ปิดรับบริจาค (เชิญฝากชื่อเขียนลงแผ่นทอง)หล่อองค์ปฐมประจำวันเกิดองค์ๆละ10,000บาท!!!

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย เก๋ณัฐา, 7 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    "ความพากเพียรที่ถูกที่สุด"

    คือ..หนึ่งพากเพียรในการให้ทาน จัดเป็นปรมัตถทาน
    รักษาศีล เป็นปรมัตถศีล
    เนกขัมมบารมี เจริญให้ตั้งมั่น


    พากเพียรในการเจริญวิปัสสนาญาณ ให้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างในโลก
    ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่มีอะไรคงสภาพ

    เพียรระงับ ความอดกลั้น ความไม่ถูกใจจากอารมณ์
    เพียรรักษาสัจ ความจริงใจในความเป็นอริยะ
    เพียรรักษาการอธิษฐานจิต ที่เราที่เราตั้งใจจะเป็นอริยเจ้า
    การเป็นอริยเจ้าเขามีด้วยประการใดจะปฏิบัติตามนั้นครบถ้วนทุกประการ
    เพียรทรงความเมตตาปรานี เพื่ออารมณ์จิตผ่องใสเป็นปกติ
    เพียรรักษาอุเบกขา ความวางเฉย ไม่แสดงอาการขึ้นลงให้ปรากฏ

    ถ้าเพียรทำได้อย่างนี้ที่ชื่อว่า.."บารมี 10" มีความเกี่ยวข้องกัน ทำได้อย่างนี้แล้ว
    องค์สมเด็จพระประทีปแก้วกล่าวว่า..
    "ท่านผู้นั้นเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าเบื้องต้น"

    หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

    คัดจาก โมทนาบุญ ดอท คอม
    --------------------------------------
    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกหรือ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด
    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณเก๋ณัฐาและท่านผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านครับ
     
  2. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกหรือ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด

    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท
     
  3. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    อนุโมทนาบุญกับคุณธรรมสถิตและทุกท่านเช่นกันค่ะ สาธุๆๆ
     
  4. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ทำไมวิปัสสนาจึงกลายเป็นวิปัสนึก

    ทำไมวิปัสสนาจึงกลายเป็นวิปัสนึก
    ธรรมโอวาท หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
    จงอย่าลืมว่า ก่อนพิจารณาทุกครั้ง
    ต้องเข้าฌานก่อน แล้วถอยจากฌาน...
    มาหยุดอยู่เพียง อุปจารฌาน
    แล้วพิจารณาวิปัสสนาญาณ
    จึงจะเห็นเหตุเห็นผลง่าย
    ถ้าท่านไม่อาศัยฌานแล้ว
    วิปัสสนาญาณก็มีผลเป็นวิปัสสนึกเท่านั้นเอง
    ไม่มีอะไรดีไปกว่า นั่งนึกนอนนึกแล้วในที่สุด
    ก็เลิกนึก และหาทางโฆษณาว่า
    ฉันทำมาแล้วหลายปี ไม่เห็นได้อะไรเลย
    จงจำระเบียบไว้ให้ดี
    และปฏิบัติตามระเบียบให้เคร่งครัด
    วิปัสสนาไม่ใช่ต้มข้าวต้ม
    จะได้สุกง่าย ๆ ตามใจนึก

    https://www.facebook.com/#!/BuddhaSattha
     
  5. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เรื่องเล่าเกี่ยวกับเนื้อคู่ ของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ

    เรื่องเล่าเกี่ยวกับเนื้อคู่
    ของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ


    [​IMG]



    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ พระอริยะแห่งวัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ในสายหลวงปู่มั่น ภูริทฺตโต เดิมประวัติของท่านได้รับการรวมรวม-เรียบเรียงโดย พระนาค อตฺถวโร วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ แต่บทความนี้ได้คัดมาจาก หนังสือธรรมโอวาทหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ซึ่งคุณแจ่ม เจิดจรัส ได้นำมารวบรวมเรียบเรียงไว้

