ไลน์ในไทยสั่งถอดสติ๊กเกอร์พระพุทธเจ้า

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 21 สิงหาคม 2014.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    ไลน์ในไทยสั่งถอดสติ๊กเกอร์พระพุทธเจ้า

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


    [​IMG]



    ประธานองค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกเผย"ไลน์ประเทศไทย"สั่งลบสติ๊กเกอร์พระพุทธเจ้าออกทั้งหมดแล้ว

    นพ.พรชัย พิญญพงษ์ ประธานองค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (ย.พ.ส.ล.) เผยถึงกรณีได้รับการร้องเรียนจากเครือข่ายชาวพุทธ ว่ามีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งนำภาพพระพุทธเจ้ามาทำเป็นสติ๊กเกอร์ไลน์ล้อ เลียนในอิริยาบถต่างๆ อาทิ กางแขนกางขา ยกนิ้ว โดยใช้ชื่อว่า BUDDHA , The Mask Revolution และ Saint Young Men ซึ่งสร้างความสะเทือนใจต่อชาวพุทธที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่ทางองค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ก็ร่วมรณรงค์คัดค้านเรื่องดังกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย ล่าสุด บริษัทไลน์ ประเทศไทย แจ้งกลับมาว่า ได้มีการยกเลิกการขายสติ๊กเกอร์และถอดออกจากคลังสติ๊กเกอร์ดังกล่าว ในประเทศไทยแล้ว เพื่อเป็นการปกป้องพระพุทธศาสนา
    อย่างไรก็ตาม ฝากถึงประชาชนหากเจอกรณีที่นำภาพที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนามาดูหมิ่น อย่างไม่เหมาะสม ก็ช่วยกันแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ช่วยแก้ไขปัญหาให้เกิดความเหมาะสมต่อไป


    ............
    ที่มา :
    bangkokbiznews.com
     
  2. สงบทางใจ

    สงบทางใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +515
    แม้แต่คิดทำก็ไม่ควรที่จะคิดทำเลย พระพุทธเจ้าเป็นพระบรมศาสดาของศาสนาพุทธที่ควรจะเคารพบูชาทุกวินาที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 สิงหาคม 2014
  3. โลโป

    โลโป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +1,714
    การยึดติดในรูปเป็นมิจฉาทิฐิ พุทธะสอนว่ารูปไม่เที่ยง รูปเป็นทุกข์ รูปเป็นอนัตตา แต่ชาวพุทธที่ไม่สามารถเข้าถึงหลักธรรมคำสอนนี้ได้ ชาวพุทธสร้างรูปว่าเป็นองค์พุทธะขึ้นมากราบไหว้ มีรูปที่ช่างปั้นสร้างขึ้น มีรูปที่นักพัฒนแอพพิเคชั่นสร้างขึ้น พระสงฆ์แข่งกันสร้างรูปพุทธะ ชาวพุทธแข่งกันสร้างรูปพุทธะ รูปพุทธะเกิดขึ้นมากมายในโลก ชาวพุทธสร้างรูปพุทธะแต่ไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพุทธะ พุทธะสอนว่ารูปไม่เที่ยง รูปเป็นทุกข์ รูปเป็นอนัตตา ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา อนัตตาคือความที่รูปเกิดขึ้น รูปตั้งอยู่ รูปดับไป ธรรมทั้งหลายเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป. เมื่อนามรูปมีอยู่ วิญญาณจึงมี เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ เมื่อนามรูปไม่มีวิญญาณจึงไม่มี เพราะนามรูปดับ วิญญาณจึงดับ เป็นเช่นนั้นเอง.
     
  4. palati

    palati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +432

    ที่ท่านกล่าวมานั้นก็ถูกครับ แต่อาจจะมีส่วนหนึ่งที่ผมอยากจะขออธิบายเพิ่มเติม พวกเราชาวพุทธไม่ได้กราบไว้ก้อนปูน ก้อนทองเหลือง ก้อนทองคำนะครับ แต่เรากราบไหว้บูชาสัญลักษณ์ที่แสดงถึงสิ่งแทนการเคารพบูชาที่คือการนำปูนมาปั้นเป็นองค์พระ การนำทองเหลืองมาหล่อเป็นองค์พระ การนำทองคำมาหล่อเป็นองค์พระ ซึ่งต้องทำอย่างประณีตและทำด้วยความตั้งใจอย่างมาก ส่วนที่ท่านมองว่ามีการสร้างแข่งกัน ผมคิดว่าอาจจะมีคนบางพวกที่ทำอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ก็อย่าลืมว่าคนที่มีความศรัทธาแท้จริงนั้นก็มีนะครับและผมว่ามีมากกว่าคนเหล่านั้นด้วยซ้ำ ที่ต้องการบูชาพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ชาวพุทธที่แท้จริงนั้นเคารพและศรัทธา

