ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    พลังงานเก่า VS พลังงานใหม่


    เวลาเราได้รับพลังงานเก่ามา มันจะยังไม่สว่างครับ เหมือนโจทย์ที่ยังตีไม่แตก
    และยังมีแนวคิดเก่าๆ อะไรเก่าๆ อยู่ เราต้องทำให้กระจ่างด้วยปัญญาก่อนเรียก
    ว่า "การชำระล้างพลังงานเก่า" แล้วมันจึงจะให้ผลออกมาเป็นปัญญาสว่างไสว
    ได้ ส่วนพลังงานใหม่นั้น มันใช่เลย มันสว่างอยู่แล้ว แต่มันไม่ได้ออกมาจากจิต
    ของเราเอง ไม่ได้มาจากปัญญาของเราเองครับ มันจะมาจากที่ไหนไม่รู้ในตอน
    แรกเรามักไม่รู้แหล่งต้นธาตุต้นธรรมทีี่มาของมันครับ ทำให้บางคนหลงคิดว่าตน
    เองตรัสรู้ได้เองแล้ว ตรงนี้ หลงกันมากเลยสำหรับคนที่รับพลังงานใหม่ได้นะคับ


    พลังงานใหม่สว่างและเจาะจงต่อคนรับ ตรงใจคนรับ ณ เวลานั้นๆ ราวกับมีชีวิต
    จิตใจรู้ได้ว่าเรากำลังรอรับสาร์นอะไรอยู่ บางครั้ง พลังงานใหม่ผ่านผมมา ผมก็
    งงๆ ว่าจะสื่อสารแบบนั้นออกไปทำไมวะ? พูดไปเขาก็ไม่ชอบ ทะเลาะกันเสีย
    เปล่าๆ แต่ผมก็ต้องทำ ผมก็ปล่อยผ่านออกไป (แล้วก็มีคนมาบอกผมภายหลัง
    ว่าเขาต้องการข้อมูลนั้น เขากำลังรอรับอยู่เลย) สื่อออกไปโดยที่ไม่ได้รู้อะไรๆ
    นัก แค่รับมาแล้วส่งผ่านไปเท่านั้นเอง แต่ช่วงนี้ ไม่ค่อยมีแล้วครับ ผมมักจะได้
    แต่พลังงานเก่า เอามาชำระล้าง ช่วงแรกไม่รู้ว่าได้มาจากใครที่ไหนหลังๆ ก็พอ
    รู้ละครับว่ามาจากใครที่ไหน พลังงานเก่าและใหม่พวกนี้ ไม่ใช่พลังความคิดหรือ
    พลังความเข้าใจที่มาจากคลังสมองของคนนะครับ มันต่างกันมากเลย เพราะคน
    ที่คิดและใช้สมองสื่อสารออกมานั้น จะไม่มีอะไรแบบพลังงานเก่า และพลังงาน
    ใหม่อย่างที่ผมเล่าเลย เหมือนคนคุยกัน ทำความเข้าใจกัน ธรรมดาก็เท่านั้นเอง


    การสัมผัสพลังงานเก่าและใหม่ให้ได้ชัดเจน จะทำให้เราแยกแยะได้ ไม่สับสน!
     
  2. มนุษย์835

    มนุษย์835 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +182
    ทุกครั้งที่อ่านข้อความท่านนก มันน่าตื่นเต้นสนใจจริงๆ มันรู้สึกแปลกๆ แต่น่าเสียดายที่ผมไม่เข้าใจอะไรเลย คงเหมือนหัวข้อกระทู้ เราคงอยู่กันคนละมิติ หรือเหมือนคนที่เดินผ่านกันแต่มองกันไม่เห็น เพราะต่างไม่สนใจกัน ถ้าได้เรียนรู้อะไรดีๆจากท่านนก ก็คงจะดีครับ มีอะไรดีๆมาเล่าให้ฟังอีกบ้างครับ จะรอรับฟัง
     
  3. SUEDE

    SUEDE Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +59
    เหมือนคนที่เดินผ่านกันแต่มองกันไม่เห็น ทั้งๆที่สนใจกันนะ (ของผม)
     
  4. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    บางส่วนของข้อความจาก "We Are Here" Team

    พวกเราขอเชิญคุณ และขอเชิญมนุษย์แห่งดวงดาว (star human)
    ผู้ที่ตื่นรู้แล้วคนอื่นด้วย ให้มาทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์รวมของพลังงาน
    และให้มาทำหน้าที่เป็นผู้ทอดสมอพลังงาน ซึ่งพลังงานดังกล่าวนี้
    คือของขวัญที่กำลังถูกส่งมาเอิบอาบพวกคุณอยู่ในขณะนี้

    และ ในทุกๆลมหายใจของคุณ
    ขอให้คุณจงระลึกไว้เสมอว่า คุณคือแสงสว่าง
    และคุณก็เป็นที่ต้องการอีกด้วย
    และมันก็ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่เสียที

    และเพราะว่าทุกๆความสั่นสะเทือนของคุณ..
    ทุกๆความคิดของคุณ กำลังถูกถ่ายทอดเข้าไปสู่
    แมทตริกซ์ของสนามพลังงานของดาวเคราะห์โลกดวงนี้อยู่

    ดังนั้น จงถามตัวเองอยู่เสมอว่า
    “คำพูดนี้, ความคิดนี้, การกระทำนี้, หรือความรู้สึกนี้
    จะไปเพิ่มแสงสว่างให้กับดาวเคราะห์โลกหรือไม่
    หรือว่ามันจะไปเพิ่มความเป็นพิษเป็นภัย
    ให้แก่โลกมากขึ้นกว่าเดิมอีกกันแน่?”

    จงจำไว้ว่าคุณคือองค์ประกอบหนึ่งที่มีความสำคัญ
    ของกระบวนการแผ่ขยายในครั้งนี้
    มนุษย์แห่งดวงดาวแต่ละคน จะถือ “รหัส”
    ที่มีความจำเป็นต่อผู้คนจำนวนมากมายเอาไว้อยู่
    เพื่อใช้สำหรับกระตุ้นให้กระบวนการตื่นรู้ของผู้คนเหล่านั้น
    เริ่มต้นเกิดขึ้นมาได้ ดังนั้นในการมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันแต่ละครั้ง
    มันก็จะมี “ชั่วขณะอันล้ำค่า” อยู่ในช่วงเวลานั้นๆด้วย
    เพราะว่ารหัสต่างๆจะถูกเผยออกมา
    และการกระตุ้น ก็จะบังเกิดขึ้นท่ามกลางรูปธรรมชีวิตเหล่านั้น

    เมื่อใดที่คุณและคนอื่นๆสั่นสะเทือนอยู่ในระดับคลื่นความถี่ที่สูงที่สุด
    และมีชีวิตชีวามากที่สุดของตัวเองแล้ว
    เมื่อนั้นแหละ คือช่วงเวลาที่จะสามารถ
    ช่วยยกระดับคลื่นความสั่นสะเทือนที่ต่ำๆกว่าทั้งหลาย
    ของมนุษย์โลกคนอื่นๆให้สูงขึ้นมาได้

    ทุกๆครั้งที่ “มนุษย์แห่งดวงดาวหลากมิติ”
    (multidimensional star human) คนใดก็ตาม
    เลือกอย่างมีสติสัมปชัญญะว่า จะอยู่ในกระแสความคิดที่สูงส่งดีงาม,
    หรือจะอยู่ในคลื่นความถี่ของการสั่นสะเทือนที่สูงๆ
    ของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ
    และ ความรู้สึกขอบคุณแล้ว
    เมื่อนั้น มันก็จะเกิดการยกระดับขึ้น
    ของแมทตริกซ์แห่งมวลหมู่มนุษยชาติ
    ทั่วทั้งแมทตริกซ์เลย ทุกๆครั้งไป

    ทุกๆครั้งที่ “มนุษย์แห่งดวงดาวหลากมิติ”
    (multidimensional star human) คนใดก็ตาม
    พัฒนาไปสู่การเป็นผู้มีความเมตตากรุณามากขึ้น,
    มีความเข้าใจมากขึ้น, และมีความเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเองมากขึ้น
    เมื่อนั้น มันก็จะเกิดการยกระดับขึ้น
    ของแมทตริกซ์แห่งมวลหมู่มนุษยชาติ
    ทั่วทั้งแมทตริกซ์เลย ทุกๆครั้งไป

    มนุษย์โลกกำลังทะยอยกันตื่นขึ้นมาสู่การเป็นนายเหนือตัวเองอยู่
    ทีละคนทีละคน ซึ่งก็คือการตื่นขึ้นมาสู่ตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาเอง
    และก็คือการก้าวเข้าไปสู่ความมีอธิปไตยในตัวเองนั่นเอง

    พวกเรากำลังเฉลิมฉลองไปพร้อมๆกับพวกคุณอยู่
    สำหรับความก้าวหน้าที่เหลือเชื่อที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
    พวกเราขอเชิญให้คุณมั่นคงอยู่บนเส้นทางนี้ต่อไป
    จงเดินบนเส้นทางนี้ต่อไป และจงแบ่งปันสิ่งที่พวกคุณเป็น
    ซึ่งก็คือการเป็น “มนุษย์แห่งดวงดาวหลากมิติ” ผู้สูงส่ง
    ให้แก่ผู้อื่นด้วยต่อไป

    เพราะว่าเมื่อใดที่คุณและคนอื่นๆ นำเอาคลื่นความถี่นี้,
    สัจธรรมนี้, ความรู้นี้ ลงมาไว้บนโลกใบนี้แล้ว
    และเมื่อใดที่คุณและคนอื่นๆพากันสั่นสะเทือน
    อยู่ด้วยระดับความสั่นสะเทือนที่สูงๆกว่า
    แห่งความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ
    และ ความรู้สึกขอบคุณแล้ว
    เมื่อนั้น ก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังเชื้อเชิญให้ และ ทำให้
    คนอื่นๆสามารถเชื่อมต่อกับความตระหนักรู้หลากมิติ
    อันยิ่งใหญ่ของพวกเขาเองได้ด้วยเช่นกัน ทุกๆครั้งไป

    .................................................................
    ที่มา: Morning Messages
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2014
  5. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    ผมเคยสงสัยว่าทำไม อ. เซนชอบพูดไม่รู้เรื่ือง?


