ประสบการณ์มโนมยิทธิ กรรม และเรื่องยุ่งๆของผม

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย softkid9, 18 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. tharathan

    tharathan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +7,128
    หนังสือหลวงพ่อฯ ที่ยกตัวอย่างมา เห็นด้วยเลยค่ะ
    เป็นเล่มที่ อ่านง่าย เข้าใจง่าย และมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน
    สามารถนำไปปฏิบัติตามได้ด้วย ดีมากๆเลยค่ะ :cool:

    ส่วนภาพงูโดนเห็บรุมดูดเดือด เห็นแล้วรู้สึกสยองยังไงไม่รู้ :'(
    เพิ่งรู้ว่ามีแบบนี้ด้วย น่ากลัวจริงๆ เห็บก็ตัวใหญ่จัง

    แต่สงสัยเรื่องที่คุณเก่งเล่า ( กันขี้สงสัยอีกแล้ว ) อาเจ๊แกดองงูเห่าในเหล้า
    ตั้ง 3 เดือน แล้วงูเห่ายังไม่ตายเหรอคะ แสดงว่าเค้าเอางูเป็นๆดองเหล้าเลยเหรอคะ
    แล้วพิษงูมันยังอยุ่ไหมคะ เวลาดื่มยาดองนั้นเข้าไปพิษงูไม่เข้าไปด้วยเหรอคะ
     
  2. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    ในความเข้าใจของผมนะครับ คาดว่าสาเหตุที่อาจเป็นไปได้ว่างูที่จับมาดองเหล้ากว่าสามเดือนแล้วยังมีชีวิตมาฉกอาเจ๊ที่ดองไว้กินนั้นอยู่ที่กระบวนการผลิตนั่นเอง เข้าใจว่าการทำงูดองเหล้าต้องใช้งูที่ยังไม่ตาย และอาจจะทำการปิดฝาไม่สนิททำให้อากาศยังสามารถถ่ายเทเข้ามามาในขวดได้ ในเมื่อหายใจได้แต่ไม่มีอาหารทำไมถึงอยู่ได้ ซึ่งจากธรรมชาติของงูที่ไม่กินอาหารสามารถอยู่ได้เป็นเดือน โดยการย่อยไขมันที่อยู่ในร่างกาย เปลี่ยนเป็นพลังงานเนื่องจากมันลดอัตราการเผาผลาญลงได้มากถึง 72 % และมันจะไม่ขยับเขยื้อน ทำตัวนิ่งๆ เพื่อรักษาพลังงานเอาไว้ใช้ให้นานที่สุด หรืออีกเหตุผลหนึ่งคืองูที่จับมาทำงูดองเหล้านั้นอาจเพิ่งจะกินเหยื่อมาแล้วไม่นาน จึงสามารถอยู่ได้แม้ไม่มีอาหาร สมมุติฐานทั้งหมดคืออาเจ๊หญิงชาวจีนคนนี้อาจนำงูที่เพิ่งกินเหยื่อและยังไม่ตายมายัดใส่ขวดแล้วเทเหล้าไม่เต็มขวดและปิดฝาขวดไม่สนิท จึงทำให้งูตัวนี้ยังไม่ตายเมื่อเปิดขวดแล้วงูจึงออกมาฉกกัดได้ ทำสิ่งใด ได้สิ่งนั้นจริงๆนะครับ

    ส่วนที่ถามว่าพิษของงูยังอยู่รึเปล่านั้น เห็นคนในท้องถิ่นเค้าเชื่อกันว่าหากงูถูกแช่เหล้าเป็นเวลานานๆ เหล้าจะทำให้พิษค่อยๆเจือจาง และถูกทำลายไปในที่สุด จึงสามารถดื่มได้โดยไม่เป็นอันตรายแต่อย่าเพิ่งเชื่อนะครับ เพราะยังไม่มีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แต่ผมไม่พิสูจน์แน่นอนครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2014
  3. tharathan

    tharathan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +7,128
    เป็นอย่างนี้นี่เอง ขอบพระคุณมากนะคะ ที่มาช่วยตอบคำถามของคนขี้สงสัย
    ทำให้เห็นจริงๆเลยว่า การกระทำส่งถึงผล ทำสิ่งใด ได้สิ่งนั้น จริงๆ
    เพราะฉะนั้น ในช่วงที่เรายังมีชีวิตอยู่นี้ เรายังมีโอกาสที่จะเลือกได้ว่า
    จะดำเนินชีวิตไปในทางไหน ก่อนที่เวลาการเป็นมนุษย์ของเราจะหมดลง

    ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ
     
  4. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399

    จริงแท้แน่นอนอย่างที่คุณ tharathan บอกครับ เพราะเหตุปัจจัยนี้ทำให้ผมเบื่อสังขารและการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร จึงอยากจะไปบ้านใหม่เร็วๆ อนุโมทนากับพี่ๆน้องๆญาติธรรมทุกท่าน สาธุสวัสดีและความถึงที่สุดแห่งการไม่ต้องเกิดจงมีแด่ทุกท่านครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2014
  5. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399

    [​IMG]


