ติดตามสถานะการณ์

ผู้พเนจร จากฟากฟ้า



จากการปะทะกันอย่างต่อเนื่องระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐอิรัก และกลุ่มก่อการร้ายอิสลามซุนนีย์ กลุ่ม ISIL มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตแล้วกว่า 300 นาย
สื่อต่างประเทศ รายงาน หลังการเข้ายึดครองพื้นที่ทางตอนเหนือของอิรัก ของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามอิรักและลีแวน (ISIL) ได้สังหารเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของอิรักไปแล้วกว่า 300 นาย หลังมีการปะทะกันตั้งแต่ มีการเข้ายึดครองพื้นที่ในอิรักในระยะแรกๆ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของอิรักกล่าว
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกลาหลในอิรัก ทางการได้ขอความช่วยจากสหรัฐฯ และได้รับการตอบรับแล้ว แต่สหรัฐฯ ไม่ได้จัดกองทัพเข้าพื้นที่ แต่ส่งทหารนาวิกโยธิน เข้าไปประมาณ 300 นาย เมื่อเร็วๆ นี้
จนท.ปะทะกลุ่มก่อการร้ายในอิรักดับแล้ว300 : INN News

 

ISIS ถล่มโบสถ์คริสต์ ชาวคริสต์เตียนตั้งกองกำลังดูแลตัวเองในโมซุล อิรัก
วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2014 เวลา 08:48 น. อีเมล พิมพ์ PDF



สำนักข่าว IMM :เมื่อวันพุธ 18/6/57 ชาวอิรักทางตอนเหนือในเมืองโมซุลอิรักได้เปิดเผยแก่นักข่าวอัลอาลัม นิวส์ เน็ตเวิร์คว่า “กลุ่มติดอาวุธไอซิส ISIS หลังจากที่เข้ายึดเมืองโมซุล พวกเขาเริ่มบุกถล่มโบส์ชาวคริสต์ในเมืองโมซุล และสถานที่สำคัญๆ ทางศาสนาทั้งของชาวมุสลิมและชาวคริสต์เตียนเสียหายหลายแห่ง”

สำนักข่าวอัลอาลัม ALALAM NEWS NETWORK รายงานว่า เมื่อวันพุธ 18/6/57 ชาวอิรักทางตอนเหนือในเมืองโมซุลอิรักได้เปิดเผยแก่นักข่าวอัลอาลัม นิวส์ เน็ตเวิร์คว่า “กลุ่มติดอาวุธไอซิส ISIS หลังจากที่เข้ายึดเมืองโมซุล พวกเขาเริ่มบุกถล่มโบสถ์ชาวคริสต์ในเมืองโมซุล และสถานที่สำคัญๆ ทางศาสนาทั้งของชาวมุสลิมและชาวคริสต์เตียนเสียหายหลายแห่ง”

ประชาชนชาวอิรักในเมืองโมซุลได้เปิดเผยอีกว่า “กลุ่มติดอาวุธดาอิช หรือ ISIS. ISIL. ได้บุกถล่มทำลายสถานที่สำคัญๆ หลายแห่งของชาวคริสต์เตียน และชาวมุสลิมในเมืองโมซุล อาทิเช่น รื้อถอนทำลายสัญลักษณ์ไม้กางเขน รูปปั้นท่านหญิงมัรยัม และรูปปั้นท่านศาสดาอีซา ห้องสมุดและวัตถุโบราณทางด้านประวัติศาสตร์ของชาวคริสต์เตียนเสียหายหลายแห่ง”

มีรายงานอีกว่า “คริสต์ชนในอิรัก ได้ตั้งกองกำลังดูแลตัวเอง ในขณะชาวเมืองรอบๆ ทิ้งบ้านเมืองเอาตัวรอด เมืองบาเตลลา ของชาวคริสต์เตียน ซึ่งห่างจากเมืองโมซุล ประมาณ 10 ไมล์ จัดตั้งกองกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยในเมืองด้วยตนเอง มีเพียงอาวุธเบาเป็นเครื่องมือในการคุ้มครองความปลอดภัย ในขณะที่เมืองต่างๆ รอบนอก ถูกกองกำลังติดอาวุธไอซิสควบคุมไว้

แม้มีกองกำลังรับมือ แต่ผู้นำชาวคริสต์เตียนในอิรัก ก็ยังไม่มีแผนชัดเจนหากถูกโจมตีจริง โดยบอกเพียงว่า “คนร้ายก็อาจจะสังหารชาวคริสต์เตียน เช่นเดียวกับที่ทำกับประชาชนชาวมุสลิมในพื้นที่เช่นเดียวกัน”

- See more at: ISIS ถล่มโบสถ์คริสต์ ชาวคริสต์เตียนตั้งกองกำลังดูแลตัวเองในโมซุล อิรัก

ISIS ถล่มโบสถ์คริสต์ ชาวคริสต์เตียนตั้งกองกำลังดูแลตัวเองในโมซุล อิรัก

 

เชคมาเฮร ฮะมู๊ด : การสนับสนุน ISIS ของซาอุดี้ฯ “ชัดยิ่งกว่ากลางวัน” เสียอีก
วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2014 เวลา 23:42 น. อีเมล พิมพ์ PDF



สำนักข่าว IMM :วันนี้ 20/6/57 เชคมาเฮร ฮะมู๊ด อิมามนมาซญะมาอัตมัสยิดกุดส์ นักการศาสนาระดับสูงมุสลิมสุนนี่ ในเมืองซัยดอนภาคใต้ของเลบานอน ได้ให้สำภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเอเชียของเลบานอนว่า “นับวันโฉมหน้าที่แท้จริงของซาอุดิอาระเบีย ผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มติดอาวุธดาอิช หรือ ISIS เด่นชัดยิ่งกว่ากลางวันเสียอีก”

สำนักข่าวอัลอาลัม ALALAM NEWS NETWORK รายงานว่า วันนี้ 20/6/57 เชคมาเฮร ฮะมู๊ด อิมามนมาซญะมาอัตมัสยิดกุดส์ นักการศาสนาระดับสูงมุสลิมสุนนี่ ในเมืองซัยดอนภาคใต้ของเลบานอน ได้ให้สำภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเอเชียของเลบานอนว่า “นับวันโฉมหน้าที่แท้จริงของซาอุดิอาระเบีย ผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มติดอาวุธดาอิช หรือ ISIS เด่นชัดยิ่งกว่ากลางวันเสียอีก”

เชคมาเฮร ฮะมู๊ด กล่าวย้ำคำพูดของซัยยิดฮาซัน นัศรุลลอฮ์ ว่า “ล่าสุดการออกมากล่าวยืนยันของ ซัยยิดฮาซัน นัศรุลลอฮ์ เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์เลบานอนว่า ถ้าหากฮิซบุลลอฮ์เลบานอนไม่รุกเข้าไปทำสงครามกับกลุ่มก่อการร้ายวะฮาบีย์ตักฟีรีในซีเรีย แน่นอนวันนี้กลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ISIS) คงเข้ามาก่อความวุ่นวายในเลบานอนแล้ว”

เชคมาเฮร ฮะมู๊ด ยังได้กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของซาอุดิอาระเบีย โดยเฉพาะ “ซาอู๊ด ฟัยซอล” รัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดิอาระเบียที่ได้ออกมากล่าวหา “นูรีย์ มาลิกี” นายกรัฐมนตรีอิรักในสื่อว่า มีพฤติกรรมฝักใฝ่ชนเผ่าและนิกาย บริหารประเทศเอื้อแก่พวกพ้องตัวเองนั้นว่า “เป็นเรื่องไร้สาระ และน่าขันยิ่งนัก”

เชคมาเฮร ฮะมู๊ด อิมามนมาซญะมาอัตมัสยิดกุดส์ นักการศาสนาระดับสูงมุสลิมสุนนี่ ในเมืองซัยดอนภาคใต้ของเลบานอนได้กล่าวย้ำว่า “มวลประชาชาติมุสลิมต่างทราบดีเกี่ยวกับ การให้การสนับสนุนเงินทุน อาวุธยุทโธปกรณ์ ฯลฯ แก่กลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ISIS) ของซาอุดิอาระเบียโดยไม่ต้องการหลักฐานใดๆ เป็นเรื่องที่ “ชัดแจ้งยิ่งกว่ากลางวัน” เสียอีก”

เชคมาเฮร ฮะมู๊ด ได้กล่าวอีกว่า “เจ้าหน้าที่ระดับสูงของซาอุดิอาระเบียหลายคนได้ออกมาปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มต่างๆ ในซีเรียและอิรัก ในขณะที่หลักฐานต่างๆ ถูกนำออกมาเปิดเผยโดยสื่อต่างๆ ขณะนี้มีมากมาย กระทั่งกล่าวได้ว่า พวกเขากำลัง “โกหกอย่างหน้าด้านที่สุด”

- See more at: เชคมาเฮร ฮะมู๊ด : การสนับสนุน ISIS ของซาอุดี้ฯ “ชัดยิ่งกว่ากลางวัน” เสียอีก

เชคมาเฮร ฮะมู๊ด : การสนับสนุน ISIS ของซาอุดี้ฯ “ชัดยิ่งกว่ากลางวัน” เสียอีก

 

กลุ่มไอซิส ISIS ทหารรับจ้างสหรัฐฯ และพันธมติร เดินเกม “แบ่งแยกแล้วปกครอง”
วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2014 เวลา 15:33 น. อีเมล พิมพ์ PDF



สำนักข่าว IMM :กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามอิรักและเลแวนท์ หรือ ไอซิล ซึ่งมีนักรบอยู่ราว 3,000-5,000 คน และมีความโยงใยกับกลุ่มอัลกออิดะห์ กลุ่มติดอาวุธนี้เป็นพวกวาฮะบี สายเคร่ง ต่อต้านทุกศาสนา ทุกนิกายที่ไม่ใช่นิกายเดียวกัน กลุ่มนี้ได้รับทุน อาวุธ สนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป และอิสราเอล (วิเคราะห์เจาะลึกโดย เสธ น้ำเงิน 4)

เรื่องการแทรกแซง กิจการภายในประเทศอื่น และก่อสงครามแตกแยกไปทั่วโลก ไม่มีใครเกินรัฐบาลอเมริกา สงครามที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ ทั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 และสงครามย่อยๆ ในภูมิภาคต่างๆ และในประเทศใหญ่ กลาง เล็ก ล้วนมีรัฐบาลอเมริกา อยู่เบื้องหน้า หรือเบื้องหลังทั้งสิ้น

