พุทธทำนาย ยุคปี2500กึ่งพุทธกาล เชิญร่วมบอกข่าว

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
การแสดงธรรมที่ทำให้เกิดผลสำเร็จ! ยุคกึ่งพุทธกาล

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""






พุทธทำนาย (Buddha’s prophecy) แยกตามเวลาของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น

ข้อมูลเกี่ยวกับพุทธทำนายต้นฉบับ ซึ่งสามารถสังเกตได้จาก พระพุทธเจ้าตรัสปี พ.ศ. ที่จะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ กำกับไว้อย่างชัดเจน แต่จะไม่ถือข้อมูลถูกหรือถือว่าผิดประการใด ถ้าท่านนำข้อมูลไปใช้ ขอได้ทบทวนกันเองตามอัธยาสัย

ผู้ที่เกี่ยวข้องกับพุทธทำนายต้นฉบับนี้ มีีท่านเจ้าคุณฯ วัดบวรนิเวศวิหาร หรือ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และผู้ใหญ่ระดับสูงหลายท่าน และอาจารย์ที่จุฬาฯ ได้จัดทำตามฉบับที่ไปคัดลอกมาจาก ประเทศอินเดีย จะแสดง พ.ศ. ตามด้วยปี ที่แก้ไขแล้วกำกับไว้ด้วย

จากการที่ พ.ศ.ไทยใช้ 543 + กับปี ค.ศ. นั้นมีหลักฐานปรากฏอยู่เฉพาะในสีหฬภาษาไหม่จริง แต่ไม่มีปรากฏในสีหฬภาษาเก่า เรื่องนี้อาจเป็นข้อมูลหนึ่งที่องค์การวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์หลายแห่ง ยกขึ้นเป็นประเด็นไม่ยอมรับ พ.ศ. ไทย

ที่เวบมี ปธ.๙ และ อาจารย์หลายท่าน ได้ศึกษาค้นคว้าเรื่องราวในพระไตรปิฎก เรื่องราวในพระพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์อินเดียและกรีก หลักฐานโบราณคดีที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการเกิดเหตุการณ์ในปัจจุบันแล้ว สรุปว่า พ.ศ. ที่ควรมีความถูกต้องจะต้องแก้ไขอย่างไร และได้ทดลองนำไปใช้ในพุทธทำนาย เห็นว่ามีความสอดคล้องกันกับเหตุการณ์ในปัจจุบันจริง มีความเป็นเหตผล นอกจากนี้ยังมีความสอดคล้องกับคำพยากรณ์ของมายันและอเมริกันอินเดียนเมื่อประมาณ 3000 ปีมาแล้ว และยังสอดคล้องกับคำทำนายโลกอื่นๆ เกี่ยวกับการมาปรากฏของพระธรรมมิกราช ทำให้เกิดศรัทธาในพุทธทำนายยิ่งขึ้น

เรื่องที่กล่าวมาไมสนับสนุนให้ท่านใด้เชื่อตามหลักกาลามสูตรของพระพุทธองค์ ท่านใดจะมีความคิดเป็นอย่างไร ย่อมเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล และเพื่อให้เห็นเวลาของการเกิดเหตุการณ์ จึงจัดแยกเป็นช่วงดังนี้

ตามระยะเวลา (Timeline) โดยมี พ.ศ. ไทยที่ปรับแก้แล้วกำกับ ชี้ถึงช่วงเวลาของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น

พ.ศ. 2484 : คณะธรรมทูตไทย ผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระศรีมหาโพธิ์ที่ประเทศอินเดียเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔

ก่อน พ.ศ. 2548 : เมื่อโลกไปไกล้กึ่งจำนวนที่ตถาคตทำนายไว้ (คือ ก่อนปี ๒๕๐๐ ปี หรือ ก่อน พ.ศ. 2548) มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทิศเสียครึ่งหนึ่ง (ผู้คนครึ่งหนึ่งของโลกจะได้รับภัยพิบัติเสียครึ่งหนึ่ง)

