แบบนี้เป็นกรรมหรือเปล่าครับ

คือผมมีเรื่องไม่สบายใจหน่ะ ครับ
พอดี เมื่อกี้ พี่ ให้ผมไปเอาค้างคาวที่อยู่ในบ้านไปปล่อย

เป็นลูกค้างคาว ตัวเล็ก แต่บินได้แล้ว

จากการสอบถามพี่สาว และ จากการคาดเดา
สรุปได้ว่า ต้องมีรังค้างคาวอยู่ในบ้านแน่นอน

นั่นหมายความว่า จะต้องมีแม่ค้างคาว และ ลูกค้างคาว

ทีนี้ลูกค้างคาวซุกซนบินออกมานอกรัง
ลุงผมเจอ ก็เลยเรียกพี่สาวให้มาช่วยกัน พี่สาวก็เลยเรียกผมไปช่วยอีกที



ผมเดินไปถึงในบ้าน ลุงเอาผ้าจับลูกค้างคาวไว้ได้แล้ว ผมเตรียมถุงไปใส่
ตอนแรกในใจคิดว่าจะปั่นจักรยานไปปล่อยใกลๆ จะได้ไม่กลับมาอีก

แต่พอทวนคิดได้ว่า แม่ค้างคาวมันรอลูกอยู่นิหว่า
ชะรอยเราจักทำกรรม ไม่ดีเข้าให้แล้ว

ด้วยความจำเป็น ก็เลยถือเอาถุงใส่ค้างคาว ปิดให้พออากาศเข้าได้
เอาลูกค้างคาวไปปล่อยหลังบ้าน ซึ่งห่างจากตัวบ้าน แค่ 20-40 เมตร เพื่อหวังว่า มันอาจจะมีโอกาศได้กลับไปพบแม่ของมัน

คือผมจะไม่เอาไปปล่อยก็ไม่ได้

เค้าให้ผมทำ ผมก็ทำไปตามเรื่อง

แต่ในใจนี้สงสารค้างคาวมาก ทั้งแม่ ทั้งลูก ต่างก็ต้องคิดถึงกัน



ตอนผมเอาถุงค้างคาวไปวางที่ลานหญ้าหลังบ้าน
ผมค่อยๆถึงปลายถุงให้ลูกค้างคาวออกมานอกถุง
ผมสังเกตุการณ์อยู่ซักพัก ลูกค้างคาวไม่บิน
ผมสังเกตุนัยน์ตามันดูโกรธๆ (แต่จริงๆ ค้างคาวคงจะนัยน์ตาเหมือนๆกันแบบนี้)

ผมก็เลยไปหาไม้ให้มันเกาะ เพื่อที่จะเอาไปไว้ใกล้ๆต้นไม้ มันจะได้เกาะอยู่

พอเอาไม้ไปใกล้ๆมันก็เอาเท้าเกาะไว้ พอผมยกสูงขึ้น มันก็บินลับไปเลย




ผมก็ใจหายสิครับ
และคิดใจใจว่า เจ้าค้างคาวเอ่ย
ข้าพเจ้าไม่ได้ตั้งใจจะพรากเจ้าออกจากแม่เลย
ที่นำเจ้าออกมาจากบ้าน ก็เป็นคำสั่งของเจ้าของบ้านเค้า
เจ้าของบ้านเค้าไม่อนุญาตให้เจ้าอยู่ แล้ว
ข้าพเจ้านำ เจ้าออกมาจากอกแม่
ข้าพเจ้ามิได้มีเจตนา จะทำให้เจ้าทั้งสองพรากจากกัน
ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม ทั้งแม่และลูกด้วย
ขอเจ้าจงอดโทษแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด


ที่ผมกลัวเพราะผมรู้ว่าการพลักพรากจากคนที่เป็นที่รักนั่นรู้สึกเช่นไร
ผมเป็นเด็กที่พรากจากพ่อจากแม่ตั้งแต่เด็ก
นานๆถึงจะมีโอกาศได้กลับไปหาพ่อกับแม่ซักที
พอมีแฟน คบกันได้ประมาณเจ็ดปี
ก็มีเหตุให้ต้องเลิกรา พลัดพรากจากกัน ด้วยความทรมานใจ
แต่ตอนนี้ก็ทำใจได้แล้วครับ
ความทุกข์เป็นบทเรียนอันล้ำค่ายิ่ง



ผมจึงเข้าใจความรู้สึกของผู้ที่ต้องพลัดพรากจากผู้ที่ตนรัก
และไม่อยากจะมีเวรมีกรรม

และผมสงสารสัตว์โลกทั้งหลายเหลือเกิน


ท่านใดมีข้อเสนอแนะ ที่จะทำให้ผมพ้นจากความทุกข์ใจ
ก็ขอขอบพระคุณล่วงหน้านะครับ

 

