เออผมมาใหม่ ไม่รู้จะถามที่ห้องใหนอะครับ ใครก้ได้ช่วยผมทีนะครับ

คือ ว่า เมื่อ ปีที่แล้ว ผมก็ เด็กวัยรุ่นอ่ะครับ เพื่อนมันสักยันต์ น้ำมันกัน

มันก็ชวนผม ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดอะไรอ่ะครับ ที่สักนี้เป็นตำหนักนะครับ ไม่ใช่พระ

ครับ คือ ตอนนี้ผมอยากเอาของ ที่สักไว้ตอนนั้นออกจะทำยังไงดีอะครับ

คือ เพื่อนมันบอกด้วยว่า ถ้าไม่ไปเข้า อาทิตย์ละ 1หน และ ถ้าออกไปเลยระวัง

มันบอกว่า ตอนใหนเอ็งดวงตก พ่อจะเอ็งถึงตายเลย น่ะ ตอนนี้ผมก็ไม่รู้จะ ทำ

ยังไงดีอ่ะครับ และเขาบอกว่า ที่ผมไปซํกมาอ่ะเขา เอาน้ำมันผี มาซัก ด้วย

ผมก็ พึ่งคิดได้ ท่านผู้ใด ช่วยผมด้วยนะครับ ผมอยากกัน ไว้ดีกว่าแก้อะ ครับ

ขอขอบคุณที่ยังมีน้ำใจมาอ่านนะครับ

 

ลองดูรายละเอียดในการเป่ายันต์เกาะเพชรสิครับ เผื่อจะใช้แก้ได้
แต่มันจะสนองกลับผู้ทำนะครับ ยังไงลองปรึกษาหลวงพี่เล็กดูนะครับ เพื่อท่านจะช่วยได้

 

ลองดู

นั่งกรรมฐานสิ เพราะกรรมฐานใช้แก้กรรมได้ทุกอย่าง(มีสติปัญญาไตร่ตรองให้รู้รอบ)

 

ทาน
ศีล
ภาวนา
แก้สารพันปัญหาให้ชีวิต

 

ขอบคุณมากเลยครับ

 

ถ้ากลัวจริงๆ
ครูบาอาจารย์ผม แนะนำไว้ว่า ให้นึกเอา พระครอบตัวทุกๆเช้า
ขณะที่นึกก็ให้ท่องในใจว่า พุทโธ พุทโธ พุทโธ แล้วกลืนน้ำลาย
รับรองว่า กันคุณไสย ได้ทุกอย่าง
แต่จริงๆแล้วผม คิดว่า เราไม่ควรเชื่อขี้ปากคนอื่นมากไปนะ
เพื่อนบอกก็ ให้เพื่อนทำ เราไม่ต้องเชื่อเพื่อน ก็ไม่ต้องทำ
สูดลมหายใจลึกๆ ตั้งสติให้มั่น นึกถึงพระพุทธเจ้า
ในจักรวาลทั้งหมด ไม่มีใครใหญ่เกินพระพุทธเจ้า
ขอพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง พระธรรมเป็นที่พึ่ง พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง
ไอ้ อี คุณไสยที่ไหนก็ สู้พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ไม่ได้หรอกครับ
นี้คือสิ่งจริงแท้ ทั้งหมดใน สิ่งลวงทั้งหมดครับ

 

โบราณจะลอดต้นมะเฟือง ถ่มน้ำลายลงส้วม เอาผ้าถุงแม่มาคลุมหัว ทานอาหารจำพวกฟักแฟงน้ำเต้า ของจะเสื่อมครับ อันนี้เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาพูดมานะครับ ถ้าไม่แน่ แนะนำให้ไปรับยันต์เกราะเพชรที่วัดท่าขนุน จะมีพิธีวันที่12 มกราคมครับ อันนี้ชัวร์ที่สุดครับ

 

อย่างที่ท่านอื่นแนะนำน่ะครับ นั่งกรรมฐานรวมถึงแผ่เมตตามากๆ ถ้าจิตใจเรามั่นคง ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายๆอะไรหรอกครับ ถ้าเรายิ่งไปกลัวจิตใต้สำนึกก็อาจจะตั้งโปรแกรมนั้นเข้าไป ทำให้ดึงดูดเอาเหตุการณ์ร้ายๆเช่นนั้นเข้ามาด้วยก็ได้ครับ