พ.ศ. 2533 – 2563 : ช่วงในระยะ ๓๐ ปี สิ่งที่ศาสนิกชนไม่เคยพบเห็น ยักษ์หิน ถูกสาป (คนไม่ดี มีจิตใจเช่นยักษ์) ให้หลับก็กลับคื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งหนัก เมื่อใกล้กึ่งศาสนาของตถาคต ก็ทวีภัยใหญ่ขึ้นทุกทิพาราตรี และมนุษย์นอกศาสนาก็จะรบราฆ่าฟัน กันถึงเลือดนองแผ่นดินและแผ่นน้ำ แม้ในอากาศก็มี อำนาจภัยจากฟ้าทุกทิศานุทิศ ไฟจะลุกลามเผาผลาญมนุษย์ไม่ขาดระยะต่างฝ่ายต่างทำลายกันย่อยยับเหมือนยักษ์ กระหายเลือด แผ่นดินแผ่นน้ำจะเดือดเป็นไฟ และตายกันไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรา ต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกันตามวิสัยของยักษ์ร้ายนอกศาสนา (อธิบาย : ผูู้้มีพระภาคตรัสเกี่ยวกับก่อนกึ่งพุทธกาล หรือปี 2500 หรือ ก่อน พ.ศ. 2548 ว่า ก่อนกึ่งพุทธกาลนั้น ผู้คนนอกศาสนาพุทธ ได้สู้รบกัน และที่รู้จักดีคือทั้ง สงครามโลกครั้งที่ 1 และที่ 2 ทำให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก แม้การต่อสู้ทางอากาศ มีลูกระเบิดจากเครื่องบินทำให้เกิดเป็นเพลิงเผาพลานไปทั่ว ทางพื้นน้ำก็มีการสู้รบกันทางเรือ ทั้งสองฝ่ายต่างเสียชีวิตเป็นอันมาก และแล้วก็เลิกรากัน )

พ.ศ. 2533 : เริ่มแต่ศาสนาตถาคตล่วงมาได้ ๒๔๘๕ ปี (พ.ศ. 2533) เป็นต้นไป ไฟจะลุกมาทางทิศตะวันออกไหม้วัดวาอาราม ( อธิบาย : พระสงฆ์ ครูอาจารย์ทางพุทธศาสนาเสื่อมลงตามทีพระผู้มีพระภาคตรัสไว้แล้ว ศาสนาและลัทธิอื่นยังเข้ามาเผยแพรในแดนพระพุทธศาสนา่ เดียรถีย์เพิ่มพูล ) สมณชีพราหมณ์จะอดอยากยากเข็ญ คนบ้านจะเข้าป่า ( อธิบาย : คนในเมืองบุกรุกป่า มีทั้งจับจองที่ดิน และหาผลประโยชน์จากป่า ) สัตว์ป่าจะเข้ากรุง ( สัตว์ป่าไม่มีทีหากิน เข้ามาหากินตามไร่สวนรบกวนผู้คน ) เมืองหลวงจะร้อนเป็นไฟ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทรจะชอกช้ำ (เกิดมลพิษต่างๆ) สงครามจะทั่วทิศ ( สงครามในรูปแบบต่างๆ จะเกิดขึ้นมากมาย ) ศึกจะติดเมือง ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง ( คอร์รัปชั่นจักเกิดมาก ) ปราชญ์เปรื่องจะสิ้นสูญ ( คนดีไม่มีปากเสียง ) ราชตระกูลอำมาตย์ ราษฎรทุกคนจะพากันถืออำนาจไม่เป็นธรรม ไม่เคารพหลักธรรม โดยปรวนแปรนิยม เชื่อถือถ้อยคำของคนโกง คนกล่าวคำเท็จ คนประจบสอพลอย่อมได้รับการเชื่อถือในท่ามกลางสังคมสันนิบาต ( อธรรมจะได้รับการยกย่องเชื่อถือ )

ทางสองแพร่ง ( จากการวิเคราะห์ตามหลักทฤษฎี )

1. พ.ศ. 2555 : เมื่อศาสนาของตถาคตล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง พ.ศ. 2555) คน เปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน ( อธิบายไว้ในพุทธทำนาย )

