ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ตามต่อครับ 2 เรื่องเลยครับ...........ขอบคุณพี่ modpong และทุกท่านครับ............

 

รอติดตามตอนต่อไปครับอา

 

มาตามต่อทั้งสองเรื่องครับอ้ายมด
รักษาสุขภาพนำเด้ออ้าย
หนาว ๆ ครับบ้านผม
ตื่นเช้ามา 20 องศา ครับผม

 

มารอติดตามตอนต่อไปทั้ง2 เรื่องครับครู

 

สวัสดีครับคุณอา มาติดตามอ่านบทความดีๆตอนต่อไปครับ

 

...........
.................ครบตามกติกา...........
..ต่อตามที่ขอ..(ผู้ขอ..น้องStone..หลานเขม..พลศิริน้องรัก..เด็กบ่อผุด
..และ..เฉียวฟงหลานรัก..)
............
.......................แต่พวกที่..มีจุดคล้องหัวกับท้ายนั้น..ส่วนใหญ่จะใช้กับ..ทีใส่ดินปืน
มากกว่า..กระบอกเขาวัว..แบบที่ผมพูดถึงนี้..ส่วนนึง..ก็จะไม่มีที่ห้อยบ่า..ด้วยซ้ำ..
เพราะเขาใส่..ไว้ในห่ออีกที..อาจมีปัญหาเรื่อง..กระโตงกระเตงไปมานั่นเอง..
..........จากตอนที่แล้ว..เมื่อเราได้ระยะแล้ว..ก็ขูดตำแหน่งไว้..แล้วก็ลากเส้นโดยรอบ
เขา(ตำแหน่งที่จะพันเชือก)..เขาจะขูดผิวที่มันๆ..ออกไป..ตามแนวเส้น..และให้กว้าง
พอ..กับ..ความกว้างเชือกที่จะพัน..ไม่ต้องลึก..แค่พอเว้าๆเท่านั้น..เพื่อล็อกเชือกไม่ให้
รูดลงไป(ทางปลายเขา)...(ที่ไม่ค่อยกลัวเรื่อง..มันจะรูดขึ้นเพราะ..ยิ่งไปทางโคนเขามันยิ่ง
กว้าง..แต่..ไปทางปลาย..ขนาดเขามันเล็กลง)...
............เชือกที่จะเอามาพันนั้น..แกบอกว่า..เขาต้องย้อมพวกยางตะโก..แบบเดียวกับ..
เชือกทำแห..เพราะ..ส่วนนี้มันเป็นส่วนที่ติดตายกับเขา..จึงต้องการความทนทาน..ทนแดด
ทนฝน..และ..ป้องกันการสึกหรอ...
.........จากนั้นก็เอาเชือกมาพันรอบตามแนว..แต่เชือกนั้น..เราจะต้องทำการผูกเป็น..ห่วง
เงื่อนตาย(..ยกตัวอย่างคือ..ห่วงสายธนู..)..โดยกะระยะให้พอดี..ตามขนาดความกว้างของ
เขา..โดยให้..ห่วง..แต่ละห่วง..อยู่..ตรงข้ามกัน..คือ..
...ถ้าทำแบบ..ไม่มีสายคล้อง..ก็..ทำแค่..๒ ห่วง..อยู่ตรงข้ามกัน...แต่ถ้ามีสายคล้องด้วย..
..ก็เพิ่มอีก ๒ ห่วง..อยู่ตรงข้ามกัน..เช่นกัน..ซึ่ง..จะทำให้..ระยะห่างแต่ละ..ห่วง..เท่ากัน..
...ถ้า...๒ ห่วง....ห่วงแต่ละห่วงห่างกัน..เท่ากับ..ครึ่งเส้นรอบวง...
...ถ้า...๔ ห่วง....ห่วงแต่ละห่วงห่างกัน..เท่ากัย..๑ ส่วน ๔ เส้นรอบวง...
