หลวงปู่ทองทิพย์ ปิดตาจันทรคราส เหล็กไหลไพรดำ เหล็กเปียก เหล็กไหลเงินยวง

เป็นฝันดีครับยินดีด้วยครับที่ฝันเห็นหลวงปู่

 

จองแล้วครับ

 

นิมนต์หละครับ มาเร็วไปเร็ว​

 

"หลวงปู่ห่มขาว". ​

หลวงปู่ทองทิพย์ตอนหนุ่ม ๆ ​

ชีวิตใต้ร่มผ้ากาสาวพักตร์ของหลวงปู่ ท่านบวชครั้งแรกที่วัดโพธิ์กลาง อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด( เดิมขึ้นอยู่กับ อ.ธวัชบุรี) ด้วยขณะนั้นหลวงปู่เป็นพระบวชใหม่จึงเกิดความคิดอยากที่จะสึกเพื่อไปช่วยโยมพ่อโยมแม่ที่แก่เฒ่าที่บ้าน

ขณะที่ท่านคิดก็มีเสียงดัง "พระศรีฯ ห้ามสึก พระศรีฯ ห้ามสึก พระศรี ห้ามสึก" ท่านแปลกใจกับเสียงที่ดังลอยลมมา แต่ก็มิอาจจะรั้งท่านได้ ท่านจึงตัดสินใจลาเพศบรรพชิต มาใช้ชีวิตฆราวาส แต่กลับต้องมีเหตุให้ท่านป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ เจ็บออด ๆ แอด ๆ ไม่สามารถทำงานได้ ฤาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่อยากให้ท่านสึก

ท่านจึงถือครองผ้าขาวบำเพ็ญภาวนาอยู่กับบ้านเหมือนที่บวชเป็นพระใหม่ ท่านถือครองผ้าขาวถือศีล ๘ บำเพ็ญภาวนาอยู่ประมาณเดือนกว่า ๆ จึงกลับมาสู่ใต้ร่มผ้ากาสาวพักตร์อีกเป็นครั้งที่สอง ณ.วัดโพธิ์กลาง เหมือนครั้งแรก จากนั้นท่านก็ได้เดินทางไปศึกษาวิชาต่อกับ "หลวงปู่ซุน ติกขวีโร " วัดเสือโกรก อ.วาปีปทุม จ.ร้อยเอ็ด

หลวงปู่ซุน ​

ในสมัยนั้นแถบภาคอีสานหลวงปู่ซุนท่านจัดว่าเป็นพระที่เก่งกล้าสามารถมาก ทั้งสมาธิอภิญญา และวิปัสสนาธุระ ท่านเป็นศิษย์ของสมเด็จลุน แห่งจำปาศักดิ์ หลวงปู่ทองทิพย์ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาทั้งอักขรขอม ลาว ตลอดจนเวทมนตร์คาถา ปู่ซุนท่านมีเมตตาต่อหลวงปู่ทองทิพย์เป็นอย่างมาก ถึงขนาดบอกปู่ทองทิพย์ว่าให้ตั้งใจปฎิบัติไม่ต้องออกไปบิณฑบาตร ท่านจะจัดการนำอาหารมาให้เอง (ถึงแม้หลวงปู่ทองทิพย์ท่านอยากจะไปบิณฑบาตรเองแต่ก็ต้องฟังคำอาจารย์) จนท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาจากปู่ซุนจนหมดสิ้น


ท่านจึงกราบลาปู่ซุนไปธุดงค์หาประสบการณ์และศึกษาวิชาต่อ โดยท่านได้เดินทางไปกับ "พ่อใหญ่" (ศักดิ์เป็นพี่เขยหลวงปู่) จนถึงริมโขงแล้วท่านจึงบอกกับพ่อใหญ่ว่าจากนี้ท่านจะไปเองติดตามท่านไปบ่ได้หรอก ท่านจึงข้ามโขงถึงฝั่งลาวได้พบเจอผจญภัยสิ่งลี้ลับ อาถรรพ์มากมายเป็นการลับวิชาที่ร่ำเรียนมา อีกทั้งเป็นการฝึกกำลังใจท่านให้แก่กล้ายิ่งขึ้น จนท่านได้เข้าสู่มิติอันเร้นลับ "ภูเขาควาย" และได้พบเจอปู่ฤาษีมาลัยโกฎิ์ ได้รับการถ่ายทอดวิชาอันเร้นลับสุดยอดของสายนี้จนท่านได้เดินทางข้ามโขงกลับมาฝั่งไทย และได้มาสร้างวัดที่บ้านฝายแตก (เมื่อก่อนชาวบ้านรุ่นเก่า ๆ มักเรียกชื่อปู่ว่า "พ่อแม่ฝายแตก") และหลวงปู่ได้ตั้งชื่อวัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร ท่านอยู่ที่วัดป่าฯจนท่านละสังขารเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๔ สิริอายุ ๗๗ พรรษา เพราะฉะนั้นช่วงที่ท่าน "ห่มขาว" จึงอยู่ในช่วงรอยต่อของการบวชครั้งแรกและครั้งที่สองครับผม

