เปิดตำนานหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ภาค 2

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

เป็นการเขียนที่เปิดข้อมูลดีมากเลยครับ แต่ยังแคบไปกับเรื่องจริง ซึ่งมันเป็นข้อมูลปลายทางแล้วสามารถแยกออกได้ระหว่างของจริงกับของที่ทำขึ้นมาใหม่หรือไม่ว่าจะทำยัดกันมาใหม่ก็ตามดูกันออก ความจริงนั้นยังมีอีกหลายประเด็น จริงๆเรื่องก่อนหน้านี้น่าสนใจกว่าเยอะ รับรองถ้าถ้าทราบความจริงวงการหรือเซียนหน้าใหม่ๆคงหงายเงิบกันเป็นแถวๆ เรื่องละครมันก็คือบทละครที่แสดงกันมานานกับลูกศิษย์อีกหลายๆคน อันนี้แค่ละครบทตอนหนึ่งเท่านั้น เอาไว้ความจริงคงได้พอทราบกันสักเล็กน้อยสำหรับคนที่ยังไม่รู้เรื่องราวหรือแค่ฟังเขาเล่ามาอีกทีเท่านั้น

 

กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

เหตุผลทำไมทุกวันนี้ เรื่องราวพระเครื่องของหลวงปู่ทิมมันถึงไม่มีวันจบ เพราะอะไร มีใครทราบความจริงกันไหม ถ้าเล่าตามความจริงที่มันเฉไฉออกไป คนที่ไม่เคยสัมผัสก็ต้องเชื่อ เพราะความเชื่อที่บอกต่อๆกันมา มันก็เลยเป็นความจริง แล้วใครจะไปคัดค้านได้ล่ะว่าข้อมูลที่ออกมาจากปากลูกศิษย์ย่อมเป็นความจริงกันเสมอ เอาแค่เรื่องผงพรายกุมารมีใครกันล่ะสามารถตอบตามความหมายที่มันเป็นจริงได้ หรือแม้กระทั่งปิดตาบัวผุดมีใครจะทราบความจริงกันไหมว่าเป็นเรื่องราวที่แต่งขึ้นเองจากปลายปากกาของผู้เขียน แน่นอนครับทุกวันนี้มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์อย่างมหาศาล เดี๋ยวนี้มันมันถกเถียงกันไม่จบ เพราะของมันติดลมบนไปแล้ว ของที่เก๊เก่าๆเล่นได้หมด ยกเว้นของที่เก๊มาในยุคหลังๆเล่นไม่ได้เลยเพราะดูกันออก ชุดลองพิมพ์ถือว่าเป็นชุดสุดท้ายที่เอามาเล่นหากันแพงมากในยุคนี้ ใครว่าเก๊มีใครกล้าขายไหม ตลาดรับซื้อหมด เพราะลูกศิษย์เอามาเล่นวงการถึงยอมรับ ถ้าเป็นชุดเก๊มาจากบ้านเพวงการตลาดเขามองออกถึงแม้จะเอาไปใส่ในโหลเก่าๆก็ตาม เพราะความเก่าที่เป็นธรรมชาติขององค์พระนั้นทำไม่ได้ ความจริงมันเก๊มาก่อนหน้านี้นานแล้ว เรื่องผ้ายันต์นั้นเขียนเก่าเขียนใหม่มองออกครับ แม้กระทั่งจะเขียนปลอมเป็นลายมือหลวงปู่คงยากมาก แค่ดูลักษณะเนื้อผ้าก็จบแล้ว หรือแม้กระทั่งเอาผ้าเก่ามาเขียนใหม่ก็มองออกเหมือนกับพระไม้แกะหรือเอาไม้ใหม่มาแกะเก่าก็มองออกดูตัวอย่างศิลป์ที่มาจากทางเหนือหรือศิลป์ที่ออกมาจากบริเวณปริมณฑลกรุงเทพฯ วงการก็คงทราบกันดี จริงๆผมอยากได้ข้อมูลที่เจาะลึกกว่านี้มากกว่าครับ !

 

ดีครับใครเจอการลงบทความแบบนี้เอามาแชร์กัน
นับจากหลวงปู่เสีย ปี 18 ก็มีการวัตถุปนเปื้อนมากับของแท้ ออกมาเรื่อยๆๆ
รวมทั้งการสร้างเสริม ขึ้นมาอีกมากมาย
ไม่ว่าบล็อคแรก บล็อคสอง ลองพิมพ์ กล้ามโต(แต่งพิมพ์) หลังๆๆมีฝังหนุมานเข้าไปอีก สุดยอดมาก ท่านไม่ละอายเลย
ขอหาข้อมูลพระองค์ที่เจ้าของได้รับกับมือหลวงปู่ แล้วจะลงรูปให้ดู
ทำใมมันไม่เหมือนกัน เลย แต่ก็รับกับมือท่าน
นี่ขนาดฝังบล็อคด้านหน้าไปในหัวพยานาคแล้ว..ยังแอบไปออกลูกได้
เราคงเคยได้ยิน เนื้อใช่ พิมพ์ใช่ แต่ไม่ใช่......งงมั้ยละ
เมื่อวานไปงานบวชลูกชายเพื่อนรักที่เพ ยองฮิเจอคนท้องถิ่นระยอง
คุยกันเรื่องนี้เขาว่า สวยๆๆเอาไว้ขาย ของไม่สวยเอาไว้ใช้..ต้องออกเสียงเหน่อๆๆหน่อย จะได้ฟิงลิ่งมาก..........เริ่มแปลกใจละซิ

