เมื่อวันเสาร์ ที่ 18 กย. เจอแม่ชีพิมพา มา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย บัวใต้น้ำ, 19 กันยายน 2004.

  1. แสง

    แสง บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    จริงๆแล้ว ผมไม่ได้ใฝ่ฤทธิ์เดชมากหรอกครับ

    ในทุกขณะการนั่งฝึกของผม ผมไม่เคยหวังว่าจะเห็นหรือจะได้ไปโลกอื่น
    แค่นั่งกำหนดไว้ที่ลมหายใจ อย่างที่ พระอาจารย์ที่เคารพ สอนไว้
    ผมว่า ถึงเวลา มันจะมาก็มาเองครับ เพราะผมไม่ได้ยึดติด ว่าจะต้องเห็น
    ไม่อยากนำอารมณ์ตรงนั้นมาเป็นกิเลส เพราะมันไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง

    ตรงการฝึกนั่งเห็นนรก สวรรค์ เพื่อแลกกับ การพ้นนรกภูมิ และไปเสวยสุขบนพรหมโลก
    ตรงนี้ผมคิดว่า มันคือกิเลส ที่เราต้องการหนีความทรมาน ไปรับความสุขสบาย
    ผมคิดว่า การฝึกไม่ควรติดกิเลส ทุกวันนี้ผมก็นั่งตามปรกติ ไม่ยึดติด ไม่มีความอยากเห็น
    เอาความสงบไว้เป็นพอ สวรรค์นรก อยู่กับตัวเราทุกวันแล้ว กาย วาจา ใจ
    วันไหนที่เราเลิกทำชั่ว เลิกพูดชั่ว เลิกคิดชั่ว สวรรค์จะมาอยู่กะเราเองครับ
     
  2. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,019
    การไปฝึกสมาธิกับแม่ชี พิมพา ทองเกลา

    แม่ชีบอกทำนองว่า ฝึกสมาธิแล้วจะมีการเผาบั_ชีบาปและสามารถยกบุ_กรรมฐานของเราช่วย_าติเราในนรกได้
    ที่เกิดแบบนี้ได้เพราะว่าแม่ชีได้ตกลงกับทางนรกไว้

    ถ้าสามารถลืมตาเห็นนรกสวรรค์ได้ บัณชีบาปของเราที่จะทำให้เราต้องตกนรกจะถูกเผาไป500ชาติ 500 ชาติที่ทำบาปมาจะไม่ต้องตกนรก
    บางคนต้องไปสวรรค์นรก 5 ครั้ง บางคน15ครั้ง จึงจะ สามารถลืมตาเห็นนรกสวรรค์ได้
    และแม่ชีก็ตกลงกับทางนรกไว้อีกว่า
    ลูกศิษย์ใครที่มี_าติอยู่ในนรก ถ้าเขาสามารถฝึกจนไปเที่ยวนรกได้
    จะสามารถยกบุ_กรรมฐานที่ฝึกให้กับ_าติของเขาในนรกได้ ช่วยโทษให้เป็นเบาและบางรายก็ยกบุ_จนให้ได้ขึ้นสวรรค์ได้ แล้วแต่กรณี

    สิ่งที่เด่นๆของการฝึกกับแม่ชี คือ สอนให้คนนั่งสมาธิและไปพิสูจน์ สวรรค์นรกด้วยตัวเองพิสูจน์คำสอนของพระพุทธเจ้าและการเผาบั_ชีบาปเพื่อไม่ให้ตกนรก
     
  3. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,019
    ประเด็นหลักก็มีอยู่ว่า เรื่องเผาบั_ชีบาปนี่แล้วทำให้ไม่ตกนรก จริงหรือ ?