 

อาทิตย์นี้จะลงพื้นที่ มีผู้ใหญ่ใจดีออกจันทรคราสเนื้อขี้ผึ้งก็จะลงไปดู หวังว่าจะได้พระใหม่ ๆ มาให้เช่าบูชากันบ้าง

จันทคราสเนื้อขี้ผึ้ง มีทั้งแบบหลวงปู่คว้ามากลางอากาศกับหลวงปู่ปั้นเอง บ้างก็นำสายสิญจน์มาพันเป็นจันทรคราส มีหลายแบบแต่ก็ต้องสืบหาที่มาที่ไปชัดเจน​

 

รบกวนขอราคาทั้ง3องค์ครับ

 

พิทักษ์โลก จองแล้วครับ​

อย่างพิทักษ์โลก เด็กนักเรียนช่างที่หนองคายถูกไล่ฟัน เสื้อขาดกระจุย แต่ไม่มีบาดแผล

พี่ชายท่านหนึ่ง ที่โพนพิสัย ให้เช่าพระพิทักษ์โลกกับภารโรงไป ภารโรงคุยโวกับเพื่อนในวงเหล้าว่าพระยิงไม่ออก จึงลองยิงกันชักปืนออกมาลอง แชะ นัดแรกไม่เป็นไร แชะ นัดสองเริ่มกราบขอขมาและมาขอเช่าเพิ่มเท่าไรก็ยอม​

พิทักษ์โลก หลวงปู่ทองทิพย์
สร้างจากดินดำวิเศษภูเขาควาย และเหล็กใหลบางส่วนมาผสมเป็นมวลสารด้วยครับ มีทั้งเหล็กใหลและดินดำศักดิ์สิทธิ์ครับ สปป.ลาว
สร้างประมาณปี ๒๕๐๐ หรืออาจจะกว่า ๆ ไม่ทราบจำนวนแน่ชัด
ขอบอกว่าขนาดเอ็ม 16 ยังไม่ระคายผิวครับ
(ข้อมูลโดยพระอาจารย์อรุณ เคยอยู่กับหลวงปู่ 4 พรรษาครับ)

การสร้าง รุ่นพิทักษ์โลก และเปิดโลกนั้น
หลวงปู่นำดินดำจากภูเขาควาย ซึ่งในคืนวันพระจะมีแสงสว่างออกจากแหล่งนั้น หลวงปู่ได้นำกลับมาเป็นกระสอบ ๆ พอขนเสร็จแสงสว่างตรงที่ดินนั้นก็หายไป หลวงปู่จะนำดินดำมาผสมกับมาลสารอื่น ๆ ว่านต่าง ๆ ร่วมถึงเหล็กใหลเข้าไปด้วยในองค์พระ

พิทักษ์โลก นั้นน่าจะเกิดจากหลวงปู่ท่านมองเห็นภัยอันตรายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า จึงสร้างขึ้นมาให้ลูกหลายได้ป้องกันตัวจากภัยอันตรายต่าง ๆ

ดังมีเด็กนักเรียนที่หนองค่ายโดนฟัน แต่ไม่เป็นอันตราย
หรือแม้แต่กระเป่ารถเมล์ตกจากรถขณะที่วิ่ง ตกลงไปไม่เป็นอันตรายเหมือนกับว่ามีอะไรนุ่ม ๆ มารองรับ