นับจากนี้ คงได้ขุดคุ้ย สืบเสาะ ค้นหา เรื่องราวต่างๆๆ.....ไว้ศึกษา
ไม่ได้มาหาข้อมูลให้เชื่อ ถือเสียว่าเป็นอีกแนวทางเลือก ให้ศึกษา ก่อนจ่ายตัง
พระเนื้อขาว ก็ขุดคุ้ยกันอยู่ ไปเจอเพื่อนนายตุ๋ย(นามสมมุติ) บอกว่าเคยได้รับพระผงขาวๆๆจากหลวงปู่
แล้วก็ไปเจอ นายตำรวจท่านนึงอยู่นิคมไกล้ๆๆวัดละหารไร่ เก็บพระของพ่อที่ได้รับจากหลวงปู่ กำลังตามตัวกันอยู่ เอามาให้นายน็อตดู บอกว่าไปเอาพระมาจากไหน นี่พระขุนแผนหลวงปู่ทิม
ลำบากมากเหมือนกันที่จะตามหาคนที่ได้รับพระจากหลวงปู่ บางคนก็ได้รับจากพ่อตกทอดมา ก็ต้องมาวิเคราะณ์ก่อนใช่ไม่ใช่
นับจากลุงสายเสีย 21 เมษายน 42 วัตถุปนเปื้อนหลายๆๆอย่างก็เริ่มทยอยออกมา จริงเท็จ ต้องอ่านและวิเคราะณ์ เอง ความน่าจะใช่วัตถุที่สร้างในยุคนั้น พ.ศ. นั้น มีความเป็นไปได้แค่ไหน
ชุดเครี่องราง นับว่าเล่นยากมาก ไม่นับ ไม้จิ้มผี ถ่านเผาผี (จัดตั้งมาเผาใครก้ไม่รู้) กรามช้างน้ำ บ้างก็ว่าเป็นไม้น้ำชนิดหนึ่ง หรืดกระดูกช้างน้ำในแดนหิมพานต์ ก็สุดแต่จะคิดกันไป
พรายขาว พรายดำ ตะกั่วน้ำท่วม หลังวน ไม่วน ไมยราพรูดทรัพย์
กริ่งชินบัญชร องค์เบอร์ 1 ที่มี 2 องค์
กริ่งชินบัญชรทองคำ องค์ที่ 13 มีจริงหรือไม่ ( ช่างสมร เททอง )
หลังเรียบ ปั้มซ้ำ ปรกใหญ่เอวคอดทันไม่ทัน หรือปู่แก้วเสก
บล็อค โค็ต ทำลายบ้างไม่ทำลายบ้าง ออกลูกออกหลานมาตลอด
ยังมีปัญหาโลกแตกที่เป็นตำนานแล้วไปแล้ว ผงพรายกุมารอันลือลั่น
สีผึ้งคุณนายส้ม บางบุตร ที่กล่าวมามี่ที่มาไม่ตรงกับข้อเท้จจริง
สีผึ้ง 3 ขวดโหล ดำ เหลือง และขันสัมฤทธิ์ ยังขายได้อีกนาน เหมือนยาพิษชนิดเข้มข้น ปานไซยาไนต์ กินเข้าไปจะอ่อนหรือเข้มข้นก็ชักตาตั้ง
ไม่รวม ครกแตก สากหัก สุดท้ายมีคลิปเปิดครกหาดูได้ในยูทูป
ถ้าคลิปนี้ใช่ แปลว่าที่เราเสพสื่อกันมา ผิดและไม่ใช่รื่องจริง ที่คนเขียนเรื่องราวมาให้อ่าน เมคเรื่องเอง ไม่ว่ากันตอนนั้นไม่มีเนต ตอนนี้หุตาสว่างแล้ว
นอกจากนี้ยังมียัดกรุกัน อีกมายมาย สำนักบก ไผ่ล้อมมีทั้งทันไม่ทัน
ยิ่งตาม ยิ่งงง หลงทางเข้าป่า ตกเหวไม่สิ้นชีวิตก็ เสียเงินเสียทอง

ความจริง คนทันเหตุการณ์ ที่เป็นศิษย์ครอบครู ได้ชื่อว่าเป้นศิษย์เอก บวชอยู่รับใช้หลวงปู่ทิม อิสริโกแห่งวัดละหารไร่ ต. หนองละลอก อ. บ้านค่าย จ. ระยอง ขออภัยใส่เต็มยศให้หลวงปู่ทิม เผื่อกันคนตะแบง พูดไม่หมด
น่าจะออกมาเปิดเผยเรื่องราวความจริงที่ทันหลวงปู่ ให้โลกรู้ ถือว่าบูชาครูบาอาจารย์ อย่าเอาแต่นิ่ง เพราะนิ่ง ไม่ช่วยอะไรเลย แต่ถ้าจะให้ตายไปกับตัวเองก็ไม่เป็นไร เพราะยังมีคนมาเปิดเผยเรื่องราวอีกหลายคนที่รู้จักและสนิทสนมกับ อ. นิ่งผีหุง ดีมาก ท่านรู้แบบเรื่องจริง ไม่ใช่ไปฟังมา อ. สุเทพท่านรู้จัก อ. นิ่งผีหุง ดีมากขนาดไหนท่านจะเล่าผ่านให้ฟังเองละครับ