    เป็นไปได้จริงหรือ ที่ว่าฝึกสมาธิกับแม่ชีบาปแล้วมีการเผาเพื่อไม่ให้ตรกนรก
    นี่เป็นความรู้ใหม่ที่ค่อนข้างออกแนวพิศดารแหวกแนว ผมก็ไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนว่ามีอะไรแบบนี้ด้วย อะไรต่างๆที่มาในแนวแปลกๆเราต้องใช้ปั__าพิจารณามากๆ

    ในความคิดเห็นของผม คือ มีความเป็นไปได้จริงตามที่แม่ชีพิมพาบอก แต่ยังผมไม่มั่นใจมาก อันนี้กำลังศึกษาอยู่

    เหตุผลที่ผมคิดที่ว่ามีความเป็นไปได้มีอยู่ว่า

    1) แม่ชีเป็นอาจารย์สอนอภิธรรมชั้นโทและสอนกรรมฐาน
    เรื่องการบุ_-บาป-กรรม-สวรรค์-นรกนั้น ผมคิดว่าแม่ชีต้องรู้ ในอภิธรรมปิฏกก็มีบอกอยู่ ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย

    2) อธิบาย เรื่องบาป-บุ_กับกรรม ขออธิบายเพิ่ม
    กรรม คือการกระทำ และแบ่งได้เป็น
    2.1) มีการกระทำไปในทางที่ดี(กุศล) (บุ_)
    2.2) การกระทำไปในชั่ว(อกุศล) (บาป)

    3) ตั้งแต่โสดาบันขึ้นไปจะไม่ตกนรก
    ใครก็ตามที่เป็นโสดาบัน จะไม่ต้องตกนรก ถึงแม่ว่าในอดีตจะทำกรรมที่เป็นบาปมามากสักกี่แสนชาติก็ตาม ถ้าเป็นปฏิบัติธรรมจนถึงขั้นโสดาบันปั๊บ จะไม่มีการตกนรกอีก
    - สมมุติว่าอดีตชาติ โสดาบันเคยไปฆ่าคนตาย หนีนรกหนีได้ แต่หนีกรรมไม่ได้
    พอโสดาบันตายไปท่านก็ไม่ตกนรก แต่จะมีกรรมส่งผลให้คือเวลาไปเกิดชาติใหม่ท่านอาจจะโดนคนฆ่าหรือร่างกายต้องเจ็บป่วยบ่อยๆ
    ที่พระอริยะไม่ต้องตกนรกก็เพราะว่า บุ_จากกรรมฐาน
    ตามพุทธศาสนาบอกไว้ว่า "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" ไม่มีใครหนีกรรมพ้น
    พระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์ก็มีกรรมของตนเอง ใครทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องได้รับกรรม
    สรุปของข้อนี่คือ ถ้าเคยทำบาปมา บุ_ของการทำกรรมฐานจะช่วยทำให้ไม่ต้องตกนรก แต่ต้องรับกรรมบาป

    4) ทำอย่างไรจึงไม่ตกนรกหรือขึ้นจากนรกได้
    - ไม่ทำบาป ไม่ผิดศิล ไม่ตกนรกแน่
    - เป็นพระอริยะเจ้า ไม่ตกนรก
    - ตอนตายให้นึกถึงพระรัตนตรัยหรือให้นึกถึงบุ_ที่เราเคยทำไว้
    - มีพระหรือคนที่มีบุ_มาก มาช่วย
    เช่นหลวงพ่อไปช่วยคนในสำนักพยายม ตอนพยายมจะตัดสิน ไม่รู้ว่าจะให้ขึ้นสวรรค์หรือตกนรกดี หลวงพ่อจึงไปช่วยให้คนเหล่านั้นได้ขึ้นสวรรค์โดยให้เขานึกถึงความดีที่เคยทำไว้
    - มีคนอุทิศบุ_กุศลไปให้จึงทำให้ได้ขึ้นจากนรกหรือไปสวรรค์ได้ แล้วแต่กรณี ถ้าโทษไม่หนักมากจะได้รับบุ_ที่คนอุทิศมา
    - เคยได้ยินไหม ผู้ปฏิบัติธรรมบางท่าน สามารถช่วยให้ผีขึ้นสวรรค์ได้