เรื่องเล่าเคล้านิทาน ของพิทักษ์โลก อสรพิษยังอ้าปากไม่ได้

พ่อของพระอาจารย์อรุณ ที่อยู่รับใช้หลวงปู่ทองทิพย์ ๔ พรรษา เล่าให้ฟังว่า ขณะที่เดินไปยังไรนา เจองูเห่ากลางทางไม่แน่ใจว่าไปเหยียบมันหรือเปล่า รู้เพียงแต่ว่า มีอะไร มาชนที่ขาหลาย ๆ รอบ ก็พอมองเท่านั้นหละ ขาอ่อนทรดตัวลงเลยทีเดียว งูเห่ามันจก ไปที่ขาสามสี่รอบที่มองเห็น แต่เหมือนกับว่ามันอ้าปากไม่ขึ้น มันเอาปากจกแต่อ้าปากเหมือนมีอะไรมัดปากงูเห่าเอาไว้ พอตั้งสติได้ลุกขึ้น ค่อย ๆ ถอยห่างจากงู พอระยะปลอดภัยดูรีบสำรวจตัวเอง ไม่มีรอยโดนฉก หรือรอยกัด รอยเขี้ยวใด ๆ
พระที่ติดตัวมีเพียงพิทักษ์โลกของหลวงปู่ทองทิพย์เท่านั้น .

ตอนที่ท่านแจกพระพิทักษ์โลก รับกันหลายคนเรื่องที่จะเล่าเป็นหญิงคนหนึ่งรับไป ซึ่งปัจจุบันแกอยู่ที่อำเภอบุ่งคล้า จ.หนองคาย ถ้าตอนนี้ก็คงจะแก่มากแล้ว แกก็นำไปไว้ที่บ้านเมื่อลูกชายแกรับราชการเป็นทหารอากาศ แกก็ให้พระพิทักษ์โลกให้กับลูกชายไว้คุ้มตัว

จนกระทั้งวันหนึ่งของการฝึกบิน อากาศแจ่มใส่ แต่ก็มิวายเครื่องบินที่เขาฝึกเกิดตกลงกลางทุ่งนาเครื่องบินระเบิด ไฟไหม้ทั้งลำแต่ชายคนนี้ เขาไม่เป็นอะไรเลย ชาวบ้านก็ถาม ๆ กันหละครับว่าแขวนพระอะไรก็มีอย่างเดียวที่ติดตัวอยู่ก็คือพิทักษ์โลก

เมื่อมีเวลาเขาได้ไปกราบหลวงปู่และเล่าเรื่องราวให้หลวงปู่ฟัง หลวงปู่เมตตาตอบว่า

"ใครมีของ ๆ เฮาบ่ต้องย้าน บ่ตายโหงดอก อย่าว่าแต่เอ็มสิบหกเลย นิวเคลียร์ก็บ่ได้กิน"

 

ก่อนจะเข้าเรื่องหลวงปู่ทองทิพย์คว้าพระปิดตาจันคราสในอากาศ วันนี้จะนำพระอีกองค์ที่หลวงปู่ทองทิพย์ได้เล่าถึงคือ หลวงปู่สรวง ที่ท่านก็คว้าพระกริ่งสีทองในอากาศออกมา แถมพระยังตอกโค๊ต ด้วยสิครับ

หลวงปู่สรวงท่านกล่าวเป็นภาษาเขมรอีกว่า…\”พระกริ่งเล่นแร่แปรธาตุนี้…แปรจาก…กายทิพย์…มาเป็นกายหยาบ…อานุภาพสูงสุด….เพราะว่าเป็นของทิพย์…ผู้ทำต้องสำเร็จ…อภิญญาชั้นสูงเท่านั้น…!ถึงจะทำได้….\” หลวงป่สรวงท่านกล่าวเป็นภาษาเขมรกับหลวงพ่อสร้อยซึ่งหลวงพ่อสร้อยท่านแปลให้ฟัง…อีกทั้งหลวงพ่อสร้อยท่านยังกล่าวสำทับอีกว่า…\”ไม่ใช่ของทำได้ง่ายๆ….และไม่ใช่ของหาได้ง่ายๆ…\” นีคือคำกล่าว ของหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินผู้วิเศษแห่งบ้านละลมและหลวงพ่อสร้อยธัมมรโสแห่งวัดเลียบราษฏร์บำรุง ……. …….\”แรงฤทธิ์! ฤทธิ์แรง! ความสำเร็จดังแก้วสารพัดนึก….
เป็นอำนาจบารมี…\” นี่คือคำปกาศิตที่หลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดิน ที่ท่าน กล่าวเป็นภาษาเขมรกับหลวงปู่เจียม วัดกะมอล และหลวงพ่อสร้อย ธัมมรโส แห่งวัดเลียบราษฏร์บำรุง และพระคณาจารย์ที่ทรงคุณอีกหลายๆท่าน…………นี่คือที่สุดแล้ว

