม่หมด เช่นนี้เมื่อตนรู้ตนดี การแสดงธรรมต่างๆ การกล่าวถึงนิมิตต่างๆจึงต้องพิจารณาก่อนว่า ดีหรือไม่ดี เ้กิดประโยชน์อย่างไร ขัดแย้่งกับพุทธธรรมหรือไม่อย่างไร หากถูกต้องดีงามเกิดประโยชน์ก็จะกล่าวแสดงได้

อนึ่งขอให้ทำความเข้าใจว่า เราจะไม่ยึดมั่นในนิมิตและสมาธิ สติปัญญาที่ตนมี
เราจะไม่สร้างความมอมเมาลุ่มหลงให่้เกิดแก่ตนและชักนำผู้อื่นให้ลุ่มหลงมัวเมาในนิมิต แต่เราจะชวนกันคิดสร้างสติปํญญาเพื่อการ ละบาปกรรม ทำความดี ชำระจิตให้ขาวสะอาด ตามคำสอนของพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า นี่คือวิธีของกระผมครับ

การปฏิบัติธรรมใดๆ ประสพการบุญ กรรม สมาธิ อภิญญา วิปัสสนาใดๆ อันเป็นประโยชน์เราจะเผยแผ่ เพื่อประโยชน์ สุข ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดเป็นเครื่องครอบงำครับ สาธุ

 

================

ยินดีครับ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ควรค่าแก่การสื่อสาร กล่าวแสดงเพื่อการน้อมนำให้เกิดความศรัทธาปะสาทะประการหนึ่งและเน้นให้เข้าถึงความรอบรู้เข้าใจในเรื่องที่เราทั่วไปไม่สามารถรับรู้ได้ให้รับรู้รับทราบกัน

เรื่องราวทั้งสามไตรภูมิ บางเรื่องก็เปิดเผยได้ บางเรื่องก็เปิดเผยไม่ได้ ก็ต้องพิจารณา และต้องสอบถามหรือขออนุญาติผู้ที่เขาดูแลหรือเกี่ยวข้อง

การเป็นสื่อกลางตรงนี้ จึงมีรายละเอียดและวิธีการที่ต้องทำความเข้าใจกระทำให้ถูกต้อง อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่ายครับ

ขอบคุณที่ได้แสดงเมตตาจิตส่งถึงมา และปราถนาจะให้เกิดประโยชน์แก่เหล่าสรรพสัตว์เช่นกันครับ สาธุ

 

พระพุทธองค์ ตรัสว่า สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม

เพราะเหตุคือกรรมในอดีตและปัจจุบันเป็นเครื่องให้ผลและหนุนส่ง

กรรมจึงเป็นเสมือนเงาติดตามตัวของสรรพสัตว์ กรรมทั้งสามไม่ว่า กรรมดี กรรมชั่ว กรรมกลางๆไม่ได้ไม่ชั่ว ย่อมติดตามให้ผลแก่สรรพสัตว์

สรรพสัตว์ผู้ยังติดอยู่ในโลก ย่อมต้องรับผลแห่งกรรมคือวิบากกรรมของตน อย่างไม่สามารถหลีกหนีหลบเร้นให้รอดพ้นไปได้

ทำกรรมอย่างไรไว้ ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้นเป็นแน่แท้ไม่เป็นอื่น จะหนักเบามากน้อย ก็ตามครั้นเมื่อถึงเวลาประจวบเหมาะ ย่อมจะต้องได้รับผลนั้นแน่นอนไม่เป็นอื่น

สรรพสัตว์ผู้ไม่ประมาทในกรรม คือการกระทำ มีสติปัญญาเป็นเครื่องควบคุมแยกแยะกรรมดีกรรมชั่ว เลือกกระทำเฉพาะกรรมดี เป็นผู้ตั้งมั่นในความดีแล้ว ละทิ้งหมดสิ้นแล้วในการคิดทำชั่ว ผู้นั้น ย่อมมีที่ไปคือมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ และหากมีสติปัญญารู้แจ้งในธรรม บรรลุธรรม ชำระจิตได้ขาวสะอาดบริสุทธิ์ ผู้นั้นย่อมเข้าถึงนิพพานสมบัติ