2. พ.ศ. 2556 : ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง พ.ศ. 2556) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล ( โลกาวินาศ )

ล่วงได้ ๒๕๑๒ พ.ศ. 2560 : ล่วงได้ ๒๕๑๒ (ปีระกา พ.ศ. 2560) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ บุคคลเจริญด้วยเมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียนข่มเหงอิจฉาพยาบาทและไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม

พ.ศ. 2560 : เมื่อศาสนาของตถาคตล่วงมาได้ ๒๕๑๒ ( ต่อจากปลายปีระกา ปีจอ พ.ศ. 2560) พระจันทร์จะเริ่มเปล่งแสงฉายโลก

พ.ศ. 2563 : ครั้นล่วงได้ ๒๕๑๕ (ปีชวด พ.ศ. 2563 ) นับพ้นระยะปี ๓๐ ปี (จาก พ.ศ. 2533 - 2563) พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไปเพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก อธรรมแพ้ในที่สุด ( เหตุการณ์ในปี พ.ศ. 2563 )

ส่วนนี้เป็นการกล่าว ถึงพระมหาเถรโพธิิสัตว์ และพระธรรมมิกราช ดังมีความดังนี้

มหากษัตริย์ธรรมิกราชผู้เป็นพระโพธิสัตว์ องค์หนึ่งจะเกิดภายในความอุปภัมถ์ของพระมหาเถระโพธิสัตว์ ( การตีความ แสดงว่า พระธรรมมิกราช นั้นอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระมหาเถรโพธิสัตว์ ) ทั้งสององค์นั้น จะจัดการบำรุงศาสนาของตถาคต ในระยะนี้เป็น "ยุคศิวิไล"

พ.ศ. 2502 : พระมหาเถระโพธิสัตว์ จะเกิดในสมัยของตถาคตล่วงมาแล้ว ๒๔๕๔ ปี ( พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงแสดงถึงความเป็นพระมหาโพธิสัตว์ และในเวลาปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ร.9 และในเวลาปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหาเถรโพธิสัตว์โดยสมบูรณ์ )

พ.ศ. 2515 – 2534 : เมื่อล่วงได้ ๒๔๖๗ ถึง ๒๔๘๖ ( พ.ศ. 2515 - 2534 ) พระมหา กษัตริย์ธรรมิกราชจะมาเกิด (ท่านอินทรา คนไทยในพุทธศาสนา มีถิ่นฐานอยู่ในสหรัฐอเมริกาได้อธิฐานบุญอันแรงกล้าในปี พ.ศ. 2534 และรู้อมตธรรมในเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 หลังค้นหามากว่า 40 ปี ได้ด้วยตนเอง จึงนับว่าพระธรรมมิกราช ได้เกิดขึ้นแล้ว )

ทั้งสองพระองค์นั้นสถิตอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ ( พระโพธิสัตว์สองพระองค์จะอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชณิมประเทศ หรือกล่าวได้ว่าเป็นไปในภาคกลางของประเทศเขตชมพูทวีป หรือทวีปของพระพุทธศาสนา มาทางทางตะวันออกที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เมืองที่ประทับดังกล่าวคือกรุงเทพมหานครของประเทศไทย )

พ.ศ. 2561 – 2562 : ระหว่างปีจอปีกุน เมื่อศักราช ๒๕๑๓ กับ ๒๕๑๔ (พ.ศ. 2561 – 2562) ผู้มีบุญทั้งสองพระองค์นั้นจะเสด็จเข้าบำรุงศาสนาให้เที่ยงแท้สมณชีพราหมณ์ จะเสด็จมา ๘๔,๐๐๐ รูป

ดูกรอานนท์ ตถาคตสงสารสัตว์ เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที ( ยกของเดิมมาคือ ตั้งแต่ พ.ศ. 2556 - 2563 = 30 ปี ) พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไปเพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก ( นี่ี่คือคำตอบ "เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที" )

คำทำนายของตถาคตนี้ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ใน ความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อ หรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อ ๆ ไป นับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลา

"พุทธิทุกขัง อนิจจัง อนัตตา นโมสัพพราชา ขัตติโย อิติ ปารมิตา ตึสา อิติ สัพพัญญุมาคตา อิติ โพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จ เต นโม"


พุทธทำนาย ต้นฉบับ

 

ผมเองได้รับศีลอะรืยะเวทไตรเมื่อวันที่ 28กุมภาพันธ์ พ.ศ.2533

ศีลอริยะเวทไตรเกิดขึ้นได้เอง หลังจากทำความเข้าใจ คำย่อของหนังสือพระวิสุทธิมรรคฉบับสมบูรณ์ เสมือนคนจะเดินทางไปที่ใดที่หนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน พอมีคนบอกว่าอยู่ที่นั้น แล้วก็ไปตามที่เขาบอก พอไปถึงแล้วจึงรู้ว่าใช่ที่ๆ

ต้องการมาจริงๆ คนที่จะมาได้ต้องถึงพร้อมด้วยความตั้งใจ ว่าจะมาได้จริง ไม่ว่าทางนั้นจะอยู่ใกล้ หรือไกลเพียงใด พอไปถึงแล้วก็ย่อมมองเห็นคุณของคนที่บอกทางมา

พอไปถึงแล้วจึงได้ตั้งชื่อว่า "ศีลอริยะเวทไตร" ศีลอริยะเวทไตรก็เป็นคนหนึ่ง ที่ชื่อศีลอริยะเวทไตรก็ได้ เมื่อตอนที่กำลังมานั้นก็เป็นคนหนึ่งที่ถือศีลห้า หรือศีล

แปดธรรมดา พอไปถึงแล้วก็เป็นศีลที่เกิดต่อยอดไปจากศีลธรรมดานั้นแล ยังไม่มีใครเคยไป พอผู้แสดงไปถึงแล้ว จึงได้ตั้งชื่อว่า ศีลอริยะเวทไตร

ถ้าท่านอยากรู้จัก ท่านก็ไปศึกษาเอาเองก็ได้ ที่หนังสือพระวิสุทธิมรรคดังที่ผมบอกมา หรือจะไปศึกษาที่ผมแสดงเอาไว้ก็ได้ แต่ต้องมีศรัทธาเหมือนหนังสือ

พระวิสุทธิมรรคนะครับ ที่ผมแสดงเอาไว้จะมีภาพและเสียง เมื่อท่านไปถึงแล้ว
ให้เปิดอ่านอย่างเดียวให้ปิดเสียงเอาไว้ เพราะที่ผมแสดงเอาไว้นั้น เป็นที่

สาธารณะมีทั้งภาพและเสียง บางคนชอบฟังเสียง บางตนชอบดูภาพ ที่ผมแสดงเอาไว้นั้น ผมชื่อว่า สมส่วน ทองสุขนอก ให้ค้นหาทางอินเทอร์เน็ต ได้ด้วยคำ

ว่า "พุทธทํานาย 2000ปลาย" จะเจอ พุทธทํานาย 2000ปลาย (1 - 11 เป็น การแสดงธรรมกึ่งพุทธกาล ๑ ถึง ๑๑ ให้คลิกที่จุดหยุดนิ่งและขยายให้เต็นหน้าจอ เพื่อจะอ่านได้สะดวก

http://palungjit.org/threads/%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%9B%E0%B8%B52500%E0%B8%81%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7.542737/page-18

<iframe src="https://www.youtube.com/embed/xNSq9X0p3fk" allowfullscreen="" width="640" height="390" frameborder="0"></iframe>

 

ผมมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ พ.ศ. 2543 จนถึงปัจจุบันนี้ครับ ที่หมู่บ้านเสริมสิน ซ. สะพานขวา เตาปูน เขตบางซื่อ การแสดงธรรมนี้ ผมก็ทำขึ้นเองที่นี่เลยครับ

 