    <O:p</O:pคนที่ร่วมสร้างหรือร่วมหล่อองค์พระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน แต่อาจจะได้อานิสงส์ไม่เท่ากันนั้นมีแน่นอนครับ ไม่ใช่จำนวนเงินที่มากน้อยกว่ากัน แต่อยู่ที่จิตใจหรือกำลังใจใครจะบริสุทธิ์กว่ากัน คนที่ทำเพราะอยากได้หน้าได้ตาทำบุญทีละแสน ก็จะสู้คนที่มีจิตศรัทธาทีทำบุญเพียงแค่ไม่กีร้อยบาทไม่ได้ครับ

    <O:p</O:pส่วนธรรมมะที่ท่านกล่าวมาผมก็ยังขอยืนยันว่าถูกต้องครับ และขออนุโมทนาด้วยครับผม ทุกสิ่ง ล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป แต่ในระหว่างนั้นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็น โบสถ์ วิหาร หรือองค์พระ ล้วนมีความสำคัญในช่วงเวลาที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แต่เมื่อดับไปล้วนย่อมไม่มีความหมายอย่างที่ท่านบอกครับ แต่ถ้าเราไม่ช่วยกันสร้างและทำนุบำรุงไว้ก็อาจจะทำให้พระพุทธศาสนาอยู่ไม่ครบ 5,000 ปีก็ได้ครับ ถึงแม้จะเป็นแค่ “ รูป ” ก็ตามครับ

    <O:p</O:pขอบคุณครับ <O:p</O:p
     
  5. PrasertN

    PrasertN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +195
    ยังเข้าไม่ถึงอนัตตาอย่าเพิ่งเม้นท์ดีกว่า การเป็นคัมภีร์เคลื่อนที่มิได้ทำให้เข้าถึงพระนิพพาน (ขออภัยหากบรรลุอรหัตผลแล้ว)ควรจะมองให้ลึกอีกว่า มิได้มีแต่มนุษย์ ยังมีเทพเทวดาอีกมากมายที่เคารพพระพุทธเจ้า

    บาปมันคือการทำให้จิตใจตนเองผู้อื่นเศร้าหมอง เศร้าหมองมากน้อยตามระดับภูมิปัญญาทางธรรม แค่คนอื่นล้อเลียนคนที่เรารัก โดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด เรายังไม่ชอบเลย นั่นล่ะตัวอย่างของการทำให้จิดใจผู้อื่นเศร้าหมอง การทำให้คนอื่นหลงผิด ก็ด้วย และมีคนที่ยังเข้าไม่ถึงพระธรรมตามที่กล่าวจำนวนมากมายที่จิดเขาเศร้าหมองเมื่อได้เห็นสติ๊กเกอร์นี้

    อีกอย่างกรรมแห่งการปรามาสองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าร้ายแรงยิ่งนัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2014
  6. นาย หวังดี

    นาย หวังดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2013
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +1,272
    คนทำ มันก็ทำไปได้
     
  7. PrasertN

    PrasertN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +195
    เขาทำเพราะทรามปัญญา ไม่ได้หมายความว่า ไม่ผิด แต่เราให้อภัยเขาได้
     
  8. โลโป

    โลโป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +1,714
    พระธรรมมีอยู่ตลอดกาล ไม่ใช่ห้าพ้นปี
    พระธรรมไม่ได้อยู่ที่โบสถ์ วิหารหรือองค์พระ
     
  9. PrasertN

    PrasertN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +195
    อนุโมทนา แต่ต้องแยกเรื่องกันระหว่าง
    เรื่องที่ทำให้จิดผู้อื่น (รวมไปถึงเพื่อนร่วมทุกข์ในสามโลก) ที่เคารพในพระผู้มีพระภาคเจ้าเกิดความเศร้าหมองกับ พระธรรมซึ่งเป็นอกาลิโก

