ประวัติและประสบการณ์ หลวงพ่ออุตตมะ (พระราชอุดมมงคล) อ.สังขละ กาญจนบุรี

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย gaara99, 8 ตุลาคม 2014.

  1. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    กระทู้นี้จัดทำขึ้นด้วยศรัทธาในองค์หลวงพ่ออุตตมะ อุตฺตโม (พระราชอุดมมงคล) วัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี
    ใครมีประสบการณ์-พระเครื่อง-วัตถุมงคล ร่วมแบ่งปันกันได้ครับ


    ส่วนมากจะเป็นประวัติ และธรรมะที่ท่านสอนนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2015
  2. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    ชีวประวัติสังเขป
    พระราชอุดมมงคล (อุตตมะ อุตตโม) ป.ธ. ๗ (พม่า)
    เจ้าคณะอำเภอสังขละบุรี วัดวังก์วิเวการาม จังหวัดกาญจนบุรี


    [​IMG]
    ๑.ชาติภูมิพระราชอุดมมงคล
    นามเดิม เอหม่อง (ต่อมาเปลี่ยนเป็นอุตตมะตามพยางค์ต้นของฉายา) เกิดวันอาทิตย์ เดื่อน ๔ ขึ้น ๖ค่ำ ปีจอ โทศก จุลศักราช ๑๒๗๒ (พุทธศักราช ๒๔๕๓) ที่บ้านโมกกะเนียง ตำบลเกลาสะ อำเภอเย จังหวัดมะละแหม่ง ประเทศพม่า นามบิดา นายโง นามมารดา นางทองสุก

    ๒.บรรพชา
    เมื่อปีมะเส็ง เอกศก จุลศักราช๑๒๙๑ (พุทธศักราช ๒๔๗๒) ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดเกลาสะ มีพระเกตุมาลาวัดเกลาสะ ตำบลเกลาสะ อำเภอเย จังหวัดมะละแหม่ง เป็นพระอุปัชฌาย์

    ๓.อุปสมบท
    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๖ ตรงกับวันขึ้น ๕ ค่ำ เดือน๖ ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดเกลาสะ มีพระเกตุมาลา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระนันทสาโร วัดโมกกะเนียง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระวิสารทะ วัดเจ้าคะเล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า "อุตตมรมโภ" แปลว่า "ผู้มีความพากเพียรอันสูงสุด"

    ๔. วิทยฐานะ
    พ.ศ. ๒๔๗๐ จบชั้นประถมศึกษาที่ ๔ จากโรงเรียนบ้านโมกกะเนียง อำเภอเย จังหวัดมะละแหม่ง ประเทศพม่าพ.ศ. ๒๔๗๕ สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนวัดปราสาททอง อำเภอเย จังหวัดมะละแหม่งพ.ศ. ๒๔๘๒ สอบได้เปรียญธรรม ๗ ประโยค สำนักเรียนวัดสุขการี อำเภอสะเทิม จังหวัดสะเทิมการศึกษาพิเศษ ภาษามอญ ภาษาพม่า ภาษาอังกฤษ ภาษาไทยความชำนาญพิเศษ ด้านการก่อสร้าง

    ๕. การงาน
    พระราชอุดมมงคล ได้รับภารกิจ ปฎิบัตงานคณะสงฆ์ ดำรงตำแหน่งและหน้าที่ต่างๆ พอจะสรุปได้ ดังต่อไปนี้

    ๕.๑ งานปกครอง
    พ.ศ. ๒๕๐๔ เป็นเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม (วัดเดิม)
    พ.ศ. ๒๕๐๕ เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสุวรรณาราม
    พ.ศ. ๒๕๐๙ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
    พ.ศ. ๒๕๑๑ เป็นพระอุปัชฌาย์
    พ.ศ. ๒๕๑๒ เป็นเจ้าคณะตำบลหนองลู
    พ.ศ. ๒๕๑๓ เป็นเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม (ปัจจุบัน)
    พ.ศ. ๒๕๒๕ เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะอำเภอสังขละบุรี
    พ.ศ. ๒๕๒๖ เป็นเจ้าคณะอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จนถึงปัจจุบัน

    ๕.๒ งานด้านการศึกษาพ.ศ. ๒๕๐๕ เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดศรีสุวรรณาราม
    พ.ศ. ๒๕๑๓ เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดวังก์วิเวการาม
    พ.ศ. ๒๕๑๓ เป็นกรรมการคุมสอบธรรมสนามหลวง สนามสอบอำเภอสังขละบุรี
    พ.ศ. ๒๕๑๔ เป็นผู้จัดสถานที่สอบธรรมสนามหลวง สนามสอบอำเภอสังขละบุรี ที่วัดวังก์วิเวการาม จนถึงปัจจุบัน
    พ.ศ. ๒๕๑๕ เป็นกรรมการคุมสอบบาลีสนามหลวง วัดไชยชุมพลชนะสงคราม จังหวัดกาญจนบุรี
    พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็นประธานสอบธรรมสนามหลวง สนามสอบอำเภอสังขละบุรี
    พ.ศ. ๒๕๑๘ เป็นประธานสนามสอบประโยคธรรมระดับนวกภูมิ สนามสอบ อำเภอสังขละบุรี
    พ.ศ. ๒๕๒๘ เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมระดับนวกภูมิของคณะสงฆ์ ภาค ๑๔

    [​IMG]
    สรุปงานด้านการศึกษาโดยย่อ

    พระราชอุดมมงคล ให้การส่งเสริมและสนับสนุนพระภิกษุสามเณรและชาวบ้านทั่วไป ให้ได้รับการศึกษาเล่าเรียนวิชาการต่างๆ อย่างเต็มที่ตามกำลังสติปัญญาความสามารถของแต่ละบุคคล โดยให้การสนับสนุนแก่พระภิกษุ สามเณรทุกวัดในเขตปกครองและชาวบ้านทั่วไปดังต่อไปนี้