สรรพสัตว์ทั้งหลาย จึงมองดูเม็ดทรายในมหาสมุทรเถิดมีมากมายหาประมาณมิได้ เหล่าสรรพสัตว์ที่เวียนว่ายตายเกิด วนเวียนในวัฏฏะนี้ก็มีมากมายหาประมาณไม่ได้ดุจเช่นเม็ดทรายเช่นกัน แต่เม็ดทรายส่วนหนึ่งก็แตกสลายเป็นธุลีผง ไม่หลงเหลือในมหาสมุทรนั้นก็ยังมีอยู่ แม้จะมองไม่เห็นธุลีผงในมหาสมุทรที่กระจายมลายไปกับทะเลก็ตาม

ตราบใดที่เราสามารถชำระจิตหลุดพ้นทุกข์ได้สำเร็จแล้ว รื้อถอนอธิกรณ์ อวิชาตัณหาอุปปาทานได้หมดสิ้นแล้ว เมื่อนั้น ความเป็นผู้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะนี้ก็หมดลงจบลแล้วเช่นกัน อุปมาเหมือนดั่งเม็ดทรายที่ถูกชำระแตกสลายเป็นธุลีผงไม่มีหลงเหลือในมหาสุทร อันจะปรากฏให้เห็นอีกต่อไปเช่นกัน นั่นแลคือความเข้าถึงความไม่หลงเหลือสิ่งใดให้ยึดมั่นถือมั่นใดๆอีกต่อไป หมดสิ้นแล้ว ดับสนิทแล้วแม้ตะกอนธุลีก็ มลายหายไปหมดสิ้นแล้วไม่มีหลงเหลือ ครับ สาธุ

 

==================

อาการที่เกิดในสมาธิและเวลาปกติที่วิตกจริต นั้นเกี่ยวกับกรรมในอดีตชาติครับ หากเจ้ากรรมนายเวรไม่อยู่แล้ว ก็จะเบาลงครับ

แต่ด้วยเศษกรรมจะยังคงเหนี่ยวนำให้เกิดเจตสิกเป็นอาการข้างเคียง บางเวลาที่มีอะไรมากระทบจิตหรือสมาธิ ก็จะทำให้เกิดวิตกจริตได้อีก

การแก้ไขคือการต้องไปทำบุญปล่อยปลา ให้ทานชีวิตสัตว์บ่อยๆ ทำบุญให้เด็กๆ ให้ของขวัญหรือทำให้เขาดีใจชื่นใจ อดีตชาติคุณเคยทำร้ายเด็กๆ ทุบตีและขู่บังคับเบียดเบียนเด็กๆเอาไว้มากครับ เป็นกรรมติดตัวมาครับ

และให้หายขาดต้องเพิ่มการสวดมนต์ฝึกสมาธิวิปัสสนา เจริญพรหมวิหารสี่ ได้สำเร็จก็จะหายครับ

วาสนาของคุณมีทั้งดีและไม่ดี ด้านการเงินดีใช้ได้ครับแต่ ก็มีอุปสรรคมีเรื่องเดือดร้อนเข้าไม่ต่อเนื่อง ทำให้กลุ้มใจบ้าง คนใกล้ตัวก็เบียดเบียนบ้างทำให้ไม่เป็นสุขนัก ปีนี้เป็นปีที่มีทั้งดีและไม่ดี ควรไปทำบุญเสริมดวงชะตาแล้วจะดีมากครับ

หากเดินสายบุญสร้างบารมีจะดีมากปั้นปลายจะได้สมปราถนา ทุกประการครับ

 

ขอตอบคุณ นิพพานสุข ดังนี้ครับ


ยังไม่ได้รับข้อความครับ
แต่ขออธิบายว่า สิ่งที่เห็นนั้นเป็นจริง ด้วยอำนาจของสมาธิที่ทรงตัวระดับหนึ่งเกิดเป็นมโนมยิทธิครับ มีความทรงตัวในช่วงเวลาหนึ่ง หากปฏิบัติสม่ำเสมอทุกวันเหมือนที่กระผมทำก็จะทรงตัวต่อเนื่องครับ



