แตกกรุเสน่ห์!! (เมตตามหาเสน่ห์เชิญด้านในครับ)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย kwang0197, 17 พฤศจิกายน 2013.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    แพะเขาควายพอกครั่ง หลวงพ่อรัตน์ วัดหนองกระบอก จ.ระยอง


    แพะเศรษฐีหลวงพ่อรัตน์ ใช้แทนแพะหลวงพ่ออ่ำได้นะครับ
    แพะหลวงพ่อรัตน์ราคาเบากว่าเป็น 10 เท่า
    แต่พุทธคุณต้องลอง!!! ปัจจุบันเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นและหายากแล้ว

    เครื่องราง แพะเขาควายแกะผอกครั่ง ของอาถรรพณ์ธรรมชาติ หลวงพ่อรัตน์ วัดหนองกระบอก จ.ระยอง

    พุทธคุณเด่นด้าน เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ แคล้วคลาดเป็นเลิศ

    สำหรับเหตุผลที่ใช้เป็นรูปลักษณ์ของแพะ นั้นเพราะเชื่อกันว่า ถ้ามีแพะแล้วไม่มีอาคมเวทมนตร์คาถาใดๆ จะมาทำคุณไสยเข้ากับตัวเจ้าของแพะได้ เพราะเข้ามาแล้วแพะจะรับไปเองและจะทำให้เจ้าของปลอดภัย

    อีกเหตุผลหนึ่งธรรมชาติแพะอยู่รวมกันเป็นฝูง โดยตัวผู้จะเป็นจ่าฝูงและมีตัวเมียเป็นลูกฝูง ส่วนแพะตัวผู้สามารถสืบพันธุ์กับตัวเมียที่อยู่ในฝูงได้ตลอด การที่แพะสืบพันธุ์นั้นจึงถือว่ามีเมตตามหานิยม และความที่เป็นสัตว์ที่อยู่ได้ในทุกฤดูกาลจึงทำให้มันมีความอดทนสูงจึงถือว่าคงกระพัน

    จึงได้นำเอาข้อดีของแพะมาสร้างเป็นเครื่องรางของขลัง โดนนำเอาเขาควาย เขาควายเผือก หรือเขาควายถูกฟ้าฝ่า มีความเชื่อกันว่ามีอาถรรพณ์ในตัวของมันเอง หรือเป็น ทนสิทธิ์ ชนิดหนึ่ง เช่น แพะเขาควายเผือกแกะ ปลุกเสกโดย หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง แพะ เป็นเครื่องรางของขลัง มีความผูกพันกับคติความเชื่อของสังคมโลก และสังคมไทยมาเป็นเวลาช้านาน เรียกว่า เกิดคู่กับมนุษย์เลยก็ว่าได้

    หลวงพ่ออ่ำ ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองกระบอก ปู่ย่าตายายเล่าต่อกันมาว่า ท่านมีอาคมเข้มขลัง เป็นพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งของเมืองระยองเมื่อเกือบ 150 ปีที่แล้ว มีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังต่อมา คือ หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเชอ จ.ชลบุรี หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก ระยอง สมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ สร้างเครื่องรางของขลังรูปแพะจนมีชื่อเสียง และเป็นที่ต้องการของผู้เลื่อมใสศรัทธา โดยสร้างจากเขาควายฟ้าผ่าตาย

    มีความเชื่อกันว่าเขาอันนั้นได้รับพลังจากเทพ แล้วนำมาแกะเป็นแพะ ท่านบรรจุวิชาอาคมเวทมนตร์คาถาที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมา ได้นำตัวแพะที่แกะสำเร็จแล้ววางลงบนถาดหรือพาน แล้วนำแพะแช่ในน้ำมันจันทร์หอมได้ทำพิธีปลุกเสกจนแพะเคลื่อนไหวได้เหมือนกับว่ามีชีวิตจริงแล้วนำไปแจกให้แก่ลูกศิษย์ อนุภาพ แพะ หลวงพ่ออ่ำ ในด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาดเป็นเสิศ

    ปัจจุบันนี้ เครื่องราง แพะ ที่สร้างจากเขาควาย เขาควายเผือก หรือ ควายเผือกที่ถูกฟ้าฝ่าตาย เป็นที่เสาะแสวงหาและเป็นต้องการของนักสะสมกันเป็นอย่างมาก ซึ่งเนื่องมาจากเป็นเครื่องรางที่หายากและสร้างน้อย มีเกจิอาจารย์ และอาจารย์สายฆาราวาสน้อยมากที่จะสร้างและปลุกเสก อีกประการหนึ่ง เขาควาย เขาควายเผือก หรือ ควายเผือกที่ถูกฟ้าฝ่าตายนั้นหายาก คุณวิเศษของแพะตัวผู้ ซึ่งหนึ่งตัว สามารถดูแลปกครองแพะตัวเมียได้เป็นสิบๆ ตัวด้วยความรู้รักสามัคคีและเกื้อหนุนจุนเจือซึ่งกันและกัน จึงมีความเชื่อกันว่า ผู้ใดมีแพะแกะจากเขาควายเผือกของหลวงพ่ออ่ำ ไว้พกพาผู้นั้นจะเป็นนักปกครองที่ยิ่งใหญ่ และนักรักที่มีคนนิยมชมชอบมากมาย และมีเสน่ห์เมตตามหานิยมทุกด้าน

    แพะ หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก เป็นเครื่องรางประเภท อาถรรพณ์ธรรมชาติ ซึ่งได้รับการสืบทอดมาจาก หลวงพ่อวัดกระบกต้นผึ้ง ผู้มีเวทวิทยาคมแรงกล้า เมื่อครั้งที่ท่านได้ออกไปธุดงค์และได้เจอกับหลวงพ่อปานในระหว่างทาง จึงได้ชวนกันไปเรียนวิชาอาคมการปลุกเสกเสือ จากอาจารย์ท่านหนึ่ง ขณะที่เรียนจึงได้ทดลอง โดยเอาเสือใส่บาตรแล้วปลุกเสก ใครสามารถปลุกเสกเสือให้ออกจากบาตรก่อนได้ ก็จะได้เรียนต่อ แต่หากใครไม่สามารถเสกเสือออกจากบาตร จะไม่ได้เรียนต่อ หลวงพ่อปานท่านสามรถปลุกเสกเสือออกจากบาตรได้เข้าป่าไปได้ และเรียกกลับคืนมาได้ ส่วนหลวงพ่อวัดกระบกต้นผึ้ง ปลุกเสือออกจากบาตรได้เข้าป่าไปเหมือนกัน แต่เรียกกลับมาไม่ได้ และหลวงพ่อวัดกระบกต้นผึ้งจึงได้ยุติการเรียนปลุกเสือ จึงหันมาเรียนสร้าง และปลุกเสกแพะ จนสำเร็จ เมื่อได้วิชาการสร้าง และปลุกเสกแพะก็ได้มาสอนให้แก่หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก จังหวัดระยอง จนมีชื่อเสียงในการสร้างแพะ จนได้สมญาว่า “หลวงพ่ออ่ำแพะดัง”

    ในตำรากล่าวไว้ว่า แพะ เป็นสัตว์มีคุณสมบัติ 2 อย่าง คือ มีความอดทน เนื่องจากมีความอดทนสูง ตายยาก (คงกระพัน) และมีเสน่ห์ เพราะตัวผู้ตัวหนึ่งตัวสามารถมีตัวเมียและสืบพันธุ์ได้เป็นฝูง (เมตตามหานิยม) จากตำราสมุดข่อยที่คณาจารย์โบราณท่านได้จารึกไว้ว่าการสร้างแพะโดยใช้เขาควาย และเขาควายเผือกที่ถูกฟ้าผ่าตาย ได้รับพลังจากมหาเทพ คือ สวรรค์ทุกชั้น ทุกวิมาน พระเกจิอาจารย์และผู้มีวิชาอาคมจึงได้นำมาเป็นวัสดุในการแกะ เป็นรูปลักษณ์ของแพะ เนื่องจากมีความเชื่อกันว่า ในตัวแพะที่โดนฟ้าผ่าตายนั้น ได้มีการพลีจากสรวงสวรรค์ ว่ากันว่าผู้ที่มีแพะหลวงพ่ออ่ำไว้อยู่ในความครอบครอง จะเป็นผู้ที่มั่งคั่งสมบูรณ์เมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรืองและอายุยืน

    สอบถามทาง PM ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    EL 5430 1618 2 TH คุณวิศรุต สามเสนใน

    ขอบคุณครับ
     
  3. mai02

    mai02 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2014
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +142
    ขอราคาแพะทั่งสองตัวด้วยครับ
     
  4. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    แจ้งทาง PM แล้วครับ :cool::cool::cool:
     
  5. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    EL 5430 2180 6 TH คุณปารเมศ ลาดพร้าว

    ขอบคุณครับ
     
  6. mobyga

    mobyga Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2014
    โพสต์:
    597
    ค่าพลัง:
    +62
    ตามหาขุนแผนพ่อเนื้อหอม หลวงปู่จักรครับ หากมีรบกวนแจ้งด้วยครับ
     
  7. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    รับทราบครับ
     
  8. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการครับ

    ขุนแผนนางร่ำไร หลวงปู่ศวัส ศิริมงฺคโล วัดเกษตรสุข จังหวัดพะเยา


    หลวงปู่ศวัสท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เปี่ยมไปด้วยความเมตตา มีวิชาอาคมขลัง (หลวงปู่ท่านมรณภาพปี พ.ศ.2557) ก่อนท่านบวชเป็นพระท่านเคยเป็นฤาษีธุดงค์อยู่ในป่าเขาลำเนาไพรทั่วประเทศ จนถึงเวลาหนึ่งมีพระบอกให้ท่านบวชเป็นพระ แล้วธุดงค์ไปทางภาคเหนือ จะได้สร้างบารมีที่นั่นหลวงปู่ท่านก็เลยตัดสินใจบวชและธุดงค์ไปทางภาคเหนือ จนไปพำนักอยู่ที่จังหวัดพะเยา ญาติโยมศรัทธาจึงได้ถวายที่ดินให้ท่านสร้างเป็นวัดเกษตรสุข หลวงปู่ท่านจึงตัดสินให้ใช้สถานที่นี้อบรมบารมี สร้างวัดและศาสนาสถานจนเจริญรุ่งเรือง

    ทางด้านพระเวทย์วิทยาคมหลวงปู่ศวัสท่านเป็นพระที่มีวิชาอาคมขลังมีพลังจิตแก่กล้า มีสายวิชาครูบาอาจารย์ที่เข้มขลัง วัตถุมงคลที่ท่านสร้างตั้งแต่ยุดแรกจนถึงยุคหลัง ล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมจากกบรรดานักบูชาของขลัง เพราะบูชาแล้วมีประสบการณ์เป็นที่ประจักษณ์ถึงเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้าน เมตตามหานิยม โชคลาภค้าขาย และทางแคล้วคลาดคงกระพันชาตรี วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมของหลวงปู่ศวัสได้แก่ พระสมเด็จยุคแรก ฤาษี ขุนแผน ปลัดขิก เหรียญ กุมารทอง ตะกรุด แทบจะเรียกได้ว่าของขลังที่ท่านสร้างดีทุกอย่างได้รับความนิยมทั้งสิ้น