    ๑. เปิดสำนักเรียนหลักสูตรนักธรรมชั้นตรีถึงชั้นเอกให้พระภิกษุสามเณรภายในวัดนั้นๆ ได้ศึกษาเล่าเรียน
    ๒. จัดหาครูผู้มีความรู้ความสามารถจากส่วนกลางไปช่วยสอนในวัดต่างๆ
    ๓. จัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอน เช่นหนังสือสมุด ปากกาฯลฯ ให้แก่นักเรียนและครูผู้สอน
    ๔. จัดตั้งห้องสมุดขึ้นภายในวัดเพื่อเป็นแหล่งค้นคว้าหาความรู้
    ๕. มอบรางวัลเป็นกำลังใจแก่นักเรียนที่เรียนดี ขยันมีความประพฤติดีและสอบไล่ได้ในสนามหลวง
    ๖. หากพระภิกษุ สามเณร รูปใดมีความสามารถ และสนใจที่จะศึกษาเล่าเรียนในชั้นสูงขึ้นไป จะได้รับการสนับสนุนให้ไปศึกษาต่อยังสำนักเรียนต่างๆ เพื่อให้มีความรู้กว้างขวางยิ่งขึ้น
    ๗. วางกฏระเบียบปฏิบัติให้พระภิกษุ สามเณรทุกรูปศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย และสอบธรรมสนามหลวงเสียก่อนจึงจะลาสิกขาบทได้ เว้นแต่ผู้ที่ลาสิขาบทนั้นๆ ติดภารกิจจำเป็นจริงๆ
    ๘. เปิดโรงเรียนสอนภาษาไทยขึ้นในวัดเพื่อให้ศิษย์วัดได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียน โดยมีพระภิกษุเป็นผู้ควบคุมการสอน
    ๙. จัดการศึกษาให้แก่ชาวบ้านโดยสร้างโรงเรียนมอบให้แก่ทางราชการ เพื่อใช้เป็นสถานศึกษาเล่าเรียนสำหรับเยาวชน เช่น โรงเรียนวัดวังก์วิเวการาม โรงเรียนบ้านวังกะ ซึ่งเป็นโรงเรียนในระดับประถมศึกษาและ โรงเรียนอุดมสิทธิศึกษาซึ่งเป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา เป็นต้น
    ๑๐. ให้ความอุปถัมภ์สร้างอาคารเรียน ห้องสมุดจัดหาอุปกรณ์การเรียน การสอน เครื่องดนตรี มอบให้แก่โรงเรียนอย่างสม่ำเสมอตลอดมา
    ๑๑. มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดี มีความประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และสนับสนุนให้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนในชั้นสูงๆ ขึ้น


    ๕.๓ งานด้านการเผยแผ่

    หลวงพ่ออุตตมะ และหลวงพ่อพุธ ฐานิโยหลวงพ่ออุตตมะ และหลวงพ่อพุธ ฐานิโย

    พ.ศ. ๒๕๑๕ เป็นพระธรรมทูตสายที่ ๑ จังหวัดกาญจนบุรี
    พ.ศ. ๒๕๑๘ เป็นประธาน หน่วยอบรมศีลธรรมประชาชนตำบลหนองลู (อ.ป.ต.)
    พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็นผู้อบรมศึลธรรมแก่คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน กก. ตชด. เขต๗ ค่ายพระพุทธยอดฟ้า จังหวัดกาญจนบุรี
    พ.ศ. ๒๕๒๓ เป็นผู้อบรมศีลธรรมแก่คณะครูในอำเภอสังขละบุรี
    พ.ศ. ๒๕๒๔ เป็ผู้อบรมศีลธรรมแก่คณะเจ้าหน้าที่ประจำเขื่อนเขาแหลม อำเภอ ทองผาภูมิ
    พ.ศ. ๒๕๒๖ เป็นประธานอบรมศีลธรรมประชาชนอำเภอสังขละบุรี (อ.ป.อ.)
    พ.ศ. ๒๕๒๗ เป็นผู้อบรมศีลธรรมแก่คณะข้าราชการประจำอำเภอสังขละบุรี
    พ.ศ. ๒๕๒๙ เป็นผู้อบรมศีลธรรมแก่ประชาชนและคณะข้าราชการ ในจังหวัดกาญจนบุรี


    สรุปงานด้านการเผยแผ่

    ๑. อบรมภิกษุสามเณรเป็นประจำ โดยใช้เวลาหลังจากทำวัตรเย็นจบเพื่อให้ความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับกฏระเบียบคณะสงฆ์ ที่ต้องประพฤติปฏิบัติและละเว้น ข้อสำคัญที่เน้นในการอบรม คือ ให้ตระหนักถึงความเป็นพระภิกษุ สามเณร ให้ปฏิบัติตนให้สมกับเนื้อนาบุญของชาวโลก ฝึกอบรมพระกัมมัฏฐานเพื่อฝึกสมาธิจิตเป็นเวลานานพอสมควรทุกวัน
    ๒. จัดพิธีบรรพชาอุปสมบทชาวไทยภูเขาผู้อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน ไทย พม่า เช่น ขะมุ กะเหรี่ยง มอญ เป็นประจำทุกปี
    ๓. จัดบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ที่วัดวังก์วิเวการาม และจัดบวชเนกขัมมจาริณี (ชีพราหมณ์) เป็นประจำทุกปี
    ๔. อบรมศีลธรรมแก่บุคคลดังต่อไปนี้
    ๔.๑ ประชาชนชาวมอญ กะเหรี่ยง ที่อยู่ตามเขตชายแดนของจังหวัดกาญจนบุรี
    ๔.๒ คณะนายทหาร กองพลที่๙ ค่ายกาญจบุรี
    ๔.๓ คณะตำรวจตระเวนชายแดน กก. ตชด. เขต๗
    ๔.๔ คณะครู นักเรียน โรงเรียนต่างๆ ในเขตอำเภอสังขละบุรีเป็นปะรจำ
    ๔.๕ คณะข้าราชการจังหวัดกาญจนบุรี
    ๔.๖ คณะทายกทายิกา และสาธุชนทั่วไปในจังหวัดกาญจนบุรี และต่างจังหวัด