สิ่งที่ปรากฏเห็นนั้นเป็นของจริงสภานที่จริงเป็นทิพย์วิมานอันเป็นรอยต่อของสถานที่แห่งหนึ่งไปสู่ที่แห่งหนึ่งครับ

อภิญญาของเก่าถูกรื้อค้นด้วยกำลังสมาธิในปัจจุบัน คือมีตาทิพย์ ร่วมกับสมาธิจิต เกิดเป็นมโนมยิทธิเบื้องต้นได้สำเร็จครับ สมาธิคุณดีมีกำลังเป็นากฐานมันก็ให้ผลเช่นนี้ครับ

ความมหัศจรรย์ในเรื่องนี้ ความแปลกปลาดใจยังมีอีกมาก ขอให้เรามีสติปัญญา วางกำลังใจไว้เป็นกลางๆ ไม่นึกคิดปรุงแต่งใดๆ เห็นก็ดีไม่เห็นก็ดี ได้ไปก็ดีไม่ได้ไปก็ดี เห็นอย่างไรรู้หนอวางลงทันที ไปที่ใดไปแล้วรู้หนอวางลงทันที วางเฉยเป็นปกติอย่างนี้ สงบนิ่งเป็นกลางมีอารมณ์เดียวอย่างนี้ มโนมยิทธิก็จะก้าวหน้า่ต่อไปครับ

 

รบกวนท่าน tjs ช่วยตอบให้ผมบ้าง ครับท่าน

วันอาทิตย์ 14 ก.ย 2523 ==> 13.29 นาที

ขอพระคุณ อย่างสูง ครับ

 

================

ดวงชะตาของน้องสาวคนนี้ ต้นร้ายปลายดีครับ นั่นหมายความว่า ชีวิตช่วงต้น ไม่ได้มีชีวิตที่ดี เพราะวิบากกรรมเก่าหนุนส่งให้ได้รับผลไม่ได้ ด้วยความที่ต้องเผชิญกับเรื่องไม่ดีทำให้มีทิฏฐิ และมีมิจฉาทิฏฐิครับ ปีที่ไม่ดีสำหรับเขาคือปี ฉลู มะเส็ง วอก ส่วนที่เหลือดีหมด
ปีนี้เขาวาสนาดีมากเพราะผลบุญเก่าให้ผลจะสมปราถนา กรรมไม่ดีในปัจจุบันไม่อาจตัดรอนได้ ครับ และเธอจะได้สมปราถนา เพราะผลบุญเก่าครับ

เธอตกเกณคู่เมื่อปีเถาะที่ผ่านมาหรือประมาณ4ปีที่แล้วครับ

สิ่งสำคัญในปีหน้าเมื่อผลบุญในปีนี้ให้ผล ปีหน้าปีวอกชะตาตกต่ำสุดแต่ไม่ถึงคาด นับตั้งแต่ปีหน้าเขาจะเห็นโลงศพ และสามารถปรับตัวแก้ไขตนเองใหม่ เป็นคนละคน ในปีระกาเป็นต้นไปเขาจะเป็นคนดี กลับใจทำความดีครับแล้วดวงจะค่อยๆดีขึ้นไปเรื่อยๆครับ ตั้งแต่ปีระกาเป็นต้นไป

ปีนี้จึงควรแนะนำให้เธอไม่ประมาทและชักนำทำบุญ เดินสายบุญให้ได้ครับ
เพราะมันอาจทำให้เธอไม่ประมาทในความสุขที่ได้รับอันเป็นเรื่องทางโลกครับ

และมีโอกาสสงกรานต์นี้ให้ทำพิธีขอขมากรรมต่อบิดามารดา ผู้ใหญ่ที่เคยล่วงเกินเสีย ก็จะดีมาก ปีวอกต้นปีต้องทำบูญต่อชะตาให้ดีแล้วจะผ่อนหนักเป็นเบาได้ครับ

