แนะนำ ด้วยครับ สมเด็จบางขุนพรหม อกครุฑ

คราบกรุแท้ๆจะติดในเนื้อพระแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันครับ

กรุลอยๆ ก็เหมือนมีคราบมาฉาบผิว

ไม่ต้องให้ผมโชว์ สมเด็จนะครับผมไม่มีงะ มีแต่ สมเด็จอย่างอื่น

แล้วก็ไม่ต้องเชื่อผมนะครับ

 

อ๋อ ครับ ก็อธิบาย เข้าใจง่ายนิดเดียว
ผมอ่อนด้อยประสพการณ์ครับ ไม่เคยเห็นของการลักษณะของคราบกรุฉาบ
การคิดอ่านของผม ได้แต่คิดตามเท่าที่เข้าใจ ว่าการฉาบของสิ่งอื่นที่มนุษย์ทำขึ้น
จะมองเห็นเนื้อหาขององค์พระ หรือไม่ครับ

 

อันนี้ผมมะรู้ครับ ดูอย่างเดียว แยกพระอย่างเดียว เรื่องตรงนั้น ก็แล้วแต่ คนอยากทำครับ

บอกแล้วไม่ต้องเชื่อผมนะครับ เก็บตามสะดวก

 

การแนะนำเป็นสิ่งที่ดี ครับ ท่านได้อ่านเนื้อหาในกระทู้ ของผมแล้วใช่ไหมครับ
การที่คราบกรุมีลักษณะเหมือนมีคราบอะไรมาทาไว้ รายละเอียดจะเหมือนองค์ในกระทู้ไหมครับ

 

เริ่มจะยาว ส่วนตัวผมดูพระ ผมดูโดยรวมครับไม่ได้มาเจาะ ตามภาพเอาเป็นหลักแต่เอาไว้เป็นองค์ประกอบ

 

ภาพเปรียบเทียบเนื้อหาด้านหลังกับองค์อื่นครับ ฝีมือมนุษย์จะทำได้ละเอียดขนาดนี้ไหมครับ
ผมสรุปจากรูปได้ดังนี้ครับ
สิ่งที่ต่างกัน
1.พิมพ์ขององค์พระ
2.สีของเนื้อพระ ตามที่ผมเข้าใจ เนื้อมวลสารในการกดพิมพ์ของพระทั้ง2องค์เป็นมวลสารคนล่ะครก(สูตรผสม หนักเบาจึงน่าจะต่างกัน)
3.ระยะเวลาของการอยู่ในกรุ รูปภาพที่ท่านอาจารย์นำมาให้ผมศึกษา ผมสังเกตุที่ด้านหลังไม่มีรอยตรายาง จึง สันนิฐานว่า องค์พระน่าจะออกมาก่อนเปิดกรุ
(รูปภาพพระที่อาจารย์นำมาให้ผมศึกษา เป็นพระกรุเก่า)
สิ่งที่เหมือนกัน(ด้วยองค์พระเป็นคนล่ะพิมพ์ ผมสิ่งขอเปรียบเทียบที่ด้านหลัง)
1.สีน้ำเงิน ร่องรอยคราบรักที่หลงเหลืออยู่ และคราบน้ำที่ขึ้นรายล้อมรอบคราบรักแต่ไม่เกิดขึ้นบนผิวของคราบรัก
2.สีเหลือง เม็ดมวลสาร มีคราบน้ำรายล้อม แต่ไม่เกิดขึ้นบนเม็ดมวลสาร
3.สีดำ เม็ดมวลสาร ขนาดเล็ก ที่มองเห็นได้บนคราบน้ำ
4.สีม่วง คราบน้ำมันตังอิ้ว ไล่โทนสี-อ่อนแก่ มีกระจายทั่วทั้งองค์
5.สีเขียว การร่อนหลุดของคราบน้ำ ที่เป็นธรรมชาติ แต่มวลสารยังอยู่บนองค์เนื้อพระ
6.สีแดง มีคราบขี้ฝุ่น ที่มากับน้ำเกาะบนผิวเนื้อพระ
7.สีส้ม ลักษณะผิวเนื้อพระ เป็นตุ่มเม็ดเล็กๆๆ ดูคล้ายเม็ดทราย