    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--> [FONT=&quot]ติดคุณเมธาวีไว้เรื่องนรก-สวรรค์ วันนี้เอาซะหน่อย โพสนี้เอาเป็นเรื่องของนรกก็แล้วกันนะครับ ต้องกล่าวถึงแฟนผมก่อน เนื่องจากมโนมยิทธิครั้งแรกนั้นแฟนผมเค้าเปิด[/FONT]MP3[FONT=&quot] ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเรื่องการฝึกมโนมยิทธิ โดยเป็นการฟังเฉยๆ ยังไม่ได้ฝึกกับครูฝึกเลย แต่แฟนผมเค้าเห็นนรกก่อนเป็นอันดับแรก แฟนผมเค้าบรรยายสถานที่ของนรก ลักษณะของปู่พระยายม ห้องพิพากษา ลักษณะของไฟในนรก จำนวนของขุมนรก ตรงกับที่หลวงพ่อท่านได้บรรยายไว้เลย ทั้งๆที่แฟนผมเค้าไม่ชอบอ่านหนังสือ และไม่เคยฟังหรืออ่านเรื่องของนรกที่หลวงพ่อท่านได้เอ่ยถึงเลย ฉะนั้นเป็นการแปลกมากในสิ่งที่แฟนผมบรรยายมา ผมจะเล่าคร่าวๆให้ฟัง [/FONT]


    [​IMG]


    [FONT=&quot]เช่นลักษณะไฟในนรก ซึ่งแสง สีของเปลวไฟนั้นน่ากลัวมากกว่าไฟในโลกมนุษย์หลายเท่า ความร้อนก็ร้อนมากกว่าไฟในโลกมนุษย์เป็นร้อยเท่า แต่ในนรกถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากท่านปู่พระยายมท่าน เราไปเดินเล่นเหมือนในโลกมนุษย์ไม่ได้นะครับ เปลวไฟในนรกขุมนั้นจะดับหมด เพราะตัวเราไม่ใช่คนในนรกขุมนั้นๆ และท่านปู่ท่านเคยกล่าวไว้ว่าสัตว์นรกนั้นไม่มีเวลาพักผ่อนหรือได้รับการผ่อนผันใดๆทั้งสิ้น ถ้ายังไม่หมดกรรมหรือพ่อ แม่ ญาติ พี่ น้อง ลูก เมีย ผัว ทำบุญอุทิศให้จนกำลังของบุญมากพอที่จะเปลี่ยนภพภูมิแล้วละก็ตัวใครตัวมันละก๊าบ แต่ในการที่จะรับบุญหรืออนุโมทนาบุญได้นั้นต้องตกนรกขุมที่ไม่ลึกจนเกินไปนักนะครับ ไม่เช่นนั้นจะไม่ถึงและไม่ได้รับครับ

    แม้แต่ขุมที่แฟนผมไปเห็นมาคือขุมแห่งการผิดศีลข้อ 3 หรือข้อกาเมนั้นเอง จะมียมทูตท่านถือเหล็กสามง่ามคอยแทงให้คนบาปที่ผิดศีลข้อกาเมต้องปีนต้นงิ้วให้ขึ้นไปจนถึงยอด แต่ระหว่างที่ปีนขึ้นไปนั้น หนามแหลมของต้นงิ้วเหมือนจะติดสปริงยังไงยังงั้นเลย เพราะมันจะเด้งออกมาแทงสัตว์นรกขุมนี้จนล่วงหล่นลงมา พอหล่นมาถึงพื้นก็จะมีสุนัขตัวใหญ่ขนาดลูกวัว สีดำ วิ่งมากัดกินตัวของสัตว์นรกจนรุ่งริ่ง เสร็จแล้วก็ฟื้นขึ้นมาใหม่เป็นภาพคนปกติ แล้วก็ต้องโดนยมทูตท่านเอาเหล็กสามง่ามแทงตูดอีก แต่สัตว์นรกบางตนปีนขึ้นไปจนถึงสุดปลายยอดต้นงิ้ว จะมีอีกาปากเหล็กตัวใหญ่บินมาจิกตี จนร่างของสัตว์นรกร่วงหล่นลงมาอีก โดนวนเวียนอย่างนี้ไปจนกว่าบาปกรรมข้อนี้ของเราจะเบาบางลง ก็จะต้องเลื่อนไปรับกรรมในขุมใหม่ต่อไปตามกำลังของอกุศลกรรมที่เราได้ทำมาครับ

    [/FONT]
    [FONT=&quot][​IMG][/FONT]


