ปกิณกะพระเครื่อง ธรรมะ และวัดวาอาราม

รุ่นนี้ใต้ฐานอุดเกศาเทียนช้ยครับ





รูปหล่อลอยองค์หลวงปู่วงศ์รุ่นครบรอบ 80 ปีถ่ายคู่กับรูปหล่อลอยองค์จิ๋วของหลวงปู่ให้ดูเปรียบเทียบขนาด รูปหล่อลอยองค์จิ๋วนี้ได้รับแจกงานทำบุญมาครับแต่จำไม่ได้แล้วว่าเป็นงานอะไรและชื่อรุ่นนี้ว่าอะไรครับ

 

น้อมกราบหลวงพ่อฤาษี ครูบาวงศ์ -/\-​

ขอบคุณพี่วรรณกับข้อมูลดีๆด้วยคร๊าบบ พระผงสุปฏิปันโนข้อมูลแน่นมาก คราวที่ไปวัดท่านตามไปเก็บรุ่นนี้มาก็เพราะได้ข้อมูลจากพี่วรรณนี่แหละคร๊าบบ​

 

พระคงของหลวงปู่ครูบาวงศ์รุ่นนี้สร้างประมาณปี 2536 จำนวนสร้างประมาณ 1 พันองค์ เป็นพระผงที่มีส่วนผสมของผงพระธาตุ น้ำมนต์ 109 วัดและได้นำดอกบุนนาคมาผสมเป็นมวลสาร ลูกศิษย์ใกล้ชิดของท่านเล่าว่าเป็นดอกที่นำมาจากต้นบุนนาคที่หลวงปู่มักไปนั่งทำสมาธิอยู่เสมอๆ ด้านหน้าองค์พระฝังพระธาตุข้าวบิณฑ์ไว้ 1 องค์

 

พระธาตุข้าวบิณฑ์องค์ใหญ่หลวงพี่เต๋ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ท่านให้ผมมาครับ นำมาวางถ่ายเปรียบเทียบกับขนาดพระธาตุข้าวบิณฑ์ในล๊อกเก็ตพระธาตุข้าวบิณฑ์ จีวร เกศาของหลวงปู่วงศ์

 

รูปหล่อลอยองค์หลวงปู่วงศ์ รุ่น "เมตตามหาลาภ"

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2014/WP_20140428_025.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2014/WP_20140428_025.jpg" border="0" alt=" photo WP_20140428_025.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2014/WP_20140428_033.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2014/WP_20140428_033.jpg" border="0" alt=" photo WP_20140428_033.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2014/WP_20140428_036.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2014/WP_20140428_036.jpg" border="0" alt=" photo WP_20140428_036.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2014/WP_20140428_039.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2014/WP_20140428_039.jpg" border="0" alt=" photo WP_20140428_039.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2014/WP_20140428_042.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2014/WP_20140428_042.jpg" border="0" alt=" photo WP_20140428_042.jpg"/></a>

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/DSC06200.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/DSC06200.jpg" border="0" alt=" photo DSC06200.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/DSC06201.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/DSC06201.jpg" border="0" alt=" photo DSC06201.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/DSC06208.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/DSC06208.jpg" border="0" alt=" photo DSC06208.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/DSC06212.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/DSC06212.jpg" border="0" alt=" photo DSC06212.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/DSC06204.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/DSC06204.jpg" border="0" alt=" photo DSC06204.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/DSC06216.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/DSC06216.jpg" border="0" alt=" photo DSC06216.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/DSC06219.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/DSC06219.jpg" border="0" alt=" photo DSC06219.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/DSC06228.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/DSC06228.jpg" border="0" alt=" photo DSC06228.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/DSC06223.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/DSC06223.jpg" border="0" alt=" photo DSC06223.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/DSC06226.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/DSC06226.jpg" border="0" alt=" photo DSC06226.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/DSC06233.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/DSC06233.jpg" border="0" alt=" photo DSC06233.jpg"/></a>

พระเครื่องหลวงพ่อคูณ รุ่นคุณพระเทพประทานพร

 

ข้อมูลดีๆทั้งนั้นเลย ขอบคุณพี่วรรณอีกครั้ง วัดพระบาทตะเมาะ ครูบาวงศ์ท่านเคยกล่าวว่า "ถ้าไม่อยู่ที่วัดพระบาทห้วยต้ม ก็จะมาอยู่ที่วัดพระบาทตะเมาะนี่" คงต้องหาโอกาสไปซักครั้งแล้วคร๊าบบ