ช่วงนี้ผมส่งพัสดูเสร็จแล้ว เคลียร์เอกสารเกือบหมดแล้วพี่คางทูม เอกสารเก่าๆๆที่พี่มีอยู่ผมว่าข้อมูลเดิมๆๆ ไม่ชวนติดตาม มีใหม่ๆๆแบบเหยียบไมยราพไม่ตำตีน เอามาโชว์หน่อย

อ่านตามผมมา คงจะเหนื่อยอกเหนื่อยใจ พักก่อนครับ เพิ่งยกแรกเองมหากาพย์บ้านค่าย

 

ตั้งแต่ผมเข้ามาศึกษาเรื่องราวหลวงปู่ทิมได้20กว่าปีแล้ว เคยโดนมามาก เคยโดนของเล่นจากศิษย์ใกล้ชิดมามากหรือของที่โดนแอบอ้างจากศิษย์ที่ระบุจากศิษย์ที่เสียไปแล้วก็มีอย่างเช่น ปลัดโค๊ต3 เมื่อก่อนนี้ผมเคยไปเช่าจากลูกเลี้ยงของคุณพัฒณาที่เพิ่งเสียไป ตอนนั้นโฆษณาลงในหนังสือเล่มหนึ่ง ราคาในตอนนั้นราคาค่อนข้างแพง แต่เป็นราคาณ.ในเวลานั้น ตอนนั้นโค๊ต3ถือเป็นโค๊ตที่มาตราฐานในการซื้อขาย แต่เรื่องก็เพิ่งมาแดงตอนที่ดันเอามาตอกในเหรียญแท้ของเหรียญเจริญพรที่ซื้อขายอยู่ในมือเซียน เพราะเจ้าของจำหมายเลขของเหรียญได้ โค๊ตเลข3จึงฮือฮามากในตอนนั้นว่ายังสมบูรณ์อยู่กันดีแน่นอน

ภายหลังโค๊ต3ก็ได้มีข่าวลือว่าถูกซื้อไปจากเซียนใหญ่ ภายหลังโค๊ต3ก็ได้ออกอาละวาดไปตอกกันทั่วสารพัดที่จะขายได้ อาทิเช่น ลูกอมเทียนซึ่งมีทั้งสีขาวและสีเหลือง ตอกในกระดาษสารพัดกัน ตอกในรูปถ่าย ตอกเหรียญต่างๆเพื่อเพิ่มมูลค่าราคาของพระ ต่อมาก็เริ่มมีวิธีการใช้น้ำทองหยอดลงบนโค๊ตลงไป ซึ่งมีทั้งแท้และเก๊ปะปนกันไป นี่ยังไม่นับจากปลัดขิกโค๊ต3 ที่เซียนใหญ่ได้คว้านซื้อไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่เมื่อความจริงนั้นเริ่มปรากฎขึ้น ลูกหลานก็ได้ทะเลาะกันเอง โค๊ตเลข3 น่าจะมีอีกตัวหนึ่งที่ลูกหลานได้ขึ้นลัดฟ้าไปตั้งรกรากอยู่เชียงใหม่ ต่อมาไม่กี่ปีปรากฎว่าปลัดขิกโค๊ต3ได้ทะลักออกมา มีการนำไปให้ศิษย์ทั้งสองฝ่ายร่วมการยอมรับและเล่นหาด้วย แต่ปรากฏว่าไม่เป็นผล เพราะของเพิ่งจะทำมาไม่นาน และข่าวแว่วว่าทำมาจากสันกำแพง เชียงใหม่ ลูกหลานพยายามบอกว่าเป็นของเก่าจากคุณพัฒณา แต่ปรากฏว่าลูกหลานอีกท่านบอกไม่มีแล้ว ความจริงจึงได้ปรากฏออกมา ภายหลังไม่กี่ปี ก็เริ่มมีการขายยัดกันตามเซียนใหญ่หลวงปู่ทิมในราคาตัวละ1-2-3หมื่นตามลำดับขนาด โค๊ตนั้นเป๊ะ ส่งดูยังไงก็แท้ เพียงต่างว่าใครจะเคยเห็นของจริงๆกันซะกี่คน ภายหลังเซียนโดนกันเป็นล้านกับเรื่องของปลัดขิกโค๊ต3 ที่ระบาดออกมาจากสันกำแพง ส่วนใหญ่จะเห็นวางขายตามหน้าหนังสือหรือตามเวปต่างๆ ใครต้องการก็ลองศึกษาหาความจริงกันเอาเองครับ

 