 

ท่านดูโดยรวม ท่านไม่ต้องส่องเนื้อหาองค์พระหรอ ครับ
ผมก็เริ่มงง ล่ะ

 

ตามสะดวกครับจะเอากี่เม็ดกี่สี แล้วแต่ชอบครับ อิอิ

สมเด็จผมไม่ยุ่ง มุ่งแต่เกจิ

 

เนื้อหาที่มองผ่านคราบที่ท่านพิจารณาเหมือนมีอะไรมาทาไว้ ครับ
1.สีน้ำเงิน องค์พระองค์นี้ตอนบรรจุกรุ มีการลงรัก (จากร่องรอยที่เห็น)
2.สีเหลือง การที่อยู่ในกรุมานาน(เกิดปฎิกริยาทางเคมีภายในองค์พระ)ทำให้เกิดคราบกรุสีน้ำตาลเข้ม(คราบน้ำมันตังอิ้ว มีเฉดสีน้ำตาลเข้ม-อ่อน เกิดขึ้นทั้งองค์พระ)
3.สีน้ำเงิน การยุบตัวหดตัวขององค์พระที่อยู่ภายในกรุ และ สภาวะแวดล้อม ทำให้รักที่ลงไว้ในองค์พระแยกตัวจากชั้นเนื้อพระ
4.สีน้ำเงิน การหลุดลอกของรักที่ปิดในองค์พระ เมื่อเจอปัจจัยภายนอก(มวลน้ำ)มาสัมผัส จึงได้หลุดลอกออกจากองค์พระ
5.สีเขียว การกัดเซาะของมวลน้ำที่มีต่อองค์พระ จุดที่เห็นชัดที่สุดในองค์พระกระทู้ คือ วงแขนข้างขวาขององค์พระ และเม็ดพระธาตุที่โผล่ขึ้นเหนือเนื้อผิวองค์พระ(ทำให้องค์พระในกระทู้มีพิมพ์ที่ตื้นกว่าที่ควรจะเป็น)
6.สีแดง คราบร่องรอยของมวลน้ำที่ไหลพัดพาสิ่งต่างๆ(มีทั้งภายในองค์พระและภายนอกองค์พระ)เม็ดพระธาตุ เศษรัก เนื้อมวลสารกับขี้ฝุ่น และเสี้ยนไม้
7.สีดำ การกัดเซาะของมวลน้ำ ขนาดของมวลน้ำที่ไหลเข้ามาในองค์พระไม่น่าที่จะหยดลงจากที่สูงแต่น่าจะไหลลงมาตามเสาไม้ที่ค้ำยันที่อยู่ในองค์เจดีย์ เม็ดมวลน้ำไม่น่าจะมีขนาดหยดเม็ดใหญ่ดูจากร่องรอยที่ปรากฎของเส้นครอบแก้วที่ขาด น่าจะเป็นหยดน้ำซึมไหลลงมา
องค์พระในระยะใกล้ๆ ส่วนมวลน้ำจะมากหรือจะน้อย อยู่ที่ความหนักเบาของเม็ดฝนที่ตกลงมาแล้วไหลมาตามเสาค้ำยันภายในองค์เจดีย์
8.สีม่วง คราบฟองเต้าหู้ (การทำปฎิกริยาทางเคมีจากภายในองค์พระและภายนอกที่เข้ามาสัมผัสองค์พระ)ในลักษณะเป็นแผ่นบางๆทั่วทั้งองค์บนคราบกรุน้ำมันตังอิ้ว(เนื้อผิวพระสีน้ำตาล)
(จุดสังเกตุของคราบกรุฟองเต้าหู้คือจะเกิดบนเนื้อองค์พระที่มีความหนาแน่นน้อยส่วนที่มีความหนาแน่นมาก(เม็ดมวลสาร)จะรายล้อมไว้)
9.สีม่วง คราบความหนาบางของคราบเต้าหู้ที่มีในองค์พระสังเกตุได้จากสีเข้ม-อ่อนในองค์พระ(ด้านข้างองค์พระสังเกตุเห็นง่ายสุด)
10.สีส้ม การหลุดลอกของคราบเต้าหู้ในองค์พระ(คราบเต้าหู้นี้มีลักษณะแห้งสนิท หลุดร่อนได้)
11.สีชมพู มีเนื้อนูน เนื้องอกในองค์พระ
12.สีฟ้าอ่อน เนื้อในองค์พระที่กระเทาะออก
ตัวอย่างที่ผมได้หยิบยกมานี้ผมพออธิบายได้ดังนี้
1.เนื้อหาในองค์พระ ไม่ได้เกิดขึ้นมาในคราวเดียว (องค์พระในกระทู้ มี3ชั้น 1.เนื้อใน 2.คราบน้ำมันตังอิ้วที่เคลือบหน้าผิว 3.คราบน้ำเต้าหู้ลักษณะเป็นแผ่น)
2.สิ่งภายนอกที่เข้ามาสัมผัสกับองค์พระคือ มวลน้ำ(ผมเข้าใจว่าคือน้ำฝน ที่ไหลลงมาตามไม้ค้ำยันภายในองค์เจดีย์ สันนิฐานได้จากเศษเสี้ยนไม้ในองค์พระ)
3.คราบเต้าหู้ที่เป็นแผ่น น่าจะเกิดหลังสุด สังเกตุได้จากคราบฟองเต้าหู้ที่หลุดลอกออกเนื้อองค์พระที่เห็นเป็นสีน้ำตาล และคราบเต้าหู้แผ่นนี้ขึ้นรายล้อมวัสดุภายนอกที่มากับมวลน้ำ(เสี้ยนไม้)
4.องค์พระในกระทู้นี้น่าจะอยู่ในที่สูงเพราะไม่มีคราบดิน
5.สิ่งที่เกิดขึ้นบนผิวองค์พระโดนมวลน้ำล้างออก ในช่วงหน้าฝนตลอดอายุที่อยู่ภายในกรุ(ช่วงหน้าฝน3-4เดือน ภายในกรุ 2414-2500นาน86ปี)
6.ร่องรอยที่แสดงถึงอายุพระในกระทู้ คือ 1.การกัดเซาะของผิวเนื้อพระ 2.เนื้อนูนเนื้องอกและ3.การหดตัวของเส้นซุ้มและวงแขน
ด้วยความเข้าใจอันน้อยนิดของผมพอสรุปได้เท่านี้ครับ

