ขอคำแนะนำการนั่งสมาธิของเด็ก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ดานัง, 13 กรกฎาคม 2014.

  1. ดานัง

    ดานัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2013
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +110
    ลูกสาวอายุ 12 ปีค่ะ เล่าให้ฟังว่าคุณครูให้นั่งสมาธิ แล้วรู้สึกว่าเหมือนมีน้ำวิ่งวนในตัวหนู ลูกสาวบอกว่าเวลานั่งไม่ได้คิดอะไรเลย เงียบสงบดี ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้จะแนะนำให้ลูกสาวทำอย่างไรต่อค่ะ ภาวนาพุทโธไปเรื่อย ๆ หรือให้นึกถึงพระพุทธดี แกบอกว่า "กลัวซิแม่"
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ไม่ต้องทำอะไร แต่ละคน บำเพ็ญ สร้างสมมาไม่เหมือนกัน

    ภาวนาพุทโธ ไปตามเดิมครับ

    อาการทางกาย อารมณ์ต่างๆที่เจอตอนปฏิบัติ ไม่ต้องไปสนใจครับ

    จิตเป็นสมาธิ จิตเข้าสมาธิ เมื่อไหร่ อาการก็จะหายไปเองครับ
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    อาจะยาวหน่อยนะครับ ยังไงลองอ่านดูก่อนนะครับ
    ต้องยอมอย่างหนึ่งว่า..พัฒนาการของเด็กสมัยนี้ต้องจะมีการพูดให้เห็น
    ถึงเหตุถึงผลจนเด็กยอมรับได้.ถึงเหตุที่เราเล่าให้ฟัง และการจะสอน
    ก็มิใช่เรื่องยากแต่ต้องมีหลักการดังนี้
    ๑.อุบายในการอ้างอิงที่เหมาะสม
    ๒.การพูดเพื่อให้เด็กเห็นประโยชน์
    ที่จะนำมาใช้ในชีวิตประจำวันเค้าได้จริง.

    ๓.และน้อมนำให้เด็กเกิดความสนใจไปอ่าน ไปฟัง ไปศึกษา
    เพิ่มเติมด้วยตนเองต่อไป.ถึงจะทำให้เด็กเห็นว่าการนั่งสมาธิ
    สามารถเกิดกิริยาอย่างนี้ได้จริงๆและ

    ๔.สามารถนำมาปรับใช้ให้เกิด
    ประโยชน์กับตัวเองได้จริงๆกับสภาพแวดล้อมที่เด็ก
    ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นๆที่ทำให้เห็นความแตกต่าง
    ที่มีประโยชน์กว่าคนทั่วไป...

    และ๕.วิธีการแนะนำให้อยู่ร่วมกับสังคม
    ได้อย่างแยบยล.ก็ต้องมาสอนเด็กร่วมด้วยอีกทีครับ.


    เพื่อไม่เกิดความรู้สึกว่าตัวเด็กเอง กลายเป็นคนที่แตกต่าง
    ในสภาพสังคมของเค้า ไม่งั้นจะกลายเป็นเด็กที่จะค่อยๆ
    แยกตัวของสังคม และกลายเป็นปัญหาต่อไปได้ในอนาคตครับ
    ที่เล่ามาเป็นหลักการทั่วๆไปครับ ถ้ายังนึกไม่ออกเด่วจะยกตัวอย่าง
    ประกอบให้ดูเป็นแนวทางต่อไป.เด่วเข้าหลักการไหน
    จะอ้างอิงหัวข้อไว้ให้นะครับในตัวอย่าง.

    .
    เพิ่มเติมคือกิริยาที่เกี่ยวข้องกับทางกายจากผล
    ของจิตที่สงบที่เกิดขึ้นกับตัวเค้านี้.ควรระวังการสือสาร..
    จะไปใช้คำพูดเหมือนนักปฏิบัติทั่วๆไปคงยาก เช่น กำหนดรู้อย่างเดียว
    มีสติระลึกรู้อย่างเดียว หรือจิตรู้ทัน จิตเป็นทิพย์นะ เด่วคุณแม่คงจะต้องมานั่งอธิบายอีก
    ว่าจิตคืออะไร สติคืออะไร กำหนดรู้คืออะไร จิตเป็นทิพย์คืออะไร ๕๕๕
    และจะไปบอกว่าไม่มีอะไรหรือแค่อาการหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ทางสมาธิ
    หรือบอกว่านั่งๆไปเหอะหรือแม้กระทั่งไปกล่าวว่าคิดมากไป
    หรือแม้ไปหลอกเด็กเหมือนผู้ใหญ่สมัยก่อนชอบทำ
    อย่างนี้ก็คงจะไม่เหมาะด้วยครับ..