    เคยมีคำทำนายเกี่ยวกับเนื้อคู่ของหลวงปู่แหวน เมื่อสมัยที่เรียนมูลกัจจายน์ที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้มีหมอดูทำนายว่า เนื้อคู่ของท่านจะมีรูปร่างสันทัด ผิวเนื้อขาวเหลือง ใบหน้ารูปใบโพธิ์ แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจอะไร ด้วยชีวิตนี้ท่านได้อุทิศทั้งชีวิตเพื่อพระศาสนาแล้ว จึงขอกล่าวถึงข้อความตอนหนึ่งในหนังสืออนุสรณ์หลวงปู่แหวน เกี่ยวกับในช่วงที่จิตของท่านนึกเห็นแต่หน้าของหญิงนางนั้น ที่สุดท่านก็ได้บังคับจิตของท่านให้หลุดออกจากห้วงนั้น โดยใช้อุบายธรรมพิจารณาเหตุผลในทีละอย่าง จนท่านก็ประสบความสำเร็จ เนื้อความในหนังสือที่ยกมากล่าวอ้างนี้ความว่า

    วันหนึ่ง หลวงปู่แหวนได้มาพักบำเพ็ญอยู่ที่บ้านนาสอง เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่พอสมควร พวกชาวบ้านถิ่นนั้นมีแปลกอยู่อย่างคือ เวลาเห็นพระไปบิณฑบาต พวกเขาจะป่าวร้องกันมาใส่บาตรว่า “มาเน้อมาใส่บาตร ญาธรรมมาแล้ว หาน้ำอ้อยน้ำตาลมาใส่บาตร ญาธรรมมาแล้ว ท่านชอบของหวาน” เมื่อได้ยินคนร้องประกาศเช่นนั้น ต่างก็เอาของมาใส่บาตรจนเต็ม พวกนี้เหมือนกับพวกไทยใหญ่ ไทยใหญ่ถ้าเห็นพระไปบิณฑบาต เขาจะใส่บาตรด้วยน้ำอ้อยน้ำตาลกับข้าวเช่นกัน พวกเขาถือว่าเจ้บุ๊นไม่กินเนื้อสัตว์ กินแต่ของหวาน แต่อย่างไรก็ตาม การฉันข้าวกับน้ำอ้อยน้ำตาลนั้นวันสองวันแรกก็ฉันได้ดี แต่วันที่สามที่สี่รู้สึกเบื่อ

    วันหนึ่งใกล้ค่ำได้ไปสรงน้ำที่แม่น้ำงึม มีหญิงสองคนแม่ลูกถ่อเรือมาตามลำน้ำงึม ถึงที่พระกำลังสรงน้ำอยู่ ก็ชำเรืองตามาทางพระหนุ่ม เมื่อสายตาของทั้งฝ่ายประสานกันเข้า ก็มีอานุภาพลึกลับและรุนแรงพอที่จะตรึงคนทั้งสองฝ่ายให้ตะลึงไปได้ ระหว่างทางที่เดินกลับที่พักในใจยังคิดถึงหญิงงามนั้นอยู่

    เมื่อมาถึงที่พัก จึงกลับได้สติหวนระลึกถึงคำนายของหมอดูเมื่อครั้งเรียนมูลกัจจายน์อยู่เมืองอุบล ที่ทำนายว่า “เนื้อคู่ของท่านอยู่ทางทิศนี้ รูปร่างสันทัด ผิวเนื้อขาวเหลือง ใบหน้าเหมือนใบโพธิ์” หญิงที่เราพบเห็นเมื่อตอนเย็นก็มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับคำทำนายของหมอดู เห็นจะเป็นหญิงคนนี้แน่ เพราะเมื่อเราเห็นเป็นครั้งแรกก็ทำให้เรามีจิตแปรปรวนแล้ว จึงตัดสินใจเดินทางกลับไทย เมื่อข้ามมายังฝั่งไทยได้ขึ้นไปทางอำเภอศรีเชียงใหม่ ไปพักอบรมตนอยู่ที่พระบาทเนินกุ่มใหม่ ไปพักอยู่ที่พระบาทเนินกุ่มหมากเป้ง

    ณ ที่นั้นได้พบกับหลวงปู่มั่น ภูริทฺตโต ซึ่งท่านได้ปลีกตัวออกจากหมู่คณะ มาภาวนาอยู่บริเวณนั้น เมื่อได้พบกับอาจารย์อีก จึงดีใจมาก การพักอบรมตนอยู่กับหลวงปู่มั่น ก่อนเข้าพรรษาทำให้จิตสงบลง ไม่ฟุ้งซ่านเหมือนก่อน แต่ภาพของหญิงงามนั้นยังปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราว แต่เมื่อเร่งภาวนาเข้าภาพนั้นก็สงบลง