.....เมื่อมัดจนแน่นแล้ว..ก็เอาชั้น..มายาตรง..ริมขอบเชือกที่ติดกับเขา..เพื่อ..เสริมความ
แข็งแรง..และ..ล็อคไม่ให้เชือกเคลื่อนตัว(..หมุน..และ..รูด)ด้วย..
....ผมสอบถามเพิ่มเติมว่า..มีแบบที่เขาไม่ทำด้วยเชือก..มีมั้ย..แกบอกว่า..เคยเห็นแบบ
ใช่แผ่นตะกั่วนมรัดเป็นวงแหวน..โดยที่เขาร้อยห่วงทองแดง..ไว้ในตัว..ก็มี....
....................ถ้าเป็นแบบมีเชือกคล้องไหล่ (๔ ห่วง)..นี่ต้องไม่สับสน..นะครับ..
ห่วงที่จะร้อยปลายเชือก..ทั้งสองปลายต้องอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน...
...ส่วนที่เหลืออีก ๒ ห่วง..ก็คือ..เอาไว้ร้อยเชือกยึดฝา..นั่นเอง...
.........เขาจะเผื่อ..ความยาวของเชือกส่วนนี้..ไว้..พอสมควรเพราะ..ส่วนแรก..คือด้าน
ปลายเชือก..ร้อยเข้าที่..ห่วงที่ยึดติดกับ..เขา..แล้วผูกเงื่อนตาย..เลย..เพราะด้านนี้
จะไม่มีแก้เชือกอีกต่อไป...ส่วนนึง..จากนั้น..เอาฝาที่ทำมาครอบ..(..ผมลืมบอกไปว่า
..เนื่องจาก..โคนเขาอาจไม่กลมนัก..โดยเฉพาะ..ถ้าเป็นเขากระทิง..จะออกรี..กว่า..
ก่อนจะทำการผูกเชือกรัดรอบเขา(ที่ทำห่วงติดไว้)นั้น..ต้องเอาฝามาครอบก่อน..
..แล้วดูว่า..รูที่หูมันหันไปทางไหน..แล้ว..บากทำตำแหน่งไว้..ทั้งสองฝั่ง..เพราะ..นั่นจะ
เป็นตำแหน่ง..ที่เราจะต้องทำห่วงไว้..ทั้งสองอัน..ตรงข้ามกัน..เพราะ..เชือกรัดฝา..
จะต้องร้อยผ่านหูของฝา..)....
..........เอาปลายเชือกข้างที่ว่าง..ร้อยผ่านหูของฝา..แล้วเอามาร้อยผ่านห่วงอีกด้านหนึ่ง
...แล้ววัดระยะเผื่อ..พอที่จะผูกเงื่อนกระตุกที่ห่วง..ได้แบบสบายๆ..แล้วเพื่อระยะมัดปม
เชือกไว้ด้วย..เพราะปลายเชือกต้องเป็นปม..ไม่งั้น..เวลาเราเปิดฝา..ฝามันอาจเลื่อนลง
ไปจน..หลุดจากเชือกได้..ถ้าฝาหล่นหาย..ก็ซวยเลย...
...จะเห็นว่า..หลักการ..ก็คือ..ใช้แรงกดจากเชือก..กดมาที่หูฝา..เพื่อให้ฝาด้านใน..
กดแนบ..กับ..ตะกั่วด้านบนที่เราทำหุ้มรอบขอบไว้..นั่นเอง...
......แต่ผู้อ่านต้องสงสัยว่า..แบบนี้..ต่อมัดแน่นยังไง..ไอ้แผ่นตะกั่ว..กับ..แผ่นไม้..มันก็
ไม่มีทางแนบสนิท..กันได้..ของข้างในถ้า..ถ้ามัน..กระฉอก..มันก็รั่วออกมาได้..อยู่ดี..
เพราะ..ตะกั่วนั้นก็ยังพอเรียบเนียนได้..แต่ไอ้ไม้นี่..มันทำได้แค่พอเรียบ..เรื่องเนียนนะ
คงไม่เนียนเท่าไหร่...กดยังไง..ก็รั่ว..แน่นอนครับ..มันต้องมีอุปกรณ์เสริม...