คำนิยามจากเว็บหลวงปู่สรวงดอทคอม

​

 

"จันทรคราสเนื้อขี้ผึ้งกับเนื้อเทียน".
พูดถึงพระปิดตาจันทรคราสนอกจากจะมีเนื้อโลหะธาตุกายสิทธิ์ เนื้อเหล็กเปียก เหล็กไหลเงินยวง เนื้อทองคำ เนื้อ... และก็ยังมีเนื้อขี้ผึ่งกับเนื้อเทียนด้วยครับ วันนี้จะเล่าเรื่องของจันทรคราสเนื้อขี้ผึ้งและเนื้อเทียน (หลาย ๆ คนงง ว่าต่างกันอย่างไร ? เนื้อขี้ผึ้งจะเป็นขี้ผึ้งจริง ๆ ส่วนเนื้อเทียนจะมีไส้เทียนข้างใน) พบเห็นน้อยคาดว่าผู้ที่ได้รับเฉพาะบุคคลครับ เช่นลูกศิษย์แถววัดเกาะสมอ บ้านเกาะสมอ ปราจีนบุรี กล่าวได้ว่าทั้งหมู่บ้านต่างให้ความเคารพศรัทธาปู่ทองทิพย์อย่างมาก ไม่ว่าพระหลวงพี่ ไปจนถึงเจ้าคณะตำบล ชาวบ้านเกาะสมอ ต่างนับถือขึ้น ๆ ลง ๆ ปราจีน-หนองคาย กันประจำ ทุกคนต่างพกพระปิดตาจันทรคราสเนื้อขี้ผึ้ง เนื้อเทียน ตะกรุดหลวงปู่ทองทิพย์กันแทบทุกคน พวกเขามั่นใจในพุทธคุณพระหลวงปู่เป็นอย่างมาก เคยได้ยินปู่ท่านพูดว่า

"พระจันทรคราสหนึ่งองค์คุ้มได้ทั้งกองทัพ" ​

ได้ยินได้ฟังไม่เท่าไหร่ นี่ได้เห็นกับตาจะจะอีกต่างหาก เขาเล่าว่าเห็นหลวงปู่ท่านอยู่ดี ๆ ดึงมือขึ้น ๆ ลง ๆ ขยุม ๆ แล้วพอแบมือออกก็กลายเป็น "ปิดตาจันทรคราส" บางองค์มีลักษณะเป็นขี้ผึ้งเนื้อดำน้ำตาลมและมีเป็นเส้นๆคล้ายเชือกสายสิญจน์อยู่ภายในองค์พระแต่ถูกคลุมด้วยขี้ผึ้งภายนอก ​

​

 

บางองค์พอหลวงปู่แบมือออกก็กลายเป็นเนื้อเทียนขาวอมเหลืองบ้างอมน้ำตาลบ้างแล้วแต่ ที่เขาสังเกตเนื้อเทียนจะแข็งกว่าเนื้อขี้ผึ้ง) ในครั้งนั้นไม่ใช่ได้แค่คนเดียว ไปกันกี่คนได้ครบทุกคนครับ อย่างนี้จะไม่ให้เขาศรัทธาทั้งหมู่บ้านได้ไง เข้าใจว่าหลวงปู่ท่านคงสำเร็จธาตุและวิชาเล่นแร่แปรธาตุ เหมือนหลวงพ่อยี วัดดงก้อนทอง ที่พิษณุโลก เสกข้าวสาร. ไข่ยอดบายศรีให้เป็นทอง ส่วนหลวงปู่ทองทิพย์ท่านก็ไม่ธรรมดาเมื่อครั้งก่อนที่ท่านจะละสังขาร ท่านเรียกลูกศิษย์ที่เรณูนครบอกท่านจะถ่ายเพราะท่านไม่ได้ถ่ายมาเป็นเดือนแล้ว พอท่านถ่ายออกมาก็ปรากฏอุจจาระเป็นก้อนทองคำบริสุทธิ์เฉยเลยครับ ลูกศิษย์ท่านจึงนำไปฝังภายในวัด​

