ฝึก กรรม-ฐาน ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย ธรรม-ชาติ, 16 ตุลาคม 2013.

  1. จิตวิญญาณ

    จิตวิญญาณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +679
    ไม่ใช่”พรายดำรำพัน” ค่ะ พรายดำเขาไม่มายุ่งกับเราแล้ว อีกอย่าง เราก็ปลีกวิเวก ไม่ติดต่อยุ่งเกี่ยวกับใครเลยมาหลายปีแล้ว เอ๊ะ หรือว่าเราต้องห่างจากเว็บนี้เสียแล้ว

    อาการ แรกๆ เรารู้ว่ามันมีอะไรอึมครึมรอบตัวเรากำลังอัดเข้ามา ขันธ์บริวารมันชี้ไปยังบุคคลนั้นโดยอัตโนมัติ เลยตามขันธ์บริวารไป ลองแย๊บแล้ว ปรากฏว่าพลังมันอัดเพิ่มเข้ามาเต็มเหนี่ยว บีบขมับ บีบหัวกระโหลก ศรีษะบริเวณท้ายทอยเต้นตุ๊บๆ ( คอนเฟิร์มเลย .. ใครปวดกระโหลกแบบนี้ ทานยาทั้งโรงพยาบาลก็ไม่หายค่ะ อิอิ ) หลังจากนั้น มันเหมือนมีพลัง วิ่งหมุนวนภายในกระโหลก ( เหมือนไฟฟ้ารัดวงจร หาที่ลงดินไม่ได้น่ะค่ะ ฮ่าๆๆ ) แล้วพลังนั้นก็ม้วน ปลายพุ่งเป็นเส้นเล็กๆจากกระโหลก วิ่งลงสู่เท้า บริเวณเข่านี่กระตุ่กเลยค่ะ แต่พลังยังตกค้างอยู่นะคะ พลังนี้ เมื่อก่อนเคยเข้าไปเล่นนะ พอเข้าไปเป็นมัน มันจะเป็นธรรมมารมณ์ที่คอยขัดแย้งคำสอนและวิธีการฝึกของครูบาอาจารย์น่ะค่ะ ใครที่โดนพลังนี้ครอบ แล้วไม่สังเกตุธรรมารมณ์ของมัน ก็จบเห่เลย แต่ก็แปลกใจตรงที่ว่า ไม่เกิดความทุกข์กับมันเลยค่ะ


    +++ แต่ถ้า "ยังไม่เลิก ริษยา" ก็อาจใช้ "ไม้เรียว" เบอร์ใหญ่กว่านั้น ก็ได้

    พูดให้หัวเราะอีกแระ ใช้ไม้หน้า 3 เลยดีไหมคะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เคยโดนกระทำหนักหนาสาหัสมากกว่านี้อีก ทำได้คือดูแลตัวเอง ไม่ตอบโต้ สีทนได้ค่ะ ด้วยความที่ว่าเราเคยถูกคนอื่นทำให้ทุกข์ เลยไม่อยากทำให้ใครทุกข์ เคยถูกคนอื่นรังควาน เลยไม่อยากรังควานใคร ถ้าขวางหูขวางตาเขา เราก็หลบ อยู่อย่างสันติสุขโดยไม่มีจินตราดีกว่า ฮ่าๆ มุขขำ ๆ

    เขากำลังเพลิดเพลินกับกิเลส ประมาทในกรรม กำลังม่วนซื่นในฤทธิ์ จนลืมไปว่า ความทุกข์แสนสาหัส กำลังรอเขาอยู่ สะสมความเก่งแล้วใช้ผิดทางเข้าไว้ จะได้เอาความเก่งไปใช้ที่โลกันต์
     
  2. ธรรมอยู่

    ธรรมอยู่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +55
    +++ อือ... นั่นแหละ ในยามที่ "รูปละเอียด" ปรากฏมาเองโดยที่ เราไม่ได้กำหนด และอยู่ในสภาวะที่ไม่มีการฝึก จึงสามารถนับได้ว่าเป็น "จิตสื่อสาร" ของจริง

    อันนี้ เท่าที่สังเกตุจะมีอยู่ 4-5 ครั้งค่ะ ครั้งนึงเป็นคนแถวบ้านที่ตายไม่นานค่ะ ครั้งนึงเป็นตอนที่ปวดหัวมากจะระเบิดเลยไม่สบายตัวอยู่หลวงปู่องค์นึงที่ละสังขารแล้วมาปรากฏรู้สึกสบายตัวขึ้นเยอะเลย อีกครั้งนึงเห็นผู้ชายแก่แล้วแวปเข้ามา พอเข้ามาเสร็จก็มีหลวงปู่ที่หนูไปหาประจำเข้ามาเลย แต่ผู้ชายคนนี้ไม่รู้เขาเป็นใคร

    ส่วนบางเรื่องที่พี่ธรรมชาติตอบคำถามหนูก็ฮาจนหัวเราะเสียงดังมากเลยบางที

    เรื่องสายการบินนกแอร์นี่หนูว่าสถิติเกิดอุบัติเหตุบ่อยสุดแล้ว รู้สึกเครื่องจะเก่าด้วยมั้ง แอร์เอเชียเข้าท่าอยู่นะคะ เครื่องใหม่ดี รอจองช่วงลดราคาถูกสุดๆ
     
  3. เมิล

    เมิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +3,132
    * นกแอร์นี่นะ ลุ้นระทึกมาก ว่าจะมี SMS มาแจ้งยกเลิกไฟลท์หรือเปล่า
    * วันไป ก็เลื่อนไฟลท์จาก 10.00 เป็น 12.15 น. ไปถึงสนามบิน มีแถมไฟลท์ดีเลย์ให้อีกเล็กน้อย
    * ก่อนวันกลับก็มี SMS มาแจ้งว่าไฟลท์กลับยกเลิก โทรไปถาม Call Center ชีบอกว่าไฟลท์วันอาทิตย์ไม่มี มีอีกทีวันจันทร์ แต่พอไปติดต่อที่สนามบินน่าน เจ้าหน้าที่กลับบอกว่ามีไฟลท์วันอาทิตย์ 14.25 น. อยู่เที่ยวเดียว ยังแซวกันเองเลยว่า บินกับนกแอร์ 1 คืน แถมให้อีก 1 คืน เพราะไฟลท์แคนเซิล
    * แล้วมีอยู่ช่วงหนึ่งตอนที่ต้องวีน Call Center เมิลก็จืด ๆ อยู่ ก็เลยทำแบบนี้คะ ใช้ความคิดสร้างอารมณ์ให้พอจะเหวี่ยงได้ ประกอบกับโอมคอยกำกับการแสดงอีกที ไม่งั้นน้ำเสียงไม่ได้ คล้ายกับที่พี่ให้ฝึก "อยู่ด้วยความไม่ประมาท" เหมือนกัน ตัวดู-สร้าง-ยึด แล้วดึงเข้า แต่อันนี้จงใจสร้าง
    * ถ้าจะไม่ลุ้นทุกไฟลท์ คงต้องแบบที่คุณ JSSO แนะนำ อย่าบินกับนกแอร์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2014
  4. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ไม่ต้องหรอก อยู่เป็นเนื้อนากรรมให้มันไปก่อน ให้มัน "ปลูกต้นกรรม ต้นวิบาก" ให้เต็มที่ รวมทั้ง "ภพภูมิมาร-อสูร" ของมันจะได้มีโอกาส "ร่วมกันทำวิบาก" สะสมเอาไว้ ถึงเวลาก็จะได้ ต่อสายตรงโดยไม่ต้องผ่านห้องโถงใหญ่ให้เสียเวลา