    [FONT=&quot][FONT=&quot]ต้องเข้าใจว่า ตัวเรานั้นในชาติชาติหนึ่งที่ได้เกิดมา ไม่ได้ทำกรรมแค่อย่างเดียวไม่ว่าจะเป็นบุญกุศลหรือบาปอกุศล ฉะนั้นเวลาเลือกรับผลของกรรมนั้นก็จะมีหลายระดับ และมีความหนักเบาไม่เท่ากันนั้นเอง ถ้าเลือกรับผลของบาปอกุศลก่อนก็ต้องไล่ตั้งแต่นรกขุมที่ใหญ่ที่สุด พอกรรมที่ส่งผลให้ไปรับกรรมในนรกขุมใหญ่นั้นเบาบางลงก็ต้องเปลี่ยนไปรับโทษ ที่นรกขุมอื่นต่อไป ซึ่งไม่รู้จะอีกกี่สิบกี่ร้อยปี กรรมบางประเภทนั้นถ้าจะคำนวณตัวเลขที่ใช้กันในโลกมนุษย์แล้วละก็ ต้องใช้ตัวเลขยกกำลังกันเลยทีเดียวครับ รวมความแล้วชอบที่ไหนเราก็เลือกสถานที่ที่เราตั้งใจจะไปแห่งนั้นซะตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าเกิดวันดีคืนดีดันไม่หายใจขึ้นมาดื้อๆ จะหาว่าทำไมไม่มีใครเตือนตรูเลยฟ่ะไม่ได้นะครับ

    [/FONT]
    เคยอ่านประสบการณ์ที่คุณลุงท่านหนึ่งสั่งลูกหลานไว้ว่าถ้ากูตายไปให้เอาขวานใส่ไปในโลกศพกูด้วย กูจะเอาไปฟันต้นงิ้ว เวลาเราๆท่านๆฟังก็อาจจะขำนะครับ แต่พอแกดันตาย[/FONT]
    [FONT=&quot]จริงๆ และลูกหลานก็บ้าจี้ทำตามพ่อสั่ง ขณะที่จัดงานศพคุณลุงท่านนี้ไม่กี่วัน แกมาเข้าฝันลูกหลานแกว่าให้ไปเอาขวานออกจากโลงศพแกให้เร็วที่สุด ตอนนี้ยมทูตเอาขวานที่ลูกหลานแกใส่ไปในโลงจามหัวแกอยู่ เรื่องนี้อ่านแล้วเป็นไงครับ ท่านใดที่ไม่เชื่อ ก็ลองดูได้นะครับ แต่ผมไม่เอาด้วยนะ เพราะตอนนี้ไม่อยากจะไปที่ไหนอีกแล้ว ผ่านมาหมดแล้วเหลืออยู่ที่เดียวคือพระนิพพาน เบื่อที่จะต้องเวียนว่ายตายเกิด รวบรวมกำลังใจไปอยู่กับองค์สมเด็จท่านและหลวงพ่อเราดีกว่า

    [/FONT]

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2014
  6. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    วันนี้จะเล่าเรื่องแปลกๆให้พี่ๆน้องๆญาติธรรมได้รับฟังกัน เรื่องนี้ต้องทำใจกลางๆแล้วถ้ามีทางพิสูจน์ก็ลองดูกันนะครับ พอดีเห็นว่าเข้ากับเรื่องสวรรค์ที่คุณเมธาวีถามไว้ เพราะเรื่องนรกได้เล่าไปแล้ว

    [​IMG]

    เนื่องด้วยจริงๆแล้วนี่บ้านผมมีน้องกุมารอยู่ 3-4 องค์ ปกติผมก็ไม่ได้บูชาอะไรเค้าหรอกครับ แต่อุทิศบุญแผ่เมตตาให้เป็นปกติทุกวัน น้ำดงน้ำแดงอะไรนี้ไม่ได้ให้กินกะเค้าหรอก เพราะเค้าบอกว่าของทีี่ให้เซ่นให้กินนั้นเค้าสูดความเป็นทิพย์แป๊บเดียวก็หมดประโยชน์แล้ว แต่บุญกุศลที่อุทิศให้นั้นมีค่ามากที่สุดในโลกทิพย์ เวลาผมอุทิศบุญให้น้องกุมารเค้า จะมีแสงบุญส่องลงมาที่ตัวน้องกุมาร แล้วสิ่งที่เปลี่ยนไปคือกายทิพย์น้องกุมารจะมีแสงสว่างมากขึ้น มีความอิ่มเอิบ ผ่องใสขึ้นในทันที แต่มีอยู่องค์นึงเค้าชื่อน้องลูกหว้า เค้าบอกว่าเค้ามีความผูกพันกับผมเป็นพิเศษ เค้าบอกว่าชาติที่แล้วเป็นลูกของผม ชาตินี้พอมาเจอก็เกาะหัว เกาะตูดพ่อทันทีเลย ก็นับรวมเข้าแก๊งค์เค้าละครับ แต่พิเศษตรงที่ว่ามีอยู่วันหนึ่ง ผมนึกขึ้นมาได้ว่า เอ!เราก็อุทิศบุญให้ทุกวัน ทำไมยังไม่ไปเป็นเทพซะทีนะ ก็เลยต้องมีการพิสูจน์ครับ วันนั้นผมทำบุญสร้างพระพุทธรูปใหญ่อุทิศให้ลูกกุมารซะเลย(อยากรู้ว่าจะเป็นไงมั่ง เห็นชอบอ้อนกินไอติมดีนัก ฮ่าๆ) ปรากฏว่าน้องลูกหว้าหายไปเลย เราก็งงว่าลูกตรูหายไปไหนว้า ให้แฟนผมเค้าหา โน้นครับ ไปโผล่ที่วิมานของแฟนผม น้องลูกหว้าเค้าบอกว่าก็พ่อทำบุญให้หนู หนูก็มาเป็นนางฟ้าเลย สวยมั๊ยพ่อ (ไปยึดบ้านพ่อกะแม่ซะ บริวารก็มีเต็มบ้าน สบายเลย ว่างๆก็ไปอ้อนท่านปู่กะท่านย่าเล่น)

