พุทธทำนาย ยุคปี2500กึ่งพุทธกาล เชิญร่วมบอกข่าว

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สมทิ สมวา, 7 ธันวาคม 2014.

  1. สมทิ สมวา

    สมทิ สมวา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +103
    โปรดกรุณาช่วยกันกระจายข่าวนี้ต่อ ๆ ไป

    ความจริงที่ท่านหนีไม่พ้น
    โปรดร่วมกันพิสูจน์ว่า ท่านผู้นั้นใช่ผู้นำสันติสุขหรือพระศรีอารย์จริงหรือไม่

    กรกฏาคม 2550: เรื่องที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ เป็นบทความที่ลงในอินเทอร์เน็ตเมื่อ 7 ตุลาคม 2543 และได้ยกเลิก เมื่อประมาณปลายปี 2545 พร้อมกับบทความภาคภาษาอังกฤษในเรื่องการมาปรากฏของพระศรีอารย์ (Messiah) ในปัจจุบัน ซึ่งได้จัดแสดงบนอินเทอร์เน็ตมาตั้งแต่ประมาณปี 2540 โดยผู้ที่ลงบทความในอินเทอร์เน็ตเห็นว่า เมื่อไม่มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ควรให้ภัยพิบัติต่างๆเกิดขึ้นไม่หยุดต่อไป ตามที่บุคคลที่ต้องการให้ผู้คนทั้งหลายพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการมาปรากฏของผู้นำสันติสุข หรือพระศรีอารย์ได้กล่าวไว้แล้ว เรื่องภัยพิบัติต่างๆนี้พระพุทธเจ้าโคตมได้ตรัสไว้ก่อนแล้วเช่นกัน ซึ่งก็น่าจะเป็นการดีกว่าที่จะให้บทความนี้แสดงบนอินเตอร์เน็ตต่อไปเรื่อยๆ และจากความเป็นจริงที่ภัยต่างๆได้เกิดขึ้นไม่หยุดติดต่อมาจนถึงปัจจุบัน จึงควรที่จะนำเรื่องราวเดิมกลับมาเผยแผ่อีกครั้ง เพื่อผู้คนจักเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ควรลบหลู่ เรื่องนี้จึงนำมลงใหม่เมื่อ ก.ค. 2550)
    การพิสูจน์ผู้นำสันติสุขหรือพระศรีอารย์ จะใช้ความจริงและหลักฐานเป็นเครื่องพิสูจน์และตัดสิน โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ พระสงฆ์ ผู้สอนศาสนาและ ประชาชนทั่วไปเป็นพยาน ทั้งนี้จักเชิดชูพระพุทธศาสนาให้เป็นเอกตามพระพุทธพจน์ทำนาย และแก้ไขวิกฤตการณ์ของประเทศและโลก นำความสันติสุขที่แท้จริงมาสู่ผู้คนทั้งหลาย การนี้ไม่มีการเรี่ยไรเงินทองใด ๆ ไม่หลอกลวงหรือไม่มีสิ่งอื่นใดที่เป็นอธรรมแอบแฝงอยู่ เรื่องที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นของสูงจึง จะไม่ยกขึ้นกล่าวโดยปราศจากข้อเท็จจริง

    จุดประสงค์ของจดหมายนี้สู่ประชาชนและผู้สื่อข่าวทั่วไป เพื่อขอร้อง ให้ทุกท่านร่วมมือร่วมใจกันจัดการพิสูจน์ข้อเท็จจริงนี้ขึ้น เกี่ยวกับความจริงของบุคคลท่านหนึ่งที่อ้างตนว่าสามารถให้บุคคลในทุกศาสนาที่สำคัญๆของโลก และนักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ความรู้ของบุคคลนี้ที่ได้จากการเข้าสมาธิ และรู้อมตธรรมได้ด้วยตนเองในปี พ.ศ. 2535 ซึ่งข้อเท็จจริงของท่านผู้นี้ มีตำนานบ่งบอกเหตุการณ์อยู่แล้วตามหลักฐานที่มีอยู่ในศาสนาต่าง ๆ เช่นพุทธทำนาย และคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งผู้คนทั่วโลกนับถือหรือรู้จักดีอยู่ในทุกๆวันนี้

    เรื่องการพิสูจน์ความจริงเช่นนี้ไม่เคยมีปรากฏบนโลกมาก่อน ถ้าผู้ใดคิดหรือกล่าวว่าเป็นเรื่องเหลวไหล งมงาย ไม่น่าเชื่อ ขอได้โปรดอดใจรอดูผลการพิสูจน์ก่อน การแสดงออกเพื่อต่อต้านการพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้จะเป็นการแสดงออกของผู้คนที่มีจิตใจที่ไม่เป็นธรรม ขาดความเมตตากรุณา เพราะเรื่องการพิสูจน์ข้อเท็จจริงนี้เป็นการช่วยให้สัตว์โลกทั้งหลายพ้นทุกข์ นำสู่ความสันติสุขที่แท้จริงตามพุทธทำนาย และคำทำนายของทุกๆศาสนา และของผู้มีญาณพิเศษเช่น นอสตระดามุส เป็นต้น

    การพิสูจน์ว่าบุคคลท่านนี้เป็นผู้นำสันติสุขหรือพระศรีอารย์จริงหรือไม่นั้น ถ้าเป็นจริงตามตำนานและคำทำนาย บุคคลท่านนี้จะทราบวิธีการที่จะช่วยประชาชนสร้างสันติสุขทั่วโลกให้สำเร็จได้ ตามที่ศาสนาต่าง ๆ และคำทำนายของโลกได้บ่งไว้ตรงกัน บางตำนานบ่งว่าบุคคลท่านนี้จะเห็นผลที่จะเกิดขึ้นด้วย และโลกจะมีแต่ความสันติสุขตลอดไป บุคคลนี้กล่าวว่า ทุก ๆ คนจะมีชีวิตอยู่ด้วยความสุขทั้งด้านอาหาร การงาน การศึกษา ที่พักอาศัย และปัจจัยอื่น ๆ คนที่ไม่สามารถพึ่งตนเองได้ก็จะมีคนอื่น ๆ ดูแล ทุกๆคนจะมีสิทธิเสรีภาพอย่างแท้จริง มีความทัดเทียมโดยไม่ต้องมีการบังคับ ทั้งนี้เพราะทุกผู้คนจักมีจริยธรรมสูงส่ง รู้สิ่งใดควรและไม่ควรเพราะมีปัญญาแห่งคุณธรรมสูงสุด สงครามใดๆ ก็ไม่มี ผู้คนจักช่วยเหลือซึ่งกันและกันเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน สัตว์ทั้งหลายจะไม่ได้รับการรบกวนและทำลายด้วยฝีมือมนุษย์ สงครามต่างๆ ก็จักไม่มี คนเลวคนชั่วจะหมดไปจากโลก ผู้คนจะมีความรู้ และมีความเข้าใจอย่างแท้จริงทั้งทางธรรมและวิทยาศาสตร์ที่เกิดจากรากฐานเดียวกัน ซึ่งจะไม่เหมือนในอดีตและปัจจุบัน ที่มีการแบ่งแยก เกิดสงครามจากการขัดแย้งกัน ซึ่งมีรากฐานมาจากความเห็นแก่ตน จากความเชื่อที่หาทางพิสูจน์ข้อเท็จจริงไม่ได้ หรือมีการยึดมั่นในศาสนาของตนโดยไม่ทราบว่าสิ่งใดถูกหรือผิดประการใด

    ข้อที่ควรพิจารณาขั้นต้น

    1. บุคคลท่านนี้เป็นคนธรรมดาสามัญเช่นผู้คนทั้งหลาย แต่ต้องการให้คนทั่วไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงของท่านก่อนว่า ท่านสมควรเป็นผู้นำสันติสุขหรือพระศรีอารย์หรือไม่ การพิสูจน์จะเป็นขั้นตอนเหมือนขึ้นขั้นบันใดบ้าน ระยะแรกจะเป็นการเปิดเผยข้อมูลธรรมดา ที่ผู้คนทั่วไปควรเข้าใจได้ เมื่อขึ้นบันใดสูงขึ้นจำเป็นต้องมีผู้ที่มีความรู้ทางวิชาการนั้น ๆ เข้าร่วมด้วย เช่นวิทยาศาสตร์ขั้นสูงในการเกิดดับของจักรวาล จริงๆแล้วนักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบเช่นกัน

    2. บุคคลท่านนี้ขอเริ่มพิสูจน์หลักฐานจาก พระพุทธศาสนา ศาสนาของยิวที่เป็นแม่บทของศาสนาคริสเตียน และอิสลามเป็นต้น และหลักฐานข้อเท็จจริงของนอสตระดามัส ข้อมูลจากศาสนาอื่น ๆ อาจนำมาร่วมด้วยบ้างเพื่อใช้เป็นบทนำขั้นต้น ขอให้เข้าใจว่าถ้าผู้คนในศาสนาอื่น ๆ ยอมรับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้นำสันติสุข หรือพระศรีอารย์แล้ว สันติสุขจะเกิดขึ้นอย่างแท้จริง ไม่แบ่งแยกเช่นในปัจจุบันนี้
    พระพุทธเจ้าโคตมตรัสสอน ปรโตโฆสะและโยนิโสมนสิการคือการสนทนาซักถาม เช่นจากผู้ที่เป็นกัลยาณมิตรและรู้จักคิดพิจารณาด้วยความเป็นจริงเป็นธรรม และมีประโยชน์ต่อผู้อื่นและตนเอง ก็จะเกิดปัญญาธรรมที่ถูกต้อง

    3. บุคคลท่านนี้เป็นคนไทย มีพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์อยู่ประจำใจ บุคคลท่านนี้จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่า พระพุทธเจ้าโคตมตรัสเรื่องอนาคตวงศ์ เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ในภัทรกัปไว้นั้น ถูกต้องทุกประการ แตมีที่สำคัญที่ไม่มีอยู่ในตำราใดที่จำเป็นตกยกขึ้นมาพิสูจน์ความจริง
    พระพุทธเจ้าโคตมตรัสว่าบุคคลท่านนี้จะมาทำให้คำสอนของพระพุทธองค์สมบูรณ์ และทนุบำรุงให้พระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าโคตมเป็นเอกตลอกไปจนโลกแตกสลาย ฉะนั้นโปรดพิจารณาถึงความเป็นจริงว่า ในเวลาของพระพุทธเจ้าโคตมนั้น งานทางวิทยาศาสตร์ยังไม่ก้าวหน้าสมควรที่จะสั่งสอนธรรมขั้นใหม่นี้ได้ เรื่องนี้มีความสับสนกันมาก เท่าที่เห็นมีผู้เข้าใจผิด กล่าวว่าพระศรีอารย์เป็นพระศาสดา สอนศาสนาใหม่ สิ่งนี้ไม่ใช่ พระศรีอารย์เป็นพระจักรพรรดิที่ใช้ธรรมะ ชนะอธรรม ไม่ใช่พระศาสดาของศาสนาใด