กรรมสัมพันธ์เวียนวนมาซ้ำรอย
มีเพียงการปล่อยวาง ไม่ต้องไปสนใจ
ไม่ต้องตอกย้ำตนเองในเรื่องนี้อีก
ถ้าปล่อยวางได้ ภายหน้าก็ไม่ต้องมาเล่นละครสลับตำแหน่งกันอีก
ความคิดที่สำนึกผิด รู้สึกว่าตนเองผิดบาปรุนแรง
แม้การกระทำผิดนั้นๆจะไม่ได้ร้ายแรง
แต่ก็ด้วยจิตเศร้าหมองร้ายแรว ก็พาดิ่งลงนรกได้เหมือนกัน

 

อาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณ เปาชุนไหลคิดก็ได้ คือไม่มีรังในบ้านของคุณ แต่ลูกค้างคาวอาจบินหลงเข้ามาก็เท่านั้นเอง ปกติค้างคาวไม่มาทำรังในบ้านคนหรอก และถ้ามันอยู่ในนั้นจริง ตอนคุณปล่อยก็คงไม่รีบบินหนีไปไหน เพราะยังไม่รู้จักทาง อยู่แต่ในบ้าน แต่นี่ไม่ใช่นี่ บินไปอย่างดีใจ มันคงขอบใจคุณมั้งคะ ที่ช่วยปล่อย หาทางออกอยู่ตั้งนาน สบายใจได้แล้วคะ

 

..ดูตรงนี้ให้ดีครับท่านเปาฯ เจตนาของท่านคือ"..ทำตามคำสั่งของคนอื่น"...ไม่ได้คิดทำเอง นี่อย่างหนึ่ง ทั้งตอนทำก็ใคร่ครวญไตร่ตรองไป เกิดความละอายชั่วกลัวบาปขึ้นมาได้ นี้เป็นส่วนแห่งกุศล แสดงว่าท่านเปาฯไม่ได้"มีเจตนาในการพรากลูกจากพ่อแม่"..อะไรๆเลย ก็เมื่อ"ไม่เจตนา"ท่านจะให้ผลบาปมาเกิดขึ้นได้อย่างไร?..จริงอยู่ การนำเขาไปปล่อย ถ้าว่าเขาต้องพรากจากพ่อแม่แล้ว ก็เป็นเพราะเหตุแห่งบาปเก่านั้นมาจัดสรรค์ให้...แต่การปล่อยห่างเพียง๒๐เมตรสำหรับสัตว์บินได้เช่นค้างคาวนั้น นับว่าไม่ไกลเกินที่พ่อแม่เขาจะตามพบหรอก .. ขนาดผลไม้ลูกเล็กในสวน ค้างคาวบินอยู่ไกลก็ยังรู้ได้ด้วยกำลังของการใช้คลื่นเสียงโซน่าเป็นหลักการของการสะท้อนเสียงกลับเพื่อแจกแจงเปงรูปร่าง..แต่ก้อไม่เสมอไปนะครับ..มีค้างคาวบางจำพวกที่ไม่จำเป็นต้องใช้คลื่นสะท้อน...แต่ใช้คลื่นความร้อน..ในการหาอาหาร...

โดยสรุปคือ ก่อนทำ ท่านเปาฯก็"ลังเล" ..ขณะทำ ก็"ไม่อยากทำ" หลังทำก็"เสียใจ" สรุปว่าเจตนาง่อนแง่นโคลงเคลงเต็มที่ กรรมนี้ไม่มีกำลังเท่ากับกรรมที่กำลังคิดวิตกในเวลานี้เลย....

ยิ่งตามหลักความจริงแล้ว กรรมที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ ยิ่งขนาดเล็ก ก็ให้ผลน้อยทั้งด้านบุญและบาป..ที่กล่าวนี้ ไม่ใชส่งเสริมให้ละเว้นการทำบุญกับสัตว์ หรือให้รังแกสัตว์..สิ่งใดเป็นบุญควรรีบทำ ส่วนบาปรีบเว้นเสีย นี่เป็นหลักการที่ควรมีในใจ...

ท่านเปาฯเป็นบัณฑิตฯ มีใจใฝ่ธรรม เพียรประพฤติศีลอยู่ ท่านเปาฯพึงพิจารณาหาทางคลี่คลายความกังวลเครียดนี้ไปโดยอุบายอันดีเถิด ...ถ ้าท่านไม่ช่วยค่างคาวให้พ้นไปจากที่นั้น บางทีเขาอาจกลายเป็นซากอยู่แถวนั้นไปแล้ว..ไม่เพราะคนก็สัตว์อื่นในละแวก..ท่านคิดได้หรือไม่ว่า ท่านช่วยเขาให้พ้นภัยแต่ถ่ายเดียว..?