    เด็กบอกว่าเป็นน้ำเพราะว่าความรู้สึกที่สัมผัสที่ได้และสัญญา
    ความจำได้ในจิตของเค้า
    เป็นอย่างนั้นซึ่งมันก็คล้ายคลึงกับน้ำหมุนจริงๆนั่นหละครับ..
    แต่ก็เป็นอาการปิติอย่างหนึ่ง.ในหลายๆอย่างที่จะเกิดขึ้นในระหว่าง
    ที่นั่งสมาธิได้นอกจากคล้ายๆอะไรมาหมุนทั้งตัว
    บางครั้งอาจเหมือนเหาะได้ในแนว
    ขนานกับตัวเหมือนๆมีคนมายกตัว ถ้านอนก็แนวราบ
    คล้ายเหาะได้(ขนานกับตัวอยู่ดี)
    และขนลุกตามตัวบ้าง มีคล้ายๆแมลงมาไต่ตามหน้า
    ตามตัวบ้าง ตัวโยก ตัวขยาย ตัวพอง ตัวใหญ่..
    และถ้าต่อไปเด็กจะมีอะไร
    พิเศษมากกว่าคนทั่วไปต่อไปในอนาคต
    จะเจอเหตุการณ์แบบมีอะไรมาดูดเด็กลงไปในพื้นด้วยครับ
    หรือจะมีความสามารถเห็นเรื่องนามธรรมต่างๆได้ด้วยตาเปล่า
    เพื่อที่เป้าหมายจะทำให้เด็กกลัวและเลิกนั่งไปเลย

    ยกตัวอย่างการสอนนะครับ.อ่านๆไว้เป็นแนวทางดูครับ..
    เช่น.อย่างเด็กถามว่าอาการคล้ายๆน้ำหมุน
    ตอนนั่งสมาธิมันคืออะไรคะ อาจบอกว่า มันเป็นกิริยาอย่างหนึ่ง
    คะที่สามารถเกิดขึ้นได้สำหรับทุกคนที่นั่งสมาธิคะอาการของลูก
    เนี่ยเค้ามีชื่อเรียกว่า ปิติคะ สมัยก่อนนะลูก
    ที่พระพุทธฯ[๑] หรือ ครูบาร์อาจารย์ต่างๆ[๒]ท่านเริ่มนั่งก็จะเกิดอาการ
    อย่างที่ลูกเป็นตอนนี้เกือบทุกๆท่าน..[๓]แม่คุ้นๆว่าอาการที่เป็นตอนนี้นะ
    เป็นหนึ่งในหลายๆอาการที่พระฯ ท่านเคยเขียนเป็นตำราไว้ด้วย
    ซึ่งตามตำราเค้าบอกว่า.ให้ปล่อยไปเลยไม่ต้องสนใจคะ.[๓].แล้วจะผ่านจุด
    นี้ไปได้..บางคนเค้าก็เรียกว่าเป็นมารมาขวางคะ จะเข้ามาขวางคน
    ที่ชอบนั่งสมาธิทุกคนเพื่อให้เลิกนั่งคะ...