    4. ความรู้ใหม่ที่บุคคลท่านนี้ได้มาจากการเข้าสมาธิคือ
    4.1 สูตรสองข้อที่จะทำให้เข้าใจการเกิด การดับและการดำเนินไปของจักรวาล (สิ่งนี้เป็นเรื่องของงานทางวิทยาศาสตร์ เศรษกิจและสังคม) และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังพยายามศึกษาหาคำตอบอยู่แต่ก็ไม่ได้ผล
    4.2 สูตรการสร้างสันติสุขของโลกเจ็ดข้อ ซึ่งแต่ละข้อจะใช้ทบทวนได้ในแต่ละวัน เพื่อบบรรลุถึงขั้นนิพพาน โดยพื้นฐานมาจากพระพุทธเจ้าโคตม ที่ต่างคือทั้งหญิงชายปฏิบัติได้ไม่จำกัดเพศและวัย ตลอดจนขั้นการศึกษา เรื่องความรู้นี้จำเป็นต้องเรียนรู้พื้นฐานที่ถูกต้องเป็นจริงของธรรมเสียก่อน ดังเช่นพระไตรปิฎกที่มีความผิดพลาด จำเป็นต้องแก้ไขให้ถูกต้องแล้ว ผู้คนทั่วไปไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง เด็กหรือผู้ใหญ่ จะเป็นคนไทยหรือชาติใดภาษาใดก็ได้ จะเกิดปัญญาได้มรรคผลเหมือนกัน
    5. บุคคลท่านนี้สามารถแสดงสวรรค์และนรกให้ผู้คนทั่วไปรู้เห็นได้จริง ผู้คนจะรู้ข้อเท็จจริงจากหลักฐานว่าการทำถูก หรือผิดประการใดจะมีผลโดยตรงต่อผู้นั้น (เรื่องนี้เกินกำหนดเวลามานานแล้วประมาณ 10 ปี เนื่องจากไม่มีผู้ใดสนใจที่จะหาความเป็นจริง ดังนั้นสิ่งที่จะแสดงเกี่ยวกับความจริงของสวรรค์และนรก เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น พ.ค. 2553)
    6. ดอกบัวนั้นมีหลายเหล่า การพิสูจน์ และการสอนให้ความรู้อาจต้องช้าลงบ้าง เพื่อพยายามให้ผู้คนส่วนใหญ่เข้าใจได้ ขอให้ท่านผู้เป็นดอกบัวบานแล้วอย่าใจร้อน เพราะจะเกิดผลเสียต่อคนไทย ชาวโลก และสันติสุขของโลก และถ้าเกิดความไม่เข้าใจอย่างแท้จริงจะแก้ไขได้ยาก สันติสุขที่แท้จริงจะถูกมารทำลาย มารจ้องทำลายในสันติสุขอยู่แล้ว เช่นในสมัยพระพุทธเจ้าโคตม แม้กระทั้งมารมาทูลให้พระพุทธองค์เร่งเร้าให้ปรินิพพาน ขอให้เข้าใจว่าบุคคลท่านนี้ไม่มีอภินิหารนอกจากความจริงที่พิสูจน์ได้ บุคคลใดที่จะโจมตีก็ขอให้คิดให้รอบคอบ ฉะนั้นจึงขอให้คิดถึงข้อเท็จจริงและธรรมเสียให้ดีเสียก่อน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและไม่ใช่เรื่องทางการเมือง
    7. การพิสูจน์เรื่องผู้นำสันติสุขหรือพระศรีอารย์นี้ บุคคลท่านนี้จะขอออกพิสูจน์ตนเองพร้อมกับหลักฐานที่มีตัวตน ไม่ใช่เป็นนามธรรม การพิสูจน์จะไม่มีการสนับสนุนจากผู้ใดแม้แต่ ครอบครัว ผู้มีพระคุณ เพื่อนฝูงและผู้รู้จัก จะขอก็เพียงแต่ให้ประชาชนทุกท่านที่มีคุณธรรม และความยุติธรรมในการพิจารณาหลักฐานต่าง ๆ ด้วยเหตุผลตามความเป็นจริงที่พิสูจน์ได้ สำหรับบุคลที่จะต่อต้านแบบไร้เหตุผล ไม่ยอมรับข้อเท็จจริงย่อมีปะปนอยู่เป็นธรรมดา
    8. บุคคลท่านนี้กล่าวว่า พระสงค์และผู้สอนธรรมจะมีชื่อเรียกอย่างใดก็ตาม จำเป็นต้องมีอยู่ เพื่อสั่งสอนประชาชนทั่วไปได้เข้าใจธรรมที่ถูกต้องตามหลักฐานข้อเท็จจริงที่พิสูจน์และปฏิบัติได้มรรคผลต่อไป

    ตามหลักฐาน พระพุทธเจ้าโคตมได้ตรัสไว้ว่าผู้นำสันติสุข (ไมเตรยะ, เมตเตยะ เมตเตยยะ) หรือพระศรีอารย์ จะมาปรากฎหลังจากที่พระองค์ปรินิพพานไปแล้ว 2500 ปี หรือปีในปัจจุบัน หรือปีมิลเลเนี่ยมนี้ (Millennium) ซึ่งนับว่าตรงกับที่ตำนานอื่นๆได้บ่งบอกไว้เช่นกัน หรือเป็นปีกึ่งหนึ่งของ 5000 ปี ที่โลกจะแตกดับ

    แต่ยังมีผู้คนส่วนมากที่ถูกสอนมาผิดๆ ได้เชื่อถือกันว่าพระศรีอารย์จะมาปรากฏในปี 5000 ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีหลักฐาน ไม่มีเหตุผลยืนยัน เพราะเมื่อโลกแตกไปแล้วพระศรีอารย์จะมาสอนใครกัน บ้างก็เชื่อตามกันมาโดยขาดหลักฐานที่เชื่อถือได้ หรือเชื่อโดยไม่มีเหตุมีผลตามความเป็นจริงประกอบ เช่น เชื่อว่าพระศรีอารย์จะมาปรากฏเมื่อผู้คนมีอายุได้ 80,000 ปี ซึ่งมีพิรุษคือบุตรจะต้องมีอายุเป็นสองเท่าของผู้ให้กำเหนิดอันไม่เป็นไปตามหลักธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะมีอยู่ในพระไตรปิฏกก็ตาม แต่สมเด็จพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้ทรงตรวจสอบ และจากข้อเท็จจริงพระพุทธเจ้าไม่สนับสนุนให้พระสงฆ์จดบันทึกนอกจากการท่องจำ ซึ่งเรื่องพระไตรปิฏกมีพิรุษนั้น สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงตรัสถามเรื่องพระไตรปิฏกมีพิรุษ ซึ่งสิ่งที่สมเด็จพระสังฆราช พระราชาคณะ และราชบัณฑิตถวายบังคมทูลพระองค์ว่าพระศรีอารย์พระองค์นั้นจักแก้ไขพระไตรปิฏกได้ บางท่านยังเชื่อว่าพระศรีอารย์จะมาปรากฏหลังจากที่โลกนี้แตกดับไปแล้ว และจะเกิดโลกใหม่ขึ้น ท่านใดที่เชื่อเรื่องเช่นนี้ ขอได้โปรดทำความเข้าใจในเรื่องที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เกี่ยวกับ "ภัทรกัป" ด้วยซึ่งหมายถึงกัปอันประเสริฐในปัจจุบันนี้ที่มีพระพุทธเจ้าถึง 5 พระองค์ ไม่ใช่กัปของโลกอื่น

    ขอให้สังเกตว่า ทุก ๆ ศาสนามีคำสอนและความเชื่อต่าง ๆ กัน และเป็นจริงที่ว่าในศาสนาเดียวกันนั้นก็ยังมีการแตกแยกเป็นพวกเป็นเหล่าและสอนแตกต่างกัน แต่ทำไมพระพุทธเจ้าโคตม และผู้นำของศาสนาอื่น ๆ ได้ระบุถึงผู้นำสันติสุขหรือพระศรีอารย์นี้ไว้เหมือนกันและสนับสนุนกัน เช่น ความรู้ที่บุคคลท่านนี้มีอยู่นั้น ได้มาจากตนเอง (คุณลักษระของพระพุทธเจ้า) และบุคคลท่านนี้จะนำความสันติสุขที่แท้จริงมาให้คนทั่วโลกสืบต่อกันได้ตลอดไป

    จากการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลจากตำนานของศาสนาต่าง ๆ ที่สำคัญ ๆ กับการเปลี่ยนแปลงผิดปกติไปของโลกในช่วงปลายมิลเลนเนี่ยมนี้ นักวิชาการทางศาสนาทั่วโลกหลายต่อหลายท่าน ได้เห็นพ้องกันว่าผู้นำสันติสุขหรือพระศรีอารย์นี้จะปรากฏในปัจจุบัน แต่ทางนักวิทยาศาสตร์ยังตกลงกันไม่ได้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงไปของโลกในขณะนี้ เพราะบ้างก็กล่าวว่าโลกร้อนขึ้น (Global warming) บ้างก็กล่าวว่าโลกจะกลับเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง (Ice Age)

    นอกจากหลักฐานทางศาสนาศาสตร์ต่าง ๆ ที่บ่งการมาปรากฎของผู้นำสันติสุขหรือพระศรีอารย์ในเวลานี้แล้ว ยังมีสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมากหลายอย่าง ได้เกิดขึ้นในปัจจุบันตรงตามตำนานโบราณที่บ่งไว้ ฉะนั้นการมาปรากฎตนของผู้นำสันติสุขหรือที่มีชื่อเรียกอื่น ๆ เช่นพระศรีอารย์ หรือ ตามภาษาและศาสนาของประเทศนั้น ๆ ย่อมมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบันนี้อย่างแน่นอน เช่น
    1. วัวแดงซึ่งเกิดขึ้นมากว่า 2000 ปีแล้ว ได้มีกำเนิดขึ้นมาอีกเมื่อ พ.ศ. 2539 ที่ประเทศอิสราเอล การเกิดของวัวแดงตัวปัจจุบัน เป็นการแสดงว่าเมสไซยะจะมาปรากฎตน
    นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ตามตำนานที่ได้เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน แต่ไม่ได้นำมาลงไว้ในที่นี้ CNN รายงานข่าวตามความเชื่อของชาวยิว
    2. การเกิดของวัวป่าสีขาวเมื่อ พ.ศ. 2537 เป็นต้น ตามความเชื่อของคนอเมริกันอินเดียนว่าความสันติสุขของโลกที่แท้จริงจะเกิดขึ้น
    3. ปรากฎการณ์การเรียงกันของดาวพระเคราะห์ทั้งหลาย เมื่อ พฤษภาคม พ.ศ. 2543 ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู โบราณบ่งว่ากาลกีหรือผู้นำสันติสุขหรือพระศรีอารย์หรือพระนารายณ์ปางที่ 10 ตามตำนานของฮินดูจะออกปรากฏตน
    4. พระจันทร์แดง ปี พ.ศ. 2543 (เป็นที่น่าสังเกตว่าทำไมประเทศไทยถึงมีเมฆปกคลุมทั่วประเทศ มองไม่เห็น หรือน่าจะกล่าวว่า “ใกล้เกลือกินด่าง” จะผิดไหม เมื่อคนไทยส่วนมากไม่รู้เรื่องพุทธทำนาย) ตำนานบ่งถึงพระจันทร์สีแดงนี้เกิดขึ้นเมื่อไร พระจักรพรรดิจะปรากฏพระองค์ในอีกไม่ช้า (เพิ่มเติม ก.ค. 2553)