    ประวัติการสร้าง

    พระขุนแผนนางร่ำไร รุ่นแสนเสน่ห์ เป็นขุนแผนที่จัดสร้างในยุคแรกปี พ.ศ.254.. ต้นๆ เป็นขุนแผนที่ได้รับความนิยมสูงจากบรรดานักสะสมของขลังของดี อันเนื่องด้วย ชนวนมวลสารที่ใช้จัดสร้างรุ่นนี้ได้คัดสรรรวมยอดมวลสารไม่ว่าจะเป็นผงทางด้านมหาเสน่ห์ ผงว่าน 108 และมวลสารศักดิ์สิทธิ์อื่นๆอีกมากมาย พิธีกรรมปลุกเสกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดนนิมนต์พระเกจิาอาจารย์อาคมขลังสายจังหวัดพะเยามาร่วมถ่ายพลังบารมี หนึ่งในนั้นก็มีหลวงปู่ครูบาแก้วก็มาร่วมพิธีด้วย

    ขุนแผนรุ่นนี้ หลังจากออกให้บูชาแล้ว ได้รับความนิยมมากในบรรดานักสะสมของดี ชนิดที่ว่าเท่าไหร่ก็ยอมเช่า แต่เนื่องด้วยจำนวนสร้างที่ไม่มากนักทำให้ราคาเล่นหามีราคาสูง และอันเนื่องด้วยประสบการณ์ต่างๆที่ผู้ที่บูชาต่างประสบพบเจอทำให้เป็นที่เสาะแสวงหาของนักสะสม

    มีคนเคยไปถามหลวงปู่ว่าทำไมขุนแผนรุ่นนี้ถึงนี้นัก ท่านบอกขุนแผนรุ่นนี้ทำพิธีดี มีครูบาอาจารย์มาประสิทธิ์ประสาทให้เต็มที่เลยขลังนัก แต่ท่านบอกว่าขุนแผนของท่านไม่ได้เน้นให้คนเอาไปใช้ในทางเจ้าชู้ผิดศีลธรรม แต่เพื่อให้สมหวังในเรื่องความรักเท่านั้น



    ปิดรายการครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2015
  9. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการครับ

    พระขุนแผนสากหัก หลังฝังพลอย
    ด้านหน้าป้ายสีผึ้ง

    พระขุนแผน (พรายกุมาร) รุ่นสากหัก เพื่อแจกผู้ร่วมทอดกฐินสามัคคี ร่วมแผ่พลังสวดพุทธคุณปราบไตรจักร ในวันหล่อ พระกริ่งชินบัญชร รุ่น มหาปราบ

    ครั้งแรกที่ผมเข้าไปพบหลวงปู่ทิม อิสริโก ยอดพระเกจิอาจารย์ เมืองระยอง โดยการรบเร้าชักชวนมาเป็นปีๆ ของคุณประชา ตรีพาสัย อดีตนายช่างโยธาของกรมชลประทาน คุณเพียรวิทย์ จารุสถิติ ศิษย์เอกคนหนึ่งของหลวงปู่ทิม ชี้ให้ผมดูครกหินใบเขื่องที่แยกออกเป็นสองเสี่ยงใต้ถุนหอฉันหลังเก่าที่รื้อไปแล้ว คุณเพียรวิทย์บอกว่า ครกหินใบนี้แตกขณะตำผงพรายกุมาร ผมไม่เคยได้ยินคำว่า ผงพรายกุมาร มาก่อนจึงถามคุณเพียรวิทย์ว่า ผงอะไร? คุณเพียรวิทย์ตอบและอธิบายให้ฟังว่าคือ ผงสุดวิเศษที่ทำจากหัวกระโหลกเด็กตายทั้งกลม หรือหัวกระโหลกผีท้องแก่ ที่ลูกตายคาท้องแม่ เมื่อเอามาตำจนใกล้จะละเอียดครกหินที่ใช้ทำก็แตกออกเป็นสองเสี่ยง!

    ครั้งนั้นผมยังไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่นัก คิดว่าคุณเพียรวิทย์ ฉายหนังให้ดูเสียมากกว่า แม้แต่หลวงปู่ทิม ท่านลงมาเจิมครถยนต์ให้ผมในวันที่พบกันครั้งแรก ท่านเพ่งและเอาสองมือแตะหน้าหม้อรถโฟลต์ รถก็เคลื่อนได้ทั้งๆที่จอดไว้บนพื้นทราย เห็นจะๆอย่างนี้ ผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเรื่อง “ครกแตก” มันเป็นไปได้อย่างไร?

    จนเมื่อประมาณกลางๆปี ๒๕๑๘ มีคนมาเล่าให้ผมฟังว่า นายสำเภา อัมฤทธิ์ หรือ นายครอก เอาผงพรายไปสร้างพระขุนแผนตำผงจนเกิดไฟลุกท่วมครก ผมก็ยังไม่ค่อยจะเชื่อเพราะไม่เห็นด้วยตาตัวเอง แต่ครั้งนี้มีพยานหลายคนมายืนยันว่า เขาเห็นมากับตา และต้องไปนิมนต์หลวงปู่ทิมมาดับไฟลุกครก ตอนนายครอกตำผงทำพระขุนแผน ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของปฏิกริยาทางเคมีเมื่อโลหะสองชนิดมากระทบกันแรงๆก็ย่อมทำให้เกิดประกายไฟและเมื่อมีวัสดุไวไฟอยู่ด้วยก็เลยทำให้เกิดไฟลุกในครกได้

    เรื่องนายครอกตำผงพรายแล้วไฟลุกในครกนี้ ผมเคยให้นายครอก มาเล่าให้คุณนิลนารถและคุณพรชัย ร้านเซี้ยโภชนา ฟังก่อนที่เขาจะร่วมกันทำหนังสือเล่มแรก นายครอกเล่าให้ฟังข้างวิหารรูปหล่อหลวงปู่ทิมว่า เมื่อหลวงปู่ทิมและกรรมการวัดละหารไร่ จ้างให้นายครอกทำพระขุนแผนพรายกุมาร องค์ละ ๑ บาท บอกสูตรในการผสมผงแล้วก็ให้ผงพรายมาค่อนกระป๋องนมข้น บอกว่าเมื่อตำผงได้ที่ไม่ติดมือแล้วให้ตักผงพรายกุมารผสมลงไป ๑ ช้อนแกง นายครอกเล่าว่าเมื่อเอาผงพรายที่หลวงปู่ทิมให้มาใส่ครกตำได้ประเดี๋ยวเดียวก็เกิดไฟลุกในครก จะทำอย่างไรก็ไม่ดับเปลวไฟที่ลุกเป็นสีออกเขียวคล้ายไฟอ๊อก..ร้อนมาก เมื่อหมดปัญญาที่จะดับ นายครอกก็ให้นายแดง ลูกชายหลวงลุงรอด (ขรัวรองจากหลวงปู่ทิม) ขับรถโตโยต้าไปรับหลวงปู่ทิมมาดับไฟ

    เมื่อหลวงปู่ทิมมาถึงก็เอามือลูบเหนือครก ไฟก็ดับสนิท แต่ผงกลายเป็นถ่านดำหมดทั้งครก แล้วหลวงปู่บอกให้เก็บผงนี้ไว้ เอาไว้ผสมกับผงที่จะทำพระขุนแผนในครกต่างๆต่อไป
    ครั้งผมมาเขียนเรื่องพระขุนแผนพรายกุมารอันลือลั่นของหลวงปู่ทิม ผมก็ได้เอาเรื่องเหล่านี้เขียนเล่าลงไปด้วย และก็เกิดความเชื่อว่า เรื่องครกแตกออกเป็นสองเสี่ยงก็ดี ไฟลุกขณะนายครอกตำผงพรายก็ดี คงเป็นเรื่องจริงเพราะมีผู้เห็นกันหลายคน ถ้าจะเรียกว่าเล่าลือกันไปทั้งหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ๆวัดละหารไร่ก็คงจะไม่ผิด แต่เสียดายอยู่อย่างเดียวที่ผมไม่ได้ถ่ายภาพครกที่แตกออกเป็นสองเสี่ยงไว้ทั้งๆที่มีกล้องถ่ายรูปอยู่ในมือ

    จนเมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๖ ซึ่งเป็นวันดีของปีผมจึงถือเอาวันนี้เป็นวันเริ่มต้นในการสร้างพระขุนแผนพรายกุมารที่จะแจกเป็นของขวัญ หรือของสมนาคุณแก่ผู้ที่ร่วมทำบุญกับผมในการหาปัจจัยไปทอดกฐินสามัคคี ที่วัดพงเสลี่ยง บ้านห้วยโป้ ตำบลแม่สิน อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เมื่อผมเอาผงพุทธคุณต่างๆพร้อมผงพรายกุมารที่ พระทอง สุขวงศ์จันทร์ และลุงแมง มอบให้มาตำเป็นครกแรก พอผงเริ่มละเอียดพอที่จะนำมากดเป็นพระได้ สากหินก็หักทันที! ผมขนลุกซู่ทั้งตัว หลวงปู่ทิมคงสำแดงอะไรบางอย่างเป็นสัญญาณบอกว่า พระขุนแผนรุ่นนี้ต้องขลังและศักดิ์สิทธิ์แน่นอน เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ผมเห็นหรือผมทำคนเดียว มีผู้ร่วมเห็นอยู่ ๓ คน คือ ผม, คุณมานิดา ภรรยาผม, และคุณนพดล ช่างโยธา ซี ๔ สำนักระบายน้ำของกทม. รวมอยู่ในพิธีตำผงวันนั้นด้วย พระขุนแผนพรายกุมารทั้งพิมพ์เล็ก, พิมพ์ใหญ่ ที่จะทำขึ้นสมนาคุณแก่ผู้ร่วมทอดกฐินครั้งนี้ เป็นหนึ่งในตระกูลผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม น่าจะได้ชื่อว่า