    +++ ส่วนตัวเราเองก็ "ใช้จิตมันเป็น อุปกรณ์ ในการฝึก" ไปในตัว

    +++ ตรงนี้เข้า ปัฏฐาน เมื่อเหตุการณ์เกิด หรือเปล่า

    +++ เมื่อเข้าไปอยู่ข้างในขันธ์ของมัน "ต้องดับตน ทิ้งไปก่อน" หากไม่ดับตน "ขันธ์บริวาร" ที่เกิดขึ้น "จะปนกันมั่วไปหมด" และแต่ละตัวสามารถกลายตัวเป็น ขันธ์ประธานเมื่อไรก็ได้ ตรงนี้ "พลาด" ไปถนัด เมื่อ "อยู่ในป้ฏฐาน" จะไม่มีการ "แย๊ป" เพราะ "ไม่มีตัวดู" จะมีก็แต่เฉพาะการ "อยู่-ย้าย และ เร่ง-ลด" ไปมาใน "ขันธ์ของมัน" เท่านั้น

    +++ แสดงว่า "ไม่ได้ดับตัวดูของเรา" ไอ้เจ้า "พลังมันอัดเพิ่มเข้ามาเต็มเหนี่ยว" ตรงนี้ "เป็นตัวดูของมัน" เมื่อเราไม่ได้ "ดับตัวดูของเรา ทิ้ง" ตัวดูของเราเลยไป "ผนวกกับตัวดูของมัน" ส่วนไอ้อาการ "บีบขมับ บีบหัวกระโหลก ศรีษะบริเวณท้ายทอยเต้นตุ๊บๆ" เกิดจาก "การเพ่งในหัวของมัน" แต่เพราะเรา "ไม่ดับตัวดู จึง ไปรับเอาตัวดูของมันมาเต็มเหนี่ยว" แทนที่มันจะ ปวดหัว เลยกลายเป็น เรา ปวดหัวแทนมันไปเสียฉิบ อือ...

    ==========================================================================
    +++ ในโพสท์ที่ 803 ตรงนี้

    +++ จากคำถามใน โพสท์ที่ 811 ตรงนี้
    +++ คำตอบใน โพสท์ที่ 812 ตรงนี้

    ==========================================================================

    +++ นี่แหละ ผมจึงระบุว่า "ห้ามใช้ ตัวดู เป็นใส้เทียน" เพราะมันจะไปแบก "วิบาก" จากตัวดูของมันมา ตอนนี้ "ได้คำตอบ ในโพสท์ที่ 811 จากประสพการณ์ตัวจริง ที่เกิดขึ้นกับตนเองแล้วซินะ" จากคำถาม "สมมุติว่าถ้าใช้ตัวดูเป็นไส้เทียน" ตอนนี้ ไม่ใช่สมมุติซะแล้ว "มันเป็นสัจจะ" กันเลยทีเดียวแหละ ตอนนี้ "รู้แจ้ง" แล้วนะว่าทำไม "ห้ามใช้ ตัวดู เป็นใส้เทียน" ในกรณีนี้

    +++ ขณะที่ ตัวดู ทำงาน มันจะเป็นแบบ "ตาน้ำวน" ตัวหนึ่ง เพียงแต่ว่า ตรงนี้เป็น "ตัวดูของเรากับตัวดูของมัน" ผสมกันเป็น 2 ตัวดูในวังวนเดียวกัน กลายเป็น Tornado แบบ F 5 ไปเลย แรงสุด ๆ

    +++ ตรงนั้นเป็น "หลักฐาน" ที่มันทิ้งไว้ ซึ่งเราสามารถจะนำมา "สืบสวน" กลับไปยังตัวมันได้

    +++ ถูกแล้ว และตอนนี้ "คน" ผู้นั้นกำลังโดน "มาร" ครอบงำจนมิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขา โดนครอบงำแบบตรง ๆ ไปที่ "ทิฐิ" ที่เป็นต้นทางของ มรรค ส่วน สังกัปโป จะถูกควบคุมเป็นบางที แต่มารไม่ได้ครอบงำที่ "วาจา" เพียงแต่ใช้ "ทิฐิ กับ สังกัปโป เป็นตัวบิดเฉย ๆ" ดังนั้น การพูดจาต่าง ๆ จึงยัง "ดูดี น่าเชื่อถือ" อย่างยิ่ง แต่ยิ่งมา คำพุดคำจา ยิ่งไม่เคารพ "พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์" เข้าไปเรื่อย ๆ และพยายาม "บิดภาษา" ตรงนี้ "ออกไปเป็นอย่างอื่น" ที่เป็นภาษาของภพภูมิ แบบ "มารภูมิ" ไปเรื่อย ๆ ส่วนผู้ที่นิยมยกย่องเขา ไม่นานก็จะตกอยู่ใน "อุ้งมือมาร" ไปโดยปริยาย

    +++ คนธรรมดา "ย่อมไม่รู้จัก ธรรมารมณ์" และย่อม "ปรุงแต่ง" ไปตามคำพูดที่ "สวยหรูดูดี" เพ้อฝันไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะพวกที่ "อยากได้อภิญญา" จะโดนได้ง่ายที่สุด เพราะพวกนี้จะชอบ "กรรมฐานฝ่ายรูป" และการ "หลงรูป" จะเกิดขึ้นได้ง่ายมาก เมื่อ หลงรูป เมื่อใด การ "ตั้งสติ" ก็ย่อมเกิดขึ้นได้ ยาก ยิ่งขึ้นเท่านั้น ตรงนี้เป็น "กรรม" ที่พวกเขา "คัดเลือก" มาอย่างดีแล้ว เราต้องปล่อยตามนั้น

    +++ มีแต่สติระดับ 8 ขึ้นไปเท่านั้น ที่ทุกข์เข้าไม่ถึง หากตำกว่าระดับ 7 ลงไปอาจ "เป็น ๆ หาย ๆ" ได้

    +++ ก็เรา "ทำพลาด" เองนี่นา ที่ไม่ได้ "ดับตัวดู" ให้เป็นที่เป็นทางเสียก่อน ตอนนี้ต้อง "เตรียมให้พร้อมไว้เสมอ" โอกาสที่จะได้เจอ "มิจฉาทิฐิจิต" แบบนี้ "ไม่ได้มีทุกวัน" แบบ "711" นะ จะได้ shopping ได้ในทุกเวลาที่ต้องการ ในชีวิตคน ๆ หนึ่ง จะมีโอกาสแบบนี้ได้กี่ครั้งกัน หากไม่รีบ "พลิกสถานการณ์ ให้เป็นโอกาส" ก็จะเสีย "โอกาสทอง" ไปเลย ดังนั้น "เตรียมพร้อม ดับตัวดู" ให้ได้นิสัยไว้เรื่อย ๆ ตอนนี้มันถือว่า มันชนะแล้วและ "กำลังย่ามใจ" ดังนั้นมันจะต้องมาให้ shopping อีกแน่ ๆ คราวนี้ "ตั้งใจ ดับตัวดู แล้ว shopping ให้เต็มที่" ก็แล้วกัน

    +++ คำว่า "ประมาทในกรรม" นั้นเขาไม่รู้จักหรอก เพราะเขา "โดน ครอบที่ ทิฐิ" อันเป็นต้นทางกรรม ไว้เรียบร้อยแล้ว เขาโดนครอบมา "เป็นปี ๆ" ก่อนหน้านี้แล้ว นะครับ
     
  5. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ยังดีนะที่ยังมี หลวงปู่ ช่วย ส่วนชายแก่ผู้นั้น ในเวลาที่เขาปรากฏ ต้องตรวจที่ กุศล-อกุศล ที่เกิดขึ้นในจิตของเรา ในปัจจุบันขณะ ณ ขณะนั้น ๆ ด้วย

    +++ เรื่อง นกแอร์กับแอร์เอเชีย นี้ ผมเคยลองถามคนที่ บินภายในประเทศ แบบเดือนละหลาย ๆ ครั้ง เขาเคยบอกว่า ใน 1 ปี แอร์เอเชีย ตรงต่อเวลา นับครั้งได้เลย ปกติจะไม่ตรงต่อเวลา เกือบทุกครั้ง และส่วนใหญเขาจะเลือก นกแอร์ มากกว่า ส่วนเรื่อง "เครื่องเก่า" นั้น ผมดูแล้วว่า มันเก่ากันทุกลำ ที่บินภายในประเทศเหมือนกัน ดังนั้น "เกิดเป็นไทยแล้ว.... ใจต้องสู้...." หุหุ บรื้อส์.....
     