ชีวิตเธอคนนี้มีกรรมเรื่องคู่ครองด้วยให้ปล่อยวาง ในที่สุดเขาจะลงตัวในความรักและการมีชีวิตคู่ครับ

 

วันนี้ขณะที่ผมเดินไปทานมื้อเที่ยง ระหว่างทางที่ข้ามสะพานลอย จิตผมทันใดนั้นก็นึกถึง ประโยคที่คุณเขียนตอบว่า “ขออนุโมทนาในเมตตาจิตที่ส่งเข้ามา ยังกระผม ทำให้กระผมรับรู้ได้ว่า เป็นพลังเมตตาบารมีที่มีกำลังมากแผ่ไพศาลออกมา” จากประโยคนี้ ทำให้ผมนึกไปถึง การนั่งสมาธิเจริญวิปัสสนา เมื่อวานช่วงตี 1:20 – 3:26 ประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะไม่เรียกว่าวิปัสสนาก็ได้ อาจจะเรียกว่า ฟุ้งซ่านก็เป็นได้ แต่แปลกตรงที่ หลังจากนั่งสมาธิเสร็จ ล้มตัวลงนอน จิตกับสติมันไม่ยอมนอน ผมรู้สึกว่า จิตกับสติมันค้างอยู่ที่ณาน 4 มันยังคงแจ่มใสอยู่เลย มีอาการนี้น่าจะราวชั่วโมง ผมก็เลยบอกจิตตนเองว่า ให้ลดกำลังจิตและกำลังสติลง เพราะอยากนอนแล้ว ซึ่งจิตผมก็นำ 2 เรื่องราวนี้มาโยงเกี่ยวกันซะงั้น และรู้สึกแน่ใจว่า เหตุเพราะครูบาอาจารย์ท่านดลใจให้จิตผมเกิดข้อสงสัยในบางเรื่อง จึงต้องเจริญวิปัสสนาในคืนเมื่อวาน(ซึ่งปกติน้อยครั้งที่จะวิปัสสนา) และจิตผมก็วิปัสสนาต่อว่า เรื่องราวทั้งหลายเหล่านี้ มันมีเหตุปัจจัยดึงผมเข้ามาในกระทู้ของคุณ tjs เดิมทีก็จะอ่านอย่างเดียว เพราะไม่ได้โพสนานแล้ว มันมีเหตุปัจจัยดึงผมเข้ามาร่วมปณิธานและกิจหน้าที่ของคุณ

ซึ่งโดยปกติแล้ว ผมจะอบรมจิตตนไม่ให้คิดวางแผนอะไรล่วงหน้าไปก่อน จะสอนจิตตนให้อยู่แต่ปัจจุบัน ทุกคำถามและข้อสงสัยที่ผมถามคุณ tjs พูดได้ว่า พยายามให้มันออกมาจาก ณ ขณะจิตนั้นเลยทีเดียว ซึ่งคำถามเหล่านี้ส่วนหนึ่งก็มาจากครูบาอาจารย์ดลจิตดลใจมา และอีกส่วนก็มาจากจิตที่สงสัยของตนเอง ซึ่งคำถามและข้อสงสัยที่เกิดขึ้นนั้นเกี่ยวข้องกับการนั่งสมาธิเมื่อคืนวาน ก็คือ เรื่อง “สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ” โดยสภาวะนี้มันมีเหตุปัจจัยและขั้นตอนการเกิดดับอย่างไร? ขอท่านและจิตครูบาอาจารย์โปรดเมตตาชี้แนะให้ความรู้เป็นธรรมทานด้วยครับ โดยผมจะขอถามเป็นข้อๆ โดยใช้ภาษาบ้านๆ ในการถามนะครับ ดังนี้

1. ข้อสงสัยแรก ที่ผุดขึ้นมาในจิตขณะนั่งสมาธิ ก็คือ ถ้าเราเจริญสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัตินี้อยู่ ตามที่เคยอ่านในตำรานั้น มีกล่าวไว้ว่า ใช้ปืนยิงก็ไม่ตาย ใช้หินทุ่มก็ไม่ตาย มันจะขนาดนั้นเลยเหรอ? และถ้าเราเจริญอยู่ คนอื่นสามารถอุ้มหรือยกคนที่เจริญนิโรธสมาบัตินี้อยู่ได้หรือไม่? และถ้าไม่ตาย แปลว่า ธาตุที่ห่อหุ้มกายสังขารหรือกายธาตุนั้นต้องอยู่ในสภาวะใด? สภาวะนั้นคงต้องแข็งแกร่งมากเลยทีเดียว จึงทำให้ยิงไม่เข้า แล้วขาดอากาศหายใจจะตายไหม?

