สวัสดี java108 ชาวดาวแอสทร้า..

ไปว่าคนนับถือเถรวาท .. แค่นี้ก็ผิดแล้ว
พระฝ่ายเถรวาทมีพระบรรลุถึงอรหัตผลมาต่อเนื่องยาวตราบจนปัจจุบัน
ก็แสดงว่าคำสอนที่ถ่ายทอดยังทันสมัยและมีประจักรพยานได้แก่พระสงฆ์สำเร็จมรรคสำเร็จผล บังเกิดขึ้น

ส่วนฆราวาสใครจะหลงเข้าใจผิดในจุดใดๆ มันก็เป็นบุญเป็นกรรมของเขาๆ เอง
จะไปเหมาได้อย่างไร .. วาสนาบารมีแต่ละคนบำเพ็ญมาไม่เท่ากัน
จะให้ผล จะให้นิสัย เหมือนกัน เท่ากันหมดจะเป็นไปได้อย่างไร

ไปพูดเหมารวมก็กลายเป็นปรามาสผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบท่านอื่นได้
ไม่กลัวบาปกันหรืออย่างไร

 

ซิกมุ่นฟุย เขาเอาภาพอ.เสถียรมาเป็นโลโก้ แต่ใช้ชื่อฟร์อย
มีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ ทุกรูปแบบ
ทั้งศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ โชคลาง ร่างทรง องค์เทพ พระโพธิสัตว์
ยันไปถึงพระศรี พระยาธรรมิก ยุทธจักรเซียวลิ้มยี่ ไปถึงมะนาวต่างดุ๊ด
รู้ไปโหม๊ด...
แค่เรื่อง ทอม ตุ๊ด เกย์ เรื่องกี้ๆ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=5-41tg_CS7s&list=RD5-41tg_CS7s#t=0"]Alan Parsons Project - Eye In The Sky - YouTube[/ame]

 

บล็อคนั้น เห็นมีคนเอาเรื่องราวมาแชร์มาโพส โดนผมถอนพิษไปหลายคนแล้ว มั่วสุดๆ

ว่าแต่ ซิกมุ่นฟุย ซิกมั่นฟรอยด์ อะไรนั่น ใช่คนในนี้หรือป่าว

 

แหงม :boo:
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=ylcHHb93GRo&list=RD5-41tg_CS7s&index=32"]You don't believe - Alan Parsons Project - YouTube[/ame][ame="http://www.youtube.com/watch?v=E4qAM_RYeLU&list=RD5-41tg_CS7s&index=16"][/ame]

 

คนละเรื่องเดียวกันแล้วท่าน วิชาเปลี่ยนอาทิตย์ ที่เรากล่าวถึงนี้นั้นน่ะนะ
เราพูดถึงวิชาที่ฉีจื่อหลิงกับโค่วจง ถ่ายทอดให้ปาฟงหันต่างหากครับ
ตอนที่ปาฟงหันโดนเล่นงานเกือบตาย โดยราชันย์บู๊ (ใช่ไม๊น๊า)

บาดเจ็บสาหัส สูญสิ้นลมปราณ พลังชีวิต และวิชาภายใน โดนทำลายจนหมดสิ้น
ริบหรี่ร่อแร่แล้ว ถึงรอดตาย ก็ต้องกลายเป็นคนไร้วิชาฝีมือ คล้ายคนพิการ

ไม่ได้หมายถึงกุณฑาลินีโยคะนะครับ อย่าเพิ่งมั่ว น้องทรายขอร้อง ๕๕๕

ตอนเราฝึก เราก็ฝึกคนเดียวเหมือนกันครับ แต่โชคดี ที่บังเอิญมากเลย
ก่อนหน้านั้น ก็ได้อ่านคิดถามเขียน เรียนรู้ด้วยตัวเองมาแล้วหลากหลาย
ทั้งจากหนังสือกำลังภายใน เรื่องเซ็นเรื่องเต๋า พอจะมีพื้นฐานแน่นหนาเป็นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กแล้วครับ