  6. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ อือ... ประสพการณ์ "อภิญญา ตีตั๋วเหาะเหิร" ของแต่ละคน แตกต่างกันไป แต่สำหรับประสพการณ์ส่วนตัวของผม "การบริการ" ของนกแอร์ดีกว่า โดยเฉพาะในเรื่องที่ต้องมี "คนแก่นั่งรถเข็น" ไปด้วย ตรงนี้ แอร์เอเชีย ยังเทียบไม่ได้ และในเวลาเดินทาง ผมต้องดูแลคนแก่ตลอดเวลา และเรื่องการ ตรงต่อเวลานั้น สำหรับคนแก่แล้ว "สำคัญมาก" ตรงนี้คนส่วนใหญ่ "หนุม่-สาว เหลือน้อย ๆ" อาจมองข้ามไปบ้าง เมื่อถึงเวลาที่ความ "หนุม่-สาว ไม่เหลือแล้ว" ก็จะเข้าใจได้ "ชัดเจน" ยิ่งขึ้นเอง

    +++ ส่วนเรื่องการฝึก "อยู่ด้วยความไม่ประมาท" นั้นให้ทำจน ได้นิสัยไว้ นะครับ
     
  7. เมิล

    เมิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +3,132
    พี่คะ
    เวลาที่จิตอื่นมาให้เห็น เสื้อผ้าที่เขาใส่บอกอะไรบ้างคะ เช่น ตอนแรกที่เมิลเห็นพี่ที่เพิ่งเสียไปเขาใส่เสื้อผ้าเหมือนที่ศพเขาใส่ ต่อมาพอให้สติพี่เขา พี่เขาเปลี่ยนชุดเป็นสีขาวแบบที่คนไปวัดใส่นะคะ

    แล้วการบ้าน "อยู่ด้วยความไม่ประมาท" ลมเพลมพัด มันเป็นยังไงคะ ถ้าโดนแล้วอาการมันจะเป็นยังไงคะ จะรู้ได้ยังไง เด็กกรุงเทพไม่รู้จักคร้า

    แล้วข้อ 5. หาก "ตัวดูสร้าง" แล้วยึด และ "ดึงเข้า" โดยในที่ "สติขณะดึง" ไม่มี แต่ "สติเกิด" ในขณะที่ "สภาพพลังงาน" ตกกระทบ ตรงนั้นเรียกว่า "เรียกสติ" หรือไม่
    *** อันนี้เมิลว่าเมิลเมื่อก่อนเป็นบ่อยนะ เป็นอาการเดียวกับหลงอยู่ในความคิด แล้วมันก็อะขึ้นมา ตัดความคิดไป

    *** ข้อ 7. "กายเนื้อเอาพลังงานมาจากไหน" อันนี้สังเกตเหมือนกันว่าหลัง ๆ ทำงานบ้านไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ยังสังเกตแล้วนึกสงสัยว่าเคยทำแบบนี้เหนื่อยแทบตาย แล้วทำไมตอนนี้ไม่เหนื่อยแล้ว ตอนนั้นเมิลนึกไปถึงพระนางวิสาขา ที่ท่านแรงเยอะ=ช้าง 7 เชือก ประมาณนี้นะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2014
  8. จิตวิญญาณ

    จิตวิญญาณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +679
    +++ ก็เรา "ทำพลาด" เองนี่นา ที่ไม่ได้ "ดับตัวดู" ให้เป็นที่เป็นทางเสียก่อน ตอนนี้ต้อง "เตรียมให้พร้อมไว้เสมอ" โอกาสที่จะได้เจอ "มิจฉาทิฐิจิต" แบบนี้ "ไม่ได้มีทุกวัน" แบบ "711" นะ จะได้ shopping ได้ในทุกเวลาที่ต้องการ ในชีวิตคน ๆ หนึ่ง จะมีโอกาสแบบนี้ได้กี่ครั้งกัน หากไม่รีบ "พลิกสถานการณ์ ให้เป็นโอกาส" ก็จะเสีย "โอกาสทอง" ไปเลย ดังนั้น "เตรียมพร้อม ดับตัวดู" ให้ได้นิสัยไว้เรื่อย ๆ ตอนนี้มันถือว่า มันชนะแล้วและ "กำลังย่ามใจ" ดังนั้นมันจะต้องมาให้ shopping อีกแน่ ๆ คราวนี้ "ตั้งใจ ดับตัวดู แล้ว shopping ให้เต็มที่" ก็แล้วกัน


    ก็ไม่ได้ว่าอะไร สงสัยสวิทดับมันค้าง ให้มันชนะน่ะดีแล้ว เพราะถ้ามันแพ้ เกิดมันคิดพิเรณกระโดดกัดหู เหมือนไมค์ ไทสัน กัดหู อีวานเดอร์ แล้วจะทำยังไง แต่ถ้าจะมาให้ shopping อีก ก็ นิมนไปที่ชอบที่ชอบเถอะพะยะค๊า ไหว้ล่ะ 555+

    เอ ว่าแต่เมื่อก่อนตัวดูมันดับไปแล้วนะคะ ทำไมอยู่ๆมันก่อตัวขึ้นมาอีก บางครั้งทำไมมันเหมือนเราดับตัวดูเราแล้ว แต่ตัวดูนี้มันไม่ดับ
     
  9. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    กรรมฐานพุทธองค์แสดงไว้ดีแล้ว ท่านทั้งหลายจงสำเนียกพิจารณาธรรมให้ลึกซึ้ง โยนิโสมนสิการด้วยตนให้แจ้งก่อนเทอญ ค่อยพิจารณาและฝึกอรรถและพยัญชนะที่บรรญัติขึ้นภายหลัง
     
  10. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ส่วนใหญ่ที่เห็นคือ ตายชุดไหนก็มักจะปรากฏมาในชุดนั้น แต่เมื่อเขาเปลี่ยนเป็นชุดขาวแล้ว ก็แสดงได้ว่าเขา "ได้สติ" แล้ว

    +++ อาการคือ ถูกกระทบโดยไร้สาเหตุ และไม่มีตัวตน เป็นอาการ "วูปกระทบ" (อย่าเอาไปปนกับทางไสยศาสตร์ก็แล้วกัน)

    +++ ตรงนี้ให้ทดลอง "ทำสติ" แล้วสังเกตุที่ อาการตกกระทบ จากนั้นก็จะค่อย ๆ เข้าใจละเอียดมากขึ้นเอง