 

ปาฏิหาริย์ เหรียญบารมีคูณ-ดวงดี พี่สาวแฟน ขับรถตกหลุม ที่จังหวัดตาก รถเสียหลักพุ่งลงข้างทาง ตัวพี่สาวไม่เป็นไรเลยรอดปาฏิหาริย์สาธุบารมีหลวงปู่คุ้มครอง สาธุ สาธุ สาธุ


โพสโดยคุณเอกชัย นวลยิ่ง FB ศิษย์หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก​

 

ขอบคุณพี่ปูสำหรับกระทู้ใหม่ครับ ขอร่วมด้วยครับผม

สำหรับวันพ่อ พ่อหลวง วันพ่อ แห่งชาติ ผมชอบภาพนี้มากๆครับ ถ้าใครไม่ได้สังเกตุ หรือไม่มีความรู้เกี่ยวกับหลวงพ่อเกษม เขมโก ขออธิบายว่า ในภาพ ภาพนี้เป็นห้องที่ หลวงพ่อเกษม เขมโก พระอริยะเจ้า ที่ลูกศิษย์ลูกหา ถือว่าท่านบรรลุ พระอรหันต์แล้ว แต่ตัวท่านเองไม่ยอมรับ ซึ่งเป็นธรรมดาของพระอริยะเจ้า ที่ท่านฝึกตนอย่างอุกฤษฎ์เข้มงวดอย่างยิ่งตามจริตนิสสัย อย่าง โยคีฤาษีเก่า ที่เคยชินที่จะทรมานตนแบบ อัตติกิลมถานุโยค มาแต่ชาติปางก่อน จนติดเป็นวาสนามาถึงชาติปัจุบันอันเลิกละมิได้ ภาษาชาวบ้านก็คือ ท่านทรมานตน ในทุกๆ รูปแบบ เพื่อให้ตนเองหลุดพ้นจากกิเลศ เปรียบเสมือน พระพุทธเจ้าก็ไม่ปาน จนบรรลุ แต่ท่านก็เคารพศรัทธา ในหลวง พ่อหลวง ของปวงชนชาวไทยยิ่ง เพราะมีภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวงพ่อติดบูชาในห้องท่าน และที่สุดๆ คือ ในหลวง หรือ พ่อหลวงพ่อ เอง ก็ศรัทธา หลวงพ่อเกษม ท่านมากๆ เช่นกัน สุดๆ แล้วครับ สำหรับภาพนี้ แต่ที่สุดๆ คือ ปกติผมไม่ค่อยพิมพ์แสดงความเห็นอะไรยาวๆ แบบนี้ แต่ที่ปลื้มใจคือ ผมพิมพ์เอง เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ใช้เวลาตอนตีสามกว่าๆ มานั่งคิด พิมพ์เอง ไม่ได้ก๊อปปี้มาจากที่ใหน เพื่อถวายแด่หลวงพ่อเกษม เขมโก และ พ่อหลวง ในหลวง ที่ผมนับถือมากๆ อีกเช่นกันครับ ผิดตก อะไร ต้องขออภัยนะครับ สะมะณัง วันทามิ สะมาณัง วันทามิ สะมาณัง วันทามิ / ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน

 

ขอน้อมนบบาทบงสุ์พระทรงศรี
พระผู้ช่วยผู้สร้างให้ชีวี
สร้างสิ่งดีให้ไทยเสมอมา
ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนโลกนี้
ร่วมยินดีกับพระองค์ครบพรรษา
ช่วยปกป้องจากความทุกข์ที่เข้ามา
แซ่ซ้องว่า ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ​

 

;aa44 ขอแสดงความยินดีกับกระทู้ใหม่ของพี่ปูครับ
​

 

สวัสดีครับ คุณปู
ยินดีกับกระทู้ใหม่

 

ขอบคุณพี่ตี๋ พี่โญ น้องเอ็มคร๊าบบ​

 

เหรียญบาตรน้ำทิพย์นี้ทางวัดได้จัดสร้างอีกครั้งในปี 36 โดยได้แก้แบบด้านหน้า ส่วนด้านลงคงเดิมไว้(ตามรูปด้านล่าง) ปัจจุบันทางวัดยังมีเหรียญปี36 นี้อยู่นะครับ