โดยเฉพาะเรื่องลมปราณ และการฝึกลมหายใจ ซึ่งอันหลังนี้ฝึกมาตั้งกะสิบขวบล่ะมั้ง นะ
เลยผ่านด่านงูไฟมาได้ เกือบเป็นบ้าแค่ไม่กี่นาทีเองครับ

โดยใช้เทคนิคจากด้านมืด มากระชากใจใฝ่ตัณหา สมาธิแตกซ่าน รอดมาได้แบบฉับพลัน ครับท่าน
แล้วท่านผ่านด่านบ้าบอนั้นมาได้ไง เล่าเทคนิคให้ฟังหน่อยดิ ไว้เป็นกรณีศึกษาเปรียบเทียบ นะ

ส่วนเรื่องงูร้อนกับงูเย็น ตื่นขึ้นมาพร้อมกัน เราแก้ไขด้วยเทคโนโลยี่ของคอมพิวเตอร์ครับ
คือใช้เทคนิค multitasking ทำให้สามารถรันได้ทั้งสองระบบ ภายในวินาทีเดียวกันได้
ก็ต้องใช้สมาธิสูงมากๆ ปราณต้องสมบูรณ์ ที่สำคัญคือยุทธศาสตร์ครับ
ต้องเลือกให้ดี ว่าจะให้มันเกิดขึ้นตอนไหน ที่ไหน เมื่อไหร่ ต้องเตรียมการไว้ก่อนครับ



กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

 

จังซี่ มันต้องเจอซอสถั่วดำ :'(

 

อย่างที่เกิดขึ้นอยู่นี้ก็คือ "ขั้นกวนให้ขุ่น"
สังเกตุ เราจะพบสิ่งที่อยู่ลึกๆ บางอย่าง
ที่ถูกกวนให้ปรากฏขึ้นมา


เราก็จะนำมาวิเคราะห์ได้แล้วว่าเป็นอะไร?


เช่น ทัศนคติที่มีต่อกาม, เรื่องเพศ เป็นต้น
เราจะเห็นความเป็นบวกเป็นลบต่างๆ ได้ชัด
สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าใจชิพเหล่านั้นได้
มากยิ่งขึ้น บางทีเราก็จะเห็นชิพบางตัวที่จะ
เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองด้วย ใช่มั้ย? เช่น
ความเป็นบวกเป็นลบต่อ "เสื้อแดง" อะไรๆ
แบบนั้น


ช่วงนี้ เราจะยังไม่เอาชิพออก แต่ต้องศึกษา
มันให้ชัดขึ้นก่อน เพราะบางทีมันอาจจะไม่ได้
ต้นตอของมัน เหมือนเราถอนหญ้า ได้แต่ใบ
แต่ต้นและรากยังไม่ออกมาแบบนั้น ดังนั้น จึง
ยังไม่รีบถอนออกเร็วเกินไป

 

"ขีดจำกัดในการรับและการเเรียนรู้"

อันนี้จะแก้ด้วยเทคนิคการสอนแบบใหม่ๆ และสื่อการสอนที่พัฒนามาใช้เฉพาะกับอัตตาแบบต่างๆ ได้ไหมครับท่าน

จะแก้ ก็แก้ที่ต้นเหตุ ต้นเหตุไม่ได้อยู่นอกตัว แต่อยู่ที่ตัวเขาเอง

เรื่องพระรับพิษธรรมะ

นี่น่าสนใจนะ ถึงว่าสิ เห็นพระบางรูปแล้วน่าแปลกใจมาก ทำไปด้ายยย

มีหลายท่านยังไม่แสดงอาการก็มีครับ เก็บอาการดี พิษก็ลงระดับลึก

การใช้พิษล้างพิษ

ฟังดูเหมือนยาก แต่หลักการและวิธีปฏิบัติไม่ค่อยซับซ้อนวุ่นวาย หรือยากเย็นนัก
มันยากตรงคนไข้ดื้อด้าน อัตตาสูง ต้องใช้เวลาแยะ และค่าความล้มเหลวสูง ไม่ค่อยคุ้มค่ากับการลงทุนเท่าไหร่ นะ