    ถ้าลูกไม่สนใจหรือเจออาการตามที่พระฯท่านเขียนไว้อีกนะ ก็ให้ปล่อย
    ไปเลยคะ..จะทำให้หนู กลายเป็นคนที่ความจำดีขึ้นคะ[๔] จะทำให้หนู่เรียน
    หนังสือเก่งขึ้นด้วย.[๔].บางครั้งจะทำให้หนูสามารถได้ยินเสียงต่างๆได้ชัด
    ยิ่งขึ้นด้วยคะ เวลาคุณครูสอน หรือใครพูดอะไรให้ฟังก็ตาม [๔]ก็จะทำให้หนู
    สามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้นกว่าคนทั่วๆไปได้ด้วยนะ..[๔]แต่ถ้าหนูไปโรงเรียน
    ไม่จำเป็นต้องไปพูดกับเพื่อนนะคะ..เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเด็กๆและวัยรุ่น
    จะไม่ค่อยสนใจเท่าไร..[๕]เด่วเพื่อนๆหนูเค้าจะงงนะคะ ว่าหนูพูดว่าอะไร
    นอกจากจะมีเพื่อนมาถามว่า ทำไมหนูถึงเรียนเก่ง ความจำดีจังเลยถึง
    บอกเค้านะว่าหนูฝึกสมาธิคะ.[๕].

    และต่อไปถ้าเด็กเกิดเห็นนามธรรมต่างๆได้.[๒,๓].ก็บอกไปว่าแสดงว่าหนูเป็น
    คนมีบุญมากนะคะ ที่เห็นได้ บางคนเกิดมายังไม่เคยเลย บางคนฝึกสมาธิ
    เป็นสิบปีก็ยังไม่เคยเห็นเลยคะ..แสดงว่าสามารถที่จะทำบุญให้สิ่งที่เห็นได้
    (โน้มให้ไปอ่านการอุทิศบุญอีก)[๓] ตามตำราบอกไว้ว่า คนที่เห็นได้ ทำบุญ
    ให้นามธรรมบ่อยๆ ไปไหน [๔]ก็จะมีแต่คนเมตตา มีแต่คนชอบนะคะ
    หนูก็จะเป็นที่รักของคนทั่วๆไป.และกับญาตๆด้วยนะ..[๕]
    และไปไหนก็ไม่มีคนคิดจะทำอันตรายหนูด้วยคะ

    ปล.พอเห็นภาพและแนวทางไหมครับ..
    .

    .
     
  4. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    ลูกสาวอายุ 12 ปีค่ะ เล่าให้ฟังว่าคุณครูให้นั่งสมาธิ แล้วรู้สึกว่าเหมือนมีน้ำวิ่งวนในตัวหนู ลูกสาวบอกว่าเวลานั่งไม่ได้คิดอะไรเลย เงียบสงบดี

    +++ ให้ทราบไว้ก่อนว่า อาการที่ "เกิดขึ้นเอง เป็นมาเอง โดยไม่ได้คิด" นั้น คือ "อาการที่เกิดขึ้นจริง" การฝึก กรรมฐาน นั้นหัวใจของมันคือ "การฝึกและอยู่กับความเป็นจริง"
    +++ และโดยที่ลูกคุณบอกว่า "เวลานั่งไม่ได้คิดอะไรเลย เงียบสงบดี" ตรงนี้คือ อาการที่ผ่าน "ฌาน" ตามธรรมชาติของจิต ซึ่งมีได้ในทุกคน

    +++ การพูดคุยกับเด็กนั้น ควรทราบไว้ก่อนว่า "เด็กใช้การ เล่น เป็นการเรียนรู้" และการแนะนำในการ เล่น นั้น จะไม่มีการอธิบายอะไรจนเกินควร เพราะจะสร้างความ "สับสน" ให้แก่เด็ก
    +++ ควรใช้ "ภาษาที่เรียบง่าย" หรือ "ใช้ภาษาของเด็ก" และแนะนำแบบ สเตป ต่อ สเตป เท่านั้น หากเกิดผลลัพธ์ที่ต่อเนื่องออกมา "ให้เด็กเป็นผู้เล่า ส่วนผู้ใหญ่เป็นผู้ฟังที่ดี"

    ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้จะแนะนำให้ลูกสาวทำอย่างไรต่อค่ะ ภาวนาพุทโธไปเรื่อย ๆ หรือให้นึกถึงพระพุทธดี แกบอกว่า "กลัวซิแม่"