 

ด้วยความเคารพครับ
ผมไม่เคยมีความรู้เรื่องพระมาก่อน แต่ตามความเข้าใจ ของคนที่ไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยผมเข้าใจในการตีความหมายของการดูโดยรวม ว่า การพิจารณาโดยรวมขององค์พระนั้นประกอบด้วยคราบกรุ+พิมพ์+เนื้อ+มวลสารจะต้องพิจารณาหลักความเป็นธรรมชาติ การที่ท่านอธิบายไว้ว่า คราบกรุมันลอยๆ คือท่านเจาะจงหมายถึงคราบกรุ สิ่งที่ท่านตั้งข้อสงสัยในเรื่องของคราบกรุว่ามันดูแปลกๆเหมือนมันมีอะไรมาทาไว้ ท่านก็ต้องพิจารณาถึงความเป็นธรรมชาติหรือมนุษย์สร้างขึ้น(มันแยกแยะได้ด้วยตาเนื้อ)

 

ผมไม่ได้สงสัยหรอกครับ ผมไม่ชอบเลยครับ ทั้งคราบกรุ พิมพ์ ผมไม่ส่องหรอกครับ มวลสาร ไม่เคยส่อง ส่องไปก็เข้าข้างตัวเองไป แท้ๆๆๆ จบ ตามดวกครับ พื้นฐานพระยังไม่มี แต่มาจับสมเด็จ ก็โดนไปเยอะๆก่อนละกันครับ ผมเดินตลาดบ่อย เห็นนั่งส่องหามวลสารกัน สนุกดีครับ ผมก็ชอบฟัง แท้กรุนั้นกรุนี้ มวลสารเพียบ เปิดราคามาโอ้ว คนขายยิ้ม