ที่ใกล้ตัวคนไทยจนสัมผัสกลิ่นดินปืนได้ ก็คือสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อเมริกาถึงกับมาตั้งฐานทัพ และส่งกำลังทหารมาประจำในประเทศไทย เพื่อสู้รบกับญี่ปุ่น การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่เมืองฮิโรชิมา กับนางาซากิของญี่ปุ่น ที่ทำให้ทั้ง 2 เมืองราบพนาสูญ ประชาชนล้มตายกองเท่าภูเขาเลากาพิการอีกมากคณานับ

ต่อมาก็สงครามเกาหลี จนแยกเกาหลีออกเป็นเหนือไต้ในปัจจุบัน สงครามในเวียดนามที่สร้างความทุกข์เข็ญ เป็นบาดแผลในใจให้คนเวียดนามต่อมาอีกหลายสิบปี สนามบินอุดรที่อเมริกาใช้บรรทุกระเบิดไปทิ้งใส่ประชาชนเวียดนาม ยังคงอนุสรณ์อยู่จนทุกวันนี้

ในภูมิภาคอื่นก็แถวแอฟริกา เช่น ซูดาน ในอัฟกานิสถาน ที่สหรัฐฯอเมริกาส่งกำลังไปประจำการ เอาระเบิดมาทิ้งปูพรมใส่เทือกเขาแทบทุกตารางนิ้ว เพื่อล่าตัวบินลาเดนจนประเทศเละไปหมด หนุนให้เกิดความยุ่งเหยิงวุ่นวายในย่านมุสลิม เกิดอาหรับสปริง เริ่มจากรัฐบาลอาหรับเป็นคลื่นปฏิวัติการเดินขบวน การประท้วงและสงครามซึ่งเกิดขึ้นในโลกอาหรับตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2553 จนปัจจุบัน ผู้ปกครองถูกโค่นจากอำนาจ จากตูนิเซีย อียิปต์ ลิเบีย และเยเมน การก่อการจลาจลอุบัติขึ้นในบาห์เรน และซีเรีย การประท้วงใหญ่เกิดขึ้นในอัลจีเรีย อิรัก จอร์แดน คูเวต โมร็อกโก และซูดาน

และการประท้วงเล็กเกิดในเลบานอน มอริเตเนีย โอมาน ซาอุดิอาระเบีย จิบูตี และเวสเทิร์นสะฮารา การประท้วงใช้เทคนิคการดื้อแพ่งร่วมกัน การรณรงค์อย่างต่อเนื่อง การนัดหยุดงาน การเดินขบวน การเดินแถว และการชุมนม การใช้โซเชียลมีเดีย

การเดินขบวนอาหรับสปริงหลายประเทศเผชิญกับการปราบปรามอย่างรุนแรงจากทางการ การใช้ทหารอาสาสมัครนิยมรัฐบาล และขบวนโต้ตอบ การโจมตี จากผู้ประท้วงด้วยความรุนแรงในบางแห่ง ล่าสุดที่เห็นๆ หมาดๆ กลิ่นคาวเลือด จากคมอาวุธยังคละคลุ้งอยู่ปัจจุบัน ก็ที่ประเทศซีเรีย และยูเครน ที่รัฐบาลอเมริกาและผองเพื่อน ผู้ใช้กลยุทธ์ “ แบ่งแยกเพื่อปกครอง “ มาตลอด โดยการสนับสนุนทางนโยบาย เงินทุน อาวุธ ในกับกลุ่มๆ หนึ่งในประเทศนั้น เพื่อให้คนในชาตินั้นๆ สู้รบกันเองจนปั้วเปี้ย หมดแรง ถึงตอนนั้นอเมริกา และพันธมิตร ก็จะกรีฑาทัพไปซ้ำเติมบดขยี้ทันที ภาษาไทยเรียกแต้มแก่ว่างั้นเถอะ

สงครามยุยงให้คนฆ่ากันเอง ที่สำคัญๆ จะไม่กล่าวเสียไม่ได้ ก็คือสงครามอิหร่าน โดยอเมริกาสนับสนุนพระเจ้าชาร์มูฮัมหมัดเรซา ปาฮ์เลวี ของอิหร่าน ต่อมาก็ถูกอะญาตุลลอฮ์ โคไมนี ผู้นำศาสนาประกาศการปฏิวัติอิสลาม ล้มล้างอำนาจลง และก้าวขึ้นสู่อำนาจเป็นผู้นำประเทศอิหร่านแทน

ช่วงนั้นอเมริกาจึงหันไปหนุนซัดดัม ฮุสเซนอย่าลับๆ ทำให้กองทัพอิรัก มีกำลังเข้มแข็งกว่าละเมิดพรมแดนระหว่างทั้งสองประเทศ ประธานาธิบดี อะญาตุลลอฮ์ โคไมนี อิหร่าน จึงประกาศสงครามกับอิรัก ที่นำโดยซัดดัม ฮุสเซน กินระยะเวลายืดเยื้อถึง 8 ปี ระหว่างเดือนกันยายน 2523 ถึง เดือนสิงหาคม 2531 เสียหายยับเยินอ่วมทั้ง 2 ประเทศ สงครามครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บฝ่ายอิหร่าน ระหว่าง 750,000-1,000,000 คน ฝ่ายอิรักประมาณ 375,000 - 400,000 คน

เมื่อยุอิรักเกิดสงครามจนอ่วมอรทัยแล้ว ทีนี้อเมริกาก็หันมาเล่นงานอิรักเองบ้าง โดยก่อสงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งที่ 1 เริ่มจากอิรักที่เป็นประเทศมีน้ำมันมาก แต่ไม่มีทางออกทะเลจึงบุกคูเวต ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2533 อเมริกาได้ยืมมือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ บีบอิรักทางเศรษฐกิจทันที และส่งทหารอเมริกันไปยังซาอุดิอาระเบีย โดยมีกำลังทหารส่วนใหญ่มาจากอเมริกา ซาอุดิอาระเบีย อังกฤษ และอียิปต์ เพื่อขับไล่กองกำลังอิรักออกจากคูเวต

เริ่มต้นขึ้นจากการทิ้งระเบิดทางอากาศเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2534 ตามมาด้วยการโจมตีภาคพื้นดินเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ สงครามดังกล่าวสิ้นสุดลงด้วยชัยชนะอย่างเด็ดขาดของกองกำลังผสม รุกเข้าไปในพรมแดนอิรัก และยุติการรุกคืบ และประกาศหยุดยิง 100 ชั่วโมงหลังจากการทัพภาคพื้นดินเริ่มต้นขึ้น การรบทางอากาศและพื้นดินจำกัดอยู่ภายในอิรัก คูเวต และพื้นที่บริเวณพรมแดนของซาอุดิอาระเบีย และอิรักได้ปล่อยขีปนาวุธสกั๊ด ต่อเป้าหมายทางทหารของกองกำลังผสมในซาอุดิอาระเบีย และอิสราเอล

ต่อมาอเมริกา ใช้ปฏิบัติการพายุทะเลทราย ก่อสงครามในอิรักครั้งที่สอง โดยก่อนการรุกราน อเมริกา และอังกฤษ ใส่ร้ายอิรักว่า ครอบครองอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง คุกคามความมั่นคงของตนและพันธมิตรในภูมิภาคยุโรป พ.ศ. 2545 อเมริกายืมมือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ อีกแล้วครับท่าน ผ่านมติกำหนดให้อิรักต้องยอมตรวจสอบว่า มิได้มีอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง และขีปนาวุธร่อนอยู่ในครอบครอง

แต่คณะตรวจสอบอาวุธ ไปตรวจกี่รอบก็ยังไม่พบหลักฐานอาวุธสักที จึงยุยงคนอิรักให้ก่อสงครามกลางเมืองซะเลย เพื่อขับไล่ ซัดดัม ฮุสเซน เอาดื้อๆ จนอิรักวุ่นวายยุ่งเหยิง วันที่ 20 มีนาคม 2546 อเมริกาจึงสวมรอยยึดครองอิรัก และจับกุมตัวประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ถูกพิจารณาโดยศาลอิรัก และประหารชีวิตโดยรัฐบาลใหม่ของอิรักที่อเมริกาชักใย

ประเทศอิรักภายหลังถูกอเมริกาโจมตีด้วยอาวุธ และสังหารซัดดัม ฮุสเซน ลงก็ชักใยประเทศนี้มาตลอด โดยการตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดจากมุสลิมนิกายซุนนีย์ปกครอง แล้วก็ครอบงำรัฐบาลใหม่ยึดเอาแหล่งน้ำมันมาทั้งหมด และเงินทุนสำรองประเทศราว 9 ล้านๆ บาทด้วย แม้สงครามจะสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2554 ก็ยังมีการสู้รบกันประปราย

สงครามครั้งนี้ได้คร่าชีวิตคนอิรักไปแล้วถึง 5 แสนคน บาดเจ็บพิการอีกนับไม่ถ้วน สหประชาชาติรายงานว่า มีผู้ลี้ภัย 4.7 ล้านคน (ประมาณ 16% ของประชากร) โดยมี 2 ล้านคนหนีออกนอกประเทศ และประชาชนพลัดถิ่นในประเทศ 2.7 ล้านคน ในปี 2550 คณะกรรมการต่อต้านคอรัปชันของอิรักรายงานว่า เด็กอิรัก 35% หรือเกือบ 5 ล้านคนกำพร้า กาชาดแจ้งว่าในเดือนมีนาคม 2551 สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในอิรัก อยู่ในระดับวิกฤตที่สุดในโลก โดยมีชาวอิรักหลายล้านคน ถูกบีบให้พึ่งพาแหล่งน้ำที่ไม่เพียงพอและคุณภาพต่ำ

ตั้งแต่นั้นมา ความรุนแรงประปรายยังมีต่อไปทั่วประเทศ กองกำลังติดอาวุธผสม ระหว่างกลุ่มนิกายต่าง ๆ ได้นำไปสู่การก่อความไม่สงบในอิรักในเวลาไม่นานนัก การต่อสู้ระหว่างกลุ่มในอิรักโดยนิกายซุนนีย์และชีอะห์หลายกลุ่ม มีการเกิดกลุ่มย่อยแยกใหม่ของอัลกออิดะฮ์ขึ้นในอิรัก ในปี 2551 ก็เกิดสงครามระหว่างนิการสุหนี่ กับนิกายชีอะห์

สถานการณ์สงครามกลางเมืองในอิรักตอนนี้วิกฤติหนัก เพราะกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามอิรักและเลแวนท์ หรือ ไอซิล ซึ่งมีนักรบอยู่ราว 3,000-5,000 คน และมีความโยงใยกับกลุ่มอัลกออิดะห์ กลุ่มติดอาวุธนี้เป็นพวกวาฮะบี สายเคร่ง ต่อต้านทุกศาสนา ทุกนิกายที่ไม่ใช่นิกายเดียวกัน กลุ่มนี้ได้รับทุน อาวุธ สนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป และอิสราเอล