    หากเราสามารถวางอุเบกขาในเรื่องนี้ได้ ผู้ทำกรรมใดย่อมได้รับกรรมนั้น แต่มิได้หมายความว่าผู้อื่นจะเห็นเหมือนเรา

    หากสวดมนต์ทุกวันด้วยความเคารพพระผู้มีพระภาคเจ้าจากเบื้องลึกของจิตใจ ก็จะเห็นเองว่า การกระทำนั้นไม่สมควรอย่างยิ่ง

    http://pantip.com/topic/30599478
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2014
  10. โลโป

    โลโป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +1,714
    หากใครว่าพระธรรมอยู่ที่โบสถ์วิหารหรือองค์พระ ลองหยิบพระธรรมมาให้ดูหน่อย หรือจะถ่ายรูปมาให้ดูก็ได้ เอาตัวพระธรรมจริงๆ ไม่ใช่ตัวโบสถ์วิหารหรือองค์พระ ไม่มีใครหยิบพระธรรมมาให้ดูได้ อย่างมากจะหยิบหนังสือธรรมะหรือถ่ายรูปโบสถ์วิหารหรือองค์พระมาให้ดู ที่เป็นเช่นนั้นเพราะตัวธรรมไม่ใช่วัตถุ ตัวธรรมะไม่ใช่สิ่งที่ไม่ได้มองเห็นด้วยตาเนื้อ ธรรมะไม่ใช่สิ่งที่เห็นด้วยการอ่านจากตำราหรืออ่านจากหนังสือ ตัวหนังสือกับตัวโบสถ์วิหารหรือองค์พระเป็นแบบเดียวกัน คนอ่านหนังสือไม่ออกย่อมอ่านออกเสียงไม่ได้ ถ้าจะอ่านหนังสือได้ต้องไปเรียนตัวหนังสือมาก่อน แต่อ่านหนังสือออกก็ยังไม่ใช่ตัวธรรมะยังไม่ถูกตัวธรรมะ อ่านแล้วนำไปปฏิบัติจึงจะเห็นผล เมื่อเห็นผลแล้วนั่นแหละคือเห็นธรรมะ โบสถ์วิหารหรือองค์พระเป็นตัวแทนเป็นสมมติบัญญัติ พุทธศาสตร์สอนให้เรียนรู้สมมติ รู้แล้ววาง ไม่ใช่รู้แล้วไปยึดมั่นถือมั่นเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาอีก ถ้ายังไปยึดเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาให้ระวังไว้ให้ดี ยึดอะไรทุกข์มันเกิดขั้นที่นั่น ยึดสุขก็ให้ระวังให้ดีทุกข์จะเกิดขึ้น แต่คนมักชอบสุขไม่ชอบทุกข์ ความจริงมีสุขเกิดขึ้นนั้นมีทุกข์เกิดขึ้นตามมาแล้ว สุขกับทุกข์มีค่าเท่ากัน คนไม่มีตาปัญญามักมองไม่เห็นคนมีตาปัญญารู้ได้ คนไม่มีตาปัญญาเมื่อมีทุกข์เกิดขึ้นจะโทษดินฟ้าอากาศโทษเดือนดาวโทษดวงชะตาโทษสิ่งนั้นสิ่งนี้กระทำ มนุษย์ยึดรูป ยึดสุข ยึดทุกข์ที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเองด้วยใจที่มีอุปาทาน ตัววัตถุไม่ได้รู้เรื่องด้วย เหมือนก้อนหินไม่รู้จักตัวเองว่าก้อนหิน มนุษย์ที่มีอุปาทานว่าลักษณะเป็นก้อน ๆ แข็ง ๆ แบบนี้เรียกว่าก้อนหิน พอมีคนมาเรียกเป็นอย่างอื่นใจทุกข์ขึ้นมาทันทีหาว่าเขาไม่รู้เรื่อง ทำไมไม่เรียกก้อนหินเหมือนเรา. เมื่อเวทนามีอยู่ ตัณหาจึงมี ตัณหาย่อมมีเพราะเวทนาเป็นปัจจัย เมื่อตัณหาไม่มี อุปาทานจึงไม่มี เพราะตัณหาดับไป อุปาทานจึงดับไป.
     
