ติดตามสถานะการณ์

Nattee Siriwat



TS Hagupit - Update 2014-12-08-07.00 ตวามเร็ว 113 Km/h ยังอยูที่ฟิลิปปินส์
จะเคลื่อนผ่านหัวแหลมญวนแล้วลงอ่าวไทย ประมาณ วันเสาร์ ที่ 13 ธค ในความเร็ว ระดับ ดีเปรสชัน

 

แพทย์ชาวอเมริกันที่รอดชีวิตจากไวรัสอีโบลาให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรก
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2014/12/08 10:21 AM



แพทย์ชาวอเมริกันที่รอดชีวิตจากไวรัสอีโบลาให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรก
วอชิงตัน 8 ธ.ค.- แพทย์ชาวอเมริกันที่ติดเชื้อไวรัสอีโบลาในเซียร์ราลีโอนและรอดชีวิตหลังจากได้รับการรักษาในนครแอตแลนตาของสหรัฐเป็นเวลาหลายสัปดาห์ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นครั้งแรก

นายแพทย์เอียน โครเซียร์ แพทย์ชาวอเมริกันเชื้อสายซิมบับเว ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อระหว่างรับการรักษาอาการติดเชื้อไวรัสอีโบลาตามคำขอของเขา กล่าวว่า เขาจำช่วงเวลา 3 สัปดาห์แรกที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอมอรีไม่ได้ แต่ได้อ่านบันทึกการตรวจร่างกายของตนเองแล้ว เขารู้สึกว่าความคิดของตนเองช้าลงกว่าเมื่อก่อน และคาดว่าจะได้เดินทางกลับไปยังภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกเพื่อให้การรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอีโบลาต่อไปภายในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า และการที่เขาหายจากโรคร้ายอาจหมายความว่าเขามีภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวในอนาคตแล้ว

นายแพทย์โครเซียร์และญาติยังกล่าวว่า พวกเขาออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสอีโบลาที่ยังคงดำเนินต่อไปและเพื่อขอบคุณทีมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้

แพทย์ชาวอเมริกันผู้นี้ ติดเชื้อไวรัสขณะให้การรักษาผู้ป่วยติดเชื้ออีโบลาในเซียร์ราลีโอน ก่อนล้มป่วยในเดือนกันยายนและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของสหรัฐเป็นเวลา 40 วัน นายแพทย์เจย์ วาร์คีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อกล่าวว่า นายแพทย์โครเซียร์เป็นผู้ป่วยอาการหนักที่สุดที่โรงพยาบาลเอมอรีเคยให้การรักษา -สำนักข่าวไทย

แพทย์ชาวอเมริกันที่รอดชีวิตจากไวรัสอีโบลาให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรก | เว็บไซต์สำนักข่าวไ

 

A380 ของแควนตัสลงจอดฉุกเฉินที่ออสเตรเลียหลังระบบปรับอากาศมีปัญหา
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2014/12/08 8:57 AM



A380 ของแควนตัสลงจอดฉุกเฉินที่ออสเตรเลียหลังระบบปรับอากาศมีปัญหา
เมลเบิร์น 8 ธ.ค.- เครื่องบิน A380 ของสายการบินแควนตัสของออสเตรเลียต้องลงจอดฉุกเฉินที่รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียในเช้าวันนี้ เนื่องจากระบบปรับอากาศบนเครื่องบินมีปัญหา

เครื่องบินลำนี้เดินทางมาจากนครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีจุดหมายที่นครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออก แต่ระบบปรับอากาศบนเครื่องบินมีปัญหาขณะบินอยู่ห่างประมาณ 700 กิโลเมตร จากรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตก นักบินรีบขอลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานเพิร์ท ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย และลดระดับเพดานบินจาก 12,000 เมตรลงไปที่ 2,700 เมตร เพื่อรักษาความดันอากาศภายในเครื่อง จากนั้นได้บินวนนอกชายฝั่งออสเตรเลียเพื่อเผาเชื้อเพลิงให้เหลือน้อยลงและสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัยในอีก 90 นาทีหลังจากที่รายงานแจ้งว่ามีปัญหา.-สำนักข่าวไทย

A380 ของแควนตัสลงจอดฉุกเฉินที่ออสเตรเลียหลังระบบปรับอากาศมีปัญหา | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

พายุถล่มฟิลิปปินส์บ่อยครั้งชี้ถึงภัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2014/12/08 10:29 AM