    [​IMG]

    แต่ผมเตือนลูกหว้าเป็นประจำว่าหนูเบื่อการเกิดรึยัง อย่าหลงในมิติของเทวดา นางฟ้านะลูกนะ หนูอย่าเที่ยวเล่นมาก ปฏิบัติแล้วต่อตรงข้างบนไปเลย อย่ามาเกิดเป็นอะไรในโลกนี้ ในวัฏสงสารนี้อีกเลย (ในมิติทิพย์ของสวรรค์นั้น ความสว่างและแสงสีแพรวพราวมากมายเกินกว่าที่จะบรรยายและเกินประสาทสัมผัสของมนุษย์จะรับรู้ได้หมด ฉะนั้นถ้าเทวดา นางฟ้าที่หลงในความเป็นทิพย์ มีสิทธิตกสวรรค์ได้ง่ายๆเลยครับ ถ้าไม่ปฏิบัติต่อ) แค่ชาติที่มาเกิดเป็นลูกของผมชาติที่แล้วมีเหตุที่ทำให้เค้าเสียชีวิต คือแม่เค้าแท้งลูก ลูกหว้าตายก่อนที่จะทันเกิดเป็นคนซะอีก แต่มาชาตินี้เค้ายังไม่ได้ไปเกิด แล้วเค้ามาเจอผม เค้าจำได้ทันที

    [​IMG]

    ฉะนั้นในการมิติของความเป็นทิพย์เค้าจะจำคนที่มีความเกี่ยวเนื่องกันได้ทันที เหมือนกับการที่เราไปในสถานที่ที่มีเจ้ากรรมนายเวรของเราอยู่ ซึ่งเค้ายังไม่ได้ไปเกิด แล้วดันเจอเราซึ่งเป็นลูกหนี้กรรมเค้า เค้าก็เช็กบิลทันทีเลยนะครับ แต่เค้าจะมีสิทธิทวงหนี้กรรมเราได้ก็ต้องไม่เกินกว่าหนี้กรรมที่ติดค้างกัน แต่ทีนี้เราจะรู้ได้ยังไงว่าตรูติดหนี้กรรมใครเค้าบ้าง อันนี้ก็ต้องตัวใครตัวมันครับ เพราะตอนที่สร้างกรรม ก็สร้างกันเอง แต่มีวิธีบรรเทาก็คือทำบุญเพื่อหนีกรรมให้เยอะๆและบ่อยครั้ง เท่าที่เรามีโอกาสและกำลัง และอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรของเราทุกผู้ทุกตัวตนและเทวดาที่คุ้มครองตัวเรา ผมนี่ทำทุกวัน ทำทานบ้าง ศีลบ้าง ภาวนาบ้างไปตามเรื่องตามราว แต่ที่มั่นใจจริงๆคือ พระนิพพาน ตั้งใจจะย้ายบ้านไปอยู่กับองค์สมเด็จท่านกับหลวงพ่อของเราแหละครับ

    ดังนั้นการเกิดของโอปาติกะคือการเกิดผุดขึ้นมาทันทีไม่ต้องมีการเป็นเด็ก เกิดปุ๊บเป็นผู้ใหญ่ทันทีมีอยู่จริง แต่อย่าเพิ่งเชื่อผมนะครับ ลองพิสูจน์กันดูก่อน และถ้าท่านใดไม่เชื่อ ยังมีความเห็นที่ยังแย้งกับผม แย้งกับในพระไตรปิฏก อันนี้ต้องไปกราบทูลกับพระพุทธองค์กับหลวงพ่อท่านเอาเองนะก๊าบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2014
  7. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    อ่านเรื่องนรก-สวรรค์ของพี่เก่งแลัวทำให้นึกถึงตัวเองในวันนี้ วันนี้ผมได้ไปฟื้นมโนมยิทธิที่บ้านสายลมมาแล้วครับ ครูฝึกบอกว่า ผมมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว ถ้าจะมาฝึกญาณ8ต่อนั้นก็ได้เลย ภาพที่เห็นก็แจ่มใสดีถ้าไม่มีนิวรณ์เข้ามากวนใจเสียก่อน การฝึกครั้งนี้พ่วงการดูอดีตชาติของตัวเองด้วย แหม่ เล่นเกิดวนซะครบทุกภพภูมิเลยทีเดียว แถมยังเจอท่านเทวดาประจำตัวที่เป็น1ในท้าวจตุโลกบาลด้วย ขอบอกว่าเทวฤทธิ์ของท่านนั้นแรงมากครับ ไว้ผมจะมาเล่ารายละเอียดให้ฟังครับ ถ้าว่างๆ :cool:
     
  8. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    เย้ๆ! ดีใจและอนุโมทนากับน้องกฤษณ์ด้วยครับ พี่จะตั้งตารออ่านเรื่องของน้องกฤษณ์นะครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2014
  9. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    ประสบการณ์การฝึกมโนมยิทธิ

