ทำไมนั่งสมาธิแล้วเหมือนตัวหมุน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย กัญจานรี, 11 กรกฎาคม 2014.

  1. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    เราจะเล่าประสบการณ์ทีหนีออกบวช
    ในบางเวลาที่เราทำสมาธิจิตไม่ได้พักตัว จิตได้สมาธิแล้ว
    พบความสงบบ้างแล้ว เพราะปล่อยวางจากเสียง
    ข้างนอกได้แล้ว ไม่ว่าผมจะยืนเดิน นั่ง นอน
    มีอาการของสมาธิหนุน หนุนแบบกุฏิหมุน
    แผ่นดินหมุน อากาศหมุน มันเป็นอาการของปีติ
    ที่ต้องละความสนใจที่เอาจิตไปเกี่ยวเกาะกับปีติที่เกิดขึ้น
    เมื่อไม่ส่งอารมณ์ ไปตามอาการของปีติที่โลดโพ้น
    ตัวหมุน ตัวเบา ตัวลอย เดินบนน้ำ เหาะเหินเดินอากาศ
    ไปนรก สวรรค์ พรหมโลก
    จิตก็จะละปีติได้ ปีติเป็นอุปสรรคของการเข้าฌาน ๔
    เมื่อละปีติได้ จิตจะรวมเป็นหนึ่ง ตรงนี้ถ้าไม่เข้าใจบำเพ็ญ
    ฝ่ายวิปัสสนาญาณ ความหลุดพ้นแบบนี้ ก็จะกำเริบได้
    เสื่อมถอน ออกจากอาการจิตเป็นหนึ่ง เพราะเป็น
    อารมณ์ของ อภิญญา ๕ คุณธรรมจะไม่เสื่อมถอนจากจิตเป็นหนึ่ง
    ต่อเมื่อผู้ปฏิบัติ ได้อภิญญา ๖ เพราะมีญาณปัญญารู้เห็น
    กฏของพระไตรลักษณ์ ทำให้จิตปล่อยวางจาก ฤทธิ์อภิญญาได้
    ในขณะที่ปฏิบัติไป ฤทธิ์อภิญญา เกิดขึ้นก็ไม่ได้ยินดียินร้าย
    อย่างผู้ทรงอภิญญา ๕ ที่เสื่อมถอนเพราะ ไปยินดียินร้ายกับความวิเศษ
    จึงเป็นผู้ที่ติดวิเศษ ยังไม่พ้นวิเศษ
     
  2. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ปัญหาของ จขกท ที่ว่านั่งสมาธิแล้วตัวหมุน สภาวะนี้คือ ปิติ ค่ะ
    ลองอ่านดูนะคะ

    ปิติ นั้นเป็นอาการของจิตก่อนที่จะเคลื่อนเข้าสู่อารมณ์ที่ละเอียดขึ้น คือ ฌาน นั่นเอง ปิติทั้ง 5 ได้แก่ ....

    1. ปิติมีอาการขนลุกซู่ เป็นอาการของปิติ ที่มีการอิ่มเอมใจ สุขใจ บางครั้งก็เกิดขึ้น เนื่องจาก สิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน ท่านยืนยันเหตุการณ์หรือ เรื่องราวบางอย่าง ปิติชนิดนี้จะมีผลทางวิทยาศาสตร์ทางร่างกาย คือ จะมีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านจากไขสันหลังเข้าสู่สมอง กระตุ้นให้ต่อมฮอร์โมน ที่ใต้สมองหลั่งฮอร์โมนที่มีความสุข ออกมาหลายชนิด ปิติชนิดนี้มีผลดีอย่างยิ่งในการปฏิบัติสมาธิ
    วิธีรับมือ หรือ จัดการเมื่อเกิดปิติชนิดนี้ ก็คือ การกำหนดรู้ ถ้าทำให้ปรากฏได้บ่อยก็จะทำให้จิตใจสบาย มีความสุขเมื่อปิติผ่านไป ก็ จงปล่อยวาง แล้วเคลื่อนจิตขึ้นสู่ความละเอียดของจิตที่สูงขึ้น