    วันหนึ่งผมก็เข้าใจ ว่าการเข้าใจอะไรมากไป รู้เรื่องมากไป
    หลายครั้งก็กลายเป็น "เหตุให้เกิดปัญหาใหม่" มีบางคนมา
    อ่านที่ผมโพส แล้วเกิดอาการโวยวาย, บางคนก็จับอะไรไม่
    ได้, บางคนก็บอกว่า "กำลังเจอสิ่งนีี้อยู่พอดี"

    จริงๆ ธรรมทั้งหลาย "ต้นธาตุต้นธรรม" มีวิธีวางยาไว้นะครับ
    เพื่อป้องกันพวกฤษีที่ไม่ได้รู้แจ้งเอง ไม่ใช่ต้นธรรม มาอาศัย
    ความจำ ความเข้าใจ เรียนเหมือนเรียนปริญญา แล้วเอาไป
    ใช้สอนคนต่อ

    อาจารย์แต่ละท่านจึงมีวิธี "วางยา" ต่างกันไป คนที่จะเข้าใจ
    สิ่งนี้ได้ ต้องเป็น "ต้นธาตุต้นธรรม" เสียก่อน จึงจะเข้าใจและ
    ไม่คิดเอาธรรมของใครคนอื่นเขามา เพราะรู้แล้วว่ามันมีวิธีวาง
    ยา แม้แต่ธรรมของพระสมณโคดม ก็มีวิธีวางยา ดังนั้น เรียนรู้
    มากไป จึงต้อง "ล้างพิษ" หลายสำนักครับ สอนการล้างพิษ
    พิษธรรมะพวกนี้ ครูต้นธาตุต้นธรรมวางไว้ และแก้ได้คนเดียว


    จึงเตือนมาเพื่อทราบ อิอิ ...
     
  6. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    [​IMG]


    THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 2014

    HILARION 2014 - The Rainbow Scribe
    May 11-18, 2014
    วันที่โพสท์ _Tue ,13/5/2014

    ผู้แปล: อจิตตะ

    มันช่างเป็นช่วงที่ยากลำบากใจสำหรับใครหลายคน
    กับการต้องปรับสภาวะของกายเนื้อให้ผ่านอีกครั้ง
    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรับเปลี่ยนที่ต้องจำเจอยู่กับอาการต่าง ๆ
    และทำให้เกิดความอึดอัดและเศร้าสร้อย
    ที่สามารถทำให้ตกอยู่ในสภาพชึมเศร้าได้
    ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน รู้แต่ว่ามันอยู่ในส่วนลึกๆ

    แต่อาการเหล่านี้คือส่วนสำคัญของความต้องการ
    ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกๆแง่มุม...
    ดังนั้น...จงทำบางสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นหรือได้หัวเราะบ้าง
    เช่น...ออกไปรับแสงแดดและดูจัดสวนดอกไม้
    ที่ให้ความรู้สึกถึงความเชื่อมโยงกับโลก
    เพราะเวลาที่ผู้คนรู้สึกไม่สบายกายสบายใจ
    การออกไปสัมผัสกับธรรมชาติดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
    กับการได้สงบนิ่งและได้เยียวยาระบบปฏิบัติการความเป็นมนุษย์ของพวกเขา
    และปรับเปลื่ยนโน่นนิดนี่หน่อยกับสิ่งที่ทำให้คุณไม่มีความสุขนั้นออกไป
    ซึ่งก็ต้องอาศัยการสังเกตุมากยิ่งขึ้น
    และต้องเข้าใจว่า ...ในแต่ละวันหรือทุกๆวัน
    อาจมีความเป็นไปได้ที่คุณได้ยึดถือรูปแบบของความคิด
    ที่ไม่เกิดประโยชน์แก่คุณและคนรอบตัวคุณอยู่

    เมื่อเป็นเช่นนี้...ความท้าทายที่ ยิ่งใหญ่ที่สุด ณ.เวลานี้
    ก็คือ การทำความรู้จักกับความคิดที่ฝังแน่นเหล่านี้
    และ ยอมรับในความรับผิดชอบต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นนั้น


    ซึ่งงานเหล่านี้ มิใช่ใครจะมาทำให้คุณได้หรอกนะ
    มันต้องเป็นคุณที่ต้องมีส่วนร่วมที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
    ต้องมีความเข้มแข็งอดทนและมีความเพียร
    เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
    และที่ต้องการความรับผิดชอบจากคุณนั้น
    ก็เพราะคุณคือผู้ที่มีค่าคู่ควรต่อความอุตสาหะนี้
    จงอย่ายอมแพ้ตัวคุณเอง...แล้วคุณจะดีขึ้นในเร็ววัน

    ...คุณจะกลับเข้าสู่ภาวะที่สมดุลย์
    ที่พร้อมจะก้าวต่อไปข้างหน้าอีกครั้ง
    และนี่คือชีวิตที่สวยสดงดงามที่แสดงออกมาในทางกายภาพ
    สิ่งใดๆที่อยู่ในรูปแบบเดิม ๆ จะไม่เหลืออยู่อีกเลย
    จะมีก็แต่ลักษณะของการเปลี่ยนแปลงที่จะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
    ซึ่งคุณลักษณะนั้นก็สามารถนำมาใช้
    เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวคุณเองได้อย่างมหาศาล


    คุณลองถามตัวเองซิว่า “ ถ้าชีวิตของฉันคือหนังสือ
    ฉันต้องการให้เรื่องราวชีวิตของฉันดำเนินต่อไปอย่างไร?
    แล้วก็เขียนสิ่งที่คุณปรารถนาลงบนกระดาษ
    กับทุกรายละเอียด ทุกความฝันที่ยังไม่เคยสัมฤทธิ์ผล
    และหลังจากที่คุณได้เขียนลงไปทั้งหมดแล้ว
    ก็จงดูว่า “คุณได้เขียนอะไรลงไป”
    เพราะเผื่อบางทีคุณอาจได้ผ่านประสบการณ์กับสิ่งที่ได้เขียนไปบ้างแล้ว
    เพียงแต่คุณไม่รู้และไม่ได้สังเกตุเห็นถึงความสำเร็จในชีวิตจากหนังสือเล่มนั้นเท่านั้น...

    ลำดับต่อไป...ก็ให้คิดว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องราวที่เหลืออยู่ของคุณ
    และอะไรที่คุณควรทำเพี่อนำไปสู่ความรู้แจ้ง
    แล้วเขียนใหม่กับการเปลี่ยนแปลงของเรื่องราวที่ผ่านไปในแต่ละวันของคุณ
    ซึ่งคุณกำลังทำให้มันใสสะอาดด้วยการขัดเกลาบทบาทของคุณที่มีต่อเรื่องราวของตัวคุณอง

    และนี่คือแม่แบบของคุณ…
    ที่คุณมองหาและเป็นต้นฉบับของแบบแผน
    ที่คุณต้องทำสิ่งนั้นอย่างสม่ำเสมอ
    ...จงอ่านข้อความของคุณเองอย่างละเอียดลึกซึ้ง
    และมีความจริงใจในการสร้างสรรค์ประสบการณ์นี้ของคุณ

    จงทำตนให้มีความสง่าผ่าเผย ฉลาดรอบรู้ มีความรักและเป็นผู้ที่มีความน่ารัก
    และกับการเป็นผู้ที่มีสุขภาพดีนั้น
    คุณเองก็รู้ดี ...ว่าคือหลักการที่สำคัญในความเป็นคุณ
    และคุณก็จะได้รับผลลัพภ์ที่สมบูรณ์จากการกระทำที่คุณสามารถทำได้
    พร้อมทั้งสานต่อเรื่องราวรายละเอียดของชีวิตต่อไปอย่างมีชีวิตชีวา

    พวกคุณต่างมีความสามารถที่จะสร้างสรรค์ความเป็นจริงกับสิ่งที่คุณได้เลือก
    และอยู่กับมันได้จริงๆด้วยความมุ่งมั่นและเพียรพยายาม
    ต่อเรื่องราวที่กล้าฝันที่จะยิ่งใหญ่ของคุณ
    และการเลือกบทบาทของตัวเองให้มีความสำคัญกว่าชีวิตจริง
    ด้วยพลังวิเศษและพลังสนามแม่เหล็ก
    ที่ทำให้คุณมีบุคคลิคภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ

    จงให้พลังเหนือธรรมชาติของคุณได้ให้ความช่วยเหลือผู้อื่น
    ทั้งให้ความดูแลพวกเขาด้วยพลังแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่กว่าที่ผ่านมา
    ดังนั้น...การเขียนเรื่องราวชีวิตของพวกเขาเองก็ย่อมทำได้เช่นกัน

    และดูเหมือนว่าบทบาทของคุณนั้น ...บัดนี้ไม่มีตัวเลือกอื่นอีกแล้วนะ...
    เพราะนี่เป็นแม่แบบที่ยอดเยี่ยมและใหม่ล่าสุดที่คุณได้สร้างสรรค์ขึ้นมาเอง


    จงกลั่นกรองและสร้างเสริมบทบาทของคุณให้ดีที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้
    นี่ไม่ใช่เรื่องราวที่ต้องการเอาชนะหรือการแข่งขันกับผู้ใดหรอกนะ
    แต่นี่คือเรื่องราวของตัวคุณเองซึ่งเป็นการดำเนินชีวิตของปัจเจก
    ที่สามารถเปลี่ยนแปลงและย้อนกลับได้กับการเดินทาง
    ซึ่งเป็นบทบาทของประสบการณ์จริงของ”คุณ”ที่คุณได้สร้างขึ้นมา

    จงเขียนประสบการณ์จริงๆของคุณ
    ทั้งในยามรุ่งเรืองและล่วงหล่น...ความประหลาดใจ
    ความผิดหวัง อกหัก และความมั่งคั่ง
    รวมถึงพรสวรรค์ต่าง ๆ ของคุณแต่ละคน
    ซึ่งทุกชีวิตต่างก็ต้องมีประสบการณ์
    ที่ใช้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของตนเองทั้งนั้น
    เพราะนั่นเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ความจริงปรากฏ

    จงเขียนหลักการชีวิตของคุณ...ที่เต็มไปด้วยความรัก...
    ไหวพริบปฏิภาณและขีดความสามารถของความเป็นผู้นำของคุณ

    จงมองดูตัวเองในขณะที่พูดต่อหน้าผู้คนมากมาย
    ถึงการเดินทางของชีวิตที่เหลือเชื่อบนโลกใบนี้ของคุณ
    ด้วยความสง่างาม นุ่มนวลและเยือกเย็น


    ...แต่ละคนต่างก็มีเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ที่พร้อมจะบอกกล่าว
    และแต่ละคนต่างก็ต้องมีประสบการณ์ที่ต้องเดินหน้าต่อไป
    กับความมหัศจรรย์ของชีวิตในรูปแบบของการเป็นมนุษย์

    จักรวาลต้องการรับรู้เรื่องราวการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นของคุณ
    ทั้งก่อนหรือหลังการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค
    และเรื่องราวที่คุณได้บอกออกไปด้วยความมั่นใจนั่นย่อมจักได้รับคำชื่นชม...