กลุ่มไอซิส ISIS หรือ ไอซิล ISIL เป็นแนวคิดเดียวกับกลุ่มตอลีบัน ที่เคยใช้ปืนใหญ่ยิงทำลายพระพุทธรูป และโบสถ์คริสต์ ในอัฟกานิสถาน เป็นกลุ่มเดียวกับก่อความไม่สงบในภาคใต้อิรัก เป็นสายป่านเดียวกับกลุ่มที่ปฏิบัติการถล่มสนามบินในเมืองการาจีที่ปากีสถาน จนย่อยยับคนตายและเจ็บเพียบ

ตอนนี้กลุ่มนี้ได้ยึดเมืองรามาดี และฟัลลูจาไว้ได้สำเร็จ และต่อเนื่องด้วยบุกโจมตีและยึดเมืองโมซูล เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรัก ที่มีประชากรราว 2 ล้านคนไว้ได้อีก ประชาชนกว่า 5 แสนคน (หนึ่งในสี่) ต้องอพยพหนีตายกันอลหม่าน

กลุ่มไอซิส ISIS หรือ ไอซิล ISIL ยังได้รุกคืบต่อไปด้วยการเข้ายึดเมืองติกริต บ้านเกิดของอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ที่อยู่ใกล้กับกรุงแบกแดดเพียง 150 กิโลเมตร มีการสู้รบกับทหารของรัฐบาลด้วยอาวุธหนักนานาชนิด แม้แต่ทหารจำนวนมาก ก็ถอดเครื่องแบบแล้วใส่ชุดพลเรียนหนีไปด้วยเช่นกัน การยึดเมืองโมซูลไว้ได้ต้องถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของกลุ่มติดอาวุธนี้

เหตุผลในการรุกคืบอย่างหนักครั้งนี้ เป้าหมายหลักไม่ใช่ยึดทั้งประเทศอิรัก เพราะอเมริกาและพันธมิตรยึดครองชักใยอยู่เบื้องหลังอยู่แล้ว แต่พวกเขาต้องการวางรากฐาน เพื่อเตรียมการทำสงครามกับประเทศอิหร่านที่อยู่ติดกันอีกครั้ง แล้วทำลายมุสลิมนิกายชีอะห์ และขบวนการฮิสบุลเลาะห์ ที่เป็นคู่ต่อกรกับอิสราเอลอยู่

นายกรัฐมนตรี นูรี อัลมาลิกี ของอิรัก เองก็ประกาศจะขับไล่กลุ่มติดอาวุธให้ได้ พร้อมกับจะเอาผิดกับทหารอิรักที่หนีทัพในระหว่างที่กลุ่มไอซิลเข้าโจมตี หลังถูกกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงโจมตีผู้นำอิรัก บอกว่าจะไม่ร้องขอความช่วยเหลือจากต่างชาติ แต่จะจัดการวิกฤติที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กงศุลตุรกีในเมืองโมซูลเกือบ 50 คน ก็ถูกกลุ่มติดอาวุธจับตัวไปด้วย

นายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ประณามการลักพาตัวเจ้าหน้าที่กงศุลตุรกี ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ส่วนสหรัฐแสดงความกังวลกับสถานการณ์ในอิรักเช่นกัน นี่คือตัวอย่างอย่าเป็นรูปธรรม แผนการยุยง ของอเมริกาและพันธมิตร ให้อิสลามสู้รบกันเองจนง่อยเปลี้ย เจ็บจริง ตายจริง พินาศจริง เพื่อทำลายอิสลามให้อ่อนแอลง แล้วประเทศพวกตนเองก็จะเข้าไปค่อยๆ ฮุบสมบัติ และทรัพยากรของประเทศเหล่านั้น มาเป็นของตนเองไปเรื่อยๆ เหมือนไม่รู้จักพอ..ใช้กำลังที่แข็งแรงกว่าปล้นเอาคนอ่อนแอกว่า ว่างั้นเถอะ

เมื่อใดที่คนในชาติแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย หรือฝ่ายย่อยๆ เมื่อนั้นอเมริกา และผองเพื่อน จะเข้ามารุมตอดทันที โดยเข้ามาสนับสนุนฝ่ายหนึ่ง ทั้งทางลับและเปิดเผย ในรูปแบบทุนทางการเงิน อาวุธสงคราม การบ่อนทำลายสถาบันหลัก การแทรกแซงทางการทหาร ทางเศรษฐกิจการเงิน ฯลฯ

โดย ...เสธ น้ำเงิน 4

ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

- See more at: กลุ่มไอซิส ISIS ทหารรับจ้างสหรัฐฯ และพันธมติร เดินเกม “แบ่งแยกแล้วปกครอง”

กลุ่มไอซิส ISIS ทหารรับจ้างสหรัฐฯ และพันธมติร เดินเกม “แบ่งแยกแล้วปกครอง”

 

อวยชัย กุลพงษ์



โศกนาฏกรรมที่ไม่มีวันลืมของ “คลื่นยักษ์” ที่ซัดความพินาศสู่ชายฝั่งอันดามันกลืนชีวิตผู้คนนับแสนลงใต้ท้องมหาสมุทร ความสวยงาม ความสนุกสนานกลับกลายเป็นเพียงซากความทรงจำอันเลวร้าย หลายครอบครัวพลัดพราก ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนั้น

หากมันเกิดขึ้นอีกครั้งพวกคุณจะทำอย่างไร?
เราจะพาย้อนกลับไปในเหตุการณ์ “คลื่นสึนามิ” ถล่มชายฝั่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 อะไรคือสัญญาณเตือน โดยมี ดร.สมิท ธรรมสโรช อดีตประธานอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ มาอธิบายและให้คำตอบ ปิดท้ายด้วยคลิปจำลองเหตุการณ์เพื่อนำเสนอการเอาตัวรอดจากภัยพิบัติอันน่าสะพรึงกลัว ติดตามได้ใน “รายการต้องรอด” ตอน สึนามิ

ไทยรัฐทีวีช่อง 32 ออกอากาศแล้วเมื่อวันพุธที่ 7 พฤษภาคม 2557
รายการสาระคดีเชิงข่าว ต้องรอด : คลื่นยักษ์"สึนามิ" 7 พ.ค. 57

ตอนที่ 1

<iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/tfGX2rmBGhg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ตอนที่ 2

<iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/4dn3iqm5a-8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ตอนที่ 3

<iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/JWOVL6_Z1tA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