 

ถูกต้องครับ ถ้าเป็นผมคงจะแนะนำกรรมฐาน+แผ่เมตตา ลองเปิดดูใน

http://www.palungjit.org/smati/k40/smabat.htm

ค่อยๆอ่านให้เข้าใจจากหัวข้อ 'ขณิกสมาธิ' จนถึง 'เข้าผลสมาบัติ' และทำตามคำแนะนำที่เว็ปมาสเตอร์เขียนไว้โดยเคร่งครัด รักษาศีล 5, รักษาพรหมวิหาร 4 (อย่าให้อารมณ์โกรธ แค้น ขัด เคืองมันเกาะหัวใจ) ค่อยๆทำไปทุกวัน (อย่าลืมบทแผ่เมตตาก่อน+หลังทำนะครับ) และถ้ามีเวลาผมแนะนำให้ไปหาหลวงพี่เล็กครับ(tm-love)(tm-love)(tm-love)

 

ก็ไปให้อาจารย์ที่ครอบครูสักยันต์เข้าถอนออกให้ครับ หรือไม่ก็ตำหนักที่คุณสักมา ถ้าเข้าไม่ถอนให้ก็นู้นเลยครับ วัดบางพระ(หลวงพ่อเปิ่น)ให้พระท่านถอนให้ แล้วเอาคุณพระเข้าตัวซะ จะได้ไม่ผิดทางอีก....

 

แก้ที่ ที่ไปรับมาก่อน

ถ้าเขาไม่แก้ให้ รีบไปจัดการด้วยกำลังพุทธะ ทั้งปวง

 

