หลวงปู่ทองทิพย์ ปิดตาจันทรคราส เหล็กไหลไพรดำ เหล็กเปียก เหล็กไหลเงินยวง

เรื่องปู่มาโปรดวิญญานที่กรุงเทพฯ. เล่าโดยสามเณรคนเดิม.

จากความทรงจำอดีตของสามเณรน้อย ที่เคยติดตามปู่เข้ากรุงเทพเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน โดยมีพี่สาวหลวงปู่ที่ร้อยเอ็ดมาส่งที่กรุงเทพฯ มาบ้านลูกศิษย์คนหนึ่งที่นิมนต์ปู่มานั่งที่บ้านเขา ซึ่งเป็นตึก ๕ ชั้น เขาจัดที่พักให้ท่านชั้นบนสุด หลวงปู่ท่านพักบนเตียงส่วนสามเณรจำวัดกับพื้น สามเณรเล่าว่าคืนนั้นทั้งคืนเณรไม่ได้นอนเลย มีเสียงโหยหวนทั้งเด็กเล็ก คนแก่ หญิงสาวขนหัวลุกทั้งคืนเณรว่าเป็นเสียงของวิญญานที่ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด ยังวนเวียนในบ้านตึกหลังนี้ถึงว่าลูกศิษย์คนนี้จึงนิมนต์ปู่มาโปรด

พอสักพักสามเณรเห็นหลวงปู่นั่งสมาธิเพียงไม่นานเสียงต่างๆก็ค่อยๆหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นณที่นั้น. เสมือนตื่นจากความฝัน พอรุ่งเช้าลูกศิษย์ก็นำจังหันมาถวายและส่งปู่กลับวัดที่หนองคาย จากวันนั้นมาก็ไม่มีเสียงวิญญานมารบกวนลูกศิษย์ที่กรุงเทพเขาอยู่กันด้วยความปกติ เขาบอกว่าโล่งจริงๆและซาบซึ้งในความเมตตาที่หลวงปู่มาโปรดเขาและวิญญานเหล่านั้นให้ได้ไปผุดไปเกิด สาธุกราบเมตตาบารมีปู่ครับ สามเณรคนนี้ก็เล่าต่อว่าช่วงที่ปู่มาอยู่วัดสีดาใหม่ๆที่บริเวณนี้แรงมากใครๆก็อยู่ไม่ได้คนอีสานว่า"เข็ด" ในวัดจะมีต้นกระบกสูงใหญ่มาก ตอนกลางคืนจะมีเสียงเปรตร้องและปรากฎให้คนเห็นอยู่บ่อยๆทำให้ชาวบ้านฝายแตกเกิดความหวาดกลัว ตอนหลวงปู่มาอยู่ใหม่ๆก็เคยเจอและท่านก็ปราบเปรตตนนี้จนร้องว่ากลัวแล้วๆไม่เอาแล้ว ยอมแล้ว จากนั้นก็เงียบสงบไม่มีใครพบเจอเปรตตนนี้อีกเลย ...

 

วัตถุมงคลอีกอย่างของหลวงปู่ที่หลวงปู่เมตตาจารให้คือ ตะกรุดนารายณ์สิบกร หลวงปู่บอกว่าถ้าที่ไหนมีอาถรรพ์ ที่แรง ๆ ผีที่ไม่ดีให้ใช้ตะกรุดอกนี้ไปทำพิธี ครับ

นำมาให้ชม แผ่นทองแดงยาวสิบสี่นิ้ว น่าจะมีเพียงดอกเดียวครับ ​

 

เมื่อวันที่ ๑๙ ธ.ค. ที่ผ่านมา ผมได้แวะเวียนไปที่วัดถ้ำเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

ผมได้เจอพี่ชายท่านหนึ่งซึ่งสามารถรับรู้พลังงานต่าง ๆ ได้ดี ผมนำพระปิดตาจันทรคราสให้แกสัมผัส ... ปิดตาเล็ก พุทธกวัก แกบอกว่าพลังแรงมากจันทราคราส และเป็นแสงสว่างออกมาจากองค์พระ แทบไม่ต้องใช้กำลังในการดู ส่วนพระปิดตาเล็ก กับพุทธกวักสู้ไม่ได้เลยในเรื่องของการป้องกันภัย แต่จะออกในเรื่องของการเงิน เมตตา จะเด่นในทางนี้มากกว่า ป้องกันก็ดีแต่จะไม่ดุดันเท่าจันทรคราส ถ้าจะให้เปรียบ ขุนศึกกับขุนคลัง น่าจะชัดเจนสุด