    วันนี้ผมได้มีโอกาสไปฝึกมโนมยิทธิิที่บ้านซอยสายลม ดั่งความตั้งใจที่ได้มีไว้ตั้งแต่ต้นเดือน การฝึกไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอกครับ ก็เหมือนๆกับการฝึกทั่วๆไป แต่สำหรับห้องของผมนั้นมีการพ่วงการฝึกญาณแปดอ่อนๆเข้าไปด้วยครับ เริ่มจากการจับลมหายใจ นะมะ พะธะ เมื่อผมจับลมหายใจพร้อมกับจับภาพพระไปเรื่อยๆนั้น ครูก็เริ่มจะถามคำถามว่า ณ ตอนนี้ มีใครอยู่ข้างหน้าหรือไม่ ตอนนั้นผมเห็นภาพพระทรงเครื่องจักรพรรดิที่จับอยู่จากสีทองกลายเป็นแก้วใส และ กลายเป็นร่างมนุษย์ที่มีความงดงามอย่างมาก ท่านแย้มพระโอษฐ์เล็กน้อย พร้อมกับยื่นพระหัตถ์ให้ผมจับ และ พาผมไปที่พระจุฬามุณีเจดีย์สถาน ได้ก่อนคนอื่นๆ ภาพที่ผมเห็นนั้นไม่ค่อยชัดมากนัก แต่รับรู้ว่าพระจุฬามุณีเป็นเจดีย์แก้วใสที่มีความงามเป็นอย่างมาก คาดว่าตอนนัั้นที่เห็นภาพไม่ขัดคงจะเป็นเพราะนิวรณ์มันกัดกินใจ แต่เมื่อได้เข้ามาสู่พระจุฬามุนีย์แล้วสิ่งที่ผมเห็นกลับชัดเจนแจ่มใสมาก เห็นแสงสว่างที่สว่างมาก และ เห็นพระพุทธเจ้าในร่างมนุษย์ที่มีพระสิริโฉมงดงามกำลังแผ่พระฉัพพณรังสีที่เมื่อสัมผัสโดนอทิสมานกายของผม(ที่ทรงเครื่องคล้ายๆเครื่องจักรพรรดิ) ผมรู้สึกอบอุ่นและสงบมาก ครูฝึกได้มอบหมายให้ผมช่วยทูลให้พระพุทธองค์ทรงแผ่พระฉัพพณรังสีเพื่อปกคลุมทุกๆคนในห้อง ซึ่งนั้นก็ทำให้ผมรู้สึกได้เช่นกันว่าแสงที่ออกมานั้นสว่างมากกว่าเดิม พระองค์ทรงแย้มพระโอษฐ์ และ ใช้พระหัตถ์ลูบหัวผมบ่อยมาก ครูฝึกบอกว่า พระองค์ทรงมีเมตตาและให้กำลังใจในการปฎิบัติของผมเสมอ...

    [​IMG]
    ภาพพระพุทธเจ้าในร่างมนุษย์มีพระพุทธลักษณะคล้ายๆแบบนี้เลยครับ จากที่จิตผมเห็น​


    หลังจากที่คนอื่นๆขึ้นมาได้แล้วนั้น ครูฝึกได้ให้พวกเราที่ฝึกลองขออารธนาบารมีขององค์สมเด็จพระประทีปแก้วเพื่อย้อนดูอดีตชาติว่าเราเคยเกิดมาเป็นอะไรกันมาบ้าง สิ่งที่ผมเห็นมันค่อนข้างทำให้ผมตกตะลึงเหมือนกันครับ เพราะผมเคยเกิดและเวียนว่ายเปลี่ยนผ่านมาแล้วทุกภพภูมิ ตั้งแต่สัตว์นรก เปรต ที่มีสภาพทุกข์ทรมาน มาเป็นสัตว์เดรัจฉาน (ภาพที่ผมเห็นนั้น คือ สุนัข และ ไก่ และครูได้บอกผมเพิ่มเติมว่าผมเคยเป็นกระต่ายด้วย) นอกจากนั้นยังเห็นว่าตนเองเคยเกิดเป็นรูปพรหม ชั้นที่3 (ความรู้สึกของจิตแวบแรกบอกเช่นนั้น) และ ครูยังบอกผมอีกว่าผมเคยเป็นอรูปพรหม และยังย้ำอีกว่าพรหมโลกนั้นเป็นสุขก็จริงถึงจะยาวนาน แต่มันก็ไม่ใช่หนทางที่พ้นทุกข์ที่แท้จริง

    [​IMG]