อวยชัย กุลพงษ์



รังสีคอสมิคและการเปลี่ยนแปลงของ DNA
การถาโถมเข้ามาครั้งใหญ่ของรังสีพลาสม่า และมันก็ได้ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตรูปแบบใหม่ขึ้นมาบนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ ดาร์วิน ซึ่งเป็นนักวิวัฒนาการผู้โด่งดังได้เคยออกมายอมรับว่า เฟส Cambrian Radiation นี้แหละที่มีหลักฐานความขัดแย้งต่อทฤษฎีวิวัฒนาการของเขามากที่สุดและปรากฎการณ์เดียวกันนี้ มันก็กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ด้วย เพราะว่าการแผ่รังสีจากดวงอาทิตย์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ได้เริ่มอัดประจุลงมาสู่โลกแบบติดเทอร์โบมาตั้งแต่ปี 1989 แล้ว และก็ยังคงดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้ด้วย ดังนั้น การปลดปล่อยมวลสารจากดวงอาทิตย์ (Corona Mass Ejection - CME) ที่เกิดขึ้นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน จึงทำให้รังสี, อิออน, และอิเล็กตรอนจำนวนมากมายมหาศาลเกินกว่าจะจินตนาการได้ ถาโถมเข้ามายังโลกจนท่วมท้นไปหมดอยู่ ซึ่งรังสีที่มีประจุเหล่านี้ จะไปทำให้ร่างกายเนื้อของพวกคุณเกิดการพัฒนาขึ้นอย่างจริงแท้แน่นอน โดยการทำให้ DNA ของพวกคุณเกิดการเปลี่ยนแปลงไป และร่างกายของพวกคุณก็กำลังจะมีความหนาแน่นทึบตันน้อยลงด้วย แหล่งที่มาหลักของพลังงานใหม่ของโลกมาจากพายุสุริยะ ที่จะปลดปล่อยมวลสารของรังสีจากเอกภพลงมาสู่โลก ซึ่งพวกเราจะเรียกมันว่า “การเปลี่ยนไปสู่ยุค Aquarius” (Aquarian Shift) ถึงแม้ว่าผู้รับสาส์นจะอยากใช้ศัทพ์ทางธรณีวิทยาว่า Anthropocene Radiation ก็ตาม การแผ่กระจายของอิออนจากเอกภพในยุค Aquarius นี้ แม้ว่ามันจะทำให้พวกคุณงงงวยอยู่ก็ตามแต่มันก็คือตัวการหลักที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น และมันก็มีบทบาทสำคัญจนขาดเสียมิได้ และเป็นบทบาทในแง่ดีมากๆซะด้วย ต่อการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนี้ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวแต่อย่างใดเลย รังสีเหล่านี้กำลังส่งผลกระทบต่อดาวเคราะห์โลกของพวกคุณอยู่อย่างมาก มากกว่าการแค่ทำให้สนามแม่เหล็กโลก หรือแม็กนีโตสเฟียร์ (magnetosphere) เกิดการสั่นคลอนเท่านั้น และมากกว่าการแค่ทำให้แผ่นรอยเลื่อนของเปลือกโลก (tectonic plate) และสภาพภูมิอากาศของโลกได้รับผลกระทบเท่านั้น แต่พวกเรายังจะบอกเพิ่มเติมอีกด้วยว่า อิออนที่แพร่ผ่านเข้ามาเหล่านี้แหละ คือตัวเร่งปฏิกิริยา (catalyst) หลักที่แท้จริง ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การเกิดซูเปอร์สตอร์ม, การเกิดแผ่นดินไหว, และคือสาเหตุหลักของการเกิดภาวะโลกร้อนด้วย
นักทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดหลายคนของพวกคุณ อาจจะอยากให้สาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ มันเกิดจากฝีมือของมนุษย์ แต่พวกเราจะบอกพวกคุณว่า มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย เพราะว่ามันเกิดจาก “พลาสม่า” (plasma) จำนวนเป็นพันๆล้านตัน ที่กำลังถาโถมลงมาเอิบอาบโลกใบนี้อยู่ นับตั้งแต่เมื่อ 2 ทศวรรษที่แล้วต่างหากหละ ซึ่งพลาสม่าที่โหมกระหน่ำลงมานี้ มีปริมาณมากกว่าครั้งไหนๆในประวัติศาสตร์ที่เคยถูกบันทึกเอาไว้ มากมายนัก และความคิดที่ว่าการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นอยู่บนดาวเคราะห์โลกในขณะนี้ เป็นฝีมือของเครื่องสร้างความร้อนในชั้นบรรยากาศ ที่มีขนาดเล็กนิดเดียว ที่ชื่อว่า HAARP นั้นด้วย ก็เป็นเหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลยด้วย เพราะว่ามนุษย์ยังไม่มีเทคโนโลยีใดๆ ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงถึงขนาดนี้ได้ มันเกิดจาก “พลาสม่าจากดวงอาทิตย์” (Solar Plasma) ต่างหากหละ! และมันก็เคยทำให้โลกของพวกคุณ และทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่บนโลกของพวกคุณ เปลี่ยนแปลงมาแล้วด้วยก่อนหน้านี้ ซึ่งก็คือในยุคที่ชื่อว่า the Cambrian Radiation นั่นเอง และพวกเราอยากจะบอกพวกคุณอีกว่า การไหลบ่าเข้ามาของอิออนดังกล่าวนี้ ยังจะมีผลกระทบต่อร่างกายเนื้อของพวกคุณอีกด้วย เพราะว่ามันจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ร่างกายเนื้อของพวกคุณเกิดการเปลี่ยนแปลง จากการเป็นรูปธรรมชีวิตที่มีธาตุคาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลักของร่างกาย ไปเป็นรูปธรรมชีวิตที่มีซิลิคอนเป็นองค์ประกอบหลักของร่างกายแทน DNA และโครงสร้างใหม่ของชีวิต
บรรดานักวิทยาศาสตร์และนักธรณีฟิสิกส์ของพวกคุณหลายคน ได้จดบันทึกผลกระทบของมันครั้งนั้นเอาไว้ว่า มันมีการเกิดเปลวสุริยะ หรือ Solar flare ขึ้นจำนวนกว่า 200 ครั้ง ในการปลดปล่อยมวลสารจากดวงอาทิตย์ (Coronal Mass Ejection) จำนวน 36 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งในจำนวนนี้มีอยู่ 11 ครั้งที่เป็นระดับ X-class และสนามพลังออร่าของดาวเคราะห์โลก หรือก็คือแม็กนีโตสเฟียร์ (Magnetosphere) ก็ได้ถูกทำให้แบนลงไปเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของขนาดเดิมของมัน จนมีรูปร่างคล้ายกับแมงกะพรุนโฟตอน (photonic jellyfish) ไปเลย พายุแม่เหล็กครั้งใหญ่ครั้งนั้น ได้ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นหลายอย่าง เช่น องค์การ NASA สูญเสียร่องรอยของเทหะวัตถุบางอย่างที่พวกเขากำลังแกะรอยติดตามดูพวกมันอยู่ไป, คอมพิวเตอร์ที่มีความทันสมัยและสลับซับซ้อนหลายระบบได้ล่มลง, แท่นขุดเจาะน้ำมันหยุดการเจาะน้ำมัน, ระบบตรวจติดตามตำแหน่งทั่วโลกใช้การไม่ได้, เข็มทิศใช้การไม่ได้, เครือข่ายระบบไฟฟ้าช็อตทำให้ประชากรในแคนาดาและในอเมริกาเหนือหลายล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้, สถานีอวกาศ MIR ถูกตัดขาดและกระแสการหลั่งไหลเข้ามาของพลังงานนี้ ก็ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง เปลวสุริยะลูกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยถูกบันทึกไว้ ได้เกิดขึ้นในปี 2001 ตามด้วยพายุสุริยะอีก 150 ลูกในปี 2003
และในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมานี้ เปลวสุริยะที่เป็นระดับ X-class ก็ได้เกิดขึ้นมากขึ้น มากกว่าที่เคยถูกบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์โลกครั้งไหนๆซะอีก ปรากฎการณ์แสงที่ไม่ธรรมดาก็ได้เริ่มเกิดขึ้นด้วย เช่น แสงออโรร่าสีแดง (red aurora) ที่เกิดขึ้นได้ยาก ก็ได้เกิดขึ้นแล้วและถูกบันทึกเอาไว้ และแสงออโรร่าก็สามารถมองเห็นได้ในเวลากลางวันแล้ว, ปรากฎการณ์แสงที่น่าสนใจที่เรียกชื่อว่าแมงกะพรุนโฟตอน (photonic jellyfish)
กระแสการหลั่งไหลเข้ามาของอิออนอันน่าพิศวงนี้ มีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนมิติอย่างขาดเสียมิได้ และมันก็กำลังทำงานส่งเสริมกันกับของโลกอยู่ด้วย เพราะว่า รูปแบบการกำทอนแบบใหม่ของอิออนนี้ จะช่วยให้พวกคุณสามารถเปิดใช้งานต่อมไพเนียลได้ง่ายดายขึ้นนักวิชาการของพวกคุณหลายคนได้ค้นพบมานานแล้วว่า การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของอิออนที่อยู่ในสนามแม่เหล็ก จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อจิตสำนึกของมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศษคนหนึ่งที่ชื่อ Mesmer คือคนแรกที่ได้บังเอิญไปพบความรู้นี้เข้า เขาพบว่าโดยการใส่ “สิ่งทดลอง” ลงไปในสนามพลังงานที่มีอิออนลบเข้มข้น (สนามแม่เหล็ก) อยู่ สิ่งทดลองจะสามารถเข้าถึงสภาวะความตระหนักรู้ที่เหลือเชื่อได้ ซึ่งในสภาวะนี้จะช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสารกับ “จิตแห่งจักรวาล” ได้ พวกเราขอบอกพวกคุณว่า ที่มันเป็นเช่นนี้ได้ก็เพราะว่าเกิดจากการเหนี่ยวนำของอิออนที่ไปเปิดการทำงานของต่อมไพเนียลขึ้นชนเผ่าพื้นเมืองของพวกคุณหลายเผ่า ก็มักจะชอบเข้าไปในพื้นที่ๆพวกเขาเรียกกันว่า “ดินแดนศักดิ์สิทธิ์” เป็นพิเศษเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพราะว่า พวกเขาค้นพบว่าการใช้ญาณทัศนะของพวกเขา จะสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า เมื่ออยู่ในสถานที่ๆมีพลังมากๆเช่นนั้น เหตุผลก็เพราะว่าพลังงานจากแร่ธาตุและจากพื้นโลก (mineralogy and telluric energy) ที่มีอยู่ในพื้นที่พิเศษและหายากเหล่านั้น จะทำให้สัดส่วนของอิออนแตกต่างออกไป และจะช่วยให้ต่อมไพเนียลเปิดการใช้งานขึ้นมาได้
มีผลการศึกษาเมื่อเร็วๆนี้ว่า นักวิจัยของพวกคุณบางคน ในบางมหาวิทยาลัย ได้ค้นพบว่า ถ้าเปลี่ยนสัดส่วนของอิออนลบต่ออิออนบวก ในเครื่องกำเนิดอิออน ให้เป็นสัดส่วน 6:1 แล้ว จะทำให้ “กลุ่มของผู้ถูกทดลอง” มีประสบการณ์ “ถอดจิต” (out of body experience) ได้ และอีกครั้งหนึ่ง นี่คือผลจากการเหนี่ยวนำของอิออน ทำให้ต่อมไพเนียลเปิดการใช้งานขึ้นมาสัดส่วน และ การสร้างสรรค์ในคลื่นระดับธีต้า (Ratio & Theta Creation)
การถาโถมเข้ามาอย่างท่วมท้นของอิออนลบบนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณในขณะนี้ คือการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนของอิออน ด้วยเช่นกัน และสิ่งนี้ก็กำลังทำงานร่วมกันกับโลกอยู่ เพื่อที่จะช่วยให้จิตสำนึกของพวกคุณเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ และแน่นอนว่ารวมถึงร่างกายเนื้อของพวกคุณด้วย ตอนนี้มีนักวิทยาศาสตร์และนักชีววิทยาของพวกคุณหลายคน ที่กำลังรู้เรื่องนี้กันมากขึ้นเรื่อยๆอยู่ ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้มีโปรเจ็กต์อยู่โปรเจ็กต์หนึ่งที่ชื่อว่า Human Genome Projetc ที่ได้ยืนยันถึงเรื่องนี้แล้ว เรื่องที่ว่า DNA ของมนุษย์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือผ่าเหล่าได้ ไม่เพียงแต่จะขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับ “โปรแกรมด้านความเชื่อต่างๆ” ที่วัฒนธรรมเป็นผู้ปลูกฝังเอาไว้ให้อีกด้วย เมื่อปีที่แล้ว มีผลการทดลองที่น่าประหลาดใจอย่างที่สุดเกิดขึ้น และได้สั่นสะเทือนวงการวิทยาศาสตร์ไปทั่วโลก การทดลองที่ว่านี้ได้เปิดศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ใหม่ขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง และมันก็ได้ถูกทดลองโดยนักวิชาการที่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปซะด้วย ซึ่งคนๆนั้นก็คือ นักวิทยาศาสตร์ผู้ได้รับรางวัลโนเบล Dr.Luc Montagnier หลอดทดลอง 2 ชุด ถูกปิดผนึกอย่างหนาแน่น จนไม่มีสิ่งใดเข้า-ออกได้ ซึ่งหนึ่งในสองหลอดนั้นบรรจุชิ้น DNA ชิ้นเล็กๆเอาไว้ ส่วนอีกหลอดหนึ่งนั้นบรรจุน้ำกลั่นปลอดเชื้อเอาไว้ หลอดทดลองทั้งสองชุดนี้ถูกวางไว้คู่กัน ในสนามพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีคลื่นความถี่ 7Hz
ผลการทดลองพบว่า หลอดทดลองชุดที่บรรจุน้ำกลั่นปลอดเชื้อเอาไว้ มีชิ้นส่วนของ DNA ปรากฎขึ้นมาเอง เหมือนกับว่ามันหายตัวเข้ามาเองอย่างนั้นแหละ ในขณะที่เมื่อทำการทดลองซ้ำอีก โดยที่ไม่มีสนามพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีคลื่นความถี่ 7Hz ล้อมรอบอยู่แล้ว ผลการทดลองพบว่า ไม่มี “การหายตัว” เข้ามาของชิ้นส่วน DNA เกิดขึ้นแต่อย่างใดเลย
2013 ~ The Aquarian Shift & Anthropocene Radiation Pt. 1 - Temple Illuminatus

 

ฮือฮา สวิตเซอร์แลนด์พบ"แมงมุมประหลาด"กินปลาเป็นอาหาร กลายพันธุ์หนักขึ้น (ชมภาพ) วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 15:40:06 น.