ขอบคุณร้านพรจามรีเจ้าของภาพด้วยครับ​

 

ขอเจิมกระทู้ด้วย "พระขุนแผนยอดขุนพลรุ่นแรก หลวงปู่เสงี่ยม วัดสุวรรณเจดีย์"​

 

น้อมกราบหลวงปู่เสงี่ยม -/\-

ขอบคุณภาพพระสวยๆจากพี่กูนด้วยครับ พระขุนแผนรุ่นนี้เคยได้ยินเรียกกันว่าขุนแผนยายหาบ เนื่องจากคุณยายเป็นผู้ออกทุนจัดสร้างและมีอุปการะคุณต่อวัดอยู่มาก ได้ข่าวว่ามีประสบการณ์มากทีเดียวครับ​

 

เข้ามาร่วมเจิมกระทู้ใหม่ครัลพี่ปูพงษ์สิทธิ์ เอ้ยพี่ปูท่าพระ อิๆ

 

พระวัดระฆังหลังค้อน ของดี ที่ไม่ควรมองข้าม
พระวัดระฆังหลังค้อน ได้สถาปนา (สร้าง) ขึ้น ๒ วาระ โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
(ม.ร.ว.เจริญ อิศรางกูร) เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี
 เจ้าประคุณสมเด็จฯ (เจริญ) บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่เยาว์วัย ต่อมาได้อุปสมบทเป็นพระสงฆ์ และได้เลื่อนสมณศักดิ์ขึ้นตามลำดับ จนถึงเป็นพระราชาคณะ เปรียญธรรม ๗ ประโยค เชี่ยวชาญทั้งวิปัสสนาธุระ และคันถธุระ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆัง หลังจากที่ สมเด็จพระพุทธบาทปิลันทน์ (ม.จ.ทัด เสนีย์วงศ์) ได้เลื่อนสมณศักดิ์สูงขึ้น แล้วย้ายไปครองวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์ ท่าเตียน) ประมาณ พ.ศ.๒๔๖๐
 เจ้าประคุณสมเด็จฯ (เจริญ) นับเป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ รูปที่ ๓ นับจาก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) และสมเด็จพระพุทธบาทปิลันทน์  (ม.จ.ทัด เสนีย์วงศ์)
 ท่านได้มีส่วนช่วยสมเด็จพระพุทธบาทปิลันทน์ ในการสร้างพระเครื่อง สมเด็จปิลันทน์ ซึ่งแน่นอนว่า ท่านย่อมได้รับการถ่ายทอดพุทธาคมจากตำราดั้งเดิมของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ในการสร้างพระเครื่องด้วย
 การสร้างพระเครื่องของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) ย่อมแน่นอนว่า ไม่สร้างให้เหมือน หรือล้อเลียนของอาจารย์ จะเห็นได้ว่า แม้แต่สมเด็จพระพุทธบาทปิลันทน์เองก็ไม่ยอมสร้างพระเครื่องเลียนแบบของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ผู้เป็นอาจารย์ เช่นกัน
 พระวัดระฆังหลังค้อน ของ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) นั้น ท่านได้สร้างให้แตกต่างจากของพระพุทธบาทปิลันทน์ และของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) โดยสิ้นเชิง คือ ท่านได้สร้างเป็น พระเนื้อโลหะผสม ด้วยวิธีเททองหล่อแบบโบราณ โดยมี พระอาจารย์ภา วัดระฆัง เป็นผู้ดำเนินงาน
 พระวัดระฆังหลังค้อน ที่สร้างวาระแรก เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๒ เพื่อสมนาคุณแก่ผู้บริจาคทรัพย์ซ่อมแซมพระอุโบสถวัดระฆัง หลังเก่า
 พุทธลักษณะ เป็นพระพุทธรูปนั่งสมาธิ บนบัลลังก์บัว ๒ ชั้น ในซุ้มปรกโพธิ์เม็ด องค์เล็กกะทัดรัด กว้างประมาณ ๑.๕ ซม. สูงประมาณ ๒.๐ ซม. เนื้อทองผสมที่ใช้ในการหล่อนั้น มีชนวนรูปหล่อพระพุทธชินราช (จำลอง) วัดเบญจมบพิตร และชนวนรูปหล่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง ผสมอยู่เป็นจำนวนมาก
 กรรมวิธีการหล่อพระ ในวาระแรก พ.ศ.๒๔๖๒ เป็นการหล่อแบบเป็นเส้นยาวๆ (๑ เส้นมีพระหลายองค์เป็นแนวยาว) เมื่อนำพิมพ์พระเข้าหุ่นดินแล้ววางบนรางโลหะ เสร็จแล้วทุบหุ่นดินออก และเคาะพระออกจากรางโลหะ โดยใช้สิ่ว หรือเครื่องมือมีคมตัดพระด้านบน และด้านล่าง ออกเป็นองค์ๆ
 