    5) บุ_ที่ช่วยเราไม่ให้ตกนรก-เรื่องของบุ_
    - เช่นการทำบุ_ทานต่างๆ เวลาตายไปเรานึกถึงบุ_นั้น ก็จะได้ไปสวรรค์หรือในที่ที่ดีก่อน หลังจากหมดบุ_ก็ลงมานรก ยกเว้นว่าเป็นพระอริยะเจ้าก็ไม่ต้องลงนรก
    - บุ_ให_่ๆ เช่น การทอดกฐิน สร้างวัด วิหาร ต่างๆ บุ_เหล่านั้นสามารถทำให้เราเป็นเทวดาได้ แต่ไปเป็นพรหมและนิพพานไม่ได้
    - บุ_ที่ให_่ที่ยิ่งให_่ที่สุดและหนักที่สุด มากกว่าทานการสร้างวิหารคือ บุ_จากกรรมฐานหรือการทำสมาธิ
    ทำให้เราเป็นพรหมได้ ไปนิพพานได้
     
  4. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,019
    ภาคที่ 2 คุกในโลกมนุษย์ กับ นรก

    จากที่เขียนข้างบนจะเห็นได้ว่ามีการช่วยเหลือหรือบุ_ที่ทำให้ไม่ตกนรก

    คิดเทียบกับโลกมนุษย์

    นรกในอีกโลกก็เป็นที่ทำโทษกักขังวิ__าณที่เคยกระทำความชั่ว
    คุกโลกเราก็เป็นที่กักขังผู้เคยทำความชั่ว
    -----------------------------------------------------------

    ในโลกมนุษย์คนที่มีความผิด ไม่ต้องติดคุกก็มีหรือติดคุกแล้วพอมีคนมาช่วยก็ออกได้ก็มี

    ตัวอย่างเช่น ตัวอย่างของโทษเบาๆ
    คนหนึ่ง นาย A ไปตีหัวนาย Bแตกเลือดไหล
    นาย B ไปแจ้งความกับตำรวจ ตำรวจก็ไปจับนาย A

    ถ้าจะไม่ให้ติดคุก
    -ตามปกตินาย A ต้องเสียเงินค่าปรับ ถ้าไม่มีนาย A ก็ต้องติดคุก
    -หรือไม่งั้นนาย A ต้องไปตกลงเจรจาต่อรองให้นาย B ยอมความหรือจ่ายเงินค่าเสียหายให้นาย B
    -_าติของนาย A เป็นผู้ให_่มีบารมีมาช่วยไว้ ก็ไม่ติดคุก

    พอมีการเจรจาตกลงกันระหว่าง2ฝ่ายก็มีการยกเลิกหรือมีการจ่ายค่าเสียหาย
    ตำรวจก็เอาเงินเข้ารัฐบาลไปทำประโยชน์ให้ชาติและเอาไปให้นาย B เป็นค่าทดแทน

    * เงินในตัวอย่างนี้ เปรียบเสมือนบุ_ของนาย Aที่มีอยู่ เอามาแลกกับการติดคุก
    * ถ้านาย A ไม่มีเงิน แต่_าติส่งมาให้จ่ายค่าปรับ ก็เปรียบเสมือนกับที่คนการอุทิศบุ_ให้ในนรก
    * ถ้าในกรณีที่นาย B ยกโทษให้นาย Aก็ไม่ติดคุก ก็เปรียบเสมือนการเจ้ากรรมนายเวรให้อภัยยินยอมกัน
     
  5. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,019
    ผู้มีบารมีมากๆสามารถช่วยได้

    -กษัตริย์มิลิน ถามทำนองว่า
    ทำไมเวลาคนที่ทำบาป เวลาตายให้เรานึกถึงพระพุทธเจ้า ก็จะไม่ตกนรก

    -พระนาคเสน(พระอรหันต์) อธิบายไว้ทำนองว่า
    ก้อนหินที่โยนลงในน้ำ พอโยนลงไปในน้ำ มันก็ดิ่งจมลงไปในน้ำ
    เปรียบก้อนหินเสมือนคนที่ทำบาปแล้วจมดิ่งลงไปในนรก