    หลังจากเข้าพรรษาแล้ว ตั้งใจปรารถความเพียรอย่างเต็มที่ การเร่งความเพียรในระยะแรก จิตที่ยังไม่มีอะไรมาวุ่นวายคงสงบตัวได้ง่าย มีอุบายทางปัญญาพอสมควรเมื่อเร่งความเพียรหนักเข้าเอาจริงเอาจังเข้า กิเลสก็เอาจริงเอาจังกับเราเหมือนกัน คือแทนที่จิตจะดำเนินไปตามที่เราต้องการ กลับพลิกไปหานางงามที่บ้านนาสอง ฝั่งแม่น้ำงึมนั้นอีก ทีแรกได้พยายามปราบด้วยอุบายต่างๆ แต่ไม่สำเร็จ ยิ่งเร่งความเพียรดูเหมือนเอาเชื้อไปใส่ไฟ ยิ่งกำเริบหนักเข้าไปอีก เผลอไม่ได้เป็นต้องหาหญิงนั้นทันที บางครั้งมันหนีออกไปซึ่งๆ หน้า คือขณะที่คิดอุบายการพิจารณาอยู่นั่นเอง มันก็วิ่งไปหาหญิงนั้นเอาซึ่งๆ หน้ากันทีเดียว

    อุบายการปฏิบัติวิชาต่างๆ ที่นำมาใช้ในการทรมานจิตในครั้งนั้น เช่น เว้นการนอนเสีย มีเฉพาะเวลานั่ง ยืน เดิน ทำอยู่เช่นนั้นหลายวันหลายคืน คอยจับดูจิตว่ามันคลายความรักในหญิงนั้นแล้วหรือยัง ปรากฏว่าไม่ได้ผล จิตยังคงวิ่งออกไปหาหญิงงามอยู่เช่นเคย เผลอสติไม่ได้ ต่อมาเพิ่มไม่นั่งไม่นอน มีแต่ยืนกับเดิน ทำความเพียรอยู่อย่างนี้จิตมันก็ไม่ยอม มันคงไปตามเรื่องตามราวของมันเช่นเคย

    คราวนี้เปลี่ยนวิธีใหม่เปลี่ยนเป็นอดอาหาร ไม่ฉันอาหารเลยเว้นไว้แต่น้ำ อุบายการพิจารณาก็เปลี่ยนใหม่ คราวนี้เพ่งเอากายของหญิงนั้น เป็นเป้าหมายในการพิจารณาหายคลายสติ โดยแยกยกพิจารณาทีละอย่างในอาการ ๓๒ ขึ้นโดยอนุโลมปฏิโลม พิจารณาเทียบเข้ามาหากายของตน พิจารณาให้เห็นถึงความเป็นจริงว่าอวัยวะอย่างนั้นๆ ของตนก็มี ของหญิงก็มี ทำไมจะต้องไปรักไปหลง ไปคิดถึง เพ่งพิจารณาทีละส่วนๆ พิจารณาอยู่อย่างนั้นทั้งกลางวันกลางคืนทุกอริยาบท การพิจารณาจนละเอียดอย่างไรขึ้นอยู่กับอุบายความแยบคายของปัญญาที่เกิดขึ้นในขณะนั้น

    ตอนหนึ่งพิจารณามาถึงหนังได้ความว่า คนเราหลงอยู่ที่หนัง หนังเป็นเครื่องปกปิดสิ่งที่ไม่น่าดูไว้ ถ้าถลกหนังออก อวัยวะทุกส่วนก็หาส่วนที่น่าดูไม่ได้เลย เพ่งพินิจอยู่จนเห็นความเปื่อยเน่าผุพังสลายไป ไม่มีส่วนไหนที่จะถือว่าเป็นของมั่นคง ในขณะนั้นจิตซึ่งเคยโลดโผน โลดแล่นไปอย่างไม่มีจุดหมายมาก่อน พลันก็ยอมรับตามความจริง ตามเหตุผลของปัญญา ยอมตัวอย่างนักโทษผู้สำนึกผิด ยอมสารภาพถึงการทำตนแต่โดยดี ฉะนั้น นับแต่วินาทีการพิจารณาได้ยุติลง จิตยอมรับเหตุผลของปัญญาแล้ว

    เพื่อเป็นการทดสอบว่า “จิตยอมแล้ว” จึงได้ส่งจิตออกไปหาหญิงนั้นหลายครั้ง จิตคงสงบตัวไม่ยอมออกไป ความกำเริบความทรนงตัว ความโลดโผนของจิต จึงถึงความสงบลงตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ไม่กำเริบอีกต่อไป จิตคงทรงเห็นตามสภาพความเป็นจริงของธรรมอยู่ทุกเมื่อ