พายุถล่มฟิลิปปินส์บ่อยครั้งชี้ถึงภัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
มะนิลา 8 ธ.ค.- นายคูมิ ไนดู ผู้อำนวยการบริหารกรีนพีซสากลระบุว่า พายุรุนแรงที่พัดถล่มฟิลิปปินส์บ่อยครั้งมากขึ้นตอกย้ำว่า โลกจะต้องเร่งดำเนินการเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นายไนดูกล่าวที่ฟิลิปปินส์ขณะที่ไต้ฝุ่นฮากูปิตพัดถล่มพื้นที่ซึ่งยังไม่ฟื้นตัวจากความเสียหายที่ถูกไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนพัดถล่มเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน และเตรียมจะไปเยี่ยมพื้นที่เหล่านี้ในวันนี้ เขาเตือนไปถึงที่ประชุมภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ยูเอ็นเอฟซีซีซี) ครั้งที่ 20 ที่กรุงลิมาของเปรูซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ว่า ธรรมชาติไม่ใช่เรื่องที่เจรจาต่อรองได้ ทุกคนต้องตระหนักว่าใกล้จะหมดเวลาแล้ว ไต้ฝุ่นฮากูปิตที่พัดถล่มฟิลิปปินส์เป็นตัวอย่างหนึ่งของความเสียหายขนานใหญ่ที่ประเทศยากจนจะประสบหากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเลวร้ายลง พายุที่พัดถล่มฟิลิปปินส์มีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตอกย้ำว่า รัฐบาลทั่วโลกจะต้องเร่งดำเนินการเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นายไนดูตำหนิบริษัทถ่านหินและก๊าซและบริษัทที่ก่อมลภาวะทุกแห่งว่าทำให้ปัญหาสภาพภูมิอากาศเลวร้ายลง และเป็นเรื่องไม่เป็นธรรมที่บริษัทเหล่านี้จะทำกำไรมากมายในขณะที่ประเทศยากจนเดือดร้อนจากผลร้าย เขาเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกยอมรับหลักการเรื่องผู้ก่อมลภาวะต้องเป็นผู้จ่าย และพันธกรณีเรื่องใช้พลังงานหมุนเวียนภายในปี 2593 ประเทศร่ำรวยและประเทศยากจนควรร่วมมือกันเพราะต่อให้เป็นประเทศที่รวยที่สุดในโลกก็ไม่สามารถหลีกพ้นจากผลกระทบของโลกที่ร้อนขึ้นได้.-สำนักข่าวไทย

พายุถล่มฟิลิปปินส์บ่อยครั้งชี้ถึงภัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ | เว็บไซต์สำนักข่าวไท

 

ฟิลิปปินส์โล่งอกหลังอพยพคนหนีไต้ฝุ่นทัน ยอดเสียชีวิต 4 คน
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2014/12/08 10:10 AM



ฟิลิปปินส์โล่งอกหลังอพยพคนหนีไต้ฝุ่นทัน ยอดเสียชีวิต 4 คน
มะนิลา 8 ธค. – ประชาชนหลายแสนคนในฟิลิปปินส์เริ่มกลับมายังบ้านเรือนที่เผชิญไต้ฝุ่นกำลังแรงไปเมื่อสุดสัปดาห์ ซึ่งนับว่าการอพยพชาวบ้านครั้งใหญ่ช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงได้

ยอดเสียชีวิตจากไต้ฝุ่นฮากูปิตที่ฟิลิปปินส์มีจำนวน 4 คนในวันนี้ ขณะที่ประชาชนกว่า 1 ล้านคนอพยพหนีพายุกำลังแรงระดับ 3 มาอยู่ในศูนย์อพยพทั่วประเทศ แม้มีบ้านเรือนหลายร้อยหลังพังราบ เลขาธิการกาชาดฟิลิปปินส์กล่าวว่า ฟิลิปปินส์ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมาและถือเป็นสัญญาณที่ดี ขณะนี้ปัญหาคือ อาหารและไฟฟ้าใช้เนื่องจากน้ำท่วมไม่สามารถเดินทางได้ เมื่อปีก่อนซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนกำลังแรงระดับ 5 เคลื่อนเข้ากระหน่ำในพื้นที่เดียวกันทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 7,000 คน .-สำนักข่าวไทย

ฟิลิปปินส์โล่งอกหลังอพยพคนหนีไต้ฝุ่นทัน ยอดเสียชีวิต 4 คน | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

ขนซาก MH17 ที่ตกในยูเครนไปตรวจพิสูจน์ต่อที่เนเธอร์แลนด์
Written by: newmedia2014/12/08 9:19 AM



เยอรมนี 8 ธ.ค.-เจ้าหน้าที่ขนซากเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ ที่ถูกยิงตกปริศนาในยูเครน ไปตรวจพิสูจน์ต่อที่เนเธอร์แลนด์

ขบวนรถบรรทุกที่ลำเลียงซากเครื่องบิน เที่ยวบิน MH17 ถึงด่านชายแดนประเทศเยอรมนีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากมีกฎหมายห้ามรถบรรทุกแล่นบนท้องถนนในวันอาทิตย์ จึงต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ

ทั้งนี้ ขบวนรถบรรทุกทั้งหมดจะเดินทางมุ่งหน้าขึ้นทางเหนือของเยอรมนี เพื่อข้ามพรมแดนต่อไปยังเนเธอร์แลนด์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนเครื่องบินหาปมเหตุที่ถูกยิงตกเป็นปริศนา ขณะบินผ่านน่านฟ้ายูเครนเมื่อเดือนกรกฎาคม เนื่องจากผู้โดยสารส่วนใหญ่ของเครื่องบินลำนี้เป็นชาวเนเธอร์แลนด์.-สำนักข่าวไทย

ขนซาก MH17 ที่ตกในยูเครนไปตรวจพิสูจน์ต่อที่เนเธอร์แลนด์ | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

จีนปล่อยดาวเทียมสำรวจสิ่งแวดล้อมขึ้นสู่วงโคจร
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2014/12/07 6:38 PM



ปักกิ่ง 7 ธ.ค. – ทางการจีนส่งดาวเทียมที่พัฒนาร่วมกับบราซิลขึ้นสู่วงโคจรนอกโลกได้สำเร็จในวันนี้ โดยนับเป็นการลำเลียงดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศครั้งที่ 200 ของยานอวกาศในตระกูลลองมาร์ช
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่าจรวดลองมาร์ช – 4บี ถูกปล่อยออกจากศูนย์ปล่อยดาวเทียมไท่หยวน เมืองทางตอนเหนือของมณฑลส่านซี โดยนับเป็นดาวเทียมสำรวจติดตามสิ่งแวดล้อมดวงที่ห้าที่มีการปล่อยสู่วงโคจรนับตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งดาวเทียมที่ร่วมพัฒนากับบราซิลดวงนี้จะเฝ้าระวังการตัดไม้ทำลายป่าในแถบอะเมซอน สำนักข่าวซินหัวระบุว่าการปล่อยยานอวกาศลองมาร์ชมีขึ้นครั้งแรกในวันที่ 24 เมษายน ปี 2513 และประสบความสำเร็จในการลำเลียงดาวเทียมตงฟังหง ซึ่งเป็นดาวเทียมดวงแรกของจีนขึ้นสู่อวกาศ พร้อมอ้างคำกล่าวจากนายเล่ย ฟานเพย ประธานบริษัทไชนาแอโรสเปซ ซายส์แอนด์เทคโนโลยี คอร์เปอเรชัน ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยียานอวกาศ ที่ระบุว่า จรวดลองมาร์ชจะลำเลียงดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในอวกาศอย่างน้อยอีก 100 ครั้งในช่วง 7 ปีข้างหน้า.-สำนักข่าวไทย

จีนปล่อยดาวเทียมสำรวจสิ่งแวดล้อมขึ้นสู่วงโคจร | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

[BIGVDO][/BIGVDO]ปูตินหวังหยุดยิงถาวรในยูเครนเร็ว ๆ นี้ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียเมื่อวันที่ 7ธ.ค.ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ปูติน ผู้นำรัสเซียแถลงเมื่อวานนี้ว่า เขาหวังว่าข้อตกลงหยุดยิงถาวรในยูเครนจะผ่านความเห็นชอบกันในเร็วๆ นี้ หลังจากการเจรจาในกรุงมอสโกกับประธานาธิบดีฟรองซัวส์ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศสโดยนายอองลองด์ เป็นผู้นำชาติตะวันตกคนแรกที่เยือนรัสเซียตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤติความขัดแย้งในยูเครนเมื่อต้นปีนี้

ข้อตกลงหยุดยิงลงนามกันในเดือนก.ย.ที่ผ่านมาแต่ก็ยังมีการละเมิดอยู่อย่างสม่ำเสมอรัสเซียถูกชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรโทษฐานที่ไปให้การสนับสนุนกบฏแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครน

ทั้งนี้นายออลลองด์ เดินทางเยือนกรุงมอสโกโดยไม่ได้กำหนดล่วงหน้าหลังเดินทางจากการเยือนคาซัคสถานและพบหารือกับประธานาธิบดีปูตินในห้องต้อนรับทางการทูตที่สนามบินวนูโคโวทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงมอสโกซึ่งปูติน กล่าวว่าพวกเขาได้หารือกันเกี่ยวกับการยุติความรุนแรงในยูเครน

[BIGVDO]<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/C-GbhvzK250" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>[/BIGVDO]

 

หากพายุเลาะชายฝั่งในโซนอากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้ มันจะหมดฤทธิ์รึเปล่าครับ?
ท่านผู้รู้ช่วยตอบหน่อยครับ ... ขอความเห็นด้วยครับ ขอบพระคุณล่วงหน้า ... ^_^ ...