    พระขุนแผน (พรายกุมาร) รุ่นสากหัก พระขุนแผนพรายกุมารรุ่นที่เริ่มผงครกแรกแล้วสากหินที่เอามาตำผงเกิดหักขึ้นมา คงจะเป็นไปตามอาถรรพ์ของการสร้างผงพรายกุมารตามตำรับของหลวงปู่ทิม ที่เป็นมาแล้วถึง ๒ ครั้ง ครั้งแรกพอเริ่มตำผงพรายครกหินขนาดใหญ่ที่ใช้ตำก็แตกออกเป็นสองเสี่ยง, ครั้งที่สอง หลวงปู่ทิมให้นายครอก อัมฤทธิ์เอาไปทำที่บ้านพอตำผงได้ที่ไฟก็ลุกขึ้นในครก และครั้งที่ ๓ เกิดที่บ้านผมหรือสำนักงานมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก ในซอยเฉลิมสุข เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พอผงพรายกุมารที่ตำกำลังจะได้ที่สากหินที่ตำก็หักเป็นสองท่อน ก็คงเป็นเครื่องสำแดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของการสร้างพระขุนแผนในครั้งนี้เป็นแน่ เพราะก่อนจะสร้างพระขุนแผนรุ่นนี้ทั้งผมและลุงแมงต่างก็บอกกล่าวกับรูปหล่อหลวงปู่ทิม ทุกครั้งก็สวดมนต์ไหว้พระเพื่อขอให้บังเกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ์ดุจเดียวกับที่หลวงปู่ทิมทำเมื่อครั้งยังมีชีวิต เพราะเราจะเอาพระขุนแผนพรายกุมารชุดนี้ไปทำบุญทำกุศล แจกแก่ผู้ร่วมทำบุญทอดกฐิน ณ วัดพงเสลี่ยง บ้านห้วยโป้ สุโขทัยในวันเสาร์ที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๖ และขอให้พระขุนแผนพรายกุมารที่ทำขึ้นมีความขลังความศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับที่หลวงปู่ทิมทำเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่

    พระขุนแผนพรายกุมาร รุ่นสากหัก ที่ทำขึ้นครั้งนี้ ถ้าจะเรียกว่าเป็นการสร้างที่มีวัตถุมงคลมากที่สุดเท่าที่ได้เคยสร้างกันมาหลังจากหลวงปู่ทิม มรณะภาพแล้วก็เห็นจะไม่ผิด

    ลุงแมง อัมฤทธิ์ บุตรบุญธรรมหลวงปู่ทิม ซึ่งท่านตั้งชื่อให้ว่า นายสิงหราช อัมฤทธิ์ และเป็นผู้ที่หลวงปู่ทิมมอบหมายให้สร้างพระขุนแผนพรายกุมารให้ท่านเป็นคนแรก (ขุนแผนลองพิมพ์) อีกทั้งเป็นผู้ที่หลวงปู่ทิมใช้ให้ไปขุดโคกดินใต้ถุนศาลาภาวนาภิรัต เพื่อเอาน้ำมันพระเจ้าตากมาสร้างพระขุนแผนนั้นคงเป็นเพราะลุงแมงมีชื่อเป็นมหาอำนาจ ลุงแมงย้ายจากระยองไปอยู่สุโขทัยแล้วลงทุนซื้อไร่ปลูกส้มเขียวหวานออกจำหน่าย แกเห็นศาลาเอนกประสงค์ของวัดพงเสลี่ยงซึ่งใช้เป็นที่ประชุมชาวบ้านอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม ก็เลยมาปรึกษากับผมเพื่อขอให้ผมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินในปีนี้ เพื่อนำปัจจัยที่จะได้มาสร้างศาลาให้วัดพงเสลี่ยง ผมก็รับปากและบอกว่าจะแจ้งข่าวบอกบุญไปยังบรรดาลูกศิษย์ของหลวงปู่ทิม ให้ช่วยกันเป็นเจ้าภาพเพื่อสร้างศาลา โดยให้ชื่อว่า “ศาลาศิษย์หลวงปู่ทิม ร่วมใจ”
    เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจของผู้ร่วมงานจึงคิดสร้างพระขุนแผนพรายกุมารเอาไว้แจกผู้ร่วมทำบุญ ลุงแมงและพระทอง สุขวงศ์จันทร์ ซึ่งทั้งสองคนเคยรับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่ทิม โดยทั้งสองคนได้มอบผงพรายกุมารชนิดบริสุทธิ์ (เพียวๆ) หรือชนิดเข้มข้นที่ทั้งคู่เก็บไว้ครั้งสร้างพระขุนแผนให้หลวงปู่ แก่ผมหนึ่งขวดเนสกาแฟขนาดเล็ก แกบบอกว่าเก็บไว้ตั้งแต่สมัยหลวงพ่อ (หมายถึงหลวงปู่ทิม) ไม่กล้าเอาออกมาทำพระเพราะเกรงใจพระอาจารย์เชยเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ เลยตัดสินใจมอบให้ผมเพื่อให้เอามาทำพระขุนแผนแจกงานกฐินในครั้งนี้
    นอกจากนั้นลุงแมงยังไปแสวงหาว่านมงคลต่างๆตามตำราสร้างพระผงของหลวงปู่ทิมมาให้ผมอีกหลายชนิด สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ลุงแมงไปเสาะแสวงหามาให้ผมก็คือ ไม้หลงลืม หรือเถาวัลย์หลง เมื่อผมไปเยียนลุงแมงที่บ้านห้วยโป้ ภรรยาลุงแมงบอกกับผมว่า “พี่แมงอุตสาห์ไปหาไม้หลงลืม เอามาให้ผมทำพระขุนแผน ไปหาอยู่นานโขจึงจะได้” นอกจากวัตถุมงคลต่างๆแล้ว ทิดเย็น คำมี หรืออดีตหลวงพี่เย็น ซึ่งเคยช่วยหลวงปู่ทิมสร้างพระเครื่อง, ลงเลขยันต์ ตลอดจนการทำสีผึ้งก็ได้บอกเคล็ดลับต่างๆในวิธีการสร้างพระเครื่องของหลวงปู่ทิมแก่ผมด้วย

    บางคนก็นำผง และของอาถรรพ์ต่างๆมาให้ด้วย คุณอุกฤษ ดุลย์เกษม หัวหน้าไปรษณีย์ นำพระผงรูปหล่อขนาดใหญ่พิเศษหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ซึ่งสร้างขึ้นเพียง ๓ องค์ มาให้ผมตำผสมลงไปในเนื้อพระขุนแผน ลูกศิษย์สายตรงของหลวงพ่อพรหมเห็นพระผงรูปเหมือนองค์นี้แล้ว บอกให้ผมเก็บเอาไว้เพราะหายากมากทำจากผงล้วนๆของหลวงพ่อพรหม มีเพียง ๓ องค์เท่านั้น แต่ผมก็ได้นำไปป่นใส่ลงในเนื้อพระขุนแผนรุ่นสากหัก ทิดเย็น คำมีได้แนะนำให้ใส่วัสดุอาถรรพ์ต่างๆเหมือนครั้งที่หลวงปู่ทิมสร้างพระขุนแผน ซึ่งผมก็ทำตามทุกอย่าง

    แทบจะกล่าวได้ว่าพระขุนแผนพรายกุมารรุ่นสากหักนี้ มีผงพรายกุมาร และผงวิเศษต่างๆ ของหลวงปู่ทิม บรรจุมากที่สุดเท่าที่เคยสร้างกันมาผมลงมือตำผง กดพิมพ์สร้างพระขุนแผนได้ประมาณพันกว่าองค์ก็ทำต่อไปไม่ไหว คุณชาลี เอี่ยมฉลวย ศิษย์เอกของหลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ ราชบุรี และหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม เลยรับอาสาเอาไปทำต่อให้เพราะจะทำเป็นพุทธบูชาถวายหลวงปู่ทิม ก่อนจะรับอาสาทำให้ คุณชาลีเล่าว่า ฝันเห็นหลวงปู่ทิมมาหาแล้วยื่นกระดาษสารพัดกันสีชมพูให้พร้อมกับแผ่นทองคำอีก ๑ แผ่น ทั้งสองสิ่งเข้าไปในตัวของคุณชาลี พอคุณชาลีเริ่มทำพระขุนแผนก็เกิดอาการเนื้อด้านหลังเต้นตุ๊บๆ จนเกิดความรำคาญ ไม่ว่าคุณชาลีจะเอาไม้เอามีดมาเกาหรือแม้แต่เอามีคมๆมาสับเนื้อด้านหลังก็ยังไม่หายเต้น คุณชาลีเลยไปเปิดเสื้อให้พระอาจารย์เปีย ศิษย์สายอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง ผู้เป็นอาจารย์สักดูแผ่นหลัง ปรากฎว่า ด้านหลังนูนขึ้นมาเป็นรูปหงษ์ทองคู่ และรูปหนุมาน คุณชาลี เอี่ยมฉลวย ทนทุกข์เพราะหนังเต้นอยู่ได้ ๒ วัน พ่อแก่ครูฤาษีที่คุณชาลีนับถือบอกว่า ครูมาลง เพราะทำพระขุนแผนให้เอาหมากพลูมาเคี้ยวแล้วเอาน้ำหมากมาลูบหลัง อาการเนื้อเต้นก็จะค่อยๆหายไป คุณชาลีบอกว่ เหตุที่เป็นดังนี้เพราะหลวงปู่ทิมคงต้องการแสดงให้รู้ว่าพระขุนแผนชุดนี้ศักดิ์สิทธิ์แน่นอน

    พระขุนแผนสากหักนี้ หลวงปู่ธรรมรังษี เมตตาปลุกเสกให้ตั้งแต่วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๔๖ และแจกเป็นของสมนาคุณแก่ผู้ร่วมงานกฐินวัดพงเสลี่ยง สุโขทัยไปบ้าง แล้วนำพระขุนแผนที่เหลือไปเข้าพิธีเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชรมหาปราบ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๖ อีกครั้ง

    จำนวนการจัดสร้าง
    พระขุนแผนพรายกุมารรุ่นสากหักสร้างขึ้น ๒ พิมพ์ คือพิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่สร้างเพียง ๕, ๕๕๕ องค์, พิมพ์เล็กสร้างเพียง ๖, ๙๙๖ องค์ มี ๓ สีคือ สีดำ, แดง, และขาว พิมพ์ใหญ่มีชนิดฝั่งตะกรุดทองคำ ๙๖ องค์, ตะกรุดเงิน ๒๕๖ องค์, และตะกรุดทองแดง ๓๕๖ องค์, และพิเศษบรรจุขุนพลจิ๋วปี๒๕๔๔, หรือบรรจุปรกใบมะขามหลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่, บรรจุทับทิมเสก - พลอยเสก

    ตะกรุดสาริกาทั้งทองคำ, เงิน, และทองแดง คุณชาลี เอี่ยมฉลวย เป็นผู้จารตามตำราและเคล็ดลับของหลวงปู่ทิม อิสริโก แล้วถวายให้หลวงพ่อผล ทายาทของหลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู ลพบุรี ปลุกเสก, ส่วนขุนพลจิ๋วปลุกเสกในน้ำมันเหล็กไหล-น้ำมันพราย พิธีที่วัดละหารไร่เมื่อปี๒๕๔๔ โดยหลวงพ่อสาคร