    นำมาจากบอร์ดเก่า โพสต์โดยคุณ poivang
    ::
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2014
  6. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกหรือ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด

    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท
     
  7. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกหรือ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด

    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท
     
  8. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกหรือ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด

    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท
     
  9. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกหรือ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด

    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท
     
  10. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,439
    ขอร่วมบุญหล่อสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลก 100 องค์ และงานบุญอื่นๆทุกๆงาน
    โอนปัจจัย 20 บาท เข้าบัญชี ธ.ไทยพาณิชย์
    วันที่ 24 เม.ย. 2557

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ สาธุ สาธุ
     
  11. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกหรือ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด
    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณเก๋ณัฐาและท่านผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านครับ
     
  12. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    อนุโมทนากับน้องธรรมวิวัฒน์เช่นกันจ๊ะขอให้บุญอันเนื่องด้วยสมเด็จองค์ปฐมในครั้งนี้ดลให้ได้น้องธรรมวิวัฒน์ได้สั่งสมบุญบารมีจนสำเร็จสมปรารถราตามที่อธิษฐานปรารถนาเมื่อสร้างบารมีเต็มนะจ๊ะ สาธุๆๆ โมทนาในจิตอันเป็นมหากุศลด้วยจ๊ะ
     
  13. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    อนุโมทนาสาธุการกับคุณธรรมสถิตและท่านผู้ร่วมบุญทุกท่านเช่นกันค่ะสาธุๆๆ
     
  14. surachuadz

    surachuadz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +527
    ขอร่วมบุญหล่อสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลก 100 องค์ และงานบุญอื่นๆทุกๆงาน
    โอนปัจจัย 100 บาท เข้าบัญชี ธ.ไทยพาณิชย์
    วันที่ 26 เม.ย. 2557 เวลา13.09

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ สาธุ สาธุ
     
  15. sindhus

    sindhus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    2,524
    ค่าพลัง:
    +8,445
    ขอร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ ปางเปิดโลก 100 องค์
    และพระพุทธรูปประจำวันเกิด


    โอน 20 บาท เข้าบัญชี ธ.ไทยพาณิชย์

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ
     
  16. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    อนุโมทนาสาธุการเป็นอย่างยิ่งค่ะอันใดติดขัดขอให้คลี่คลายอันใดปรารถนาขอให้สำเร็จตามที่อธิษฐานปรารถนาโดยฉัลพลันสาธุๆๆ
     
  17. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    โรคกรรมเก่า

    ... มาถึงตอนนี้มีเรื่องแปลก ๆ ที่ไม่น่าจะมีได้ แต่ก็ได้มีแทรกขึ้นในวงกรรมฐานมาแล้ว
    สมัยท่านพักอยู่ในเขาที่เชียงใหม่ จึงขออภัยเขียนไว้บ้างตามที่ได้ยินมา
    เพื่อเป็นข้อคิดและเป็นคติเตือนใจแก่ชาวเรา ต่างก็กำลังตกอยู่ในภาวะทำนองเดียวกัน

    เรื่องนี้คิดว่า เป็นเรื่องกรรมกันโดยมาก บรรดาที่ได้ทราบกันในวงใกล้ชิด
    มีท่านพระอาจารย์มั่น เป็นต้น ผู้ให้ข้อวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องนี้พอได้เป็นข้อคิดตลอดมา
    พระอาจารย์รูปหนึ่งซึ่งเคยอยู่กับท่านอาจารย์มั่น เล่าให้ฟังว่า
    บ่าย ๆ วันหนึ่งท่านกับพระอีกรูปหนึ่งไปอาบน้ำที่แอ่งหิน
    ใกล้กับหนทางไปไร่ไปสวนของชาวบ้านแถบนั้น
    แต่อยู่ห่างไกลจากหมู่บ้านมาก

    ขณะลงอาบน้ำ เผอิญมีพวกสีกามาจากไร่ เดินผ่านมาที่ตรงนั้น
    ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยมีเลย พอพระรูปนั้นเจอเข้า
    จิตก็เกิดแปรปรวนขึ้นมาทันทีทันใด โดยไม่ทันได้มีสติยับยั้งเอาเลย
    จึงเกิดเป็นไฟราคะตัณหาเผาลนตัวเองขึ้น
    ในขณะนั้นและร้อนสุมอยู่ตลอดไป