    +++ บอกให้เด็ก "ลองเล่น" กับ "ความรู้สึกตัว" เช่น "ลองให้มัน หมุนทางซ้าย" "ลองให้มัน หมุนทางขวา" "ให้มันไหลขึ้น ไหลลง" และ "ลองให้มันหยุดหมุน และสงบตัวเหมือนน้ำนิ่ง" ต่าง ๆ เป็นต้น (พื้นฐานที่สำคัญในการ ฝึกตน อยู่ที่ตรงนี้) หากเด็กทำความเข้าใจกับมันจน "สิ้นสงสัย" (รู้แจ้ง) เมื่อไร วิวัฒนาการทางกรรมฐานของเด็ก จะพัฒนาตนเองขึ้นสู่ระดับสูงกว่าขึ้นไปโดยไม่ถอยกลับมาอีก

    +++ สำหรับ ตัวคุณเอง หากสงสัยในเรื่อง "พลังงาน และ การบังคับพลังงานในร่างกาย" และต้องการ "ศึกษาเพิ่มเติม" ก็แนะนำให้มาศึกษาค้นคว้าต่อได้ในกระทู้ที่ผมสอนกรรมฐานอยู่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีเรื่องที่เกี่ยวพันกับ "ความรู้สึกตัว" ที่มีสภาพดั่ง ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ และอื่น ๆ รวมอยู่ในนั้น ดังนั้น "อาการที่เกิดขึ้นกับลูกของคุณ" เป็นบทฝึก "ที่ทุกคนต้องผ่านในกระทู้ที่ผมเขียนอยู่"

    +++ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาการที่เกิดขึ้นกับลูกของคุณนั้น จัดอยู่ใน สติระดับ 3. "กำหนดรู้" เป็นอาการของผู้ที่รู้จักอาการของ "ความรู้สึกทั้งตัว" ได้แล้ว

    +++ ยามใดที่ลูกคุณ "เล่นกับความรู้สึกตัวจนชำนาญ" (ตรงนี้เป็นเรื่องจำเป็น) และยามใดที่ "ทำให้มันหยุดหมุน และสงบตัวเหมือนน้ำนิ่ง" ตรงนั้นคือได้มาซึ่ง "ความรู้สึกทั้งตัว" ซึ่งเป็นอาการของ "สัมปชัญญะแบบเต็มตัว" ตรงนี้คืออาการของ "สติที่เป็นสมาธิ" หากคุณต้องการค้นคว้าเพิ่มเติม ก็ให้กดลิ้งค์เข้ามาใน กระทู้การฝึก ที่ผมเขียนอยู่ได้ที่

    http://palungjit.org/posts/8438819
     
  5. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    การทำสมาธิ นิมิตมันมีสภาพไม่เที่ยง มันก็เปลี่ยนไป และ ก็มีสิ่งใหม่เกิดขึ้นมาให้พิจารณานิมิตอย่าไปสนใจมัน ดูเฉยๆ เมื่อเข้าไปรู้แล้วก็ให้ละความเป็นเรา
    มันเป็นเพียงเท่านี้จริง ๆ ความเป็นตัวตนแท้จริงแล้วความเป็นตัวตนไม่มี
    มันเป็นแค่ความว่างที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง
     
  6. alale

    alale เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +131
    ธรรมธานี มีอบรม คอร์สวันเดียวสำหรับเด็กอยู่บ่อยๆ ลองหาข้อมูลดู ถ้าดูช่อง3 จะเห็นตัววิ่งล่างจอบอกวันเวลาอยู่บ่อยๆ เริ่มแรก หาที่ ที่แนะนำได้เป็นเรื่องเป็นราวดีกว่าครับ
     
  7. nussuw

    nussuw Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +52
    เพิ่มเติมค่ะ ทางช่องสาม มีรายการธรรมในใจ เช้าประมาณตีห้าวันเสาร์ (อาจเช้ากว่านี้) เวลาออกอากาศน้อย ถ้าสนใจตามนี้นะคะ
    ThaiDhamma - หน้าหลัก
    http://www.thaidhamma.net/images/stories/Documents/childrenschedule2557.jpg
    ควรส่งเสริม ขออนุโมทนาค่ะ
     