    ทูตสวรรค์บางคน เช่น อิแซ 9.6 และ 3.3 ของศาสนายิวกว่า 2700 ปีมาแล้ว ได้ระบุเวลาเกิดของบุคคลท่านผู้นี้ว่าจะเกิดในระหว่างสงครามซึ่งจะมีชัยชนะได้ด้วยไฟบรรลัยกัลป์เผาผลาญ ไฟนี้คือระเบิดนิวเคลียร์ซึ่งใช้เฉพาะแค่ในสงครามโลกครั้งที่สองเท่านั้น อิแซยังได้ระบุอีกว่าบุคคลท่านนี้จะปรากฎตัวเมื่ออายุ 50 กว่าขึ้นไป ซึ่งก็เป็นจริงที่สงครามนี้ยุติมาแล้วกว่า 50 ปี อิแซและทูตสวรรค์คนอื่น ๆ ได้ระบุประวัติโดยย่อของบุคคลท่านนี้และเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไว้ซึ่งมีหลักฐานอยู่จนถึงทุกวันนี้ หลักฐานจากทูตสวรรค์อีกหลายคนได้บ่งรายระเอียดไว้มากและอย่างชัดเจนเช่นกัน
    จะขอยกตัวอย่างบางประการ ตามศาสนา และตำนานต่าง ๆ ที่บ่งถึงบุคคลท่านนี้ไว้ดังนี้
    1. มีชื่อเป็นที่รู้จักกันในศาสนาต่าง ๆ นามสกุล และคุณสมบัติส่วนบุคคลบ่งอยู่ในตำนานต่าง ๆ เมื่อพิจารณาแล้วจะเข้าใจได้
    2. บ่งสถานที่และเวลากำเนิดของบุคคลท่านนี้
    3. ที่อยู่ในปัจจุบันเป็นเมืองเล็กอยู่ในเมืองใหญ่
    4. เป็นผู้ที่มีความรู้ทั้งทางโลกและทางสวรรค์ และจะต้องพิสูจน์ให้คนทั่วไปเห็นได้ด้วยหลักฐาน
    5. เป็นผู้มาปราบมารด้วยพระธรรม
    6. เป็นผู้รู้โดยชอบจากการเข้าสมาธิ ความรู้ที่มีจะเกิดจากตนเอง
    7. เป็นผู้รู้ศาสนาทั้งหลายอย่างแท้จริง และด้วยเหตุนี้เองที่จะทำให้สงครามที่เกิดจากศาสนาต่างๆหยุดลง เมื่อคนในศาสนานั้นๆทราบข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้

    การพิสูจน์ในระยะแรก
    บุคคลท่านนี้จะ แสดงหลักฐานเกี่ยวกับตัวท่านก่อน จะทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้าโคตมที่สำคัญ ๆ ต่อจากนั้นจะแสดงนรกชั้นแรกให้ผู้คนได้ทราบได้เห็น (ข้อเสนอนี้หมดกำหนดไปแล้ว 10 ปี ตามที่กล่าวไว้ขั้นต้นแล้ว ก.ค. 2553) สำหรับการพิสูจน์ขั้นต่อไปนั้นจะพิจารณาจากการพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่างๆเป็นครั้งแรกในโลก

    ในเวลานี้ มีคนหลายคนที่อยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกอ้างตนว่าเป็นผู้นำสันติสุขหรือพระศรีอารย์ มีชื่อเรียกตามที่บุคคลเหล่านั้นอ้างถึง แต่ไม่เสนอให้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่มีเหตุผลและไม่มีความรู้ใหม่ ๆ มาแสดง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเช่นนี้ ทำให้ผู้คนทั่วไปเกิดความเบื่อหน่าย ไม่เชื่อ และเห็นว่าเรื่องของพระศรีอารย์เป็นเรื่องหลอกลวงมากกว่าเป็นเรื่องจริง

    แต่ท่านควรได้โปรดพิจารณา เพราะยังมีอยู่บุคคลเดียวอีกท่านหนึ่งคือบุคคลท่านนี้ ที่พยายามให้สื่อมวลชนเชิญผู้ทรงคุณวุฒิทั้งทางศาสนาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มาพิสูจน์ความรู้ หลักฐานและข้อเท็จจริงของท่านต่อหน้าผู้คนทั่วไปทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งนี่ย่อมแสดงถึงความจริงใจของท่านผู้นี้ ท่านใดยังคิดว่าไม่เป็นเหตุเป็นผล ก็ขอให้ทบทวนว่าเรื่องเช่นนี้เคยเกิดขึ้นบนโลกมาก่อนหรือไม่การพิสูจน์บุคคลท่านนี้จำเป็นยิ่งเพราะ
    1. เป็นการยืนยันว่าบุคคลท่านนี้คือผู้นำสันติสุขที่หรือพระศรีอารย์ที่แท้จริง และการสอนต่าง ๆ จำเป็นต้องใช้หลักฐานของทูตสวรรค์ ที่รู้จักของคนทั่วโลกได้บันทึกไว้เป็นเวลานานมาแล้วมายืนยัน
    2. การพิสูจน์จะช่วยลดการแตกแยกของผู้ทราบความจริง กับผู้ที่ไม่มีโอกาศทราบข้อเท็จจริง
    3. การพิสูจน์จะทำให้ผู้คนเห็นข้อเท็จจริงพร้อมเพรียงกัน เป็นการลดการบิดเบือนข้อเท็จจริงลงได้
    4. การพิสูจน์จะเป็นการสร้างสันติสุขโลก ให้เกิดได้ในระยะเวลาอันสั้น และบุคคลท่านนี้ต้องการให้คนทั่วไปได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงของท่านเสียก่อน ที่จะให้ทราบในเรื่องสำคัญ ๆ ในการดำเนินชีวิตอย่างมีสันติสุขที่แท้จริง

    เรื่องที่ทุกท่านควรได้คิดเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และสัตว์โลกทั้งหลายนั้น ทำได้ไม่ยาก คือให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยใช้ความเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา เป็นข้อคิดและยึดเหนี่ยว

    ความจริงใจของบุคคลท่านนี้คือ

    1. บุคคลท่านนี้ไม่ต้องการเป็นผู้ที่ทุกศาสนาบ่งไว้เช่นไมเตรยะ หรือเมสไชยะ เมื่อการพิสูจน์สิ้นสุดลง บุคคลท่านนี้จะคืนชื่อเรียกต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ตามภาษานั้น ๆ ให้ทางสวรรค์ และเรียกชื่อสมมุติที่มีใช้อยู่ในขณะนี้แทน
    2. บุคคลท่านนี้ไม่ต้องการความยกย่องจากผู้ใด ไม่ต้องการทรัพย์สินเงินทองหรือชื่อเสียง นอกจากจะทำงานเพื่อให้บรรลุตามที่ทางสวรรค์ได้มอบหมายงานให้มา
    3. บุคคลท่านนี้ไม่ต้องการมีศิษย์ บุคลนี้กล่าวว่าการเคารพผู้อื่นและตนเองนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ การทำดีเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าการเป็นศิษย์ ถ้าบุคคลท่านนี้ผ่านการพิสูจน์แล้ว โปรดให้บุคคลท่านนี้มีเวลาเป็นของตนเองเพื่อการทำสมาธิ
    4. บุคคลท่านนี้กล่าวว่าท่านมีกรรมมากกว่าผู้คนบนโลก ผู้ที่มีความสำคัญยิ่งกว่านั้นคือคนทั่วไปที่จะช่วยกันทำความดีสืบต่อกันไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด ตามที่ทุกศาสนาได้กล่าวไว้
    5. บุคคลท่านนี้บ่งว่าไม่ต้องการเปลี่ยนความเชื่อถือและขนบธรรมเนียมประเพณีของผู้คนทั้งหลาย แต่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามหลักฐานให้ผู้คนทั้งหลายได้นำไปพิจารณากันเองว่า สิ่งใดถูกหรือไม่ถูกประการใด เรื่องเหล่านี้ผู้กำ เนิดศาสนาเช่นพระพุทธเจ้าโคตม และพระเยซูได้กล่าวไว้แล้วเช่นกัน
    6. บุคคลใกล้ชิดของบุคคลนี้ จะไม่มีสิทธิพิเศษใด ๆ ในบุคคลท่านนี้ ทุกคนจะมีโอกาสเรียนธรรมและปฏิบัติธรรมได้เสมอภาคทั่วหน้ากัน

    ขอได้โปรดคำนึงถึงเหตุผลและความเป็นจริงที่พิสูจน์ได้ของตำนานที่มีมานับเป็นพัน ๆ ปี ไม่ควรเชื่อตามคนส่วนมากโดยไม่มีหลักฐาน โปรดใช้หลักการกาลามสูตรของพระพุทธเจ้าคือไม่เชื่อในเรื่องใดๆ จนกว่าจักเห็นประโยชน์ ไม่เป็นโทษ เป็นกุศลกรรม จึงค่อยเชื่อเกิดศรัทธานำไปยึดถือเพื่อประพฤติปฏิบัติ โปรดคิดถึงความเป็นจริงที่พิสูจน์ได้ตามที่พระพุทธองค์้ตรัสสอนไว้ โปรดคำนึงถึงกาลิเลโอซึ่งถูกลงโทษโดยชาวคริสเตียนที่หลงเชื่อสิ่งที่ผิด ๆ และลงโทษโดยกาลิเลโอไม่มีความผิดใดๆ ซึ่งสันตปาปาได้กล่าวขอโทษหลังจากที่กาลิเลโอตายไปแล้วหลายร้อยปี (The Cicinnati Post, USA: Mar: 13, 2000)

    ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนควรร่วมมือกันค้นหา และพิสูจน์ความจริงของบุคคลท่านนี้ตามที่ทูตสวรรค์หลาย ๆ คน เช่น พระพุทธเจ้าโคตม และนอสตระดะมัส ได้กล่าวไว้ ฉะนั้น โปรดอย่าให้ความไม่ดีงามมาปิดบังการทำดีมีบุญกุศล เพื่อประโยชน์สุขของตนเอง ครอบครัว คนที่มีความทุกข์ทั่วโลก และผู้คนที่ไม่ทราบความจริงทั้งหลาย

    การสนับสนุนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงนี้ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อความเชื่อเก่า ๆ ที่ถูกต้อง บุคคลท่านนี้ขอให้มีการจัดพิสูจน์ต่อหน้าสาธารณชน ระยะเริ่มแรก ประชาชนทั่วไปโปรดสนับสนุนให้ผู้สื่อข่าวเชิญผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญทางพุทธศาสนามาพิสูจน์ความจริงก่อน การพิสูจน์นี้ควรจัดขึ้นในเมืองไทย เมื่อนักวิขาการต่างชาติทราบ ท่านเหล่านั้นจะมาเข้าร่วมการพิสูจน์ด้วย การพิสูจน์ในขั้นต่อ ๆ ไปซึ่งรวมการพิสูจน์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ด้วยนั้น จะเป็นผลมาจากการพิสูจน์ขั้นต้น เนื่องจากหลักฐานที่จะใช้ในการพิสูจน์บุคคลท่านนี้มีมาก การพิสูจน์จำเป็นต้องทำเป็นขั้นตอน โปรดอย่าใจร้อน เพราะการพิสูจน์จะนำไปสู่สันติสุขและสันติภาพที่แท้จริงตลอดไป

    โปรดกรุณาช่วยกันกระจายข่าวนี้ต่อ ๆ ไป หรือหาทางสนับสนุนกันและประสานงานกับสื่อมวลชนเพื่อจัดพิสูจน์เรื่องนี้ขึ้น เพื่อชาติ พระมหากษัตริย์ พร้อมด้วยพระพุทธศาสนาจะเป็นเอกของโลกพร้อมด้วยความมีสันติสุขที่แท้จริงของโลกจักดำเนินไปจนโลกแตกสลาย

    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า พระพุทธศาสนาจักเป็นเอกของโลกไปจนโลกแตกสลายในปี พ.ศ. 5,000 โดยผู้นำสันติสุข หรือ พระศรีอารย์หรือพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 (พระจักรพรรดิผู้รู้เองโดยชอบ ตามที่พระพุทธเจ้าโคตมตรัสไว้แล้ว) จักแสดงถึงข้อเท็จจริง
    โปรดร่วมกันพิสูจน์ข้อเท็จจริง เพื่อประโยชน์สุขทั้งหลาย โปรดอย่าปล่อยให้ผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการนำความเสื่อมเข้ามาครอบคลุมสิ่งประเสริฐและดีงาม
     
  2. นันทิวา

    นันทิวา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +116
    มาทางลัดคร้าบคุณๆ

    คุณคร้าบ ประเด็น " ลากพระพุทธเจ้ามาผิดศีล " เนียะ

    คนมีสติ มีธรรม เขาจะทราบ คุณสมบัติพิเศษของพระพุทธองค์ แบบไม่ควร
    หลงลืมเลยคือ

    " พระพุทธองค์เป็นผู้บัญญัติศีล "