กราบหลวงปู่ทิมและพี่น้องทุกท่านครับ

การศึกษาข้อมูลและหาความจริงนั้นไม่สามารถทำให้ทุกฝ่ายยอมรับในเนื้อหาที่ต่างกันออกไปได้ทั้งหมดหรอกครับ ทั้งนี้เพราะผลประโยชน์มันมากมายเหลือเกินจนสามารถยอมสร้างความผิดเพี้ยนอย่างไรก็ได้เพื่อมูลค่าการขายเท่านั้น และผลประโยชน์เหล่านั้นจะเกิดขึ้นกับใครบ้างละ ? ชาวบ้านทั่วไปแถววัด หรือ ศิษย์รับใช้ ศิษย์นักสร้างพระ แต่ที่แน่ๆผิดเพี้ยนที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่เป็นเพราะความโลภเพียงเท่านั้น ความพอ อก พอใจกับการที่ผู้นับถือในหลวงปู่ทิม เดินเข้าหาศิษย์คนนั้นๆและยกมือไหว้เรียกว่า อาจารย์ หากินกับคำว่า อาจารย์โดย อาศัย ร่มเงาของหลวงปู่ทิม อิสริโก ทั้งชีวิต ความซ้ำซากในบุคคลที่หลงเดินเข้าไปเพื่อหวังว่าจะได้ขอดีไว้บูชาเพราะนึกว่าของดีเหล่านั้น อาจจะเป็นของตน ด้วยคำพูดที่ว่า (ถ้าวัตถุมงคลผู้บูชามิได้เป็นเจ้าของ มีอันต้องเปลี่ยนมือทุกรายไป) หลายท่านจึงมุ่งตรงไปหาอาจารย์เหล่านั้น โดยไม่ทราบเลยว่าไม่ว่าจะไปหาศิษย์ท่านใดก็ล้วนแล้วแต่ตกเป็นเหยื่อทั้งนั้น และถ้าจะบอกว่าผิด ก็ไม่พ้นทุกท่านนั้นเหละครับ เพราะความไม่รู้ การไม่ศึกษาให้ครบถ้วน ใจร้อน หรือเหตุผลอื่นๆ ทำให้ผู้ที่แสวงหาผลประโยชน์ มองเห็นสิ่งเหล่านี้มาตลอดหลายสิบปี หลายท่านจึงตกเป็นเหยื่อของความศรัทธาเพี่ยงอย่างเดียว

ฉนั้นถ้าจะศึกษาบูชาในวัตถุมงคลหลวงปู่ทิม หรืออาจารย์ท่านอื่นๆ ต้อง มองให้รอบด้าน จริงๆครับ ยิ่งวัตถุมงคลเครื่องรางทำกันง่าย อาศัยความเชื่อในบุคลอย่างเดียวไม่พอ ต้องดูสิ่งแวดล้อมประกอบด้วย เช่น วันงานหลวงปู่ทิมประจำปี ชาวบ้านที่มาร่วมงานคนในพื้นที่เอาแบบรั้วติดวัดเค้าแขวนพระอะไรกัน มีขุนแผนองค์ละหลายแสนรึเปล่า ในขณะที่ผู้ต่างถิ่นมาร่วมงานแขวนมา โชว์กันแทบทุกสำนัก


สำหรับปลัดเลข3 มีเรื่องเล่าเล็กน้อย มีอยู่วันหนึ่งเมื่อ3-4 ปีก่อน ผมได้มีโอกาสไปพบอาจารย์ศิษย์รับใช้ใกล้ชิด ในขณะที่พูดคุยกันท่านได้หยิบกล่องใบเล็กประมาณ 3.5นิ้วโดยรอบ ภายในมีปลัดเลข3 และมีจดหมายฉบับเล็กๆใจความว่า อยากให้ยืนยันว่าปลัดนี้แท้ ผมจึงถามว่าแล้วจะมีการยืนยันหรือไม่ คำตอบที่ได้คือ ไม่รับรองให้เพราะไม่แท้ ภายหลังคำตอบแล้ว อาจารย์ศิษย์ใกล้ชิดถามผมว่า จะเอามั้ยขายให้หมื่นห้า ผมสายหน้าพร้อมบอกว่าไม่ครับ แต่ในใจตอบสวนทั้นที่ บอกว่าปลอมแล้วยังจะมาขายอีกทำไปได้ คนเรา

 

ก็เพราะความโลภงัยล่ะครับ ที่เป็นนิสัยบ่เกิดแห่งนี้ อาศัยทุกที่ที่หากินได้ เอารูปมาเป็นสื่อล่อตาล่อใจกับคนที่คิดไม่ทัน จะหยิบยกอะไรมาก็ว่ามาจากหัวนอนบ้างในห้องบ้างในกระป่องใบชาบ้าง ใครจะไปนึกถึงกับสิ่งเหล่านั้นว่ามันมีจริงรึไม่ จึงจำเป็นต้องยกเมฆกันขึ้นไปเพื่อขายหาที่ลงแห่งนี้

 

พระเครื่องหลวงปู่ที่วางขายตามสนามพระระยองส่วนใหญ่คนขายจะรับมาจากบ้านเพที่เอามาส่งขาย ผมเดินสนามเห็นบ่อยจนชินชา มีแบบขายยัดลงรังก็มี แต่ฝีมือจากบ้านเพนั้นดูไม่ยากแต่ถ้าคนไม่เคยสัมผัสเป็นโดนครับเพราะเนื้อหาจัดเกินความจริง ล่าสุดก็เอามาขายยัดลงไปกับหนังสือหลวงปู่เล่มที่ลงล่าสุดนี้มีหลายแบบให้เลือกกัน มีการแอบอ้างลูกศิษย์ใกล้ชิด ตอนนี้คนเล่นเขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว หาอ่านกันได้เลยตามร้านหนังสือ แต่ขออย่างหนึ่งอย่าไปคล้อยตามบทเขียนก็แล้วกัน เดี๋ยวมันส์...:':''(