  8. ดานัง

    ดานัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2013
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +110
    ขอบคุณทุกคำแนะนำค่ะ ดิฉันจะอ่านอย่างดีก่อนค่อยคุยกับลูก ตัวดิฉันเองก็จะนั่งสมาธิเป็นประจำ แต่ไม่มีภูมิรู้เพียงพอจะบอกลูก ที่บ้าน ลูกก็ไม่เคยนั่งแต่ไปนั่งที่โรงเรียน ธรรมดาก็ไม่ได้มีแววจะสมาธิดีเลย พอลูกเล่าให้ฟังก็บอกลูกแต่ว่าดีมากค่ะลูกนั่งต่อไปนะ แต่แกบอกกลัวนี้สิก็เลยต้องมาขอคำแนะนำจากท่านผู้รู้ในนี้

    ขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้ง มีคำแนะนำเพิ่มเติมก็ยินดีนะคะ
     
  9. ดานัง

    ดานัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2013
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +110
    เคยชวนไปเข้าอบรมธรรมะปฎิบัติธรรมด้วยกัน ก็ไม่ยอมไปแต่ชวนไปอบรมกับท่าน ว วชิรเมธีบอกว่าจะไปค่ะ
     
  10. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    คุณดานัง ระยะที่ผมทรงฌานลึก
    จิตจะสัมผัส ท่าน ว วชิรเมธี ได้อยู่สองสามครั้ง

    องค์นี้เป็นพระโพธิสัตว์ ท่านปรารถนาพระพุทธภูมิ

    ล่าสุดจัดแจง เรื่องงานศพของแม่เพือน
    ญาติที่มาร่วมงาน มาเล่าให้ฟังว่า ท่าน ว วชิรเมธี ไปอเมริกา
    แล้วไปพักบ้านญาติที่อเมริกา แกตื่นเต้น ไม่รู้จะรับรอง
    ท่าน ว วชิรเมธี อย่างไงโทรมาหา อาโกเล็กที่เมืองไทย

    ระล่ำระลักด้วยความดีใจบอกแต่ว่า มีพระมาพักที่บ้าน จะต้องทำอย่างไงบ้าง
    อาโกเล็ก ก็เลยถามพระมหานิกาย หรือ ธรรมยุท

    ไม่รู้รู้แต่ว่า เป็นท่าน ท่าน ว วชิรเมธี จะมาพักที่บ้าน
    อาโกเล็กก็เลยบอกให้จัดหาที่พักให้ท่าน

    ผมฟังอาโกเล็กเล่าจบ รู้สึกได้ว่าเหมือนสื่อทางจิต
    กับท่าน ว วชิรเมธี ได้ (คุยกันทงจิต)
     
  11. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    ลูกคุณน่าจะเป็นคนที่ฝึกธรรมกายมาเกิดนะคะ
    เพราะอาการที่เห็นเป็นน้ำวนๆในตัว เป็นการชำระธาตุธรรมของพวกที่ได้วิชชาธรรมกาย
    น่าจะพาเด็กไปฝึกวิชชาธรรมกายที่วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ราชบุรี ของเก่าจะกลับมา
     
  12. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    คุณดานัง ดูเคสนี้นะแล้วไม่ต้องกลัว เพราะผมก็เคยกลัวแล้วก็ผ่านความกลัวมาได้ เห็นใจคนที่ปฏิบัติตามหลัง

