ทำไงดี ฝันไม่ยอมตื่น!!!!

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นิราศสองภพ, 19 พฤศจิกายน 2014.

  1. นิราศสองภพ

    นิราศสองภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +78
    ดิฉันไม่มีทั้งเจตนาดี และ เจตนาไม่ดี เจตนาดิฉัน ถ้าอ่านกระทู้แล้ว ถ้าไม่ทราบเจตนา ตีความตามตัวอักษรไม่เปน มโน เป็นอย่างเดียว ก็สุดแล้วแต่คุณ
    และถ้าคุณอ่านกระทู้ดิฉันแล้วมองว่าเป็นการอวดตน นั่นคือคุณเป็นแบบนั้นเองค่ะ คุณเองต่างหาก ที่มีเจตนา คนที่อวดตน คือ คุณ พิจารณาดูให้ดี ไม่รุ้อะไรทั้งนั้น แต่อยากอวด อยากแนะ ว่ารู้ ว่าเคย บอกได้ ตอบได้ แนะนำได้ อะไรไม่รุ้ อย่าแนะเลย ถ้ารุ้จริงค่อยแนะเถอะ ได้บุญด้วย
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๗

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

    ถาม : เวลานอนเหมือนร่างกายเกร็งหนัก แขนขาขยับไม่ได้ บางคืนเป็นแทบไม่ได้นอน ตื่นมาตาโหลเลย เคยอาราธนาพระท่านให้ช่วย ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนแข่งว่า "ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย..!" แล้วก็หัวเราะร่า เล่าให้แม่ฟัง แม่ก็บอกว่า "ใกล้จะบ้าแล้ว..!" ผมเลยเถียงว่า "ทุกวันนี้ก็บ้าอยู่แล้ว" อย่างนี้เรียกผีอำเปล่าครับ ? มีวิธีแก้ไหมครับ ?
    ตอบ : ถ้าบ้าไม่ต้องแก้ แต่ถ้ายังไม่บ้าก็ให้ภาวนาต่อไปเรื่อย ๆ อาการทั้งหลายเหล่านี้เป็นทั้งขันธมาร คือร่างกายเราเองขัดขวางการปฏิบัติความดี เป็นทั้งเทวปุตตมาร คือผีหรือเทวดาที่เป็นมิจฉาทิฐิเขามาขัดขวางการปฏิบัติของเรา ต้องตั้งใจสู้กันไประยะหนึ่ง ถ้ากำลังใจเราเข้มแข็งมากกว่า ก็จะก้าวพ้นไปได้เอง

    ถาม : ทุกวันนี้คืนไหนไม่มาอำวันนั้นเหงาเลย ?
    ตอบ : ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องแก้ไข ปล่อยให้สนุกสนานกันต่อไป







     
  3. นิราศสองภพ

    นิราศสองภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +78


    ข้อความนี้ดีเลยค่ะ 5555
     
  4. Jan2014

    Jan2014 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2014
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +143
    กายหยาบมันสงบราบเรียบ มันก็เป็นอย่างนั้นแหละครับ
    ถ้ากายหยาบได้สะเทือนเบาๆ เดี๋ยวก็วุ่บกลับมาเอง
    สะเทือน ก็มีแบบสะเทือนจากภายนอก กับสะเทือนแบบภายใน
    ผมว่า ไหนๆ ท่านก็มีสติกำกับเวลาฝันอยู่แล้ว ท่านก็เล่นวิธีแบบสะเทือนภายในไปเลยครับ สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน กินน้ำแก้วใหญ่ๆสัก 3 แก้ว ขนาดคนปกติที่เขากำลังไหลไปกับความฝันยังกลับได้ แล้วท่าน เป็นผู้ซึ่งมีสติกำกับไว้ขณะฝันอยู่แล้ว ท่านตื่นได้สบายๆแน่นอน
     
  5. นิราศสองภพ

    นิราศสองภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +78
    ความรู้ใหม่เลยค่ะ สะเทือนภายใน มันคืออะไร ยังไง ทำอย่างไรคะ ขอวิธีคร่าวๆหน่อยได้ไหมคะ จะขอบคุณมากๆ เลยค่ะ
     
  6. Jan2014

    Jan2014 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2014
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +143