    นอกจากนั้นยังเคยเป็นเทวดา และ เป็นมนุษย์(ภาพมนุษย์ที่ผมเห็นนั้นดูเลวร้ายมาก เพราะวันๆเอาแต่กินเหล้าเมายา) หลังจากนั้นครูก็ได้อาราธนาบารมีของพระเพื่อนำผมไปวิมานขององค์สมเด็จพระบรมครู วิมานของสมเด็จองค์ปัจจุบันนั้นกว้างใหญ่และงดงาม และภาพที่เห็นก็ยังคงเป็นสมเด็จฯในร่างมนุษย์ และมีพระสงฆ์อยู่ข้างๆพระองค์อีกสององค์ นั้นก็คือ หลวงปู่ปาน และ หลวงพ่อของเรานั้นเอง ผมจึงได้ชันเข่าไปก้มกราบหลวงปู่ปาน รู้สึกได้ว่าหลวงปู่ปานยกมือมาลูบหัว พอคลานเข่าไปหาหลวงพ่อของเรา หลวงพ่อท่านยิ้มแย้มและอบอุ่น เมื่อผมก้มกราบท่านก็เอามือลูบหัวและพูดกับผมด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มว่า ' ไอ้หนูเอ้ยยย!! ' จำได้ดีเลยครับ อบอุ่นที่สุดเลย.. จากนั้นก็กราบสมเด็จท่านและอาราธนาบุญที่เคยสั่งสมมา อ้อ ใช่ครับตอนที่ระลึกว่าเคยเกิดเป็นอะไรมาบ้างนั้น ภาพบุญที่ผมเคยบำเพ็ญมาก็ปรากฎขึ้นแบบเร็วๆเช่นกัน ทั้งการสร้างพระ วิหารทาน และ สังฆทาน


    จากนั้นครูฝึกก็นำพวกเราขอบารมีองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าได้นำพาพวกเราไปที่วิมานของตนเอง วิมานของผมก็เหมือนเดิมแหละครับ แต่ในความรู้สึกผม ณ ตอนนั้น ผมรู้สึกว่าวิมานของผมสวยงามมากขึ้น(ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองรึเปล่า เพราะตอนนั้นมันค่อนข้างฟุ้งซ่าน) หลังจากได้เข้าไปอยู่ในวิมานของตนเองแล้วนั้น ครูบอกว่าพระพุทธองค์นั้นตามมาด้วย คนอื่นๆเห็นพระองค์ในร่างมนุษย์ แต่ผมกลับเห็นพระองค์เป็นแบบพระพุทธรูปปางสมาธิ หลังจากนั้นครูก็ให้เราอารธนาบารมีขององค์สมเด็จท่านอัญเชิญพ่อกับแม่ของเราในอดีตชาติ และเทวดาประจำตัว ผมก็เห็นผู้หญิงกับผู้ชายมาสองคนครับ กับเทวดาที่ทรงเครื่องถือตะบองมาองค์นึง จิตบอกว่าผู้หญิงตรงหน้าคือท่านแม่ศรี แต่ผู้ชายผมไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร

    กลับมาที่เทวดาประจำตัวของผมครับ ตอนแรกผมเห็นท่านถือพระขรรค์แต่เป็นพระขรรค์แบบถู่ๆ ครูเลยให้ผมถามท่านว่า ถ้าต้องการจะบูชาท่านต้องบูชาด้วยดอกไม้สีอะไร จิตบอกว่า เป็นดดอกไม้สีแดง ครูจึงบอกผมว่าให้ดูดีๆว่าท่านถือพระขรรค์หรือตะบองกันแน่ สรุปสุดท้ายแล้ว ท่านเทวดาประจำตัวของผมนั้นเป็นท่านท้าวเวสสุวรรณนั้นเอง ผมหันไปหาท่านท่านก็ทรงยิ้ม ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก ครูก็ให้พวกเรากราบลาองค์สมเด็จท่าน และ หลวงพ่อ หลวงปู่ปาน เพื่อกลับลงมา เป็นอันสิ้นสุดการฝึก

    [​IMG]

    หลังจากสิ้นสุดการฝึก ผมก็ได้พูดคุยกับครูผู้ฝึก ท่านก็บอกว่าเป็นท่านท้าวเวสสุวรรณ ลองให้ลงไปดูรูปท้าวจตุโลกบาลที่ชั้นล่างดู และผมก็เล่าให้ครูฟังว่า ตอนที่ผมนั่งฟังคำแนะนำของหลวงพ่อพร้อมกับภาวนาไปด้วย ขาผมชาจนปวดและแดงไปหมด ครูก็บอกว่าบางทีผมกับท่านอาจจะเคยผูกพันกันและท่านอาจจะมีภารกิจให้ผมช่วยทำ พร้อมทั้งยังแน่นย้ำอีกว่า ท้าวเวสสุวรรณ เทวฤทธิ์ของท่านแรงกล้ามาก เพราะท่านเป็นยักษ์และเป็นนายผี พร้อมทั้งเลาเรื่องถึงคนที่เคยมาฝึกว่า มีอยู่รายหนึ่งที่ตัวแดงทั้งตัว และ วิ่งออกจากห้องไปเลย...