บางอย่างมันเป็นเรื่องของ กฏแห่งกรรม.....
คงจะมีเชื้อมาจากอดีตชาติ......มาคอยดึงดูด...
ทำให้คุณต้องได้ทำอย่างนั้น........วิธีแก้นั้นก็พอมีหลายวิธี
ตามแต่ที่คุณจะเลือกใช้......(ปกติคนที่ไม่มีกรรมทางนี้เขาก็จะไม่ไป...สักให้เจ็บตัว..กัน)
คุณก็ต้องเลิก หักดิบ กับเรื่องพวกนี้ และไม่ต้องไปกังวลหรือสนใจ......อะไร หรือนึกถึง....
โดยพยามยามฝึกจิตฝึกใจให้สูงขึ้น....เข้าทำนองจิตใจผ่องใส (ใสเป็นแก้วเลยยิ่งดี)
เนื่องจากจิตใจเราสูง ละเอียดขึ้น อยู่กับบุญ กุศล หมั่นถือศีล (อย่างน้อยศีล ๕)
ให้ทาน บำเพ็ญภาวนาอยู่เนื่องนิจ ไหว้พระสวดมนต์ทุกวัน (ทำบ่อยๆเดี๋ยวก็เคยชิน...
ถ้าวันไหนไม่ได้ทำก็จะ ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ...เอง) ของพวกนี้อยู่ต่ำกว่า มาหรือเข้าไม่ถึง
เหมือนกับเราอยู่บนที่สูง น้ำจะไหลจะท่วมอย่างไรก็มาไม่ถึงเรา...ถ้าไม่สบายใจ...
ก็ให้ไปทำบุญต่างๆเช่นถวายสังฆทานหรือพระพุทธรูปกับพระภิกษุสงฆ์...แล้วอุทิศส่วน
กุศลผลบุญนั้น อุทิศเจาะจงบอกกล่าวเขาเสีย เช่น บัดนี้ข้าพเจ้าเข้าถึงและถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง
อันสูงสุดแล้ว และเป็นหนทางอันนำเข้าสู่พระนิพพาน บัดนี้ข้าพเจ้าขออุทิศ.......................................
ขอท่านทั้งหลายเหล่านั้นจงมารับและอโหสิกรรม กรรมอันใดที่ข้าพเจ้าได้ประมาทพลาดพลั้งหรือล่วงเกินไป
ข้าพเจ้าได้ยึดถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะเป็นที่พึ่งอันสูงสุดแล้ว ขอท่านทั้งหลายโปรดอย่าเป็นห่วง
หรือวิตกกังวลกับข้าพเจ้าขอท่านทั้งหลายจงกลับไปอยู่ ณ สถานที่ ที่อยู่เดิมของท่านเถิด ขอท่านจง
อยู่เป็นสุข ปราศจากทุกข์ ที่สุขก็ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป (อย่างนี้เป็นต้น.....กล่าวตามแต่เราจะนึกหรืออธิษฐานเอา)
........ซึ่งก็แนะนำให้อุทิศผลบุญกุศลให้เป็นที่เรียบร้อย จะได้สบายใจและไม่มาวิตก กังวลอีก อีกทั้ง
คนทำก็ได้บุญด้วย ก็อยากให้จากกันด้วยดีเพราะเวียนว่ายตายเกิดด้วยกัน ทุกสิ่งทุกอย่าง
ก็ย่อมมีรู้กับไม่รู้ และไม่จีรังยั่งยืน......เสื่อมสลายกันไปหมดทั้งสิ้น (ภพทั้งหลาย มีรูปก็ดีไม่มีรูปก็ดี)
สำคัญทีเดียวกับ มงคล ๓๘ ประการ ข้อแรกเลย อย่าคบคนพาล (คบคนพาลพาไปหาผิด
คบบัณฑิตพาไปหาผล) ข้อสอง ให้คบบัณฑิต................................................................................
ถ้าวิตกกังวลมากกับเรื่องนี้ (อันที่จริงให้ลืมหรือไม่ต้องนึกถึง) ก็ให้ฝึกกรรมฐาน โดยนึกถึงองค์พระ
เป็นกรรมฐาน (ถ้าให้ดีเป็นพระแก้วใส ยิ่งดี) นึกถึงพระโดยลืมตาก็เห็น หลับตาก็เห็น เอาไว้ในตัวเรา
กลางท้องหรือหน้าอกก็ได้ ถ้าไม่ชัดหรือไม่เห็นก็ไม่เป็นไร ให้รู้สึกว่า มีองค์พระอยู่ในตัวเรา นึกแบบสบายๆ
ไม่เคร่งเครียด หรือบีบรัด หรืออยากจะได้ อยากจะมี ทำความรู้สึกประหนึ่งว่าองค์พระอยู่ในตัวเราเสมอ
ถึงเวลาก็จะเห็นเอง..................(ตัวเราอยู่ในองค์พระ องค์พระอยู่ในตัวเรา ตัวเราเป็นองค์พระ
องค์พระเป็นตัวเรา) ข้อสำคัญอยู่ที่ใจ............ถ้าใจเราเข้มแข็ง....กล้าหาญ...(ความตายทุกคนหนีไม่พ้น
ตายเหมือนกันหมด.....ตายช้าตายเร็วก็ตายเหมือนกัน เราอยู่กับความดี กุศลผลบุญ เพราะฉะนั้น
ไม่ต้องกลัวอะไร) ต้องเด็ดเดี่ยว (หนทางพระนิพพานกำลังรอคอยเราอยู่)...............ชีวิตเรานั้นยัง
ยาวไกลนัก (ยังต้องฝ่าวัฏฏสงสาร.....อีกตั้งมากมาย) อุปสรรคหรือความยากลำบากเราอาจต้องเจอ
อีกเยอะ.....ถ้าท้อ...หรือไม่เข้มแข็ง...หรือลื่นล้มบ่อยๆ.....(ระวังจะขัดขาตัวเอง ล้ม....เอง).....................
ต้องสู้....ต้องสู้ถึงจะชนะ (ต้องถูกหลักวิชชา ให้อยู่กับหยุดกับนิ่ง.....ตามกรรมฐาน ตามคำสั่งสอน
ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า)................................................ขอให้โชคดีและฟันฝ่าอุปสรรค.........
พ้นตลอดลอดฝั่ง...ตราบกระทั่ง เข้าสู่พระนิพพาน.........เถิด.....................................
(โชคดีปีใหม่ครับ...............นักรบแห่งกองทัพธรรมทุกท่าน)

"ผู้ที่เป็นบัณฑิตมีความรู้ความเห็นอันประเสริฐแล้ว
ได้เห็นเหตุแห่งความเสื่อม ทั้งหลายเหล่านั้นชัดแล้ว
ย่อมเว้นสิ่งเหล่านั้น ชีวิตจึงมีแต่ความสุขความเจริญฝ่ายเดียว"

นิพพานะปัจจโยโหตุ

 