 

ผมก็หวั่นๆอยู่ครับ เส้นทางตามที่เขาคาดตรงมาบ้านผมเลย(สงขลา) เมื่อดูแผนที่อากาศของกรมอุตุฯ วันนี้ในช่องแคบฯ ระหว่างอาเจะห์กับภูเก็ตมีหย่อมLow อยู่น่าจะเป็นตัวเรียกแขกให้เลี้ยวลงต่ำตามที่เขาคาด และอาจไม่สลายตัวไปในเร็ววันยังมีพวกอยู่อีกทั้งสองด้านที่ใต้ศรีลังกาและบอร์เนียวครับ

 

ตามปกติเมื่อพายุเลี้ยวจากปลายแหลมญวนลงในอ่าวไทยใหม่จะทวีกำลังแรงขึ้นครับ
อาจถึงระดับโซนร้อน และที่เคยก่อตัวและสะสมกำลังแรงขึ้นจนถึงไต้ฝุ่นในอ่าวไทยก็เคยมีมาแล้วครับ(ไต้ฝุ่นเกย์) ซึ่งทำให้เรือเจาะซีเครสล่มคนตายหลายสิบคน

 

ไฟไหม้รุนแรง 2 จุดในลอสแอนเจลิส ตึกวอดทั้งแถบ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 ธ.ค. 2557 02:03


---
@อพาร์ตเมนต์สูง 7 ชั้นกำลังถูกไฟไหม้อย่างรุนแรง (ภาพ: REUTERS/Gene Blevins)
---
เกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรงขึ้น 2 จุด ในนครลอสแอนเจลิส ของสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้ามืดวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้อพาร์ตเมนต์และอาคารอีกหลายหลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรงขึ้น 2 จุด ในนครลอสแอนเจลิส ของสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้ามืดวันจันทร์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) สร้างความเสียหายรุนแรงแก่เขตก่อสร้างอพาร์ตเมนต์ และสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับอาคาร 2 ชั้นหลังหนึ่งซึ่งกำลังอยู่ระหว่างปรับปรุง และทำให้การจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนติดขัด ขณะที่เถ้าถ่านฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ


---
@โครงไม้ของอพาร์ตเมนต์ซึ่งสร้างติดกันเป็นแนวยาว ถูกไฟไหม้เสียหายอย่างหนัก (ภาพ: REUTERS/Gene Blevins)
---
ราล์ฟ เทอร์ราซาส หัวหน้าสำนักงานดับเพลิงแห่งลอสแอนเจลิส เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 250 นาย ช่วยกันดับไฟที่ลุกไหม้โครงสร้างไม้ของอพาร์ตเมนต์สูง 7 ชั้นซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง เมื่อเวลาประมาณ 01:20 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ก่อนที่ไฟจะลุกลามไปยังอาคารที่อยู่ติดกันอีก 2 หลัง ก่อนเจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมเพลิงได้ในเวลา 90 นาที

กลุ่มอพาร์ตเมนต์ต้นเพลิงได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ส่วนอาคารที่อยู่ติดกันได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ 3 ชั้น ส่วนชั้นอื่นๆ ได้รับความเสียหายเพราะน้ำ ขณะที่เถ้าถ่านที่ยังคุอยู่ปลิวไปตกบริเวณโดยรอบรวมถึงถนนไม่จำกัดความเร็วเส้นหนึ่ง สร้างความเสียหายให้สัญญาณจราจร แต่โชคดีที่ขณะเกิดเหตุลมไม่แรง เถ้าถ่านจึงลอยไปตกไม่ใกล้


---
@รถดับเพลิงหลายคันถูกส่งไปรับมือไฟไหม้ (ภาพ: AP Photo/Damian Dovarganes)
---
ทั้งนี้ ไม่มีรายงานพบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ตำรวจต้องปิดถนนสาย 101 และถนนเชื่อมระหว่างรัฐสาย 110 เนื่องจากเกรงว่าซากปรักหักพังจะตกลงมาบนถนน โดยถนนเชื่อมระหว่างรัฐสาย 110 ยังคงถูกปิดแม้พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ทำให้รถติดยาวหลายไมล์

ขณะที่เหตุเพลิงไหม้อีกจุดเกิดขึ้นในอีกประมาณ 3 ชั่วโมงต่อมา ที่อาคาร 2 ชั้นหลังหนึ่งซึ่งกำลังอยู่ระหว่างปรับปรุง และอยู่ห่างจากเพลิงไหม้จุดแรกไปทางตะวันตกประมาณ 2 ไมล์ โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 100 นาย ถูกส่งมายังที่เกิดเหตุและสามารถควบคุมเพลิงได้โดยใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง

เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย โดยเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ใกล้ๆ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะสูดควันพิษเข้าไปในร่างกายมากเกินไป ขณะที่อาคารที่เกิดเหตุเคยถูกใช้เป็นที่ตั้งของธุรกิจถึง 10 บริษัท แต่ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างปรับปรุงให้เป็นที่อยู่อาศัย


---
@ไฟที่กำลังลุกไหม้เขตก่อสร้างอพาร์ตเมนต์ สามารถมองเห็นได้แม้จะอยู่ไกลหลายไมล์ (ภาพ: AP Photo/Nancy Yuille)
---


---
@อพาร์ตเมนต์ถูกไฟไหม้จนเหลือแต่ตอตะโก (ภาพ: AP Photo/Nick Ut)
---

 

ไฟไหม้รุนแรงกลางเมืองแอลเอ!! คล้ายฉากหายนะในหนังฮอลลีวูด (ชมคลิป)
วันอังคาร ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 09.02 น.



9 ธ.ค.57 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างรุนแรงในย่านใจกลางนครลอสแอนเจลิส หรือแอลเอ เมืองใหญ่ที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 2 ในสหรัฐ เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) เปลวเพลิงลุกโชนกลายเป็นภาพน่าหวาดกลัวไปทั่วเมือง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 200 นาย เข้าระงับเหตุโดยใช้เวลาจนถึงรุ่งเช้าจึงสามารถควบคุมตัวสถานการณ์ได้

<iframe width="512" height="315" src="//www.youtube.com/embed/rA79DKvuwqM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

รายงานระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุเพลิงไหม้อพาร์ทเมนท์ที่กำลังก่อสร้าง ย่านดาวน์ทาวน์ ใจกลางนครลอสแอนเจลิส อาคาร 2 หลัง ที่มีความยาวเกือบ 200 เมตร ตั้งขนานไปกับทางหลวงฮาร์เบอร์ฟรีเวย์ มีเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 200 นาย เข้าระงับเหตุ



เหตุการณ์ดังกล่าวต้องใช้เวลาประมาณ 5 - 6 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ เบื้องต้นพบว่า อพาร์ทเมนท์ดังกล่าวได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วนอาคารที่อยู่ใกล้เคียงได้รับผลกระทบไปบางส่วน แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ส่วนสาเหตุไฟไหม้ครั้งนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน

อย่างไรก็ตาม ภาพเหตุเพลิงไหม้กลางเมืองที่เกิดขึ้น มีผู้คนแชร์ส่งต่อกันจนกลายเป็นกระแสในโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยเฉพาะคลิปภาพวิดิโอที่บันทึกจากบนทางหลวงฮาร์เบอร์ฟรีเวย์ เปลวเพลิงลุกโชนอยู่ข้างทาง ไม่ต่างกับฉากหายนะในภาพยนตร์ฮอลลีวูด ดึงดูดความสนใจและเป็นที่กล่าวถึงเป็นจำนวนมาก













ต่างประเทศ - ไฟไหม้รุนแรงกลางเมืองแอลเอ!! คล้ายฉากหายนะในหนังฮอลลีวูด (ชมคลิป)

 

ปิดตำนานตลาดมืดคลองถม "กทม."ให้ขายถึงสิ้นปี57 โพสต์เมื่อ : 08 ธ.ค. 2557, 14:26 น.



กทม.ให้ผู้ค้าแผงลอยตลาดกลางคืนคลองถมขายถึงสิ้นปี 57 พร้อมจัดพื้นที่ขายใหม่ให้ไม่ไกลจากแหล่งเดิม
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ผลการประชุมร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อจัดระเบียบผู้ประกอบการร้านค้าแผงลอย จำนวนกว่า 2,000 ราย บริเวณโดยรอบถนนเสือป่า โรงพยาบาลกลางและถนนคลองถม ที่ประชุมมีมติอนุญาตให้ผู้ค้าแผงลอยขายสินค้าได้ถึงสัปดาห์สุดท้ายของสิ้นพ.ศ.2557 หลังจากนั้นกทม.จะขอคืนพื้นที่ โดยกทม.ได้เตรียมพื้นที่ไว้รองรับผู้ค้า อาทิ พื้นที่ใต้ทางด่วน และสถานีขนส่งเดิม ซึ่งมีพื้นที่กว้างและอยู่ไม่ไกลจากที่เดิมเพื่อรองรับผู้ค้า ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาขอใช้พื้นที่
ด้าน พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า การจัดระเบียบบริเวณโดยรอบถนนเสือป่าและโรงพยาบาลกลางเป็นนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและโรงพยาบาลกลางที่ไม่ได้รับความสะดวกในการสัญจร เบื้องต้นที่ประชุมกำหนดการดำเนินการโดยเน้นการเจรจาและขอความร่วมมือจากผู้ค้าและจะยังไม่บังคับใช้กฏหมาย โดยจะเชิญผู้ค้าในบริเวณดังกล่าวร่วมประชุมเพื่อชี้แจงและขอความร่วมมือในวันที่ 15 ธ.ค. 57 ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ค้าที่เป็นตึกแถวที่มีการก่อสร้างต่อเติมรุกล้ำทางเท้า ผู้ค้าที่อยู่ในจุดผ่อนผันจากเดิมที่มีชื่อในบัญชีผู้ค้ามีจำนวน 67 ราย แต่ปัจจุบันมีผู้ค้ากว่า 900 ราย และผู้ค้าที่ทำการค้าขายบนถนน
สำหรับเรื่องผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ดังกล่าวยืนยันว่าไม่มี หากพบว่ามีจะดำเนินการตามกฏหมายอย่างเด็ดขาด
ภาพประกอบจาก ตลาดกลางคืน คลองถม - YouTube
latest breaking news headline