 จากการเคาะพระออกจากรางโลหะ โดยใช้ค้อนนี้เอง จึงเป็นที่มาของคำว่า หลังค้อน หรืออาจเป็นเพราะว่า มีพระส่วนหนึ่งซึ่งด้านหลังองค์พระมีรอยบุบยุบลงไป เหมือนโดนค้อนทุบก็เป็นได้  และพระส่วนใหญ่ด้านหลังจะเรียบ ไม่มีอักขระเลขยันต์ใดๆ
 พระวัดระฆังหลังค้อน ที่สร้างวาระแรก พ.ศ.๒๔๖๒ มีข้อสังเกต คือ องค์พระจะมีรอยตัดด้านบนและด้านล่าง หรือที่เซียนพระทั้งหลายเรียกกันติดปากว่า ตัดหัวตัดท้าย
 ด้านข้าง ขององค์พระทั้ง ๒ ด้าน ส่วนใหญ่จะไม่มีร่องรอยการตกแต่งด้วยตะไบ เพราะขณะเททองหล่อพระ ขอบข้างชนกับรางโลหะ จะราบเรียบไปเอง
 แต่ก็มีบ้าง ที่มีการตกแต่งด้วยตะไบ เพื่อความเรียบร้อย  หรือเพื่อให้สวยงาม ซึ่งจะมีร่องรอยเดิมให้เห็นบ้างในบางองค์ และพระส่วนใหญ่จะมีความหนามากกว่าการสร้างในวาระที่ ๒
 พระวัดระฆังหลังค้อน ที่สร้างในวาระที่ ๒ ประมาณ พ.ศ.๒๔๘๒-๒๔๘๓ เนื่องจากสภาวะการเมืองโลกในขณะนั้น ส่อเค้าว่า จะเกิดสงคราม และประเทศไทยก็ตกอยู่ในสภาพที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องเข้าร่วมรบกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
 ช่วงเวลานั้น วัดต่างๆ ในเมืองไทย โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ จะสร้างพระเครื่องขึ้นเพื่อแจกจ่ายแก่ทหาร-ตำรวจ ที่จะต้องออกไปรบ และส่วนหนึ่งเพื่อแจกเป็นขวัญกำลังใจแก่ประชาชน
 วัดระฆังโฆสิตาราม ก็เช่นกัน ได้ดำเนินการจัดสร้าง พระวัดระฆังหลังค้อน ขึ้นอีกวาระหนึ่ง  แต่กรรมวิธีการหล่อนั้น แตกต่างไปจากการสร้างวาระแรก คือ เป็นการเทหล่อโบราณแบบเข้าช่อ ตัดก้านชนวน (เหมือนกิ่งไม้) ช่อหนึ่งอาจมีพระ ๑๕-๓๐ องค์ พอเทเสร็จแล้วจะทุบหุ่นดินออก ตัดเอาองค์พระออกจากช่อชนวน แล้วนำพระไปตกแต่งขอบ หรือส่วนที่เป็นเนื้อเกินออกไปให้เรียบร้อย
 กล่าวโดยสรุป พระวัดระฆังหลังค้อน ที่สร้างในวาระที่ ๒ นั้น จะมีช่อชนวน และมีร่องรอยการตกแต่งขอบรอบองค์พระทุกด้าน เพื่อความเรียบร้อย 
 ขณะเดียวกัน ความหนาขององค์พระ ส่วนใหญ่จะหนาน้อยกว่าองค์พระที่สร้างในวาระแรก
 พุทธคุณ ของพระวัดระฆังหลังค้อน มีมากมาย เพราะเป็นพระที่มีอายุการสร้างมายาวนาน  โดยเฉพาะพระที่สร้างในวาระแรก ถ้านับถึงปีนี้ (พ.ศ.๒๕๕๓) อายุความเก่าของพระ ประมาณ ๙๐ ปีขึ้นไปแล้ว
 ประสบการณ์ที่เด่นมาก คือ คงกระพันชาตรี และแคล้วคลาดจากภัยพิบัติทั้งปวง เรื่องคงกระพันชาตรีนั้น สมัยก่อนถึงกับมีคำกล่าวกันว่า “ลงน้ำปลิงไม่เกาะ” ย่อมรับประกันได้ว่า เหนียวจริงๆ
 พระวัดระฆังหลังค้อน นับเป็นพระเครื่ององค์เล็กที่น่าสะสม และน่าแขวนใช้ติดตัวเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลว่า
๑. เป็นพระของดีราคายังพอหาได้ (วันหน้าไม่แน่ อาจแพงขึ้น)
๒. มีพระหมุนเวียนในตลาดพระ หรือสนามพระ อย่างสม่ำเสมอ
๓. มีอายุการสร้างยาวนานถึง ๙๐ ปี สำหรับพระที่สร้างในวาระแรก และ ๗๐ ปี สำหรับพระที่สร้างในวาระที่ ๒ ยุคเดียวกับ พระหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า, หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง บางขุนเทียน, หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง ฯลฯ ซึ่งพระเครื่องของหลวงพ่อแต่ละท่านในยุคดังกล่าว ราคาซื้อขายในทุกวันนี้ หลายหมื่นบาท ขึ้นไปจนถึงหลักแสนหลักล้านกันแล้ว
๔. มีประสบการณ์เลื่องลือกันมาก ตั้งแต่อดีต จนถึงทุกวันนี้ แถมองค์พระยังมีขนาดเล็กกะทัดรัด น่ารัก เลี่ยมทองหรือทำตลับทองใส่ก็ไม่เปลืองเงินมากนัก