    ประสบการณ์
    ผู้ที่รับแจกขุนแผน (พรายกุมาร) รุ่น สากหัก ไปหลายท่านได้นำออกใช้ทันที เพราะเชื่อว่านอกจากหลวงปู่ธรรมรังษีจะปลุกเสกแล้ว หลวงปู่ทิม ต้องลงมาทำให้อย่างแน่นอนอีกครั้ง ดังจะเห็นได้จากพิธีเททองพระกริ่งชินบัญชร มหาปราบ ที่เกิดความมหัศจรรย์อย่างเหลือเชื่อมาแล้ว พระคุณเจ้าองค์หนึ่งที่จังหวัดสระบุรี มาขอไปแจกกฐิน ท่านเล่าให้คุณไพโรจน์ ซื่อชัยเจริญ แห่งเกษมสุขหินอ่อนฟังว่า เมื่อเก็บไว้ในกุฏิ นิมิตเห็นสีกามาหาเต็มกุฏิไปหมด เลยเอาไปฝากที่พระภิกษุอีกรูปหนึ่งซึ่งก็นิมิตเช่นเดียวกันอีก หลายคนที่นำเอาไปใช้เพราะเชื่อว่าหลวงปู่ทิม ต้องมาปลุกเสกให้ เล่าว่า คนไม่ถูกกันมานานก็มาพูดด้วย บางรายก็มีสาวๆมาแซวอย่างไม่เคยมีมาก่อน อีกรายบอกว่าเมื่อเอาขึ้นคอแล้วก็นึกถึงแฟนเก่าๆก็โทรมาหา

    ปิดรายการครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2015
  10. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    พระขุนแผนสากหัก หลังฝังตะกรุดสาริกาทองแดง
    (ซุ้มประตูด้านขวา กระเทาะนิดหน่อยครับ)

    พระขุนแผน (พรายกุมาร) รุ่นสากหัก เพื่อแจกผู้ร่วมทอดกฐินสามัคคี ร่วมแผ่พลังสวดพุทธคุณปราบไตรจักร ในวันหล่อ พระกริ่งชินบัญชร รุ่น มหาปราบ

    ครั้งแรกที่ผมเข้าไปพบหลวงปู่ทิม อิสริโก ยอดพระเกจิอาจารย์ เมืองระยอง โดยการรบเร้าชักชวนมาเป็นปีๆ ของคุณประชา ตรีพาสัย อดีตนายช่างโยธาของกรมชลประทาน คุณเพียรวิทย์ จารุสถิติ ศิษย์เอกคนหนึ่งของหลวงปู่ทิม ชี้ให้ผมดูครกหินใบเขื่องที่แยกออกเป็นสองเสี่ยงใต้ถุนหอฉันหลังเก่าที่รื้อไปแล้ว คุณเพียรวิทย์บอกว่า ครกหินใบนี้แตกขณะตำผงพรายกุมาร ผมไม่เคยได้ยินคำว่า ผงพรายกุมาร มาก่อนจึงถามคุณเพียรวิทย์ว่า ผงอะไร? คุณเพียรวิทย์ตอบและอธิบายให้ฟังว่าคือ ผงสุดวิเศษที่ทำจากหัวกระโหลกเด็กตายทั้งกลม หรือหัวกระโหลกผีท้องแก่ ที่ลูกตายคาท้องแม่ เมื่อเอามาตำจนใกล้จะละเอียดครกหินที่ใช้ทำก็แตกออกเป็นสองเสี่ยง!

    ครั้งนั้นผมยังไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่นัก คิดว่าคุณเพียรวิทย์ ฉายหนังให้ดูเสียมากกว่า แม้แต่หลวงปู่ทิม ท่านลงมาเจิมครถยนต์ให้ผมในวันที่พบกันครั้งแรก ท่านเพ่งและเอาสองมือแตะหน้าหม้อรถโฟลต์ รถก็เคลื่อนได้ทั้งๆที่จอดไว้บนพื้นทราย เห็นจะๆอย่างนี้ ผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเรื่อง “ครกแตก” มันเป็นไปได้อย่างไร?

    จนเมื่อประมาณกลางๆปี ๒๕๑๘ มีคนมาเล่าให้ผมฟังว่า นายสำเภา อัมฤทธิ์ หรือ นายครอก เอาผงพรายไปสร้างพระขุนแผนตำผงจนเกิดไฟลุกท่วมครก ผมก็ยังไม่ค่อยจะเชื่อเพราะไม่เห็นด้วยตาตัวเอง แต่ครั้งนี้มีพยานหลายคนมายืนยันว่า เขาเห็นมากับตา และต้องไปนิมนต์หลวงปู่ทิมมาดับไฟลุกครก ตอนนายครอกตำผงทำพระขุนแผน ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของปฏิกริยาทางเคมีเมื่อโลหะสองชนิดมากระทบกันแรงๆก็ย่อมทำให้เกิดประกายไฟและเมื่อมีวัสดุไวไฟอยู่ด้วยก็เลยทำให้เกิดไฟลุกในครกได้

    เรื่องนายครอกตำผงพรายแล้วไฟลุกในครกนี้ ผมเคยให้นายครอก มาเล่าให้คุณนิลนารถและคุณพรชัย ร้านเซี้ยโภชนา ฟังก่อนที่เขาจะร่วมกันทำหนังสือเล่มแรก นายครอกเล่าให้ฟังข้างวิหารรูปหล่อหลวงปู่ทิมว่า เมื่อหลวงปู่ทิมและกรรมการวัดละหารไร่ จ้างให้นายครอกทำพระขุนแผนพรายกุมาร องค์ละ ๑ บาท บอกสูตรในการผสมผงแล้วก็ให้ผงพรายมาค่อนกระป๋องนมข้น บอกว่าเมื่อตำผงได้ที่ไม่ติดมือแล้วให้ตักผงพรายกุมารผสมลงไป ๑ ช้อนแกง นายครอกเล่าว่าเมื่อเอาผงพรายที่หลวงปู่ทิมให้มาใส่ครกตำได้ประเดี๋ยวเดียวก็เกิดไฟลุกในครก จะทำอย่างไรก็ไม่ดับเปลวไฟที่ลุกเป็นสีออกเขียวคล้ายไฟอ๊อก..ร้อนมาก เมื่อหมดปัญญาที่จะดับ นายครอกก็ให้นายแดง ลูกชายหลวงลุงรอด (ขรัวรองจากหลวงปู่ทิม) ขับรถโตโยต้าไปรับหลวงปู่ทิมมาดับไฟ

    เมื่อหลวงปู่ทิมมาถึงก็เอามือลูบเหนือครก ไฟก็ดับสนิท แต่ผงกลายเป็นถ่านดำหมดทั้งครก แล้วหลวงปู่บอกให้เก็บผงนี้ไว้ เอาไว้ผสมกับผงที่จะทำพระขุนแผนในครกต่างๆต่อไป
    ครั้งผมมาเขียนเรื่องพระขุนแผนพรายกุมารอันลือลั่นของหลวงปู่ทิม ผมก็ได้เอาเรื่องเหล่านี้เขียนเล่าลงไปด้วย และก็เกิดความเชื่อว่า เรื่องครกแตกออกเป็นสองเสี่ยงก็ดี ไฟลุกขณะนายครอกตำผงพรายก็ดี คงเป็นเรื่องจริงเพราะมีผู้เห็นกันหลายคน ถ้าจะเรียกว่าเล่าลือกันไปทั้งหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ๆวัดละหารไร่ก็คงจะไม่ผิด แต่เสียดายอยู่อย่างเดียวที่ผมไม่ได้ถ่ายภาพครกที่แตกออกเป็นสองเสี่ยงไว้ทั้งๆที่มีกล้องถ่ายรูปอยู่ในมือ

    จนเมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๖ ซึ่งเป็นวันดีของปีผมจึงถือเอาวันนี้เป็นวันเริ่มต้นในการสร้างพระขุนแผนพรายกุมารที่จะแจกเป็นของขวัญ หรือของสมนาคุณแก่ผู้ที่ร่วมทำบุญกับผมในการหาปัจจัยไปทอดกฐินสามัคคี ที่วัดพงเสลี่ยง บ้านห้วยโป้ ตำบลแม่สิน อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เมื่อผมเอาผงพุทธคุณต่างๆพร้อมผงพรายกุมารที่ พระทอง สุขวงศ์จันทร์ และลุงแมง มอบให้มาตำเป็นครกแรก พอผงเริ่มละเอียดพอที่จะนำมากดเป็นพระได้ สากหินก็หักทันที! ผมขนลุกซู่ทั้งตัว หลวงปู่ทิมคงสำแดงอะไรบางอย่างเป็นสัญญาณบอกว่า พระขุนแผนรุ่นนี้ต้องขลังและศักดิ์สิทธิ์แน่นอน เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ผมเห็นหรือผมทำคนเดียว มีผู้ร่วมเห็นอยู่ ๓ คน คือ ผม, คุณมานิดา ภรรยาผม, และคุณนพดล ช่างโยธา ซี ๔ สำนักระบายน้ำของกทม. รวมอยู่ในพิธีตำผงวันนั้นด้วย พระขุนแผนพรายกุมารทั้งพิมพ์เล็ก, พิมพ์ใหญ่ ที่จะทำขึ้นสมนาคุณแก่ผู้ร่วมทอดกฐินครั้งนี้ เป็นหนึ่งในตระกูลผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม น่าจะได้ชื่อว่า

    พระขุนแผน (พรายกุมาร) รุ่นสากหัก พระขุนแผนพรายกุมารรุ่นที่เริ่มผงครกแรกแล้วสากหินที่เอามาตำผงเกิดหักขึ้นมา คงจะเป็นไปตามอาถรรพ์ของการสร้างผงพรายกุมารตามตำรับของหลวงปู่ทิม ที่เป็นมาแล้วถึง ๒ ครั้ง ครั้งแรกพอเริ่มตำผงพรายครกหินขนาดใหญ่ที่ใช้ตำก็แตกออกเป็นสองเสี่ยง, ครั้งที่สอง หลวงปู่ทิมให้นายครอก อัมฤทธิ์เอาไปทำที่บ้านพอตำผงได้ที่ไฟก็ลุกขึ้นในครก และครั้งที่ ๓ เกิดที่บ้านผมหรือสำนักงานมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก ในซอยเฉลิมสุข เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พอผงพรายกุมารที่ตำกำลังจะได้ที่สากหินที่ตำก็หักเป็นสองท่อน ก็คงเป็นเครื่องสำแดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของการสร้างพระขุนแผนในครั้งนี้เป็นแน่ เพราะก่อนจะสร้างพระขุนแผนรุ่นนี้ทั้งผมและลุงแมงต่างก็บอกกล่าวกับรูปหล่อหลวงปู่ทิม ทุกครั้งก็สวดมนต์ไหว้พระเพื่อขอให้บังเกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ์ดุจเดียวกับที่หลวงปู่ทิมทำเมื่อครั้งยังมีชีวิต เพราะเราจะเอาพระขุนแผนพรายกุมารชุดนี้ไปทำบุญทำกุศล แจกแก่ผู้ร่วมทำบุญทอดกฐิน ณ วัดพงเสลี่ยง บ้านห้วยโป้ สุโขทัยในวันเสาร์ที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๖ และขอให้พระขุนแผนพรายกุมารที่ทำขึ้นมีความขลังความศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับที่หลวงปู่ทิมทำเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่