 

"พลังงานวัตถุมงคลหลวงปู่ทองทิพย์" บรรดาท่านผู้มีสัมผัสพิเศษที่เคยตรวจพุทธคุณในองค์พระท่าน เท่าที่ทราบก็มีอย่างพระจันทรคราสสุภาพสตรีท่านหนึ่ง(ของเก่าเธอเยอะ). บอกว่าเห็นนิมิตเหมือนพระอาทิตย์ดวงใหญ่มากมีเปลวเพลิงสีแดงส้มแผ่กระจายออกโดยรอบกว้างไกลรัศมีรุนแรง

ต๋นบุญภาคเหนือองค์หนึ่งมีลูกศิษย์นำพระจันทคราสให้ดู ท่านกล่าวว่าพระองค์นี้เป็น"มหากำบัง". อย่างสูงผู้สร้างอธิษฐานปกปิดพลังที่อยู่ภายในว่ามีอานุภาพแค่ไหน จะให้ใครรู้เห็นหรือไม่ให้ใครรู้เห็นก็ได้

มีผู้สะสมพระเครื่องท่านหนึ่งนำพระพิทักษ์โลก เปิดโลกให้หลวงพ่อบุญอุ้ม(บึงกาฬ) สัมผัสตอนแรกท่านก็ว่าไม่มีอะไร แต่พอนั่งสัมผัสไปสักพักพลังงานในองค์พระแผ่ออกมาเรื่อยๆจนท่านสัมผัสว่าแรงขึ้นๆๆๆๆๆๆจนท่านตกใจและแปลกใจในวัตถุมงคลหลวงปู่ซึ่งไม่เคยสัมผัสได้ในวัตถุมงคลอย่างอื่นจนท่านเอ่ยถามลูกศิษย์คนนี้ว่าเป็นของหลวงพ่อองค์ใดหนอ

 

นิมนต์แล้วจ้า ​

 

หลวงพ่อวิชัยวัดถ้ำผาจม(เชียงราย) ก็เคยสัมผัสพลังงานในพระหลวงปู่ถึงกับเอ่ยว่า เราเคยสัมผัสวัตถุมงคลมาก็มากส่วนใหญ่แล้วผู้สร้างจะอธิษฐานรัศมีจิตสู่องค์พระ แต่ของหลวงปู่ทองทิพย์ท่านอธิฐานอีกแบบในลักษณะเอาองค์ท่านเป็นๆไปอยู่ในองค์พระ (คล้ายกับประหนึ่งท่านจะแยกกายเป็นร้อยเป็นพันกายคล้ายกับการ"อวตาร"เข้าองค์พระซึ่งท่านไม่เคยพบเจอลักษณะเช่นนี้มาก่อนเลย )

จากเวบ...อุดร108ครับ​

 

หรืออย่างรายเด็กหญิงอายุแค่ ๙ขวบ แต่ความสามารถพิเศษเกินอายุ(ของเก่ามีมาก) ชื่อ"น้องแก้ม".

ครั้งหนึ่งเคยนั่งรถไปกับพ่อ พอรถผ่านหน้าวัดป่าสีดาฯ น้องแก้มเธอบอกพ่อว่า หลวงปู่ที่อยู่วัดนี้ท่านปรารถนาสูงนะพ่อ สูงกว่าพระปัจเจกอีกพ่อ ท่านใกล้แล้วนะพ่อ พ่อถามว่าใกล้อะไร น้องว่าท่านจ่อคิวแล้วค่ะพ่อ ด้วยคำพูดของน้องนี่เองทำให้คุณพ่อน้องแก้มสนใจเพราะรู้ความสามารถของน้องดี จึงนำพระจันทคราสของหลวงปู่มาให้น้องสัมผัส ตกกลางคืนหลังจากน้องไหว้พระสวดมนต์เสร็จ น้องเขาก็ส่งจิตเพ่งดูองค์พระสักครู่ก็กล่าวกับพ่อว่าหนูเห็นมีพญานาคคุ้มครอง ดูแล แต่สำหรับพลังที่อยู่ข้างในจริงๆหนูไม่สามารถค่ะพ่อ ปู่ว่าพลังจะออกมาช่วยผู้นั้นในยามคับขันค่ะออกมาพร้อมกับท่านพญานาคค่ะ แก้มว่าท่านคงอธิษฐานปกปิดพลังที่แท้จริงค่ะ จะรู้จะเห็นเฉพาะผู้ที่ศรัทธาและมีบุญสัมพันธ์กับท่านมาก่อนค่ะ