    ๕.๔ งานด้านสาธารณูปการ

    พ.ศ. ๒๕๑๑-๒๕๒๔ เป็นผู้ดำเนินการสร้างเสนาสนะ และถาวรวัตถุที่วัดวังก์วิเวการาม (วัดเดิม)
    พ.ศ. ๒๕๑๔ เป็นกรรมการอุปถัมภ์สร้างอุโบสถวัดศรีสุวรรณาราม
    พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็นกรรมการอุปถัมภ์สร้างอุโบสถวัดสมเด็จ
    พ.ศ. ๒๕๑๗ เป็นกรรมการสร้างศาลาการเปรียญวัดไชยชุมพลชนะสงคราม
    พ.ศ. ๒๕๒๕ เป็นผู้ดำเนินการสร้างวัดวังก์วิเวการามในสถานที่แห่งใหม่ (เนื่องจากทางราชการได้สร้างเขื่อนเขาแหลม ทำให้น้ำท่วมบริเวณวัดเดิม)

    พ.ศ. ๒๕๒๕ เป็นผู้ดำเนินการสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุวัดวังก์วิเวการามในสถานที่ใหม่ โดยจัดสร้างถาวรวัตถุพอสรุปได้เป็นสังเขป ดังต่อไปนี้
    พ.ศ. ๒๕๒๕ สร้างพระเจดีย์ ลักษณะคล้ายเจีดย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย คอนกรีตเสริมเหล็ก ฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
    พ.ศ. ๒๕๒๕ สร้างศาลาอเนกประสงค์ เป็นเรือนชั้นเดียว หลังคามุงกระเบื้องลักษณะทรงไทยประยุกต์ สร้างที่ข้างองค์พระเจดีย์ด้านทิศตะวันตก
    พ.ศ. ๒๕๒๖ สร้างกุฏิสงฆ์ ลักษณะทรงไทยประยุกต์ ๒ชั้น คอนกรีตเสริมเหล็ก
    พ.ศ. ๒๕๒๖ สร้างกุฏิสงฆ์ ลักษณะทรงไทยประยุกต์ ครึ่งตึก ครึ่งไม้ หลังคามุงกระเบื้อง
    พ.ศ. ๒๕๒๖ สร้างหอระฆัง คอนกรีตเสริมเหล็กและทำเป็นถังสำหรับเก็บน้ำฝนไว้ใช้บริโภค
    พ.ศ. ๒๕๒๖ สร้างวิหาร ลักษณะจตุรมุข ๓ชั้น คอนกรีตเสริมเหล็ก ประดิษฐานพระพุทธรูปและรอยพระพุทธบาทจำลอง
    พ.ศ. ๒๕๒๖ สร้างวิหาร ๑ หลัง ชั้นเดียว ลักษณะทรงไทยประยุกต์ พื้นปูหินอ่อน เสาไม้จริง ตัวอาคารก่ออิฐถือปูน หลังคามุงกระเบื้องเกล็ดปลา ด้านหน้าทำเป็นหอครอบมีช่อฟ้า ๙ชั้น
    พ.ศ. ๒๕๒๖ สร้างศาลาการเปรียญ ลักษณะทรงไทยประยุกต์ คอนกรึตเสริมเหล็ก ยกพื้นสูง
    พ.ศ. ๒๕๒๖ สร้างสร้างอาคารเรียน โรงเรียนวัดวังก์วิเวการาม จำนวน ๒หลัง ชั้นเดียวพื้นเทคอนกรีตเสริมเหล็ก ผนังก่ออิฐถือปูน หลังคามุงกระเบื้อง
    พ.ศ. ๒๕๒๗ สร้างกุฏิสงฆ์ ลักษณธทรงไทยประยุกต์ ๒ชั้น ครึ่งตึกครึงไม้ชั้นบนปูพื้นไม้ ชั้นล่างปูปาเก้ไม้สัก หลังคามุงกระเบื้อง
    พ.ศ. ๒๕๒๗ สร้างโรงครัว ลักษณะเป็นเรือนชั้นเดียวยกพื้นสูง ชั้นล่างโปร่ง พื้นปูด้วยไม้เนื้อแข็งขัดเรียบ หลังคามุงกระเบื้อง
    พ.ศ. ๒๕๒๗ สร้างหอฉัน ลักษณะทรงไทยประยุกต์เป็นเรือนชั้นเดียว ยกพื้นสูง พื้นปูด้วยไม้เนื้อแข้งขัดเรียบ หลังคามุงกระเบื้อง ปีกชายคามุงสังกะสี
    พ.ศ. ๒๕๒๗ สร้างอาคารเครื่องกำเนิดไฟฟ้าชั้นเดียว คอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคามุงกระเบื้อง
    พ.ศ. ๒๕๒๘ สร้างกุกิเจ้าอาวาสเป็นเรือน ๒ชั้น ลักษณะทรงไทยประยุกต์ คอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคามุงกระเบื้อง
    พ.ศ. ๒๕๒๙ สร้างอุโบสถ ๑หลัง ลักษณะทรงไทยประยุกต์ คอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นปูด้วยหินอ่อนแกรนิต ผนังปูหินอ่อนสีชมพู เพดานเป็นไม้เนื้อแข็ง ประดับดาวสแตนเลส ประตูหน้าต่างแกะสลักด้วยไม้สัก เสารอบนอกหุ้มสแตนเลสแผ่นเรียบ หลังคามุงกระเบื้องเคลือบเกล็ดปลา มีสระน้ำล้อมรอบทั้ง ๔ด้าน
    พ.ศ. ๒๕๒๙ สร้างหอพระไตรปิฎก ลักษณธทรงไทยประยุกต์ ๒ชั้น คอนกรึตเสริมเหล็ก ประตูหน้าต่างแกะสลักลงรักปิดทอง หลังคามุงกระเบื้องเคลือบ ฝาประดับกระจกสี
    พ.ศ. ๒๕๒๙ สร้างกุฏิจงกรม ลักษณะทรงไทยประยุกต์ คอนกรีตเสริมเหล็ก ๒ชั้น หลังคามุงกระเบื้อง
    พ.ศ. ๒๕๒๙ สร้างฉางข้าวเปลือก ๑ หลัง เป้นเรืนอชั้นเดียว หลังคามุงสังกะสี
    พ.ศ. ๒๕๓๐ สร้างศาลา ๑หลัง ลักษณะทรงไทยประยุกต์ คอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคามุงสังกะสี
    พ.ศ. ๒๕๓๐ สร้างอาคารเรียน โรงเรียนวัดวังก์วิเวการาม เป็นอาคารตึก ๒ชั้น หลังคามุงกระเบื้อง
    พ.ศ. ๒๕๓๑ สร้างหอระฆังข้างเจดีย์ทรงพุทธคยาเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก
    พ.ศ. ๒๕๓๒ สร้างฉัตรทองคำหนัก ๔๐๐บาท ประดิษฐานที่ยอดพระเจดีย์ทรงพุทธคยา
    พ.ศ. ๒๕๓๒ สร้างศาลาข้างเดีย์ทรงพุทธคยา ๑หลัง ลักษณะทรงไทยประยุกต์ คอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคามุงสังกะสี
    พ.ศ. ๒๕๓๓ สร้างโรงเรียนประปริยัติธรรม ๘๐ปี ลักษณะทรงไทยประยุกต์ ๑หลัง ๒ชันเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก
    พ.ศ. ๒๕๓๓ สร้างอาคารหอประชุม ๘๐ปี พระอุดมสังวรเถร ให้โรงเรียนวัดวังก์วิเวการามเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ชั้นเดียว หลังคามุงกระเบื้อง
    พ.ศ. ๒๕๓๔ สร้างพระประธานประจำอุโบสถลักษณะจำลองมาจากพระพุทธชินราชหล่อด้วยโลหะลงรักปิดทอง ขนาดหน้าตัก ๕ศอก ๙นิ้ว พร้อมด้วยอัครสาวก ซ้ายขวา พร้อมทั้งฐานชุกชีประดับกระเบื้องโมเสค
    พ.ศ. ๒๕๓๕ - ปัจจุบัน ได้สร้างถาวรวัตถุและเสนาสนะต่างๆ อีกมาก