    พระขุนแผนพรายกุมาร รุ่นสากหัก ที่ทำขึ้นครั้งนี้ ถ้าจะเรียกว่าเป็นการสร้างที่มีวัตถุมงคลมากที่สุดเท่าที่ได้เคยสร้างกันมาหลังจากหลวงปู่ทิม มรณะภาพแล้วก็เห็นจะไม่ผิด

    ลุงแมง อัมฤทธิ์ บุตรบุญธรรมหลวงปู่ทิม ซึ่งท่านตั้งชื่อให้ว่า นายสิงหราช อัมฤทธิ์ และเป็นผู้ที่หลวงปู่ทิมมอบหมายให้สร้างพระขุนแผนพรายกุมารให้ท่านเป็นคนแรก (ขุนแผนลองพิมพ์) อีกทั้งเป็นผู้ที่หลวงปู่ทิมใช้ให้ไปขุดโคกดินใต้ถุนศาลาภาวนาภิรัต เพื่อเอาน้ำมันพระเจ้าตากมาสร้างพระขุนแผนนั้นคงเป็นเพราะลุงแมงมีชื่อเป็นมหาอำนาจ ลุงแมงย้ายจากระยองไปอยู่สุโขทัยแล้วลงทุนซื้อไร่ปลูกส้มเขียวหวานออกจำหน่าย แกเห็นศาลาเอนกประสงค์ของวัดพงเสลี่ยงซึ่งใช้เป็นที่ประชุมชาวบ้านอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม ก็เลยมาปรึกษากับผมเพื่อขอให้ผมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินในปีนี้ เพื่อนำปัจจัยที่จะได้มาสร้างศาลาให้วัดพงเสลี่ยง ผมก็รับปากและบอกว่าจะแจ้งข่าวบอกบุญไปยังบรรดาลูกศิษย์ของหลวงปู่ทิม ให้ช่วยกันเป็นเจ้าภาพเพื่อสร้างศาลา โดยให้ชื่อว่า “ศาลาศิษย์หลวงปู่ทิม ร่วมใจ”
    เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจของผู้ร่วมงานจึงคิดสร้างพระขุนแผนพรายกุมารเอาไว้แจกผู้ร่วมทำบุญ ลุงแมงและพระทอง สุขวงศ์จันทร์ ซึ่งทั้งสองคนเคยรับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่ทิม โดยทั้งสองคนได้มอบผงพรายกุมารชนิดบริสุทธิ์ (เพียวๆ) หรือชนิดเข้มข้นที่ทั้งคู่เก็บไว้ครั้งสร้างพระขุนแผนให้หลวงปู่ แก่ผมหนึ่งขวดเนสกาแฟขนาดเล็ก แกบบอกว่าเก็บไว้ตั้งแต่สมัยหลวงพ่อ (หมายถึงหลวงปู่ทิม) ไม่กล้าเอาออกมาทำพระเพราะเกรงใจพระอาจารย์เชยเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ เลยตัดสินใจมอบให้ผมเพื่อให้เอามาทำพระขุนแผนแจกงานกฐินในครั้งนี้
    นอกจากนั้นลุงแมงยังไปแสวงหาว่านมงคลต่างๆตามตำราสร้างพระผงของหลวงปู่ทิมมาให้ผมอีกหลายชนิด สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ลุงแมงไปเสาะแสวงหามาให้ผมก็คือ ไม้หลงลืม หรือเถาวัลย์หลง เมื่อผมไปเยียนลุงแมงที่บ้านห้วยโป้ ภรรยาลุงแมงบอกกับผมว่า “พี่แมงอุตสาห์ไปหาไม้หลงลืม เอามาให้ผมทำพระขุนแผน ไปหาอยู่นานโขจึงจะได้” นอกจากวัตถุมงคลต่างๆแล้ว ทิดเย็น คำมี หรืออดีตหลวงพี่เย็น ซึ่งเคยช่วยหลวงปู่ทิมสร้างพระเครื่อง, ลงเลขยันต์ ตลอดจนการทำสีผึ้งก็ได้บอกเคล็ดลับต่างๆในวิธีการสร้างพระเครื่องของหลวงปู่ทิมแก่ผมด้วย

    บางคนก็นำผง และของอาถรรพ์ต่างๆมาให้ด้วย คุณอุกฤษ ดุลย์เกษม หัวหน้าไปรษณีย์ นำพระผงรูปหล่อขนาดใหญ่พิเศษหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ซึ่งสร้างขึ้นเพียง ๓ องค์ มาให้ผมตำผสมลงไปในเนื้อพระขุนแผน ลูกศิษย์สายตรงของหลวงพ่อพรหมเห็นพระผงรูปเหมือนองค์นี้แล้ว บอกให้ผมเก็บเอาไว้เพราะหายากมากทำจากผงล้วนๆของหลวงพ่อพรหม มีเพียง ๓ องค์เท่านั้น แต่ผมก็ได้นำไปป่นใส่ลงในเนื้อพระขุนแผนรุ่นสากหัก ทิดเย็น คำมีได้แนะนำให้ใส่วัสดุอาถรรพ์ต่างๆเหมือนครั้งที่หลวงปู่ทิมสร้างพระขุนแผน ซึ่งผมก็ทำตามทุกอย่าง

    แทบจะกล่าวได้ว่าพระขุนแผนพรายกุมารรุ่นสากหักนี้ มีผงพรายกุมาร และผงวิเศษต่างๆ ของหลวงปู่ทิม บรรจุมากที่สุดเท่าที่เคยสร้างกันมาผมลงมือตำผง กดพิมพ์สร้างพระขุนแผนได้ประมาณพันกว่าองค์ก็ทำต่อไปไม่ไหว คุณชาลี เอี่ยมฉลวย ศิษย์เอกของหลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ ราชบุรี และหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม เลยรับอาสาเอาไปทำต่อให้เพราะจะทำเป็นพุทธบูชาถวายหลวงปู่ทิม ก่อนจะรับอาสาทำให้ คุณชาลีเล่าว่า ฝันเห็นหลวงปู่ทิมมาหาแล้วยื่นกระดาษสารพัดกันสีชมพูให้พร้อมกับแผ่นทองคำอีก ๑ แผ่น ทั้งสองสิ่งเข้าไปในตัวของคุณชาลี พอคุณชาลีเริ่มทำพระขุนแผนก็เกิดอาการเนื้อด้านหลังเต้นตุ๊บๆ จนเกิดความรำคาญ ไม่ว่าคุณชาลีจะเอาไม้เอามีดมาเกาหรือแม้แต่เอามีคมๆมาสับเนื้อด้านหลังก็ยังไม่หายเต้น คุณชาลีเลยไปเปิดเสื้อให้พระอาจารย์เปีย ศิษย์สายอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง ผู้เป็นอาจารย์สักดูแผ่นหลัง ปรากฎว่า ด้านหลังนูนขึ้นมาเป็นรูปหงษ์ทองคู่ และรูปหนุมาน คุณชาลี เอี่ยมฉลวย ทนทุกข์เพราะหนังเต้นอยู่ได้ ๒ วัน พ่อแก่ครูฤาษีที่คุณชาลีนับถือบอกว่า ครูมาลง เพราะทำพระขุนแผนให้เอาหมากพลูมาเคี้ยวแล้วเอาน้ำหมากมาลูบหลัง อาการเนื้อเต้นก็จะค่อยๆหายไป คุณชาลีบอกว่ เหตุที่เป็นดังนี้เพราะหลวงปู่ทิมคงต้องการแสดงให้รู้ว่าพระขุนแผนชุดนี้ศักดิ์สิทธิ์แน่นอน

    พระขุนแผนสากหักนี้ หลวงปู่ธรรมรังษี เมตตาปลุกเสกให้ตั้งแต่วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๔๖ และแจกเป็นของสมนาคุณแก่ผู้ร่วมงานกฐินวัดพงเสลี่ยง สุโขทัยไปบ้าง แล้วนำพระขุนแผนที่เหลือไปเข้าพิธีเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชรมหาปราบ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๖ อีกครั้ง

    จำนวนการจัดสร้าง

    พระขุนแผนพรายกุมารรุ่นสากหักสร้างขึ้น ๒ พิมพ์ คือพิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่สร้างเพียง ๕, ๕๕๕ องค์, พิมพ์เล็กสร้างเพียง ๖, ๙๙๖ องค์ มี ๓ สีคือ สีดำ, แดง, และขาว พิมพ์ใหญ่มีชนิดฝั่งตะกรุดทองคำ ๙๖ องค์, ตะกรุดเงิน ๒๕๖ องค์, และตะกรุดทองแดง ๓๕๖ องค์, และพิเศษบรรจุขุนพลจิ๋วปี๒๕๔๔, หรือบรรจุปรกใบมะขามหลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่, บรรจุทับทิมเสก - พลอยเสก

    ตะกรุดสาริกาทั้งทองคำ, เงิน, และทองแดง คุณชาลี เอี่ยมฉลวย เป็นผู้จารตามตำราและเคล็ดลับของหลวงปู่ทิม อิสริโก แล้วถวายให้หลวงพ่อผล ทายาทของหลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู ลพบุรี ปลุกเสก, ส่วนขุนพลจิ๋วปลุกเสกในน้ำมันเหล็กไหล-น้ำมันพราย พิธีที่วัดละหารไร่เมื่อปี๒๕๔๔ โดยหลวงพ่อสาคร

    ประสบการณ์
    ผู้ที่รับแจกขุนแผน (พรายกุมาร) รุ่น สากหัก ไปหลายท่านได้นำออกใช้ทันที เพราะเชื่อว่านอกจากหลวงปู่ธรรมรังษีจะปลุกเสกแล้ว หลวงปู่ทิม ต้องลงมาทำให้อย่างแน่นอนอีกครั้ง ดังจะเห็นได้จากพิธีเททองพระกริ่งชินบัญชร มหาปราบ ที่เกิดความมหัศจรรย์อย่างเหลือเชื่อมาแล้ว พระคุณเจ้าองค์หนึ่งที่จังหวัดสระบุรี มาขอไปแจกกฐิน ท่านเล่าให้คุณไพโรจน์ ซื่อชัยเจริญ แห่งเกษมสุขหินอ่อนฟังว่า เมื่อเก็บไว้ในกุฏิ นิมิตเห็นสีกามาหาเต็มกุฏิไปหมด เลยเอาไปฝากที่พระภิกษุอีกรูปหนึ่งซึ่งก็นิมิตเช่นเดียวกันอีก หลายคนที่นำเอาไปใช้เพราะเชื่อว่าหลวงปู่ทิม ต้องมาปลุกเสกให้ เล่าว่า คนไม่ถูกกันมานานก็มาพูดด้วย บางรายก็มีสาวๆมาแซวอย่างไม่เคยมีมาก่อน อีกรายบอกว่าเมื่อเอาขึ้นคอแล้วก็นึกถึงแฟนเก่าๆก็โทรมาหา