    Until next week…
    I AM Hilarion
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2014
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    ข้อความจาก "We Are Here" Team

    ผู้รับสาส์น: Peggy Black
    ที่มา: Morning Messages


    พวกเราอยู่ที่นี่ พวกเรามีความปราถนาที่จะแบ่งปันข้อความเหล่านี้ให้แก่มนุษยชาติ
    และ ต้องการที่จะเชื้อเชิญมนุษยชาติ ให้มาสร้างสายสัมพันธ์อันเหนียวแน่น
    และสร้างการเชื่อมต่ออันแข็งแกร่งของความตระหนักรู้ กับเหลี่ยมมุมต่างๆอันหลากหลาย
    ของพวกเขาเองแต่ละคน ที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิตินี้

    เพราะว่ามนุษย์โลกแต่ละคนและทุกๆคน
    ที่สามารถตื่นรู้ขึ้นมา สู่ความรู้ที่ว่า
    พวกเขาคือ “มนุษย์แห่งดวงดาวหลากมิติ”
    (multidimensional star-humans) ได้แล้ว
    ก็เท่ากับว่า พวกเขากำลังทำให้มนุษย์โลกทั้งมวล
    สามารถทำได้เช่นเดียวกันนี้ด้วยอยู่

    มันมีความสำคัญมากที่มนุษย์โลกจะต้องตระหนักรู้ว่า
    พวกเขากำลังท่องไปในมิติต่างๆอยู่แล้ว วันละหลายๆครั้ง
    เพราะต้องจำเอาไว้ว่า

    “พวกคุณจะสามารถมองเห็น เฉพาะแต่สิ่งที่พวกคุณเชื่อเท่านั้น”

    เพราะว่าโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ
    จะสอดคล้องกับความเชื่อของพวกคุณอย่างพอเหมาะพอดีเสมอ

    และมิติต่างๆก็เป็นเรื่องของคลื่นความถี่และระดับการสั่นสะเทือน
    ซึ่งความเป็นจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็กำลังเป็นที่รู้กัน
    ท่ามกลางพวกคุณหลายๆคนที่อยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้แล้ว

    การตระหนักรู้ของพวกคุณ และการให้การต้อนรับของพวกคุณ
    คือสิ่งที่จะทำให้คลื่นความถี่และการสั่นสะเทือนของพวกคุณ
    สามารถผสานรวมกับ และ แลกเปลี่ยนกับ คลื่นความถี่และการสั่นสะเทือนของพวกเราได้
    คำเชื้อเชิญของพวกเราที่มีมาถึงพวกคุณ และถึงมนุษย์แห่งดวงดาวหลากมิติคนอื่นๆทุกๆคนนี้
    จะทำให้มิติต่างๆอ่อนตัวลงและสามารถผสานรวมเข้าด้วยกันได้
    ดังนั้น จงไหลไปตามกระแสการไหลของมัน อย่างนุ่มนวล และ ราบรื่น

    มันเป็นเรื่องของการเปลี่ยนระดับคลื่นความถี่และการสั่นสะเทือน
    ซึ่งเครื่องมือที่มีอานุภาพมากที่สุดในโลกแห่งเกมสามมิติแห่งนี้
    ซึ่งพวกคุณอาจจะเรียกมันว่า “กุญแจทอง” ก็ได้..ก็คือ..
    ทักษะความสามารถ และการฝึกฝน ให้ตัวเองสามารถ
    คงอยู่แต่ในคลื่นความถี่ของความเบิกบาน
    และความรู้สึกซาบซึ้งใจล้วนๆให้ได้อย่างมีสติสัมปชัญญะ
    ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ก็จะต้องดึงตัวเองให้กลับคืนไปอยู่ในหัวใจของตัวเอง
    ซึ่งเปรียบเสมือนจอกศักดิ์สิทธิ์อันวิเศษ ใหม่อีกครั้งหนึ่งให้ได้
    และก็จะต้องแผ่แต่คลื่นความสั่นสะเทือนด้านบวกเหล่านี้
    ออกมาสู่ชีวิตประจำวันของตัวเองให้ได้ ในทุกๆชั่วขณะ

    มันเป็นช่วงเวลาที่เหลือเชื่อบนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ
    เพราะว่ามันกำลังมีการเปลี่ยนแปลงของแมทตริกซ์เกิดขึ้นอยู่
    ดังนั้น มนุษย์โลกจึงกำลังพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่อยู่
    ในโลกแห่งความเป็นจริงของพวกเขา ที่พวกเขาสามารถรับรู้ได้

    แต่พวกคุณก็กำลังคร่อมอยู่ระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติทั้งหลายตลอดเวลาอยู่แล้ว
    ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ จึงคือการตื่นขึ้นมาของพวกคุณเอง
    และก็คือการเริ่มที่จะมีสติรับรู้ว่า พวกคุณกำลังคร่อมอยู่ระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติอยู่จริงๆ

    เพราะว่าพวกคุณสามารถรับรู้ถึงสิ่งที่เป็นวัตถุธาตุทางกายภาพที่กำลังแวดล้อมพวกคุณอยู่ได้
    ซึ่งก็คือสิ่งที่เป็นของแข็ง ตามการรับรู้ของพวกคุณนั่นแหละ แต่ในขณะเดียวกัน
    พวกคุณก็สามารถตระหนักรู้ถึงข้อมูลข่าวสารที่พวกเรากำลังสื่อสารมาถึงพวกคุณอยู่นี้ได้ด้วย
    ว่า..โดยแทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย พวกคุณก็สามารถที่จะท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆในกาแล็กซี่ได้

    ร่างกายเนื้อของพวกคุณปฏิบัติการอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงอันหลากหลายอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
    และเซลทุกๆเซลในร่างกายเนื้อของพวกคุณ ก็มีความตระหนักรู้ถึงสัญญาณรบกวนต่างๆ (noise)
    ที่มีอยู่ทั้งภายในและภายนอกร่างกายเนื้อของพวกคุณอยู่ตลอดเวลาอยู่อีกด้วย
    ดังนั้นพวกมันจึงกำลังปรับตัวตามไปด้วยอยู่ เท่าที่จำเป็น

    เซลทุกๆเซลในร่างกายเนื้อของพวกคุณ กำลังอ่านตำแหน่งของดวงอาทิตย์,
    ดวงจันทร์ และดวงดาวต่างๆอยู่ตลอดเวลา และก็กำลังปรับตัวตามไปด้วยเท่าที่จำเป็นอยู่
    เซลทุกๆเซลในร่างกายเนื้อของพวกคุณกำลังตรวจติดตามดูทุกๆอย่างที่ถูกส่งเข้ามาจากทุกๆมิติอยู่
    และก็กำลังทำการปรับตัวตามไปด้วยเท่าที่จำเป็นอยู่ เซลทุกๆเซลในร่างกายเนื้อของพวกคุณ
    กำลังปฏิบัติการอยู่ในระดับหลากมิติอยู่ และกำลังปฏิบัติการด้วยความรู้หลากมิติอยู่

    มนุษยชาติกำลังวิวัฒน์ และ กำลังจะมีสติรับรู้ว่า
    พวกเขากำลังส่งผลกระทบต่อโลกแห่งความเป็นจริงที่พวกเขาได้ก้าวเข้ามาสู่นี้อยู่
    และพวกเขาก็กำลังจะมีสติรับรู้ว่า พวกเขากำลังส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของพลังงาน
    บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้อยู่อีกด้วย ซึ่งเมื่อใดที่พวกเขาสามารถเชื่อมต่อได้อย่างเต็มที่
    และ สามารถมีสติสัมปชัญญะรับรู้ถึงการเชื่อมต่อกับโครงข่ายการเชื่อมต่อทั้งมวล..
    หรือกับแมทตริกซ์รวมของการแผ่ขยายของพระเจ้า..หรือกับความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ
    (the total oneness) ได้แล้ว และรวมถึง สามารถถักทอเป็นผืนแผ่นเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ
    กับทุกสรรพสิ่งที่มีอยู่เป็นอยู่ (the All That Is) ได้แล้ว พวกเขาก็จะกลายเป็นมนุษย์แห่งดวงดาว
    (star human) ซึ่งวิวัฒนาการดังกล่าวนี้ กำลังเกิดขึ้นภายในอะตอมของมนุษย์โลกทุกๆคนอยู่ในขณะนี้

    มันมี “มนุษย์แห่งดวงดาว-หลากมิติ” (multidimensional star human)
    ที่เป็นแนวหน้าอยู่กลุ่มหนึ่ง ที่กำลังทำหน้าที่ถือธงแห่งการรู้แจ้งอันนี้เดินนำหน้ามาอยู่
    และก็ทำเช่นนี้มาหลายภพชาติแล้วด้วย พวกเขาได้ตื่นรู้ขึ้นมาสู่ “ความรู้” ที่ว่า
    มนุษย์โลกทุกๆคนคือรูปธรรมชีวิตหลากมิติแล้ว
    และในตอนนี้มันก็ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องจดจำมันให้ได้ และผสานรวมเข้ากับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้
    ของคนอื่นๆที่ก็ได้ตระหนักรู้ถึงความเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติของตัวเองแล้วเช่นเดียวกันให้ได้ด้วย