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ว่า นักวิทยาศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัย"บาเซิล"ของสวิตเซอร์แลนด์ ได้ค้นพบแมงมุมประหลาด กินปลาเป็นอาหาร โดยบางตัวใช้พิษรุนแรงฆ่าปลาที่ตัวใหญ่กว่ามันมาก

รายงานระบุว่า นักนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ได้ค้นพบแมงมุมดังกล่าวมีแปดตระกูลซึ่งสามารถกินและจับปลาได้ โดยแมงมุมพวกนี้จะอาศัยอยู่ในบริเวณน้ำจืด สระน้ำ และหนองน้ำ และบางตระกูล สามารถว่ายน้ำได้ ดำน้ำได้ หรือเดินบนน้ำได้ แต่โดยปกติ มันจะมีพิษรุนแรงอยู่ในตัว และมีน้ำย่อยที่สามารถใช้ฆ่าปลาที่ตัวใหญ่หรือมีน้ำหนักมากกว่ามัน หรือโดยเฉลี่ยราวเท่าตัว และจากหลักฐานพบว่า บางครั้งปลาที่อยู่แหล่งพำนักใกล้ของแมงมุมตระกูลเหล่านี้ อาจเป็นเหยื่อของพวกมัน

นอกจากนี้ แมงมุมเหล่านี้มักจะถูกพบเห็นว่าจับปลาน้ำจืดขนาดเล็กด้วย โดยพฤติกรรมการกินเหยื่อ แมงมุมเหล่านี้จะซ่อนตัวอยู่ใต้หินหรือต้นไม้ และวางเท้าเกาะบนผิวน้ำ พร้อมที่จะโจมตีเหยื่อ

ที่ผ่านมามีรายงานว่า มีแมงมุมกินปลาทั่วภูมิภาคทั่วโลกยกเว้นขั้วโลกใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เขตชื้นอย่างฟลอริด้า ของสหรัฐ และโดยปกติแล้ว แมงมุมมักจะเป็นสัตว์ล่าแมลง แต่จากการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า แมงมุมหลายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ใกล้น้ำได้กลายพันธุ์มากยิ่งขึ้นในการเป็นนักล่าปลา




ฮือฮา สวิตเซอร์แลนด์พบ"แมงมุมประหลาด"กินปลาเป็นอาหาร กลายพันธุ์หนักขึ้น (ชมภาพ) : มติชนออน

 

อวยชัย กุลพงษ์

แนะซ้อมหนี “สึนามิ” ให้เคยชิน และต้องมีอาคารเสี่ยงภัย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2557 20:09 น.



สกว. - นักวิชาการชี้คลื่นกระหน่ำอันดามันตอนนี้คือคลื่นจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ไม่ใช่คลื่นสึนามิ แนะประชาชนจึงควรศึกษาเส้นทางหนีภัยและซักซ้อมการหลบภัยในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับเส้นทางหลบภัย พร้อมแนะ 9 แนวทางปฏิบัติสร้างอาคารเสี่ยงภัย

จากเหตุการณ์คลื่นลมแรงในบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางครั้งคลื่นสูงถึง 5 เมตร ได้ทำลายกำแพงกันน้ำตามแนวชายฝั่ง ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าจะมีเหตุสึนามิซ้ำสองหรือไม่ ผนวกกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ที่ อ. พาน จ.เชียงราย ที่ผ่านมา ทำให้เกิดมีข่าวแพร่กระจายว่าจะเกิดสึนามิอีกครั้งในไม่ช้านี้ ส่งให้สาธารณชนเกิดความตระหนก

รศ.ดร.อมร พิมานมาศ รองเลขาธิการสภาวิศวกร และอาจารย์ประจำสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า คลื่นลมดังกล่าวได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งมีกำลังแรงในช่วงเวลานี้ ทำให้เกิดคลื่นลมแรงและกระทบต่อชายฝั่งเท่านั้น แต่ไม่มีมวลน้ำไหลทะลักเข้ามาในพื้นดินดังเช่นสึนามิ

“สึนามิเกิดจากแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในทะเลหรือมหาสมุทรเท่านั้น ดังนั้น แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในภาคเหนือหรือในพม่า ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวบนบก จึงไม่ทำให้เกิดสึนามิในทะเลได้ และแผ่นดินไหวในทะเลจะต้องมีขนาดใหญ่เกิน 7 ริกเตอร์ขึ้นไปจึงจะทำให้เกิดสึนามิได้ แต่เป็นเพียงสึนามิขนาดเล็กที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย หากเป็นสึนามิที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชายฝั่ง ทรัพย์สินและชีวิตของประชาชนได้นั้น ต้องมีขนาดเกิน 8 ริกเตอร์ขึ้นไป” รศ.ดร.อมร ระบุ

นักวิจัยโครงการลดภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวในประเทศไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวเพิ่มเติมว่า แผ่นดินไหวที่จะทำให้เกิดสึนามิได้นั้นต้องเป็นแผ่นดินไหวที่เกิดจากการมุดตัวของแผ่นเปลือกโลก แล้วทำให้พื้นทะเลยกตัวขึ้นในแนวดิ่ง ผลักให้มวลน้ำมหาศาลซัดเข้าหาชายฝั่ง ตัวอย่างดังเหตุการณ์ แผ่นดินไหวขนาด 9.1 ริกเตอร์ ในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อปี 2547 ส่วนแผ่นดินไหวในทะเลซึ่งเกิดขึ้นจากการเลื่อนไถลของรอยเลื่อนหรือเปลือกโลกในแนวราบจะไม่ทำให้เกิดสึนามิ

“สำหรับประเทศไทยบริเวณที่เสี่ยงต่อสึนามิ คือ ชายฝั่งทะเลอันดามัน เนื่องจากอยู่ใกล้แนวที่แผ่นเปลือกโลกมุดตัวเข้าหากันในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลอันดามันไปเพียง 500-1000 กิโลเมตร เท่านั้น จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ได้แก่ ภูเก็ต ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง สตูล และหมู่เกาะในทะเลอันดามัน เช่น หมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะสิมิลัน เป็นต้น เพราะแนวมุดตัวของเปลือกโลกยังมีพลังอยู่ จึงต้องระวังอาจเกิดสึนามิซ้ำได้อีก” รศ.ดร.อมรกล่าว

ส่วนบริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทยมีความเสี่ยงจากสึนามิน้อยมาก เนื่องจากไม่พบรอยเลื่อนขนาดใหญ่ อยู่ห่างไกลจากแนววงแหวนไฟแปซิฟิกหลายพันกิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยมีความเสี่ยงต่อคลื่นพายุหมุนยกซัดฝั่ง (สตอร์มเสิร์จ) ซึ่งเกิดจากลมพายุ ซึ่งไม่ใช่คลื่นสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหว ทั้งนี้ แผ่นดินไหวไม่สามารถแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าได้เหมือนสึนามิ โดยหากเกิดสึนามิขึ้นในมหาสมุทรอินเดีย จะมีเวลาแจ้งเตือนภัยประมาณ 1-3 ชั่วโมง ขึ้นกับจุดที่เกิดเหตุในทะเล

“ดังนั้น ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งจัดเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิจะต้องให้ความใส่ใจกับการแจ้งเตือนสึนามิจากทางการอยู่ตลอด และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นต้องรีบถอยห่างจากชายฝั่งทันที แล้วมุ่งสู่ที่ปลอดภัยซึ่งหมายถึงที่สูงซึ่งน้ำท่วมไปไม่ถึง ประชาชนจึงควรศึกษาเส้นทางหนีภัยและซักซ้อมการหลบภัยในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับเส้นทางหลบภัย”

สำหรับการก่อสร้างอาคารในเขตเสี่ยงภัยสึนามิ จะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยมีแนวทางปฏิบัติประกอบด้วย

1.หลีกเลี่ยงการก่อสร้างอาคารในเขตพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายฝั่งในระยะ 3-4 กิโลเมตร หากจำเป็นต้องก่อสร้างควรก่อสร้างอาคารคอนกรีตขนาดใหญ่ที่มีความแข็งแรง

2.ควรเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ไม่ควรก่อสร้างอาคารไม้หรือโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาเพราะอาจจะถูกคลื่นพัดพาลอยไปตามกระแสน้ำได้ง่าย

3.ฐานรากควรเป็นเสาเข็ม หรือฐานรากแผ่ที่ฝังในชั้นดินที่แข็งแรง เพื่อให้อาคารยึดกับฐานรากอย่างมั่นคงไม่ลอยไปตามกระแสน้ำ หากเป็นฐานรากแผ่จะต้องฝังฐานรากให้ลึกลงไปใต้ระดับดินเดิมอย่างน้อย 1.5 เมตร ถ้าวางตื้นกว่านั้น มีโอกาสที่คลื่นจะกัดเซาะดินใต้ฐานรากออกไปทำให้อาคารทรุดพัง หรือล้มได้

4.ชั้นล่างของอาคารควรปล่อยให้เป็นที่โล่งเพื่อให้น้ำไหลผ่านได้โดยสะดวก ไม่ควรก่อกำแพงมาต้านทานแรงดันน้ำเด็ดขาด เพราะมวลน้ำที่ทะลักเข้ามามีปริมาณมหาศาล แต่ควรใช้วิธีการลดแรงดันน้ำโดยปล่อยให้น้ำไหลผ่านตัวอาคารไปได้อย่างสะดวกแทน โดยไม่พัดพาเอาตัวบ้านไปด้วย

5.ไม่ควรก่อสร้างห้องใต้ดิน เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้ยินการแจ้งเตือนภัยสึนามิ และเป็นสถานที่ที่มีโอกาสถูกน้ำท่วมได้ง่าย

6.การก่อสร้างควรใช้ระบบเทในที่ และหลีกเลี่ยงการใช้พื้นสำเร็จรูปเพราะพื้นอาจหลุดออกจากโครงสร้างหลักได้ง่าย

7.ควรใช้วัสดุที่มีคุณภาพดีในการก่อสร้าง เนื่องจากการก่อสร้างใกล้ชายทะเล เหล็กเสริมอาจเป็นสนิมได้ง่าย ทำให้อายุการใช้งานของอาคารสั้นลง

8.ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของโครงสร้างควรยึดกันอย่างมั่นคง โดยอาศัยเหล็กเสริมยึดชิ้นส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

9. ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำสำหรับรูปแบบและการก่อสร้างอาคารทั่วไปที่เหมาะสมในเขตเสี่ยงภัยสึนามิระดับปานกลาง พ.ศ. 2551 ของกรมโยธาธิการและผังเมือง