    พยายามแก้ไขเท่าไรก็ไม่ตก ทั้งกลัวท่านอาจารย์จะทราบก็กลัว
    ทั้งกลัวเจ้าตัวจะเสียไปเพราะเรื่องนี้ก็กลัว เลยทำให้พระรูปนั้นตั้งตัวไม่ติด

    นับแต่ขณะนั้นไปถึงกลางคืน จนตลอดคืนที่พิจารณากันอยู่อย่างไม่หยุดยั้งลดละ
    เพราะความไม่เคยเป็นมาก่อนเลย เพิ่งมาเจอเอาขณะนั้น ท่านจึงรู้สึกเป็นทุกข์มาก
    ในคืนนั้นท่านอาจารย์ก็พิจารณาทราบเช่นกันว่า พระรูปนี้ไปเจอเอาของดีเข้าแล้ว
    กำลังเกิดความกระวนกระวายด้วยความรักและความกลัว
    ตลอดคืนมิได้หลับนอน ด้วยความพยายามแก้ไขอย่างสุดกำลัง

    ตื่นเช้าขึ้นมาท่านก็มิได้ว่าอะไร เพราะทราบว่าเจ้าตัวกำลังกลัวท่านมากแล้ว
    ถ้าไปว่าเข้า เดี๋ยวเกิดเป็นอะไรไปก็ยิ่งจะแย่เข้าไปอีก
    ท่านแสดงอาการยิ้มต่อพระองค์นั้นขณะที่มาพบกันตอนเช้า
    ดูอาการของเธอทั้งอายทั้งกลัวท่านมากแทบตัวสั่น
    ท่านก็ทำอาการเป็นไม่รู้ไม่ชี้เฉย ๆ ไปเสีย

    พอถึงเวลาบิณฑบาต ท่านเลยหาอุบายพูดเพื่ออะไรก็ยากจะเดาได้ถูก
    ว่าท่าน…..กำลังเร่งภาวนาอย่างเอาจริงเอาจัง
    จะเร่งต่อไปไม่ต้องไปบิณฑบาตก็ได้ ไปแต่พวกเราก็ยังได้
    พระเพียงองค์เดียวจะเลี้ยงไม่ได้อย่างไร ท่านอยากภาวนาต่อก็ไปภาวนาเสีย
    ภาวนาเผื่อหมู่คณะด้วยนะ แต่ท่านมิได้มองดูพระรูปนั้นเลย
    เพราะท่านทราบดียิ่งกว่าพระรูปนั้นจะทราบเรื่องของตัวอยู่แล้ว

    ว่าแล้วท่านก็นำหมู่คณะออกบิณฑบาต ส่วนพระรูปนั้นก็จำใจเข้าทางจงกรมทำความเพียร
    ทั้งนี้ท่านทำเพื่ออนุเคราะห์พระที่เป็นขึ้นด้วยความบังเอิญ ไม่มีเจตนา
    แต่สุดวิสัยจะห้ามได้ ท่านก็ทราบว่าพระรูปนั้นพยายามอยู่อย่างเต็มใจที่จะแก้เรื่องของตัว
    จึงต้องหาอุบายช่วยด้วยวิธีต่าง ๆ โดยมิให้กระทบกระเทือนจิตใจเธอแต่อย่างใด

    เวลากลับจากบิณฑบาตมาถึงที่พักแล้ว ก็พร้อมกันจัดอาหารใส่บาตรเธอ
    และสั่งให้พระไปนิมนต์เธอมาฉัน หรือจะฉัน ณ ที่อยู่ของตนก็ได้ตามแต่สะดวก
    พอทราบเธอก็รีบมาฉันร่วมหมู่คณะ ขณะเธอเดินมาท่านก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่มอง
    แต่พูดอย่างนิ่มนวลอ่อนหวาน เพื่อประสานใจที่เป็นรอยร้าวตลอดมานั้น
    ไม่ปรารภเรื่องที่จะทำให้เสียใจใด ๆ เลย

    แม้เธอจะมาฉันร่วมหมู่คณะ แต่ก็ฉันได้นิดเดียว พอเป็นพิธีไม่ให้เสียมรรยาทเท่านั้น
    วันนั้นพระที่อยู่ด้วยกันสองรูปคือรูปที่เล่านี้ด้วย เพราะแต่ก่อนท่านยังไม่ทราบเรื่อง
    พากันเกิดความสงสัยโดยคิดว่า แต่ก่อนท่านอาจารย์ไม่เคยทำอย่างนี้กับใครเลย