 สำหรับพระคณาจารย์ที่ร่วมพิธีปลุกเสกในสมัยนั้น มีจำนวนถึง ๖๐ รูป อาทิ หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก, หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง, หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่, หลวงพ่อพ่วง วัดกก, กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์, หลวงพ่อชู วัดนาคปรก, หลวงพ่อสาย วัดอินทราราม (ใต้), หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ, หลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม, หลวงพ่อบ่าย วัดช่องลม, หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้, หลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม, หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก, หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว, หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน, พระสังวรานุวงศ์เถร (ชุ่ม) วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ), สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) วัดอนงคาราม, หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน, หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า, หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ฯลฯ (จากบันทึกประวัติที่ พระราชธรรมภาณี รองเจ้าอาวาสวัดระฆัง เมื่อปี ๒๕๑๓ ซึ่งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์  (เจริญ อิศรางกูร ณ อยุธยา) เป็นพระอุปัชฌาย์ของท่าน)

พระพุทธคุณ
พระพุทธคุณของพระวัดระฆังเลื่องลือกันมานานตั้งแต่ครั้ง
สงครามโลกครั้งที่ ๒ แล้ว โดยเฉพาะทางแคล้วคลาดจากภัยอันตรายต่างๆ
พระพุทธคุณหนึ่งที่พูดกันมากคือ มีติดตัวแล้วปลิงไม่เกาะ มีผู้เชื่อถือ
ได้เล่าว่ามีข้าราชการผู้หนึ่ง (อดีตสุขาภิบาล อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ) แขวนพระในคอรวม ๕ องค์ เมื่อลงไปในคลองปรากฎว่าปลิงไม่เกาะ ในขณะที่คนอื่นที่ลงน้ำด้วยกันถูกปลิงเกาะกันตามๆ กันนึกสงสัยว่า
จะเป็นด้วยพระพุทธคุณของพระเครื่ององค์ใดในห้าองค์นี้ จึงลองถอด
พระออกแล้วก็ลงคลองโดยแขวนพระทีละองค์ ปรากฎผลเป็นที่แน่ชัดว่า
พระองค์ที่แขวนแล้วปลิงไม่เกาะก็คือพระวัดระฆังหลังฆ้อน นี้เอง