 

'ปูติน'สั่งกองทัพพร้อมรบเต็มที่
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



"วลาดิเมียร์ ปูติน" ผู้นำรัสเซียมีคำสั่งให้กองทัพภาคกลางซึ่งประจำการอยู่ในภูมิภาคยุโรป เตรียมสู้รบเต็มที่

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียมีคำสั่งให้กองทัพภาคกลางซึ่งประจำการอยู่ในภูมิภาคยุโรป เข้าสู่สถานะเตรียมพร้อมสู้รบในระดับเต็มที่หลังจากรัสเซียยืนยันเมื่อวานนี้ว่ากำลังเสริมกำลังทหารบริเวณพรมแดนยูเครน

สำนักข่าวรัสเซียรายงานอ้างคำกล่าวของรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย "นายเซอร์เก ชอยกู" ว่า ตามที่ประธานาธิบดีปูตินได้มีคำสั่งดังกล่าว กำลังทหารที่อยู่ประจำในกองทัพภาคกลางตลอดจนแถวและหน่วยทหารทั้งหมดในภาคนี้ได้เข้าสู่สถานะเตรียมพร้อมสู้รบอย่างเต็มที่ตั้งแต่เวลา 11.00 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่นหรือเวลา 14.00 น. วันนี้ตามเวลาในไทย นอกจากนี้ นายปูตินยังสั่งให้กองทัพดำเนินการซ้อมรบโดยไม่มีกำหนดตายตัว และให้เสร็จสิ้นลงภายในวันที่ 21-28 มิ.ย.นี้

ด้านหัวหน้าคณะเสนาธิการทหารรัสเซียเผยว่า การซ้อมรบครั้งใหม่จะมีทหารเข้าร่วมมากกว่า 65,000 นาย เครื่องบินกว่า 180 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 60ลำ และยุทโธปกรณ์ประมาณ 5,500 ชิ้น วัตถุประสงค์หลักอย่างหนึ่งของการซ้อมรบคือ การเคลื่อนพลในระยะทางไกล

Tags : วลาดิมีร์ปูติน • รัสเซีย • สู้รบ

'

 

สหรัฐปัดส่งทหาร-แนะอิรักสร้างเอกภาพ
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



"โอบามา"ลั่นสหรัฐส่งกำลังช่วยอิรักแค่ไหนก็สูญเปล่า "ปูติน" ออกปากช่วยอิรักเต็มที่

นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเตือนอิรักว่า ไม่ว่าสหรัฐจะส่งกำลังเข้าไปช่วยมากแค่ไหนในวิกฤตการณ์ภายในประเทศ ก็ไม่สามารถช่วยรักษาเสถียรภาพในอิรักได้ หากผู้นำทางการเมืองในอิรักยังไม่ละทิ้งความเชื่อด้านการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และหันมาสร้างความเป็นเอกภาพในประเทศร่วมกัน

นายโอบามา กล่าวว่า ได้พูดถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจนแล้วกับ นายนูรี อัลมาลิกี นายกรัฐมนตรีอิรัก และแกนนำคนอื่นๆ ในอิรัก แทนที่จะส่งกำลังเข้าไปตามการร้องขอ

คำประกาศนี้มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่นายโอบามาให้คำมั่นจะส่งที่ปรึกษาทางการทหาร 300 นายช่วยอิรักในการรับมือกับการโจมตีของกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์ (ไอเอสไอแอล) แต่ปฏิเสธที่จะส่งกำลังโจมตีทางอากาศเข้าปราบปรามกลุ่มติดอาวุธ เป็นสาเหตุให้อิหร่านตำหนิว่าสหรัฐขาดความมุ่งมั่นในการปราบปรามการก่อการร้าย

ก่อนหน้านี้มีทหารอเมริกันจำนวนมากที่สละชีวิตในสงครามอิรัก เพื่อให้อิรักได้มีโอกาสสร้างประชาธิปไตยและมีเสถียรภาพทางการเมือง แต่ขณะนี้หลายฝ่ายมองว่าจะเป็นการสูญเปล่า

"เราเคยให้โอกาสกับอิรักในการมีประชาธิปไตย และก้าวข้ามความขัดแย้งแบ่งฝ่าย เพื่อเห็นแก่อนาคตที่ดีกว่าของลูกหลานในวันข้างหน้า แต่ดูเหมือนพวกเขายังไม่สามารถผ่านการทดสอบเรื่องความเชื่อใจกันได้" ผู้นำสหรัฐอธิบายกับสื่อมวลชน

สหรัฐยังคงไม่ยอมรับในตัว นายมาลิกี ผู้นำอิรักซึ่งอยู่ฝ่ายนิกายชีอะห์ ในข้อหาที่เขาล้มเหลวในการเข้าถึงประชาคมของนิกายสุหนี่ในเวลา 2 ปีครึ่งที่เขารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากที่สหรัฐถอนทหารออกจากอิรัก

ผู้นำสหรัฐยังเน้นย้ำถึงการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองมากกว่าการส่งกำลังทหารเข้าต่อสู้กับกลุ่มไอเอสไอแอล ซึ่งเข้าโจมตีและยึดครองหลายพื้นที่ของอิรัก รวมทั้งเมืองโมซุล เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ

ทหารผ่านศึกชี้เสียสละ"สูญเปล่า"

ทหารผ่านศึกจากสงครามในอิรักหลายราย จ้องมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิรักด้วยความโกรธเคืองที่การเสียสละของพวกเขาในช่วงที่สหรัฐส่งกำลังไปทำสงครามในอดีตอาจต้องสูญเปล่า เนื่องจากอิรักยังคงจมอยู่กับการนองเลือดเพราะการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

กลุ่มผู้ผ่านสงครามในอิรักมองว่า ผลการต่อสู้ตั้งแต่ปี 2550 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และคาดว่าที่ผ่านมากองทัพสหรัฐได้ช่วยสร้างเสริมความมั่นคงในอิรัก และลดความแข็งกร้าวของกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์ แต่สถานการณ์ความวุ่นวายของอิรักในปัจจุบันทำให้นายทหารหลายคนอย่าง นายจอห์น แนกล์ เจ้าหน้าที่กองทัพที่ปลดเกษียณแล้ว ผู้ที่เคยปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดอันบาร์ตั้งแต่ปี 2546 มีความไม่พอใจอย่างมาก

นายแนกล์ กล่าวโทษต่อคณะบริหารงานของประธานาธิบดีโอบามาในเรื่องความล้มเหลวที่ไม่ผลักดันให้ทหารสหรัฐยังคงประจำการอยู่ในอิรักต่อไป เพราะการถอนกำลังออกมาตั้งแต่ปี 2554 ทำให้รัฐบาลอิรักที่นำโดยกลุ่มนิกายชิอะห์ยังคงแบ่งแยกชนชั้นกับประชาชนที่เป็นชาวสุหนี่

"ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น" นายแนกล์แสดงความไม่พอใจ พร้อมเสริมว่า สหายร่วมรบของเขารวมถึงชาวอิรักอีกหลายชีวิตต้องตายเพื่อให้โอกาสอิรักได้มีเสรีภาพและเสถียรภาพ รวมถึงการยอมรับเรื่องความแตกต่างในสังคม แต่ทั้งรัฐบาลอิรักและรัฐบาลสหรัฐกลับทำให้เรื่องนี้สูญเสีย และยังล้มเหลวในการป้องกันปัญหา จนการเสียสละของผู้กล้าเหล่านั้นต้องสูญเปล่า

สงครามความขัดแย้งในอิรักมีทหารสหรัฐเสียชีวิต 4,478 ราย ได้รับบาดเจ็บและพิการ 32,242 คน

"ปูติน"แห่งรัฐเซียเสนอตัวช่วยอิรัก

ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย แถลงว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ นายมาลิกี นายกรัฐมนตรีอิรัก แจ้งให้ทราบว่ารัสเซียจะให้การสนับสนุนรัฐบาลอิรักอย่างเต็มที่ในการต่อสู้กับกลุ่มไอเอสไอแอล

ก่อนหน้านี้ รัสเซียเคยออกมาตำหนิสหรัฐอย่างรุนแรงว่า การทำสงครามในอิรักร่วมกับอังกฤษระหว่างปี 2546-2554 เพื่อโค่นอำนาจประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดกลุ่มนักรบหัวรุนแรง จนสถานการณ์บานปลายในที่สุด

อิหร่านส่งหน่วยปฏิบัติการช่วยชีอะห์

รายงานจากกระทรวงกลาโหมของสหรัฐระบุว่า อิหร่านส่งหน่วยปฏิบัติการชุดเล็กเข้าช่วยเหลือรัฐบาลฝ่ายนิกายชีอะห์ของอิรักในการรับมือกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการโจมตีของกลุ่มไอเอสไอแอลซึ่งเป็นนิกายสุหนี่ แต่ยังไม่มีสัญญาณว่าจะมีการส่งกำลังทหารชุดใหญ่ตามมา

พลเรือตรีจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ยืนยันว่า มีการส่งหน่วยปฏิบัติการของชาวอิหร่านไปที่อีรักจริง แต่ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าจะมีการส่งกองกำลังภาคพื้นดินหรือกองกำลังขนาดใหญ่เข้าไปหรือไม่ พร้อมเสริมว่าการแทรกแซงของอิหร่านในอิรักไม่ถือว่าเป็นประเด็นใหม่ เนื่องจากในสมัยที่สหรัฐส่งกำลังเข้าไปในอิรักในช่วงปี 2546-2554 อิหร่านได้มีส่วนสนับสนุนกลุ่มนิกายชีอะห์และโจมตีทหารสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้สหรัฐและอิหร่านถือว่ามีจุดประสงค์ร่วมกันในการให้ความช่วยเหลืออิรัก และนายกรัฐมนตรีมาลิกีในการป้องกันการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธไอเอสไอแอล

ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับท่าทีของอิหร่าน โดย พลเรือนตรีเคอร์บี้ กล่าวว่า ต้องการให้อิหร่านเป็นฝ่ายแสดงจุดยืนของตัวเอง

 

Kaokala Fc



21 มิ.ย. ข่าวดี!! นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยเอสเซกส์ ประเทศอังกฤษคิดค้นโลหิต 'ทางเลือก' ให้ใช้แล้ว