 

ผมก็คงไม่ไปบังอาจไปประเมินความรู้ของท่านหรอกครับ
เพื่อนๆสมาชิกที่เข้ามาอ่านเค้าจะเป็นคนประเมินท่านเอง

 

ตามดวกครับ ประเมิน อะไรก็ แล้วแต่ พี่ๆเลยครับ ผมไม่เคยน้ำเต็มแก้วครับ

ถ้าแท้ก็ยินดีด้วยครับขอให้ มีคนขอซื้อ สักสองสามล้าน

 

ผมพอเข้าใจล่ะ

 

มาแพทเทิ้ลเดียวกันเลยแถมมีกองเชียร์มาด้วย

 

ผมไม่เคยมี แพทเทิ้ล อย่า คิดไปเองครับ

ผมถึงไม่ค่อยอยากมา ดูพระใคร เสียเวลา เสียอารมณ์


หัวข้อให้แนะนำ แต่พอแนะนำ ก็ อีโก้สูง จบครับ

หาคำตอบเอาเองละกัน

 

แพทเทิ้ลที่ผมเอ่ยถึง คือมาจากตำราหลักสูตรเดียวกัน
ตอนแรกผมก็คิดว่า ท่านที่มาออกความเห็นผิดคราบกรุ ในทางที่ดี พอมาเจอท่านอีกคน ผมเลยเชื่อสนิทเลยว่า ไม่ส่องรายละเอียด แต่จะสวดไว้ก่อน
การหยิบยกตามตำรามาอ้าง ไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่ถ้า เนื้อหาที่มาสวดไว้ แล้วเค้ามีหลักฐานยืนยันว่าไม่ได้เป็นอย่างที่มาสวด การอยู่นิ่งๆ เด่วมันก็ผ่านไปครับ
ผมมาแล้วก็ไป แต่พวกท่านทั้งหลายยังสิงสถิตย์อยู่ในนี้อีกนาน อย่าให้ใครมาด่าท่านลับหลังเลยครับ

 

ด่าเลยครับ พระจากรูปดูก็เห็นละว่า ไม่ใช่ จะส่องทำไมครับ บ้าป่าว

ผมท้าเลยครับ เอาไปขาย ดูเลย ผมโตมากับบอร์ดนี้ ดูพระเป็นก็เพราะบอร์ดนี้

แล้วไม่เคยผิดหวัง ที่จะอยู่ ไม่ชอบ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ครับ

ผมไม่ได้ใช้ แพทเทิ้ล ผมแค่ส่ององค์จริงๆ มาก็แค่บอก

ก็ไม่ต้องมาขอคำแนะนำครับ เก็บไว้ ดูเล่นเอง

 

ผมสังเกตุเห็นreppowerของท่านแล้วครับ
การที่ท่านคิดไปเองและวิจารณ์ต่างๆนานาเกี่ยวกับตัวผมและองค์พระในกระทู้ เป็นสิ่งยืนยันได้ว่าท่านไม่ได้อ่านเนื้อหาในกระทู้ผม คำสวดของท่านผมถือเป็นความคิดเห็นในแนวทางที่3 ซึ่งผมได้ชี้จุดอธิบายเกี่ยวกับความเห็นในแนวทางนี้แล้ว
ขอบคุณอีกครั้งครับที่มาช่วยดันกระทู้ผม

 

อ่านทำไมครับดูแค่พระก็รู้ ไม่ต้องแยกประเภท คห ไม่ต้องสนใจ power ดูพระเป็นไม่เป็นไม่เกี่ยวกับพวกนี้ ผมบอกผมท้าให้ เอาไปขาย ถ้าแท้ ต้องมีคนซื้อ