ผมเกิดบริบูรณ์ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 พ.ศ. 2504 และ
การแสดงธรรมก็บริบูรณ์ วันขึ้น 15ค่ำเดือน 6 ปี ค.ศ. 2004 และ
ปัจจุบันนี้ พ.ศ. 2557 แต่สิ่งที่เกี่ยวข้องกับการแสดงธรรมย่อมมีภาพและเสียง
และค้นหาด้วยตนเอง จนถึงปัจจุบันนี้จะนับเวลาได้ 40ปีพอดีครับ

 

ยักซ้าย หลิ่วตาขวา แหงนมองหน้า โจ๊ะกันพรึม

 

<iframe src="https://www.youtube.com/embed/xNSq9X0p3fk" allowfullscreen="" width="640" height="390" frameborder="0"></iframe>

เริ่มเขียนการแสดงธรรมพระศีลอริยะเวทไตร หน้านี้แรกเริ่ม

ภาพ hi5

 

เมื่อถึง5,000ปีจะเป็นอย่างไรหนอ:'(

 

ตามธรรมดาต้นกำเนิด เกี่ยวกับห้าพันปี เกิดที่ต้นพุทธกาล เราท่านอยู่ข้างหลัง ไม่ได้เห็นอย่างแท้จริง เราท่านมีแต่นั่งดูว่าใกล้เคียงหรือเป็นเช่นไร ในปัจจุบันนี้เป็นเช่นไร อนาคตคงไม่ไกลเกินนี้

 

มาอีกแล้ว!!!!!!!
พวกคำทำนายที่ไม่มีที่มาที่ไป หรือไม่มีหลักฐานอะไรนอกจากการเล่าสืบต่อมา มันถูกแต่งขึ้นมาหมด

ส่วนคำทำนายที่มีในศาสนาพุทธ มีเพียงคำทำนายสุบินนิมิตร ของพระเจ้าปเสนธิโกศลเท่านั้น ดังนั้นไม่มีทางโลกแตก หรืออารยธรรมล่มสลาย จนกว่าจะเลย 5 พันปีไปแล้วนู่น

 

-----(ข้อมูลเดิมระบบ และ ระบบเดิมที่นี่ http://b.palungjit.org/f2/วิทยาศาสตร์ทางจิต-ลึกลับ/index10.html )-----


( หน้า 1 ที่นี่ ระบบเดิม http://b.palungjit.org/f2/พุทธทำนาย-ยุคปี2500กึ่งพุทธกาล-เชิญร่วมบอกข่าว-542737.html )









.

เสียงข้างเวที

คำทำนายย่อมส่งผล เสมือนนักร้องๆเพลงจบบนเวที และได้ยินเสียง ตบมือไกลใกล้รอบทิศทาง พุทธศาสนาจะเสื่อมได้ขึ้นอยู่กับ พุทธบริษัทสี่ ไม่ใช่บริษัทอื่น ไม่ใช่แต่งเอง ใช่แต่โดยธรรมชาติที่แท้จริงเด้อสิบอกให่

 

ลองดูนี่บ้าง ดูหลายๆครั้งใ......

 

ความจริงนั้น

ความจริงนั้นย่อมเกิดมาจากพระพุทธองค์ กว่าจะมาถึงพวกเรานั้นใช้เวลาสักเท่าใด ขนาดวันเดือนปียังตกลงกันยาก ผมว่าบุญฃองทุกคนแล้วนะครับที่ได้เห็น และพอจะรู้เค้าโครงได้

 

ความจริงย่อมปรากฎอยู่ตรงหน้าซึ่งแยกกันไม่ออก ตั้งแต่จอคอมพิวเตอร์ และเวปต่างๆ ที่เกี่ยวข้องพระพุทธศาสนา ที่สามารถเชื่อมถึงจิตรใจคนได้ คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และเกิดในช่วงนี้เอง

 

ธรรมชาติที่แท้จริง

คำทำนายย่อมเกิดมาจากธรรมชาติที่แท้จริง และผลที่ได้รับก็จะได้รับจากธรรมชาติที่แท้จริงเช่นกัน ผมว่าเว็บนี้เปรียบเสมือนพระพุทธองค์ และอีกเว็บหนึ่งให้ท่านคิดเอาแล้วกัน ถ้าไม่ถูกก็คงใกล้เคียง ตามธรรมดาพระพุทธองค์ เห็นทุกอย่าง แต่จะกล่าวอย่างไรให้คนยุคนั้นเข้าใจได้เท่านั้นเอง แล้วพวกเรารู้จักหัดคิดเองบ้างซิครับ