    แต่มาคราวนี้ท่านทำไมถึงทำอย่างนี้กับท่าน……นี้ ชะรอยท่านคงภาวนาดีแน่ ๆ
    ท่านถึงได้ช่วยสนับสนุน พอได้โอกาสก็แอบไปหาท่าน…..นั้น
    ถามถึงการภาวนาว่า ท่านอาจารย์ว่าท่านกำลังเร่งความเพียรจึงไม่ให้ไปบิณฑบาต
    แต่ท่านมิได้บอกว่าท่านภาวนาดี
    ที่นี่การภาวนาท่านเป็นอย่างไรบ้าง นิมนต์เล่าให้ผมฟังบ้าง

    พระรูปนั้นก็ยิ้มแห้ง ๆ แล้วตอบว่าผมจะภาวนาดียังไง
    ท่านอาจารย์เห็นคนจะตายท่านก็ทำท่าช่วยเสริมไป
    ตามอุบายแห่งความฉลาดของท่านอย่างนั้นเอง
    ผู้ถามเซ้าซี้ให้เล่าให้ฟังตามความจริง ต่างก็ไล่กันไปเลี่ยงกันมาอยู่พักหนึ่ง
    และถามว่าที่ว่าท่านอาจารย์เห็นคนจะตายท่านก็ช่วยเสริมไว้นั้นจะตายอย่างไร
    และช่วยเสริมอย่างไร? เมื่อทนไม่ไหวเธอก็กำชับว่า

    ไม่ให้เล่าถวายท่านอาจารย์ทราบ เพราะท่านทราบเรื่องของผมละเอียดแล้ว
    ยิ่งกว่าผมทราบเรื่องของตัวเป็นไหน ๆ ฉะนั้นผมจึงกลัวและอายท่านมาก
    แล้วพูดต่อไปว่า วานนี้เราไปอาบน้ำด้วยกันที่แอ่งหิน
    ท่านได้เห็นอะไรบ้างขณะกำลังจะอาบน้ำ รูปที่ถามตอบว่าก็ไม่เห็นเห็นอะไร
    นอกจากผู้หญิงที่พากันมาจากไร่ผ่านไปบ้าน
    ตอนพวกเรากำลังจะอาบน้ำนั้นเท่านั้น

    พระที่ถูกถามตอบว่า นั่นแลท่านที่ผมจะตายอยู่ขณะนี้
    จนถึงกับท่านอาจารย์ไม่ยอมให้ผมไปบิณฑบาต
    ท่านกลัวจะไปสลบหรือตายอยู่ในบ้านขณะที่จะไปเจอเข้าอีกอย่างไรเล่า
    ผมจะภาวนาดีอย่างไร ท่านทราบหรือยังว่าคนจะตายนั้นหรือคือคนภาวนาดี
    องค์ที่ถามตกตะลึง โอ้โฮตายจริง ท่านไปเป็นอะไรกับเขาพวกนั้นเข้าล่ะ

    รูปนั้นตอบว่า ผมจะไปเป็นอะไรกับเขา นอกจากไปขโมยรักเขาเข้าโดยไม่รู้สึกตัว
    จนกรรมฐานแตกกระเจิงไปหมด ปรากฏแต่ความสวยงามกับความบ้ารักของผมเท่านั้น
    เหยียบย่ำทำลายหัวใจผมแทบตายทั้งคืนเมื่อคืนนี้ แม้เดี๋ยวนี้ก็ยังไม่ลดละเรื่องบ้านั่นเลย
    ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรกับมัน ท่านช่วยผมหน่อยได้ไหม นับว่าเมตตาเอาบุญ

    องค์ถาม เวลานี้ก็ยังไม่ลดลงบ้างหรือ? เปล่า เธอตอบ
    ซึ่งเป็นคำที่น่าสงสารเอามากมาย
    องค์ถาม ถ้าอย่างนั้นผมจะช่วยให้อุบายท่าน คือถ้าท่านไม่สามารรถระงับมันได้
    ท่านฝืนอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร นอกจากมันจะกำเริบขึ้นเท่านั้น
    ผมว่าท่านควรหลีกจากที่นี่ไปหาภาวนาเสียที่อื่นจะดีกว่า