    นี่แหละครับ..ประสบการณ์งูๆปลาๆของผม หลังจากนี้คงเป็นการทรงกำลังใจให้ได้ดีเพื่อไม่ให้มันเสื่อมหรือหายไปอีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2014
  10. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    ดีใจและปลื้มใจกับน้องกฤษณ์มากครับ ที่น้องได้ขึ้นไปกราบองค์สมเด็จ หลวงปู่ปาน และหลวงพ่อฤาษีท่าน มโนมยิทธิของพี่ยังเป็นแค่อย่างอ่อนหรือทีเรียกว่าลางสังหรณ์นั้นเอง ของพี่ยังไม่ได้เท่าน้องเลย ที่มีข้อมูลมาเล่าในกระทู้นี้ ก็ของแฟนพี่ล้วนๆเลย พยายามรักษาและหมั่นใช้บ่อยๆนะครับ จะได้เห็นตามความเป็นจริงของวัฏสงสารนี้

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 101_177.jpg
      101_177.jpg
      ขนาดไฟล์:
      171.5 KB
      เปิดดู:
      999
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2014
  11. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    -1 มิถุนายน 2557- ​


    เช้านี้ผมได้ขึ้นไปกราบสมเด็จองค์ปัจจุบันที่วิมานของท่านบนพระนิพพาน และ ได้ทูลขอพรพุทธานุญาตไปที่วิมานของตัวผมเอง นั่งๆนอนๆได้แปปเดียวเท่านั้น จิตก็รู้สึกว่าองค์สมเด็จท่านมายืนอยู่ตรงหน้า ทรงแย้มพระโอษฐ์ ผมจึงก้มกราบท่าน ท่านได้ประทานข้อธรรมะให้ผมคือ ให้พิจารณาตัดกายบ่อยๆ ให้รู้ว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา แล้วท่านจึงยื่นพระหัตถ์มาลูบหัวผม ผมจึงกราบลาท่านกลับมามนุษยภูมิดังเดิม

    สิ่งที่ผมเห็นมันอาจจะไม่ได้แน่นอนนัก แต่สิ่งที่ผมมั่นใจมากๆคือ อารมณ์พระนิพพานครับ ผมจำได้ดีเลยว่ามันสุขและสงบแค่ไหน


    อรุณสวัสดิ์ครับพี่เก่ง แหะๆ ขออนุญาตพื้นที่ตรงนี้ บันทึกข้อความสักหน่อยนะครับ^_^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2014
  12. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    ไม่เป็นไรครับน้อง พี่ๆน้องๆกันทั้งนั้น อ่านเรื่องของน้องแล้วพี่จะได้ไม่ประมาททั้งเรื่องทางโลกและทางธรรม
     
  13. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    พี่เก่งครับ ผมมีเรื่องอยากให้พี่ช่วยทดสอบว่าสิ่งที่ผมเห็นในมโนมยิทธิเมื่อสักครู่นี้เป็นของจริงหรือผมอุปาทานไปเอง เดี๋ยวฟมจะส่งรายละเอียดไปทางpmนะครับ

    ขอบคุณครับ
     
  14. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    สาธุ อนุโมทนาบุญกับพี่เก่งและน้องกฤษณ์ค่ะ :)


    เรื่องภพภูมินรกนี่ เฟมยังไม่เคยไปกับเค้าเลยค่ะ เคยจะไปตอนฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลังครั้งที่ 2 แต่พอจิตเริ่มเห็นเค้าว่าเป็นนรกก็แว๊กเลยค่ะ ประมาณว่าไม่อยากไปดู เพราะส่วนตัวเป็นคนที่กลัวนรก เนื่องจากตอนเด็กๆเคยอ่านเกี่ยวกับนรกแล้วกลัวมาก T^T


    ทุกวันนี้ยังเสียใจอยู่ว่าทำไมเราถึงไม่ไปตามที่จิตอยากจะไปนะ จะได้รู้เหมือนคนอื่นๆมั่งว่านรกเป็นยังไง เพื่อจะได้เอามาปรามตัวเองเวลาจะทำความชั่ว


    แต่พอมาคิดดูอีกทีก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าเกิดพอมีบุญกับเค้าบ้างก็อาจจะได้ไปพิสูจน์นรกโดยได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยอ่านเจอและไม่เคยรู้มาก่อน จะได้เป็นการยืนยันกับตัวเองว่าสิ่งที่เห็นน่ะจริง


    แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสนั้นมั้ยนะคะ แฮ่ๆ :p


    สาธุกับน้องกฤษณ์ที่ปรารถนานิพพานนะคะ ถ้าน้องปฏิบัติไปเรื่อยๆ รบกวนช่วย feed back พี่ในเรื่องหนึ่งหน่อยสิ ว่ามีความเป็นไปได้ไหมที่เพศที่ 3 จะทำได้อย่างที่พี่เขียนไว้ในเรื่อง"เพศที่ 3 กับการปฏิบัติธรรม"อ่ะ >3<


    เพราะลึกๆพี่เชื่อว่าน่าจะมีคนที่มีกรรมประมาณนี้แล้วปฏิบัติธรรมโดยยึดสมถะภาวนาและวิปัสสนาญาณดีพอจนสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อ่ะ ดังนั้นจึงอยากที่จะมีคนยืนยันอีกทางหนึ่งว่ามันเป็นไปได้จริงๆ
     
  15. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112

    ได้เลยครับผมพี่เฟมม ไว้ถ้าผมยังสามารถทรงอารมณ์จิตแบบนี้ได้ไปเรื่อยๆแล้วผมจะมาบอกfeed back นะครับผม :VO