    สนใจ PM ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2014
  11. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    สาริกาหาคู่ หลวงปู่ชื่น วัดตาอี

    ตามตำรามหาขันต์สาริกา เป็นตำรามหายันต์ ในด้านมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม มหามิตร มหาโชค มหาลาภ นำความเจริญรุ่งเรืองของพรหมศาสตร์ชั้นสูง พระเดชพระคุณหลวงปู่ชื่นท่านสำเร็จมหายันต์สาริกาโดยตรง ท่านได้นำผงสาริกาลิ้นทอง ผงสาริกาหาคู่ ผงสาริกาหลงรัง ผงสาริกาพญาการเวก ผงหัวใจยูงทอง ผงหัวใจเทพจำแลง ผงสาริกาตัวผู้-ตัวเมีย ผงสาริกาเขาครัว ผงสาริกาป้อนเหยื่อ และผงนางอกแตก ซึ่งเป็นผงเกี่ยวกับมหาเสน่ห์โดยเฉพาะท่านได้นำผงมากดพิมพ์ มือเป็นนกสาริกาขึ้นมา 2 พิมพ์ คือ

    1.นกสาริกาคู่ มหาเสน่ห์-มหารวย
    2.นกสาริกาหาคู่

    หลังจากนั้นหลวงปู่ กำหนดฤกษ์ปลุกเสกลงอาคม มหามนต์สาริกาทุกชนิดเป็นปัจจัยพื้นฐาน เต็มสูตรแบบต้นตำรับเขมรจนบังเกิดอุคหนิมิตเป็นโลกียสุข4 เข้าสู่นกสาริกาทุกคู่ ทุกตัว และท่านยังได้ลงมหามนต์คาถาอาทิเช่น พระคาถาเมตตาใหญ่ พระคาถามหานิยมใหญ่ พระคาถามหาละลวย พระคาถามหารักมหาหลงซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ใช้ดีทาง เมตตามหานิยม-มหาเสน่ห์ มหาละลวย เจรจาพาทีไพเราะเสนาะหูจับจิตจับใจแก่ผู้ที่ได้ยินได้ฟังให้หลงไหลคล้อยตาม บันดาลโชคลาภ วาสนา เป็นที่รักชอบของผู้ที่ได้พบเห็น ในรุ่น สาริกาหาคู่ นี้ ได้ข้อมูลมาว่า คนที่หาคู่ไม่ค่อยได้ ห้อยองค์นี้ จะนำพา คู่แท้ มาให้เราเอง ไม่รู้ว่าจริงแค่ไหนนะ เคยให้เพื่อนไปม่านอาราธนาใช้ 3 วันเอง เรียบร้อยไปไม่คืนเลย

    **คาถาบูชา ตั้งนะโม 3 จบ**
    เอหิ สาริกา วันตานัง เมตตัมพุทเส สิเนหะรัตถัง สาริกาลาโภ ภะวันตุเม เอหิหญิงชาย

    วัตถุมงคลของ หลวงปู่รุ่นนี้ที่ชาวต่างชาติ เช่าบูชาไปอยู่ต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ เมื่อก่อนหาไม่ค่อยมี ไม่ค่อยดัง รุ่นนี้ไม่ค่อยมีใครพูดถึง ตามประวัติที่ท่านอาจารย์ให้ข้อมูลมา สาริกาหาคู่พิมท์นี้ทางวัดเป็นผู้จัดสร้าง
    ส่วนสาริกาคู่พิมท์นี้ทางศูนย์พระเป็นผู้ทำมาให้หลวงปู่ปลุกเสก ช่วงหลังสาริกาคู่จึงมีของเสริมออกมามากต้องระวังหน่อย

    สอบถามทาง PM ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2015
  12. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    EL 5430 2452 4 TH คุณเจษฎา รองเมือง

    ขอบคุณครับ
     
  13. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    พ่องั่ง(พ่องัด) แม่เป๋อ หลวงปู่ฤทธิ์ วัดชลประทานราชดำริ จ.บุรีรัมย์


    แม่อีเป๋อ เป็นเครื่องรางชนิดเดียวที่หายไปจากวงการนิยมเครื่องราง ไม่มีอาจารย์องค์ไหน ๆ สร้างขึ้นมาอีกเลย จนเกือบจะลบเลือนไปจากยุทธจักรเครื่องรางของขลัง แท้จริงแล้วแม่อีเป๋อเป็นเครื่องรางที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับปลัดขิก เพราะเป็นของคู่กันตามธรรมชาติ หญิงคู่กับชาย หรือ ชายต้องคู่กับหญิง เหมือนหยินกับหยาง ปลัดขิกมีการสร้างออกมาติดต่อกันมากมายหลายวัดหลายอาจารย์ แต่แม่อีเป๋อไม่มีใครสร้างขึ้นมาเลย เป็นเวลาสิบ ๆ ปี จนหายสาบสูญหาย สมัยโบราณเกจิอาจารย์ที่สร้างเครื่องรางของขลังโดยมากมักเป็นฆราวาสหาใช่พระสงฆ์องค์เจ้าไม่ จากประวัติของพระเกจิอาจารย์ที่ดัง ๆ ในยุคเก่า ๆ ครูบาอาจารย์ของเกจิอาจารย์เหล่านั้นมักเป็นฆราวาสเสียเป็นส่วนใหญ่ หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก เคยพูดให้ฟังว่า สมัยก่อนฆราวาสเก่งกว่าพระมีเยอะแยะอย่างสาย หลวงปู่สังฆ์เฒ่า ของฉัน หลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย และ หลวงพ่ออ่ำ เรือเก่า (เจ้าตำรับแพะเขาควายฟ้าผ่า) ซึ่งถือว่าแน่แล้ว หมอวัง ฆราวาสศิษย์คนโตของหลวงปู่สังข์เฒ่ายังเก่งกว่าหลวงพ่อวงศ์และหลวงพ่ออ่ำอีก หมอวังท่านนี้เวลาหลวงปู่ทิมบอกกล่าวเชิญครูบาอาจารย์ ก่อนเริ่มพิธีปลุกเสกทุกครั้ง ท่านมักจะเอ่ยชื่อหมอวังทุกครั้ง จนพวกผมจำได้โดยท่านจะเอ่ยถึงครูบาอาจารย์ฆราวาสของท่านว่า โยมเริ่ม โยมรอด โยมสาย หมอวัง ด้วยทุกครั้ง
    แม่อีเป๋อ เครื่องรางสำคัญที่คู่กับปลัดขิกขาดหายจากการสร้างเพราะเกจิอาจารย์ที่เป็นฆราวาสขลัง ๆ มีจำนวนน้อยลงไปทุกที จนเหลือแต่พระเกจิอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์ แม่อีเป๋อจึงหยุดการสร้างลงไปโดยปริยาย พระเกจิอาจารย์องค์ไหนที่จะกล้าสร้างอีเป๋อเพราะการสร้างแม่อีเป๋อขึ้นมาได้นั้นตั้งตั้งนิมิตเรียกอาการ 32 ปลุกเสกจนให้บังเกิดเป็นตัวเป็นตนเป็นรูปเป็นธรรมขึ้นมาจึงจะใช้ได้เช่นเดียวกับการสร้างปลัดขิก ต้องปลุกเสกจนเคลื่อนไหวได้จึงจะใช้ด้า ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นเพียงไม้ดุ้นหนึ่ง ซึ่งเป็นแต่รูปอ้ายขิกเท่านั้น
    เมื่อผมสร้างแม่เป๋อไปให้หลวงพ่อฤทธิ์ ท่านบอกผมว่า อีเป๋อไม่ใช่ของต่ำแต่เป็นองค์กำเนิดเหมือนปลัดขิก เพราะใคร ๆ ก็เกิดมาจากอ้ายนี่ทั้งนั้น หรือว่าไม่ใช่ หลวงพ่อฤทธิ์ ท่านย้อนถาม….ที่ไม่มีใครสร้างเพราะไม่มีใครปลุกเสกเป็นเพราะคนที่เสกเม่อีเป๋อได้ต้องละกำหนัดได้แล้ว ไม่เช่นนั้นตบะจะแตก หลวงพ่อฤทธิ์ท่านยังรู้ด้วยว่า ผมได้นิมิตและคาถาปลุกอีเป๋อมาจากปราสาทศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ คาถาปลุกเสกอีเป๋อท่านยังให้ใช้คาถาที่ผมได้มาจากประสาทศรีเทพเลย ถึงกับให้ลูกศิษย์โทรมาถามคาถาปลุกอีเป๋อจากผม เพื่อให้ตรงกัน ตอนอีเป๋อออกจำหน่ายใหม่ ๆ ทั้ง ๆ ที่บอกท่านไว้แล้ว แต่เพื่อให้แน่ใจและคาถาถูกต้องตามกันจริง ๆ ท่านก็ให้ลูกศิษย์โทรมาถามย้ำกับผมอีก
    ครั้งหนึ่งก่อนหลวงพ่อฤทธิ์มรณภาพไม่นานท่านนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล จ.สุรินทร์ วันนี้ลูกศิษย์ของท่านไปเยี่ยมท่านกันมาก และ ผมก็ไปเยี่ยมท่านด้วย ท่านยังพูดคุยเหมือนคนปกติ เพราะเป็นเพียงโรคกระเพาะปวดท้อง เพราะฉันไม่เป็นเวลา พอท่านเห็นหน้าผมก็ถามเหมือนเช่นเคยว่า เอาของดีมาให้อีกหรือเปล่า? ผมบอกไม่มีแล้วครับ ของดีหลวงพ่อฤทธิ์ถามหานี้คือ อีเป๋อ เมื่อผมไปหาท่าน ผมจะเที่ยวเก็บเอาไปฝากท่านมากบ้างน้อยบ้างเท่าที่จะหาได้ เพราะที่วัดหมดและคนถามหา แม่อีเป๋อ รุ่นที่ผมสร้างกันมาก วันนั้นศิษย์ที่มาเยี่ยมท่านจึงถามหลวงพ่อฤทธิ์ว่า อีเป๋อใคร ๆ ก็สร้างมาให้หลวงพ่อปลุกเสก แต่เหตุใด คนจึงถามและหาแต่รุ่นที่คุณชินพรสร้าง ทั้ง ๆ ที่รุ่นหลังสวยงามกว่า หลวงพ่อฤทธิ์ท่านตอบว่า ของชินพรมีตัวช่วยดีและเจตนาก็ดี เลยทำให้ยิ่งดังใหญ่
    หลวงพ่อฤทธิ์ ท่านให้สำนวนสมัยใหม่ ตัวช่วยดี ตัวช่วยดีที่ท่านว่าก็คือ ของที่ตกทอดมาจากหลวงปู่ทิมไม่ว่าจะเป็นสีผึ้ง หรือน้ำมันพราย หรือผงพรายกุมาร ผมเอามาผสมอุดลงไปในของที่สร้างทุกครั้ง เพื่อให้พระอาจารย์ที่ปลุกเสก ปลุกเสกสำเร็จได้เร็ว สามารถเรียกรูปนามให้เกิดมารับได้อย่างง่าย ของที่สร้างขึ้นจึงศักดิ์สิทธิ์และใช้ได้ผลดี จึงไม่น่าจะมีปัญหาใด ๆ