    สะเทือนภายใน หมายถึง สภาวะของความรู้สึก ที่มีผลมาจากกายเนื้อ ที่ทำให้เรากลับมามีความรู้สึกติดต่อสืบเนื่องเชื่อมโยงเกาะติด กับกายเนื้อนี้อีกครั้ง ซึ่งเกิดขึ้นภายในกายเนื้อเอง ไม่เกี่ยวกับเหตุปัจจัยภายนอก ณ ชั่วขณะนั้น

    สะเทือนภายนอก หมายถึง สภาวะของความรู้สึก ที่มีผลมาจาก สิ่งที่อยู่นอกกายเนื้อ กระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ที่ทำให้เรากลับมามีความรู้สึกติดต่อสืบเนื่องเชื่อมโยงเกาะติด กับกายเนื้อนี้อีกครั้ง

    สะเทือนเบาๆ หมายความว่า ความรู้สึก ที่ทำให้เรา กลับมาติดต่อสืบเนื่องเชื่อมโยงเกาะติด กับกายเนื้อด้วยความละเอียดปราณีต ไม่ใช่กลับมาด้วยความตกใจ

    *ไม่ใช่ภาษาตำรานะครับ แค่ยืมสมมุติภาษาขึ้นมาเท่านั้น
     
  7. นิราศสองภพ

    นิราศสองภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +78
    งั้นคงเหมือนที่คุณ saber ว่าไว้ในหน้า 2
    ขอบคุณค่ะ คุณ Jan2014
     
  8. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    เราเคยเป็นมาก่อน เรารู้แม้กระทั้งเหตุแห่งการเกิดสิ่งเหล่านี้ และการดับของสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างดี ถ้าอยากหายก็ทำตามที่เราแนะนำนี้
    สิ่งที่เกิดกับท่านนี้เกิดจากกระแสของกำลังอวิชชาที่ครอบตัวท่าน และจริงๆแล้วกำลังอวิชชานี้ก็ครอบสัตว์โลกทั้งหมด ตลอดจนพระอริยะเจ้าตั้งแต่พระอนาคามีลงมาถึงพระโสดาบันก็ล้วนยังอยู่ภายใต้กำลังอวิชชานี้ แล้วทำไมท่านเจ้าของกระทู้ถึงเป็นแบบนี้ คนอื่นๆที่ไม่เป็นแบบนี้ล่ะ ก็เพราะท่านเป็นผู้มีสติมาก มาก่อนในอดีตแต่ขาดซึ่งสัมปชัญญะปัจจุบันจึงเกิดอาการแบบนี้ขึ้น เมื่อท่านหลับในสภาวะที่อยู่ภายใต้อวิชชาก็เสมือนจิตท่านออกจากร่างกายเลย เพราะขาดซึ่งสัมปชัญญะ


    วิธีแก้ไข ต้องสร้างสัมปชัญญะ (ความรู้ตัว สภาวะปกติให้สมบูรณ์)วิธีการปฏิบัติคือ
    การทำความรู้ตัวที่สมบูรณ์ ก็คือ การทำสติปัฏฐาน 4 ให้สมบูรณ์ ให้กายกับสติเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นสติบริสุทธิ์ เป็นมหาสติปัฏฐาน
    การทำสติปัฏฐาน 4 ให้สมบูรณ์ ใช้วิธีการเดียวกับการทำมรรค 8 ให้สมบูรณ์ หรือการทำโพชฌงค์ ให้สมบูรณ์หรือการทำวิชชา ให้สมบูรณ์หรือการทำวิมุตติให้สมบูรณ์ ทั้งหมดนี้ปฏิบัติเหมือนกันหมด


    วิธีการ ปฏิบัติ คือ ทำความสงบใจให้เกิดขึ้น รักษาสติ อย่าให้เผลอ อย่าให้เหม่อ สังเกตุซึ่งความรู้ตัวในระหว่างการทำต้องมีความรู้ตัวโดยตลอด โดยไม่ต้องไปเพ่งความรู้ตัว สติจะรู้ตัวมันเอง ( ไม่ต้องภาวนาใดๆ อะไรที่ไม่ได้แนะไม่ต้องทำเพิ่ม)
    ถ้าสติรู้ตัวเกิดมาก คือ รู้ตัวได้ชัดโดยไม่ต้องเพ่งใดๆ ท่านจะทำลายความกระแสของความฝันที่เกิดจากกำลังอวิชชาลงได้มาก (เวลาสังเกตุความรู้ตัวนั้น ให้สังเกตุความรู้ตัวทั่วพร้อมกันทั้งร่างกาย ไม่ใช่ที่ใดที่หนึ่ง ) ให้ท่านปฏิบัติตามที่แนะนำนี้ อย่างน้อย 45 นาทีก่อนนอน กระแสของกำลังอวิชชานี้จะลดลงและจะทำให้อาการที่เป็นอยู่เกิดขึ้นยาก และถ้าท่านปฏิบัติต่อเนื่องจนสติท่านคงที่ ท่านจะทำลายกระแสของกำลังอวิชชาและความฝันลงได้อย่างสิ้นเชิง