2. ข้อสงสัยที่ 2 ควรมีลักษณะการเกิดดับของสภาวะธาตุขณะเจริญนิโรธสมาบัตินี้อยู่เป็นเช่นไร? จะมีการเกิดในรูปแบบใดไปสู่รูปแบบใด และอานิสงค์ที่เกิดขึ้นเป็นเช่นไรและมากน้อยเพียงใด?

3. ข้อสงสัยที่ 3 สภาวะธาตุของขันธ์ 5 และสภาวะธาตุของณานทั้ง 9 มีการเดินธาตุโยกย้ายธาตุและมีการเกิดดับของธาตุเป็นเช่นไร?

4. ข้อสงสัยที่ 4 นิโรธสมาบัติ เข้าเพื่อประโยชน์อันใด? เข้าบ่อยๆ จะดีไหม? เมื่อเข้าแล้วนิ่งอยู่เฉยๆ แค่นี้หรือเปล่าครับ? มีสติกำกับอยู่ไหมครับ?

** อันนี้สงสัยครับ เนื่องด้วยข้อมูลเรื่องนิโรธสมาบัตินี้ ปัจจุบันค้นหาอ่านได้น้อยมากและบรรยายอย่างผิวเผินไม่ได้พูดถึงรูปแบบการเดินโยกย้ายของสภาวะธาตุรวมถึงการเกิดดับของกระแสธาตุเป็นเช่นไร? และมันขนาดนั้นจริงเหรอ? เพราะผมเอง ณ ตอนนี้ก็ไม่ได้มีญาณหรือตาทิพย์มองเห็นเหมือนท่าน tjs และก็ยังเข้าไม่ถึงนิโรธสมาบัติด้วย แต่จะมาขอความเมตตาจากท่านและครูบาอาจารย์ของท่านด้วยครับ อนุโมทนา สาธุครับ !

 

ขอกราบขอบพระคุณ คุณ TJS เป็นอย่างมากครับ จะนำข้อมูลดังกล่าวไปบอกกล่าวแก่พ่อแม่ของน้องเค้า จะได้เข้าใจและจะทำตามอย่างที่แนะนำนะครับ แต่ตอนนี้น้องเค้าก็ยังไม่ปกติครับ เค้าจะไม่เชื่อฟังใคร เดี๋ยวก็โวยวาย เดี๋ยวก็ร่าเริง เหมือนสติไม่อยู่กับตัว หลุดลอย ล่องลองยังไงไม่ทราบ พูดแปลกๆ คิดแปลกๆ จะพาไปไหน น้องเค้าก็จะไม่ไป เหมือนระแวงว่าจะให้ไปทำโน่นทำนี่

แต่อย่างน้อยก็ทำให้พ่อแม่ของน้องเค้าเข้าใจและมีความหวังครับ ว่าอีกไม่นานปัญหาที่เป็นมาตลอด 7 ปีจะทุเลาเบาบางลง
ขอบพระคุณคุณ TJS เป็นอย่างสูงครับ

 

ขอความกรุณาด้วยครับ

รบกวนท่าน tjs ด้วยนะครับ

ผมเกิดวันที่ 22 เมษายน 2529
1.อยากรบกวนถามเรื่องกรรมเเละวิธีแก้ที่ทำให้ชีวิตดียิ่งๆขึ้นไปครับ

2.อยากถามเรื่องการปฏิบัติที่เหมาะกับตนเอง ตลอดจนครูบาอาจารย์ที่รักษาครับ
3.ต้องทำงานด้านไหนถึงจะดีครับ

ขอบคุณครับ