  11. โลโป

    โลโป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +1,714
    ชาวพุทธปากจะบอกว่า ขอมีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ขอมีพระธรรมเป็นที่พึ่ง ขอมีพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง พอลับหลังจะไปหาหมอดู ไปหาหมอผี ไปหาหมอปลุกเสก ไปหาของขลัง ไปรดน้ำมนต์ ไปตั้งศาลเจ้า ไปนับถือไสยศาสตร์ว่าเป็นที่พึ่ง การบูชาพระพุทธรูปนั่นระวังให้ดี ระวังจะบูชาพระพุทธรูปแบบเดียวกับไสยศาสตร์ สังเกตว่าในวัดพุทธมีรูปปั้นของศาสนาอื่นไว้บูชาอยู่มาก บางวัดบูชาเทพเจ้า บูชาชูชก บูชาสิวลึงค์ บูชาอะไรๆ เต็มไปหมด บูชาแต่วัตถุของขลังแต่ใจหาธรรมไม่มี พระพุทธรูปไม่ใช่ตัวธรรมะ ไม่ใช่รูปจริงของพระพุทธเจ้า พระพุทธรูปเป็นรูปสมมติ เรียนรู้สมมุติ รู้จักใช้สมมุติ รู้จักวางสมมุติ รู้จักบูชาสมมติอย่ายึดติดรูปสมมติ บูชาให้ถูกต้องแล้วทุกข์จะไม่มี เจริญในธรรม
     
  12. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,579
    คุณต้องเข้าใจว่าคนมี ๔ ประเภทเปรียบเหมือนบัว ๔ เหล่า บ้างยังติดในพระเครื่อง หลวงปู่ดู่ท่านเทศน์ "ติดวัตถุมงคลก็ยังดีกว่าติดอบายมุข"จริงไหมครับ ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชนซึ่งยังหนาไปด้วยกิเลสต่างๆแม่นบ่ อิอิอิ...
     
  13. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    พุทธศาสนาควรจะได้รับการปกป้องมากน้อยแค่ไหน น่าจะเป็นสิ่งที่ต้องใคร่ครวญพิจารณากันให้ดี อันไหนเป็นปัญหาสำคัญกว่ากันระหว่างการดูหมิ่นเหยียดหยามที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราวจากคนนอก กับสนิมเนื้อในตนที่นับวันจะกร่อนพุทธศาสนาที่รากฐานให้พังทลายลง นั่นเป็นเรื่องที่ชาวพุทธควรจะได้ตระหนักและใคร่ครวญให้มาก พุทธศาสนาเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย พุทธศาสนาคือความเป็นไทย ความเป็นไทยขาดพุทธศาสนาไม่ได้ เนื่องจากพุทธศาสนาได้หล่อหลอมความเป็นชาติไทยมาคู่กับสถาบันชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ อยากทำอะไรก็ทำไปหากไม่ทำให้ผู้อื่นหรือสังคมเดือดร้อน แต่อย่าหมิ่นชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพียงเพราะหวังแค่หาประโยชน์ใส่ตนเลย
     
  14. โลโป

    โลโป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +1,714
    ในศีลปาติโมกข์ข้อสิบแปด " อนึ่ง ภิกษุใด รับก็ดี ให้รับก็ไม่ดี ทองเงิน หรือยินดีทองเงินอันเขาเก็บไว้ให้ก็ดี, เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์"
    ในศีลปาติโมกข์ข้อสิบเก้า "อนึ่ง ภิกษุใด ถึงความแลกเปลี่ยนด้วยรูปิยะ มีประการต่างๆ เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์"
    ในศีลปาติโมกข์ข้อยี่สิบ " อนึ่ง ภิกษุใดถึงการซื้อและการขายมีประการต่างๆ เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์"