    แต่ถ้าท่านยังมีกระแสจิตอ่อน ก็ยังอาจเป็นขณะที่ท่านฝันอยู่ ให้ท่านทำตัวให้นิ่งทั้งหมด ไม่ต้องไปขยับร่างกาย ในขณะฝัน และให้ท่านปฏิบัติตามที่แนะนำในขณะที่ฝัน
    คือ "ทำความสงบใจให้เกิดขึ้น รักษาสติ อย่าให้เผลอ อย่าให้เหม่อ สังเกตุซึ่งความรู้ตัวในระหว่างการทำต้องมีความรู้ตัวโดยตลอด โดยไม่ต้องไปเพ่งความรู้ตัว สติจะรู้ตัวมันเอง"

    ท่านทำให้ต่อเนื่องกระแสจิตท่านจะเกิดกำลังและไปทำลายกระแสความฝันที่ครอบท่านอยู่ให้ขาดลงได้ และท่านจะเกิดความรู้สึกตัว รู้สึกตนจริงขึ้นมา
    ขอย้ำว่าที่อธิบายท่านนี้ให้ถือเป็นที่สุด เราผ่านมาก่อนท่านนานแล้วอาการแบบนี้ เราย่อมรู้ดีที่สุด ท่านเก็บคำแนะนำนี้ใช้ได้จนกว่าจะหมดลมหายใจเลย และที่อธิบายท่านนี้มีความสำคัญทุกบรรทัด จะไปเพิ่มหรือไปตัดข้อความโดยความไม่รู้จริงนี้ไม่ได้เลย ผลที่ได้จะผิดออกไปทันที
     
  9. นิราศสองภพ

    นิราศสองภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +78
    ขอบคุณค่ะ ถ้าเกิดขึ้นอีกในฝัน จะลองทำแบบที่ คุณ 123a แนะนำดู แล้วจะมาแจ้งความคืบหน้าว่าเป็นอย่างไรค่ะ คาดว่าคงจะระลึกคำคุณในความฝันขึ้นมาได้ ต้องลองดู
     
  10. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ผู้ที่หลุดพ้นจากอวิชชา ย่อมพ้นภวังคจิต และพ้นจากความฝันได้
     
  11. ZIGOVILLE

    ZIGOVILLE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +792
    แนะนำไว้เผื่อมีท่านอื่นๆอาจเจอปัญหาแบบนี้ในอนาคตได้ผ่านมาดูเป็นความรู้แนวทางการปฏิบัติ

    วิธีที่ผมทดสอบแล้วใช้ได้คือแบบนี้นะครับ...ตั้งแต่ผมเลือกใช้มรณานุสติกรรมฐาน โดยระลึกว่า "เรากำลังจะตาย นี่แกกำลังจะตายนะจิต กายนี้กำลังจะแตกดับ" แล้วก็ระลึกต่อว่า "นิพพาน นิพพาน นิพพาน" จิตจะวิ่งไปที่สะดือ และนิ่งเป็นสมาธิ เป็นการทำสมาธิที่ไวที่สุดตั้งแต่ผมปฏิบัติ และทดสอบมาสำหรับจิตดวงนี้...นี่คือเวลาตื่น และใช้ชีวิตปกติ เราต้องระลึกให้ได้เสมอๆ ตลอดวัน ฝึกให้จิตมันเคยชินกับกรรมฐานตัวนี้...พอเวลาหลับ...เมื่อเจอภาพเหตุการณ์ต่างๆ ในฝัน...จิตจะรู้ตัวว่านี่คือฝัน และเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้าย...จิตมันก็จะทำงานของมันเองโดยอัตโนมัติ อย่างเหตุการณ์ที่เคยเกิดมาหลายครั้ง ตัวอย่างเช่น