 

เขายังเล่าต่ออีกว่านอกจากปิดตาจันทรคราสแล้วยังได้ตะกรุดที่ทุกคนเตรียมแผ่นทองเหลืองฝาบาตรไปให้ปู่ท่านจารด้วย ส่วนใหญ่ยันต์ที่จารจะเป็นยันต์พระอินทร์ กับทั้งผ้าขาวที่เตรียมไปให้ปู่เขียนท่านก็เขียนเป็นยันต์พระอินทร์เช่นกัน. แม้กระทั่งมุ้งของหลวงปู่พวกเขาเหล่านั้นยังขอมาบูชากันเลย โอ้! ศรัทธาสุดๆจริงๆครับ พระปิดตาจันทรคราสปู่ทองทิพย์ถือได้ว่า เป็นจักรพรรดิพระเครื่องของท่านก็ว่าได้ครับ สุดๆแล้วไม่ว่าเนื้อธาตุกายสิทธิ์เหล็กไหล-เหล็กเปียก บวกกับพลังบารมีหลวงปู่และเทวนาคาที่รักษาพระของท่าน ดังนั้นคนที่รู้ลึกและมีครอบครองจึงหวนแหนมากครับ หรือแม้กระทั่งเนื้อขี้ผึ้งเทียนชัยก็ครบเครื่องเช่นกัน ขอให้ผ่านมือท่านเป็นใช้ได้ "หนึ่งไม่มีสอง" แน่นอนครับ จันทรคราสขี้ผึ้งเทียนชัยนี้หายาก มีคนได้ไปไม่เยอะ เฉพาะบุคคล ๆ ไป ผมว่าไม่แพ้ "สังข์ทองเรียกเนื้อเรียกปลาในสมัยก่อนแน่ "อธิษฐานอย่างไรได้อย่างนั้น ถ้าศรัทธาและทำถูกต้องคือ"ขึ้นขันธ์ ๕ ขันธ์ ๘ รับท่าน มีความเจริญแน่นอน

 

หลังจากลงพื้นที่ก็ได้พระปิดตาจันทรคราสเนื้อขี้ผึ้งและเนื้อไส้เทียน จะบอกอย่างไรดี ชมภาพกันดีกว่าแล้วเราก็วิเคราะห์กันตามหลักว่าเนื้อแบบนี้จะเป็นเนื้อหาแบบไหน

 

จะมองเห็นสีดำที่เป็นคราบน้ำเทียน เส้นด้ายไส้เทียนก็จะมีให้เห็นเป็นรูปลักษณ์ พันม้วนขดเป็นรูปองค์พระ

 

นิมนต์แล้วครับ ขอบคุณครับป๋ม

​

[/QUOTE]

 

มีคนถามมาว่ามีอีกไหม ? มีครับ องค์นี้หย่อนสวยแต่พุทธคุณเต็มร้อยเหมือนเดิม

 

มาเร็วไปเร็วนิมนต์ไประยองแล้วครับผม​

 

ความเดิมจากตอนที่แล้ว
อัปเดทข้อมูลหลังจากที่ส่งพระให้

พี่พระพี่พลังงานเยอะมากนะนี้ช๊อตผมไปหลายที ไม่กล้าจับพระเลย

แล้วแฟนเราเป็นอย่างไรบ้าง

ก็ดีขึ้นเยอะเลยพี่ แบบว่าดีขึ้นจนเพื่อนทักว่าดูใจเย็นเปลี่ยนเป็นคนละคน แล้วก็ไม่โมโห แต่ว่าไม่แน่ใจว่าพอมันเล่นแฟนผมไม่ได้มันไปเล่นคนอื่น ๆ หรือเปล่า

ก็ขอหลวงปู่คุ้มครองทั้งบ้านสิ

ครับ ๆ จะลองขอดู

จบการสนทนา

พระที่เขาเช่าบูชาคือพระปิดตาสองหน้า องค์จะเล็ก ๆ เหมาะกับผู้หญิง เขาบอกว่าพอรับพระมา นิมิตก็มาคือแบบว่าเลี่ยมทองใส่ให้สมเกียรติพลังงานมาก ๆ

 

0847314845
หมอเสือ อภิทรัพย์
รับประกันแท้ตลอดชีวิต