 

The Event ได้แชร์ลิงก์

<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/enhLgJ8iIqk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ทฤษฏีดาวเคราะห์ 7X (กำลังมาวันที่ 26 มีนาคม ค.ศ.2016) นักดาราศาสตร์ Gil Broussard ใช้เวลา 4 ปี โดยใช้รายงานทางวิทยาศาสตร์ และเอกสารที่นักดาราศาสตร์โบราณ และผูกพวกเขาไปยังเส้นเวลาในพระคัมภีร์ไบเบิล
Planet 7X Theory (Coming March 26, 2016) Gil Broussard
Astronomer Gil Broussard spent 4 years using scientific reports and ancient astronomer documents and tied them to biblical time lines

<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/G_-_GkBsLTs" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

บทสรุปของเหตุการณ์ของโลก-7X
A Summary Of Events of Planet-7X

ไปดาวน์โหลดเอกสารอ่านเพิ่มเติมจาก https://www.dropbox.com/sh/kjmatulk33t38u9/AABKec86-s24s1ns6NRXBanVa

 

ไต้ฝุ่นฮากูปิตคร่าปินส์แล้ว27ศพ บ้านเรือนเสียหายเกือบ3พันหลัง (ประมวลภาพ)
วันอังคาร ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 10.43 น.



9 ธ.ค.57 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ไต้ฝุ่นฮากูปิตอ่อนกำลังลงจนกลายเป็นพายุโซนร้อนแล้ว ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 27 รายแล้ว บนเกาะซามาร์ ทางตะวันออก สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนจำนวนมาก และทำให้ระบบสื่อสารล่ม และไฟฟ้าดับในหลายชุมชน

สำนักงานสภาพอากาศฟิลิปปินส์ ประกาศลดระดับไต้ฝุ่นฮากูปิตเป็นพายุโซนร้อน หลังจากมันขึ้นฝั่งเกาะต่างๆ ของฟิลิปปินส์ 3 ครั้ง จนขณะนี้มีความเร็วลมเหลือเพียง 85 กม./ชม.และความเร็วลมกระโชกสูงสุดไม่เกิน 100 กม./ชม.โดยฮากูปิตกำลังเคลื่อนตัวเข้าหาจังหวัดบาตังกัส ซึ่งห่างจากกรุงมะนิลาไปทางใต้ราว 90 กม.และจะเคลื่อนตัวข้ามอ่าวมะนิลา ซึ่งห่างไปทางตะวันตกของเมืองหลวง 50 กม.ในเวลาต่อมา

นายริชาร์ด กอร์ดอน ประธานหน่วยงานกาชาดของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า พวกเขาได้รับรายงานการพบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 27 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองโบรอนกัน บนเกาะซามาร์ ผู้เสียชีวิตส่วนมากตายเพราะจมน้ำหลังเกิดน้ำท่วม นอกจากนี้ บ้านเรือนในเมืองโบรอนกัน ยังถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายกว่า 2,500 หลัง

















ต่างประเทศ - ไต้ฝุ่นฮากูปิตคร่าปินส์แล้ว27ศพ บ้านเรือนเสียหายเกือบ3พันหลัง (ประมวลภาพ)

 

เซียร์ราลีโอนมีผู้เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลามากที่สุด



จำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลาในปีนี้เพิ่มเป็นมากกว่า 6,300 ศพแล้ว โดยเซียร์ราลีโอนแซงไลบีเรียขึ้นมาเป็นประเทศที่พบผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้มากที่สุดแล้ว

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/9ymZAUWv3N0?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