 

ตอนที่ผมไล่อ่านในเปิดตำนานภาคแรกก็มีการโจมตีจากกลุ่มภายนอกที่สูญเสียผลประโยชน์เหมือนกัน เมื่อของที่ลูกศิษย์ใกล้ชิดทำมาขายไม่ได้ และเมื่อความจริงก็เริ่มปรากฏก็มีการสาดใส่กันเข้ามาเพื่อลบล้างความเชื่อถือหรือการดิสเครดิตกัน มีการใช้วาจาที่ไม่สมควรกัน ดูแล้วน่าจะมีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังที่อยู่ในเวปทิมภิ..ตอนนี้ก็ย้ายข้ามวิกมาอยู่เวปพิพิธภัณฑ์บุญญา..ซึ่งก็คงรู้ว่าใครกันที่ยอมรับความจริงไม่ได้กับพระเนื้อขาวที่เปิดกระทู้กันขึ้นมา จนลืมมองไปว่าที่ตนเองขายไปก็เป็นพระเนื้อขาวเหมือนกัน ดูอย่างเช่นพรายเดี่ยว พรายคู่ เศียรโต สมเด็จขาวสุก พรายขาว รูปเหมือนแกะ ซึ่งของแต่ละอย่างที่ขายออกไปก็เนื้อขาวทั้งสิ้น แล้วความจริงมันคืออะไรกัน และที่วงการเล่นหากันตอนนี้ไม่ว่าพระขุนแผน เศียรโต เศียรเล็ก สีวลี พรายเดี่ยว พรายคู่ สมเด็จปูนตัน สมเด็จชินบัญชร สมเด็จหลังยันต์ห้าและยันต์สาม สมเด็จวัดไร่วารี แต่ละอย่างก็มีเนื้อหาหลักเป็นผงสีขาวทั้งสิ้น ผมอ่านแล้วศิษย์ใกล้ชิดชิดคนนี้พยายามทุกวิถีทางที่จะดิสเครดิตโยมสายและลูกศิษย์คนอื่นๆอีกหลายคนเพื่อหวังผลประโยชน์จากการค้าของตนเอง ซึ่งเมื่อก่อนนี้เรื่องราวมันมีการกระทำกันมายังไงคนรุ่นหลังไม่ทราบ แต่ถ้าจะเอาความจริงกับประวัติของหลวงปู่ทิมในทุกวันนี้ก็คงมีแต่เรื่องราวการเล่าประวัติตนเองให้เป็นส่วนสำคัญกันซะมาก เมื่อไม่มีความจริงจะเล่า ก็เอานิทานมาเล่าขายของกันดีกว่า ใครเป็นไงชั่งมัน กูนิ่งอย่างเดียว!

 

กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

เราเกิดมาเป็นมนุษย์
มีความสูงศักดิ์มาก

อย่านำเรื่องของสัตว์มาประพฤติ
มนุษย์เราจะต่ำลงกว่าสัตว์
และจะเลวกว่าสัตว์อีกมากมาย
อย่าพากันทำ

ให้พากันละบาป บำเพ็ญบุญ
ทำแต่คุณความดี

อย่าให้เสียชีวิตเปล่าที่มีวาสนาเกิดมาเป็นมนุษย์(คำสอนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

เรื่องราวของพระเนื้อขาวที่หลายคนอาจจะยังดูคลุมเครือกับแบบแผนมาตรฐานเพราะทุกวันนี้ทุกคนอาจมองในเรื่องของค่านิยมความเชื่อ ค่านิยมของราคาค่างวดกัน ทุกวันนี้จึงเล่นหากันแบบสองมาตราฐานตามความเชื่อถือกัน จะมีในสองแง่มุมคือมาตรฐานการใช้กับมาตรฐานการซื้อขาย ถ้าเราวิเคราะห์ตามเหตุผลหลักจริงๆการสร้างพระในยุคนั้นเขาจะเน้นส่วนผสมใดเป็นหลักคงน่าจะทราบเหตุผลอันดีกัน

หลายคนอาจมองในคุณค่าของความนิยมจากวงการ แต่ความจริงแล้วใครบ้างเล่าจะรู้กันหมดในเรื่องนี้ โดยเฉพาะในเรื่องขุนแผนที่ ณ.เวลานี้เล่นเสาะหากันมากในทุกเวลานี้ ถ้าเราจะมองกันจริงๆยุคแรกที่เริ่มกันสรรสร้างกับยุคมาตราฐานที่เป็นการยอมรับคือการบูชาหรือการรับแจกออกไป ซึ่งมันคงไม่แปลกกันเลยว่าเพราะเหตุอันใดทำไมถึงมีการตกแต่งแม่พิมพ์กันไปเรื่อยเพราะอะไรถ้าต้องให้ความถูกใจและยอมรับกันทั้งหมดในวัดที่เห็นกันในตอนนั้น จริงๆแล้วการเริ่มกดสร้างทำพระขุนแผนครั้งแรกนั้น เรื่องเวลาการกดสร้างนั้นไม่สำคัญกว่าพระที่เราเห็นกันนั้นเป็นการสร้างในยุคที่ทันหลวงปู่จริงหรือปล่าวเท่านั้นสำคัญกว่าอื่นใด