......ต่อเมื่อขอมา....

 

ตามต่อครับพี่............ขอบคุณพี่ modpong และทุกๆ ท่านครับ.....................

 

ตามต่อครับอ้ายมด
หนาว ๆ นอนอ่านยามว่างจากงาน
ได้อรรถรสไปอีกแบบครับผม

 

ขอบคุณครับอา รอติดตามตอนต่อไปครับ

 

มาตามอ่านอีกครับ เรื่องที่หนึ่งเข้มข้น เรื่องที่สองเริ่มลงรายละเอียด พลาดไม่ได้แม้แต่เรื่องเดียวครับ

 

มาติดตามอ่านบทความดีๆตอนต่อไปครับคุณอา

 

.........
...............ครบตามกติกา.............
.......
...ต่อตามที่ขอ..(เรื่องของมองโกล)(ผู้ขอ...น้องStone..พลศิริน้องรัก..หลานเขม..เด็กวัดป่า
..และ..เฉียวฟงหลานรัก...)
..........
....................”....พวกมันเห็นแสนยานุภาพ..และ..กำลังพลที่มาเสริมจาก..ท่านแม่ทัพ
ชากาไต..แล้วข้าเชื่อว่า..มันไม่กล้าที่จะปฎิเสธ..ข้อเสนอดังกล่าวแน่....”
.............................
............ แต่..โจชิลืมไปว่า...ชากาไต..ไม่ได้เจตนามาเที่ยว..หรือ..พาลูกน้องมาโชว์
ชุดเกราะ..เขามาเพื่อทำการรบ..มาเพื่อ..ฆ่าและ..กวาดล้าง..มาเพื่อสร้างผลงาน...
..มาทำให้..ท่านพ่อ..พอใจ..และ..เหนือสิ่งอื่นใด..เขามาเพื่อให้ทุกคนเห็นว่า...เขา
นั้นมีศักยภาพ..เหนือกว่า..โจชิ...ไอ้แค่..เยินยอ..เล็กๆน้อย..หรือ..ต่อให้เยินยอ..
..หรือ..จะตล่อมแบบไหน..ไม่มีทางเปลี่ยนใจ..ชากาไตได้....
............................
....”...อีกอย่างนั้น..ถ้าเรายึดเมือง..โดยไม่ฆ่าฟันนั้น..เราก็จะได้แสดงให้เห็นถึง..
เมตตาปราณี..ของเรา..หลังจาการยึดครอง..ชาวเมืองก็จะไม่หนีไปไหน..ทำการค้า
ได้เหมือนเดิม..ใครๆก็ทราบว่าเมืองนี้ร่ำรวยขนาดไหน..เพราะเป็นจุดสำคัญของ..
เส้นทางสายไหม..เราก็สามารถเก็บภาษีได้..ต่อได้เลย...แต่ถ้าเรา..ฆ่าฟันชาวบ้าน
ส่วนใหญ่ตาย..ทำลายบ้านเมือง..และ..มัสยิด...เราก็จะได้แค่..สิ่งที่เราปล้นจากชาวบ้าน
มาได้..ชาวเมืองที่เหลือ..ก็อยู่อย่างหวาดกลัว..และคงพยายามหนีออกจากเมืองไป
หากินที่อื่น..การค้าก็จะฟุบ..ขาดความต่อเนื่อง..คาราวานสินค้าที่เคยมา..เขาก็ต้องไป
หาที่ใหม่แทน..แล้วหลังจากนั้น..เราจะได้อะไร..จะเก็บภาษีจากไหน..เมื่อไม่มีการค้า
..........ข้าจึงขอความเห็นจาก..แม่ทัพชากาไต..และ..ขุนศึกของข้าว่า..แผนการแบบที่ข้า
อธิบายไปพร้อมกับ..เหตุผลประกอบนั้น..ท่านมีความคิดเห็นเป็นอย่างไร..หรือ..มีส่วนไหน
ที่ควรปรับปรุง..ก็เชิญให้ความเห็นมาได้......”.....