    เพราะว่ามีมนุษย์โลกจำนวนมากขึ้นแล้ว ที่สามารถขยายตัวเข้าไปสู่ตัวตนหลากมิติของตัวเองได้แล้ว
    ดังนั้น พวกเขาจึงกลายไปเป็นผู้บุกเบิกในเรื่องของการทำให้โครงข่ายพลังงานต่างๆ
    มีความสอดคล้องกัน, มีความสมดุล และคลายความยุ่งเหยิงลง

    มันมีการปรับปรุงแก้ไขและการทำให้โครงข่ายพลังงานของดาวเคราะห์โลก
    กลับคืนสู่สภาพเดิมอยู่ ซึ่งปฏิบัติการนี้ได้ดำเนินต่อเนื่องมานานจนกระทั่งถึงบัดนี้เป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว
    ซึ่งเป็นการดำเนินการในระดับของมิติที่ละเอียดอ่อนทั้งหลาย แต่ในตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้น
    อยู่ในมิติทางกายภาพที่กำลัง active อยู่ในขณะนี้ด้วยแล้ว ซึ่งการทำให้กลับคืนมาเหมือนเดิม
    และการปรับปรุงใหม่ของโครงข่ายพลังงานดังกล่าวนี้ ได้ดำเนินการอยู่ในระดับของกาแล็กซี่
    ดังนั้น มันจึงถึงเวลาแล้ว มันคือการมาชุมนุมกัน มันคือการเปลี่ยนแปลง
    ที่จะไปกระตุ้นให้วัตถุประสงค์แห่งการมารับใช้โลกของพวกคุณตื่นตัวขึ้นมา

    ยังมีคนอื่นๆอีกจำนวนมากมายที่เป็นเหมือนกับพวกคุณ ที่จดจำได้แล้วและระลึกได้แล้วว่า
    วัตถุประสงค์ของการมาอยู่บนโลกของตัวเอง ในช่วงเวลาแห่งวิวัฒนาการด้านจิตสำนึก
    ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้คืออะไร

    พวกเขาได้ยื่นมือออกมาแล้ว และพวกเขาก็ได้ร้องขอความช่วยเหลือและการสนับสนุนออกไปแล้ว
    บนเวทีของโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพนี้ ซึ่งการร้องขออย่างมีสติสัมปชัญญะของพวกเขานี้
    ก็ได้รับการตอบสนองแล้ว และหลายสิ่งหลายอย่างก็กำลังถูกประทานลงมาให้อยู่
    จากกลุ่มของผู้ที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงสุดในจักรวาลแห่งนี้

    พวกเราขอเชิญคุณ และขอเชิญมนุษย์แห่งดวงดาว (star human)
    ผู้ที่ตื่นรู้แล้วคนอื่นด้วย ให้มาทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์รวมของพลังงาน
    และให้มาทำหน้าที่เป็นผู้ทอดสมอพลังงาน ซึ่งพลังงานดังกล่าวนี้
    คือของขวัญที่กำลังถูกส่งมาเอิบอาบพวกคุณอยู่ในขณะนี้

    และ ในทุกๆลมหายใจของคุณ
    ขอให้คุณจงระลึกไว้เสมอว่า คุณคือแสงสว่าง
    และคุณก็เป็นที่ต้องการอีกด้วย
    และมันก็ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่เสียที

    และเพราะว่าทุกๆความสั่นสะเทือนของคุณ..
    ทุกๆความคิดของคุณ กำลังถูกถ่ายทอดเข้าไปสู่
    แมทตริกซ์ของสนามพลังงานของดาวเคราะห์โลกดวงนี้อยู่

    ดังนั้น จงถามตัวเองอยู่เสมอว่า
    “คำพูดนี้, ความคิดนี้, การกระทำนี้, หรือความรู้สึกนี้
    จะไปเพิ่มแสงสว่างให้กับดาวเคราะห์โลกหรือไม่
    หรือว่ามันจะไปเพิ่มความเป็นพิษเป็นภัย
    ให้แก่โลกมากขึ้นกว่าเดิมอีกกันแน่?”

    จงจำไว้ว่าคุณคือองค์ประกอบหนึ่งที่มีความสำคัญ
    ของกระบวนการแผ่ขยายในครั้งนี้
    มนุษย์แห่งดวงดาวแต่ละคน จะถือ “รหัส”
    ที่มีความจำเป็นต่อผู้คนจำนวนมากมายเอาไว้อยู่
    เพื่อใช้สำหรับกระตุ้นให้กระบวนการตื่นรู้ของผู้คนเหล่านั้น
    เริ่มต้นเกิดขึ้นมาได้ ดังนั้นในการมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันแต่ละครั้ง
    มันก็จะมี “ชั่วขณะอันล้ำค่า” อยู่ในช่วงเวลานั้นๆด้วย
    เพราะว่ารหัสต่างๆจะถูกเผยออกมา
    และการกระตุ้น ก็จะบังเกิดขึ้นท่ามกลางรูปธรรมชีวิตเหล่านั้น

    เมื่อใดที่คุณและคนอื่นๆสั่นสะเทือนอยู่ในระดับคลื่นความถี่ที่สูงที่สุด
    และมีชีวิตชีวามากที่สุดของตัวเองแล้ว
    เมื่อนั้นแหละ คือช่วงเวลาที่จะสามารถ
    ช่วยยกระดับคลื่นความสั่นสะเทือนที่ต่ำๆกว่าทั้งหลาย
    ของมนุษย์โลกคนอื่นๆให้สูงขึ้นมาได้

    ทุกๆครั้งที่ “มนุษย์แห่งดวงดาวหลากมิติ”
    (multidimensional star human) คนใดก็ตาม
    เลือกอย่างมีสติสัมปชัญญะว่า จะอยู่ในกระแสความคิดที่สูงส่งดีงาม,
    หรือจะอยู่ในคลื่นความถี่ของการสั่นสะเทือนที่สูงๆ
    ของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ
    และ ความรู้สึกขอบคุณแล้ว
    เมื่อนั้น มันก็จะเกิดการยกระดับขึ้น
    ของแมทตริกซ์แห่งมวลหมู่มนุษยชาติ
    ทั่วทั้งแมทตริกซ์เลย ทุกๆครั้งไป

    ทุกๆครั้งที่ “มนุษย์แห่งดวงดาวหลากมิติ”
    (multidimensional star human) คนใดก็ตาม
    พัฒนาไปสู่การเป็นผู้มีความเมตตากรุณามากขึ้น,
    มีความเข้าใจมากขึ้น, และมีความเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเองมากขึ้น
    เมื่อนั้น มันก็จะเกิดการยกระดับขึ้น
    ของแมทตริกซ์แห่งมวลหมู่มนุษยชาติ
    ทั่วทั้งแมทตริกซ์เลย ทุกๆครั้งไป

    มนุษย์โลกกำลังทะยอยกันตื่นขึ้นมาสู่การเป็นนายเหนือตัวเองอยู่
    ทีละคนทีละคน ซึ่งก็คือการตื่นขึ้นมาสู่ตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาเอง
    และก็คือการก้าวเข้าไปสู่ความมีอธิปไตยในตัวเองนั่นเอง

    พวกเรากำลังเฉลิมฉลองไปพร้อมๆกับพวกคุณอยู่
    สำหรับความก้าวหน้าที่เหลือเชื่อที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
    พวกเราขอเชิญให้คุณมั่นคงอยู่บนเส้นทางนี้ต่อไป
    จงเดินบนเส้นทางนี้ต่อไป และจงแบ่งปันสิ่งที่พวกคุณเป็น
    ซึ่งก็คือการเป็น “มนุษย์แห่งดวงดาวหลากมิติ” ผู้สูงส่ง
    ให้แก่ผู้อื่นด้วยต่อไป

    เพราะว่าเมื่อใดที่คุณและคนอื่นๆ นำเอาคลื่นความถี่นี้,
    สัจธรรมนี้, ความรู้นี้ ลงมาไว้บนโลกใบนี้แล้ว
    และเมื่อใดที่คุณและคนอื่นๆพากันสั่นสะเทือน
    อยู่ด้วยระดับความสั่นสะเทือนที่สูงๆกว่า
    แห่งความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ
    และ ความรู้สึกขอบคุณแล้ว
    เมื่อนั้น ก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังเชื้อเชิญให้ และ ทำให้
    คนอื่นๆสามารถเชื่อมต่อกับความตระหนักรู้หลากมิติ
    อันยิ่งใหญ่ของพวกเขาเองได้ด้วยเช่นกัน ทุกๆครั้งไป

    .................................................................
    ที่มา: Morning Messages
     
  8. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    [​IMG]

    นิพพานเมืองแก้ว?


    เป็นเมืองที่อยู่ในอีกมิติหนึ่งครับ อยู่แถวๆ ภาคอีสาน เราจะเข้าไปไม่ได้
    และมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ที่นั่น ทุกอย่างเป็นแก้วหมด เหมือนที่หลวง
    พ่อสดอธิบายไว้ แต่ไม่ใช่นิพพานแบบไม่เวียนว่ายตายเกิดอีกนะครับ จะ
    มีพระพุทธเจ้าแปลง (พญามาร) ประจำอยู่ที่นั่น


    เมืองนี้ อยู่ได้ด้วยพลังจิตของมนุษย์ที่เชื่อเรื่องนิพพานแบบนี้ โดยเฉพาะ
    คนที่มีใจใสๆ ซื่อๆ ซึ่งก็คือ "คนอีสาน" ทั้งหลาย ตอนนี้ สังเกตุดูครับ คน
    อีสานใจไม่ใสเหมือนก่อนละ เมื่อก่อนซื่อโง่เขาหลอกเอาได้ แต่เดี๋ยวนี้ รู้
    ทันการเมือง และแบ่งขั้วข้างชัดเจน มีมิตรศัตรู เมื่อก่อนไม่เป็นศัตรูกับใคร
    ที่เป็นเช่นนี้เพราะ เมืองนีึ้ ดูดพลังชีพส่วนที่ใสของคนอีสานไปหล่อเลี้ยงก็
    เลยทำให้คนอีสานเสียพลังใสไป เขาก็ไม่ใส ซื่อเหมือนก่อน


    ยังมีเมืองต่างมิติอีกมากครับ ในนั้นมีชาวต่างมิติอยู่มาก แต่อาจเข้าไปไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 พฤษภาคม 2014
  9. Andromeda Galaxy

    Andromeda Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +314
    ขอสอบถามต่อด้วยความ งง
    คือภาพที่คุณangry_bird ยกมาวางให้ดู
    ดูแล้วคล้ายๆภาพ แสงทิพย์อริยธรรม ของคุณแม่เกษร
    แล้วก็มีแสงทิพย์ของ ท่าน ช. ฟังดูคล้ายๆกัน
    คือเราอ่านหลายเวบจน งง เอง
    ก็ไม่เข้าใจอะไรมากนักอ่านไป งงไป ก็มี

    พอเห็นคุณangry_bird พูดถึงเมืองแก้ว
    เลยแว่บไปนึกถึงเรื่องแสงทิพย์อริยธรรม ไปโน่นเลย
    ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ...ใช่อันเดียวกันหรือไม่

    หรือผู้รู้ท่านใดรู้ดีเรื่องนี้
    ก็โปรดมาอธิบายเพิ่มเติมได้เลย
    เพราะเคยเข้าไปอ่านในเวบแล้วก็ งงๆ อยู่

     
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ผมแค่ขอเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้นิดเดียวเท่านั้นแหละครับ
    แต่ไม่ใช่ในฐานะผู้รู้แต่อย่างใดเลยนะครับ

    และความคิดเห็นที่อยากจะแชร์ก็คือ..