ต่อจากนี้ผู้ป่วยที่ต้องการเลือดทดแทน จะมีโอกาสในการเข้าถึงเลือดได้มากขึ้น เมื่อนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยเอสเซกส์ ประเทศอังกฤษ สามารถคิดค้นเลือดทางเลือก หรือสารทดแทนเลือดขึ้นมาได้เป็นผลสำเร็จ โดยสารทดแทนเลือดนี้ได้รับการออกแบบมาให้นำออกซิเจนไปยังอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้อย่างปลอดภัย ไม่มีปัญหาด้านการต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกัน และไม่มีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดอาการ "เป็นพิษ" เช่นเดียวกับเลือดทางเลือกของผู้ผลิตรายอื่น ทั้งยังเก็บสำรองได้ในอุณหภูมิห้องเป็นเวลานาน

ทีมวิจัยให้ชื่อเลือดทางเลือกของพวกเขาว่า "ฮีม โอทู" (Haem O2) ตามชื่อของโมเลกุลสารฮีโมโกลบินที่เป็นตัวนำออกซิเจน ซึ่งเป็นสารสำคัญในเลือดและเลือดทางเลือกนี้ที่ใช้การดัดแปลงสารฮีโมโกลบินมาใช้ โดยฮีโมโกลบินดัดแปลงในฮีม โอทู นี้สามารถแตกตัวและกระจายออกซิเจนให้แก่เนื้อเยื่อในอวัยวะต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากทีมวิจัยได้เติมกรดอะมิโนที่ชื่อ ไทโรซีน เข้าไปเพื่อกำหนดให้เกิดปฏิกิริยานี้ ซึ่งแตกต่างจากเลือดปกติในร่างกายที่จะแตกตัวปล่อยออกซิเจนออกมาเมื่อสัมผัสกับวิตามินซี และกรดยูริคที่อยู่ในกระแสเลือด

การสร้างเลือดทางเลือก "ฮีม โอทู" นี้ อาศัยศัตรูตัวร้ายของมนุษย์เป็นผู้ผลิต นั่นคือใช้เชื้อแบคทีเรีย อี โคไลในการสร้างสารฮีโมโกลบินดัดแปลงขึ้นมา ก่อนที่ผู้ผลิตจะรวบรวมและนำฮีโมโกลบินที่ได้จากเชื้ออีโคไล มาทำความสะอาดจนปลอดเชื้ออื่นปะปน และทำให้สารฮีโมโกลบินดัดแปลงนี้เข้มข้นขึ้น เพื่อพร้อมที่จะช่วยชีวิตผู้ป่วยที่ต้องการเลือด

ม.เอสเซกส์ได้จดทะเบียนสิทธิบัตรการผลิต ฮีม โอทู นี้ในสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย อยู่ระหว่างการพิจารณาให้การรับรองสิทธิบัตรในสหภาพยุโรป ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของผู้ป่วยที่ต้องการเลือดโดยใช้ "เลือดทางเลือก" ชนิดนี้ในอนาคต

 

Kaokala Fc

21 มิ.ย. นักรบชีอะห์นับพันสวนสนามในกรุงแบกแดด อิรัก แสดงพลังร่วมต้านกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่







นักรบฝ่ายมุสลิมชีอะห์หลายพันคน ออกมาเดินสวนสนามในหลายพื้นที่ของประเทศอิรัก เพื่อแสดงพลังต่อต้านการรุกคืบของกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ ที่ก่อเหตุยึดเมืองสำคัญหลายแห่ง...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ว่า ชาวมุสลิมชีอะห์ในอิรักก่อตั้ง 'กองพลสันติภาพ' ออกมาเดินสวนสนามตามท้องถนนในอิรักเมื่อวันเสาร์ เพื่อแสดงพลังตามการเรียกร้องของนาย มุกตาดา อัล-ซาดาร์ หนึ่งในผู้นำทางการเมืองและศาสนาที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอิรัก หลังกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ซึ่งนำโดยกลุ่ม 'รัฐอิสลามในอิรักและลีแวนต์' (ไอซิส: ISIS) ที่ก่อการยึดเมืองสำคัญหลายแห่งของอิรัก รุกคืบใกล้ถึงเมืองหลวงกรุงแบกแดด

อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ของอิรักออกมายอมรับเมื่อวันเสาร์ ว่ากลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่นำโดยกลุ่มไอซิส สามารถยึดเส้นทางข้ามพรมแดนสู่ซีเรียสายสำคัญ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองกาอิมเอาไว้ได้ และสังหารกองกำลังความมั่นคงไปกว่า 30 นาย ระหว่างการต่อสู้ตลอดทั้งวันในวันศุกร์

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี นูริ อัล-มาลิกิ แห่งอิรัก กำลังถูกกดดันจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ ให้จัดตั้งรัฐบาลไม่แบ่งฝักฝ่ายขึ้นโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวมุสลิมสุหนี่ไปเข้าร่วมกับกลุ่มไอซิส นักรบชีอะห์นับพันสวนสนามในอิรัก แสดงพลังร่วมต้านกลุ่มติดอาวุธสุหนี่ - ข่าวไทยรัฐออนไลน

 

Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc



ภูเขาไฟ Etna ระเบิดใกล้สนามบิน

 

พุทธพันชาติ เทพไพฑูรย์
·
ภาพภูเขาไฟ Etna ที่อิตาลี
ที่ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 57
ดูคลิปที่นี่ อลังการมาก

พุทธพันชาติ เทพไพฑูรย์
·
ภาพภูเขาไฟ Etna ที่อิตาลี
ที่ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 57
ดูคลิปที่นี่ อลังการมาก

*NEW* Powerful Mount Etna Eruption / Sicily Airport Closed / JUNE 2014 - YouTube

ที่มาภาพ Geisterposta

<iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/J2cy7scfloU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ที่มาภาพ Geisterposta

 

ช็อก! เชื้อมรณะ “แอนแทรกซ์” รั่วไหลใน “ห้องทดลองลับ” รบ.US นักวิทยาศาสตร์ติดเชื้อ 75 ราย

 

สถาบัน อ้อผะหญา



นี้คือสภาพเขื่อนแม่สรวยที่ไปสำรวจวันนี้(20 มิ.ย.) ครับ..เราพบหลายจุดแตกร้าวอย่างที่เห็น..ทางกรมชลฯเอาปูนมาโป๊ะ..หลายจุดในอุโมงมีน้ำซึมออกมาจากคอนกรีต..ปรากฎคราบหินปูนทั่วไป..จากนั่นเราขึ้นมาสันเขื่อนพบหลายจุดแตกร้าว..มีทั้งรอยเก่าและใหม่..ชาวบ้านบอกว่า..ตอนนี้วิตกกังวลกับเขื่อนมาก..เรียกร้องและสอบถามไปยังกรมชลฯก็ไม่มีคำตอบชัดเจนว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร คำตอบที่ได้คือ..ไม่มีงบประมาณในปีนี้...หากรู้อย่างนี้คงมีคนคัดค้านมาก..ชาวบ้านยังบอกอีกว่า ตอนสร้างใหม่ๆกรมชลฯมาหยอดน้ำหวาน ประกอบกับในช่วงนั่นประสบปัญหาน้ำท่วม..เสียงคัดค้านจึงมีน้อย...ชาวบ้านยังทิ้งท้ายเป็นข้อเตือนใจอีกว่า..พื้นที่ใดยังไม่ได้สร้างก็ขออย่าให้เกิดขึ้นได้..ไม่งั้นจะนอนไม่หลับเหมือนกับชาวบ้านที่อยู่ใต้เขื่อนแม่สรวย

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก ได้แชร์ลิงก์

ภูเขาไฟระเบิดพ่นลาวาที่เกาะเรอูนียง หลังจากหลับไหลมานานถึง 4 ปี



เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.57 ภูเขาไฟที่เกาะเรอูนียง(Reunion Island) ของประเทศฝรั่งเศส ได้เกิดระเบิดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่หลับไหลมานานถึง 4 ปี ส่งผลทำให้พ่นลาวาไหลออกมามากมาย โดยตัวเกาะตั้งอยู่บริเวณมหาสมุทรอินเดียทางตะวันออกของมาดากัสการ์ และภูเขาที่เกิดระเบิดนี้มีชื่อว่า ปีตงเดอลาฟูร์แนส (Piton de la fournaise)

ปีตงเดอลาฟูร์แนส (Piton de la Fournaise) ภูเขาไฟรูปโล่ตั้งอยู่บนปลายเกาะเรอูว์นียงทางตะวันออก มีความสูง 2,631 เมตร (8,632 ฟุต) จากระดับน้ำทะเล ซึ่งบางครั้งเรียกว่าเป็นพี่น้องกับภูเขาไฟเกาะฮาวาย เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันทางด้านภูมิอากาศและธรรมชาติ มีการระเบิดขึ้นกว่า 100 ครั้งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2183 เป็นต้นมาและยังเป็นที่จับตามองมาถึงปัจจุบัน การระเบิดครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2550 ส่งผลทำให้มีลาวาที่ไหลออกมาประมาณ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร (ประมาณ 4 ล้านลูกบาศก์หลา) ต่อหนึ่งวัน



ภูเขาไฟระเบิดพ่นลาวาที่เกาะเรอูนียง หลังจากหลับไหลมานานถึง 4 ปี | สถานการณ์ภัยพิบัติ

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก ได้แชร์ลิงก์

แพทย์ไร้พรมแดนชี้ 'อีโบลา' ระบาดจนอยู่เหนือการควบคุมแล้ว!! ใครติดเชื้อไม่มีทางรักษาได้
MAX77 SEM COMENTARIOS โรคระบาด วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557



เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน ออกมากล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า การระบาดของเชื้อไวรัส 'อีโบลา' ในภาคตะวันตกของทวีปแอฟริกาไม่สามารถควบคุมได้โดยสิ้นเชิงแล้ว...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ว่า นายบาร์ต แยนส์เซนส์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน เผยต่อสำนักข่าวเอพี ที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ว่า องค์การแพทย์ไร้พรมแดนมาถึงขีดจำกัดของความสามารถในการตอบสนอง ต่อการระบาดของไวรัสอีโบลาแล้ว และหากต้องการหยุดยั้งการระบาด ก็จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือมากกว่านี้

"ความเป็นจริงนั้นชัดเจนว่า การระบาดตอนนี้เข้าสู่ระลอกที่ 2 และสำหรับผม มันอยู่เหนือการควบคุมอย่างสิ้นเชิง ผมแน่ใจอย่างที่สุดว่า การระบาดครั้งนี้ยังห่างไกลจากคำว่าสิ้นสุด และจะคร่าชีวิตมนุษย์เป็นจำนวนมากต่อไป จนกระทั่งการเป็นการระบาดครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา" แยนส์เซนส์กล่าว เขายังวิพากษ์วิจารณ์องค์การอนามัยโลก (ฮู) ว่า ไม่พยายามมากพอในการผลักดันเหล่าผู้นำ และเรียกร้องให้ ฮู ส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่มากกว่านี้ เพื่อค้นหาทุกคนที่เคยติดต่อกับผู้ป่วย