ขอบคุณมากครับ แต่พูดตรงๆเลย นะครับ แต่ก่อนผมเป็นคนสวดมณ เช้า เย็นๆ

แต่เวลาสวดมันเหมือนจะมีอะไรไม่รู้มาขัดๆๆๆๆ แต่ผมก็ผ่านมาได้ หลังๆๆนี้ไม่รู้เป็นอะไรอ่ะ แบบ ไม่อยากสวด จะมีการง่วงอะไรนักไม่รู้เข้า

มา แต่ผมจะทำให้เต็มที่ครับ ขอบคุณทุกท่านเลยนะครัยที่เสียเวลา ช่วยพิมพ์

ตอบผม ขอบคุณมากๆๆเลยครับ

 

ไม่ทราบว่าสักมานานเท่าไรแล้ว ระยะเวลา เกิน 1ปี หรือป่าว แล้ว มีอาการอะไรไหมหลัง สัก มา แล้ววันพระ วันโกน คุณมีอาการอะไรหรือป่าว ถ้าผมเดานะ คุณจะมีอาการเวลาไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือ เจอพระพุทธรูป จะมีอาการเหมือนคนทัก ทักทุกที่ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์แหละ แล้วก็อยากกินอะไรแปลกๆ นิสัยเปลี่ยนไป มีอาการทำนองนี้หรือป่าวครับ

 

ผมเคยได้ยินว่าอาจารย คนไหนสักให้ก็แก้ได้คนเดียว ผมเปนคนหนึ่งที่เคยสักเช่นเดียวกัน แต่ไม่เคยครอบครู ทั้งที่วัดบางพระและที่อืนๆ ส่วนใหญ่เขาสักให้แล้วจะไม่แก้ให้หรอกครับ อย่าไปให้เขาแก้เลยดีไม่ดีอาจโดนเพิ่มอีกไม่รู้ตัว

 

ผมเองก็มีอาการปวดบริเวณกลางระหวางคิ้ว ปวดแบบเสียวๆเหมือนมีก้อนอะไรซักอย่างอยู่ตรงนั้นตลอด ยังหาทางแก้ไม่ได้เลย แต่เวลานั่งสมาธิมันจะหายปวดแต่ถ้าไม่นั่งจะมาเป็นใหม่ วันที่12จะลองไปเป่ายันเกราะเพชรดู ไม่รู้จะหายได้หรือไม่ ใครมีประสบการณ์ที่หายได้ช่วยบอกที ทรมานจะปฏิบัติก็มีมารมาขวาง

 

ใครพอทราบบ้างครับว่าอาการเสียวๆที่กลางระหว่างคิ้วมันคืออาการอะไรเกิดจากโดนของหรืออาการเครียด ส่วนตัวผมปักใจเชื่อว่าไม่ใช่อาการเครียดเเน่ๆเพราะมันเกิดขึ้นตลอดเวลาเหมือนคอยขวางการปฏิบัติ มันคงเป็นกรรมของผม ใครพอช่วยแนะนำได้ก็บอกด้วยนะครับ

 

โดนของจะปวดหัวเรื่อย แบบไมเกรนละครับ เพราะคนทำเค้าปลุกของที่เข้าตัวเราแหละ อาการเสียวๆๆกลางระหว่างคิ้ว น่าจะเป็นโพรงจมูกอักเสบมั่ง หรือว่าแพ้พวกควันธูป ยากันยุงอะไรทำนองนี้ อีกอย่างก็สายตาเอียงหรือเริ่มมีอาการสายตาสั่นครับ ต้องลองไปวัดสายตาดูครับ

 

เป่ายันต์เกราะเพชรหายไหมครับ ถ้าอาการนั้นเกิดจากโดนของจริงไม่ได้เกิดจาก โพรงจมูกอักเสบ หรือแพ้ควันธูป ยากันยุง หรือสายตาเอียง สายตาสั้น
ผมเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่บอกให้เพ่งไฟแล้วนึกถึงไฟไปไล่ไปตามตัวจากหัวลงเท้า อย่างนี้พอจะช่วยได้ไหมครับ ขอบคุณที่ตอบกลับ

 

พอมีใครรู้จักหลวงพ่ออั๊บ วัดท้องไทร บ้างไหมได้ข่าวว่าท่านถอดของเก่งมาก โดยวิธีรดน้ำมนต์ อย่างนี้พอช่วยได้ไหม