    นอกจากถาวรวัตถุในวัดวังก์วิเวการามแล้ว พระราชอุดมมงคลยังเป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างถาวรวัตถุอื่นๆ
    พอสรุปได้สังเขป ดังต่อไปนี้


    พ.ศ. ๒๕๒๖ เป็นกรรมการในการสร้างตึกพยาบาลพระเทพปัญญาสุธี ให้แก่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดดกาญจนบุรี
    พ.ศ. ๒๕๒๗ เป็นประธานอุปถัมภ์ในการสร้างโรงพยาบาลประจำอำเภอสังขละบุรี
    พ.ศ. ๒๕๒๗ สร้างตึกพยาบาลอาคารผู้ป่วยนอก ให้โรงพยาบาลอำเภอสังขละบุรี เป็นอาคารชั้นเดียวคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด ๑๐เตียง พร้อมอุปกรณ์การแพทย์
    พ.ศ. ๒๕๒๘ เป็นประธานอุปถัมภ์ในการสร้างอาคารโรงเรียนวัดวังก์วิเวการาม
    พ.ศ. ๒๕๒๘ สร้างถนนทางแยกเข้าวัด ผ่านหมู่บ้านเป็นถนนลูกรังอัดแน่นกว้าง ๘เมตร
    พ.ศ. ๒๕๓๐ เป็นกรรมการอุปถัมภ์ในการสร้างสะพานเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ ที่วัดดงสัก อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจบุรี
    พ.ศ. ๒๕๓๒ เป้นกรรมการในการสร้างโรงพยาบาลประจำอำเภอพนมทวน โดยมีพระเทพปัญญาสุธี เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานดำเนินการสร้าง

    ในส่วนงนของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ได้เป็นกรรมการอุปถัมภ์ในการสร้างอาคารสังฆิกเสนาสน์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยลัย อนุสรณ์ ๑๐๐ปี และให้ความอนุเคราะห์ด้านมูลนิธิและอุปกรณ์การศึกษาเป็นต้นด้วยดีตลอดมา


    ๖. เกียรติคุณที่ได้รับการยกย่อง

    พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้รับโล่ห์ประกาศเกียรติคุณจากกระทรวงมหาดไทย ให้ไว้เป็นที่ระลึกแก่พระครูอุดมสิทธาจาย์ (อุตตมะ) และบรรดาศิษยานุศิษย์ที่บริจาคเงินสร้างอุโบสถ วัดวังก์วิเวการาม อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

    วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้รับประกาศนียบัตร และโล่ห์ประกาศเกียรติคุณว่า พระครูอุดมสิทธาจารย์ (อุตตมะ) ได้เสียสละอย่างสูง เพื่อดำเนินงานตามโครงการอาสาพัฒนาท้องถิ่นของตนในฤดูแล้งจากนายธานินทร์ กรัยวิเชียร อดีตนายกรัฐมนตรี

    วันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้รับประกาศนียบัตรจากคณะกรรมการอำนวยการงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันวิสาขบูชา ในพระบรมราชูปถัมภ์

    วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ มหาสังฆสภาสยามวงศ์ มหานิกายประเทศศรีลังกา โดยสมเด็จพระสังฆราชสิริมัลวัตตะอานันทมหานายกเถระ โดยอนุมัติสังฆสภา ได้มีประกาศอนุมัติถวายสมณศักดิ์อัครบัณฑิตกิตติมศักดิ์ อันมีเกรียรติที่ "พหุชนมนานันทนียปูชิตะ" เพื่อประกาศเกียรติคุณว่า "พระอุดมสังวรเถระ ได้เป็นผู้บำเพ็ญประโยชน์ในด้านการศึกษาวิปัสสนาจารย์ การสงเคราะห์สังคม การศาสนาและวัฒนธรรม อย่างดียิ่งแก่ประเทศไทยตลอดแก่ชาวโลกทั่วไปด้วย" และมอบพระบรมสารีริกธาตุ กับหน่อพระศรีมหาโพธิ์ เพื่ออัญเชิญมายังประเทศไทย ประดิษฐานไว้ ณ วัดวังก์วิเวการาม อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

    วันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้รับประกาศนียบัตร และโล่ห์ประกาศเกียรติคุณ จากคณะกรรมการอำนวยการจัดสร้างสวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี โดยร่วสร้างศาลาที่พักสี่เหลี่ยม ๑หลังเป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท

    พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้รับโล่ห์ที่ระลึกจากคณะข้าราชการ นักศึกษา หลักสูตรจิตวิทยาความมั่นคง รุ่นที่ ๔๓

    วันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๔ ได้รับโล่ห์ประกาศเกียรติคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ในฐานะที่เป็นผู้บริจารสร้างห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" อำเภอทองผาภูม จังหวัดกาญจนบุรี จำนวนเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท

    วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๕ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในพระบรมราชูประถัมภ์ โดยอนุมัตจากสภามหาวิทยาลัยถวายปริญญาบัตร "พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์" สาขาสังคมศาสตร์ เนื่องจากพระราชอุดมมงคลเป็นพระเถระที่ได้บำเพ็ญประโยชน์แก่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระพุทธศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และประเทศชาติอย่างไพศาล

    วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๖ ได้รับประกาศนียบัตรประกาศเกียรติคุณจากกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแสดงว่าได้บริจาคสร้างอาคารเอนกประสงค์ มูลค่า ๑,๑๐๐,๐๐๐ บาท ให้เป็นสมบัติของโรงเรียนบ้านวังกะ

    วันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ ได้รับโล่ห์ประกาศเกียรติคุณจากรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี โดยนายธวัช เมฆสวรรค์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อแสดงความขอบคุณ เนื่่องในโอกาสครบรอบ ๖๐ปี กรมประชาสัมพันธ์ที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนงานกรมประชาสัมพันธ์เป็นอย่างดี อันก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ และประชาชนทั่วไป


    ๗. สมณศักดิ์

    หลวงพ่ออุตตมะ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศเป็นพระราชาคณะชั้นราช
    ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระราชอุดมมงคล เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๔หลวงพ่ออุตตมะ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศเป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระราชอุดมมงคล เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๔

    พ.ศ. ๒๕๑๐ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสังฆรักษ์อุตตมะ ฐานานุกรมของพระราชวิสุทธิเวที (บุญมา คุณสัมปันโน ป.ธ.๙ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร)

    พ.ศ. ๒๕๑๒ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นโท ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระครูอุดมสิทธาจารย์

    พ.ศ. ๒๕๑๒ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระครูอุดมสิทธาจารย์

    พ.ศ. ๒๕๒๔ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่พระราชอุดมมงคล พหลนราทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

    [​IMG]
    พ่ออุตตมะ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศเป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระราชอุดมมงคล เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๔​

    คุณหญิงสร้อยระย้า เรืองวิเศษและคณะ เรียบเรียง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2016
  3. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    [​IMG]

    "ปานตัน"

    เมื่อด.ช.เอหม่อง (หลวงพ่ออุตตมะ) อายุได้ 9ขวบ เกิดอหิวาตกโรคระบาดในหมู่บ้าน ผู้คนตายไปมาก บิดามารดาจึงพาด.ช.เอหม่องไปฝากหลวงลุงนันทสาโรที่วัดโมกกะเนียง ให้เป็นเด็กวัดปรนนิบัติรับใช้พระและศึกษาธรรมะเป็นเครื่องคุ้มครองตนจากโรคภัย

    ด.ช.เอหม่องพากเพียรเรียนหนังสือจนสอบได้ที่หนึ่งทุกปี เอาชนะได้ทั้งเด็กมอญและพม่า สรรพวิชาใดๆในวัด ด.ช.เอหม่องก็สนใจศึกษาทั้งสิ้น เช่นวิชาโลกนิติ โลกวิทู ไปจนถึงตำราสัปเหร่อ ในสมัยโบราณหาสมุดดินสอยาก พระสอนเด็กวัดให้ทำดินสอโดยใช้ข้าวสุกตากแห้ง บดผสมกับถ่านละเอียด อัดใส่กระบอกเล็กๆ ที่เป็นแบบให้แน่น แล้วนำไปตากแดดให้แห้งเป็นดินสอ ใช้ไม้ตีนเป็ดผ่าบางๆ ขนาดสัก8นิ้ว ทายางไม้สีดำต่างกระดานชนวน เวลาจะลบก็ใช้น้ำมะงั่วหรือมะนาวลบ

    เด็กวัดโมกกะเนียงมีเป็นร้อยๆคน เพราะบ้านโมกกะเนียงเป็นหมู่บ้านใหญ่ ชาวบ้านปลูกฝ้ายทอผ้าไว้ใช้เอง เด็กที่สอบได้ที่หนึ่งจะได้เสื้อผ้าฝ้ายเป็นรางวัลครั้งละ 1ตัว สมัยนั้นราคาตัวละ 2 หะแตะ
    (เป็นเงินมอญ มูลค่า 64 หะแตะ เท่ากับ 1บาท ซึ่งหลวงพ่ออุตตมะมักเรียกเป็นสตางค์ให้คนไทยฟังเข้าใจง่าย)
    ยิ่งเรียนไป ด.ช.เอหม่องก็ยิ่งได้รางวัลมากมายจริงๆ ทั้งเสื้อ และสมุดดินสอ จนได้รับสมญาว่า "ปานตัน"

    คำว่า "ปาน" แปลว่าดอกไม้ และ "ตัน" แปลว่าเสาธง

    "ปานตัน" จึงมีความหมายว่า "ผู้ชนะเลิศ" .