    +++ ใจเย็น ๆ แค่เชือกเดียวก็เหลือรับแล้ว ให้ค่อย ๆ สังเกตุการเคลื่อนไหวของร่างกาย ว่าทำไมมันเคลื่อนไหวได้ การนึกให้มันเคลื่อนเฉย ๆ มันไม่เคลื่อนแน่ ให้ดูการทำงานทางจิตก่อนที่กล้ามเนื้อจะขยับตัวไปเรื่อย ๆ ตรงนี้ไม่ได้เอาความหมายอะไร เอาแค่หัดสังเกตุ ๆ เอาก็พอ นะครับ
     
  11. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ตัวดู สามารถดับได้ชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น ตราบใดที่ยังมีร่างกายอยู่ ตัวดู ก็ยังปรากฏไปมาได้เรื่อย ๆ ตรงนี้ภาษาของทางพระป่าท่านเรียกว่า "เศษกรรม"

    +++ ทุกอย่างมีอยู่ ตามความเป็นจริงที่มันมี ดังนั้นถ้าต้องการรู้ตรงนี้ ก็ต้อง "รู้กำเนิดของตัวดู" ให้ชัดแจ้ง ให้ไล่จากหยาบสู่ละเอียดดังนี้

    +++ 1. การกำหนดจิต 2. "จะ" กำหนดจิต 3. ตัว "จะ"
    +++ 4. การกระเพื่อมตัว 5. เหตุแห่งการกระเพื่อม 6. อณู

    +++ ให้ไล่ วนไปมาตรงนี้ ก็จะเริ่ม "เห็น" การเกิดของ ตัวดู ได้เอง นะครับ
     
  12. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    "การเดินจิตครั้งสุดท้าย"

    +++ อีกประการหนึ่งคือเรื่อง "การเดินจิตครั้งสุดท้าย" ที่เคยโพสท์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ให้พยายามทบทวนให้ได้นิสัยด้วย

    +++ ครูบาอาจารย์ทุกองค์ที่ "อัฐิเป็นพระธาตุ" ท่านก็ยังต้อง เดินจิตเป็นครั้งสุดท้ายเช่นกัน

    +++ การเดินจิตเป็นครั้งสุดท้ายนี้ "พระพุทธเจ้า" ท่านเดินจิตเป็นแบบอย่างไว้ให้ และมีอยู่ในพระไตรปิฏก ให้กูเกิ้ลจากตรงนี้ "พระอนุรุทรรู้วาระจิตพระพุทธเจ้า" แล้วศึกษาเอา

    ==============================================================
    +++ ส่วนของผม (โดยส่วนตัว เฉพาะภาษา ในกระทู้นี้) จะทิ้งไว้ให้อย่างละเอียดดังนี้

    +++ 1. เข้าฐาน กายเวทนา และ "เป็น" กายเวทนา
    +++ 2. "เป็น" ความ "ซาบซ่าน" จากกายเวทนา
    +++ 3. "เป็น" ความ "อิ่มเอิบ" โล่งโปร่งใส "ใบหน้ายิ้มเอง แบบพระพุทธรูป" แต่จิตเฉย ๆ (หสิตุปบาท)
    +++ 4. "เป็น" จิตเฉย ๆ และอยู่อย่างนั้น

    +++ จากตรงนี้ไป "ผู้ที่เคยฝึก จิตเปล่งรังสี" ต่อหน้าผมมาก่อน จะรู้ดี ว่าเป็นอย่างไร

    +++ 5. จาก "เฉย" สู่ "ว่าง" (เฉยอยู่ ว่างอยู่) เข้า "ว่าง" และ "เป็นว่าง" (ไม่มีอาการ "เพ่งอากาศ" แต่อย่างใดทั้งสิ้น ทุกอย่างมีอยู่ใน "ตน" ไม่ได้อยู่ข้างนอก)
    +++ 6. จาก "ว่างอยู่" สู่ "รู้อยู่" และ "เป็นรู้" (ตรงนี้ยังเป็น "ตัวดู" ยังไม่ใช่ "สภาวะรู้")
    +++ 7. วางอาการ "รู้อยู่" กลายเป็น "ไม่มีอะไร" บางทีผมเรียกว่า "โล่งอยู่" (ตัวดู วางอาการทั้งหมด)
    +++ 8. ตัวดู วางอาการ และ "รู้กิริยาจิต แห่งตน" (อาการขยับเขยื้อนของ ตัวดู)(กิริยาจิต เป็น อเหตุกจิต) มีกำเนิดมาจาก "สัญญา" แต่ยังไม่ทันเป็น "สัญญา"

    +++ 9. ดับ "กิริยาจิต" ไม่มีการ ขยับเขยื้อนของ ตัวดู อีกต่อไป จนกว่าจะถอนเอง (ไม่มี กิริยาจิต และ ความรู้สึกจิต)

    +++ 10. ในขณะ "ถอน" จะเกิด "กิริยาจิต" ก่อน และ ยังไม่มีความหมายอะไร (ยังเป็น สัญญา ไม่ได้)
    +++ 11. ใน "รอยต่อ" ของกิริยาจิต นั้้น "ไม่มีอะไร" และ "อยู่ตรงนั้น" (โล่ง)
    +++ 12. ใน "โล่ง" มี "รู้" กลับเข้าสู่ "รู้"
    +++ 13. ใน "รู้" มี "เฉย" กลับเข้าสู่ "เฉย ๆ ใส ๆ"

    +++ จากตรงนี้ "กลับมามีกาย" อย่างเดิม

    +++ 14. เป็น "เฉย ๆ ใส ๆ" อยู่กับกาย
    +++ 15. เป็น "ใส ๆ โล่งโปร่ง" หน้ายิ้มแบบพระพุทธรูป (เป็นเอง)(หสิตุปบาท)
    +++ 16. เป็นความ "ซาบซ่าน"
    +++ 17. เป็น "กายเวทนา"

    +++ 18. ทำ "กายเวทนา" ให้ถูกรู้
    +++ 19. เร่ง "กายเวทนา" ให้ ซาบซ่าน
    +++ 20. ค่อย ๆ ออกสู่ "สภาวะรู้" ความซาบซ่าน จะเริ่ม "หดตัว เป็น ตัวดู" ส่วน "สภาวะรู้" เริ่มโปร่งใส ไร้ขอบเขต ออกพ้น "กาย"
    +++ 21. "เป็นสภาวะรู้" ในขณะที่ "ตัวดูเริ่ม หยุด และ สลายไป"
    ==============================================================

    +++ การเดินจิต "อย่างละเอียด" แบบเก็บทุกอาการ ก็จะมี 21 ก้าว ประมาณนี้ ผู้ใดมี "จริต" อย่างละเอียดก็ฝึกฝนเอา

    +++ ส่วน "ผู้ที่ไม่ได้ อรูป สมาบัติ" ก็ให้ทำแค่ 18-21 ก็ได้

    +++ หากใครมีจริตที่ "ง่าย ๆ สบาย ๆ" จะทำเพียงแค่ "ทำตัวดูให้ถูกรู้" แล้ว "เป็นสภาวะรู้" จนตัวดูสลายไป ก็ได้เช่นกัน

    +++ ใครชอบแบบไหน มีจริตแบบใด ก็ค่อย ๆ ฝึกฝนเอา นะครับ
     
  13. เมิล

    เมิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +3,132
    ขอบพระคุณมากคะ สำคัญที่สุดก็คู่มือวิธีการเดินจิตก่อนตายนี่แหละ รีบเซฟเก็บอย่างไว