อย่างแรกเราต้องมีปราณพิษก่อน จึงใช้พิษล้างพิษได้ ถ้าไม่มี ก็จบ

รับธรรมเท่านี้แล้วปฏิบัติให้มาก

อืม...อันนี้ไม่เคยคิดถึงเลยแฮะ รับแต่น้อย เลือกรับก่อน เฉพาะอันที่ตัวเองรับได้
พิจารณาก่อนแล้ว ว่ารับไปแล้ว พอจะปฏิบัติให้เกิดผลได้จริงก่อน ค่อยๆ กระดื๊บไปทีละน้อย น่าสนน่าสน
ไม่ต้องรีบขนขวนขวาย แบกใส่ไหล่บ่า
บ้าบอคอแตก แล้วเที่ยวแหกปาก แดกดันกันมั่ว ๕๕๕

เรียกว่า "พิสูจน์ให้เห็นผลจริงก่อน" แล้วค่อยรับเพิ่ม

ไม่มีไรมาก ไม่ต้องคิดมากนะครับ ไม่มีอะไรจะทำก็เม้าท์ๆ ไปอย่างนั้นแหละคับ

มีไรตั้งมาก ต้องคิดให้มากนะครับ มีอะไรก็ไม่อยากไปทำ อยากนั่งเม้าท์แบบเนี้ยหละครับ หึหึหึ


อ่านเยอะ แต่ไม่โดนพิษ ก็เหมือนต้วนอี้ที่ไม่โดนพิษ แบบนี้มีไม่กี่คน

 

เจ๊ปุณฑ์ ลองปล่อยให้เค้าสองคนคุยกัน ดูจะถูกคอกันดี ^^

ส่วนแอสทร้าด้า108 ช่วยล่วย อะไรนั่น จะร่วมแจมเป็นก้างขวางคอ ก็ปล่อยเค้าไป

ตอนนี้ปล่อยเค้าไปสองต่อสอง จู๊จี๊ สุขกันให้พอใจ ^^

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/wnff0JufZXk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​

 

บางครั้ง ปราณพิษอาจเป็นพลังที่ซ่อนอยู่แต่ดึงออกมาใช้ไม่ได้?


บางคนมีปราณพิษในตัว เมื่อรับพลังพิษเข้าไปแล้ว จึงไม่เป็นอันตราย
ท่านก็สามารถใช้ปราณพิษในตัวนั้น ออกมาแก้พิษให้คนอื่นได้เช่นกัน!
วิธีการคือ ต้องกระตุ้นให้พลังปราณพิษที่ถูกกักเก็บไว้นั้นถูกปลดปล่อย
ออกมาก่อน เหมือนลมปราณพิเศษหลายชนิดที่ต้องถูกกระตุ้นจึงแสดง
ตัวออกมา ถ้าไม่ถูกกระตุ้น มันก็ไม่ออกมา เมื่อไม่ออกมา ก็คิดว่าไม่มี?
ถ้าจะล้างพิษให้คนอื่น ก็ต้องใช้ปราณพิษในตัว ของตัวเอง ขับออกมา
เพื่อล้างพิษ ซึ่งไม่ใช่ของง่าย เพราะต้องใช้ "เทคนิกการวางยา" ร่วม
ด้วย ถ้าวางยาไม่เป็นคนไข้ไม่กินยา พิษก็ไม่เข้าสู่ร่างก็ล้างพิษเดิมไม่
ได้ ดังนั้น เทคนิกการวางยาจึงสำคัญไม่ต่างกับกระบวนท่าในวิชากระบี่


แต่อย่างแรกต้องกระตุ้นพลังปราณพิษที่ซ่อนอยู่ให้ออกมาใช้ให้ได้ก่อน

 