    ถ้าท่านไม่สามารถกราบเรียนท่านอาจารย์ได้ ผมจะช่วยกราบเรียนท่านให้
    ว่าท่านประสงค์จะไปแสวงหาที่วิเวกใหม่ เพราะอยู่ที่นี่ไม่สบาย
    เข้าใจว่าท่านคงจะอนุญาตทันที เพราะท่านก็ทราบเรื่องท่านดีอยู่แล้วโดยปริยาย
    เป็นแต่ท่านยังไม่พูดเท่านั้น เกรงท่านจะอายท่าน
    เธอก็เห็นดีด้วยและตกลงกันในขณะนั้น

    พอตกเย็นท่านที่จะช่วยอนุเคราะห์ก็เข้าไปกราบเรียนท่านอาจารย์
    ท่านก็อนุญาตทันที แต่มีปัญหาเหน็บแนมมาด้วยอย่างลึกลับว่า
    โรคกรรมนี้มันหายยาก โรคที่มีเชื้อเดิมอยู่แล้วติดต่อลุกลามได้เร็ว
    เท่านี้ท่านก็หยุดไม่พูดอะไรต่อไปอีก แม้ผู้ไปกราบเรียนก็ไม่เข้าใจปัญหาท่าน

    เรื่องนี้ต่างคนต่างปิดกัน คือผู้เป็นก็ปิดท่านอาจารย์ ผู้อนุเคราะห์ช่วยเหลือก็ปิดท่านอีก
    แม้ท่านอาจารย์เองก็ปิด ทั้งที่ทราบอย่างเต็มใจแล้วก็ทำเป็นเหมือนไม่ทราบ
    ต่างคนต่างไม่ยอมบอกความจริงต่อกัน แต่ต่างฝ่ายต่างก็รู้เรื่องได้ดีด้วยกัน
    วันหลังเธอก็เข้าไปกราบนมัสการลาท่าน
    ท่านก็อนุญาตให้ไปด้วยดี โดยมิได้พูดเรื่องเธอแต่อย่างใด

    เธอไปพักอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งไกลจากหมู่บ้านนั้นมาก
    ถ้ามิใช่กรรมดังท่านอาจารย์ว่าจริง ๆ ก็คงหวังพ้นภัยได้แน่ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อีก

    แต่ก็เจ้ากรรม อนิจจาเป็นดังท่านว่าไม่ผิดแม้กระเบียดเดียว
    พอเธอหายหน้าไปจากบ้านนั้นไม่นานนัก
    ลูกศรที่อยู่ทางนี้ก็คงเจ้ากรรมอย่างเดียวกันอีก
    อุตส่าห์ด้นดั้นเปะปะไปหาจนเจอเข้าจนได้

    ซึ่งธรรมดาผู้หญิงป่าไม่เคยเป็นไปอย่างนั้น แต่ก็ได้เป็นไปแล้ว
    จึงเป็นเรื่องน่าคิดอย่างยิ่ง
    หลังจากท่านอาจารย์และหมู่คณะจากหมู่บ้านนั้นไปไม่นานนัก

    ก็ทราบว่าพระองค์นั้นสึกเพราะดมยาสลบซ้ำ ๆ ซาก ๆ จนทนไม่ไหว
    สุดท้ายกรรมก็พาหมุนกลับมาได้เสียเป็นคู่ผัวตัวเมียกัน
    กับสาวงามชาวเขาเผ่ามูเซอคนนั้น ที่บ้านนั่นเอง
    นับว่ากรรมเอาเสียจริง ๆ ถ้าไม่กรรมแล้วจะเป็นไปได้อย่างไร

    เพราะเท่าที่พระองค์นั้นเล่าให้ฟังขณะที่ใจเริ่มกำเริบทีแรก
    ก็เพิ่งเริ่มพบกันขณะเดียวเท่านั้น
    มิได้เคยพบเห็นและพูดจาพาทีกันที่ไหนมาก่อนเลย
    ข้อนี้บรรดาพระที่อยู่ร่วมกันมา ก็ยอมรับว่าเป็นความจริง
    เพราะอยู่ด้วยกันในวัดตลอดเวลา มิได้ไปไหนมาไหนพอจะหลวมตัว
    ทั้งก็อยู่กับท่านพระอาจารย์เสียเอง อันเป็นสถานที่ให้ความปลอดภัยตลอดมา
    ไม่มีข้อที่น่าสงสัย นอกจากเจ้ากรรมหรือคู่บาปคู่บุญมาถึงเข้าเท่านั้น