.....โจชิจบคำพูด..พร้อมกับ..มองไปที่..ชากาไต..น้องชาย..ที่นั่งเอาสองมือจับท้าวแขน
เก้าอี้แน่น..โดยที่..ก้มหน้าอยู่...เขาก็ทราบทันทีว่า..สิ่งที่เขาอุตส่าห์อธิบายยืดยาว..
...มันไม่มีผล..อะไรเลย..
...........................ท้องฟ้ามืดครึม..อึมครึม..อยู่..ก็มี..อสุนีบาตฟาดผ่า..ลงมา
กลางห้องทันที..........
...........................ชากาไต..ดันตัวลุกขึ้นยืน..พร้อมกับ..ชี้หน้าไปที่..โจชิ......ทันที..
..ที่โจชิ..พูดจบ...............
...........................ชากาไตจ้องหน้า..พี่ชาย..ด้วยความเคียดแค้น..แล้วระเบิดเสียง
กึกก้องไปทั่วทั้งกระโจม..ท่ามกลาง..ความตกใจ..ของขุนศึก..ทั้งสองฝ่าย...
........................................................
........”......ท่านพูดอย่างนี้มาได้ยังไง...มองโกลเราไม่เคยเจรจา..กับข้าศึก..หน้าไหน
มาแต่ไหนแต่ไร..ท่านไม่ต้องมาอ้างเรื่องการค้า..เงินทอง......เรื่องมันจะไม่เกิดแบบนี้..
ถ้าท่าน..สามารถตีเมืองนี้แตกด้วยตนเอง..ตามเวลาที่เหมาะสม..แล้วเราก็ทำเหมือน
กับที่เรา..เคยปฏิบัติ..กับเมืองที่เรายึดได้ทุกครั้ง.......
....แต่นี่..เพราะท่านด้อยความสามารถ..ทำการไม่สำเร็จ..ขุนศึกมองโกล..ไม่ว่าอยู่ทัพ
ไหน..ก็เก่งกล้าสามารถทั้งนั้น..แต่นี่เพราะ..ผู้นำ..ที่ทำหน้าที่ได้..ไม่ดีเท่าที่จะเป็น..
จึงต้องทำให้ไพร่พล..ล้มตายไปไม่น้อย.....ข้าไม่โทษที่..ขุนศึก..ข้าโทษที่ผู้นำ...
............ไอ้เรื่องเจรจา..ต่อรองนี่..ท่านคงจะคิดไว้ก่อนหน้าแล้วซิ..เพราะไม่มีปัญญา
ยึดเอาเมืองด้วยกำลังได้...พอเห็นพวกข้ามา..ก็เลยเข้าทาง..อาศัยสถานการณ์เพื่อ
เสนอแผนของตัวเองจะเจรจา..และ..รักษาสถานะของตัวเอง..ฐานะแม่ทัพใหญ่ได้.....”
.....................
....โจชิ..ก้มหน้าเล็กน้อย..มองแผนที่..พยายามวางหน้าเฉย..แต่เขาขบกรามแน่น
จนขึ้นเป็นสัน..ขณะฟัง..น้องชายด่า..ขุนศึก..ทั้งสองฝ่าย..รู้ดีว่า..นี่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่
..และ..พี่..กับ..น้อง..ที่เป็น..ข่าน..ด้วยกันทั้งคู่..ไม่มีใครกล้าขยับ..หรือ..สอดแทรกใดๆ
ทุกคน..นั่งก้มหน้า...ฟังด้วยใจระทึก..ขณะที่..อสุนีบาตยังคง..ฟาดเปรี้ยง..เปรี้ยง..ต่อ
เนื่องไม่หยุด...

......ต่อเมื่อขอมา...

 

ติดตามต่ออยู่ครับทั้ง 2 เรื่อง...........ขอบคุณพี่ modpong และทุกท่านครับ.......................