ทั้งนี้ การระบาดของอีโบลาครั้งล่าสุดนี้ เริ่มขึ้นในช่วงปลายปี 2013 หรือช่วงต้นปี 2014 โดยระยะแรกการแพร่กระจายเป็นไปอย่างช้าๆ ก่อนจะเริ่มแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงแพร่กระจายไปยังเมืองหลวงของประเทศไลบีเรียเป็นครั้งแรก อีโบลามีส่วนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 330 รายในกินี, เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย

นายแยนส์เซนส์กล่าวด้วยว่า การระบาดครั้งนี้มีความท้าทายสูง เพื่อมันเริ่มขึ้นในพื้นที่ที่ประชาชนเดินทางกันมาก และแพร่กระจายไปยังชุมชนที่มีความแออัดยิ่งขึ้นอีก เช่นที่เมืองหลวงของประเทศกินีและไลบีเรีย นอกจากนี้เมืองเกคเกดู ของกินี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการระบาดของอีโบลา ก็เป็นศูนย์กลางการของส่งของภูมิภาค วิธีเดียวที่จะยับยั้งการระบาดได้คือ ต้องเกลี้ยกล่อมประชาชนให้ก้าวออกมาเมื่อเริ่มแสดงอาการป่วย และหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วยและศพของผู้ป่วย

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้พฤติกรรมของพวกเขาไม่มีการเปลี่ยแปลงมากนัก ผู้ป่วยจำนวนมากยังคงไม่แสดงตะวหรือยังคงเดินทางกันต่อไป นายแยนส์เซนส์ระบุ


ที่มา ไทยรัฐ

แพทย์ไร้พรมแดนชี้ 'อีโบลา' ระบาดจนอยู่เหนือการควบคุมแล้ว!! ใครติดเชื้อไม่มีทางรักษาได้ | ส

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก ได้แชร์ลิงก์



จีนเผชิญฝนและน้ำท่วมหนักล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 1 คน สูญหายอีก 4 คน
MAX77 SEM COMENTARIOS น้ำท่วม, พายุฝน-ลูกเห็บ-ลมแรง วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก ที่มณฑลกุ้ยโจว ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ และภูมิภาคกวางสีที่อยู่ทางใต้ของจีน ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับการดำเนินชีวิตของประชาชน และสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 1 คน ที่มณฑลหูหนานในภาคกลางน้ำท่วมฉับพลันทำให้มีผู้สูญหาย 4 คน

ที่มา : Nation

จีนเผชิญฝนและน้ำท่วมหนักล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 1 คน สูญหายอีก 4 คน | สถานการณ์ภัยพิบัติ

 

Ammy Chumnankit



ไข้เลือดออกอีโบล่า ระบาดไปทั่วเกินกว่าจะป้องกันได้แล้ว
ผู้ที่ออกประกาศ คือ องค์กรคุณหมอข้ามแดนหรือ Doctor without border ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ 3 ประเทศคือ กินี เซียร่า ลีโอน และ ลิเบอเรีย ได้ออกประกาศผ่าน องค์การอนามัยโลก (WHO)

Timelines ของการระบาดมโหฬารรอบ 2 นี้เกิดขึ้นเมื่อ เดือนมีนาคม 2557 ที่ช่วงปลายเดือน ประเทศกินี ออกประกาศว่า พบผู้ติดเชื้อ 106 ราย ตาย 66 ราย
แล้วแล้วลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านคือ เซียร่า ลีโอน และ ลิเบอเรีย ซึ่งก่อนหน้านั้น ทีมหมอข้ามแดนคิดว่าจะเอาอยู่ที่เซียร่า ลีโอน แต่ปรากฎว่ามันระบาดไปเร็วมาก ข้ามไปลิเบอเรียในวันที่ 2 เมษายน 57

เมื่อศุกร์ที่ 20 มิย ทีมหมอข้ามแดน รายงานว่า เชื้อไวรัสไข้เลือดออกอีโบลานี้ ระบาดที่ลิเบอเรียและเข้าสู่ภาวะระบาดเกินกว่าจะควบคุมได้แล้ว Out of Control
รวมยอด ตาย 330 แล้ว รุนแรงที่สุดของการระบาดในคราวที่สองนี่
“อีโบลา” เป็นเชื้อไวรัส ที่อยู่ในกลุ่มโรคไข้เลือดออก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดประมาณ 80 นาโนเมตร ยาว 790-970 นาโนเมตร อยู่ในตระกูล Filoviridae ซึ่งประกอบด้วย 4 subtypes ได้แก่ แซร์อีร์ ซูดาน ไวอรี่โคทและเรสตัน 3 subtypes แรก ทำให้เกิดการป่วยรุนแรงในคนและมีอัตราตายสูงร้อยละ 50-90 ส่วนเรสตันนั้นพบในประเทศฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดรุนแรงในลิง แต่ในคนไม่ทำให้เกิดอาการค่ะ
โดยหากมีการติดเชื้ออีโบลาแล้ว ตัวเชื้อจะมีระยะฟักตัว 2-21 วัน ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการ คือ ไข้สูงทันที อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะมาก ตามมาด้วยอาการเจ็บคอ อาเจียน ท้องเสีย และมีผื่นนูนแดงขึ้นตามตัว ในรายที่รุนแรงหรือรายที่เสียชีวิตจะมีอาการเลือดออกง่าย โดยมักเกิดร่วมกับภาวะตับถูกทำลาย ไตวาย มีอาการทางระบบประสาทส่วนกลางและช็อก อวัยวะหลายระบบเสื่อมหน้าที่ อาจจะเกิดอาการ อวัยวะล้มเหลว อาเจียรเป็นโลหิต เลือดออกไม่หยุดจนเสียชีวิตในที่สุด
ปัจจุบันยังไม่มียารักษาหรือวัคซีน ติดต่อโดยตรงจากการสัมผัสผู้ป่วย อุจจาระ เลือด การถ่ายเลือด น้ำลาย และเพศสัมพันธ์ ค่ะ

ข่าวรายงานชัดเจนว่า เชื้อเริ่มที่กินีตั้งแต่ต้นปี แล้วกินีคือ เมืองศูนย์กลางการบินและการขนส่งของทวีปแอฟริกากลาง

WHO เชื่อว่า ตอนนี้คงจะระบาดไปทั่วฝั่งตะวันออก รวมทั้งทวีปแอฟริกากลางเรียบร้อยแล้ว จึงประกาศการ Out of Control คือ รุนแรงเกินควบคุมแล้วค่ะ
อัตราการตายคือ ร้อยละ 90 จะหายได้เมื่อ
1) ถึงมือหมออย่างรวดเร็ว ทันทีที่เกิดอาการ
2) รักษาด้วย Oral Rehydration Therapy intravenous fluids แต่มีเพียง 10% เท่านั้นที่รอด
3) กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
จนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 330 ราย ในทั้ง 3 ประเทศ ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบใหม่นี้
เรายังมีไวรัส MERS อีกตัวที่กำลังระบาดที่ตะวันออกกลาง (ซาอุ) เข้ามาถึงมาเลเซียแล้ว (คือมีผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว)
2 โรคระบาดนี้รวมกัน และยังมีโรคมือ เท้า ปาก ที่ยังระบาดหนักตอนนี้ จึงคงต้องเตรียมความพร้อมที่สุดค่ะ
ประเทศเรามีคนดำเข้า-ออกเสรี ทั้งไนจีเรีย ไอเวอรี่โคสต์ และอีกหลายประเทศ
สมาชิก BTG ล้างมือให้สะอาด ระวังตนเองและครอบครัว ซีเรียสจริงจังค่ะ
เชื้อ "อีโบล่า" ระบาดแอฟริกาตะวันตก - Nation TV
ดูหนัง outbreak ออนไลน์ค่ะ
ดูหนังออนไลน์: Outbreak วิกฤตไวรัสสูบนรก [HD][พากย์ไทย]
ฝูงห่าไวรัสสยองกินเมือง

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=mbxkX_i_myE]ฝูงห่าไวรัสสยองกินเมือง_CD1/2 - YouTube[/ame]
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=ls8u5fgI_qU]ฝูงห่าไวรัสสยองกินเมือง_CD2/2 - YouTube[/ame]

การติดเชื้อไวรัสอีโบลาของคน เกิดขึ้นจากสาเหตุ ดังนี้
1. ในทวีปแอฟริกา เกิดขณะจัดการหรือชำแหละสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ตายในป่าที่มีฝนตกชุก
2. สำหรับไวรัสอีโบลา สายพันธุ์เรสตัน จะพบการติดต่อสู่คน โดยการสัมผัสโดยตรงกับเลือดหรือเครื่องในของลิง cynomolgus ที่ติดเชื้อ และยังไม่พบรายงานจากการติดเชื้อผ่านทางละอองฝอยที่ลอยในอากาศการติดต่อจากคนสู่คน เกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับเลือดที่ติดเชื้อ สารคัดหลั่ง อวัยวะ หรือนํ้าอสุจิ นอกจากนี้การติดเชื้อในโรงพยาบาลก็พบได้บ่อยผ่านทางเข็มและหลอดฉีดยาที่ปนเปื้อนเชื้อ

มาตรการการป้องกันโรค
ยังไม่มีวัคซีนหรือการรักษาแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับทั้งไวรัสอีโบลาหรือมาร์บูร์กควรป้องกันการมีเพศสัมพันธ์หลังการเจ็บป่วยเป็นเวลา 3 เดือน หรือจนกระทั่งตรวจไม่พบไวรัสในนํ้าอสุจิ

การควบคุมการระบาด
แยกผู้ป่วยสงสัยจากผู้ป่วยอื่นๆ และเฝ้าระวังผู้สัมผัสใกล้ชิด ใช้มาตรการป้องกันการติดเชื้อในสถานพยาบาลอย่างเข้มงวด รวมถึงดำเนินการให้ความรู้แก่ชุมชนอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว

มันยังไม่เป็น air borne ถ้าเป็นล่ะก็จะเหมือนในหนัง outbreak ทีเดียว
เชื้อ Ebola ค้นพบครั้งแรกในปี พศ 2519 ในทวีปแอฟริกา ถูกตั้งชื่อตามแม่น้ำสายหนึ่งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก การระบาดครั้งนั้น มีผู้ติดเชื้อสูงสุดถึง 425 ราย และในปี พศ.2000-2001 การระบาดในอูกันดา ทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงสุดถึง 280 คน

เชื้อไข้เลือดออกอีโบล่าเคยระบาดในทวีปแอฟริกามาแล้ว 23 ครั้ง คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วมากกว่า 1,600 คน