    ตัวอย่างที่ ๑
    เมื่อสัก ๓ เดือนที่แล้ว ฝันว่าเจอกลุ่มผีฝรั่ง ๕ ตน ผู้ชาย ๓ ตนที่สวนหย่อมร้างแห่งหนึ่งในยุโรป ก็ต่อสู้กัน เราสวดมนต์บทไล่ผี มันไม่กลัวเพราะฝรั่งไม่รู้ภาษาบาลี เราเหาะโชว์รอบๆ มันก็เหาะได้เหมือนกัน ทีนี้มันรวมตัวกันมารุมล้อมเรา...แต่พอมาใกล้ๆ หัวหน้าผีก็หยุด พร้อมส่งกระแสจิตบอกลูกน้องว่า "เดี๋ยว หยุดก่อนพวกเรา คนนี้มันมีของดีอยู่" ในฝัน จิตมันก็นึกได้ว่านี่คือฝันนี่นา ได้เวลาต้องเผ่นแล้ว ก็เลยวิ่งลงมาที่สะดือ เป็นความรู้สึกที่ชัดเจนมาก พร้อมบริกรรมคำว่า "กำลังจะตายหนอ กำลังจะตายหนอ" มีสติตลอดตั้งแต่อยู่ในฝันจนจิตวิ่งมาที่สะดือ และมีความรู้สึกวิ่งไปทั้งตัว...วันนั้นตื่นมา ภาพยังติดตาอยู่...และเช้านั้นจิตก็เป็นสมาธิต่อจากฝันเลย

    ตัวอย่างที่ ๒
    เมื่อสัก ๑ เดือนที่ผ่านมา อยู่ดีๆ จิตก็ไปโผล่ ณ ภูมิแห่งหนึ่ง ไม่รู้ว่าที่ไหน แต่รู้ว่าเป็นโลกของวิญญาณ ไม่รู้พิกัดและตำแหน่ง...เมื่อไปถึง จิตมันก็รู้ตัวว่านี่คือฝัน และรู้ว่าตอนนี้เราอยู่เหมือนกับเป็นเมืองลับแล และจิตก็ตั้งจิตอธิษฐานโดยอัตโนมัติทันที พร้อมหันหน้าไปทางทิศตะวันออกว่า "เราจะต้องรีบกลับนะ ไม่งั้นอาจตายได้" ก็มองดูบรรยากาศรอบๆ คล้ายๆ เมืองมนุษย์ มีวัด แต่พระกรรมฐานที่ปฏิบัติอยู่ในเมืองลับแลนั้น เคร่งครัดมากๆ ไปไหว้พระพุทธรูปองค์ใหญ่...ไปหาเพื่อนเก่า ยังเมามันในฤทธิ์ เหาะ เหิน เดินอากาศอยู่ในนั้น เลยชวนเพื่อนมาปฏิบัติเพื่อไปนิพพานด้วยกัน อย่ามามัวเมาฤทธิ์อยู่แบบนี้ มันเสียเวลา...แต่ตอนนี้จิตวิ่งมาที่กลางหน้าผาก เพราะตอนนั้นจ้องหน้าเพื่อนอยู่ แล้วก็กลับ...ใช้เวลาในฝันนั้นแค่แป๊บเดียวเอง...สุดท้ายวันนั้นเป็นวันที่ตื่นสายที่สุดคือ ๖ โมงเช้ากว่าๆ ทั้งๆที่เข้านอน สี่ทุ่ม...ซึ่งปกติจะตื่นตี ๔ เป็นประจำไม่เกินนี้

    ยังมีอีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับการตายตอนหลับ ที่เราเคยเจอตอนเราเป็นเด็ก เป็นเหตุการณ์ของลุง แกอายุสัก ๕๐ ปีได้ ยังแข็งแรง แกก็ฝันว่ามีผู้หญิงมาชวนไปอยู่ด้วย แกก็เล่าให้เมีย และญาติๆฟัง ฝันติดต่อกันตั้ง ๓ วัน ทุกคนก็ช่วยระวัง...แต่พอวันที่สี่ แกดันนอนกลางวัน ทุกคนก็ไปทำงานกันไม่ทันระวัง...หลับแล้วก็ไม่ตื่น...แล้วก็ตายไปเลย...จำได้ตอนเด็กหลังจากแกตาย ยังมาเข้าฝันบอกเราว่า ไม่ต้องห่วงนะ ลุงอยู่ทางนี้สบายดี ๕๕๕