    จากหนังสือ 84ปี หลวงพ่ออุตตมะ ,หน้าที่ 51
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2016
  4. ผู้นอบน้อมสุดใจ

    ผู้นอบน้อมสุดใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,094
    ผมรอกระทู้นี้มานานเเล้วครับ ผมศรัทธาท่านเเต่ไม่ค่อยทราบอะไรเกี่ยวกับท่านเลย
     
  5. มันไม่แน่

    มันไม่แน่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +7,956
    ขอติดตามด้วย...ครับ
     
  6. thaiart

    thaiart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +249
    ผมเคารพและศึกษาประวัติหลวงพ่อมาบ้างครับ หลวงพ่อท่านดังประคำก็จริง แต่เหรียญท่านก็ดีมากครับ
    ความน่าสนใจของท่านอยู่ตรงที่การวางรากฐานวัฒนธรรมท้องถิ่น สังขละบุรียังคงความงดงามเพราะคุณงามความดีและวิสัยทัศน์ของหลวงพ่อครับ
     
  7. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    ศรัทธาท่าน ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

    พระของประชาชน พระที่ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ศรัทธาได้อย่างแท้จริงครับ พระแบบนี้หายาก

    ที่หมอชิต ทุกวันอาทิตย์จะมีรถ บขส. จัดทัวร์วิ่งเข้าวัดท่าน จอดให้ทำบุญกันพักใหญ่ และเลยไปด่านเจดีย์สามองค์ ทัวร์ราคาเบา ๆ สบาย ๆ เพราะส่วนมากทั้งคันรถจะมีแต่คนแก่กับผู้หญิง แต่รู้สึกว่าจะออกเดินทางเช้ามาก ประมาณตี 3 ครึ่งถึงตี 4 ไปเช้า-เย็นกลับ อยากไปเที่ยววัดท่านก็เดินทางสบายง่าย ๆ แล้วครับ

    วัตถุมงคลหลวงปู่ฯ มีแค่รับมากับมือท่านครับ มีไม่มาก ราคาไม่แพง บางองค์ได้ฟรีอีกต่างหาก แต่ติดคอตลอด

    พระปรกมะขามเล็ก ๆ แต่มากด้วยพุทธคุณ ไม่รู้สร้างปีไหน น่าจะ 2533-2536 เพราะรับกับมือท่านตอนปี 2537 งานบุญฉลองอายุ 84 ปี บูชาจากวัดมาองค์เดียว แต่ท่านแจกให้มาเป็นกำมือ

    [​IMG][​IMG]


    พระปิดตาฉลองอายุ 84 ปี สร้างปี 2537 องค์นี้ปักต้นผ้าป่า 20.- บาท ลป.ท่านแจกพระทุกคนที่มางานผ้าป่า

    [​IMG][​IMG][​IMG]


    พระรอด (ส่วนมากคนไม่รอด) ปี 2525 แต่องค์นี้... คนรอดครับ ประสบการณ์ตรงกับผมเอง ขับมอเตอร์ไซด์ โดนรถกระบะขนปลาข้ามเลนส์มาชนประสานงา ไม่ต้องถามถึงมอเตอร์ไซด์ ขายเป็นเศษเหล็กเท่านั้น ตัวผมโดนแรงกระแทก ลอยกระเด็นไปไกล ถลอกนิดหน่อย ไม่มีหักไม่มีดาม แถมลุกขึ้นมาชกกับคนขับรถขนปลาได้อีกหลายหมัด ข้อหาพยายามจะหนี ไหน ๆ ก็เจ็บแล้ว ต้องเอาให้ถึงที่สุด แต่เหมือนผมจะสู้ไม่ได้เพราะเจ็บอยู่แล้วด้วย สุดท้ายได้กลุ่มมอเตอร์ไซด์วินเข้ามาช่วยประเคนคนละ 3-4 หมัด มันเลยจอดเหมือนรถ ถ้าไม่ได้กลุ่มมอเตอร์ไซด์วินไอ้คนขับรถหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้

    [​IMG][​IMG]
     
  8. oad006

    oad006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,082
    เคยมีประคำของหลวงพ่ออยู่เส้น แต่ตอนนี้หายไปไหนไม่รู้. เศร้าใจจริงๆ คุณแม่รับมากับมือหลวงพ่อเลยครับ. T T

    รอติดตามครับ

    ^_^
     
  9. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    สวัสดีครับทุกท่าน ช่วงนี้ภาระกิจเยอะตลอดเลยไม่ว่างมาอัพเดท
    แต่จะพยายามเข้ามาลงประวัติหลวงพ่อสัปดาห์ละอย่างน้อย 1ครั้งครับ

    ----------------------------------------------------
    คุณthaiart ประคำท่านดังจริงๆครับ ได้ทราบมาจากคนพื้นที่เรื่องประสบการณ์แคล้วคลาดเยอะมากทีเดียว ส่วนรุ่นที่ตามหากันมากคือประคำเชือกถัก ภายในบรรจุกระดาษสาลงอักขระ
    แต่ก็มีปลอมเหมือนกันนะครับ เช่าบูชาระวังกันด้วยนะครับ


    [​IMG]

    ----------------------------------------------------
    ขอบคุณพี่denchai_l สำหรับข้อมูลการเดินทางและประสบการณ์ครับ สุดยอดจริงๆ