    ศาสนาของพระสมณโคดมคือธรรมและวินัย สิ่งที่ควรปกป้องคือธรรมและวินัยไม่ใช่วัตถุ พุทธศาสนาในเมืองไทยบูชาวัตถุมากกว่าธรรมวินัย พระสงฆ์สอนศีลแต่ตัวพระไม่มีศีล ควรป้องกันรักษาปาติโมกข์มากกว่ารักษาวัตถุ ชาวพุทธสร้างวัตถุเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า ตกใจที่มีคนทำสติกเกอร์พระพุทธเจ้า แต่ไม่ตกใจที่จะให้เงินพระ ไม่ตกใจที่เห็นพระรับเงิน ไม่ตกใจที่เห็นพระใช้จ่ายเงิน ถ้าคนไทยปกป้องธรรมวินัยมากกว่าปกป้องวัตถุศาสนาจะเจริญไม่มีเสื่อม พระศาสนาของพระพุทธเจ้าไม่มีใครทำให้พังทลายลงได้นอกจากลูกศิษย์ของพระตถาคตเอง
     
  15. (-*-)

    (-*-) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,060
    อย่าประมาท เห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย!

    ถ้าเพียงเห็นคนอื่นทำแต่เราไม่ได้ทำ เราก็ไม่จำเป็นต้องไปวิตกวิจารณ์อะไร
    แต่ปัญหาคือ line เด็กๆ เขาเล่นกัน ซึ่งหากปล่อยให้เด็กๆประมาท
    โดยไม่คอยสอดส่องป้องกันให้เขา ต่อไปเขาจะประมาทมากขึ้นและทำผิด/บาปได้มากขึ้น

    วัตถุสัมพันกับใจ .. สัมพันอย่างไร?
    ถ้าคุณคิดว่าทำที่ใจอย่างเดียว งั้นก็ลองตักบาตรด้วยใจ กินข้าวด้วยใจเอานะ

    การทำดี ทำเกินพอดีมันก็อีกเรื่องหนึ่ง .. แต่การปล่อยให้ประมาททำบาป
    แม้เห็นว่าเล็กน้อย มันแย่ยิ่งกว่าเน้อ
     
  16. sron2006

    sron2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,202
    เถียงกันทำมัย มันไม่เหมาะสม ทางด้านความรู้สึกและจิตใจ จบ... มนุษย์ต้องมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ..ถ้ามีใครเอาสิ่งที่เรานับถือเคารพบูชาไปล้อเล่น มันก็ไม่สบายใจใช่มั้ย..
     
  17. theerasak

    theerasak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +161
    คุณนามกาย อาจจะบรรลุธรรมแล้วขั้นใดขั้นหนึ่งแล้วจึงมีจิตใจไม่หวั่นไหวต่อสิ่งกระทบ แต่หลายๆดวงจิตไม่สามารถทิ้งความยึดมั่นได้ ยังข้องเกี่ยวในโลกธรรมอยู่ การกระทำบางอย่างไม่ได้เพื่อตนเองแต่ทำเพื่อ สงเคราะห์ อนุเคราะห์ พระอรหันต์เจ้าที่ยังมีสังขาร ก็ยังต้องสงเคราะห์สัตว์โลกหลาหลายวิธี บางองค์สร้างพระเครื่องเพื่อให้สัตว์โลกเกิด อานิสงส์ผลบุญ เกิดพุทธานุสสติ เกิดพุทธคุณของพระเครื่องในการคุ้มครองธาตุขันธ์ไม่ให้แตกดับก่อนเวลา ยังให้เกิดประโยชน์สร้างบุญได้ต่อไป ผู้ที่ยังไม่บรรลุธรรมได้เป็นผู้ที่ต้องเดินทางอยู่ หลายๆดวงจิตไม่สามารถทำใจได้ต่อการกระทำดังกล่าว องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านเป็นผู้ที่ชี้ทางสว่างเปรียบเสมือนบิดา ลูกๆที่ยังมีกิเลส จึงไม่สามารถทำใจได้ต่อการกระทำดังกล่าวถ้ามีใครมาลดคุณท่านโดยการปรามาส ถ้ามองอีกมุมก็เป็นการหยุดไม่ให้ผู้นั้นทำบาปจากการปรามาสถือว่า สงเคราะห์ อนุเคราะห์ เขาผู้นั้นไม่ให้จมลงไปอีก นีก็เป็นอีกความคิดความเห็นเพราะมีปัญญาเท่านี้ก็เลยเห็นแค่นี้ คงให้อภัยกันนะครับ
     
  18. pim_jai

    pim_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +568
    อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป

    คำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ(พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี เกี่ยวกับอานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป


    การสร้างพระพุทธรูปจัดว่าเป็น พุทธบูชา ถ้าในกรรมฐานจัดว่าเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน (การระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์) ถ้าตายจากคนไปเกิดเป็นเทวดา มีรัศมีกายสว่างไสวมาก


    การสร้างพระถวายด้วยอำนาจพุทธบูชาทำให้มีรัศมีกายมากเป็นคนสวย ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า


    "พุทธะปูชา มะหาเตชะวันโต" แปลว่า "การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชอำนาจมาก"


    การสร้างพระพุทธรูปนี่เป็นพุทธบูชาเป็นพุทธานุสสติในกรรมฐาน ๔๐ กอง ท่านบอกว่ากำลังของพุทธานุสสติเป็นเหตุให้เข้าถึงนิพพานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่ากองอื่นก็เห็นจะจริง เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่ที่นิพพานนี่ และท่านก็เป็นต้นตระกูลของพระนิพพาน ทีนี้เมื่อเราต้องการสร้างพระพุทธรูปให้สวยตามที่เราชอบเห็นแล้วก็ทำให้จิตใจสดชื่น จิตมันก็นึกถึงพระอยู่เสมอ ถ้าจิตนึกถึงพระพุทธรูปองค์นั้นอยู่เสมอก็จัดเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน ถ้าใจเราเกาะพระพุทธเจ้าเป็นปกติ ตายแล้วลงนรกไม่เป็น ฉะนั้นถ้าเราชอบพระแบบไหนปางไหน ก็ให้สร้างอย่างที่เราชอบจิตจะได้เกิดศรัทธา


    หลวงพ่อปานวัดบางนมโคแนะนำว่าควรหันหน้าพระบูชาไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ ไม่ควรหันหน้าพระบูชาไปทางทิศตะวันตก หรือทิศใต้ เพราะจะทำให้สตางค์ไม่เหลือใช้


    ส่วนอานิสงส์การสร้างแท่นพระนั้น ก็มีอานิสงส์เหมือนกับการสร้างพระพุทธรูป คือแท่นพระพุทธรูปเขาบกพร่องอยู่ เราทำให้เต็ม อย่างที่นางวิสาขาหรือพระสิวลีได้เคยทำมาในอดีตชาติ อานิสงส์ไม่ใช่เล็กน้อยนะ อานิสงส์ใหญ่มาก จะเกื้อหนุนให้รวย วาสนาบารมีสูง การสร้างแท่นพระหนุนพระพุทธรูป ซึ่งเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าให้สูงน่ะ จะทำให้ฐานะของเราดีขึ้น


    ครั้งหนึ่งมีญาติโยมถามหลวงพ่อฤาษีลิงดำเรื่องการชำระหนี้สงฆ์ว่าถ้าหากนับรวมหลาย ๆ ชาติเราไม่รู้ว่าเคยล่วงเกินของสงฆ์มามากน้อยเท่าไหร่ จะทำอย่างไรจึงจะชำระหนี้สงฆ์ได้หมด หลวงพ่อท่านกำหนดสมาธิจิตถามพระพุทธเจ้า ก็ปรากฏนิมิตเป็นพระพุทธเจ้าลอยมาตอบคำถามท่านว่า "ถ้าจะชำระให้ครบถ้วนเป็นเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอ ให้สร้างพระพุทธรูปหน้าตัก ๔ ศอก" พระหน้าตัก ๔ ศอก ถือว่าเป็นพระประธานมาตรฐาน ท่านบอกว่า "พระพุทธรูปนี่ไม่มีใครตีราคาได้ ใช้ในการชำระหนี้สงฆ์ หนี้สงฆ์ที่แล้ว ๆ มา ถือเป็นการหมดกันไป" เมื่อถามว่าการสร้างพระองค์หนึ่งชำระหนี้สงฆ์ได้คนเดียวหรือกี่คน ท่านก็บอกว่า "ถ้าไม่ปิดทองได้คนเดียว ถ้าปิดทองครบถ้วนได้ทั้งคณะ" คำว่า "คณะ" หมายความว่าบุคคลหลายคนก็ได้ ตัดบาปเก่าชำระหนี้สงฆ์เก่า ๆ ได้หมด แต่ถ้าสร้างหนี้ใหม่ต่อก็เป็นหนี้ใหม่เหมือนกันนะ