    การที่นึกถึงพระพุทธเจ้าแล้วไม่ตกนรก
    พระพุทธเจ้าก็เปรียบเสมือนเรือที่ลอยอยู่กลางแม่น้ำที่บรรทุกบรรดาก้อนหินไว้
    ก้อนหินจึงไม่จมน้ำ
    หมายถึงว่าบารมีพระพุทธเจ้าท่านช่วยไว้ไม่ให้ตกนรก

    ***************************************************
    ในโลกมนุษย์ก็มีคล้ายคลึงกัน ผู้มีบารมีมากสามารถช่วยได้ เช่นในประเทศไทย
    ตัวอย่างเช่น คนมีพ่อเป็นตำรวจเป็นสารวัตร ลูกกระทำผิดคือ
    ไปนั่งมอเตอร์ไซต์ซ้อน3กับเพื่อน พอถึงด่านโดนตำรวจจับ พ่อก็ไปช่วยให้ออกหรือตำรวจรู้จักกับพ่อเขาก็ปล่อยลูกไปไม่โดนจับ พอลูกกลับมาบ้านก็โดนดุ
     
  6. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,019
    ทีผมคิดและเข้าใจคือ

    ถ้าเป้นไปตามที่แม่ชีบอกจริง ผมสันนิฐานว่า
    แม่ชี พิมพา ทองเกลา อาจจะเป็นผู้มีบารมีมากพอควรและได้ทำการตกลงกับทางนรกได้ในเรื่องนี้

    ศิษย์ที่เคยทำกรรมบาปไว้และนั่งสมาธิมีการเผาบั_ชีบาปทิ้งเพื่อไม่ให้ตกนรก
    แต่ผลของกรรมบาปก็ยังจะสนองได้อยู่เมื่อมีชีวิต
    ไม่ได้หมายความว่าบาปจากอดีตชาติที่เราเคยทำไว้จะถูกลบออกจนหมดสิ้น
    ไม่มีการตกนรกและไม่มีกรรมบาปมาสนอง


    [[[[[[ ถ้าแม่ชีบอกว่า การเผาบัณชีบาปแล้วจะไม่ตกนรกและกรรมบาปจะไม่ส่งผลสนองเวลามีชีวิต อันนี้ผมค้านว่าไม่จริง เพราะว่าขนาดพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ไม่ตกนรกก็จริงแต่กรรมเก่าสนองและยังส่งผลอยู่ ]]]]]

    ก็ทำได้โดยให้ลูกศิษย์สั่งสมบารมีจากการนั่งกรรมฐาน
    อย่างที่เรารู้กันว่าบุ_จากการนั่งกรรมฐานเป็นบุ_ให_่และบุ_สุงมาก

    โดยท่านตกลงกับกับทางนรกไว้ทำนองว่า ให้ลูกศิษย์เอาบุ_ให_่จากการที่เรานั่งกรรมฐานมาใช้ก่อน มาปิดรูนรกไว้ให้เราก่อน ถ้าแบบนี้มีความเป็นไปได้

    แล้วใครก็ตามที่นั่งแล้วไปสวรรค์นรกได้ 5 หรือ15ครั้งแล้วสามารถมองเห็นนรกสวรรค์ได้ด้วยตาเปล่า บัณชีบาปจะถูกเผาไป500 ชาติ หมายถึงบาปที่เราได้ทำมา500ชาติที่จะทำให้ตกนรกเราก็ไม่ตกนรก และผลของกรรมยังสนองเราอยู่

    ตามความเป็นจริง คนที่จะนั่งแล้วถอดจิตได้แบบนั้นไปสวรรค์-นรกและเห็นสวรรค์นรกได้ด้วยตาเปล่า ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยบารมีเก่าของด้วย ลูกศิษย์ที่จะทำได้แบบนั้นต้องเป็นคนที่เคยฝึกมาแล้วหลายแสนชาติ...ถ้ามาเริ่มฝึกชาตินี้ชาติแรกไม่มีทางทำได้

    เหมือนกับหลวงพ่อเคยกล่าวไว้ว่า คนที่จะได้มโนมยิทธินั้นต้องเป็นคนที่เคยฝึกมาแล้วหลานแสนชาติ