    ด้วยคุณสมบัติ พระพุทธองค์เป็นผู้บัญญัติศีล ด้วยอำนาจแห่งธรรมข้อนี้
    พระพุทธองค์จึงพ้น ข้อกำหนดของศีลทั้งปวง คือ ทำอะไรก็ตามแต่
    หากไปขัดแย้งกับศีล พระพุทธองค์ก็ไม่ผิดศีลข้อนั้นๆ

    ทั้งนี้เพราะ พระพุทธองค์เป็นคนบัญญัติศีลข้อนั้นๆเอง จึงพ้นผิด 1000%

    อันนี้ไปหาอ่านได้

    มีคน พยายามลากพระพุทธองค์ให้มาอยู่ภายใต้ขอบังคับแห่งศีล พระพุทธองค์
    ก็วินิจฉัยความเอาไว้แบบนี้

    คนที่พยายามตั้งข้อหาแก่พระพุทธองค์ ไม่รู้ตอนจบพระสูตร เป็นอย่างไรนะ จำไม่ได้

    จำได้แค่ " เจ้าของศาสนา เจ้าของบริษัท พ้นข้อบังคับทั้งปวง "
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2017
  3. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    [​IMG]
     
  4. นันทิวา

    นันทิวา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +116
    ขอกราบคาราวะท่านผู้คงแก่เรียนทุกท่านครับ ท่านผู้นี้เกิดกึ่งพุทธกาลพอดี คือ พ.ศ. 2504 วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 และการแสดงธรรมก็สำเร็จเป็นครั้งแรก วัน

    ขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 แต่ไปตรงกับ ค.ศ. 2004 จึงเป็นสิ่งที่ตรงกันโดยธรรมชาติ ที่แท้จริง โดยมีในพระไตรปิฎกเคยอ่านเจอ พระพุทธองค์เคยยืนนิ่งอยู่กับที่

    เพื่อทำความเคารพธรรม ซึ่งมีภิกษุรูปหนึ่งกำลังแสดงธรรมที่มีกับตนให้เพื่อนภิกษุได้ฟัง จนเมื่อย

    แสดงว่าพระพุทธองค์เคารพธรรมยิ่งนัก หากแม้ว่าท่านผู้นี้

    มีธรรมที่มีในตน ได้แสดงออกมาเพื่อสาธาระณะชน พวกเราๆจะไม่เคารพ พระพุทธองค์หรือครับท่าน ขอให้ทุกท่านรับฟังไว้เพื่อพิจารณานะครับ ท่านผู้ทรงศีลทุกท่าน
     
  5. นันทิวา

    นันทิวา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +116
    การเกิดขึ้นตามความเป็นจริง

    การเกิดขึ้นตามคำทำนาย ตัวตนย่อมเกิดขึ้นก่อน คืออยู่ในระหว่างปี พ.ศ. 2500 ถึง พ.ศ. 2504 เพราะเกี่ยวกับพระพุทธ ๑ พระธรรม ๒ พระสงฆ์ ๓

    และ อริยสัตย์ ๔ ส่วนอย่างอื่นๆนั้น จะเป็นไปตามธรรมชาติ ที่คนโดยทั่วไป มีอยู่ เป็นอยู่ และ เกี่ยวกับปี ของโลกนิยม ที่ลงท้ายด้วย 0, 1, 2, 3, 4,

    และพระธรรมที่ได้และที่แสดง ก็เกี่ยวกับปีที่ลงท้าย 0-1-2-3-4-ด้วย เพราะสังคมและโลกนิยมได้สร้างขึ้นมาเอง จึงหนีไม่พ้นตามคำที่กล่าวมานี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 ธันวาคม 2014
  6. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979

    ท่านจั่นเจาค่ะ ท่านมาแต่ใดอะ ท่านมาผิดกะทู้อะเปล่าค่ะ :boo:----
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 พฤศจิกายน 2016
  7. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    คำทำนายนั้นจะมีจุดหนึ่งที่ตรงกัน และเป็นอันเดียวกัน
    เรียกว่าคำทำนายโลกนิยม เพราะทุกคนเป็นคนเหมือนกัน
    มีนามรูปเหมือนกัน

    ผมเองปัจจุบันอายุ 50 กว่าปีพอดีครับ
     
  8. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    คำว่าโลกนิยน

    คำว่าโลกนิยม ก็คือโลกนี้ มิได้หมายถึง ชนชาติหนึ่งชาติใด
    ถ้าว่าเป็นของคนนิยม ก็หมายถึงคนทั้งโลก

    หากแม้คนทั้งโลกมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
    ย่อมมีจุดหนึ่ง ที่เหมือนกัน หรือทดแทนกันได้

    สิ่งนั้นเรียกว่าความนิยมของโลก
     
  9. นันทิวา

    นันทิวา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +116
    ภัยกำลังจะถึงตัว ผู้มีปัญญา มีจิตใจเป็นบุญกุศล ย่อมเข้าใจข้อเท็จจริงในนี้
    สิ่งสำคัญยิ่ง ที่ประชาชนควรทราบไม่เฉพาะแค่ภัยพิบัติโลกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องใน ปัจจุบันและการจะเกิดมหันตภัยล้างโลกในอีก 2 ปีนี้ แต่ยังรวมถึงวิกฤติของสังคมและเศรษฐกิจมีความเลวร้ายมากขึ้น ข้าวยากหมากแพงแก้ไขไม่ได้ มีการสู้รบ มีคอร์รัปชั่นรวมไปถึงการเสียอธิปไตยของชาติไทย สิ่งเลวร้ายเหล่านี้จะหยุดและสิ่งดีงามยิ่งจักเกิดขึ้นแทน มีความยุติธรรมและสันติสุขที่แท้จริงตลอดไป เพราะคนเลวคนชั่วจักหมดไปจากโลก

    พุทธทำนาย คำพยากรณ์โลกอื่นๆ มีอายุหลายพันหลายร้อยปีมาแล้ว ได้บ่งวิกฤติโลกเกิดจากคนเลวคนชั่วเป็นต้นเหตุ ทำให้เกิดภัยพิบัติรุนแรง ภูมิอากาศผิดธรรมชาติอย่างต่อเนื่องในปัจจุบันไว้ตรงกันโดยไม่นัดหมาย ผู้คนทั่วโลกยอมรับสิ่งที่พยากรณ์ไว้ได้เกิดจริง ภัยพิบัติจะทวีความร้ายแรงถึงขั้นล้างโลกในปี พ.ศ. 2556 และต่อเนื่องไปอีกหลายปี จะมีแผ่นดินไหวใหญ่ยิ่ง ฝนจะตกไม่หยุดติดต่อกันนับแรมเดือนน้ำจะท่วมทั่วไป และลูกไฟจากฟ้าจะเป็นเพลิงเผา ทำลายชีวิตและส่งคนบาป คนเลวคนชั่วกลับไปนรกภูมิตามที่พยากรณ์ชี้ไว้ สำหรับผู้คนที่มีบุญทำกรรมดีไม่เห็นแก่ตนนั้น มนุษย์ต่างดาวจะรับไปไว้บนยานมหึมาของเขาเพื่อให้พ้นมหาภัยนี้ นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำยอมรับหลักฐานจากมนุษย์ต่างดาวว่าพวกเขามีจริง หลักฐานจากพยากรณ์และข้อมูลวิทยาศาสตร์ชี้ถึงมหันตภัยล้างโลก ไม่น่าจะเป็นเรื่องงมงายหรือไร้สาระหรือเหลือเชื่อเช่น ข่าว 25 กพ 54 นักวิทยาศาสตร์ประกาศว่าดวงอาทิตย์ “พิโรธร้ายสุด” ก่อความพินาศป่นปี้ให้กับมนุษยชาติในปี 2556 ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว

    ประเทศเช่น อเมริกา และในยุโรป ให้ความรู้เรื่องภัยพิบัตินี้แก่ประชาชน มีสารคดีทางทีวี มีการก่อสร้างที่หลบภัยและเก็บเมล็ดพืชไว้ มีภาพยนตร์มหันตภัยโลก มีการพบสัตว์กลายพันธุ์เพิ่มมากขึ้น ปลา นกในที่ต่างๆ ตายมากมาย นี่เกิดอาเพศเป็นสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าหรือ นักวิทยาศาสตร์ยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง รัฐบาลไทยควรให้ความรู้ประชาชนตามข้อเท็จจริงทางทีวีและวิทยุ ย่อมเกิดประโยชน์ไม่มากก็น้อย ขอขอบคุณเช่น ดร. ประภา เหตระกุล บก.บห.เดลินิวส์ ดร. สมิทธ ธรรมสโรช ประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และเวปไซด์พลังจิต ที่ร่วมกันจัดงานสมมนาเชิงวิชาการเรื่อง “เจาะลึกภัยพิบัติ...พลิกวิกฤติให้เป็นทางรอด” เมื่อ 19 ธ.ค. 2553 ดร. ก้องภพ อยู่เย็น วิศวกรจากนาซ่า (NASA) แสดงหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์อวกาศ ข้อมูลสำรวจดวงอาทิตย์และจักรวาลด้วยดาวเทียม “ฟันธง 3 ปีเจอภัยโลกวิบัติ” เดลินิวส์ 21 ธ.ค. 53 ข่าวหน้า 1 “นักวิชาการห่วงโลกตกอยู่ในอันตราย” ท่านอื่นๆ เช่น ดร. อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ดร. เสรี ศุเพทราทิตย์ ผอ. ศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อมอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ชี้ว่าผู้บริหารประเทศควรใส่ใจด้วย โปรดเข้าใจว่าชาติไทยมีผู้บริหารประเทศเป็นเพียงผู้จัดการ แต่ประเทศชาติเป็นของคนไทยทั้งชาติ

    พยากรณ์ของศาสนาพราหมณ์และศาสนายูดาห์กล่าวตรงกันว่าโลก นี้มีพระศาสดา 1 พระองค์ซึ่งเกิดขึ้นจริงคือพระพุทธเจ้าโคตม และพระจักรพรรดิอีก 1 พระองค์คือผู้จะเปลี่ยนโลกกลียุคในปัจจุบันไปเป็นยุคทอง(กฤดายุค) พระพุทธเจ้าตรัสเช่นเดียวกับศาสนาที่สำคัญๆ ของโลก ตามหลักฐานชี้ชัดเจนว่า พระจักรพรรดิโลกปรากฏในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่ในเวลาอื่น พระพุทธองค์ตรัสชื่อว่าไมเตรยะ (Maitreya) / เมตเตยยะ (Metteyya) คือ “เพื่อนแท้” คนไทยเรียกว่า พระศรีอาริยเมตรไตรยหรือพระศรีอารย์ พุทธศาสนิกชนชาติอื่นหรือศาสนาอื่นๆ เรียกตามภาษาของเขา

    สรุปว่าภัยพิบัติในปัจจุบันเกิดขึ้นตรงพยากรณ์ เพื่อเตือนผู้ไม่ประมาทให้ร่วมกันพิสูจน์ความจริงทางทีวีเพื่อกันไม่ให้หลอก ลวงและมีความยุติธรรมในการหาพระจักรพรรดิองค์จริงออกจากกลุ่มของผู้อ้างตน เป็นพระจักรพรรดิที่มีอยู่มากมายทั่วโลก แต่ถ้าผู้คนไม่สนใจหาความจริงนี้จะเกิดการล้างโลกในปี 2556 ขึ้นแทน ถ้าพระจักรพรรดิองค์จริงปรากฏ ภัยพิบัติสารพัดทิศจักหยุดลง พยากรณ์บ่งว่าพระจักรพรรดิหรือพระศรีอารย์ คือ พระเจ้า หรือท้าวสักกะเทวราช ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่ามีจริง กว่า 40-50 พยากรณ์บอกเรื่องราวละเอียดของพระองค์ เช่น จุติที่กรุงเทพฯ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สวรรค์จะถูกเปิดด้วยรูปธรรม คนจะไม่กล้าทำชั่ว จะหยุดกลียุคและสร้างสันติสุขที่แท้จริงแก่มนุษยโลก สรุปคือ ทุกประเทศจักช่วยเหลือกัน ไม่สู้รบไม่มีสงครามใดๆ สิ่งเลวทรามจะหมดไป มีความยุติธรรม คนเป็นคนดีจริงๆ มีเมตตากรุณา มีกินมีใช้ มีที่อยู่อาศัย คนจนคนเลวคนชั่วโจรผู้ร้ายไม่มี ใครใคร่เรียนได้เรียนฟรี เจ็บป่วยมีหมอรักษาฟรี พืชผลบริบูรณ์ เศรษฐกิจและสังคมมีธรรมะเป็นที่ตั้ง มนุษย์สัตว์ไม่เบียดเบียนกัน