    ลองมองว่ามันเป็นจิ๊กซอตัวหนึ่งดูสิครับ
    และเพราะฉะนั้น มันจึงเป็นส่วนประกอบหนึ่งของ "ภาพที่ใหญ่กว่านั้น"
    และดังนั้น ถ้าเราไม่ไป "ยึด" และ "ตีกรอบ" ตัวเองเอาไว้
    ให้ก้มหน้าก้มตา หรืองมโข่งอยู่แต่ในจิ๊กซอตัวนี้หละก็..
    บางที..เราอาจจะบังเอิญ อยากจะยืดตัวยืนขึ้น และยกหัวขึ้นมา
    แล้วมองในมุมที่กว้าง และไกลกว่าก็ได้..
    แล้วเราก็อาจจะบังเอิญ ได้เห็นภาพที่ใหญ่กว่าที่ว่านี้ก็ได้นะครับ..

    ปล.
    สำหรับผมแล้ว ผมมองไม่เห็นว่าจะมีอะไร
    ที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่นิดเดียว..อยู่เลย

    คือ..ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์ไหน ศาสนาไหน นิกายไหน
    สำนักไหน และ ฯลฯ มันก็จะมี "ส่วนถูก" หรือ
    ส่วนที่เป็น "ของจริง" อยู่ในนั้นด้วยทั้งนั้นแหละ
    และในทางตรงกันข้ามก็ด้วยนะครับ


    ...........................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2014
  11. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ช่วงนี้สภาวะของผม เหมือนกับกำลังนั่งอยู่บนเรือลำน้อย
    ที่กำลังล่องลอยอยู่ในท้องทะเลที่มีคลื่นจัด อะไรยังไงยังงั้นเลยหละครับ
    ก็เลยทำให้ผมเงียบหายไปจากการแปลและการโพสต์ซะนาน

    ที่ผมบอกว่า "สภาวะ" นั้น หมายรวมถึง สภาวะทั้งทางกายภาพ
    และทางพลังงาน เช่น อารมณ์ ความคิด และจิตใจด้วยหนะนะครับ
    มันขึ้นๆลงๆ แถมพลิกคว่ำพลิกหงายได้ใจดีจริงๆ และผมก็รู้สึกว่า
    มันจะสลับกันอยู่แบบนี้เป็นวัฏจักรที่ถี่มากขึ้นเรื่อยๆด้วย ยังไงก็ไม่รู้นะครับ
    แต่ก่อนยังมีเวลาได้พักเหนื่อย และได้หายใจหายคอยาวหน่อย
    แต่เดี๋ยวนี้ มันแทบจะต่อเนื่องกันไปเลยหละ

    และที่สำคัญ ผมเชื่อว่าไม่ใช่ผมเพียงคนเดียวหรอกนะครับ
    ที่กำลังเป็นแบบนี้อยู่ น่าจะมีพวกเราอีกหลายคน ทั่วโลกนั่นแหละ

    ดังนั้น ผมจึงอยากจะให้ข้อสังเกตว่า..นี่แหละคือเหตุผลที่ว่า
    ทำไมข้อความจากต่างมิติทั้งหลาย ถึงได้พูดวนเวียนอยู่แต่กับเรื่องการเปลี่ยนแปลง
    และเรื่องการพยายามรักษาสภาวะของตัวพวกเราเองให้อยู่ในสมดุลให้ได้อยู่ตลอดเลย
    ซึ่งผมเดาว่าหลายท่านที่อาจจะ "ยังไม่พบเจอ" การเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเองมากนัก
    ก็อาจจะค่อนข้างเบื่อก็ได้ เพราะว่ามันจะเหมือนกับว่า ต่างมิติพูดลอยๆ หรือรวมๆไปงั้นแหละ

    แต่อันที่จริงแล้ว..คนที่เขากำลังเจอการเปลี่ยนแปลง ด้วยตัวเองอยู่จริงๆ
    ก็จะรู้สึกว่า โอ้..มันตรงกับสภาวะที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่นี้เป๊ะเลย อะไรแบบนั้น
    และก็เลยพลอยได้คำแนะนำไปด้วย และก็อยู่รอดมาได้ในแต่ละวัน
    ก็เพราะว่าได้อ่านข้อความจากต่างมิติเหล่านี้แหละ ด้วยซ้ำไป
    เช่นตัวผมเองเป็นต้น..

    เพราะว่าเวลาสภาวะของเรามันอยู่ในสภาวะที่เหมือนกับ
    เรือน้อยโดนคลื่นซัดซะจนพลิกคว่ำพลิกหงายอยู่หละก็
    มันจะควานหาอะไรไม่เจอ และพอเจออะไรนิดๆหน่อยๆที่พอจะคว้าเอาไว้ได้
    ก็จะขอคว้าเอาไว้ก่อนหละ และเราก็จะรู้สึกว่า
    สิ่งนั้นสามารถช่วยเราได้มาก ในเวลาที่เราต้องการจริงๆ

    ทั้งหมดที่ผมกล่าวมานี้มันน่าจะเกี่ยวข้องกับระดับพลังงานของโลก
    ที่ถูกเร่งให้สั่นสะเทือนด้วยความถี่ที่สูงขึ้นอย่างที่ต่างมิติว่าไว้กระมังครับ
    เพื่อให้กระบวนการชำระล้าง และเปลี่ยนรูปแบบ และเลื่อนระดับขึ้น ของพวกเรา
    ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ก่อนหน้านี้ น่าจะประมาณราวๆต้นเดือนเมษายน 2014 นี่แหละ
    ผมมีความฝันหนึ่งที่ตั้งใจจดจำเอาไว้ให้ดีอยู่ เพราะรู้สึกว่ามันสำคัญ
    คือผมฝันว่า ผมได้เรียนจบมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งแล้ว
    และก็กำลังจะเข้าไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่ง
    เพื่อทำปริญญาตรีใบที่สองต่อ แต่เป็นสาขาวิชาอื่น
    ซึ่งสาขาวิชาที่ว่านี้ก็คือ "ศิลปศาสตร์"

    พอตื่นขึ้นมาผมก็มาคิดทบทวนความฝัน และนั่งคิดอยู่ว่า
    ฝันนี้ต้องการจะบอกอะไรผมหนอ..จนเมื่อคืนวานนี้
    ขณะเคลิ้มๆใกล้จะหลับ มันก้มีคำตอบเข้ามาว่า
    "ศิลปะในการดำรงชีวิต" แบบ..ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต
    ก็ยังสามารถที่จะคงความสมดุลเอาไว้ในสภาวะของตัวเองให้ได้อยู่เสมอ

    เห็นไหมครับ..ท่านสังเกตไหมว่า ข้อความจาก The "We Are Here" Team
    ที่ผมเพิ่งแปลและโพสต์ไปข้างบนนั่นหนะ เขาเน้นว่าอย่างไรบ้าง?

    พวกเขาบอกว่า..

    "มันเป็นเรื่องของการเปลี่ยนระดับคลื่นความถี่และการสั่นสะเทือน
    ซึ่งเครื่องมือที่มีอานุภาพมากที่สุดในโลกแห่งเกมสามมิติแห่งนี้
    ซึ่งพวกคุณอาจจะเรียกมันว่า “กุญแจทอง” ก็ได้..ก็คือ..
    ทักษะความสามารถ และการฝึกฝน ให้ตัวเองสามารถ
    คงอยู่แต่ในคลื่นความถี่ของความเบิกบาน
    และความรู้สึกซาบซึ้งใจล้วนๆให้ได้อย่างมีสติสัมปชัญญะ
    ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ก็จะต้องดึงตัวเองให้กลับคืนไปอยู่ในหัวใจของตัวเอง
    ซึ่งเปรียบเสมือนจอกศักดิ์สิทธิ์อันวิเศษ ใหม่อีกครั้งหนึ่งให้ได้
    และก็จะต้องแผ่แต่คลื่นความสั่นสะเทือนด้านบวกเหล่านี้
    ออกมาสู่ชีวิตประจำวันของตัวเองให้ได้ ในทุกๆชั่วขณะ"

    อันที่จริงแล้วข้อความชุดนี้มันเป็นข้อความชุดยาว ที่เขาจะส่งมาให้ทุกวัน
    ถ้าเราไปสมัครรับข้อความรายวันจากเขาไว้ ในเวปไซต์
    Morning Messages
    ซึ่งในหลายๆข้อความของพวกเขา จะพูดเน้นเรื่องนี้มาก และก็เน้นอยู่ตลอดด้วย

    มันก็เลยเหมือนกับเป็นปรากฎการณ์ synchronicity สำหรับผมเอง
    ที่บังเอิญได้มาอ่านข้อความนี้ ในช่วงเวลานี้พอดี
    แล้วก็มีความฝันเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยพอดีในช่วงเวลาเดียวกัน