 

มารอติดตามตอนต่อไปทั้ง 2 เรื่องครับครู ขอบคุณครับสำหรับความรู้ดีๆครับ

 

มาอ่านย้อนได้รู้เครื่องมือแปลกๆดี รออ่านต่อครับ

 

.......
..........ครบตามกติกา...........
.........
.......ต่อตามที่ขอ..(ผู้ขอ......น้องstone..เด็กบ่อผุด..และ..porpek..)
...............
.....................การที่จะทำฝาปิด..ขวด..หรือ..ภาชนะบรรจุของเหลวใด..ไม่ให้มันรั่ว
นั้น..หลักการเบื้องต้น..เหมือนกันหมด..ก็คือ..ต้องบังคับให้..ฝากดแนบ..กับ..ปากภาชนะ
ให้แน่น..และ..แนบเท่าที่จะเป็นได้..เพื่อไม่ให้มีช่องว่าง..ระหว่าง..วัสดุทั้งสอง..มันก็จะ
ทำให้ของเหลว..ไม่สามารถแทรกตัว..ออกไปได้..
....ไม่ว่า..จะเป็น..ฝาจีบปิดขวดน้ำอัดลม...ฝาเกลียวปิดขวดยาแก้ไอ..ฯลฯ...
...แต่ลำพัง..ฝาที่เป็นโลหะ..กับ..ปากขวด..ที่เป็นแก้วนั้น..ไม่ว่า..จะกดขนาดไหน..
มันก็มี..ช่องว่าง..โลหะ..แม้จะเกือบเรียบ..แต่ก็ไม่เรียบ...
..แก้ว..ที่..ดูเหมือนเรียบ..ยิ่งไม่เรียบกว่า..โลหะอีก..
.........เขาจึงใช้ตัวช่วย..ที่มาแทรกกลาง...ก็คืออะไร..ก็ได้..ที่มันมีความหยุ่นตัว
( ELASTICITY) ..เพราะมันสามารถ..เข้าไปแทรกอยู่ในช่องว่าง..ที่เกิดขึ้นได้...
....สมัยก่อน..ฝรั่ง..ก็ใช้จุกไม้ก๊อก..ที่เป็นไม้ที่มีเนื้อหยุ่นตัว..หรือ..แผ่นยาง(ที่ถือกำเนิด
มายังไม่ถึง สองร้อยปีเลย)..มาเป็นตัวช่วย....
....แต่สำหรับ..คนไทย..สี่ร้อย..ห้าร้อยปีก่อน..ก็คิดเป็น..ก็ลองคิดดูซิครับ..ว่า..แผ่น
อะไร..ที่มันหยุ่นตัวได้..และ..เมื่อไม่กดมัน..มันก็คืนตัวได้บ้าง..แม้มันจะคืนตัวไม่ได้
เต็มที่แบบยาง..แต่มันก็รับแรงกดได้..สูงกว่ายาง....ที่มันมีในยุคโน้น...
.........ผมเชื่อว่า..ผู้อ่านหลายท่านคิดไม่ออก..ถ้าไม่อ่านข้อความต่อไปของผม....
..........................
..........................แผ่นหนัง..ครับ.................................
...แผ่นหนัง..ที่ได้มาจากสัตว์นี่แหละ...แต่เราต้องเลือกชนิดของหนัง..ที่มันค่อนข้าง
..นุ่ม..และ..หยุ่น....อย่างหนังควาย..นี่ใช้ไม่ได้..เพราะกระด้าง..
........เขาใช้..หนังท้องวัว..หรือ..หนังสัตว์ตระกูลกวาง(เก้ง..ละมั่ง..ละอง..เนื้อทราย)
..ซึ่งยุคโน้น..หาง่ายมาก..เรียกว่า..เข้าป่าก็เจอ..แถม..แค่ชายๆป่าก็เจอแล้ว..ชาวบ้าน
เขาก็ล่าเอา..เนื้อมากิน..เอาหนังมาใช้งาน..กันอยู่แล้ว....
........หนังเหล่านี้..ต้องขูดขนให้หมด..ก่อนนำมาใช้..ก็เจียรแผ่นหนังให้พอดี..กับ..