    วันนี้จะไปงานสวดพี่เขาอีก ว่าจะไปแบบเป็นสภาวะรู้ ทดลองดูดิขนจะลุกแค่ไหน

    เวลาที่ภพภุูมิมีสติ ผลที่มีต่อภพภูมิจะเป็นยังไงคะ นอกจากเปลี่ยนชุดเป็นสีขาว
     
  14. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ เรื่องของ "การเดินจิตครั้งสุดท้าย" นั้น อาการทั้งหมดเป็นอาการที่เรียกกันว่า "จริมจิต" ดังนั้นใครก็ตามที่ ฝึกเสร็จ "กรรม-ฐาน" แล้ว จะต้องเดินจิตตรงนี้ ได้ทุกคน สำหรับในกระทู้นี้ "ฝึก-กรรม-ฐาน-ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย" ก็จะพยายามใช้ภาษาที่ "ง่ายที่สุด" และ "สามารถ ทำตาม อาการกันได้" โดยไม่ต้องมี "ความปรุงแต่ง" เข้ามาเจือปน เพราะตรงนี้เป็น "ท้ายสุดแล้ว" ของการฝึก

    +++ ส่วนผู้ที่ยังอยู่ใน "ระหว่าง" การฝึก ก็ให้ฝึกต่อไป และถามได้ ตามขั้นตอนของตนตามปกติ

    +++ อือ..ม์ ฝึกอย่างไว ประกอบกันไปด้วยนะ

    +++ ในขณะที่ "เป็น" สภาวะรู้ ขนจะไม่ลุก

    +++ เว้นแต่ว่า "กาย เวทนา จิต ธรรม" มีอยู่ครบ และไม่มี "การแทรกแซง" ขนจึงจะลุกได้ ลองทำสลับกัน ไป-มา ดู

    +++ ขึ้นอยู่กับ "ธรรมารมณ์" ที่ภพภูมิ "เสพ" อยู่ในขณะนั้น และ 99.99% จะเป็นไปตาม "วิบากกรรม"

    +++ ภาษาในกระทู้นี้ คือ "ตัวดู เสพ อะไร" ย่อมไป "จุติ" ตามนั้น

    +++ ตัวดู "เป็น" จุติจิต วางให้ตัวดูสลายไป "เป็น" จริมจิต นั่นแลล......
     
  15. จิตวิญญาณ

    จิตวิญญาณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +679
    การเดินจิตครั้งสุดท้าย 21 ก้าว เคยฝึกเล่นๆช่วงเวลาเข้านอนน่ะค่ะ เดี๋ยวยังไงจะเข้ามาเล่าอาการให้ฟัง

    แล้วที่ว่า ตัวดูมันแสกนอาการ จะเกิดในกรณีไหนคะ คือบางทีเวลาเรานอนฟังตัวพูดมากมันพูด สังเกตุสักพักมันจะหยุดพูด แล้วเกิดอาการเหมือนมีคลื่นพลังงานวิ่งกระจายรอบตัว พอคลื่นพลังงานนั้นหยุด ตัวพูดมากก็เริ่มพูดอีก

    พูดถึงขนลุกนี่ สมัยตอนยังไม่ได้ฝึกน่ะค่ะ เคยขนหัวลุก ลุกแบบรั้งขึ้นกระหม่อมเหมือนมีใครมาดึงเส้นผมเราน่ะค่ะ มันคืออะไรคะ ตอบแบบระทึกเลยนะคะ สงสัยคืนนี้คุณ jsso นอนไม่หลับแน่ ( แซวเล่นค่ะ )
     
  16. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ข้าวเหนียว น้ามโตก ส้มตำ ก่ายย่าง โค๊ก ซาไป้ แฟนต้า กับเสื่อร้อน ๆ มาแล้วจ้า ลาคากันเอง ลวมแทกแล้วจ้า.....

    +++ ปกติแล้ว ในขณะที่เป็น "ตัวดูกลม ๆ" มันจะแสกนอาการไม่ได้ เพราะความเป็น "ตัวฌาน" ด้วยตัวมันเอง ของมัน

    +++ มันจะไม่มีการ "หา" อะไรอีก จะมีก็แต่เพียง "รู้" เอกัคตารมณ์ ที่แฝงอยู่ด้วยกัน แล้ว "อยู่-ย้าย" ภายในนั้น เช่น "ในเฉยมีตื่น" ที่แฝงตัวอยู่ด้วยกัน แต่ไม่ใช่การ "หาหรือสแกน"

    +++ "ตัวดู" จะเริ่มสแกนอาการต่าง ๆ ได้ ต่อเมื่อมัน "เริ่มจางคลายลงมาส่วนหนึ่ง" มาเป็น "กายธรรมารมณ์" และต่ำกว่านั้น เท่านั้น

    +++ ในขณะที่นอน "ฟัง" ตัวพูดมาก (ตรงนี้เป็น "ภาษาชาวบ้าน") แต่ภาษาตามอาการตรงนี้คือ "ตัวดู ดู ตัวพูดมาก" และ ภาษาที่น่าปวดหัวคือ "นาม มันกำลังดู รูป" (ตัวดูเป็นนาม ตัวพูดมากเป็นรูป) และภาษาเท่ ๆ คือ "วิญญาณขันธ์ กำลังดู สัญญากับสังขารขันธ์" ชอบภาษาไหน ก็เลือกเอาอันเดียวพอ เดี๋ยว "อิ่ม" ก่อนเวลา แล้วจะกินอะไรไม่ลง เมื่อเจอของอร่อย ๆ

    +++ ขณะที่ "ตัวดู ดู ตัวพูดมาก" แต่เพียงอย่างเดียว และไม่ทำอย่างอื่น สิ่งที่เรียกว่า "กิริยาจิต หรือ การขยับตัวของตัวดู" จะไม่มี

    +++ ตัวดูในขณะนั้น "ไม่รับความรู้สึก" เป็น "ดับเวทนา" อยู่แล้ว เหลือแต่ "ตัวพูดมาก" ที่มันเจื้อยแจ้ว ตัวเดียว (สัญญา+สังขาร) ในความว่าง หาก "ตัวพูดมาก มันดับลงดื้อ ๆ ตรงนั้นล่ะ" โดยที่ "ตัวดู" ไม่มีการขยับตัว ตรงนั้นคือ "สัญญาเวทยิทนิโรธ" อยู่กับที่ ตรงนั้นเลย ไม่ต้องกระดิกไปอื่น

    +++ แต่อาการที่คุณ จิตวิญญาณ เป็น เกิดจาก "ตัวดูขยับตัว" ตรงนั้นจึงเกิดอาการ "คล้ายคลื่นขึ้น วูปหนึ่ง" กระจายออกชนตลิ่ง คือ กายทั้งตัว ซึ่งตรงนี้ ผมเรียกมันว่า "กิริยาจิต" (เป็นภาษาใน มุตโตทัย ของหลวงปู่มั่น) ดังนั้นทุกครั้งที่ผมใช้คำว่า "กิริยาจิต" ก็คือตรงนี้ อย่าเอาไปปนกับกระทู้อื่น เพราะ "กิริยาจิต ตรงนี้เป็น อเหตุกจิต (จิตไม่ให้ความหมายของสัญญา รวมทั้งไม่เสพอารมณ์ของเวทนา)"

    +++ ดังนั้นพอผ่าน "กิริยาจิต ที่เป็น อเหตุกจิต" ไปแล้ว ตัวพูดมาก จึงเจื้อยแจ้วต่อได้ เพราะ "ไม่มีความหมายอื่น เข้ามาแทรกแซง" เจ้าตัวพูดมาก นั่นแล

    +++ หุหุ มันเป็นรายการ "หลอนสยอง" อ่ะป่าว มีใครเอามือมาดึงหรอ เอาด้ามไม้กวาดตีมือมันเลย หุหุ บรื้อส์...