    2. ปิติที่มีอาการตัวโยก ตัวเอียงเอนตัว ตัวหมุน มักเกิดขึ้นเวลานั่งหลับตาทำสมาธิ เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะทำให้จิตเกิดความสงสัย ว่าตอนนี้เรานั่งตัวเอียงตัวเอน หรือเปล่า เมื่อลืมตาขึ้นก็จะพบว่าที่จริงตัวเราตั้งตรงอยู่ ไม่ได้เอียงแต่อย่างไร แต่ความสงสัย และ ลืมตาดูก็จะมีผลให้จิตถอนออกจากสมาธิ

    วิธีจัดการกับปิติชนิดนี้ ก็คือการกำหนดรู้ว่าสิ่งที่เกิดอยู่นี้ คือ ปิติ ก็ไม่ต้องไปสงสัย + ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องไปลืมตาดูแล้วจิตจะเคลื่อนสู่ฌาน และ อารมณ์ที่ละเอียดขึ้น

    3. ปิติที่มีความรู้สึกว่าตัวพองใหญ่ หรือ จิต มารวมกันที่หัว แล้วรู้สึกว่า หัวโตขึ้นขยายขึ้นวิธีการปฏิบัติ เหมือนข้อที่ผ่านมา คือ กำหนดรู้แล้วปล่อยวางผ่านเข้าสู่สมาธิขั้นต่อไป

    4.ปิติที่มีอาการเหมือนมี มด หรือ แมลง มาไต่ตามใบหน้า หรือ ตามแขนขา ปิตินี้จะทำให้จิตใจเราเกิดความรำคาญหงุดหงิด และ ออกจากสมาธิลืมตาขึ้นดู หรือลูบตามหน้าตามตัวดูแต่ก็ไม่มีตัวอะไรทั้งสิ้น ความจริงเกิดจากการที่จิตเราเริ่มหยุดนิ่ง + ลดการทำงานของประสาทสัมผัสอื่น คือ ตา หู จมูก ลิ้น คงเหลือแต่ผิวหนังร่างกายที่ทำให้ประสาททำงานละเอียดขึ้น ความเปลี่ยนแปลงทางผิวหนังเพียงเล็กน้อย เราก็รู้สึกได้ชัดเจนกว่าปรกติ จึงทำให้รู้สึกว่า คล้ายว่ามีแมลงไต่ตอมอยู่

    วิธีปฏิบัติ คือ การ กำหนดรู้ว่า เรารู้ว่าที่ปรากฏนี้คือปิติ เมื่อจิตเรารู้ทัน แล้ว ปิติตัวนี้ จะไม่เกิดอีกในครั้งนั้น และ จิตจะเคลื่อนสู่ฌานที่สูงขึ้น

    5. ปิติที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเราเบาเหมือนจะลอย หรือ จะเหาะไปในอากาศ ปิติตัวนี้เมื่อเกิดขึ้นในครั้งแรกจะทำให้ตกใจบ้าง หลงบ้าง ว่าเราได้อภิญญา แล้ว เหาะ ได้แล้ว ที่จริงเป็นปิติเป็นความดีขั้นต้นก่อนที่จิตจะยกขึ้นสู่ฌาน ดังนั้นจึงควรกำหนดรู้แล้วปล่อยวางเพื่อให้จิตเข้าสู่สมาธิที่สูงขึ้น

    สรุปแล้ว ปิตินั้นเป็นสิ่งที่ดี และ เป็นเครื่องแสดงว่าจิตใจเรากำลังจะเข้าสู่สมาธิที่สูงขึ้นแต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้หลายๆ คน ติดอยู่ในจุดนี้นาน เป็นปี ๆ ก็มี จนกว่าจะผ่านปิติไปได้ ปิตินั้นไม่จำเป็นที่ทุกคนจะเกิดปิติครบทั้ง 5 ประการ บางคนก็เกิด บางคนก็ไม่เกิดปิติอะไรเลยแต่ก็เข้าสู่ ฌาน ได้เช่นกัน บางคนได้ปิติก็เข้าใจว่าบรรลุธรรม เหาะได้ แล้วก็มีปรากฏ บางคนก็บอกว่าตนเอง ไม่สามารถนั่งสมาธิได้ เพราะ นั่งที่ไรก็รู้สึกว่า มี มด แมลง มาไต่มาตอมทุกครั้ง ถามอาจารย์บางท่าน ท่านก็บอกว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวร แต่ความจริงแล้ว อาการที่ปรากฏ เป็น อาการของปิติ ถ้ากำหนดรู้ หรือ จิตรู้ทัน ก็จะหายไปเอง เหมือนเราทำข้อสอบ หรือ ผ่านด่านทดสอบได้ เพื่อการก้าวขึ้นสู่สมาธิที่ลึกขึ้นสูงขึ้น