    แต่อันที่จริงมันไม่ใช่ว่าจะมีเพียงข้อความนี้ข้อความเดียวหรอกนะครับ
    ที่เน้นเรื่องนี้ เพราะว่าข้อความอื่นๆ จากรูปธรรมชีวิตอื่นๆ
    ก็พูดทำนองนี้อยู่เหมือนกัน และเสมอๆ ด้วย

    และมันก็มีข้อความข้อความหนึ่ง ของ the Team ที่ว่านี้แหละ
    ที่ผมกำลังแปลอยู่นี้ ที่ตอบโจทย์ หรือ ตอบคำถามบางข้อของผม
    ได้กระจ่างใจดีจริงๆเลย เพราะว่าผมชอบการตอบคำถาม หรือการอธิบาย
    ในแนวๆนี้แหละ คือตอบลึกลงไปถึงระดับควอนตั้มเลยทีเดียว
    ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันถึงเป็นไปเช่นนี้ อะไรแบบนั้น

    ดังนั้น ท่านใดที่มีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับเรื่องควอนตั้ม
    หรือเกี่ยวกับอภิปรัชญา (Metaphysics) อยู่บ้างแล้ว
    พออ่านข้อความชุดนี้แล้ว ก็อาจจะถึงบางอ้อในทันทีก็ได้

    แล้วมันก็ยังมีอีกข้อความหนึ่ง จากอีกแหล่งหนึ่ง ที่ผมอ่านแล้ว
    และก็ตั้งใจจะแปลอยู่อีกเหมือนกัน เพราะว่ามันก็ตอบคำถามได้ดีเหมือนกัน
    ซึ่งเป็นคำถามที่คาใจมานานแล้ว อะไรแบบนั้นหนะครับ

    และก็..สไตน์ข้อความจากต่างมิติทั้งหลาย ที่ผมเชื่อว่าเป็นของจริง
    ก็จะเป็นแบบนี้เสมอนั่นแหละ คือ ถ้าพูดถึงเรื่องเดียวกันแล้ว
    มันก็จะออกแนวเดียวกันหมด มีเนื้อหาตรงกันทั้งหมด
    สอดรับกันได้แบบไม่มีจุดสะดุดทั้งหมด แทบจะ 100% เลยทีเดียว

    ดังนั้น ผมก็เลยเชื่อว่า ทั้งสองข้อความที่ผมกล่าวถึงนี้
    น่าจะมาจากอีกแหล่งข้อมูลหนึ่ง ที่น่าจะเชื่อถือได้อยู่นะครับ
    ไม่ใช่เพราะว่ามันสอดรับกันเท่านั้น
    แต่มันยังสั่นสะเทือนตรงกับความรู้สึกของเราอีกด้วย

    เดี๋ยวรออ่านนะครับ ใกล้จะเสร็จแล้วหละครับ
    ........................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2014
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจาก The “We Are Here” Team
    เรื่อง: ทุกๆชีวิตล้วนมีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกันอยู่


    ผู้รับสาส์น: Peggy Black
    วันที่: 15 พฤษภาคม 2014
    ที่มา: Morning Messages

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    พวกเราอยู่ที่นี่ และพวกเราก็รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสให้ความช่วยเหลือพวกคุณ
    และให้ความช่วยเหลือในกระบวนการขยายตัวของพวกคุณ ที่กำลังดำเนินไปอยู่นี้

    พวกเราขอเชิญพวกคุณให้หายใจเข้า-ออกลึกๆยาวๆ แล้วขอบคุณตัวเอง
    พร้อมๆกับปลดปล่อยสิ่งที่เคยยึดติดอยู่ออกไปเสีย
    ซึ่งช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้น หรือว่าจะเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทาย
    ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อและความเข้าใจของพวกคุณเองแต่ละคน

    แต่ตามการรับรู้และความเข้าใจของรูปธรรมชีวิตหลากมิติแล้ว
    ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่น่าทึ่งมากๆและเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง

    การรู้, การยอมรับ และการมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ที่พวกคุณพากันมาอยู่ที่นี่
    ก็เพื่อที่จะมาทำให้โลกแห่งความเป็นจริงโลกใหม่ บังเกิดขึ้นบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้นั้น
    สามารถที่จะทำให้และก็จะไปทำให้มุมมองของพวกคุณที่มีต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
    เปลี่ยนแปลงไปได้ แต่พวกเราก็ไม่ได้ต้องการที่จะบอกว่าประสบการณ์แห่งความทุกข์ยาก
    หรือปัญหาอุปสรรคที่พวกคุณแต่ละคนกำลังเจออยู่ในขณะนี้นั้น มันไม่มีอยู่จริงหรอกนะ
    แต่พวกเราเพียงอยากจะขอเชิญพวกคุณให้คิดออกไปนอกขอบเขตของปัญหาอุปสรรค
    หรือความทุกข์ยาก และข้อจำกัดใดๆทั้งปวงเท่านั้นเอง

    ที่พวกเรามาอยู่ที่นี่ก็เพื่อที่จะมาเตือนให้พวกคุณรู้ว่า
    แท้ที่จริงแล้วพวกคุณเป็นใคร พวกคุณคือรูปธรรมชีวิตที่มีสติสัมปชัญญะในการคิด
    และก็คือผู้สร้างประสบการณ์ชีวิตของตัวเองขึ้นมาเองด้วย

    ที่พวกเรามาอยู่ที่นี่ก็เพื่อที่จะมากระตุ้นเตือนความทรงจำของพวกคุณ
    และเชื้อเชิญพวกคุณให้ก้าวออกมาจากม่านพรางของการถูกปฏิเสธ
    และความเชื่อที่มีข้อจำกัดทั้งหลายเสีย

    พวกเราหวังว่าข้อความสื่อสารในครั้งนี้ จะทำให้พวกคุณได้มีโอกาสยืดขยายขอบเขตความตระหนักรู้
    และการคิดคำนึงของตัวเองออกไปอีก เพื่อเข้าไปสู่ขอบเขตใหม่ที่กว้างใหญ่กว่าเดิม
    ที่เกี่ยวกับว่าอะไรบ้างที่น่าจะเป็นไปได้

    จงลองเล่นกับแนวคิดนี้ดู จงยอมให้มันคลี่คลายออกมาจากภายในของตัวพวกคุณเอง
    จงพยายามให้ถึงที่สุด ที่จะไม่ร้องขอข้อพิสูจน์ในทันที ต่อสิ่งที่พวกเรากำลังจะแนะนำต่อไปนี้
    แต่จงยอมให้ตัวเองจินตนาการถึงความเป็นไปได้ของมันเท่านั้นก็พอ

    พวกเราจะมาพูดถึงสนามพลังงานควอนตั้ม (quantum field) อีกครั้งหนึ่ง
    เพราะว่าเรื่องนี้มันเป็นกุญแจสำคัญสู่การเลื่อนระดับขึ้นและการเปลี่ยนรูปแบบของพวกคุณเอง
    ซึ่งพวกเราก็เข้าใจดีว่า เรื่องนี้มันยังห่างไกลจากความเป็นไปได้
    สำหรับมนุษย์โลกส่วนใหญ่ที่ถูกตั้งโปรแกรมมาให้คิดแบบตรรกะอยู่มาก
    เพราะว่าถ้าพวกคุณหาข้อพิสูจน์อะไรไม่ได้ หรือไม่สามารถมองเห็นมันได้
    หรือไม่สามารถรู้สึกถึงมันได้ มันก็จะไม่สามารถเป็นความจริงสำหรับพวกคุณไปได้

    พวกเราพูดอยู่บ่อยๆว่าสนามพลังงานควอนตั้ม คือพลังงานบริสุทธิ์อย่างหนึ่ง
    ที่มันจะตอบสนองต่อความสั่นสะเทือนที่พวกคุณป้อนเข้าไปให้กับมัน


    พวกเราขอเชิญพวกคุณให้เริ่มเรียกเอาคุณสมบัติของจิตสำนึกระดับควอนตั้มของตัวเองออกมาใช้
    เพื่อที่จะได้สามารถมองเข้าไปในโลกแห่งความเป็นจริงจากมุมมองที่กว้างกว่าของความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดนี้ได้
    ซึ่งมุมมองที่กว้างกว่าที่ว่านี้ ก็จะไปปลดล็อกจินตนาการของพวกคุณ
    และก็จะทำให้พวกคุณสามารถเข้าถึงความสง่างามที่แท้จริงของตัวพวกคุณเองได้
    และก็จะทำให้พวกคุณสามารถขยายตัวได้

    พวกเราจะพูดถึงเรื่อง “การพัวพันกันของควอนตั้ม” (Quantum Entanglement)
    และพวกเราก็อยากจะขอเชิญพวกคุณให้ลองมาสำรวจตรวจดู
    และพินิจพิเคราะห์ดูถึงศักยภาพและความเป็นไปได้ของมัน
    พวกเราอยากจะขอให้พวกคุณลองมาเล่นกับแนวคิดนอกกรอบนี้ดู

    เพราะว่ารูปแบบที่บริสุทธิ์ที่สุดของพวกคุณก็คือ “ความสั่นสะเทือน” (vibration)
    ที่กำลังอาศัยอยู่ในร่างกายเนื้อนี้ ดังนั้น พวกคุณจึงจดจ่ออยู่แต่กับโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพนี้เป็นหลัก
    ซึ่งก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อที่พวกคุณจะได้สามารถดิ้นรนต่อสู้และมีชีวิตรอดอยู่ได้

    แต่คราวนี้ พวกเราอยากจะขอให้พวกคุณหันมาจดจ่ออยู่กับตัวเอง
    ในฐานะที่เป็นรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างอันบริสุทธิ์ที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่บ้าง
    ซึ่งระดับความสั่นสะเทือนเฉพาะตัวของพวกคุณเองนี้แหละที่จะเป็น
    “ลายเซนต์ด้านพลังงาน” (energy signature) ของใครของมัน ที่จะแผ่ออกมาให้ผู้อื่นได้รับรู้หละ
    เพราะว่าสิ่งมีชีวิตทุกๆชนิดที่อยู่บนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ
    ต่างก็จะมีลายเซนต์ด้านพลังงานแบบนี้ด้วยกันหมดทั้งสิ้น

    จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเมื่อใดก็ตามที่พวกคุณไปมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นแล้ว
    มันจะก่อให้เกิด “การพัวพันกันของควอนตั้ม” (quantum entanglement) ขึ้นมา
    ซึ่งการพัวพันกันที่ว่านี้ก็คือการเชื่อมโยงกัน หรือการเชื่อมต่อกัน
    ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในสนามพลังงานควอนตั้มของพวกคุณเอง
    และการเชื่อมโยง หรือการ entanglement ดังกล่าวนี้
    ก็จะเกิดขึ้นภายในสนามพลังงานอันบริสุทธิ์ของพวกคุณเอง


    อยู่กับพวกเราก่อน เพราะว่าพวกเรากำลังจะขยายขอบเขตความเชื่อที่มีข้อจำกัดของพวกคุณออกไปอีก

    Quantum Entanglement หมายถึง การที่อนุภาคของแสงหลายๆอนุภาค
    สามารถมาอยู่ร่วมกัน, มามีพันธะต่อกัน
    และมาแบ่งปันข้อมูลข่าวสารแห่งแสงสว่างในระดับควอนตั้มด้วยกันได้

    ซึ่งในโลกของควอนตั้มแล้ว คุณลักษณะที่สำคัญอย่างหนึ่ง
    ของการแลกเปลี่ยน และการมีพันธะต่อกันดังกล่าวนี้ ก็คือ
    เมื่อใดก็ตามที่อนุภาคแห่งแสงสว่างเหล่านี้
    ได้มาอยู่ในสภาวะที่มีการพัวพันกันแล้ว
    พวกมันก็จะแบ่งปันข้อมูลข่าวสารร่วมกันอยู่ตลอดเวลา
    ไม่ว่าพวกมันจะอยู่ห่างไกลกันสักแค่ไหนก็ตาม
    หรือไม่ว่าพวกมันจะอยู่ต่างกาลเวลากันสักแค่ไหนก็ตาม

    คราวนี้..เมื่อใจของพวกคุณยอมรับในความเป็นไปได้ของเรื่องนี้แล้ว
    พวกเราก็อยากจะขอให้พวกคุณลองพิจารณาต่อไปอีกสักหน่อยว่า
    ทุกๆครั้งที่พวกคุณไปมีปฏิสัมพันธ์กับใครก็ตาม นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้
    ไม่ว่าจะเป็นการแค่เดินผ่านใครซักคนไปบนท้องถนน หรือว่าไปเจอกันในร้านค้า
    หรือว่าในที่ชุมนุมชนที่ไหนซักแห่งหนึ่ง หรือว่าอยู่ในเครื่องบินลำเดียวกัน
    หรือว่าอยู่ในห้องเรียนห้องเดียวกัน หรือว่าอยู่ในที่ทำงานที่เดียวกัน
    หรือว่าเป็นเครือญาติกันก็ตาม มันก็จะเคยมี และกำลังมี
    การพัวพันกันของอนุภาคแห่งแสงสว่างอันบริสุทธิ์เกิดขึ้น
    อยู่ภายในสนามพลังงานควอนตั้มของพวกคุณด้วยเสมอ

    ลองคิดดูซิว่ามันจะมีการพัวพันกัน หรือการ entanglement กัน
    อยู่ภายในและเป็นส่วนหนึ่งของจิตสำนึก/ความตระหนักรู้
    ระดับควอนตั้มของพวกคุณเองมากสักแค่ไหน
    อันเนื่องมาจากการเชื่อมต่อและการมีปฏิสัมพันธ์กันเหล่านี้..
    ซึ่งคำตอบก็คือ มีอยู่นับล้านๆเลยทีเดียว
    มันคือการ entanglement กันของพวกคุณในระดับควอนตั้มนั่นเอง

    เอาหละคราวนี้..ลองมายืดขยายแนวคิดนี้ออกไปอีกซักเล็กน้อย
    แล้วลองมาพิจารณาดูซิว่า การ entanglement กัน
    ที่พวกคุณแต่ละคนสร้างกันขึ้นมาตลอดชั่วชีวิตของพวกคุณนั้น
    ก็จะไปเชื่อมต่อกับการ entanglement กันในระดับควอนตั้มที่คนอื่นๆสร้างขึ้นมาอีกด้วย
    และการเชื่อมต่อกันในระดับควอนตั้มแบบนี้ ก็จะดำเนินต่อไปเรื่อยๆๆ

    ทีนี้พวกคุณเริ่มมองเห็น, เริ่มรู้สึก และเริ่มเข้าใจแล้วใช่ไหมว่า
    พวกคุณทุกๆคนล้วนเชื่อมโยงซึ่งกันและกันอยู่จริงๆ

    พวกเรารู้สึกได้เลยว่าพวกคุณชักจะเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วสิ
    เมื่อคิดว่าตัวเองจะต้องเชื่อมโยงอยู่กับคนที่อาจจะไม่ได้กำลังสั่นสะเทือน
    อยู่ในระดับความสั่นสะเทือนที่สูงที่สุดอยู่ หรือมีศีลธรรมอยู่
    ซึ่งก็คือบรรดาผู้ที่สร้างแต่ความเกลียดชัง, ความเสียหาย, ความโกรธ และความเดือดดาลให้เกิดขึ้นนั่นเอง
    และความเป็นจริงก็คือ..พวกคุณก็เชื่อมต่ออยู่กับทุกๆคนอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว

    แต่บางทีพวกคุณอาจจะเพิกเฉย หรือปฏิเสธที่จะยอมรับการเชื่อมต่อกับบุคคลเหล่านี้ มาโดยตลอด
    แล้วก็เลยผลักไสความเป็นไปได้ที่คุณลักษณะหรือคุณภาพที่มีข้อจำกัดเหล่านี้
    จะสามารถกลายมาเป็นของพวกคุณได้ ออกไปเสีย

    แต่ตอนนี้ มันถึงเวลาแล้วที่พวกคุณจะต้องขยายตัวออกไปสู่ความยิ่งใหญ่และความงดงามที่แท้จริงของตัวเอง
    แล้วยอมรับการเป็นเจ้าของการเชื่อมต่อเหล่านี้เสีย

    และจงเข้าใจไว้ด้วยว่า เมื่อพวกคุณทำเช่นนี้แล้วพวกคุณก็จะสามารถนำพา
    และก็จะนำพาพลังงานแห่งการเปลี่ยนรูปแบบเพื่อไปสู่สภาวะที่ดีขึ้นกว่าเดิม มาสู่ลิงค์ที่พัวพันกันเหล่านี้ได้

    ซึ่งถ้าสิ่งที่พวกเราเชื้อเชิญให้พวกคุณนำไปพิจารณาดูทั้งหมดนี้คือความจริงหละก็
    นั่นก็หมายความว่า เมื่อใดที่พวกคุณสามารถเยียวยารักษาด้านใดด้านหนึ่งของตัวเองได้แล้ว
    หรือเมื่อใดที่พวกคุณมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว
    ซึ่งเป็นความเข้าใจหรือความกระจ่างแจ้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
    ข้อมูลข่าวสารอันนี้ ก็จะแผ่กระเพื่อมเป็นระลอกต่อๆกันออกไป
    ทั่วทั้งเครือข่ายแห่งการพัวพันกันของพวกคุณแต่ละคน
    หรือทั่วทั้งเครือข่ายแห่งการลิงค์กันในระดับควอนตั้มของพวกคุณแต่ละคน


    และก็เช่นเดียวกันกับที่พวกคุณแต่ละคน จะถูกเกี่ยวพันอยู่ด้วยอนุภาคแห่งแสงสว่างของบุคคลอื่น
    ในสนามพลังงานควอนตั้มดังกล่าวนี้ คนอื่นๆก็จะถูกเกี่ยวพันอยู่ด้วยอนุภาคแห่งแสงสว่างของพวกคุณเองด้วยเช่นกัน
    ดังนั้น เมื่อใดที่พวกเขายกระดับขึ้นมาได้แล้ว พวกคุณก็จะถูกยกระดับขึ้นตามไปด้วย

    นี่คือความเข้าใจที่มีความสำคัญยิ่ง เพราะว่าในตอนนี้พวกคุณสามารถที่จะเริ่มมองเห็นได้แล้วว่า
    ความคิด, ความรู้สึก, คำพูด และความสั่นสะเทือนส่วนตัวของพวกคุณแต่ละคน จะไปส่งผลกระทบต่อส่วนรวมอย่างไร

    การกระทำทุกๆการกระทำของพวกคุณ จะกระเพื่อมเป็นระลอกและแผ่ขยายออกไปสู่เครือข่ายทั้งหมดของควอนตั้มนี้
    ดังนั้น เมื่อใดที่พวกคุณเลือกที่จะอวยพรหรือแผ่เมตตา แทนการตัดสินชี้ถูกผิดคนอื่น
    หรือเมื่อใดที่พวกคุณเลือกที่จะให้อภัย แทนการประณาม
    หรือเมื่อใดที่พวกคุณเลือกที่จะแสดงความรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งใจออกมา
    นั่นก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังแผ่ส่งคลื่นความสั่นสะเทือนที่เกื้อกูลชีวิต
    และแผ่ส่งข้อมูลด้านพลังงาน และแผ่ส่งกำลังใจ ออกมาอยู่
    ซึ่งมันก็จะแผ่กระเพื่อมไปทั่วทั้งเครือข่ายของควอนตั้มที่พวกคุณมีการเชื่อมโยงอยู่ทั้งหมดต่อไป

    ดังนั้น ในโลกของควอนตั้มแห่งนี้ ศักยภาพทั้งหมดและความเป็นไปได้ทั้งหมด
    จึงมีอยู่พร้อมๆกันทั้งหมด ในเวลาเดียวกัน จนกว่าศักยภาพใดศักยภาพหนึ่งจะถูกสังเกตการณ์
    หรือถูกเรียกออกมาใช้งานเท่านั้นเอง และในสังคมที่มีการพัวพันกันแบบนี้
    เมื่อใดที่รูปธรรมชีวิตแห่งการสั่นสะเทือนจำนวนมากขึ้นและมากขึ้น แผ่ส่งคลื่นความถี่แห่งจิตสำนึกระดับสูง
    ที่เต็มไปด้วยความรัก, ความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกขอบคุณ และความเข้าใจออกมาแล้ว
    นั่นแหละคือโลกแห่งความเป็นจริงที่มีศักยภาพที่จะถูกเนรมิตออกมาสำหรับพวกคุณทุกๆคนหละ