ตัวอย่างการใช้ปราณพิษ


ให้ลองอ่านกระทู้ของคนที่ชื่อ "บุญยง โคกกระทา" ดู
ช่วงเริ่มต้น ปราณพิษเขาเยอะมาก ดูยุ่งเหยิงสับสนไป
หมด จับอะไรไม่ได้เลย เหมือนพวกควันพิษไม่มีตัวตน
ต่อมา เขาขับพลังปราณพิษออกด้วยพลังธาตุไฟจนได้
ความสว่างไสว อธิบายเรื่องรูปนามได้ละเอียดยิบ ชนิด
ซ้อนไปซ้อนมา ก็เห็นได้หมด (ตอนนี้ก็หมดพิษสงละ)


นี่คือ ตัวอย่างการปลดปล่อยพลังปราณพิษ ลองดูครับ

 

ซิกมุ่นฟุย นิสัยอ่อนโยนสุภาพกว่ามาก ความรู้กว้างขวางไปทุกเรื่อง
แต่ก็ชอบคล้ายๆ จาวา คือเหนือมนุษย์ เป็นมะนาวเป็นอะไรก็ได้ที่เหนือมนุษย์ มีภาพของความสูงส่งกว่ามนุษย์ มาช่วยมนุษย์
..
ส่วนจาวา ชอบมาทำเก่ง.. คล้ายๆ จ.อุบลช่วยด้วย คือมีอำนาจช่วยคนได้ คือให้เพ่งชื่อตนแล้วทำสมาธิประมาณนั้น(แล้วคุณจะพบว่าคุณมาเกิดนี่มีหน้าที่อะไร..ประมาณนั้น..) แต่ส่วนใหญ่ท่าจะเก็บอารมณ์ไม่ได้เลยชอบทำร้ายมนุษย์มากกว่า พอใครไม่ถูกใจนี่กล่าวหาเขาไม่เลิก การสื่อสารไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ชอบข่มขู่จะสั่งสอนเขาโดยส่งโน่นนี่นั่นไปทำร้าย คล้ายๆดัชเชสเลยนะเนี่ย..
ภารกิจของจาวา คือมายกระดับจิตมนุษย์(ตามที่อ้าง) เลยทะเลาะกะมนุษย์เป็นส่วนใหญ่​

 

​

 

ไหนล่ะพลัง อยากเจอมั๊กๆ อยากดูดพลัง ส่งมาหน่อยเร้วว

 

:VO ยังไม่ได้ว่ารู้จริง แต่ว่ารู้ไปโหม๊ด เงิบเรื่องไร เรื่องซิกมุ่นฟุย หรือจาวา

 

ต้องบอกว่า พวกเข้ามากระทู้นี้ ไม่อุปทานหมู่มากกว่า
เลยต้องพิสูจน์ของจริง กันหน่อย
ว่าไอ้ที่ชอบมาข่มขู่น่ะ ส่งนั่นนี่มาอ่ะ จริงเปล่า...
ส่วนใครชอบใส่ร้ายใคร อันนี้ก็เห็นๆกันเองอ่ะจ๊ะ

 

​

 

มีมุกมาเรื่อยๆนะเนี่ย คราวนี้ต้องใช้ความสามารถของผู้รับ.. -Happy Smile_

 

ว่าแล้วเชียวต้องมาแนวนี้

นี่เค้าเรียกว่า พลังยังไม่ถึงปลายสะกิด ผมถึงไม่รู้สึกอะไรเลย ฮ่วยมั๊กๆ

ไม่มีอะไรให้ดูดเลย ถ้าเปรียบเหมือนน้ำ ก็แค่อยู่ก้นแก้ว จิ๊ดเดียว

โว๊ะ...ลูกก้ง ลูกแก้ว อยากเจอดราก้อนบอล พลังคลื่นเต่าน่ะมีมั้ย

อ้ายขี้โม้

 

เอ๊ะ..ไม่แปลกหลังจากส่งข้อความไป ทำไมผมถึงรู้สึกร้อนจัง ไม่แปลกแฮะ