    พระจักรพรรดิหรือพระศรีอารย์ไม่ใช่พระศาสดาดังนั้น ศาสนาพระศรีอารย์ไม่มีในยุคสมัยของพระพุทธเจ้าโคตม พระพุทธองค์ตรัสว่าพระจักรพรรดิหรือพระศรีอารย์จะจรรโลงพุทธศาสนาของตถาคตให้อยู่ถึง พ.ศ. 5000 ดังนั้นเราไม่ควรหนีที่จะหาความจริง

    โปรด ช่วยผลักดันให้มีการพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้ จะเกิดประโยชน์ยิ่งแก่ผู้คนทั่วไปไม่เจาะจงคนจนคนรวย พระพุทธเจ้าตรัสกาลามสูตร สรุปว่าไม่ให้เชื่อในเรื่องใดๆ รวมถึงคำตรัสสอนของพระพุทธองค์ แต่เมื่อหาข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่าเรื่องนั้นเกิดประโยชน์ เป็นกุศลธรรม จึงควรนำมาพิจารณายึดถือปฏิบัติ

    ผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเห็นแก่ประชาชนผู้เดือดร้อน นี่ไม่ขอเรี่ยไรเงินทอง แต่ขอความดีของท่าน โปรดทำสำเนานี้เผยแผ่ หรือบอกกล่าวให้เกิดการหาความจริงขึ้น ยิ่งท่านทำมากย่อมได้บุญมากเพราะจะช่วยชีวิตผู้อื่น สิ่งนี้ทำให้ท่านเป็นคนดีมีกุศลเกิดผลบุญปกป้องภัยอันตรายทั้งหลายแก่ท่าน และครอบครัว และท่านมีโอกาสที่จะมีชีวิตรอดไปสู่โลกกฤดายุคใหม่ที่มีแต่คนดีเท่านั้น

    ขอขอบพระคุณยิ่ง จากคนไทยผู้รักชาติยิ่ง – แก้ไข V4-2 มีค 2554 ข้อมูลจาก Metteya/Metteyya พระศรีอารย์ ความจริงที่หนีไม่พ้น

    พิสูจน์ความจริงเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง

                ภัยพิบัติต่างๆ  เกิดวิปริตเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกในปัจจุบันนั้น เป็นไปตามพุทธทำนาย พยากรณ์ของศาสนาต่างๆ  รวมทั้งคำทำนายของผู้เห็นอนาคตได้เช่น นอสตราดามุส พยากรณ์เหล่านี้ มีมาหลายพันหลายร้อยปีแล้วนั้น เป็นเรื่องที่มีหลักฐานจริงแสดงยืนยันการมาปรากฏของพระจักรพรรดิหรือพระศรีอารย์ในปัจจุบันจริง เพื่อจะมาสร้างสันติสุขที่แท้จริงขึ้นบนโลกด้วยการแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจและสังคม คอรัปชั่น ปัญหาระหว่างประเทศ การสู้รบและความไม่เป็นธรรมในทุกรูปแบบ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิชาการ การปกครอง และการทหาร เพราะมนุษย์มีบาปเป็นเหตุ

    ผู้นำศาสนาและคณาจารย์มหาวิทยาลัยสาขาศาสนาต่างๆ ทั่วโลก  เชื่อตามหลักฐาน เช่น จากมหาปรินิพพาน คัมภีร์ไบเบิล  การเกิดของวัวขาว วัวแดง ดาวพระเคราะห์เข้าแถว และพระจันทร์สีเลือด ที่เหตุการณ์เหล่านี้ได้เกิดขึ้นจริงในปัจจุบันซึ่งแสดงว่าพระจักรพรรดิพระองค์จริงปรากฏแล้วในขณะนี้ แต่ไม่ปรากฏพระองค์ต่อสาธารณะชน เพราะมีบุคคลมากมายทั่วโลกแสดงตนเองว่าเป็นพระจักรพรรดิ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพิสูจน์หลักฐานเพื่อเปิดเผยพระจักรพรรดิองค์จริงคือท้าวสักกะเทวราช (พระพุทธเจ้าโคตมตรัสแล้วว่ามีจริง) หรือคือพระเจ้าของศาสนาอื่นๆ  ซึ่งเป็นองค์เดียวกันมาจุติเป็นพระจักรพรรดิเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขที่แท้จริงของมนุษยโลก และมนุษย์สืบสันติสุขนี้ต่อได้เองตลอดไปในอนาคต
    การพิสูจน์ความจริงให้ยอมรับทั่วโลกโดยไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์ เพื่อให้พระจักรพรรดิปรากฏพระองค์ ทำได้ดังนี้
    1. หน่วยงานของรัฐหรือสื่อมวลชนจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับพระจักรพรรดิขึ้น
    2. คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ จะต้องประกาศรับสมัครบุคคลจากทั่วโลก ซึ่งมีหลักฐานพิสูจน์ตนเองเป็นพระจักรพรรดิตามพยากรณ์ที่ยอมรับได้ในระดับสากล และเชิญบุคคลดังกล่าวมาเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงทางทีวีเพื่อความเป็นธรรม
    การหาข้อเท็จจริงไม่เป็นเรื่องเสียหาย แต่จะทำให้พระจักรพรรดิพระองค์จริงปรากฏ เพื่อภัยพิบัติสารพัดทิศจะได้หยุด และพระองค์จะนำผู้คนเปลี่ยนกลียุคในปัจจุบันที่มีคนดี 1 ส่วนคนเลวคนชั่ว 3 ส่วน เข้าสู่กฤดายุคหรือยุคทองที่มีคนดีทั้ง 4 ส่วน แล้วโลกมนุษยโลกจะมีแต่สันติสุขที่แท้จริง และพระจักรพรรดิจะจรรโลงพระพุทธศาสนาให้อยู่ถึง พ.ศ. 5,000 ตามที่พระพุทธเจ้าโคตมตรัสไว้ สำหรับศาสนาพระศรีอารย์นั้นไม่มีในยุคของพระพุทธเจ้าโคตม เพราะพระศรีอารย์เป็นพระจักรพรรดิผู้มาช่วยแก้ไขปัญหา ความไม่เป็นธรรม เศรษฐกิจและสังคม ไม่ใช่เป็นพระศาสดาสอนศาสนา แต่ถ้าผู้คนไม่สนใจหาความจริงของพระจักรพรรดิ ในปี พ.ศ. 2556 ตามพุทธทำนาย (ชาวมายันบ่งไว้ 21 ธค. 2555 หรือ ค.ศ. 2012) จะเกิดการล้างโลกขึ้นเพื่อกำจัดคนบาป คนเลวคนชั่ว ยกเว้นคนดีมีศีลธรรมที่จะมีชีวิตรอดเข้าสู่กฤดายุคต่อไป

    ผู้มีบุญ มีกุศลจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ดี โปรดช่วยเผยแผ่เรื่องนี้จะเป็นมหาบุญแก่ตน  (ข้อมูลจาก Metteya/Metteyya พระศรีอารย์ ความจริงที่หนีไม่พ้น)
     
  10. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    ยุคนี้พระศรีอาริยเมตไตรย์

    ยุคนี้พระศรีอาริยเมตไตรย์ เพราะในสังคมมนุษย์ที่เจริญแล้ว ย่อมมีผู้ปกครองเพื่อให้อยู่ด้วยกันได้อย่างมีสุข ผู้ปกครองนั้นย่อมได้รับความเคารพจากผู้คน ในส่วนหนึ่งเล็กๆมาก่อนแล้วจึงขยายเป็นสังคมเล็ก และสังคมใหญ่ๆต่อไปจนถึงทั่วโลก เช่นพ่อบ้าน แม่บ้าน ผู้ใหญ่กำนัน ไปจนถึงผู้ปกครองระดับประเทศ และระดับโลก
    ในยุคหนึ่งย่อมมีผู้นำสังคมทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำให้สังคมนั้นอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข ผู้นำนั้นอาจเกิดในสังคมใดก็ได้ เช่นในสมัยพุทธกาล ในยุคนั้นที่ประเทศอินเดีย
    มีการนับถือกัน เป็นชนชั้นมีสี่ชนชั้น หรือเรียกว่าสี่วรรณะคือ
    หนึ่งพระมหากษัตริย์ สองพราหมณ์ สามแพศย์ สี่ศูทร ในกาลนั้นมีผู้นำสังคมเรียกได้ว่าเป็นผู้นำสังคมโลกตลอดกาล ได้เกิดขึ้นในวรรณะพระมหากษัตริย์ พระองค์ท่านได้ออกแสวงหาโมขธรรม ก็สำเร็จเป็นอรหันต์ จึงได้เรียกว่าพระเจ้าอรหันต์ หรือพระพุทธเจ้า หรือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ของทุกวันนี้
    ในกาลนั้นมีผู้หนึ่งได้รับการทำนายจากพระพุทธเจ้าว่า จะได้เป็นอรหันต์เหมือนพระองค์ ในกาลต่อไป มีหน้าที่ทำเหมือนพระองค์ ศาสนาจะตั้งอยู่ได้นานห้าพันปีเหมือนพระองค์ มีชื่อว่าศรีอาริยเมตไตร ในเมื่อพระองค์กล่าวว่าเหมือนกันเช่นนั้น พระองค์จึงเป็นศรีอริยเมตไตรเช่นกัน ผู้ที่เป็นต้นแบบตรัสพระสัทธรรมของโลก และปฏิบัตดีปฏิบัตชอบ องค์ไหนๆจึงเป็นศรีอาริยเมตไตรเหมือนๆกันทุกๆพระองค์ไป
    ผู้ที่ได้รับการทำนายว่าจะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าในองค์ต่อไป
    จะเกิดในวรรณะพราหมณ์ คนในยุคนั้นเขาจะเรียกกันว่า พราหมณ์พุทธะ หรือ พุทธพราหมสมณศรีอาริยเมตตไตร เพราะคนในยุคนั้นสังคมนิยมพราหมณ์ แต่คนในยุคนี้ติดคำว่าพระ จึงเรียกยุคพุทธพราหมสมณศรีอาริยเมตไตร ว่า ยุคพระศรีอาริยเมตไตร แต่จริงๆแล้วยุคนี้ก็คือยุคพระศรีอาริยเมตไตรนั้นแล
    ขอให้มีความสุข สมส่วน ทองสุขนอก
     
  11. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    ระยะเวลา2500ปี

    ระยะเวลา2500ปีธรรมชาติพร้อมสังคม
    ได้บรรดาลให้คนหนึ่งทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
    เพื่อความสุขของสังคมชั่วกาลนาน
     
  12. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    เหตุที่ผู้แสดงธรรมไม่ได้เกิดตรง พ.ศ. 2500