    พยายามถ่ายไม่เน้นมากนะครับ เพราะเซ็นเซอร์ไม่เป็น​

    สอบถามทาง PM ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อศักดิ์ชัย วัดลิ้นทอง

    พระขุนแผน รุ่นแรก หลวงพ่อศักดิ์ชัย วัดลิ้นทอง หลวงพ่อศักดิ์ชัย วัดลิ้นทอง จ.อ่างทองท่านได้จัดสร้างพระขุนแผนรุ่นแรกขึ้นเมื่อปี 2546 มลสารมีมากมายหลายอย่างเช่น ผงขุนแผนชมตลาด ผงขุนแผนสะกดทัพ ผงขุนแผนสะกดนาง ฯลฯ ว่านพญาเทครัวว่านขุนแผน ว่านดอกทอง ว่านเสน่ห์จันทน์ ว่าเครือสาวหลง ว่านสะกดนางว่านนางห้าร้อย ว่านจูงนาง สีผึ้งซื้อจากสาวพรมจารีย์ไม่ต่อราคา 3 สี 3ตลาด ฯลฯ องค์นี้เป็นของสะสมของผมครับ ด้านหลังฝังตะกรุดนะเข้าหาและชิ้นส่วนประคำขุนแผน

    ประวัติการสร้างพระขุนแผนรุ่นแรกของหลวงพ่อศักดิ์ชัย
    แม้ว่าหลวงพ่อศักดิ์ชัย แห่งวัดลิ้นทอง จ.อ่างทอง จะได้ชื่อว่าทำของได้ดี และปลุกเสกของได้ขลังมานานแล้ว โดยเฉพาะวิชาด้านมหาเสน่ห์ ท่านได้ทำของด้านนี้มาหลายอย่างแล้ว และแต่ละอย่างก็ได้มีการทดลองของ ทดสอบกันมาเป็นที่แพร่หลาย จนหมดไปอย่างรวดเร็ว และเหลือเชื่อ โดยเฉพาะของมหาเสน่ห์ชิ้นแรกที่สร้างชื่อให้กับท่านก็คือ ตะกรุดนะขุนแผนอุดผง ซึ่งในขณะนี้มีคนหากันในราคาพันกว่าบาทแล้ว นับจากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบ ๓ ปี ทำไมท่านไม่สร้างพระพิมพ์ขุนแผนออกมาเร็ว ๆ และทำไมพระขุนแผนของท่านจึงมีวิธีการสร้างที่ยุ่งยากนักหนา ก็แค่สั่งช่างแกะแม่พิมพ์เอามวลสารผสม จ้างช่างพิมพ์พระ เท่านี้ก็เสร็จแล้ว ทำไมต้องทำให้ยุ่งยาก

    ๑. หลวงพ่อสั่งให้ลูกศิษย์ช่วยกันหาว่านมงคลต่าง ๆ ผงมงคลและมวลสารต่าง ๆ โดยบอกกับลูกศิษย์ว่า ถึงเวลาสร้างพระขุนแผนแล้ว ฤกษ์เปิดแล้ว เขาอนุญาตแล้ว ซึ่งวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่ท่านสั่งให้หานั้นบางชนิด บางอย่าง ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย ท่านต้องอธิบายให้ฟังอยู่นาน และบอกว่า ของพวกนี้ท่านไม่ได้สั่งเอง แต่เจ้าของพระเขาสั่งมาอีกที ให้ทำตามตำราเขา

    ๒. หลวงพ่อเก็บตัวลบผงในกุฏิท่านอย่างเงียบ ๆ องค์เดียวอยู่นาน แล้วรอทำมวลสารที่ให้ศิษย์ไปหามา เพื่อจะนำผงที่ลบไปทำเป็นลูกประคำขุนแผน เพื่อให้ขุนแผนเสกเสียในชั้นแรกก่อน ผงที่ท่านลบถมนั้นเกี่ยวข้องกับตัวขุนแผน และวิชาด้านมหาเสน่ห์ มหารัก มหาหลง มหาละลวย มหางงงวย ทั้งสิ้น เช่น (ท่านอนุญาตให้เปิดเผยบางอย่าง บางชนิดเท่านั้น ดังนั้นพระขุนแผนองค์จริงจึงมีมวลสารมากกว่านี้มากนัก) ผงขุนแผนชมตลาด, ผงขุนแผนสะกดทัพ, ผงขุนแผนสะกดนาง, ผงขุนแผนจูงนางเข้าห้อง, ผงขุนแผนเสกแป้งปะหน้า, ผงขุนแผนสะกดกุมาร – สะกดโหงพราย, ผงชักรูป, ผงชักเงา, ผงหลงรูป, ผงหลงเงา, นางอกแตก, ห้าร้อยนาง, ช้างผสมโขลง, พญาเทครัว, พญาหลงลืม, พญารูปงาม, พระลักษณ์หน้าทอง, พระสังข์รูปทอง, สะกดนางทั้งห้าร้อย, ดับโทสะจริต, ดับทิฐิจริต, ดับโมหะจริต, ผงแม่กล่อมลูก, แม่รักลูก, มหาชิด, มหาหลวง, นะหน้าทอง, มหาละลวยใหญ่ ครอบจักรวาล, นะจังงัง, นางนกสาลิกาลิ้นทอง, นางนกการะเวกเสียงทอง, นะร่วมใจ, นะหลง, นะรัก, นะนางอกแตก, นะเข้าหา, นะเมตตา, นะมหาเมตตา, นะปัถมังหน้าทอง, นะละลวยแฝด, นะอ่อนใจ, นะงามนัก, นะถอดรูป, นะเสน่ห์หา, นะขุนแผน, ผงสวาททั้งพันชนิด, ผงนางหลง, เป็นต้น

    ๓. ว่านและของมงคลมีเท่าที่ท่านอนุญาตให้เปิดเผยดังนี้ ดอกไม้และพวงมาลัยจากอารามหลวง และวัดราษฎร์ โดยเฉพาะวัดที่มีโบสถ์เสมาคู่ ที่พระท่านขอขมากันในวันเข้าพรรษา และออกพรรษา ให้เก็บมาให้ได้ ๑๐๘ วัด, ว่านช้างผสมโขลง, ว่านพญาเทครัว, ว่านขุนแผนทั้งชนิดดอกแดงและดอกเหลือง, ว่านเสน่ห์จันขาว, ว่านเสน่ห์จันแดง, ว่านเสน่ห์จันเหลือง, ว่านดอกทองตัวผู้, ว่านดอกทองตัวเมีย, ว่านเครือสาวหลง, ว่านสะกดนาง, ว่านนางห้าร้อย, ว่านจูงนาง, รากรักหันทางทิศตะวันออก, เครือรัก, เครือหลง, เครือให้, กาฝากรัก, กาฝากมะรุม, กาฝากมะยม, กาฝากกาหลง, ว่านกินเงิน, ว่านกินทอง, ว่านกินกระดาษ, ว่านกินเหล็ก (พวกว่านกินต่าง ๆ นี้เป็นว่านที่มีศักดิ์สูง มีเทวดารักษา มาสรรพคุณหากินเก่ง เช่น ว่านกินเงิน กินทอง เมื่อปลูกอย่างถูกวิธี ว่านจะหาเงิน หาทองกินเอง คือบันดาลให้เจ้าของมีเงิน มีทองเข้ามามาขาด, ส่วนว่านกินกระดาษนั้น หมายถึง หากินธนบัตร ว่านพวกนี้ก่อนจะพลีมาต้องให้กินของที่ชอบ ให้อิ่มเสียก่อน) ตะไคร่เสมาคู่ ๑๖ วัด, ตะไคร่เจดีย์เก่า, ตะไคร่วังเก่า, ดินกลางแม่น้ำ, ดินกลางโบสถ์, ดินกลางหรือดินหน้าประธาน, รังต่อทำรังที่ตาพระประธาน, รังผึ้งร้าง, รังต่อร้าง (ได้จาก จ.พระนครศรีอยุธยา) ตะไคร่เสาตะลุงช้างน้ำ, ตะไคร่เสาตะลุงช้างบก (โชคดีที่ได้เสาตะลุงช้องตกมัน ท่านว่าเป็นเสน่ห์รุนแรงมาก) ดินโปร่ง ๗ โปร่ง, ดินท่า ๗ ท่า, ผงลูกสวาทป่น ทำจากลูกสวาท ๑,๐๐๐ ลูก, ว่านเอามาทั้งห้า คือ ราก กิ่ง ต้น ดอก ใบ นำมาหั่นเป็นแว่น ๆ แล้วลงอักขระ สูตร ยันต์ ตั้งธาตุ เรียกธาตุ เพิ่มธาตุ เปิดอาการ ๓๒ ของว่าน เรียกเทวดารักษาว่าน

    ๔. ส่วนตัวประสาน มีดังนี้ สีผึ้งซื้อจากสาวพรหมจารีไม่ต่อราคา ๓ สี ๓ ตลาด น้ำนมแม่ลูกอ่อน (ถือเคล็ดว่าความรักของแม่ยิ่งใหญ่ที่สุด ขนาดกลั่นเลือดในอกตนเองมาให้ลูกดื่มกินได้ เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ มหาศาล และบริสุทธิ์ แม้ชีวิตแม่ก็ยอมให้ลูกได้) น้ำฝนกลางหาว, น้ำกลางท้องเรือ, น้ำริมท่า, น้ำผึ้งเดือนห้า, น้ำกลางมหานทีใหญ่ คือแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำโขล แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำน้อย แม่น้ำยม แม่น้ำวัง กล้วยน้ำว้าสุก, กล้วยน้ำไท, กล้วยหอม, ข้าวเหนียว, น้ำมันขุนแผน, น้ำมันว่านดอกทอง, น้ำมันสาวหลง, น้ำมันสะกดนาง, น้ำมันว่านช้างผสมโขลง, น้ำมันว่านพญาเทครัว และน้ำมันว่านมหาเสน่ห์อีกมากมาย, น้ำมันสะกดพราย, น้ำมันสวาท, น้ำมันไก่กุก เป็นต้น