    พระเครื่องแท้และทันหลวงพ่อยังพอมีให้บูชาที่วัดนะครับ ส่วนประคำไม่เห็นมีแล้วครับ

    พระรอดรุ่นนี้(บางท่านว่าเป็นพระขุนแผน) ทราบมาว่า ลูกศิษย์ที่ทำงานการไฟฟ้าสร้างถวายหลวงพ่อเมื่อคราวที่มาทำเขื่อนเขาแหลม
    อาจารย์เบิ้ม (สุวัฒน์ พบร่มเย็น) บอกว่ารุ่นนี้ หลวงพ่อบอกเราว่าเสกในกุฏิมานานร่วม 25ปีแล้ว
    โมทนาด้วยครับที่ได้รุ่นนี้ ผมโชดดีได้มา 1องค์เหมือนกัน:cool:

    ----------------------------------------------------
    ที่วัดก็ไม่มีให้บูชาแล้วนะครับ เสียดายเหมือนกันครับ คุณoad006
    ผมเคยบูชาในเว็บ แต่ก็ไม่แน่ใจนะครับ เพราะประคำไม่มีโค๊ดซะด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2014
  10. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    กราบหลวงปู่ฯ ครับ

    [​IMG]
     
  11. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]



    ๑๘ ตุลาคม ครบรอบวันมรณภาพหลวงพ่ออุตตมะ
     
  12. Puthapower2012

    Puthapower2012 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +2,598
    เคยไปกราบท่านที่วัดน่าจะ 10 กว่าปีท่านยังไม่ละสังขาร ประคำกระดาษสาบูชาเส้นละ 2500 บาทใจไม่ถึง ไม่ได้บูชาไว้ ถ้าเป็นประคำกระดาษสาเม็ดเดี่ยวๆ เม็ดละ 500 บาท ก็ไม่ได้บูชาไว้อีก เสียดายจนถึงเดี๋ยวนี้
     
  13. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    ผมดูรายการท่องเที่ยวรายการหนึ่ง เห็นแจ้งว่า... พรุ่งนี้ ที่ อ.สังขละฯ มีการจัดงานฉลองสะพานมอญอย่างยิ่งใหญ่ เพราะสะพานซ่อมเสร็จแล้ว มีให้เดิน 2 สะพานพร้อมกันเลยทั้งสะพานใหญ่และสะพานลูกบวบ ผมเสียดายที่ติดเข้าเวรวันหยุด ไม่งั้นคืนนี้คงออกเดินทาง

    เมื่อ 6 ปีก่อน เคยทำงานที่ อ.ทองผาภูมิ วันหยุดก็ไปเดินเล่นที่ อ.สังขละฯ เป็นประจำ ตั้งแต่มาอยู่ที่เมืองนนท์ นาน ๆ จะได้ไปซักที บรรยากาศคงเหมือนเดิม สามประสบ...

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2014
  14. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    ผมเคยได้แต่ประคำไม้ หลวงปู่แจกให้ฟรีๆ แต่ในวัดก็มีให้บูชา 50.- บาทประมาณนี้ แต่แขวนไว้หน้ารถเก๋งคันเก่า ขายรถเก๋งไปแต่ไม่ได้นิมนต์สร้อยประคำออกมาด้วย... ขับรถคันเก่ามา 10 กว่าปี ไม่เคยชนหนักๆ มีแต่ชนแบบเบาๆ จะเป็นตอนเมาเท่านั้น ส่วนมากจะถอยชนกำแพงบ้านตัวเองหรือถอยชนรถเมีย เป็นรอยแบบสีถลอกนิดหน่อย ไม่เคยประสานงานหรือเกิดอุบัติเหตุ ส่วนหนึ่งที่แคล้วคลาดอาจจะเป็นคนขับรถไม่เร็ว และได้บารมี ลป. คุ้มครอง มองกันแบบธรรมชาติ ไม่โง่งมงาย หรือยึดติดกับวัตถุมงคลจนมากเกินไป

    ยังนึกถึงคำ ลพ.คูณ ท่านว่า "ก็มึงขับเร็ว 100 กว่า ใครจะไปคุ้มครองมึง กูกระโดดลงตั้งแต่วิ่งเกิน 80 แล้ว"
     
  15. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    การทอดกฐินและอานิสงค์ของการทอดกฐิน

    "ต่อไปนี้จะว่าด้วยการทอดกฐิน และอานิสงค์ของการทอดกฐิน
    ประเพณีการบำเพ็ญกุศลด้วยการถวายผ้าไตรจีวรแก่พระสงฆ์ผู้จำพรรษา ครบไตรมาส ตั้งแต่วันแรม 1ค่ำ เดือน11 ถึงวันขึ้น 15ค่ำ เดือน12 เรียกว่าการทอดกฐิน"

    การทอดกฐินเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ทรงผนวชได้ 37 พรรษา ขณะนั้น ณ เมืองราชคฤห์ ครั้งนั้นออกพรรษาแล้ว ได้มีพระภิกษุ 30รูป ได้เดินทางมาหาพระพุทธองค์ ขณะเดินทางฝนตกหนัก พระภิกษุทั้ง 30รูปนั้นเปียกฝนมา พระพุทธองค์จึงโปรดให้ทำการทอดกฐิน เรียกว่าเป็น "กฐินะจีวระ" เพราะแต่เดิมมีแต่การทอดผ้าป่า

    การทอดผ้าป่า หรือการทอดกฐินนั้น ผู้ทำได้อานิสงค์คล้ายๆกัน แต่อานิสงค์ของกฐินมากกว่าในด้านของพระภิกษุ คือในช่วงของอานิสงส์กฐินนั้น พระสฆ์จะได้ยกเว้นพระวินัย 5ประการ ด้วยพระวินัยของพระพุทธองค์นี้ใครก็ตัดไม่ได้ แต่ด้วยนอานิสงส์ของกฐินนี้ตัดได้ ซึ่งทำให้ผู้ถวายกฐินได้บุญมากกว่าในข้อนี้ เพราะ"ทำให้พระสงฆ์ไม่ต้องกังวลในจีวร"
    ช่วงของอานิงสงส์กฐินนี้คือ นับแต่วันที่พระสงฆ์รับผ้ากฐินไปจนถึงแรม 1ค่ำเดือน4 จึงหมดอานิสงส์ หลังจากนั้นพระสงฆ์ก็ต้องอยู่ในพระวินัยดังเดิม