    เวลาถวายสังฆทานเพื่ออุทิศให้แก่ผู้ตาย อย่างน้อยควรมีพระพุทธรูปหน้าตักกว้าง ๕ นิ้วขึ้นไป ผู้ที่อนุโมทนารับบุญรับกุศลจะมีรัศมีกายสว่างมาก เพราะเทวดาหรือพรหมเขาแบ่งฐานะกันตามความสว่างของร่างกาย ไม่ได้ดูที่เครื่องแต่งตัว ถ้ามีผ้าจีวรด้วย ผู้อนุโมทนาจะมีเครื่องประดับสวยงามกว่าเดิม ถ้ามีอาหารด้วย ความเป็นทิพย์ของร่างกายจะดีกว่าเก่า


    อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป นำมาจากหนังสือ "หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๑" โดยพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี จัดทำโดย เจ้าหน้าที่ธัมมวิโมกข์
     
  19. pim_jai

    pim_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +568
    อานิสงส์การหล่อ/สร้างพระพุทธรูป


    ถาม-การหล่อหรือสร้างพระพุทธรูปมีอานิสงส์(บุญกุศล)มากน้อยแค่ไหนคะ?


    ตอบ-


    1)สร้างพระ 1 องค์ ได้อานิสงส์ 5 กัป(หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ)....ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ สร้างด้วยอะไรก็ตาม หมายความว่าบุญกุศลจะตามหนุนส่งท่านไปทุกภพทุกชาตินานถึง 5 กัป........


    2)หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กล่าวว่า"การสร้างสมเด็จองค์ปฐมทำได้ยาก คือ ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมด การสร้างองค์ปฐมนี้ ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่ โดยใช้บัญชีสีทอง เป็นทองคำล้วนทั้งเล่ม จดบันทึก(เป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่จดธรรมดา) ก็แสดงว่า คนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี้ ต้องเป็นคนมีบุญมาก และไปนิพพานได้เร็วมาก" เพราะบัญชีสีทอง หลวงพ่อฯบอกว่า พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต้องโมทนาหมด......


    3)ผู้ใดสร้างรูปพระพุทธเจ้า จะเป็นองค์เล็กเท่าต้นคาก็ดี ใหญ่กว่าต้นคาก็ดี ผู้นั้นจะได้เป็นพรหม เป็นอินทร์ หมื่นชาติแสนชาติ ถ้าเป็นมนุษย์ จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหมื่นชาติ แสนชาติ จะไม่เป็นผู้ตกต่ำเลย ตราบจนกว่าเข้าสู่นิพพาน (หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว).


    4)การสร้างพระ เปรียบได้กับธนาคารบุญ ซึ่งจะเกิดบุญกุศลกับผู้ที่มีส่วนในการสร้าง โดยบุญกุศลนั้น จะเกิดขึ้นทุกครั้ง ที่มีผู้มากราบไหว้ สักการะบูชา เท่ากับจำนวนคน และจำนวนครั้ง (หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา).......


    5)การที่ผู้สร้างพระพุทธรูปได้เกิดศรัทธา จนถึงสละเงินออกมาสร้างพระพุทธรูปได้ และออกมาทำทาน ในงานฉลองพระพุทธรูปได้ ชื่อว่าเป็นผู้มี"ความเห็นตรง เห็นถูกแท้" เพราะเป็นบุญของตนเอง ไม่ใช่บุญของใครเลย ผู้สร้างพระพุทธรูป ชื่อว่า เป็นผู้ไม่ประมาท ชื่อว่า เป็นผู้ได้เตรียมตัวก่อนตาย(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม)


    6)ถวายสังฆทาน 100 ครั้ง อานิสงส์ไม่เท่ากับถวายวิหารทาน 1 ครั้ง......

    https://docs.google.com/document/d/1Tl3XWj42JX2NsQNKff6MMKlU_Veg687sQLaNSMHIJwQ/edit?pli=1
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2014
  20. palati

    palati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +432
    เห็นด้วยกับท่านทุกประการครับ โดยเฉพาะการปรามาสพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ถ้าปล่อยไว้คนที่ทำอย่างนั้นมีแต่จมดิ่งลงนรกกันหมดแน่ๆ

    อนุโมทนาสาธุครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...