    +++ มันเป็นอาการที่ "ตัวดู" (ในขณะที่เป็น ตัวเราทั้งแท่ง) กำลัง เสพความสยองเป็นอารมณ์ (ภาษาเท่ ๆ คือ วิหารธรรม อิอิ) แล้วมอง "ย้อนกลับไปดูว่า ใครหว่า" ตรงนั้น "ตัวจิตฝ่ายรูป" ก็เลยเข้ามา "ร่วมสนุกด้วย" โดยการ สแกน ว่าจะสมมุติแบบไหนจึงจะมันส์... (มโน) อิอิ เอาแบบหน้าเละสักหน่อย ตาตกย้อยนิด ๆ เอาแบบมีผม หรือ ไม่มีผมดีหว่า

    +++ ขณะที่ตัวจิต (มโน) สร้างรูปเพื่อ ความมันส์... หยดติ๋ง ๆ ยิ่งสร้าง ตัวอารมณ์ก็ยิ่งเพิ่ม พออารมณ์ยิ่งเพิ่ม ตัวมโนก็ยิ่งสร้าง ไอ้ตัวดู (ตาทิพย์ตาถั่ว) ก็กำลังกวาดมองแบบไฮเทค คือ ดูด้วย สแกนไปด้วย และมี "อาการลุ้น" เข้ามาสมทบ ตรงนี้มันส์... กว่าลุ้นหวยหลายสิบเท่า ว่า "แจ็คพอต" จะออกมาเป็น "ตัวอะไร" แบบ "ทั้งตัว หรือ มาแต่หัว หรือ มีแต่แขน" เป็นต้น

    +++ ตรงนี้เป็น slowmotion เมื่อ "ตัวดู" มันสแกนย้อนหลัง ในขณะที่ "อาการลุ้น" เริ่ม วิ่งแซงหน้า อาการสยอง (หากใครสังเกตุให้ดี จะพอรู้ได้ว่า คลื่นความถี่ของ ลุ้นกับปิติ (ขนลุก) นั้นมีความคล้ายคลึงกันอยู่ในตัวเอง) พร้อม ๆ กับ การสแกนของตัวดู ส่งอาการลุ้นไปด้วย คลื่นพลังความลุ้น ซึ่ง มีอาการใกล้เคียงกับอาการปิติ (ขนลุกขนพอง) ยิ่งมาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อตัวดู สแกนเข้าใกล้ "เป้าหมาย" เข้ามาเรื่อย ๆ

    +++ เส้นผมบนหนังห้ว (ใครท่อง เกศา โลมา หรือ คาถาอื่น ๆ ทันก็เอา) ก็ค่อย ๆ ผุดลุก เหยียดชี้ ชันตัวขึ้นเรื่อย ๆ จน "ชี้เด่" ไปทั้งห้ว "ยิ่งอาการลุ้น" มีพลังงานมากขึ้นเท่าไร บวกกับอาการเพ่ง "ลุ้นผี" ที่ตัวมโนมันสร้างขึ้น ยิ่งคมชัดเท่าไร ก็จะยิ่งส่งพลังความรุนแรง เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัวเท่านั้น หาก "พลังจิต" รุนแรงเข้าขั้น "จอมยุทธ" ก็จะเกิดปรากฏการณ์ "รากผม หลุดจาก หนังห้ว" ออกมาได้ ซึ่งตรงนี้ ภาษาชาวบ้าน นิยมเรียกกันว่า "จับไข้หัวโกร๋น" นั่นแล...

    +++ อือ..ม์... ระทึกพอม่ะ ตรงนี้หยิบเอา "ความปรุงแต่ง" ออกมาปัดฝุ่นนิดเดียวพอนะ

    +++ หากจะ "หยุด" วงจรนี้ทั้งหมด ให้หยุดที่ "ตัวดู" หากจะ "ออก" มาจากวงจรนี้ทั้งหมด ให้ออกมาจาก "ตัวดู" นะครับ
     
  17. ธรรมอยู่

    ธรรมอยู่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +55
    โอ้ยพี่วิญญาณคะเมื่อคืนสดๆร้อน กลับบ้านมาหาแม่ พอล้มตัวลงนอน ก็นอนกำหนดนะคะ ไม่ถึงสามนาที ได้ยินเสียงเคาะกระจกหน้าต่างอยู่บนหัวนอน ป๊อก ป๊อก ป๊อกเป็นจังหวะ เลยคิดในใจว่าจะไปดีๆหรือจะให้สวดไล่ (คือกลัวนะคะ) มันก็ยังไม่หยุดถ้าจะทำจิตคำรามหนูกลัวจะเป็นหนูคำรามมากกว่า ไม่มั่นใจเลยสวดมนต์นี่แหละ แล้วเห็นหลวงปู่มั่นด้วยค่ะ เพิ่งเคยเห็น หรือหนูจะฟุ้งก็ม่ายรุ เมื่อคืนรู้สึกเลยว่าน่าจะหลายอยู่นะ

    ส่วนเรื่องพระอนุรุทรตามจิตของพระพุทธเจ้านั้น อ่านหนังสือ ญาณสัมปันนธัมมานุสรณ์ ท่านหลวงตามหาบัวเล่าว่า
    "วันที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ เมื่อพระองค์ทรงเงียบไป พระอานนท์ถามว่าพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้วรึ พระอนรุทตอบว่า ยังก่อน ฟังสิ ท่านตามจิตพระพุทธเจ้าไล่ลำดับฌาณ 1-8 8-1 เข้านิพพานแล้วก็ดับขันธ์ไป อ่านทีไรชอบมากค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 พฤศจิกายน 2014
  18. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ในยามที่ต้องผจญภัย (ผีหลอก โดนหลอน) ต่าง ๆ สิ่งที่เรียกว่า "จริต" ที่แท้จริง ที่ซ่อนอยู่ในก้นบึ้งของ "จิตใต้สำนึก" ของแต่ละบุคคล จะปรากฏออกมาเอง ตรงนี้ห้ามกันไม่ได้ เพราะมันเป็น "นิสัย" ข้ามกัปป ข้ามอสงไขย และ "อย่าไปหาเหตุผลให้เสียเวลา" เพราะมันอยู่เหนือ "ตรรกะ" ทุกอย่างอยู่ที่ "จริต" และ จริตนี้จะ "ผุดโผล่" ออกมาจาก "เบื้องหลัง" ของจิตใต้สำนึก แล้วปรากฏออกมาเป็น Action อย่างใดอย่างหนึ่ง ในยามที่ "จริต" ตรงนี้ปรากฏ จะไม่ผ่านการปรุงแต่งอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว จะไม่มี ความนึก ความคิด เป็นองค์ประกอบ แต่พอปรากฏออกมาก็จะเป็น การกระทำโดยตรงแต่เพียงอย่างเดียว ตรงนี้หลาย ๆ คนเรียกว่า "สัญชาติญาณ"

    +++ จริตของผม หากเกิดเหตุการณ์ "หลอน" เกิดขึ้น และ หากอยู่ในวิสัยที่จะ "มองอย่างตรง ๆ แล้วเห็นชัดได้" ผมจะ "มองสวนแบบตรง ๆ" เข้าไปตรงนั้นทันที ตรงนี้ "ไม่มีเหตุผล" มันเป็นของมันอย่างนั้นเอง หากเป็นตอนกลางคืนที่มองเห็นไม่ชัด ผมจะเปิดไฟ หรือ หยิบไฟฉาย 4 ท่อน แล้ว ฉายตรง ๆ ไปยังจุดเกิดเหตุตรงนั้น "เป็นไร เป็นกัน" ตรงนี้เป็น "จริต" มานานแล้ว