    คนที่เคยฝึกกรรมฐานมาแล้วหลายแสนชาตินั้น
    ก็มีบุ_จากกรรมฐานนั้นสะสมอยู่มากเลยมีความน่าจะเป็นว่าสามารถเอาบุ_มารวมๆกันไว้เพื่ออุดนรกไว้ได้ก่อน

    แล้วคนที่ไปฝึกถ้าทำบาปก็จะโดนหลายเท่า คนก็กลัวการทำบาป
    เมื่อคนไม่ทำบาปต่อไป การที่จะตกนรกก็รอดได้สูง
    และถ้ายิ่งทำกรรมฐานสร้างสมบารมีไปเรื่อยๆบุ_จากกรรมฐานก็สูงขึ้นๆเรื่อย
    ถ้าได้สำเร็จเป็นโสดาบันก็ไม่ตกนรกอีกตลอดไป

    เหตุที่โสดาบันไม่ตกนรกเพราะว่าบุ_จากกรรมฐานมีหนุนอยู่และโสดาบันไม่ยอมทำอะไรที่ผิดศิลตลอดไป

    ********************************************************

    นี่คือเหตุผลที่ผมจึงคิดว่าเป็นไปได้ตามที่แม่ชีได้บอกมา
    จะจริงหรือไม่จริงผมไม่สามารถรับรองได้
     
  7. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,019
    การไปฝึกวิชากับครู ครูแต่ละคนมีความถนัดและสามารถไม่เหมือนกัน

    เวลาเราไปเรียนกับครูเราก็ดูว่าครูเก่งเรื่องไหน ครูสอนอะไรและส่วนอื่นๆของครูนั้นเป็นแค่ส่วนประกอบและเราพยามพยามเรื่องที่ครูสอนให้กระจ่างแจ้งและทำได้

    คนเรากว่าจะเรียนจบมหาลัยเราก็ต้องเรียนกับครูตั้งหลายคน
    อย่างวิชาวิทยาศาสตร์เราก็เรียนกับครูมาเป็นสิบคน สอนต่อๆทับยอดไปเรื่อยๆ

    อย่างเราไปเรียนว่ายน้ำ ครูสอนว่ายน้ำ
    เราก็ไปตั้งใจเรียนว่ายน้ำกับครูให้เป็น
    ในขณะเรียนว่ายน้ำครูอาจจะคุยเรื่องอื่นๆ เช่นเกร็งว่าปีนี้ประเทศไหนจะได้เหริ_โอลิมปิกบ้าง หรือ ครูอาจจะพูดเรื่องส่วนประกอบอานุภาคของน้ำผิดหรือเรื่องแรงโน้มถ่วงของน้ำที่มีต่อโลกผิด ครูอาจจะแต่งตัวไม่สวย นั่นคือส่วนประกอบแต่เรื่องหลักๆที่เรามาเรียนคือ การว่ายน้ำให้เป็นกับครู

    เราว่ายน้ำเป็นตามที่ครูสอน หลังจากที่เราเรียนจบตามที่ครูสอน
    เราอาจจะดัดแปลงท่าต่างๆหรือไปเรียนรู้ต่อเพิ่มเติมเองก็ได้

    ------------------------------------------------------------------------------

    การที่เราไปเรียนกับแม่ชีพิมพา เด่นๆคือเพื่อฝึกไปพิสูจน์สวรรค์-นรก
    เราก็พยายามฝึกให้ทำตามนั้นให้ได้ ถ้าทำได้ก็จะเป็นผลดี
    พอสำเร็จวิชาก็ศึกษาหาความรู้ต่อยอดไปเรื่อยๆ

    ส่วนเรื่องอื่นๆเป็นส่วนประกอบ เช่น วัดอยู่ใกล้บ้านคน สถานที่แคบ ไม่มีการจัดคิวนั่งที่ดี
    หรือแม่ชีทำนายผิดหรืออะไรอื่นๆ อย่าไปสนใจมาก นั่นไม่ใช่หัวใจของการไปฝึก
     