 

ถ้าคุณเดินมาแต่ไกล ได้ยินเสียงคนร้องเรียกว่าไฟจะไหม้บ้านเองแล้วมาไวๆ ผมว่าคุณควรเดินเร็วกว่าเก่านะครับ

 

คุณดูแค่ยุคใกล้ๆตัวเรานี้ก็พอแล้วครับ เราดูเพื่อให้เห็นธรรมที่อยู่รอบตัวเรา เหมือนดูเมฆหมอกมาแต่ไกล เราเพียงแต่ดูเฉยๆ เมื่อเห็นธรรมรอบข้าง แล้วในที่สุดก็จะเห็นตัวเราเอง ถ้าท่านมองไปไกลท่านอาจลืมสิ่งที่อยู่ในตัว ในที่สุดก็จะไม่ได้อะไรนะครับผมว่านะ ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นเอง ทุกคนมีความตั้งใจทำต่างกัน แต่กลับไปตรงกับอีกอย่างหนึ่งเองนะครับ

 

ดวงตาเห็นแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่สิ่งที่ดวงตาไม่เห็น คือดวงตาเอง ท่านจะเห็นแต่ในกระจก แต่กระจกก็ไม่ใช่ดวงตา ในเมื่อท่านไม่เห็นดวงตาตนเอง ท่านอย่าเชื่อใจว่าท่านจะเดินถูกทางเสมอไป เพราะเป็นเช่นนี้เราจึงต้องเห็นดวงตาตนเองก่อน หรือเรียกว่าเห็นตนเองจึงจะเห็นผู้อื่นได้ การเห็นก็คือเห็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาญของเราเอง ท่านทำได้หรือเปล่า เราทำได้เราจึงกล่าวเช่นนี้ เราจะเห็นตัวเราเอง เคลื่อนออกจากตัวเราเอง เสมือนรถไฟกำลังเคลื่อนออกจากสะถานี แล้วตัวเราก็ยืนอยู่ตรงหน้าเราเอง อันนี้เป็นธรรมของพระพุทธองค์ ชึ่งมีแต่คนมองผ่าน ธรรมอันที่กล่าวมานี้ก็คือศีลอริยะเวทไตรนั้นเอง หรือเรียกว่าสุดปลายเส้นทางธรรมศีลอริยะเวทไตรนั้นแล

 

สงครามเริ่มจากจุดเริ่มต้นเล้กๆ เริ่มจากการฆ่าแพะ เพราะไม่เคยโทษหรือทำลายตนเอง สงครามจึงมีฝักและฝ่าย พุทธองค์ทรงกล่าวไว้ ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุและธรรมทั้งหลายดับที่เหตุคะ การทำลายที่ยิ่งใหญ่สำหรับหนู คือการทลายอัตตาของตนเอง เช่นนั้นพระตถาคตจึงมีชัยเหนือสามโลกนะคะ ผู้ประเสริฐย่อมไม่เบียดเบียนด้วยชั่วกว่า ดีกว่า มากกว่า หรือน้อยกว่า เช่นนั้น การอยู่กับปัจจุบันคือคำพยากรของอนาคตได้ทุกวัน นะคะ ในคำสอนของศาสนาหนึ่ง มีข้อหนึ่งที่หนูเห็นด้วยคือ เราทั้งหลายเป็นพี่น้องกัน GOOD LUCK

(f)

 

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

 

คนเราทุกคนย่อมมีใจฝักไฝ่ต่างกัน ถ้าใจเป็นกุศลจะมุ่งมั่นทำแต่ความดี ถ้าใจเป็นอกุศลจะมุ่งมั่นทำแต่ความไม่ดี เราทำอยู่ทุกวันย่อมส่งผลถึงอนาคตในระยะใกล้ทุกวันนี้ และอนาคตอันไกลโพ้น ดังนั้นทุกลมหายใจของเรา เราควรรู้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