    เหตุที่ผู้แสดงธรรมไม่ได้เกิดตรง พ.ศ. 2500
    ตามธรรมดาจริงๆแล้วจะเกิดในปีนั้นและมีอะไรๆ
    ทุกสิ่งทุกอย่างในปีนั้นพอดี
    ยกตัวอย่างเช่นว่า เราตั้งใจจะเดินไป
    หรือขับรถไปที่ใดที่หนึ่ง แต่การไปนั้น
    อาจเสียเวลากลางทางตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย
    เลยมาถึงช้าไปบ้าง จะมีเหตุว่าเสียเวลาตรงนั้นมากน้อยเพียงใด
    ผู้แสดงธรรมก็เช่นกัน ในกาลเวลาล่วงเลยมาได้ถึง 2500ปี
    จะมีลักษณะที่โลกหมุนช้าหรือเร็ว เป็นบางขณะ
    เช่นในระบบสุริยะจักรวาลเรานี้ มีดาวดวงหนึ่ง
    ถูกกลุ่มดาวหางตกใส่ หรือดวงอาทิตย์ เกิดมีลม
    สุริยะ หรือเหตุอื่น จะทำให้ระบบดาวทุกดวง
    หมุนช้าหรือเร็วชั่วขณะหนึ่ง แต่นาลิกาของพวกเรา
    เดินเวลาตรงระยะเวลาที่เท่ากันดังนั้น เวลาที่โลกหยุดหมุน
    ชั่วขณะเดียวหนึ่งครั้ง จึงทำให้เวลาของพวกเรา ตีห่างออกไปจากความเป็นจริง ดังนั้นนักดาราศาตรย์ จึงทายเวลาคลาดเคลื่อน
    ไม่ตรงตามที่คำนวณเอาไว้ได้ทั้งหมด
    ผู้แสดงธรรมก็เช่นกัน ทุกอย่างจะมีเหตุ
    คลาดเคลื่อนได้ดังนี้แล
     
  13. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    ไม่ตั้งสิกขา

    พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งสิกขาเอาไว้
    ศาสนาจะตั้งอยู่ได้5,000ปี ถ้าไม่ตั้งสิกขาเอาไว้
    ศาสนาจะตั้งอยู่ได้2,500ปี ดังนั้นต้นพุทธกาล
    ถึงกึ่งพุทธกาล จึงเป็น พระอรหันตสัมมาสัม
    พุทธเจ้าไม่ได้ตั้งสิกขาเอาไว้
     
  14. สมทิ สมวา

    สมทิ สมวา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +103
    โปรดใช้อริยปํญญาพิจารณาเอกสารนี้

    โปรดใช้อริยปํญญาพิจารณาเอกสารนี้ด้วยข้อเท็จจริง
    จักสร้างกุศลมีผลบุญแก่ท่าน

    จากการศึกษาค้นคว้าถึงเหตุผล หาที่มาที่ไป และได้พบหลักฐานที่น่าเชื่อถือสนับสนุนข้อเท็จจริงมากมาย ที่พระศรีอารย์หรือพระศรีอาริยเมตไตรยจักปรากฏในกึ่งพุทธกาล มีความชัดเจนขึ้น เรื่องจะเชื่อในเอกสารที่ถือสืบเนื่องกันมาหรือไม่นั้น ควรคิดพิจารณาว่าเป็นกุศลธรรมหรือไม่่จักดีกว่า โปรดใช้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมาเปรียบเทียบ แล้วท่านอาจเห็นประโยชน์ได้้

    ในทางพระพุทธศาสนา ขอเริ่มต้นด้วยพระไตรปิฏก ๒๐ กัณฑ์์ ที่ อจ.ธวัช เที่ยงประภัสสร์ ปธ. ๙ วัดเบ็ญจมบพิตร รวบรวมไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๘ ที่ส่วนหนึ่งสรุปได้ว่า พระพุทธเจ้าโคตมกับพระศรีอาริยเมตไตรยที่ได้สร้างกรรมไว้ในอดีตชาติ คือเมื่อกล่าวถึงพุทธกาลนั้นมี 5000 ปี จะแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนละ 2500 ปี หรือกึ่งหนึ่ง

    พระพุทธองค์ทรงเล่าให้พระอานนท์ฟังต่อไปว่า
    "อันชาติหนึ่งสองเราสหายสนิท ช่วย กันคิดเอาบัวมาอธิษฐาน เพื่อเสี่ยงทายบารมีพุทธกาล ให้บัวบานบอกแจ้ง เป็นผู้ใด" ในชาตินั้นเราทั้งสองจึงเอาดอกบัวมาคนละดอก เข้าไปอธิษฐานในพระวิหารว่า ถ้าใครจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก่อน ก็ขอให้ดอกบัวของผู้นั้นบานก่อน ครั้นวันรุ่งขึ้นพระตถาคตได้เข้าไป ดูดอกบัวนั้น แต่ยังไม่ทันสว่างแจ้ง เห็นดอกบัวของพระศรีบานก่อน ด้วยความที่อยากเป็นพระพุทธเจ้าก่อนพระศรี จึงลักเปลี่ยนดอกบัวของพระศรีมาไว้ที่พระตถาคต สับเปลี่ยนกันเสีย "บัว ของน้องบานแล้วนะพี่จ๋า สัมพุทธาน้องย่อมได้ไปก่อนแน่ แต่ไฉนบัวในมือ เดี๋ยวหุบเดี๋ยวก็แบ พุทธยังไม่เที่ยงพุทธยังไม่แท้น่าอายจริง"

    ฝ่าย พระศรีนั้นเขาฌานแก่ รู้ว่ามีการสับเปลี่ยนบัว จึงทำนายว่า "โอ! สหายท่านจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก่อนเราจริง แต่ทว่าฝูงมนุษย์ยุุคนั้นจะเป็นคนขี้ลักขี้ล่าย และใช้เงินดำ เงินแดง เงินกระดาษกัน อย่างพร่ำเพรื่อ มนุษย์จะไม่ซื่อสัตว์ต่อกัน จะทุจริต คิดมิชอบนานาประการ พระสงฆ์องค์เณรพุทธบริษัทในศาสนานั้น จะหาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้ เดี๋ยวบวช เดี๋ยวสึก เดี๋ยวหุบ เดี๋ยวแบดังบัวดอกนี้"
    เพราะกรรมที่พระพุทธโคดมได้สับเปลี่ยนบัว ถึงแม้ว่าพระองค์และเหล่าพระอรหันต์สาวกจะเข้าพระนิพพานไปแล้วก็ตาม แต่กรรมนั้นยังติดอยู่ในศาสนาของพระองค์ ตราบเท่าทุกวันนี้ ที่เหลือไว้แต่สมมติสงฆ์ในศาสนาของพระองค์ จึงรู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง พุทธศาสนาที่เสียหายสามส่วน คือ
    ถูกพราหมณ์ผู้ไม่รู้จริงเอาไปผสมผสานกับลัทธิพราหมณ์ส่วนหนึ่ง
    ยักษ์เอาพุทธศาสนาไปทำมาหากินส่วนหนึ่ง และ
    มารเปลี่ยนแปลงคำสอนให้เกิดความผิดเพี้ยนเสียหายยิ่งอีกส่วนหนึ่ง
    เหลือส่วนที่เป็นจริงมีเพียงส่วนเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อข้อวัตรปฏิบัติถูกปนจนแยกแยะไม่ออก ผู้คนเกิดมาสมัยหลัง จึงไม่เข้าใจทางศึกษาปฏิบัติที่ถูกมรรค ผล นิพพานอย่างแท้จริง ซึ่งความเสื่อมของสงฆ์นี้พระพุทธเจ้าตรัสไว้มาจากสาเหตุ 5 ประการ

    พระพุทธโคดมทรงเล่าอดีตกรรมจบลง พร้อมพยากรณ์เหตุการณ์สืบไปอีกว่า
    เมื่อ พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์จะมาช่วยสืบอายุพุทธศาสนาในกึ่งพุทธกาล ของพระตถาคต นั้น จะมีสรรพวัตถุทั้งหลายบังเกิดขึ้นแก่โลก อย่างแปลกประหลาดเหลือจะคณานับ ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์นานาชนิด ก็จะไม่ได้ปั่นและทอด้วยมือ เหมือนในศาสนาของตถาคตจะมีแต่ผ้าเนื้อบริสุทธิ์ ฝูงมนุษย์จะไม่ติเตียนว่า เป็นขี้หูขี้ตาเขาเท่าจะวัดวา (วัดหลาหรือเมตร) ก็จะมีในยามนั้น แม่หญิงจะนุ่งซิ่นเสื้อลายเหมือนหนังแย้ จะนุ่งเสื้อผ้าแขนกุดขาก้อม หญิงชายจะนุ่งผ้าเป็นอย่างเดียวกัน จะว่าชายก็บ่จริง จะว่าหญิงก็บ่แม่น แม่หญิงจะหวีผมปกหน้า จะใส่ต่างหูยาวง้ำหน้า พ่อชายจะใส่หมวกหุ้มหน้า สิ่งที่ไม่รู้จะได้รู้ สิ่งที่ไม่พบเห็นก็จะได้เห็น พร้อมด้วยบุรพนิมิตอันชั่วร้ายต่าง ๆ ก็จะบังเกิดขึ้นแก่โลกมากมายยิ่งนักดังนี้

    1. ราชภัย ท้าวพระยาจะบังคับเบียดเบียนพลเมือง
    2. โจรภัย จะบังเกิดโจรผู้ร้ายปล้นสะดมทั่วไป
    3. อัคคีภัย ไฟจะไหม้บ้านเมืองไม่ขาดสาย
    4. อสุนีบาต ฟ้าจะผ่าสัตว์และคนล้มตายบ่อย ๆ
    5. เมทนีภัย แผ่นดินจะไหวสะท้านและแยกออกจากกัน
    6. วาตภัย จะเกิดลมพายุพัดพาบ้านเมืองพินาศ
    7. อุทกภัย น้ำท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นา
    8. ทุพภิกขภัย จะเกิดข้าวยากหมากแพงและอดอาหาร
    9. พยาธิภัย จะเกิดโรคระบาดคนและสัตว์ล้มตาย
    10. สัตถภัย จะรบราฆ่าฟันกันล้มตายร้ายแรง

    ในขั้นสุดท้าย แผ่นดินจะไหวเดือนละหลายครั้ง จะมีสุริยคราสและจันทรคราสบ่อยครั้ง จะเห็นผีพุ่งไต้บ่อยๆ ดาวหางและแสงประหลาดจะบังเกิดให้เห็นไม่ขาดระยะ จะได้ยินเสียงดังในอากาศคล้ายระเบิดและปืนใหญ่ แร้งกาจะบินลงเกาะบ้านเมืองอย่างผิดธรรมดา ฝูงมนุษย์จะเดือดร้อนและขวักไขว่กันไปมา จะบังเกิดสงครามฆ่าฟันกันตายเหมือนใบไม้ร่วงไปทุกหนทุกแห่ง

    ความจริงในปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าพยากรณ์ทั้ง 10 ข้อเกิดขึ้นจริง อาเพศต่างๆ บังเกิดอย่างต่อเนื่อง แผ่นดินไหวเกิดขึ้นมากมายกว่าที่เคยมีมา ฝนดาวตกเห็นได้บ่อยครั้ง แสงบนท้องฟ้าเกิดขึ้นสว่างไสว สัตว์เล็กสัตว์ใหญมีทั้งนกทั้งปลา่พากันมาตายมากมายก่อนหน้ามหาภัยพิบัติ เกิดขึ้น เกิดข้าวยากหมากแพงไปทั่วทิศ การรบราฆ่าฟันมีอยู่ทั่วไป

    ครั้นแล้วถึงกาลที่องค์พระเมตไตรยโพธิสัตว์จะปรากฏเป็นที่พึ่งแก่โลกตามบุรพกรรมสัญญา