  8. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,019
    อย่างกระทู้นี้ผู้ตั้งและผู้สนับสนุน
    เขาเพียงสงสัยอะไรต่างๆ ก็ดีที่เขียนออกมา
    คนอื่นที่รู้อาจจะเข้ามาอธิบายได้ อย่างน้อยก็จะได้หายสงสัย
    ใครที่รู้ๆก็พยายามเขียนอธิบาย ถ้าปล่อยไว้เดี๋ยวก็คาใจ สงสัยต่ออีก
    อย่าเพียงว่าปล่อยไว้ให้ไหลไปตามกรรมเก่าแล้วแต่เวรแต่กรรม

    การเขียนความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันก็เป็นการทำให้เกิดความรู้อย่างหนึ่ง
     
  9. mastertana

    mastertana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +201
    ขึ้นตรงต้นจบตรงปลาย

    อือ... ธนาเคยไปครั้งหนึ่งโดนหมากัดเลยหละเป็นแผลที่ขาเลยหละ แต่เอาไปเอามาหมาที่กัดนั้นหนะ ท้ายสุดก็มากินขนมของธนาเสียนี่ แต่ไม่โกรธมัน เขาเป็นสัตว์เดรัชฉาน ที่เอาอดในการทำบาป มีหวังที่จะเกิดเป็นมนุษย์ได้ เพาะอดที่จะโลภ อดที่อยากได้อยากมี อดที่จะยกตนข่มท่าน หละหนะ กินนอนไปวันๆ รอกว่ามันจะตาย.... มันก็แค่นี้

    คนเราจะทำสมาธิได้น้อมใจให้เป็นกลางถึงจะเข้าถึงได้ ไม่เข้าข้างตนเองไม่ดูถูกผู้อื่น ผู้ถึงเรื่องสมาธิเข้าใจตามพระท่านว่า พระท่านหมายถึงพระพุทธเจ้า
    อุปมาดั่ง ขึ้นต้นไม้ เราเริ่มโคนต้นเหมือนกันหลังจากนั้นแล้วแต่ใครจะจับกิ่งไหนให้ถึงยอดฉันใด... สมาธินั้นก็ย่อมเหมือนกัน เริ่มจากย่อมจิตย้อมใจให้มีหิริโอตะปะ เกรงกลัวละอ่ายต่อบาปให้มีข้อยึดเหนี่ยวเอาใว้ หรือหลักยึดคือศีล
    ยึดการกระทำ พรหมวิหารสี่ยึดอารมณ์ ให้น้อมเข้าหากุศล เมื่อจิตใจสงบเยือกเย็นก็ สามารถทำสมาธิได้...

    การทำสมาธิด้วยการภาวนามันเป็นการยึดเหนี่ยวจิตให้อยู่จุดได้จุดหนึ่ง ให้เข้าถึงความว่างสงบจากกิเลสทั้งปวงชั่วขณะ กุสโลบายแม่ชีก็เหมือนกันทำให้คนอยากแต่อยากในสัมมาทิฐิ ให้ยึดเหนี่ยวจิตใจการเผาบั_ชีบาปนั้น อาจะทำให้เป็นการให้กำลังใจให้คนมานะพยายาม คนเรา แปลว่า ยุ่ง มันยุ่งมากจากกิเลส
    ต้องมีทางสอนหลายทางทั้งที่ในๆ มันคือหลักเดียวกัน เพื่อเข้าหาความเป็น มนุษย์ แปลว่า ประเสริฐ อยู่ในศีลธรรม พรหมวิหารสี่ ให้สงบ เพื่อทำสมาธิ (คือจิตจดจ่ออยู่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง) เพ่งกสิน มันคือการรวมจิตเข้าด้วยกันในจุดเดียวไม่ส่งออก ทำให้สมาธิเกิด เมื่อนำ มาพิจารณาสิ่งต่างๆ ให้เห็น อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา แล้ว จิตจะเห็นทุกสิง่ทุกอย่ามันเป็นความธรรมดา ไม่มีไร้เลิศเลอเลย....