    ฤดูกกาลของการทอดกฐิน เริ่มแต่แรม 1ค่ำ เดือน11 ถึง 15ค่ำ เดือน12 อนุญาตให้ทอดกฐินได้ในช่วงนี้เท่านั้น ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายกฐินนี้ แม้เป็นภิกษุ โสดา ก็จะมีรูปงาม ปัญญาดีแม้เกิดในเทวะภูมิก็จะเป็นเทวดาที่มีชั้นยศ มีบริวารมาก มีวิมานสีทองดังสีของจีวร ด้วยบุญที่เกิดจากการปลดพระภิกษุออกจากความกังวลในจีวร ถึงแม้เป็นมนุษย์ก็จะมีผิวพรรณงดงามขาวผ่องเป็นสีทอง ดุจสีจีวรนั้น เป็นผู้มีโรคภัยน้อย และไม่ตกในอบายมุข มีจิตคิดแต่จะทำบุญ.

    พระธรรมเทศนา โดย พระราชอุดมมงคล (หลวงพ่ออุตตมะ)
    จากหนังสือ 84ปี หลวงพ่ออุตตมะ, หน้า 447
     
  16. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    ดีแล้วที่ไม่ตัดสินใจไปงานสะพานมอญ......... อยากจะบอกนาย อ.สังขละฯ ดัง ๆ จะจัดงานใหญ่ต้องมีความพร้อมน่ะครับ สภาพแบบนี้... แย่งกันกินแย่งกันขี้ แย่งกันหาที่จอดรถ แน่นอน เอาไว้คนเลิกเห่อก่อนค่อยไปจะดีกว่า

    แบบนี้ทำให้ผมนึกถึงบรรยากาศการขึ้นเขาคิชกูฏ ไปถึงวัดพลวงตี 2 แต่ได้บัตรขึ้นรถรอบ 7-8 โมงเช้า เพราะบัตรนั้นพวกรถตู้วินจาก กทม. ได้ล๊อกไว้ให้ลูกทัวร์ของตัวเองจนหมด นี่คือพวกชอบเอาเปรียบในสังคมไทย น่าเวทนาจริง ๆ

    ขอขอบคุณภาพจาก post today

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  17. somchai_12

    somchai_12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +800
    กราบสักการะ หลวงพ่ออุตตมะ 18 ตุลาคม
     
  18. somchai_12

    somchai_12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +800
    เคยได้ยินมา ลูกประคำหลวงพ่ออุตตมะ ป้องกันฟ้า ป้องกันไฟ
     
  19. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2014
  20. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    ประสบการณ์ "ลูกอมลอยน้ำ"

    ในสมัยนั้นหลวงพ่อท่านยังไม่ได้แจกประคำเป็นเส้นๆ แต่ท่านแจกเป็นเม็ดประคำ 1 เม็ดจะมีรูปหลวงพ่อเล็กๆ ติดอยู่แล้วอัดกรอบพลาสติคเป็นลูกกลมๆ จึงเรียกกันว่า "ลูกอม"

    วันหนึ่งท่านกลับมาจากเมืองกาญจน์ แล้วได้มาเล่าให้พวกเราฟังว่า "มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้านั่งซักผ้าอยู่ทีริมแม่น้ำ ลูกเขาก็ยังเล็กๆ แกก็คลานไปคลานมาอยู่ใกล้ๆ เผลอไปแผล็บเดียวลูกของแกพลัดตกน้ำ แกตกใจมากมองหาก็ไม่พบเพราะเด็กนั้นยังเล็กมากและน้ำก็ไหลแรงด้วย ปรากฏว่าชาวบ้านแถวนั้นเขาก็พากันว่ายน้ำออกไปช่วยหา พบว่าเด็กน้อยนั้นนอนหงายลอยไปตามน้ำ ที่คอของเด็กนั้นมีลูกอมของหลวงพ่อห้อยติดอยู่"

    พวกเราชาวบ้านที่นี่อยู่กับหลวงพ่อท่านกันจนชินกับความพิเศษต่างๆ ซึ่งท่านมีมากกว่าคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง ผมรู้สึกได้ว่าท่านมองเห็นเหตุการณ์ข้างหน้าว่าจะเป็นไปอย่างไร จะนำพาพวกเราไปทางไหน จะอยู่กันอย่างไร แต่ท่านไม่เคยพูดจาโอ้อวด ท่านปล่อยให้อะไรต่ออะไรค่อยๆ เป็นไปเอง เพียงแต่คอยควบคุมเอาไว้ไม่ให้ออกไปนอกกรอบเท่านั้น สำหรับพวกเรานั้นถ้าเกิดเจ็บป่วย หรือเดือดร้อน ทั้งทุกข์กายทุกข์ใจ เราก็พึ่งหลวงพ่อนั่นแหละ เรียกได้ว่า "ท่านเป็นเจ้าชีวิตของพวกเราเลยทีเดียว"

    นายองหม่อง ปุณณการี
    จาก หนังสือ 100ปีชาตะกาล, หน้า149

    -----------------------------------
    ปล. รูปที่ลงไว้ประกอบเรื่องเล่าเท่านั้นนะครับ ลูกอมรุ่นเก่าจริงๆไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้รึเปล่า
    เพราะรุ่นนี้ที่วัดก็มีให้บูชา แต่ทางวัดว่าไม่ทันท่านนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2468778-1.jpg
      2468778-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      120.6 KB
      เปิดดู:
      1,706
    • 2468778-2.jpg
      2468778-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      119.2 KB
      เปิดดู:
      1,005

แชร์หน้านี้

Loading...