    ส่วนอีกเรื่องพระธุดงค์ในอดีต จำไม่ได้ว่าท่านชื่ออะไร ตอนนั้นเป็นเด็กอายุ ๑๐ กว่าๆ ไปฝึกสมาธิกับท่าน จำได้แต่ว่าท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าแถวขอนแก่น วัดนี้ผีดุมาก ใครไปอยู่วัดนี้แล้วไม่ปฏิบัติ เจอมานั่งหน้ากลดทุกราย...ท่านเป็นพระสายท่านพระอาจารย์มั่นนี่แหละ ท่านเล่าให้ฟังว่าการปฏิบัติให้ระวังอย่าส่งจิตออกนอก ทั้ง ยืน เดิน นั่ง นอน...มีหลายองค์ที่พลาดท่าเสียทีมามากแล้ว โดยส่งจิตออกจากกายไป พอญาติ หรือแม่ชีมาเห็น...นึกว่าตาย...เอาไปทำพิธีเรียบร้อย...ท่านว่า อย่าประมาท เพราะพวกมารมันจะรบกวนเราไม่เลือกเวลา แม้กระทั่งเวลาเรานอน...อย่างตอนนั้นท่านธุดงค์ในป่า และปักกลดทำสมาธิต่อเนื่องทั้งวัน จิตกำลังเดินสมาธิอยู่ ท่านบอกว่าท่านได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์ ได้ยินเสียงคนผัวเมียคุยกัน มีเสียงปิ่นโต ทำนองว่าจะถวายอาหารให้หลวงพี่ฉัน นิมนต์ท่านออกจากสมาธิมารับอาหาร ท่านก็สงสัยว่า เอ๊ะ นี่ในป่าแท้ๆ มอเตอร์ไซค์มันมาได้ด้วยเหรอ แต่ท่านก็ต้องการพิสูจน์จึงถอนสมาธิออก แล้วลืมตาดูก็พบแต่ความว่างเปล่า...เรื่องอาจารย์ท่านนี้เล่าให้ฟังมีเยอะมาก เพราะท่านเป็นพระนักธุดงค์

    สรุปคือ เลือกกรรมฐานที่ถูกจริต เจริญสติให้มั่นคง ฝึกจิตให้คล่อง และอย่าประมาทในทุกอิริยาบถ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2014
  12. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,398
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,631
    ก่อนนอนก็ให้กำหนดว่าเราไม่ต้องการอะไรในโลกนี้แล้ว ต้องการอย่างเดียวคือพระนิพพาน แล้วเอาจิตจับภาพพระ หรือระลึกถึงพระพุทธเจ้าไว้เป็นปกติ จะเป็นการดีมากครับ

    ขอแนะนำวิธีไปพระนิพพานที่ง่ายและเร็วที่สุด (หลวงพ่อพระราชพรหมยาน ทูลถาม องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า)
    http://thammapontook.blogspot.com/2013/04/blog-post_628.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2014
  13. นิราศสองภพ

    นิราศสองภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +78

    ถ้าวันหนึ่ง คุณพบว่า อะไรที่คุณทำ คุณเห็น เป็นปกติของคุณ มันกลับไม่ปกติ คุณจะเข้าใจดังดิฉัน เช่น ตัวอย่างที่ 1 และ 2 คุณเคยเป็นแบบนั้น แต่ต่อมา นี่เรากำลังจะตายหนอ อยุ่ในฝันสัก 30 นาที นี่เราต้องกลับแล้วหนอ สัก 30 นาที จนคิดว่า แล้วนี่มันจะกลับตอนไหนหนอ จริตคุณจับ มรณานุสติได้ ดิฉันก็อาจจับกองอื่นได้ แล้วมันกลับไม่เป็นดังที่เคย นั่นแหละ แล้วจะให้เปลี่ยนเป็นกองอื่นนั้นคงต้องลองดู ขอบคุณมากๆสำหรับอุทาหรณ์ดีๆ มาแบ่งปันกัน อนุโมทนา ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...