    จะเป็นไปได้ไหมครับถ้าผมอยากให้พี่ช่วยสอบอารมณ์และยืนยันสิ่งที่ผมเห็นมาเมื่อเช้านี้จากมโมยิทธิน่ะครับ แหะๆ จะเป็นการรบกวนหรือเปล่าครับ
     
  16. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    ขอบใจมากจ้า จริงๆแล้วยังไม่ต้องถึงกับทรงอารมณ์จิตได้ถึงขนาดนั้นก็ได้นะ อันนั้นสำหรับท่านที่เป็นเพศที่3 และไม่เป็นเพศที่ 3 ที่มุ่งการหลุดพ้นจริงๆ(ประมาณว่าบารมีเข้มมากๆ อารมณ์จิตทรงได้ดีมากๆแล้ว) ซึ่งต้องทำเหมือนๆกัน โดยเคสนั้นพี่กะว่าถ้าเป็นไปได้อยากให้ท่านที่เป็นเพศที่ 3 ที่มุ่งการหลุดพ้นนั้นลองทำดู แล้ววัดผลตอนเสียชีวิตแล้วว่ากระดูกจะเป็นพระธาตุหรือไม่(ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือเปล่า)


    แต่จุดที่พี่อยากให้ทำดูจริงๆก็คือ อยากให้เช็คความเปลี่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อยที่เกิดขึ้น จากการที่จิตเราสงบระงับจากกิเลส แล้วอารมณ์ปรุงแต่งต่างๆมันก็จะหายไปโดยอัตโนมัติ อันนี้มันจริงหรือเปล่า? แล้วถ้าเราทำไปเรื่อยๆเราก็จะเริ่มไม่โอเคกับการปรุงแต่งนั้น แล้วอยากจะไปทำสมาธิมากขึ้นๆ อันนี้จริงหรือไม่?


    แล้วอารมณ์จิตตอนที่พิจารณาตัดกาย ถ้าทำไปเรื่อยๆ มันจะทำให้ความอยากเป็นเพศที่อยู่ตรงข้ามกับตัวเองน้อยลงไปมั้ย ? อารมณ์ประมาณว่าร่างกายมันก็แค่นั้น ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง แล้วอารมณ์อยากเป็นเพศนั้นเพศนี้ล่ะมันก็งั้นๆนะเนี่ยยย ทำให้กลายเป็นว่าเราก็เลยไม่อะไรมากกับมันแล้ว อะไรทำนองนี้อ่ะ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ย?


    ส่วนเรื่องตรวจสอบอารมณ์ พี่ยอมรับว่าพี่ไม่ได้มโนมยิทธิมานานแร้วจ้า ตั้งแต่พี่เริ่มกลับมาปฏิบัติธรรมอีกครั้ง พี่เน้นค่อยๆฝึกโดยยึดกรรมฐานและคำสอนล้วนๆเลย ไม่ได้สนใจเรื่องญาณ 8 เลยจ้า ถ้ายังไงให้พี่เก่งลองช่วยดูเนอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2014
  17. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    ตอนจิตสงบระงับจากกิเลส อารมณ์ปรุงแต่งต่างๆมันจะค่อยๆหายไปเองโดยอัตโนมัติครับ ตรงนี้ผมขอยืนยัน ส่วนเรื่องอื่นๆไว้ผมจะมาบอกในครั้งต่อๆไปครับ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2014
  18. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    พี่เก่งค่ะ ยังไงเฟมขออนุญาตคุยกับน้องกฤษณ์เรื่องเพศที่ 3 ในกระทู้น้าคะ :p

    พอดีไปเจอเรื่องราวเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมของเพศที่ 3 โดยบังเอิญอ่ะคะ เห็นว่าน่าสนใจดี โปรดดูตามลิงค์นี้เลยน้าคะ

    >>>>> http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=628&start=20&sid=04ccd66461ef4a00a5dd432d09a6ab07
     
  19. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112

    ในความคิดของผมนะครับพี่เฟม หลังจากที่ลองอ่านๆดูบ้างแล้วเล็กน้อย ผมว่าการจะเป็น"เกย์" หรือ "เพศที่3" นั้นมันไม่ได้หายไปหรือเปลี่ยนไปเพราะการปฎิบัติธรรมหรอกครับ เราที่เกิดมาในสภาพ/สภาวะแบบนี้มันก็ยังคงเป็นอยู่ต่อไป ไม่มีเปลี่ยนแปลง กล่าวคือ สภาวะทางจิตใจหรือรสนิยมทางเพศก็ยังคงเป็นแบบเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปผมเห็นว่า น่าจะเป็นการที่กิเลสหรือความต้องการทางเพศที่ค่อยๆลดลงตามการปฎิบัติธรรม ยิ่งปฎิบัติไปเรื่อยๆก็จะยิ่งเห็นความจริงมากขึ้น ทำให้ความต้องการทางเพศหรือความต้องการสัมผัสระหว่างเพศ/เพศเดียวกัน ลดลงตามไปด้วย สุดท้ายมันก็เป็นเหตุปัจจัยในการบรรลุธรรมได้ สิ่งนี้มันเป็นlogicที่เป็นเหตุเป็นผลครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2014
  20. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
     

แชร์หน้านี้

Loading...