จาก...เวบอุดร 108​

 

ขอค่าบูชาด้วยครับ

 

ขออภัยด้วยครับ มีคนนิมนต์ไปแล้วครับเมื่อตอนค่ำ

 

พระอาจารย์นิล พระผู้สร้างพิมพ์พระศรีย์ฯ พิมพ์พระจากพิมพ์วัดประชุมพล เคยบอกกับผมว่า ใครมีวัตถุมงคลหลวงปู่คุ้มครองถือว่ามีโชควาสนา เมื่อถึงตอนนั้นอย่านำพระออกมาห้อยโชว์นอกเสื้อให้อยู่ข้างใน เพราะหากคนเห็นแล้วเขาจะแย่งเอาไป เพราะถึงตอนนั้นคนจะประจักษ์ในอานุภาพพระของท่านแล้ว...

​

 

พระอาจารย์นิล เล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ทองทิพย์ท่านเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ไว้หลายเรื่อง เรื่องที่จะนำมาเล่าผมก็ขอเล่าในส่วนที่เล่าได้ เพราะบางเรื่องก็อัศจรรย์เกินกว่าจะเล่า

เคยถามท่านเรื่องภัยพิบัติ พระอาจารย์นิลเล่าว่า ให้เก็บเป็นทองคำไว้กับขาวสาร บ้านเรือนต่าง ๆ ก็ควรจะแข็งแรง จะมีลูกเห็บที่ตกถึงพื้นน้ำหนักที่ตกลงมาถึงแล้วก้อนหนึ่งก็สิบกิโล ที่อาศรมศรีชัยรัตนโครต จึงมีตู้คอนเทรนเนอร์อยู่ให้เห็นสองตู้ในตอนนี้

และดินแดนที่จะปลอดภัยจะเป็นช่วงอีสาน ท่านก็ไม่ได้บอกว่าที่ไหนจะปลอดภัยที่สุดแต่ท่านสร้างอาศรมฯ ที่จังหวัดสกลนคร ฟังดูก็สอดคล้องกับครูอาจารย์หลาย ๆ ท่าน ​

 

ดินแดนที่ เรา ๆ ชาวพุทธควรจะไปกราบสักการะบูชา ครั้งหนึ่งในชีวิต หลวงปู่เล่าว่า ควรที่จะกราบพระธาตุเชิงชุม ถ้าใครไปได้ก็ปีหละครั้งก็จะดีมาก ๆ หลวงปู่เล่าเรื่องความเป็นมาต่าง ๆ ใจความสำคัญอยู่ตรงที่ ในพระธาตุเชิงชุมจะมีรอยพระบาท สี่รอย ประทับอยู่ เมื่อไปถึงก็ตั้งจิตอธิษฐาน ขอขมากรรมต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทำด้วยใจที่นอบน้อมบูชา

 

มีคนถามว่าเหล็กเปียก กับเหล็กใหลเงินยวงต่างกันอย่างไร และมีอานุภาพต่างกันแบบไหน

เรามาเข้าสู่เนื้อหาเหล็กเปียกก่อนนะครับ
ลองดูที่องค์พระจะเห็นคราบขาว ๆ รอบ ๆ องค์พระ เพราะเหล็กเปียกจะดูความชื่นในอากาศคราบที่เห็นเป็นปฏิกิริยาของเหล็กเปียกดูไอน้ำเข้าไปในองค์พระ แต่เหล็กเปียกจะไม่เป็นสนิม​