การกดสร้างขุนแผนกันจริงๆในวัด เราคงทราบเหตุผลว่าทำไมจึงมีการแต่งแม่พิมพ์ ทั้งๆที่รู้ว่ามีการตกแต่งแม่พิมพ์ขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วทุกวันนี้มีเหตุผลแปลกอยู่ที่ว่าพิมพ์ไหนกดก่อนหลังกัน มีการกดลองพิมพ์กันกี่ครั้งกี่หน ก็คงไม่มีใครทราบได้ เราจะสังเกตได้ว่าของจริงๆในแต่ละพิมพ์ที่ออกมาทำไมถึงไม่เหมือนกันทุกจุดทุกพิมพ์ ทั้งๆที่รับมากับมือหลวงปู่ทิมเอง ดูอย่างเช่น องค์ของช่างมงคล องค์ช่างซ้ง องค์ปลัดเจริญซึ่งถือว่าเชื่อถือความได้ และยังมีที่รับกับมือจากลูกศิษย์คนอื่นๆและโดยตรงแต่เป็นชาวบ้านก็ยังมี จะเห็นว่าแต่ละพิมพ์นั้นทำไมถึงไม่เหมือนกันเลย เมื่อเหตุการณ์ที่ไม่สามารถตอบปัญหาความจริงกันได้เช่นนี้ จึงเริ่มมีขบวนการทำแทรกเสริมกัน ในยุคต่อมาหลังจากหลวงปู่ทิมท่านเสียแล้ว ซึ่งมันมีเหตุผลหลายประการที่ไม่สามารถตอบความจริงได้เพราะมันเป็นผลประโยชน์ที่บังตากัน ถ้าเอามาแปลผันไล่เรียงกันก็คงไม่จบกับเหตุการณ์นั้น ทุกวันนี้มันเป็นความเชื่อที่เป็นบรรทัดฐานไปแล้วโดยเฉพาะพิมพ์ที่เล่นหาและซื้อขายกันอยู่(ยกเว้นพิมพ์ที่ทำเก๊กันมาในช่วงยุคหลังๆกันเข้าไปอีก) มันอยู่ที่ว่าท่านชอบหรือเชื่อความเป็นมาแบบไหนก็ว่ากันไปแบบนั้น เหมือนกับผงพรายกุมารถ้าคิดว่ามีก็มี ถ้าคิดว่าไม่มีก็ได้ ถ้าคิดในแบบความหมายเดียวกันคือหลวงปู่ทิมท่านเสกให้ก็เพียงพออยู่แล้ว อยู่แค่จิตศรัทธากันเท่านั้น แต่ถ้าจะเอาเหตุผลความจริงนั้นยังมีอีกมากมายครับ เพราะข้อมูลที่อ่านใบนี้ถือว่าเล็กน้อยมากเพราะแยกออกกันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ระหว่างของเก่ากับของสร้างมาใหม่ ถึงแม้จะสร้างละครยัดกันไปตามสถานที่ต่างๆในหมู่ลูกศิษย์ให้มีความเชื่อถือกันก็จริง ซึ่งมันมีก่อนหน้านี้นานแล้วในหลายเหตุการณ์ที่ประสบเหมาะ ซึ่งมีทั้งเป็นผลจนวงการยอมรับก็มี และไม่เป็นผลก็มี ถ้าคนที่เขาเคยสัมผัสกันจริงๆในเหตุการณ์นั้นย่อมทราบดี ว่าทำไมของหลวงปู่ถึงเล่นไม่จบ?

 

การบูชาในปัจจุบันผิดแผลกแตกต่างกว่าในสมัยก่อนเป็นอย่างมาก ในสมัยก่อนบูชาด้วยจิตด้วยใจ ไม่เน้นปาฏิหารอะไรมาก แขวนพระเพราะศรัทธาครูบาอาจารย์ ส่วนในปัจจุบันเน้น ปาฏิหารค่านิยมเหมือนกับนับถือเพราะมีเหตุจูงใจต่างๆนาๆ และข้อสำคัญต้องมาพร้อมเรื่องเล่าโน้มน้าวต่างๆ เช่น รุ่นนี้ดีแรงกว่าขุนแผนถ้าอยากได้ของแรงต้องปิดตานาพราย แรงถึงขนาดว่าหลวงปู่ทิมเอ่ยปากว่า จะเอากันถึงขนาดนี้เลยหรือ ส่วนเอาไปแล้วได้ผลรึเปล่าก็แล้วแต่เวรแต่กรรม ปลายทางเอาว่าขายได้ก็พอ

ฉนั้นเราต้องถามตัวเราเองก่อนว่าแขวนพระเพื่ออะไร? แล้วคำตอบของแต่ละท่านจะมาเอง แต่ที่แน่ๆครูบาอาจารย์สมัยก่อนสร้างพระขึ้นมาเพื่อให้บูชา ปฏิบัติดี ยึดเป็นมงคลชีวิต ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อไว้ให้ไปออกต่อในอนาคต

 

กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

ครับการสร้างพระของวัดละหารไร่ในยุคแต่ก่อน คนที่เคยอยู่สัมผัสจริงเขาย่อมทราบว่ารูปลักษณ์และเนื้อหามันเป็นอย่างเช่นใด มีสองแบบอย่างตามแบบมาตราฐานการวัดค่าอย่างถูกต้อง คือสร้างกันมาเพื่อแจกจ่ายหรือสร้างมาใช้หรือเป็นพระที่นำมาออกบูชาไม่ได้เพราะไม่สวยหรือยังไม่เรียบร้อย แต่จะแจกกันไปกับคนที่มาสัมผัสด้วยใจศรัทธา ส่วนอีกแบบอย่างคือพระชุดที่ทางวัดจำหน่ายบูชาออกไป ถือว่าเป็นชุดที่ใช้ได้แล้ว แต่ก็ยังถือว่าพอใช้ได้ตามมุมมองในด้านความสวยงาม สังเกตุจากการลงทองเคลือบผิวพระตามความหมายแท้จริงเพื่อป้องกันความร่วยซุยของเนื้อพระซึ่งของจริงๆการทาทองหรือการชุบทองขององค์พระแต่ละองค์ก็ยังไม่มีความเรียบร้อยเลยหรือความเหมือนกันทุกองค์เลย ถ้าคนที่เคยบูชากับทางวัดไปจะรู้ดีครับกับการลงทองของวัดละหารไร่ในยุคสมัยนั้นกับแบบที่เคยเห็น...

 

กราบหลวงปู่ทิมและพี่น้องทุกท่านครับ

การสร้างพระสำหรับวัดที่ชำนาญในการสร้างจะการสร้างก็ออกมาสวยน่าบูชาซึ่งแบบนี้ดีครับไม่ต้องไปจ้างสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย จัดทำกันในวัดได้เองเลย ถ้าเป็นวัดจนๆยิ่งดีทุนน้อย แต่สำหรับวัดที่ไม่มีทักษะก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะการสร้างพระเพื่อนำไปให้เช่าบูชาพุทธศิลป์ก็มีส่วนสำคัญมากเพราะผู้บูชาก็อยากที่จะแขวนพระเครื่องที่ดูแล้วสวยงามเป็นองค์ประกอบด้วย มันถึงได้มีธุรกิจในการ ออกแบบ หล่อพระ ไม่ว่าจะเป็นหล่อโบราณ หรือ หล่อเวี่ยงแบบใหม่ๆ ปั้มเหรียญในรูปแบบต่างๆ สามารถทำให้เป็นมิติแบบหลายๆชั้นซ้อนกัน แล้วแต่ความพอใจของผู้ว่าจ้างว่าอยากได้แบบไหน

ในสมัยถ้าย้อนไปปี17-18ที่วัดละหารไร่ ถ้าตอนนั้นทางวัดสามารถสร้างเองให้สวยได้ก็คงไม่ต้องมีการ ครอบครูศิษย์คนสุดท้าย เพื่อให้สร้างพระชุดยอดนิยมขึ้นมาเล่นกันแบบปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพระเครื่องยุคก่อนปี17-18 จะไม่ได้มีการสร้างขึ้น ให้ชาวบ้านและคนทั่วไปได้บูชา ส่วนจะสวยหรือไม่ กลับมาคำตอบก่อนน่านี้ คือถ้าทำเองแล้วสวย คงทำไปนานแล้วไม่ต้องรอคนมาสร้างให้

ปัจจุบันหลายวัดก็คงมีการสร้างแบบไม่แตกต่างจากสมัยก่อนคือ ถ้าสร้างเองได้ก็สร้าง ถ้ายากทำไม่ได้ก็จ้าง มีแค่นี้ ส่วนที่สร้างและทำเองแล้วไม่สวยงามก็แจก เป็นปรกติ ผมยกตัวอย่างเช่น หลวงพ่อเกลี้ยง วัดเนินสุธาวาส ท่านเก่งเรื่องปลุกเสกหนุมานเมื่อหลายปีก่อนถ้าท่านใด เข้าไปที่วัดจะได้แจกพระรุ่นตะกั่วหยอด หลัง รูปเหมือนหลวงพ่อท่าน เป็นพระขนาดเล็กพอๆกับปิดตาน้ำท่วมหลวงปู่ทิม พระตะกั่วหยอดรุ่นนี้เดิมสร้างไว้ให้บูชาทำกันเองภายในวัดแต่ออกมาไม่สวย ไม่มีผู้บูชาท่างวัดเลยนำมาแจก ให้ผู้มากราบไหว้หลวงพ่อเกลี้ยง ตำรวจ ทหารก็ได้เช่นกัน แต่ไม่ได้หมายความพระสร้างออกมาไม่สวยหลวงพ่อก็เลยไม่เสก เพราะ พระรุ่นนี้เป็นพระรุ่นประสบการณ์ลูกศิษย์สายตรง แขวนบูชากันทั้งนั้น เรียกว่าของแพงๆเก็บเข้ากรุ แขวนรุ่นนี้กันเป็นแถว (หาข้อมูลอ่านกันเอาเอง)

ที่รากยาวกันอยู่หลายเรื่องเพียงจะบอกว่า ครูบาอาจารย์นั้น เวลาท่านจะปลุกเสกวัตถุมงคล ต่างๆ ท่านไม่เลือกเสกหรอกครับ ยิ่งทำสร้างกันเองในวัด ยิ่งต้องเสกเพราะ สร้างกันเองสวยไม่สวยรูปแบบไม่น่าประทับใจไม่ใช่ปัญหาในการไม่เสก แต่ถ้าท่านจะไม่เสกมีเหตุผลเดียวคือ ปั๊มกันเอง ทำกันเอง สร้างเรื่องกันเอง หลังจากหลวงปู่นั้นๆมรณะภาพไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะมาเสกให้ยังไง เลยแต่งเรื่องซะเลยว่ากายทิพย์ท่านมาเสกให้..............เอาแบบนี้เลยกันทีเดียวนักสร้างพระทั้งหลาย