    เพราะทุกสิ่งเกิดขึ้นมาแล้วตั้งอยู่แล้วดับไป เหมือนกันหมด พระท่านว่า สัตว์ทุกตัวในโลกล้วนแต่มีขึ้นมาแล้วดับลงไป... การทำสมาธิแล้วเห็นนรกสวรรค์นั้นได้นั้น มันเป็นของธรรมดาของจิตที่เป็นทิพย์ที่ห่างจากกิเลส เด็กเกิดมาใหม่เห็นอะไรต่อมิอะไร เพราะยังไม่มีกิเลส ยังไม่เรียนรู้ซึ่ง อวิชชา ทั้งปวง อวิชชาคือการไม่รู้จักว่าสิ่งนั้นคือทุกข์ จิตก็บริสุทธิ์นั้นเอง จิตมีหน้าที่รู้ ร่างกายมันแค่ตั้งอยู่ จิตบั_ชาเท่านั้น การที่เรารู้มันคือ นาม รู้แล้วทำให้เห็นนั้นคือ รูป จิตเชื่อ จิตเกี่ยวข้อง จิตเอาเข้าไป ข้างในจิต ...

    จิตดวงเดียวท่องเที่ยวไป.... ถ้าการเกิดภพชาติมีจริง พ่อแม่พี่น้อง เรามีกี่ชาติหละ อยู่สวรรค์ไม่รู้เท่าไหร่ นรกไม่รู้เท่าไหร่ ชื่อเพียงตามแต่งขึ้น ตัวตนคือ จิต ร่างกายก็เพียงรูปเท่านั้นมันเปลี่ยนได้ ไม่เที่ยงๆ ท่องเที่ยวไปตามภพตาม ชาติและก็ไม่ได้เอาอะไรที่เป็นมาเลย นอกจาก นามคือ บาปบุ_คุณโทษ กุศลและอกุศล....

    เราก็จิตเขาก็จิต มันไม่มีไรเลยเข้ามาอยู่แล้วใช้กายนี้ทำโน้นทำนี่ กายมันมีสภาพ อนัตตา เสื่อมสลายไป มันก็จิตเหมือนกันไม่มีใครดีใคเลวใครร้าย ใครที่เขาเลวใครที่เขาร้ายมันเป็นอำนาจของกิเลสอำนาจของอกุศล ที่ทำมาแต่เก่าก่อนคนเรามันดีกันได้ จะได้อภิ__ามานับกี่แสนชาติยังไงก็ตาม มีสักเท่าหายตัวได้ล่องหนตายสุดท้ายตายหมด แล้วก้ไปเกิดอีกท่องไปเรื่อยๆ แต่ละคนมันมี ภพมีชาติ ผู้ชายว่าผู้ห_ิงไม่ดีผู้ห_ิงว่าผู้ชายไม่ดี มันก็ไม่ดีทั้งสองนั้นหละเพราะ เราอาจะเคยเป้นอย่างเราเขาอาจจะเป็นดั่งเรา เรื่องเหล่านี้ เป้นเรื่อง อจินไตย เหนือความจริง คนที่ถึงแล้วย่อมรู้ย่อมเห็น สุขเพราะ สุขเพราะเห็น สุขเพราะเข้าใจ วุ่นมาจากไหนหละ...

    ศีล+ สมาธิ + ปั__า ตัวนี้เข้าใจมันจะเป็นดาบที่คมมากที่ตัดกิเลสได้ ฝึกสมาธิต้องใช้วิปัสสนาให้เห็น ทุกข์ แล้ว กำนัดในทุกข์นั้นเสีย ว่าไม่โวยวายไม่ข่องใจไม่มัวหมอง เพราะรู้สิ่งเหล่านั้นที่เห้นมันคือ ความ เป็นธรรมดา ของโลก เข้าใจยอมรับมันก็เสียสิ้น ใจเป็นกลางเสีย เข้าหา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะทำให้เรารู้แจ้ง...... ไม่มีทุกข์สุขนั้นมี ด้วยห่างจากกิเลส ใจสงบจิตเข้าสู่ ความเที่ยงตรง ที่ไปนั้นย่อม จบสิ้น การท่องเที่ยวของจิต อยู่ที่ นิพพาน


    (ทุกถ้อยคำ อาราธบารมีพระท่าน ช่วยสงเคราะห์ มิใช่ธนา)
    (ขอบคุณชื่นชม ขอให้นึกกราบพระ... จะด่าจะว่าให้ว่าธนา...)