 

แร่เหล็กไหลเปียก
เหล็กไหลเปียกเป็นเหล็กไหลอีกชนิดหนึ่งที่หายากและไม่ค่อยพบเห็น เหล็กไหลเปียกจะมีความใกล้เคียงกับเหล็กไหลเงินยวงหรือเหล็กไหลชีปะขาว คือมีผิวพรรณวรรณะเป็นสีเงินยวง แต่สามารถกลับกลอกสีผิวตัวเองได้จากขาวเป็นดำและจากดำเป็นขาว คล้ายโลหะจำพวกเงินที่เมื่อโดนอากาศแล้วจะทำให้สีผิวเปลี่ยน แต่เหล็กไหล เปียกยิ่งอัศจรรย์กว่านั้นเพราะโลหะจำพวกเงินเมื่อเปลี่ยนสีผิวจาก ขาวเงินยวงเป็นสีออกดำแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นสีเดิม ได้เอง ต่างกับเหล็กไหลเปียกที่สามารถเปลี่ยนสีผิวตนเองให้กลับไป กลับมาได้ เหล็กไหลเปียกหรือที่นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า เหล็กเปียก นี้มีอิทธิฤทธิ์เป็นที่น่าอัศจรรย์คือสามารถเรียกหยดน้ำในอากาศมารวมตัวกันได้ ไม่ว่าเหล็กเปียกจะอยู่ที่ไหนก็จะมีความชุ่มชื้นที่นั่นดุจเดียว กับเหล็กไหลน้ำ เหล็กเปียกมักพบเป็นก้อน มีสัณฐานดั่งก้อนแร่ใต้ดิน

เท่าที่บันทึกไว้ ครูบาโพนสะเม็กซึ่งเป็นพระอริยเจ้าทางฝังลาวเป็น ผู้ที่ค้นพบเหล็กไหลเปียกจากการนั่งทางในแล้วนิมิตเห็นแร่กายสิทธิ์ ประเภทนี้ ท่านจึงได้นำเอาแร่ชนิดนี้มาหลอมแล้วนำมาเคี่ยวด้วยวิชา อาคมและได้นำเหล็กเปียกมารีดเป็นแผ่น หลังจากนั้นนำไปบรรจุไว้ ที่ยอดฉัตรของพระธาตุพนม ด้วยเชื่อว่ามีอานุภาพทางป้องกันฟ้าผ่า อัคคีภัยและบันดาลความร่มเย็นเป็นสุขได้

ฤทธิ์อำนาจจากเหล็กไหลเปียกทำให้หัวไม้ขีดยุ่ย ดินปืนเปียก ไม่อาจจุดระเบิดหรือติดไฟขึ้นมาได้ ซึ่งคล้ายคลึงกับฤทธิ์อำนาจของ เหล็กไหลน้ำ และเหล็กไหลชีปะขาว เพียง แต่มีลักษณะรูปพรรณสัณฐาน ที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ฤทธิ์ของเหล็กเปียกจะก่อให้เกิดความชื้น ขึ้นทุกครั้ง จะเห็นได้จากการที่พระพุทธรูปบางองค์มีนาออกจาก พระเคืยรซึ่งสันนิษฐานได้ว่าเกิดขึ้นจากการนำเอาแร่เหล็กเปียกชนิด นี้หล่อหลอมลงไปในเนื้อธาตุที่ใช้ในการสร้าง ทำให้สามารถเรียก ละอองนั้าในอากาศมารวมตัวกันจนกลายเป็นนาอยู่ภายในเคืยรของ พระพุทธรูป เช่น พระพุทธรูปที่วัดนาอู จังหวัดแม่ฮ่องสอน หรือ พระพุทธรูปที่วัดตูม จังหวัดอยุธยา เป็นต้น

ข้อมูลจากเว็บ เหล็กไหล: แร่เหล็กไหลเปียก

 

ชอทราบราคาบูชา ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ
สมาชิกคุณภาพ อัธยาศัยดีมากครับ เมื่อวานนี้ได้รับพระแล้ว พระสวยตามรูป พร้อมเกศาที่แถมครับ
ขอบคุณมากครับ

 

ขอบคุณครับ