 

เมื่อหลวงปู่ทิมท่านมีชื่อเสียงที่โด่งดังขึ้น การเสกสรรปั้นแต่งทุกวันนี้ก็ยิ่งมากมายเหลือคณานับ มีวัตถุแปลกๆเกิดขึ้นมาจากความชุลมุลและบิดเบือนจากลูกศิษย์บางคน(วงการคงทราบดี) และความยัดเยียดข้อมูลอันเป็นเท็จให้กับลูกศิษย์ใกล้ชิดที่เสียชีวิตไปแล้ว(ตอนนี้คงทราบดีว่ากลุ่มไหน) เพราะผลประโยชน์มันทำได้ แต่ลืมไปว่าข้อมูลที่เขียนไปมั่วกันทั้งสิ้น จับเอาประเด็นตรงไหนแล้วเอามาเป็นการเล่าความแบบไหลไปเรื่อย ผมว่าน่าขำดีนะครับต่อไปมันจะออกผลไปในรูปแบบไหนกัน...:''(

 

กราบหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย พี่โต้ง พี่รัก พี่เดชา พี่ภู พี่คนบนเกาะ พี่เตอร์ พี่ทหารเก่า พี่อาทิ พี่romegat พี่รุ่ง คุณโอ๊ด คุณอภิเชษฐ์ ท่านนายกู๊ด คุณthavornsiripat และพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่าน สบายดีกันทุกคนนะครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

สำหรับเรื่องราวการสร้างวัตถุมงคลในยุคต่อมาคือในช่วงยุคสร้างโบสถ์ เมื่อปี16 ยุคนี้ถือว่าเป็นยุคที่ยอมรับกับการสร้างที่มีกัน แต่การสร้างในยุคนี้มันก็น้อยคนนักที่จะทราบเรื่องราวอันแท้จริงเหมือนกัน คนที่จะทราบได้ก็คงจะต้องเป็นบุคคลที่อยู่ที่วัดในตอนนั้นก็จะมี พระ เณร เด็กวัด (ที่นอนอยู่กับวัดจริงๆไม่ใช่ไปมา) ที่อยู่ทันในยุคนั้น และเป็นที่ยอมรับกันทั้งหมด ไม่ใช่ยกตนมาคนเดียวแล้วเป็นผู้รู้กันทั้งหมดเพราะมันค้านกับความเป็นจริง กับบุคคลอื่นที่เขาสัมผัสด้วย

พระเศียรโตถือว่าเป็นพิมพ์รูปเหมือนหลวงปู่ทิมพิมพ์แรกที่แกะมาจากหินมีดโกน โดยโยมสาย แก้วสว่างท่านเป็นผู้ดำหริแกะขึ้นมา เพื่อสนองศรัทธาและความต้องการของคน จะเห็นว่าของจริงๆ(ยกเว้นของปลอม) ทำไมถึงมีตามขนาดเล็กใหญ่และตามแบบหน้าตาที่คล้ายเคียงกัน ซึ่งมีทั้งพิมพ์ที่ตื้นและพิมพ์ที่ลึกเพราะอะไรถ้าไม่ใช่การถอดและตกแต่งแม่พิมพ์ขึ้นมาเรื่อยๆจนกว่าจะท็อปฟอร์มเหมือนดั่งกับพระขุนแผน ที่ตกแต่งพิมพ์มาเรื่อยๆเหมือนกัน ซึ่งผมอาจจะไม่เล่ารายละเอียดการสร้างที่ชัดเจนได้เพราะมีบางกลุ่มอาจนำไปคัดลอกประเมินข้อมูลแล้วตกแต่งกันไปให้มันสับสนเรื่องราวกันขึ้นไปอีก

พระเศียรโตที่สร้างกันมานั้น คนยุคเก่าทราบดีว่ามีอานุภาพเช่นใด ทำไมคนที่ได้ไปเขาถึงหวงนักหวงหนา จริงๆแล้วคนที่เคยได้ไปใช้ย่อมจะทราบดีกับพุทธคุณ นายสาย แก้วสว่างผู้เป็นหัวหลักสำคัญในการสร้างท่านเล่าว่าพระชุดเศียรโตหลวงปู่ท่านเสกเป็นพรรษาไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ก่อนพิมพ์กลางและพิมพ์ท้ายยุค ซึ่งหลายคนคงอาจจะงงทำไมมีหลายแบบยุค ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรมากก็แค่มีการสร้างให้ชัดเจนและความเพียงพอในการให้บูชากันไปเท่านั้น เอาไว้ค่อยวิเคราะห์รายละเอียดกันอีกทีมีเรื่องราวกันอีกมากมาย ...............

 

พระเศียรโตแค่ที่เล่นกันทุกวันนี้ก็สับสนแล้วครับ ปลอมกันมาหลาย แต่ที่ทำไม่ได้ก็คงจะเป็นความเก่าที่ได้อายุของมันเอง เล่นหากันก็ควรระวังกันหน่อย ถ้าไม่มีความรู้ความเข้าใจพอ