    ๕. นำส่วนผสมและมวลสารทั้งหลายบรรดามี มาคุลีการตามฤกษ์มงคล บดป่นเป็นผงปั้น เป็นลูกประคำขุนแผนได้ ๒๒๗ ลูก เท่าจำนวนศีลของพระ จากนั้นได้อัญเชิญดวงวิญญาณของเฉพาะขุนแผนลงมาเสกเป็นจำนวน ๕๖ วัน โดยหลวงพ่อไม่ได้เข้าไปยุ่งเกียวด้วยเลย ครั้นพอครับกำหนดแล้ว ท่านหยิบประคำขึ้นมาลูกหนึ่ง พูดว่า “นี่เขาทำดีแล้ว เต็มแล้ว ลึกและรุนแรงมาก เอาไปบดทำพระให้หมดนะ ห้ามใครเอาไปเป็นของส่วนตัว เดี๋ยวผิดข้อกาเมกันทั้งหมู่บ้านแน่”

    ๖. สำหรับพิมพ์พระนั้น ท่านให้แบบไปแกะให้เหมือนพิมพ์ขุนแผนที่เป็นพระกรุ โดยกำหนดให้มีขนาดเขื่องพอสมควร ท่านว่าจะใส่ผงมวลสารให้เต็มที่ พระที่ทำครั้งนี้ต่อให้หักเป็นเสี่ยง ๆ ก็ใช้ได้เหมือนเดิม หรือให้แกะผงมาลองก็ใช้ได้ จะทำให้มีคุรภาพดีที่สุด ช่างแกะพิมพ์ชื่อ นายสุวัฒน์ อยู่ยศเส เมื่อเริ่มลงมือแกะไปได้สักพัก ปรากฎว่า เหล็กที่ใช้แกะลาย หักออกจากกันทั้งที่เคยแกะแม่พิมพ์พระเป็นร้อย ๆ ก็ไม่หักมาก่อน ได้โทรศัพท์ไปที่วัด หลวงพ่อให้จุดธูปบอกกล่าวขุนแผนเสียก่อน จึงได้สำเร็จ

    ๗. เมื่อได้พิมพ์พระแล้ว ท่านได้ให้ศิษย์แต่งเป็นตาปะขาว ทำการสมาทานศีล และอาบน้ำมนต์ก่อนตำพระ โดยท่านทำการคุลีผงและมวลสารให้ โดยใช้ครกที่ก้นครกได้ใส่ใบรู้นอนทั้ง ๗ ชนิด และท่านลงอักขระให้ที่ก้นครก เมื่อตำได้ที่แล้ว ท่านจึงกดพิมพ์พระเป็นปฐมฤกษ์ จากนั้นก็ให้ศิษย์ช่วยกันกดพิมพ์พระตามฤกษ์มงคลที่ท่านกำหนดไว้ โดยให้จุดธูป ๑๖ ดอก บอกกล่าวขุนแผนก่อนพิมพ์พระทุกครั้ง แต่ศิษย์ขี้เกียจเพราะเมื่อครู่เพิ่งตำพระมารู้สึกเมื่อยก็เลยกดพิมพ์พระเลย ปรากฎว่า พระที่ศิษย์กดจำนวน ๕๖ องค์ แตกหักหมด และศิษย์ผู้นี้วันรุ่งขึ้นมือก็บวม ปวดมาก จนหลวงพ่อต้องทำน้ำมนต์ให้กินจึงหาย ท่านบอกว่าทำพระขุนแผนต้องระวัง และต้องปฏิบัติตามที่บอกอย่างเคร่งครัด รู้หรือไม่ พอเอ็งกดพระเสร็จ พระยังเปียก ๆ อยู่นี่แหละเขาจะเสกให้ทันทีเลย แต่เมื่อวานเอ็งไม่ได้จุดธูปบอกเขา มันไม่ถูกต้องเขาจึงลงโทษเอา ทำพระพิมพ์นี้จะสุกเอาเผากินไม่ได้ เพราะเอาชื่อเขามาอ้าง ต้องทำให้ดีสมกับชื่อเขา

    เปิดไว้ที่ 2,500 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830

    สุดยอดมวลสารคลิกเข้าดูข้างในครับ

    เปิดบูชา 1,500 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3471.jpg
      IMG_3471.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.3 MB
      เปิดดู:
      284
    • IMG_3472.jpg
      IMG_3472.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      135
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2014
  16. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    เหรียญจตุรพิธพรชัย รูปเหมือนหลวงพ่อกวย

    จตุรพิธพรชัย คือพรที่จะทำให้เกิดความสวัสดีมีชัย 4 ประการ เป็นพรที่พระสงฆ์ให้แก่ชาวบ้านเป็นปกติ หลังจากทำบุญแล้ว พร 4 ประการนี้คือ 1.อายุ ให้มีอายุยืน มีชีวิตที่ดี 2.วรรณะ ให้มีความสวยงาม มีชื่อเสียงเกียรติยศ 3.สุขะ ให้มีความสุขกายสบายใจมีความสะดวก 4.พละ ให้มีกำลังกายกำลังใจกำลังทรัพย์ มีพวกพ้องบริวาร

    พร 4 ประการนี้เป็นพรที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ จึงถือว่าศักดิ์สิทธิ์แน่นอน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัดต่อเพิ่มเติม พระสงฆ์ใช้มาเป็นพันปีแล้ว

    "เหรียญจตุรพิธพรชัย 9 พระอาจารย์" คือ การจัดสร้างเหรียญพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณทางเวทมนตร์คาถา 9 รูปพร้อมๆ กัน แล้วจัดพิธีพุทธาภิเษกที่ "วัดรัตนชัย" เมืองกรุงเก่า เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2518 สำหรับความเป็นมาในการจัดสร้าง "นายเรียน นุ่มดี" อดีตผู้บัญชาการเรือนจำกลาง จังหวัดพระนครศรี อยุธยา ท่านผู้นี้เป็นผู้เข้าถึงพระรัตนตรัยอย่างใกล้ชิด สมัยที่ท่านเป็นผู้บัญชาการเรือนจำเมืองกรุงเก่า ได้ใฝ่ในการพระศาสนาตามวัดวาอารามต่างๆ มาโดยตลอด

    ในช่วงสุดท้ายแห่ง ชีวิตท่านที่จะเกษียณอายุราชการและกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิดที่อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี แต่เนื่องด้วยวัดเขาใหญ่ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และเป็นวัดที่ใกล้บ้านเกิด มีเสนาสนะที่ชำรุดทรุดโทรมเนื่องจากไม่ได้รับการบูรณะมานาน

    ดังนั้น นายเรียนจึงมีความตั้งใจจะหารายได้ส่วนหนึ่งไปปฏิสังขรณ์วัดเขาใหญ่ให้สวยงาม จึงได้นำความเบื้องต้นเข้ากราบเรียนขอคำแนะนำจาก "หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ" วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเรื่องการจัดสร้าง "เหรียญจตุรพิธพรชัย" และพระพิมพ์ต่างๆ

    หลวงปู่ดู่ จึงได้เมตตาแนะนำและให้คำปรึกษาในการจัดสร้างวัตถุมงคล ตลอดจนการนิมนต์ครูบาอาจารย์มาร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลในพิธีนี้อย่างละเอียด

    วัตถุประสงค์เพื่อจัดจำหน่ายแด่สาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในวัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้น เพื่อนำเงินรายได้ไปก่อสร้างวิหารจตุรพิธพรชัย และอาคารเสนาสนะต่างๆ ที่วัดเขาใหญ่เป็นสำคัญ

    วัตถุมงคลที่จัดสร้าง อาทิ พระสมเด็จ 9 ชั้น เนื้อผง, พระแก้วมรกต 3 ฤดู เนื้อผง, พระสามสมัยเนื้อผง พิมพ์เชียงแสน สุโขทัย อู่ทอง พระภควัมบดี (พระปิดตามหาลาภ) พระสมเด็จหลังรูปเหมือนสมเด็จโต พระพุทธศรีมณฑป อ่างทอง ปี 2517

    นับว่าโดดเด่นเป็นที่เล่นหาอย่างแพร่หลายก็คือ "เหรียญจตุรพิธพรชัย 9 พระอาจารย์" หมายถึง การจัดสร้างเหรียญพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษ 9 รูป คือ 1.หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค จังหวัดนครสวรรค์ 2.หลวงพ่อนอ วัดกลาง จังหวัดพระนครศรี อยุธยา 3.หลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 4.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ จังหวัดลพบุรี 5.หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู จังหวัดลพบุรี 6.หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท 7.หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง จังหวัดพระนครศรี อยุธยา 8.หลวงพ่อโกย วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา 9.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี เป็นต้น

    สนใจติดต่อสอบถามทาง PM ครับ

    มาพร้อมบัตรรับรองครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการแล้วครับ

    ลูกอมผงพรายกุมาร เนื้อชมพูชุบบรอนซ์น้ำมัน


    ลูกอมผงพรายกุมาร เนื้อชมพูชุบบรอนซ์น้ำมัน เนื้อขุนแผนใหญ่สวยๆ ได้จากพี่ใหญ่กรรมการตัดสินพระสายระยองครับ เหมารังมาใกล้หมดแล้วครับ ขนาด 1.6 ซม

    น่าใช้มากครับเนื้อนี้หายากมากเจ้าของเดิมเก็บมาเกือบ 20 ปี ตอนได้มาทองเต็มไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเนื้อชมพู วันเวลาผ่านไปทองหายไปบ้างเพราะเก็บในกระป๋องเดียวกันมาทราบตอนที่จะหาเม็ดที่เนื้อเปิดๆดูง่ายๆออกขาย ที่ไหนได้ส่องลงไปเป็นเนื้อพิเศษชมพูว่านสะบู่เลือด ตอนนี้ใกล้หมดเต็มทีแล้วครับและคงหาไม่ได้อีกแล้วครับพี่ๆ

    ปิดรายการครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2014
  18. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    สนใจรายการไหน สอบถามได้เลยครับ


    ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ทาง PM
    หรือเบอร์โทร 084-162-2166 (กวาง)
    หรือทางไลน์ แอคเข้ามาได้ที่ cwitapi

    ขอบคุณครับ
     
  19. mrchainarong

    mrchainarong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,179
    ค่าพลัง:
    +2,006
    สอบถามเหรียญหลวงพ่อกวยครับ
     
  20. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    แจ้งแล้วครับ เหรียญดี พิธีใหญ่ อนาคตดัง!!
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...