วันอังคาร 9 ธันวาคม 2557 เวลา 08:16 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ว่ารายงานฉบับล่าสุดขององค์การอนามัยโลก ( ฮู ) เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ ระบุการพบผู้เสียชีวิตตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้วเป็นต้นมา ถึง ณ วันที่ 6 ธ.ค. อยู่ที่อย่างน้อย 6,346 ศพ จากจำนวนผู้ติดเชื้อ 17,834 คน พบใน 8 ประเทศ ได้แก่ กินี ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน มาลี เซเนกัล ไนจีเรีย สเปน และสหรัฐ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากคำนวณสถิติเฉพาะ 3 ประเทศที่มีอัตราการแพร่ระบาดสูงที่สุด คือ กินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน จำนวนผู้เสียชีวิตจะอยู่ที่อย่างน้อย 6,331 ศพ

อย่างไรก็ตาม สถิติผู้เสียชีวิตของเซียร์ราลีโอนแซงไลบีเรียขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แล้ว โดยจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่อย่างน้อย 1,742 ศพ จากจำนวนผู้ป่วยสะสม 7,798 คน ตามด้วยกินี ประเทศที่เป็นต้นตอของการแพร่ระบาดในครั้งนี้ พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,412 ศพ จากจำนวนผู้ป่วยสะสม 2,283 คน ขณะที่ไลบีเรียพบผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลาแล้ว 1,377 ศพ จากจำนวนผู้ติดเชื้อ 7,719 คน

เซียร์ราลีโอนมีผู้เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลามากที่สุด | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

วาฬหัวทุย 6 ตัวเกยตื้นตายหมู่หาดออสซี่



พบวาฬหัวทุย 6 ตัวตายหมู่ คลื่นซัดเกยหาดชายฝั่งทางใต้ของออสเตรเลีย

วันอังคาร 9 ธันวาคม 2557 เวลา 01:54 น.
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ว่า พบวาฬหัวทุย หรือ วาฬสเปิร์ม ขนาดใหญ่ 6 ตัว ตายหมู่และถูกคลื่นทะเลซัดเกยตื้น บนชายหาดปารารา ห่างจากเมืองแอดิเลด ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 150 กม. เมื่อวันจันทร์ เจ้าหน้าที่หน่วยอนุรักษ์สัตว์ของออสเตรเลียกำลังคิดหาวิธีจัดการกับซากศพของฝูงวาฬ ที่มีขนาดน้ำหนักตัวรวมกันประมาณ 50 ตันเหล่านี้

เจ้าหน้าที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมออสเตรเลียรายหนึ่ง กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุการตายของวาฬหัวทุยฝูงนี้ แต่ตามทฤษฎีน่าจะเกิดจากวาฬตัวใดตัวหนึ่งในฝูงเกิดล้มป่วย แล้วว่ายเข้าสู่เขตน้ำตื้น ทำให้ตัวอื่นๆ ติดตามมา เจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาทางเลือก ในการจัดการกับซากฝูงวาฬ ซึ่งการเกยหาดในเขตน้ำตื้นอาจดึงดูดฝูงฉลาม ขณะที่ชาวประมงท้องถิ่นรายหนึ่งสันนิษฐานว่า วาฬฝูงนี้อาจตามไล่ล่าฝูงปลาแซลมอนสู่เขตน้ำตื้น แต่ไม่สามารถคาดเดาสาเหตุการตาย และว่า เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ที่จะเห็นวาฬเกยตื้นตามแนวชายฝั่งทางใต้ของออสเตรเลีย โดยก่อนหน้านี้ ในปี 2533 มีโลมาเกยตื้นตายหมู่ 58 ตัว บนหาดในอ่าวเนเปียน.

วาฬหัวทุย 6 ตัวเกยตื้นตายหมู่หาดออสซี่ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ผู้เสียชีวิตจากโรคมาลาเรียลดลงต่อเนื่อง



องค์การอนามัยโลกเผยสถิติผู้เสียชีวิตจากโรคมาลาเรียในรอบกว่า 1 ทศวรรษที่ผ่านมา ลดลงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/tEBEUYUH268?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

วันอังคาร 9 ธันวาคม 2557 เวลา 11:27 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ว่ารายงานประจำปีขององค์การอนามัยโลก ( ฮู ) ว่าด้วยสถานการณ์โรคมาลาเรีย ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตระหว่างปี 2543-2556 ลดลงร้อยละ 47 โดยหากจำแนกวิเคราะห์เฉพาะในทวีปแอฟริกา ซึ่งตามปกติพบผู้เสียชีวิตมากที่สุด ปรากฎว่าสถิติลดลงมากถึงร้อยละ 54 หมายความว่า มาตรการป้องกันทางการแพทย์และสาธารณสุขสามารถยับยั้งการเสียชีวิตของประชากรในภูมิภาคได้มากถึง 4.3 ล้านคน และในจำนวนนี้ 3.9 ล้านคนเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ

ขณะเดียวกัน 13 จาก 97 ประเทศซึ่งเป็นพื้นที่เฝ้าระวังโรคมาลาเรียกลับไม่มีรายงานผู้ป่วยตลอดทั้งปีที่แล้ว ในจำนวนนี้รวมถึงศรีลังกาและอาเซอร์ไบจาน ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์มีอตัตราการแพร่ระบาดอยู่ที่ศูนย์เป็นครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคมาลาเรียซึ่งมียุงก้นปล่องเป็นพาหะ จะทรงตัวจนถึงระดับที่สามารถควบคุมได้แล้วจริงหรือไม่และเมื่อใด อาจต้องประเมินจากสถานการณ์ในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้ด้วย เนื่องจากปัจจุบันกองทุนโรคมาลาเรียยังคงได้รับเงินช่วยเหลือน้อยมาก โดยตั้งแต่ปี 2548 ได้รับเงินสนับสนุนเพียง 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 89,100 ล้านบาท ) ห่างไกลจากเป้าหมายมาก คือ 5,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 168,300 ล้านบาท ) ขณะที่สถิติการเสียชีวิตของประชากรโลกจากโรคมาลาเรียเมื่อปีที่แล้ว อยู่ที่ราว 20,000 ศพ จากจำนวนผู้ป่วย 6.6 ล้านคน

ผู้เสียชีวิตจากโรคมาลาเรียลดลงต่อเนื่อง | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

2557 ปีแห่งความทุกข์ระทมของเด็กทั่วโลก

กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ประกาศให้ปี 2557 เป็นปีแห่งความยากลำบากและสิ้นหวังสำหรับเด็ก เนื่องจากมีเด็กจำนวนมากได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งและสงคราม



วันจันทร์ 8 ธันวาคม 2557 เวลา 22:40 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ว่า กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ประกาศเมื่อวันจันทร์ ยกให้ปี 2557 เป็นปีแห่งความสิ้นหวังสำหรับเด็ก โดยเผยว่ามีเด็กทั่วโลกราว 230 ล้านคนอาศัยอยู่ในประเทศและภูมิภาคที่มีสงคราม และมีเด็กประมาณ 15 ล้านคนตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งในประเทศต่างๆ และได้รับผลกระทบโดยตรง

รายงานระบุว่า ราว 1 ใน 5 ของประชากรในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง (ซีเออาร์) ต้องอพยพจากความรุนแรงแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน เด็กราว 10,000 คน ถูกกลุ่มติดอาวุธรวบรวมเข้าร่วมรบในช่วงปีนี้ที่ผ่านมา และกว่า 430 คนต้องเสียชีวิตหรือพิการ คาดว่ามีเด็กได้รับผลกระทบจากการสู้รบในประเทศรวมประมาณ 2.3 ล้านคน เช่นเดียวกับเด็กอีก 7.3 ล้านคนในซีเรีย และ 2.7 ล้านคนในอิรัก ขณะที่สถานการณ์ในซูดานใต้ทำให้เด็ก 750,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย ในจำนวนนี้กว่า 600 คน เสียชีวิตและกว่า 200 คนกลายเป็นผู้พิการจากความขัดแย้งในช่วงปีนี้ที่ผ่านมา รวมถึงเด็กอีกราว 12,000 คนที่ถูกกวาดต้อนให้เข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธ โดยการสู้รบครั้งล่าสุดระหว่างกลุ่มฮามาสและรัฐบาลอิสราเอลในพื้นที่ฉนวนกาซา ซึ่งกินระยะเวลาราว 50 วัน ทำให้มีเด็กเสียชีวิต 538 คนและบาดเจ็บ 3,370 คน

นายแอนโธนี เลค ผู้อำนวยการบริหารยูนิเซฟ กล่าวว่า เด็กจำนวนมากตกเป็นเป็นเหยื่อของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก พวกเขาถูกทำให้กำพร้า ลักพาตัว ทรมาน ข่มขืน ถูกใช้ประโยชน์ รวมถึงถูกขายในฐานะทาส และไม่เพียงเท่านั้น สวัสดิภาพในชีวิตและสุขภาพของเด็กยังถูกคุกคามด้วย โดยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในกลุ่มประเทศแอฟริกาตะวันตกในขณะนี้ ทำให้เด็กหลายพันคนกำพร้า และกว่า 5 ล้านคนพลาดโอกาสทางการศึกษา โดยความรุนแรงและการสูญเสียเหล่านี้ ไม่เพียงเป็นภัยต่อชีวิตของเด็กแต่ละคนเท่านั้น แต่ยังเป็นการบ่อนทำลายความเข้มแข็งของสังคมด้วย.

2557 ปีแห่งความทุกข์ระทมของเด็กทั่วโลก | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์