    เธอเล่าให้พระเคยอนุเคราะห์ฟังว่า เพียงประสาททางตากระทบกันเท่านั้น
    มันเหมือนดมยาสลบเข้าไปไม่ได้สติสตังเอาเลย
    ปรากฏแต่ความรักความผูกพันมัดจิตใจจนแทบจะหายใจไม่ออก
    ทำให้จิตใจเซ่อซ่าไปตามอารมณ์นั้นจนตัวไม่เป็นตัวของตัว
    และไม่มีเวลาลดหย่อนผ่อนคลายลงบ้างเลย
    เมื่อเห็นท่าไม่ได้การก็พยายามปลีกตัวหนีไป เจ้าของยาก็ตามไปเยี่ยมคนไข้อีก
    เรื่องก็เสร็จกันเท่านั้นเองจะไปที่ไหนรอด ใครไม่เคยถูกก็ดูยิ้มได้ ถ้าถูกเข้าก็รู้เอง
    เพราะมิใช่พระสุนทรสมุทรพอจะเหาะออกจากทางทวารบนแห่งบ้านได้

    ตามปกติพวกนี้ไม่คุ้นกับพระ แต่หากกรรมพาเป็นไปเอง
    เรื่องกรรมนี้จึงไม่สิ้นสุดอยู่กับผู้ใด
    เพราะกรรมมีอำนาจเหนือใครในโลกที่สร้างกรรม
    พระอาจารย์ท่านทราบอย่างเต็มใจ
    จึงต้องมีอุบายปฏิบัติต่อเธออย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยทำต่อผู้ใดมาก่อนเลย

    แต่ก็คงสุดวิสัย ท่านจึงมิได้แนะอุบายอะไรเพื่อเธอให้ยิ่งไปกว่าที่อนุเคราะห์มาแล้วนั้น
    เรื่องก็ลงเอยกันตรงที่เมื่อไปไม่รอดก็จำต้องจอดเรือ
    ซึ่งเป็นคติธรรมของโลกที่อยู่ใต้อำนาจของกรรม

    ดังนั้น จึงได้นำเรื่องนี้มาลงไว้เพื่อเป็นคติเตือนใจพวกเราที่อาจเป็นได้
    หากเป็นการไม่สมควรประการใดก็หวังได้รับอภัยจากท่านผู้อ่านตามเคย ...

    ประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
    เรียบเรียงโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน




    ~ เรื่องเล่าเกี่ยวกับเนื้อคู่ของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    แสดงกระทู้ - เรื่องเล่าเกี่ยวกับเนื้อคู่ของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ • ลานธรรมจักร

    ~ อดีตที่ฝังรอยมาจากบุพชาติของหลวงปู่หลุย จันทสาโร
    บุพเพสันนิวาสของหลวงปู่หลุย กับ สตรีที่เคยบำเพ็ญบารมีคู่กันมา
    แสดงกระทู้ - อดีตที่ฝังรอยมาจากบุพชาติของหลวงปู่หลุย จันทสาโร • ลานธรรมจักร

    ~ หลวงปู่จวน กุลเชฏฺโฐ ไม่ขอคืนสู่ชีวิตที่สละแล้ว
    เรื่องราวที่ท่านต้องเผชิญภัยจากมาตุคาม (ผู้หญิง)
    แสดงกระทู้ - หลวงปู่จวน กุลเชฏฺโฐ ไม่ขอคืนสู่ชีวิตที่สละแล้ว • ลานธรรมจักร

    คนบวชคนสึกมันเป็นธรรมดาโลก : หลวงปู่ไดโนเสาร์
    แสดงกระทู้ - คนบวชคนสึกมันเป็นธรรมดาโลก : หลวงปู่ไดโนเสาร์ วัดสักกะวัน • ลานธรรมจักร

    เรื่องผู้หญิง อันตรายของพระภิกษุ (หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม)
    แสดงกระทู้ - เรื่องผู้หญิง อันตรายของพระภิกษุ (หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม) • ลานธรรมจักร

    คุณสมบัติ ๓ ประการ
    ของพุทธบริษัทผู้จะรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้
    แสดงกระทู้ - คุณสมบัติ ๓ ประการ ของพุทธบริษัทผู้จะรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้ • ลานธรรมจักร
     
  18. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกหรือ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด
    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อองค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ
    องค์ละ 15,000 บาท หรือร่วมบุญตามกำลังศรัทธา

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณเก๋ณัฐาและทุกท่านครับ
     
  19. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกหรือ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด

    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท
     
  20. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกหรือ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด

    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท
     

แชร์หน้านี้

Loading...