    เหตุการณ์ที่กล่าวถึงการมาปรากฏของพระศรีอารย์ในกึ่งพุทธกาล มีอยู่เช่นเดียวกันในพุทธทำนายที่แกะสลักไว้บนศิลา ในเขตมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย คาดว่าพระสารีบุตรเถระผู้มีความสนใจในยุคของพระจักรพรรดิ ควรเป็นผู้ที่ทำให้เกิดการแกะสลักพุทธทำนายนี้ไว้
    ท่านผู้มีกุศลปัญญา ถ้าได้โปรดพิจารณากับความเป็นจริงแล้ว น่าจะเห็นข้อเท็จจริงได้ไม่มากก็น้อย

    เรื่องเทพและมารเป็นสิ่งที่ผู้คนส่วนมากในสมัยนี้ไม่สนใจ ถ้าไม่หวังพึ่งพาให้เกิดผลประโยชน์แห่งตน เมื่อกล่าวถึงหลักฐานมีพอเพียงที่สามารถหาความเป็นจริงได้ว่าเทพและมารมี จริง ทำไมยกเรื่องเทพและมารมากล่าว ทั้งนี้เพราะพระผู้มีพระภาคตรัสว่าผู้คนจะไม่สนใจพุทธทำนาย ถึงแม้ว่าสิ่งที่บ่งไว้มีความถูกต้องมาก

    เรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับเทพคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอินเดียและนาซาของสหรัฐอเมริกาตั้งโครงการ ร่วมกันเพื่อศึกษาโยคี เจนิ อายุ 76 ปี ผู้อาศัยในถ้ำไม่ทานอาหารและดื่มน้ำมาเป็นเวลา 60 ปี  จากการศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ 21 ท่านในช่วงเวลา 10 วัน ยังไม่สามารถพบสิ่งผิดปกติของโยคีผู้ไม่ดื่มน้ำทานอาหารท่านนี้ได้ โยคีผู้นี้เล่าว่าเมื่ออายุ 7 ขวบได้ออกจากบ้านเพื่อบำเพ็ญตบะ และเมื่ออายุ 11 ปี เขาได้รับการดูแลจากเทพเทวีทำให้ไม่ต้องการอาหารและน้ำดื่มใดๆมาจนถึงทุก วันนี้

    สำหรับพุทธทำนายเป็นเรื่องของการเปลี่ยนยุคจากกลียุคที่มีคนเลวคนชั่วถึง 3 ใน 4 ส่วน เหลือคนดีเพียง 1 ส่วน ไปเป็นกฤดายุคหรือยุคทองที่มีคนดีทั้ง 4 ส่วน การที่จะเกิดกฤดายุคในช่วงปัจจุบันได้นั้น ตามพุทธทำนายจะเกิดภัยพิบัติสารพัดทิศและมีเหตุการณ์ตามตำนานของศาสนาต่างๆ เกิดขึ้นก่อนเพื่อจะขจัดคนเลวคนชั่ว ซึ่งพระพุทธเจ้าโคตมตรัสว่าผู้คนจะไม่สนใจในพุทธทำนาย

    จากข้อเท็จจริงที่เป็นรูปธรรมแสดงว่า คำทำนายเหตุการณ์ในปัจจุบันนั้นถูกต้อง คงเหลือส่วนสุดท้ายคือโลกาวินาศ(การล้างโลก)ในปี 2556 เราทั้งหลายโปรดพิสูจน์ความจริงเพื่อรับรองพระโพธิสัตว์สองพระองค์คือ พระมหาเถรโพธิสัตว์คือรัชการที่ 9 และพระธรรมมิกราชหรือพระจักรพรรดิที่จักช่วยให้มนุษย์พ้นมหันตภัยล้างโลกที่ จะเกิดขึ้นอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวในเร็วๆ นี้

    พระพุทธเจ้าตรัสเช่นเดียวกับคำทำนายในศาสนายูดาแม่บทของคริสต์ และมุสลิมที่ว่า จะไม่มีใครสนใจในคำทำนายเกี่ยวกับพระจักรพรรดิที่จะมาปรากฏในปัจจุบันเช่น กัน ดังนั้นโปรดรู้ทันมาร อย่าให้มารดลใจให้เรามีมิจฉาทิฐิหลงผิดในกุศลธรรมคือไม่ยอมพิสูจน์ความจริง

    ทำไมศาสนาพุทธจึงเป็นที่พึ่งของสัตว์โลกไม่ได้ตลอดพุทธกาล (ถึง พ.ศ. 5000) สิ่งเหล่านี้เป็นเพราะกรรมอันใดเล่า กรรมแห่งศาสนาของพระพุทธโคดมมีมาเช่นไร สามารถหาข้อมูลเพื่อวินิจฉัยได้ เช่นจาก พระเมตไตรยต้องบุรพกรรม
    ก่อนกึ่งพุทธกาล

    องค์อินทราธิราชเจ้าพร้อมทั้งเหล่าทวยเทพ น้อยใหญ่ทั้งหลาย จึงพร้อมใจกันไปอาราธนาอัญเชิญ พระเมตไตรยมหาโพธิสัตว์ ยังดุสิตเทวโลก ขออาราธนาอัญเชิญพระองค์ท่านมาช่วยสืบอายุพระพุทธศาสนา โปรดลงไปช่วยต่อชะตาชาวพุทธ ต่อชะตาบ้านเมืองและศีลธรรม สืบอายุอาณาจักรและพุทธจักรให้ครบพุทธกาล ขอได้ทรงพระเมตตาไปช่วยชาวโลก โปรดโลก เปิดธรรม ตัดเวร และอโหสิกรรม สะสางธาตุธรรม ชี้ทางที่ถูกต้องเที่ยงตรง และเที่ยงธรรม ในฝ่ายสัมมาทิฐิแต่ส่วนเดียว แก่เหล่ามนุษย์ด้วยพระเจ้าข้า

    เมื่อกล่าวถึงการสอนธรรมะของศาสนาต่างๆ จะมีความเชื่อที่แตกต่างกัน เช่นการพึ่งพระเจ้า การพึ่งตนเอง เป็นต้น แต่ในเรื่องการมาปรากฏของพระจักรพรรดิในปัจจุบัน พุทธทำนายมีข้อมูลตรงกับและสนับสนุนกันกับศาสนาโลกอื่นๆ สำหรับที่มีบางคนกล่าวถึงพระเมตรไตรยจะมาปรากฏในเวลาอื่นที่ไม่ใช่กึ่ง พุทธกาลนั้น ไม่มีหลักฐานชัดเจนหรือขาดเหตุผลมาสนับสนุนความเป็นจริง
    โปรดอย่าให้มารมาสิงสู่จิตใจ มองเห็นสิ่งดีมีค่าเป็นอย่างอื่น อย่างที่พระพุทธเจ้าและผู้มีญาณพิเศษที่เห็นอนาคตกาลได้กล่าวไว้ว่าจะไม่มี ใครสนใจในพยากรณ์

    ขอให้พิจารณาถึงพยากรณ์ของพุทธทำนายปี พ.ศ. 2556 นั้นใกล้เคียงพยากรณ์ของพวกมายันที่บ่งไว้ในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 (ค.ศ. 2012) และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปี 2535 ของนอสตราดามุสกับการปรากฏของพระเมตไตรย (พระศรีอารย์) ตรงตามพุทธทำนาย

    ตามพระพุทธประวัติ มารพยายามทำลายพระพุทธศาสนา อย่างเช่นพญาวัสวดีมารผู้ใจบาป นางจินจมานวิกาและพระเทวทัต ในทำนองเดียวกันมารก็พยายามไม่ให้พระศรีอารย์ได้ปรากฏเช่นกัน ดังนั้นการพิสูจน์ความจริงเพื่อให้พระศรีอาร์องค์จริงปรากฏจึงไม่เป็นเรื่อง เสียหาย ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน ไม่ใช่เป็นเรื่องของมารใจบาป ไม่เป็นการหลอกลวง ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ ไม่เป็นการประมาท ไม่เป็นการลบหลู่พุทธทำนาย แต่ถ้าเรื่องดังกล่าวพิสูจน์ได้เป็นจริงแล้ว จะเป็นประโยชน์แก่มนุษยโลกโดยตรง

    จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ชมนิทรรศการเรื่องพระศรีอารย์ในวันวิสาขบูชา ที่ท้องสนามหลวง ปี 2552 กว่า 200 ท่าน จากการสำรวจ 100% เห็นควรให้มีการหาข้อเท็จจริงในเรื่องพระศรีอารย์ขึ้นเพื่อประโยชน์ของ ประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน
    Metteya/Metteyya พระศรีอารย์ ความจริงที่หนีไม่พ้น มีรายละเอียด ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2015
  15. DarKKazE

    DarKKazE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +239
    อา.......ตู่พุทธพจน์

    มีอบายภูมิเป็นที่ไป

    ปล.ผมอุทานของผมนะครับ
     
  16. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    สิ่งที่รู้เฉพาะตน
     
  17. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    *อนุสาสนีปาฏิหาริย์*

    [FONT=&quot]*อนุสาสนีปาฏิหาริย์*[/FONT][FONT=&quot] 14/ก.ย./2548 [/FONT] [FONT=&quot] ดวงตาทำให้มนุษย์คนหนึ่งเจริญขึ้นหรือดับลง และถ่ายทอดจากคนหนึ่งไปสู่คนทั่วโลกได้ด้วยเหตุการณกะพริบตา เพราะว่าเวทนาเริ่มจากการกะพริบตา เหมือนไม้ขีดไฟ เมื่อเอากล่องไม้ขีดกับลูกไม้ขีด มาขีดกันก็จะเกิดเป็นไฟ หรือมือหนึ่งถือกล่องไม้ขีด อีกมือหนึ่งถือลูกไม้ขีด แล้วมารวมขีดเป็นไฟ ซึ่งจะเรียกว่า มือหนึ่งเป็นอย่างหนึ่ง มือหนึ่งเป็นอีกอย่างหนึ่ง พอเอามารวมกันก็เป็นอีกอย่างหนึ่งหรือเป็นไฟ เมื่อเป็นไฟแล้วเอาไฟไปรวมอีกอย่างหนึ่งก็เป็นกองไฟ ต่อจากนั้นจึงจะเป็นไฟไหม้สิ่งต่างๆเป็นต้น แต่บ่อเกิดของกองไฟก็คือกล่องไม้ขีดกับลูกไม้ขีดนั้นเอง ดวงตาทุกคนก็เช่นกัน เวทนาทั้งหลายทั้งปวงก็เกิดจากการกะพริบตา เมื่อกะพริบตาครั้งหนึ่ง เวทนาจะเข้าควบคุมใบหน้า แล้วจึงลามไปถึงลำตัวทั่วแขนขา ต่อจากนั้นจึงเกิดการเคลื่อนไหว หรือเปรียบเสมือนเรากำลังถือธนูอยู่ หวังจะยิงสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้ตรงจุด จึงทำการเหนี่ยวด้วยแรงเต็มที่หวังจะยิงสิ่งนั้นให้ได้ ถ้าเราปล่อยลูกธนูออกไป จะเปรียบได้ว่าได้กะพริบตาไปแล้ว แต่ถ้ายังไม่ได้ปล่อยลูกธนูออกไป จะเปรียบได้ว่า สุดยอดเทคนิคปัญหาของพระพุทธองค์อยู่ตรงนี้นี่แล ผู้แสดงธรรมเพิ่งรู้สิ่งนี้ก่อนถึงกลางเดือนนี้ เวลา4โมงเย็น แต่เป็นปี ค.ศ.2001 สิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้น เป็นถนนหลวงสายใหญ่ ชื่อว่า ถ.ประชาราษฎร์สาย2 มีความหมายว่า เป็นประชาชน สิ่งอยู่ติดทางข้างหน้าเป็นร้านเปลี่ยนทรงผม มีชื่อว่าสำเร็จบาร์เบอร์ สิ่งที่อยู่เบื้องขวาเป็นคิวรถ3ล้อ มีความหมายว่า เป็นไอคิวเวทไตร สิ่งที่อยู่เบื้องซ้าย เป็นตึกหอพัก6ชั้น มีชื่อว่ามังกรพานิชย์ มีความหมายว่า เกี่ยวกับการค้า ตรงที่ยืนอยู่มีชื่อว่า ปากซอยสะพานขวา มีความหมายว่า เป็นสะพานเชื่อมโยง ขอบเขตภูมิประเทศเป็นเขตที่ตรงไปตรงมา มีชื่อว่าเขตบางซื่อ มีความหมายว่าเป็นสัตย์ธรรม เป็นประเทศไทย มีความหมายว่า สัตย์ธรรมความเป็นไทย อันว่าชื่อใดๆของสถานที่ ยืนอยู่[/FONT], [FONT=&quot]ตรงหน้า[/FONT], [FONT=&quot]ด้านขวา[/FONT], [FONT=&quot]ด้านซ้าย ล้วนแต่มีความหมาย ได้มาประจวบรวมกันในที่เดียว จะเป็นไปเพื่อการแสดงธรรมในที่สุด เริ่มเขียนธรรมเป็นรูปเล่ม วันเพ็ญเดือน12ปี ค.ศ.2003 รวบรวมธรรมเป็นรูปเล่ม วันเพ็ญเดือน6ปี ค.ศ.2004 (-เกิด-ดับ-หลับ-ตื่น-ตาย- ก็ฝัน ) [/FONT]
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" DefUnhideWhenUsed="true" DefSemiHidden="true" DefQFormat="false" DefPriority="99" LatentStyleCount="267"> <w:LsdException Locked="false" Priority="0" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Normal"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="heading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="35" QFormat="true" Name="caption"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="10" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" Name="Default Paragraph Font"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="11" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtitle"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="22" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Strong"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="20" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="59" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Table Grid"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Placeholder Text"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="No Spacing"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Revision"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="34" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="List Paragraph"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="29" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="30" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="19" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="21" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="31" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="32" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="33" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Book Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="37" Name="Bibliography"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" QFormat="true" Name="TOC Heading"/> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:11.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Calibri","sans-serif"; mso-ascii-font-family:Calibri; mso-ascii-theme-font:minor-latin; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-theme-font:minor-fareast; mso-hansi-font-family:Calibri; mso-hansi-theme-font:minor-latin; mso-bidi-font-family:"Cordia New"; mso-bidi-theme-font:minor-bidi;} </style> <![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <o:shapedefaults v:ext="edit" spidmax="1026"/> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <o:shapelayout v:ext="edit"> <o:idmap v:ext="edit" data="1"/> </o:shapelayout></xml><![endif]-->
     