    +++ จริตของผม จะไม่ยอมปล่อยให้ "ความสงสัย เข้ามา หลอน" ได้เลย หากสงสัยอะไร ต้องมองอย่างตรง ๆ เข้าไปให้ "ชัดเจน และ ชัดแจ้ง" แบบเดียวกันกับ "จริต" ทาง กรรม-ฐาน ของผม

    +++ ตรงนี้ "คงเข้าใจได้ไม่ยาก" ว่าลักษณะ กรรม-ฐาน ที่ผมสอนอยู่นี้ จะไม่มีสิ่งที่เรียกว่า "หลอน หรือ มโนไปเอง" เจือปนอยู่เลย รวมทั้ง "ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร" อีกด้วย

    +++ เรื่อง "จิตคำราม" จะอธิบาย ข้างล่างนี้

    +++ ที่หลวงตามหาบัว เล่ามานั้น ไม่ใช่แค่ 1-8 เท่านั้น แต่รวมถึง "นิโรธสมาบัติ" (9) ด้วย จาก 1-8 ไปยัง 9 แล้วกลับ 8-1 จากนั้น 1-4 แล้ววาง รวม 21 พอดี ลองเอา "การเดินจิตครั้งสุดท้าย" ในโพสท์ที่ 836 มาเทียบกันก็จะ "รู้" ได้เอง นะครับ
     
  19. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    "จิตคำราม" คือ "อุพเพงคาปิติ" ในฌาน 2

    "จิตคำราม" คือ "อุพเพงคาปิติ" ในฌาน 2

    การทำ "จิตคำราม" นั้นเริ่มจาก

    +++ 1. เข้า กายเวทนา

    +++ 2. เร่ง กายเวทนา ตรงนี้จะมีอาการ "เริ่มขยายตัว" และเกิด "ขนลุกทั้งตัวเล็กน้อย"

    +++ 3. เพิ่มอัตราเร่ง จะมีอาการคล้าย เส้นสายของพลังงาน แบบกระแสไฟ พลุ่งแผ่ แบบการ ชาร์ตแบต

    +++ 4. เพิ่มอัตราเร่งเป็นระลอก จะเกิด เส้นสายของพลังงาน พุ่งปราดออกรอบด้าน และเป็น "คลื่นของการ กระแทกเป็นระลอก" วูป ๆ ออกไป ไม่หยุดยั้งขาดตอน

    +++ 5. ณ จังหวะของการ "กระแทก" ออกไปนั้น จะเกิด "คลื่นสั่นสะเทือน" ชนิดหนึ่ง เป็น "คลื่นความถี่ต่ำ" แบบเสียง Surround sound DTS-HD หาก "อยู่" ในคลื่นนั้นได้ จิตจะเกิด "ความกล้าหาญ" ในลักษณะที่พร้อมที่จะ "ผจญภัยพิบัติ" ได้ทุกหน้า เป็น "ความกระหึ่ม" แบบราชสีห์คำราม เป็นความสั่นสะเทือนแบบ "คลื่นแผ่นดินไหว แผ่นดินคำราม" เป็นประดุจ "เสียงฟ้าผ่าที่ยาวนาน"

    +++ 6. เมื่อ "ปล่อย" จิตคำราม ให้ผ่านพ้น ก็จะเหลือแต่ "แรงเฉี่อย" ที่แผ่อิ่มเอิบซาบซ่านทั้งร่าง และ ร่างจะเริ่ม "ใส" หากอยู่ต่อตรงนี้ หน้าจะ "ยิ้มแบบพระพุทธรูป" ขึ้นมาเอง โดยจิตจะสงบเฉย ๆ ไม่ได้ยิ้ม เป็นอาการของ "หสิตุปบาท" ใน ฌาน 3

    ======================================================================
    +++ จริง ๆ ตรงนี้ผม "ไม่ต้องการจะโพสท์เท่าไร" เพราะพวก "มโนไปเอง" จะมโนสวนทางกัน อุตลุด โดยเฉพาะข้อ 5-6 รวมทั้งคำศัพท์ "จิตคำราม" ตรงนี้จะทำให้เกิด "มโนเขว" แน่นอน และจะเกิดเป็น "มิจฉาทิฐิ" (คิดผิด) ที่กู่ไม่กลับ และจะเป็น "วิบาก" ที่เกิดจากการ "กระทบกับ ฌาน 2" โดยตรง ซึ่งพวกที่ "ติดตำรา แต่ ปฏิบัติไม่ถึง" จะโดนโดยตรงแน่นอน

    +++ เพื่อ "ป้องกัน" ตรงนี้ ผมจึง "เดินจิต" ย้อนไปมาหลายตลบในบริ้วณนี้ จึง "เห็นชัด" ได้ว่า ณ ตรง "จิตคำราม" นั้น เป็นอาการของ "อุพเพงคาปิติ" นั่นเอง รวมทั้งเดินจิตไล่ไปมาหลายตลบใน "ปิติ 5" ก็ตรงกับ ปิติหนึ่ง เป็นผล มาจากอีกปิติหนึ่ง เช่นกัน สามารถเดินจิตได้ ดังนี้
    ======================================================================

    +++ ทุกอย่างเริ่มที่ "กายเวทนา" ตรงนี้เป็น "ฐาน" ที่จะเริ่ม

    +++ 1. เริ่มเร่ง ตรงนี้ จะเกิดอาการ "แผ่ออกซ่านออกแบบเริ่มต้น" ตรงกับปิติที่เรียกว่า "ขุททกาปิติ" ให้ลองฝึก "เข้า-ออก" ฐาน และ "เร่งแค่ครั้งเดียว" แล้วดูว่า "อาการจะตรงกับในตำรา" หรือเปล่า

    +++ 2. ทำแบบ "ข้อ 1" แต่ใช้ "การเร่งแบบซ้ำซ้อน 2-3 ทีติดต่อกัน" จะเกิดอาการคล้าย "เส้นพลังงาน พุ่ง แปลบ" ออกไปในแต่ละครั้ง ตรงนี้ในตำราเรียกว่า "ขณิกาปิติ" เหมือนสายฟ้าแลบ และอาจเกิดอาการ "เส้นกระตุก" ได้ด้วย

    +++ 3. ทำแบบข้อ 2 แต่ใช้การ "เร่งเป็นระลอก" ไม่หยุดยั้งขาดตอน กระแทกออกเป็นจังหวะ ๆ ตรงนี้ในตำราเปรียบเหมือน "คลื่นกระทบฝั่ง" และเรียกว่า "โอกกันติกาปิติ"

    +++ 4. จากข้อ 3 ในระหว่าง "รอยต่อของ คลื่นต่อคลื่น" ให้ "ย้ายเข้าไป อยู่ตรงนี้เลย" ตรงนี้แหละที่เป็น Surround sound DTS-HD แบบ 7.1 เต็ม ๆ ดูซิว่า "จิตมันจะกระหึ่ม จนกลายเป็น จิตคำราม" หรือไม่ ตรงนี้ในตำราบ่งระบุว่า "มีลักษณะทำให้ใจฟู (คำราม) บางทีทำให้การกระทำบางอย่างเกิดขึ้นเว้นจากเจตนาก็มี เช่น เปล่งอุทาน หรือบางท่านมีตัวลอยขึ้นเหนือพื้น" ตรงนี้เรียกว่า "อุพเพงคาปิติ" เป็น ปิติโลดโผน

    +++ 5. เมื่อ "ปล่อย" จิตคำราม ให้ผ่านพ้น ก็จะเหลือแต่ "แรงเฉี่อย" ที่แผ่อิ่มเอิบซาบซ่านทั้งร่าง ตรงนี้ในตำราเรียกว่า "ผรณาปิติ" ซึ่ง จิตจะเริ่ม สงบลงตัว หลังผ่านพ้น "อุพเพงคาปิติ" ไปแล้ว