ฝาด้านใน..เมื่อลองใส่ดูแล้ว..ไม่แหว่งชิดพอดี..ก็ค่อย..เอายางโพธิ์..หรือ..ชันมาทา
..แล้วปะเข้าไปกดให้แนบแน่นโดยทั่ว..แต่....
......คนโบราณเขาไม่โง่ครับ..เพราะเขา..ก็รู้ว่า..หนังนั้นถ้ากดแน่นๆ..นานๆแล้ว..ใช้ไป
ไม่เท่าไหร่..หนังมันจะตาย..ก็คือ..แทบไม่คืนตัว..
...เขาก็ตัดแผ่นหนัง..ติดเข้าไป..เป็น ๒ หรือ ๓ ชั้น..มันก็จะทำให้หนา..และนุ่มขึ้น..
..เวลารัดเชือก..กดที่ฝาก็ไม่ต้องแน่นมาก..แผ่นหนังแต่ละแผ่นมันช่วยกัน..แล้วตัวมัน
เอง..ก็รับแรงน้อยลง..ก็จะทำให้..หนังไม่ตายได้ง่ายๆ..และ..ยังพอหยุ่นตัวได้...
....ข้อดีอีกอย่างคือ..แผ่นรองฝาที่เป็นหนังนี้..ถ้านานเข้ามันใช้ไม่ได้..ก็เปลี่ยน..เพราะ
วัสดุ..เป็นของหาได้ง่ายอยู่แล้ว...
..........แต่..หนังที่เปียกชื้น..อยู่เป็นเวลานานๆ..บ่อยๆเข้า..มันก็จะเหม็น..เปื่อยและ..เน่า
ได้..(..ก็ลองดู..รองเท้าหนังของคุณเอง..หน้าฝน..ถ้าเดินตากฝนบ่อย..ไม่ค่อยได้มา
ตากแดด...ก็คล้ายๆอย่างนั้นแหละ..)
..........ดังนั้น..มันก็ต้องมีตัวช่วยอีกตัว..ที่จะทำให้มัน..ไม่เปียก..หรือ..ไม่เปื้อน..หรือ
ถ้า..มีบ้างก็ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้...
....การที่จะใช้ไขสัตว์..ไปทาที่หนังนั้น..ตัวไข..มันก็อาจไปปน..กับของเหลว..ที่มีอยู่ได้
.....ดังนั้น..ตัวช่วยนี้..ต้องไม่เกิดการปนเปื้อนกับ..ของเหลวที่บรรจุด้วย....
........แล้วอะไรล่ะ..ที่มัน..มีในธรรมชาติ..บ้านป่า..และ..หาง่าย....
..บอกแล้วว่า..คนโบราณนะเก่ง..เขาอยู่กับธรรมชาติ..ช่างสังเกต..ไอ้ของที่ว่านี้..
....ก็ยังใช้อยู่..แม้ในปัจจุบัน..ก็เพราะนั่นคือ..มรดกของภูมิปัญญา..คนโบราณชาติไทย
..ที่ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน..แม้ในปัจจุบัน..มันจะมีของสังเคราะห์..ของสำเร็จรูปมาแทนที่
...แต่คนไทยที่ยังอนุรักษ์..เขาก็ไม่ลืม..และ..บางอย่าง..มันก็ไม่สามารถมาแทนที่สิ่ง
นี้ได้ซะด้วย....
..............
......................ใบตอง...ไงครับ..................

.....ต่อเมื่อขอมา.............

 

ขอบคุณครับสำหรับความรู้ใหม่ๆทั้งสองเรื่องครับครู มารอขอติดตามตอนต่อไปครับครู

 

ดูบอลเพิ่งจบ รออ่านต่อครับ

 

มาตามต่อวันทำงานครับอ้าย
ขอตามทั้งสองเรื่องเลยครับอ้าย

 

ตามอ่านตอนต่อไปครับทั้ง 2 เรื่อง.............ขอบคุณพี่ modpong และทุกๆ ท่านครับ ................