    เป็นเรื่องระหว่างลูกขอคำปรึกษา กับ คุณแม่

    ผมมีอาการคันตามตัวไปหมด จึงไปถามคุณแม่ คุณแม่ก็บอกว่าเดี๋ยวนิมิตมันก็เปลี่ยนไป และ ก็มีสิ่งใหม่เกิดขึ้นมาให้พิจารณา วันหน้าผมก็กลับไปนั่งใหม่อีกนั่งอยู่ที่บ้าน เวลา 2 ทุ่มก็มีอาการคันยุบยิบๆตามมา ผมก็นั่งดูนั่งทนเอา จนอาการคันก็หายไป ปรากฏเป็นน้ำลายไหล ขี้มูกขี้ตาออกมา เลอะเทอะไหลเป็นทาง ก็กลัวว่าเสื้อผ้าจะสกปก ก็ลืมตาขึ้นดูก็ไม่เห็นคราบสกปกอะไรเลย ของน้ำลาย เมื่อหลับอีกก็สักครู่ครู่เดียว ก็มีน้ำตาน้ำลายไหลมามากมายไม่ขาดสาย จนท่วมเนื้อท้วมตัว เกิดสติตามทันคุณแม่เราสอนว่านิมิตอย่าไปสนใจมัน ดูเฉยๆ จากน้ำที่นิ่งก็กลายเป็นน้ำวน ตัวผู้นั่งสมาธิอยู่ก็หมุนไปตามเกรียวน้ำ และ น้ำก็รวมตัวเป็นลูกแก้วใสสะอาด อยู่ๆลูกแก้วก็หมุนติ้วๆ แปรสภาพเป็นพระพุทธรูปแก้วสีขาวบริสุทธิ์ ก็ดูอยู่สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดในใจกลางร่างกายของผมเองในขณะปฏิบัติบำเพ็ญเพียรทางจิต จากนั้นพระแก้วสีขาวใสบริสุทธิ์ ก็คืนสังสภาพเป็นพระผู้เฒ่าไม่ว่าจะดูอย่างไรก็เห็นพระแก่หลังค่อมนั่งสมาธิอยู่ในร่างของข้าพเจ้า ถอนสมาธิแล้วก็ไปเล่าให้คุณพ่อฟัง คุณพ่อครับผมเห็นพระแก่นั่งอยู่ในตัวขณะทำสมาธิ คุณพ่อก็ให้คำตอบผมไม่ได้ คุณพ่อว่าลักษณะนี้ท่านไม่เคยเป็นมาก่อน ยิ่งเพิ่มความสงสัยเข้าไปอีกผมบอกกับตัวเองในใจว่า ต้องหาคำตอบให้กับตัวเองให้ได้ ในเช้าวันใหม่เมื่อไปทำบุญที่วัดเขาเจริญธรรม ก็ ไปเจอป้าเป้าที่รู้จักเอาหนังสือสวดมนต์มาให้อ่านเล่น ก็เปิดไปพบรูปพระแก่หลังค่อมที่อยู่ในตัวนั่งสมาธิอยู่ในท้องของเรา ก็ถามป้าเป้าพระแก่องค์นี้เป็นใคร ป้าเป้าที่อยู่วัดเขาเจริญธรรมก็บอก ว่าหลวงปู่ทวดองค์นี้แหละจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ใหม่
    (พระศรีอริยเมตไตย์พุทธเจ้า)
    ป้าเป้า พูดจบลง ผมปีติจนแทบตัวลอยมีความสุขขนลุกขนชันไปทั้งตัว​
     
  13. ดานัง

    ดานัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2013
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +110
    เช้านี้คุยกะลูกและให้เล่าให้ฟังอีกครั้ง กลายเป็นว่าไม่ใช่น้ำหมุนในตัวหนูแต่เป็นรอบๆตัว เหมือนวุ้นที่ห่อหุ้มใข่แดงไว้นะ เหมือนอยู่ใต้น้ำแล้วน้ำไหลผ่านตัวประมาณนั้น เธอว่าเป็นบ่อย

    ดิฉันถามว่า แล้วหนูกลัวหรือลูก เธอบอกว่าไม่กลัวหรอกแม่ แต่อยากรู้มากกว่าว่ามันคืออะไร แล้วจะนั่งต่อไหมลูก เธอว่านั่งต่อหนูต้องรู้ให้ได้ว่ามันคืออะไร เพราะบางครั้งนอนอยู่นิ่ง ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในน้ำแต่ไม่อึดอัดหายใจปกติดี

    ก็เลยสอนต่อว่า การนั่งสมาธิเนี่ยได้ประโยชน์หลายอย่าง อย่างแรกก็คือได้บุญมากเพราะเราได้ฝึกใจไม่ต้องคิดวิตกกังวลอะไรในขณะนั่ง นั่งไปเรื่อยๆเราก็ตัดทุกข์ได้ ทำให้เราใจเย็น ทำให้เรามีสมาธิในการเรียนด้วย เลยถามว่านั่งสมาธิก่อนเรียนแล้วเวลาเรียนมีสมาธิดีไหม ไม่เห็นมีเลยแม่ 555 เฮ้อ!
     