  18. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    *-2500--กึ่งพุทธกาล--2600-*

    [FONT=&quot]*-2500--กึ่งพุทธกาล--2600-*[/FONT][FONT=&quot] 28/ธ.ค./2549[/FONT]
    [FONT=&quot] การดำรงอยู่ของสิ่งที่มีชีวิต และสิ่งที่ไม่มีชีวิต ย่อมดำรงอยู่ได้ด้วยเหตุปัจจัยหลายๆอย่างมารวมกัน จึงไม่เว้นแม้แต่บุคคลตัวตนเราท่าน ด้วยการดำรงอยู่ได้ ของเหตุปัจจัยหลายๆอย่างมารวมกัน เป็นสังคมบ้าง เป็นบุคคลบ้าง ในแต่ละสังคม หรือในแต่ละบุคคล ต่างก็ย่อมมีเหตุปัจจัยอันทำให้ดำรงอยู่ได้ ตามสมควรแก่เหตุปัจจัยนั้น แต่เหตุปัจจัยนั้นย่อมมีจิตเป็นที่ยึดเหนี่ยว จิตของบุคคลในสังคมนั้นแล อันเป็นเหตุทำให้ สังคมแต่ละสังคมมีความหลากหลายจึงไม่เหมือนกันแม้แต่สังคมเดียว เหมือนบุคคลในโลกที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไป จึงสรุปใจความว่าแต่ละบุคคล จะดำรงอยู่ได้ หรือไม่ได้ก็ด้วยจิตของตนเป็นเหตุ บุคคลคนหนึ่งๆตลอดชีวิต ย่อม ได้เห็น[/FONT],[FONT=&quot] ได้ยิน[/FONT],[FONT=&quot] ได้ฟัง[/FONT], [FONT=&quot]มีความเห็นเพื่อเลี้ยงชีพตนให้คงอยู่ได้ แต่สิ่งที่อยู่นอกเหนือไปกว่านั้นย่อมหนีไม่พ้นโลกธรรม8ประการ ผู้ที่เข้าถึงโลกธรรมทั้ง8ในเวลาเดียว ย่อมเห็นปัญหาทั้งหมด พร้อมทั้งทางแก้ไข เหมือนได้นั่งดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ซึ่งในภาพยนตร์นั้นย่อมมีตัวละคร แสดงบทบาดที่แตกต่างกันออกไป คนหนึ่งเล่นเป็นอย่างหนึ่ง และอีกคนหนึ่งก็เล่นเป็นอีกอย่างหนึ่ง หากแม้ตัวละครคนหนึ่งเล่นนอกบทเสีย ละครนั้นก็ไม่เป็นละคร หรือไม่เป็นไปตามบท[/FONT]

    [FONT=&quot] ------+------[/FONT]
    [FONT=&quot] อนึ่งศีลอริยะเวทไตร หรือการตั้งใจของมนุษย์ที่ทำให้เป็นศีลอริยะเวทไตรนั้น ตั้งใจพร้อมกัน3ประการ คือ 1 ตั้งใจทำ 2 ตั้งใจเกิด 3 ตั้งใจศีล ศีลนั้นมีโครงสร้างลักษณะที่แตกต่างกันออกไปด้วยเหตุประการทั้งปวง ศีล227เหมือนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศีลขาด[/FONT], [FONT=&quot]ศีลต่อ[/FONT], [FONT=&quot]ศีลรับ[/FONT], [FONT=&quot]ศีลลา[/FONT], [FONT=&quot]ศีล8[/FONT], [FONT=&quot]ศีล5[/FONT],
    [FONT=&quot]หรือศีลอริยะเวทไตร[/FONT], [FONT=&quot]แต่ละศีลย่อมไม่เหมือนกันสักอันเดียว ถึงเหมือนกันแต่ก็เหมือนคู่แฝดที่เกิดมาคล้ายกัน แต่ต่างกันที่เป็นคนละคน ด้วยเหตุว่าโลกธรรมมีเส้นทางธรรมน้อยใหญ่ หลายเส้นสายที่นำให้ถึงโลกธรรมทั้ง8ในเวลาเดียวกันนั้น มีลักษณะต่างๆกัน มีเส้นทางธรรมอันหนึ่งที่เห็นได้ชัด คือลักษณะสุดปลายเส้นทางธรรมก่อนถึงศีลอริยะเวทไตร ซึ่งมีลักษณะเหมือนภาพหลายๆภาพเรียงตามลำดับวิ่งผ่านแสงความเร็วพอเหมาะ ทำให้เห็นเสมือนจริงแต่เป็นเพียงภาพยนตร์ สุดปลายเส้นทางธรรมก่อนถึงศีลอริยะเวทไตร ก็เช่นกัน โลกธรรมทั้ง8จะเรียงตามลำดับวิ่งผ่านเวทไตรความเร็วพอเหมาะ ทำให้เห็นเสมือนจริงดั่งได้นั่งดูภาพยนตร์ฉะนั้น ผู้ต้องประสงค์พึงถึงได้ แต่ต้องมีคุณธรรม5ประการ คือ 1 มีศรัทธาเคารพรักต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 2มีใจตั้งอยู่ในศีลห้าเป็นอย่างน้อย หรือตั้งอยู่ในศีลแปดเป็นอย่างมาก 3 มีจิตเป็นสมาธิรอบรู้ในรูปฌานหนึ่งถึงสี่ 4 มีความรู้รอบด้านในโลกธรรมด้วยโลกธรรมเป็นทุกข์หลุดพ้นได้โดยไม่ยึดมั่นในท่ามกลางของเวทไตร 5 เอาพระคุณของเวทไตรรื้อถอนโลกธรรมทีละสามๆๆพร้อมสามถึงเก้าครั้ง และสามในคุณอันอื่น แล้วรวมความรู้สึกนึกคิดครั้งสุดท้ายเข้าถึงรูปฌานอันดับที่สี่ คุณธรรม 5 ประการนี้แลที่ทำให้เกิดศีลอริยะเวทไตร [/FONT]

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" DefUnhideWhenUsed="true" DefSemiHidden="true" DefQFormat="false" DefPriority="99" LatentStyleCount="267"> <w:LsdException Locked="false" Priority="0" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Normal"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="heading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="35" QFormat="true" Name="caption"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="10" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" Name="Default Paragraph Font"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="11" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtitle"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="22" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Strong"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="20" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="59" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Table Grid"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Placeholder Text"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="No Spacing"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Revision"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="34" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="List Paragraph"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="29" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="30" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="19" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="21" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="31" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="32" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="33" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Book Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="37" Name="Bibliography"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" QFormat="true" Name="TOC Heading"/> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:11.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Calibri","sans-serif"; mso-ascii-font-family:Calibri; mso-ascii-theme-font:minor-latin; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-theme-font:minor-fareast; mso-hansi-font-family:Calibri; mso-hansi-theme-font:minor-latin; mso-bidi-font-family:"Cordia New"; mso-bidi-theme-font:minor-bidi;} </style> <![endif]-->
     
  19. beerdekpee

    beerdekpee Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +61
    3500จะเกิดสงครามศาสนา ผมว่า ถ้าเกิดจริงก็คงมีสงคราม พุทธอิสลามนี้แหละ
    เพราะอิสลามกำลังวางแผนโครงโลก แต่น่าจะใกล้สมบูรณื ก็3500 มั่วๆเอานะ
     
  20. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    ความเป็นจริงของมนุษย์โลก

    ตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์มาจนถึงปัจจุบัน เฉลี่ยแล้วร่างกายคนเรา เมื่อต้นพุทธกาล
    ร่างกายคนเราสูง 8ศอก พอมาถึงปัจจุบัน กึ่งพุทธกาล ต่ำลงมา 4 ศอก
    เมื่อถึงปลายพุทธกาลอีก 2500ปี ร่างกายคนเราจะต่ำลง 2 ศอก

    ดังนั้นความเป็นจริงของโลกจึงเป็นไปตามลำดับ จะเสื่อมแล้วก็เจริญอยู่
    เช่นนี้ เมื่อต้นพุทธกาลความเจริญของมนุษย์โลก จะเจริญทางด้านจิตรใจ
    และด้านวัตถุ อยู่คนละซีกโลก แล้วต่างก็ค่อยๆขยายออกไป เท่าที่จะขยายได้

    เพราะว่าโลกนี้กลมทั้งสองจึงมาประจวบรวมกัน ตรงกึ่งพุทธกาล
    ถึงมนุษย์จะเหลือเพียง 4 ศอก แต่จะเจริญถึงขีดสุด เพราะทั้งสอง ได้มาประจวบรวมกัน

    เมื่อเจริญแล้วก็จะเสื่อมถึงขีดสุด เมื่อไปถึงอีก 2500 ปี
    มนุษย์จะเหลือเพียง 2 ศอก

    แต่ในยุคนั้นอายุของมนุษย์ ก็จะน้อยลงเหลือเพียง 25 ปี
    ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ตาม จะมีอยู่คนหนึ่งที่จะเป็นจุดกำเนิด
    ของโลกใหม่ จะเจริญทางด้านจิตรใจ และด้านวัตถุ
    คนๆนี้คิดสี่งใดจะได้สิ่งนั้น และได้ด้วยความบังเอิญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มกราคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...