 

ขอบพระคุณมากเลยครับ
อ่านแล้วกระจ่างแจ้งแก่ใจเลย

 

สัญญา นี่คือความจริงในสภาวะนั้นๆ การใช้อุบายในการระลึกแก้นี่ทำไม่ได้ครับ
อย่างเราตั้งใจจะไปเตะขาคนที่เราไม่ชอบซักคนแรงใจ
และการกระทำที่เป็นการเบียดเบียนนี่รุนแรงประมาณไหน
กรรมก็ออกแบบมาอย่างนั้น อย่างท่าสมมุติใส่แรงใจที่จะเตะไปมาก
แต่พอไปเตะขาเขาจริงๆเตะไม่แรงมาก เขาก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก
ท่าจะมีวิบากก็อาจจะมีรถคันใหญ่มาชน
หรือวิ่งๆเดินๆอยู่แล้วไปตกหลุมใหญ่มาก แต่ก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก
แค่เจ็บขานิดๆหน่อยๆแต่ท่าไม่ได้ใส่แรงใจมาก
แต่ตอนเตะนี่เตะขาเขาจนปวดร้าวนี่ ตอนวิบากมาเราอาจจะเจอ
มอเตอไซหรือจักรยาน มาตัดหน้าแต่ล้มนี่ล้มแบบทุลักทุเลปวดขา
ไปหลายวันก็ได้อานุภาพจะมากน้อยขึ้นอยู่ที่เรา
และผู้ที่เรากระทำเขานี่เขาดีนี่ดีประมาณไหน
คนระลึกแก้นี่มี ขออภัยแล้วจะไม่ทำกรรมนั้นอีก กับ สำนึกผิดในบาปกรรมนั้นๆ
สำนึกนี่ท่าสำนึกถูกนี่ไม่ใช่เศร้าหมองยอแยนะครับ
คนสำนึกจริงๆนี่เขาจะไม่กลัวอะไรหรอกครับที่เราจะโดนกลับ
กล้าทำกล้ารับหนะครับ แต่บุญบาปนี่มันมีลดหย่อนผ่อนโทษกันได้นะครับ
ในบางเรื่อง อย่างท่าเคยช้วยคนต่างๆมา ให้เขาปรองดองรักใคร สามมัคคีกัน ไม่ทำให้ครอบครัวเขาแตกคอกัน
จากหนักมันก็เบาลง หรือเบาจนแทบจะไม่ค่อยมีอะไรเลย
ท่าทำตัวดีคงเส้นคงวานี่ พอเจอวิบากกรรมร้ายมาก็เอาอยู่ครับ
แล้วกรรมมันมีอยู่ในสัญญาเรา
ให้เราไปประสบพบเจอเหตุการณ์นั้นๆหนะครับ
อย่างเราเดินๆอยู่ไปเตะขาเก้าอี้บ้าง ขาโต๊ะบ้าง
มันไม่ได้มีใครไปเอามือมาจับให้เราไปเตะ
แต่เราทำตัวเราสอดคล้องกับเหตุการณ์นั้นๆเองหนะครับ
แต่ที่สร้างกรรมไม่ดีเพิ่มหรือจองเวรไม่วางแบบนี้ก็มีครับ
แต่ประเด็นมันอยู่ที่เรา
โชคดีคับ
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=DuFHaVJpcr4]Westlife - Home - YouTube[/ame]

 

แก้คำผิดหน่อยนะครับ..

ท่า....แก้เป็น....ถ้า




.....ความหมายจาก <cite>พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน</cite>ท่า..

น. ฝั่งนํ้าสําหรับขึ้นลงหรือจอดเรือ ท่านํ้า ก็เรียก ที่สําหรับขึ้นลงริมนํ้า เช่น ท่าข้าม โดยปริยายหมายถึงที่จอดยานพาหนะบางชนิด เช่น ท่าเกวียน ท่าอากาศยาน เรียกนํ้าในแม่นํ้าลําคลองว่า นํ้าท่า คู่กับ นํ้าฝน.น. ลักษณะท่วงทีของร่างกายที่อยู่นิ่ง ๆ ในบางอิริยาบถ เช่น ท่ายืน ท่านั่ง ท่านอน การแสดงกิริยายกมือยกเท้าเป็นต้นตามกําหนดเป็นวิธีไว้ เช่น ท่ามวย ท่ารํา ชั้นเชิง ท่วงที วิธี เช่น พลาดท่า ได้ท่า เสียท่า.ก. รอคอย เช่น เหตุไฉนรีบมาไม่ท่ากัน. (อิเหนา) มักใช้เข้าคู่กับ คอย หรือ รอ เป็น คอยท่า รอท่า.



<header>ถ้า

</header> คําแสดงความคาดหมาย คาดคะเน หรือข้อแม้ ผิ แม้ หาก. ถ้าว่า ถ้าหากว่า สัน. ผิว่า แม้ว่า หากว่า.

 

ขอบคุณท่าน ddman นะครับ
ที่ผมพิมไปใครได้อ่านด้านบนก็เปลี่ยนจาก
คำว่า ท่า เปลี่ยนเป็น ถ้า นะครับ

 

ขอบพระคุณทุกท่านที่ให้คำแนะนำการวางใจที่ดีมากครับ
ขอบคุณครับ

 

จิตหากคิดดีก็เป็นบุญ จิตหากคิดไม่ดีก็เป็นบาป