  14. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    เป็นที่น่ายินดีและอนุโมทนาที่คุณครูได้ให้เด็กๆได้ฝึกสมาธิในโรงเรียน เวลานั่งลูกไม่คิดอะไรก็ดีแล้วค่ะ(คิดก็ดี ไม่คิดก็ดี) แถมมีความสงบอีกต่างหากซึ่งหาไม่ได้ง่ายนักในหมู่ผู้ปฏิบัติใหม่ๆ

    ที่ลูกบอกว่าเหมือนมีน้ำวิ่งวนในตัวหนู ก็บอกลูกไปเลยนะคะ ว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องไปสนใจ ถ้าภาวนา"พุทโธ"อยู่ก็ให้ลูกภาวนาต่อไป ถ้าลูกดูลมหายใจอยู่ก็ดูลมต่อไป

    บอกลูกว่าอาการต่างๆที่เกิดขึ้นและสัมผัสได้ ผู้ที่นั่งสมาธิใหม่ๆต้องพบเจอทั้งนั้น เปรียบเสมือนการเดินทางกว่าจะถึงจุดหมาย เราต้องผ่านสถานที่หรือสิ่งต่างๆมากมาย ไม่ใช่สิ่งผิดปกติ และไม่มีอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น
    ฝากอนุโมทนาไปยังลูกของคุณด้วยนะคะ

    (คำตอบนี้เป็นเพียงความคิดเห็นเท่านั้นค่ะ ไม่ใช่ผู้รู้แต่ประการใด เพียงชื่นชมและยินดีที่ลูกคุณได้นั่งสมาธิตั้งแต่เด็กๆ อยากมาให้กำลังใจให้ปฏิบัติต่อค่ะ)
     
  15. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    สาธุค่ะ
    บางสิ่งบางอย่างต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม การนั่งสมาธิก็เช่นกันค่ะ เราทำไปแบบไม่คาดหวัง ทำสบายๆ วางจิตวางใจ ให้นุ่มๆ เบาๆ ฟูๆ นั่งก็ให้อยู่ในท่าที่สบายๆ เรื่องจะได้อะไร หรือไม่ได้อะไร ก็ไม่ต้องไปคิด พอถึงเวลาก็ได้เองมาเอง เสมือนหนึ่งเราหมั่นสร้างเหตุให้สมบูรณ์ อย่างมะม่วงเมื่อถึงกาลเวลาอันเหมาะสมมันก็แก่เอง สุกเอง อุปมาว่าเรามีมะม่วงผลเล็กๆอ่อนๆ จะบ่มอย่างไรก็ไม่สามารถให้สุกมีรสหวานได้ทันใจ การฝึกสมาธิก็เช่นกันค่ะ
    อนุโมทนากับหนูน้อยและคุณแม่นะคะ
     
  16. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ นี่เป็นอาการของ "ปัฏฐาน" ที่เด็กได้มาโดยธรรมชาติ อาการที่เด็กได้มานั้น มี "จิต" เป็น "แก่นภายใน" มีความรู้สึก เป็นชั้นเปลือกถัดออกมา อาการตรงนี้ หากผู้ใดไม่เคยผ่าน จะไม่มีทางรู้ได้เลย

    +++ ตรงนี้ "ความกลัวเกิดขึ้นไม่ได้" เพราะมันเลยชั้น "ความกลัวไปไกลมากแล้ว" อาการของเด็กนั้น "ตั้งอยู่ในมหาปัฏฐาน" มี จิตเป็นประธาน (อธิปะติปัจจะโย )

    +++ ให้ระวัง "การสอน" เอาไว้ด้วย หากสอนได้ไม่ตรงตามอาการ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมันจะเป็น "การทำลาย" ซึ่งในชาตินี้ เด็กอาจจะทำไม่ได้อีกต่อไป
    +++ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ "วาสนาของเด็ก" ดังนั้น "ก่อนจะสอน หรือ แนะนำอะไรลงไป" ให้พิจารณาให้รอบคอบว่า "เกินกำลังตน หรือไม่" นะครับ
     