    ส่วนปิติชนิดที่ตัวสั่น ซึ่งเป็นอาการของฌานหยาบ คล้ายเวลาฝึกมโนเต็มกำลัง

    วิธีการ ก็คือ ปล่อยวางจากร่างกาย อย่าไปสนใจในอาการสั่นอย่ารู้สึกว่าสั่น แล้วจะดี เพราะเป็นการแสดงว่าจิตของเรายังมีความยึดในร่างกายอยู่อีกมาก ให้พิจารณาในวิปัสสนาญาณให้มากขึ้น จนจิตเคลื่อนขึ้นสู่อารมณ์ที่สูงขึ้นละเอียดขึ้น

    ส่วนอาการปวดหัวหลังจากเพ่งกสิณ เพราะคุณฝึกผิดวิธีกลายเป็น กสิณโทษ

    การเพ่งกสิณไฟ ต้องเพ่งจากเปลวเทียนที่อยู่เหนือไส้เทียน และต้องเพ่งตอนที่เปลวเทียนนิ่ง ภาพนิมิตติดตาที่ได้จะเป็นภาพเปลวเทียน หากเป็นสีแดงหรือสีเขียว ถือว่าเป็นกสิณโทษค่ะ

    [​IMG]
     
  3. กัญจานรี

    กัญจานรี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2012
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +18
    ขอบคุณค่ะ ^_^
     
  4. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    อาการที่คุณเล่ามา มีสาเหตุอยู่ สองประการ อาจจะเป้นประการใดประการหนึ่ง ดังนี้
    ๑. ในทางพุทธศาสนา เรียกว่า "วิตก วิจาร"
    ๒. อาจเกิดจาก ความผิดปกติของน้ำในหู หรืออาจเกิดจาก ร่างกายหลั่งสารเคมีบางชนิดออกมามากเกินปกติขอรับ
     
  5. จิตเปโม

    จิตเปโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +253
    มันบังคับเพ่งมากจนบีบที่หัว เวลานั่งสมาธิมันจะหมุนๆ ตอนใช้ชีวิตประจำวันพอคิดอะไรเครียดๆแค่หน่อยเดียว จะปวดเหมือนไมเกรน
    ถ้าเป็นสมาธิจะต้องเบาสบายครับ ผมก็เคยเป็นเหมือนคุณครับ ให้หยุดทำสมาธิแบบเพ่งก่อนนะครับ มันจะปวดแบบถาวรนะครับ หยุดใว้ก่อนให้มันหายๆจี๊ด แล้วค่อยลองหากรรมฐานที่ไม่ต้องเพ่งทำครับลองดู
     
  6. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ผมก็เคยเป็น รู้สึกวูบๆวาบๆเหมือนตัวสิ่งรอบๆตัวมีการเคลื่อนเข้าๆออกๆน่าเวียนหัวทีเดียว แต่ก็เป็นอาการช่วงที่เพิ่งจะเริ่มฝึกสมาธิใหม่ๆ พอนั่งสมาธิบ่อยเข้า ไม่นานก็ลืมไปว่าครั้งหนึ่งก็เคยเป็น ( ถ้าไม่ถามในกระทู้นี้ ก็คงไม่ระลึกขึ้นมาได้ ) เข้าใจว่า เป็นอาการของจิต ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง พอจะฝึกให้นิ่งเลยมีอาการ เหมือนแมวน่ะ ใหม่ๆจะจัยให้นั่งนิ่งๆเหมือนเจ้าจอนนี่อาตแมวไม่ได้หรอก
    อาการของจิตก็มีหลากหลายเลย เคยเจอมามากแบบ แต่เมื่อจิตคุ้นชินก็จะไม่เป็นอีก ไม่น่ากลัว ไม่ได้บ้า ไม่ได้เครียด ฝึกไปเรื่อยๆ เมื่อเป็นก็รู้ว่าเป็นแต่ไม่ต้องใส่ใจ ไม่นานก็หายครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...