    พวกคุณสามารถที่จะช่วยเรียกเอาโลกแห่งความเป็นจริงที่เต็มไปด้วยการให้เกียรติผู้อื่น
    และให้เกียรติสิ่งมีชีวิตทุกๆชนิด,โลกแห่งความเป็นจริงที่สนับสนุนและเกื้อกูลต่อการอยู่ดีมีสุขของทุกผู้ทุกนาม,
    โลกแห่งความเป็นจริงที่ทุกๆคนมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเอง และทุกๆคนก็เคารพ
    และยอมรับในความศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ในตัวของกันและกันด้วย ออกมาใช้งานได้

    พวกคุณมีพลังอำนาจมากเกินกว่าจะประมาณได้ เมื่อใดที่พวกคุณยอมรับเอาจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ระดับนี้เข้ามาไว้ได้แล้ว
    พวกคุณก็จะเริ่มเปลี่ยนรูปแบบของพลังงานและความสั่นสะเทือนที่ไม่ดีไม่งามทั้งหลายของผู้อื่นไป
    ด้วยวิธีการที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก

    และเพราะว่าธรรมชาติของอนุภาคของแสง จะมีการพัวพันกันอยู่ หรือมีการเชื่อมโยงกันอยู่แบบนี้แหละ
    จึงทำให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆถูกส่งข้ามกาลเวลาและอวกาศไปถึงกันได้ในทันทีทันใด
    และเมื่อใดที่พวกคุณแผ่ส่งความสั่นสะเทือนแห่งความรักและความสุข-ความเบิกบานออกมา
    ก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังอำนวยพรด้วยความเมตตากรุณาอยู่นั่นเอง

    พวกเรารู้สึกปลื้มปิติที่พวกคุณยอมรับคำเชื้อเชิญของพวกเรา และจงเล่นสนุกกับเรื่องควอนตั้มนี้ดู
    แต่จงง่ายๆสบายๆกับตัวเองและผู้อื่น และจงรู้ไว้ด้วยว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
    ทั้งหมดนี้มันก็คือการคลี่คลายออกและการขยายตัว และจงจำไว้ว่าตัวตนหลากมิติของพวกคุณแต่ละคน
    เข้าใจโลกแห่งความเป็นจริงระดับควอนตั้มนี้เป็นอย่างดี

    พวกเราพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือพวกคุณเสมอ

    The Team

    …………….......................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2014
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เมื่อคืนนี้หลังจากโพสต์ข้อความนี้เสร็จ ผมก็มีข้อสงสัยเกิดขึ้นในใจเองว่า
    เอ..ถ้ามันเป็นอย่างที่พวกเขาว่ามานี้จริงๆ งั้นก็แสดงว่า
    ถ้ามีใครสักคนที่อยู่ในเครือข่ายการเชื่อมต่อของเรา รู้แจ้งขึ้นมา
    หรือบรรลุธรรมขึ้นมาได้แล้ว แล้วทำไมเราถึงยังไม่รู้แจ้งกับเขาตามไปด้วยหละ?..

    แล้วไม่นานคำตอบมันก็โผล่ขึ้นมาเองอีกเช่นกันว่า..
    ก็เพราะว่าภายในเครือข่ายการเชื่อมต่อของเราแต่ละคนนั้น
    มันไม่ได้มีแต่เฉพาะคนที่รู้แจ้งแล้วคนนั้นคนเดียวหนะสิ
    แต่มันยังมีคนอื่นๆอีกมากมายที่ยังไม่รู้แจ้ง
    มิหนำซ้ำยังเป็นผู้ที่มีระดับความสั่นสะเทือนต่ำๆหรือติดลบอยู่อีกด้วย

    นั่นแหละถึงเป็นสาเหตุให้ระดับพลังงานโดยรวม
    ภายในเครือข่ายการเชื่อมต่อของพวกเรามันไม่สูงอย่างที่เราต้องการ..

    แต่ถ้ามีคนจำนวนมากพอ ที่พากันรู้แจ้งแล้ว
    หรือมีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงๆแล้วอยู่
    ภายในเครือข่ายการเชื่อมต่อของเราหละก็
    มันก็น่าจะเป็นไปได้ว่า พวกเราก็จะถูกยกระดับขึ้นตามไปด้วยจริงๆ..

    นี่แหละถึงเป็นที่มาของการ "ส่งพลังงานแห่งแสงสว่าง"
    ลงมายังโลกปริมาณมหาศาลของจักรวาลหละ
    และรวมถึง เป็นที่มาของการกระตุ้นให้แสงสว่างถูกจุดประกายขึ้น
    ภายในหัวใจของพวกเราทุกๆคนที่อยู่บนโลกนี้หละ
    เพื่อให้กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นของคนทั้งโลก
    สามารถเกิดขึ้นได้ตามแผนงานหลักของเบื้องบน..

    ...............................
     
  14. talkjoss

    talkjoss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2010
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +2,252
    [​IMG]

    "แค่เด็ดดอกไม้ ก็สะเทือนถึงดวงดาว"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. kuzawa

    kuzawa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +35
    ผมนึกถึง เอวา ในหนัง อวตาร เลยละครับ
     
  16. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    รายการต่อไปจะเป็นเรื่อง A History of the Creation ครับ
    ความยาว 23 หน้ากระดาษ A4 เดี๋ยวจะลองแปลดูครับ
    ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดหรือทำให้ต้องหยุดแปลกลางครันซะก่อน
    ก้คงได้อ่านกันครับ..

    เรื่องนี้ก็ลึกลับและลึกซึ้งดี แต่อ่านแล้วเข้าใจได้ไม่ยากนัก
    โดยเฉพาะผู้ที่มีพื้นฐานด้านอภิปรัชญาและควอนตั้มมาบ้างแล้ว

    .................................................
     
  17. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    ภาพประกอบเป็นแค่ภาพประกอบครับ


    ไม่ได้หมายถึงอะไรๆ หรอก เอามาให้นึกถึงภาพวิมานเมืองแก้ว
    ได้ชัดเท่านั้นเอง ส่วนสำนักอื่นใด เขาสอนอะไร ผมก็ไม่ได้ไปรู้
    กะเขานะ อันนี้ ก็แล้วแต่เขา ไม่ได้พูดถึงเขานะครับ


    อันนี้ อธิบายแต่เรื่องนิพพานเมืองแก้วในมุมของผมเท่านั้นเอง
     
  18. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    แหม...อ่านแล้วนึกถึงทฤษฎีลิงตัวที่ร้อยจังเลยครับ
    หรือว่าต้องมีลิงร้อยตัว ที่รู้แจ้งเห็นจริงซะก่อนน๊า
    ท่านอื่นๆ ถึงจะพลอยได้อานิสงฆ์ไปด้วย น่าสงสัยจริง

    อีกประการ พระโพธิสัตว์อาจจะเบื่อการขนย้ายสัตว์แล้วก็เป็นได้นะ
    ขนมาตั้งหลายชาติแล้ว ก็ยังไม่หมดซะที แถมเกิดมาเพิ่มตลอดเลย
    ไม่รู้มันมาจากโลกไหนกันบ้าง สมัยโน้นมีไม่กี่ล้านเอง
    แต่เดี๋ยวนี้มีตั้งเจ็ดพันล้านแล้ว มันเพิ่มมาจากไหนมากมายกันนะ ไม่เข้าใจเลย

    บางที เค้าคิดสะระตะแล้ว เลยเปลี่ยนแผนปฏิบัติการรึเปล่าน๊า
    แทนที่จะขนคนขึ้นไปบนโลกโน้น เลยเปลี่ยนโลกนี้ ให้เป็นโลกโน้นซะเลยดีกว่า
    ไม่ต้องขนคนขึ้นไปหละ ขนโลกโน้นลงมาลูกเดียวดีกว่า ยังมีสิทธิ์จะทำเสร็จได้ ในชาติเดียว

    เนี่ย มันอาจจะเป็นอย่างนี้ได้ไหมเนี่ย ลองคิดเล่นๆ แล้ว ชักอยากให้เป็นจริงซะแล้วสิ เนอะท่าน


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ลูกนาฬิเก

    .
     
  19. krittima helga

    krittima helga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +247
    ---เราก็ว่าอย่างนั้นแหละ..ท่านกระต่ายข้างวัด..เพราะการชว่ยพระแม่โลกเพียงหนึ่งเดียวก็เหมือนชว่ยสรรพสิ่งบนโลกดว้ยเหมือนกัน...และการชว่ยสรรพสิ่งบนโลกก็เหมือนชว่ยหนึ่งโลกเหมือนกัน..แต่ที่แน่ๆ..หนึ่งโลกในใจเธอกำลังเปลี่ยนขั้วเหมือนกัน..ความเพียรคือความสำเร็จอันมุ่งหวังได้ในทุกสิ่ง..สู้ๆจ้ากับสถานการณ์..เปลี่ยนขั้วเหนือ-ใต้..({)(tm-love)chearr:VO
     
  20. wawana

    wawana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +356
    อืม...เป็นเหมือนกันเลย มีอาการหลงลืมมาพักใหญ่แล้ว(ส่วนมากเป็นเรื่องในอดีต..บางเรื่องจำไม่ได้แม้แต่นิดเดียวว่าเราได้พูดได้ทำไปแล้ว)...ยังคิดว่าเราเริ่มอาการอัลไซเมอร์เหรอ...ไม่กล้าบอกหรือปรึกษาใครแต่เราก็ยังทำงานปัจจุบันได้อยู่...มันรู้สึกว่าเราอยู่กับปัจจุบันเท่านั้น...จริงๆ เมื่อวานคือเมื่อวานแต่อนาคตก็ยังวาดฝันได้อยู่นะ...แปลกใจว่าทำไมความจำเราลดลงวูบได้ขนาดนี้...สมองแย่มากๆ...ประมาณนี้...แล้วตกลงเราเป็นอะไรกันเหรอ...มีใครบอกได้บ้างคะ :z2
     

แชร์หน้านี้

Loading...