  17. ดานัง

    ดานัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2013
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +110
    ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ คุณแม่ได้ความรู้ขึ้นเยอะเลย ชอบอ่านและสนใจเรื่องการนั่งสมาธิอยู่แล้วด้วย ถ้ามีโอกาสจะพาลูกสาวไปอบรมธรรมะเพิ่มเติมค่ะ
     
  18. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    คุณขอรับ เด็กในวัยนั้น กำลังเป็นวัยที่มีความคิดความฝัน โดยที่ตัวเด็กเองไม่รู้ดอกขอรับ ถ้าหากคุณซึ่งเป็นแม่ได้รับข่าวสารหรือได้รับความรู้ที่ผิดๆแล้วไปสอนไปบอกให้ลูกสาว ในทางที่ผิดอาจทำให้เกิดความผิดปกติทางความคิด อารมณ์ ความรู้สึกได้ ซึ่งตัวคุณหรือตัวลูกของคุณจะไม่มีทางรู้เลยขอรับ

    คุณอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วจดจำเอาไว้ เพราะเป็นไปตามหลักศาสนา อย่างแท้จริง ไม่มีการปรุงแต่ง และไม่ใช่การทับถมผู้อื่นๆ.....
    สมาธิ...คือ ความสงบ ทางใจ เมื่อใจสงบ กายก็ย่อมสงบตามไปด้วย หากใจไม่สงบ คือ คิด ระลึกนึกถึง เพ้อฝัน ปรุงแต่ง ก็จะเกิดอาการต่างๆอย่างหลากหลายรูปแบบ เช่น รู้สึกอย่างนั้นอย่างนี้ เห็นอันนั้นอันนี้ อย่างนี้เป็นต้น
    ดังนั้น การฝึกสมาธิ ก็คือ การฝึกให้เกิดความสงบทางใจ ไม่รู้สึก ไม่คิด ไม่เห็น อนึ่ง คำว่า ไม่รู้สึกในที่นี้ ไม่ได้มีความหมายถึง ความรู้สบายนะขอรับ แต่ ไม่รู้สึกอย่างที่คุณเล่าว่าลูกคุณรู้สึกนั่นแหละ
     
  19. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    น่านนนน แหละ ความกลัว ตัวแรก แห่งมิจฉาทิฏฐิ เลย จริงๆแล้ว กลัวอะไร เคยย้อนถามไปเรื่อยๆ ไม๊

    แม่มีทางเลือกอยู่ 2 ทาง
    1. ลูกเหมาะแล้วหรือยัง ที่จะให้เข้าสู่ทางธรรม ตลอดชีพ
    2. หรือ ยังคงอยากให้ลูก วนเวียนกับทางโลก ไปก่อน

    เอาอันไหนดี

    เขาว่า ผู้ที่เหมาะสมจะเข้าสมาธิระดับลึก ควรมีอายุตั้งแต่ 9 ปีขึ้นไป

    ควร หาครูบาอาจารย์ ที่เก่งๆ ที่ ชัวร์ๆ (ในกรุงเทพก็มีหลายท่าน)
    แนะนำต่อ จะดี

    หาก ขาดการแนะนำที่เหมาะสม อาจโดนทาบทาม ไปเป็นร่างทรง ทรงจ้าว อะนะ ให้ลุ่มหลงเสียเวลาเนิ่นช้าไป


    ถ้ายังอยากให้อยู่ทางโลกต่อไป ก็ ทำสมาธิทั่วๆ ไป ไม่ต้องคิด ไม่ต้องจำสิ่งที่ประสบ แล้วเพียงแค่ ทำบุญ ถือศีล พอประมาณ ที่เหลือ เรียนอย่างเดียว

    หลังจากนั้น ชีวิตค่อยเป็นของเขาเอง เลือกเอง ว่าไม๊
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2014
  20. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ผมนะ
    ผมอายุเกือบสี่สิบแล้ว
    วุฒิภาวะทางอารมณ์ยังหามาตรฐานไม่เจอเลย

    แต่เด็กๆ พ่อแม่ มักจะให้เกาะบุญ
    เวลาทำบุญ พ่อแม่จะให้ผมเอามือหยอดตู้ หยอดบาตร ทำบุญเองด้วยมือตัวเอง
    มันต้องได้รับรู้ถึงอานิสงค์ของบุญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...