    +++ ดังนั้นในข้อ 4 ท่านจัดว่าเป็น "ปิติ" ชนิดหนึ่ง ตรงนี้อาจจะแปลกอยู่บ้าง แต่หลังจาก เดินจิตตรวจสอบมาหลายรอบแล้ว ก็ยอมรับอย่างหนึ่งว่า "แปลกแต่จริง" ที่ผู้แผ่ "แผ่ปิติ-สุข" ออกไป ซึ่งตามหลักปฏิบัติแล้ว นับเป็นการแผ่ "ส่วนบุญ" ชนิดหนึ่ง แต่ในวงจรจิตของผู้รับ กลับกลายเป็นรับ "การกระแทกออกของ จิตคำราม" ที่เหมือนกับ "ภูเขาหิน กลิ้งเข้ามาหาตน" อันเป็นอาการเดียวกันกับสัตว์ใน "สังฆาตนรก" ที่ "ต้องทัณฑ์ ในนรก" อย่างไรอย่างนั้น

    +++ ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่มีกล่าวไว้ใน พระไตรปิฏก ที่ว่า "สัตว์บางภูมิเท่านั้น" จึงจะรับการแผ่ "ส่วนบุญส่วนกุศล" ได้ ตรงนี้ คงเป็นที่เข้าใจได้ นะครับ
     
  20. จิตวิญญาณ

    จิตวิญญาณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +679
    [FONT=&quot]+++ ข้าวเหนียว น้ามโตก ส้มตำ ก่ายย่าง โค๊ก ซาไป้ แฟนต้า กับเสื่อร้อน ๆ มาแล้วจ้า ลาคากันเอง ลวมแทกแล้วจ้า.....[/FONT]
    [FONT=&quot]
    เป็นตาแซปแท้น้อ นึกถึงสมัยเด็กๆ ดูหนังกลางแปลงที่วัด บ้านอยู่ติดวัดน่ะ ถ้าเป็นหนังผีกับหนังตลกนะ ไม่ต้องพึ่ง ข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง อย่างหนังผี พึ่งผ้าห่ม หนังตลก พึ่งน้ำดื่ม [FONT=&quot]บางคน[/FONT]หัวเราะจนฟันแห้ง ริมฝีปากหุบไม่ลง มันแห้ง [/FONT]
    <!--[if gte mso 9]><xml><w:LatentStyles DefLockedState="false" DefUnhideWhenUsed="true" DefSemiHidden="true" DefQFormat="false" DefPriority="99" LatentStyleCount="156" ><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Normal" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="heading 1" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="heading 2" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="heading 3" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="heading 4" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="heading 5" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="heading 6" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="heading 7" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="heading 8" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="heading 9" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="index 1" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="index 2" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="index 3" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="index 4" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="index 5" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="index 6" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="index 7" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="index 8" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="index 9" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="toc 1" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="toc 2" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="toc 3" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="toc 4" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="toc 5" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="toc 6" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="toc 7" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="toc 8" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="toc 9" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Normal Indent" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="footnote text" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="annotation text" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="header" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="footer" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="index heading" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="caption" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="table of figures" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="envelope address" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="envelope return" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="footnote reference" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="annotation reference" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="line number" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="page number" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="endnote reference" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="endnote text" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="table of authorities" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="macro" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="toa heading" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List Bullet" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List Number" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List 2" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List 3" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List 4" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List 5" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List Bullet 2" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List Bullet 3" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List Bullet 4" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List Bullet 5" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List Number 2" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List Number 3" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List Number 4" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List Number 5" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Title" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Closing" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Signature" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Default Paragraph Font" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Body Text" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Body Text Indent" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List Continue" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List Continue 2" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List Continue 3" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List Continue 4" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="List Continue 5" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Message Header" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Subtitle" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Salutation" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Date" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Body Text First Indent" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Body Text First Indent 2" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Note Heading" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Body Text 2" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Body Text 3" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Body Text Indent 2" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Body Text Indent 3" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Block Text" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Hyperlink" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="FollowedHyperlink" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Strong" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Emphasis" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Document Map" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Plain Text" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="E-mail Signature" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Normal (Web)" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="HTML Acronym" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="HTML Address" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="HTML Cite" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="HTML Code" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="HTML Definition" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="HTML Keyboard" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="HTML Preformatted" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="HTML Sample" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="HTML Typewriter" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="HTML Variable" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Normal Table" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="annotation subject" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="No List" ></w:LsdException><w:LsdException Locked="false" Priority="99" Name="Balloon Text" ></w:LsdException></w:LatentStyles></xml><![endif]-->

    +++ ตัวดูในขณะนั้น "ไม่รับความรู้สึก" เป็น "ดับเวทนา" อยู่แล้ว เหลือแต่ "ตัวพูดมาก" ที่มันเจื้อยแจ้ว ตัวเดียว (สัญญา+สังขาร) ในความว่าง หาก "ตัวพูดมาก มันดับลงดื้อ ๆ ตรงนั้นล่ะ" โดยที่ "ตัวดู" ไม่มีการขยับตัว ตรงนั้นคือ "สัญญาเวทยิทนิโรธ" อยู่กับที่ ตรงนั้นเลย ไม่ต้องกระดิกไปอื่น

    ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ เกิดอาการนี้บ่อยเหมือนกัน และก็สังเกตุมีอีกอาการ อย่างเราขับรถแล้วเห็นงูกำลังข้ามถนน พอมันเห็นรถเรามันรีบเลี้ยวกลับ เรามีอาการตกใจว๊าปแล้วก็หาย หลังจากนั้น ตัวพูดมาก มันพูด ที่ตกใจไม่ใช่เรา แต่เป็น งูมันตกใจ เราก็เข้าใจ อ่อ เข้าใจแระ งูมันตกใจ มันส่งจิตออก แล้วเราไปรับรู้วาระจิตมัน

    +++ แต่อาการที่คุณ จิตวิญญาณ เป็น เกิดจาก "ตัวดูขยับตัว" ตรงนั้นจึงเกิดอาการ "คล้ายคลื่นขึ้น วูปหนึ่ง" กระจายออกชนตลิ่ง คือ กายทั้งตัว ซึ่งตรงนี้ ผมเรียกมันว่า "กิริยาจิต" (เป็นภาษาใน มุตโตทัย ของหลวงปู่มั่น) ดังนั้นทุกครั้งที่ผมใช้คำว่า "กิริยาจิต" ก็คือตรงนี้ อย่าเอาไปปนกับกระทู้อื่น เพราะ "กิริยาจิต ตรงนี้เป็น อเหตุกจิต (จิตไม่ให้ความหมายของสัญญา รวมทั้งไม่เสพอารมณ์ของเวทนา)"

    +++ ดังนั้นพอผ่าน "กิริยาจิต ที่เป็น อเหตุกจิต" ไปแล้ว ตัวพูดมาก จึงเจื้อยแจ้วต่อได้ เพราะ "ไม่มีความหมายอื่น เข้ามาแทรกแซง" เจ้าตัวพูดมาก นั่นแล

    ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ อาการนี้ก็เป็นบ่อย จะเป็นเฉพาะช่วงที่ปล่อยตัวพูดมากมันพูดน่ะค่ะ และเป็นเฉพาะช่วงที่เข้านอนได้สักพัก น่ะค่ะ

    ว่าแต่อาการ หลอนสยอง เนี่ย เราแมปจิตไปด้วย ได้ไหมคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...