    ขอปั__าเกิดแด่ท่าน

    ธนา mastertana
     
  10. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,099
    ค่าพลัง:
    +2,696
    คุณเวปโนว์ ลองช่วยทำโพลเกี่ยวกับเรื่องนี้หน่อยสิ อยากรู้ความเห็นคนเยอะ ๆน่ะ
     
  11. โต้

    โต้ บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เวปสโน เปลี่ยนไป ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่นึกเลยว่า เวปสโนจะเชื่ออะไรง่าย ๆ เช่นนี้ ต้องใช้สติในการไตร่ตรองว่าความเป็นไปได้มีมากแค่ไหน ไม่ใช่ว่าสักแต่จะเชื่ออย่างเดียว ต้องทดสอบก่อนแล้วจึงบอกว่าจริง หรือไม่จริง
     
  12. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,099
    ค่าพลัง:
    +2,696
    นั่นสิ รู้สึกว่าจะเชื่ออย่างจริงจังซะด้วย
     
  13. ลูกพลับ

    ลูกพลับ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +35
    ผมว่าใจเย็นๆกันก่อนดีกว่าครับ มันเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ซึ่งก็คงยากที่จะไปบังคับหรือทำให้คนอื่นเชื่อตามถ้าเขาไม่เห็นด้วยกับเรา
    ใครเขาจะคิดยังไงก็ปล่อยเขา และเคารพความคิดของเขากันดีกว่า อันนี้ผมยังไม่เห็นด้วยกับใครนะครับ เพราะตั้งใจว่ากลับเมืองไทยแล้วจะไปฝึกกับแม่ชีด้วย คงต้องทดลองด้วยตัวเองละนะถึงจะรู้ว่าเป็นยังไงกันแน่ ผมคิดว่าอย่างนั้นนะครับ
     
  14. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    888
    ค่าพลัง:
    +1,937
    ศรัทธา เชื่อมั่นแบบนี้

    ผมสนับสนุนครับ

    ลองชิมผลไม้ก่อน แล้วจึงจะรู้ว่า มันหวานหรือเปรี๊ยว เหมือนที่เค้าบอกกันมาไหม
     
  15. ลูกพลับ

    ลูกพลับ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +35
    ชอบประโยคเปรียบเทียบนี้มากเลยครับ ขออนุ_าตจำไปใช้นะคร้าบพี่บัว
     
  16. jtr2

    jtr2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    เชื่อคุณบัวใต้น้ำอ่ะครับ
     
  17. Unregistered

    Unregistered บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ความอยากรู้อยากเห็นทั้งหลาย จงระวังจะไปปรามาส พระอริยเจ้าได้ เราไม่ได้เชื่อและไม่เชื่อ เพราะเรายังไม่ได้เข้าไปเห็นด้วยตา ได้ยินด้วยหู เราเอง


    หัวข้อ : พระอริยเจ้าที่เป็นห_ิงในปัจจุบันมีไหม๊ครับ ..
    ข้อความ : ในครั้งพุทธกาล ปรากฏในตำราว่ามีพระอริยเจ้าที่เป็นห_ิงเกิดขึ้นมากมาย...(ทั้งที่เป็นภิกษุณี และอุบาสิกา)
    ในปัจจุบันนี้มีใครทราบไหม๊ครับว่ามี...และท่านปฏิบัติธรรมที่วัดใหน..(ถ้าบอกได้)

    ****คนหนึ่ง(เก็บตัวอยู่กับบ้าน)ที่ จ.นครสวรรค์ เป็นลูกศิษย์พระราชพรหมยาน

    และมีเป็นแม่ชีอีก 2 คน(มีชื่อเสียง) คนหนึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริ_ กรุงเทพฯ ส่วนอีกคนอยู่กรุงเทพฯ แถวๆรามอินทรา

    ข้อความ : ขอออกตัวก่อนว่าทั้งหมดที่จะกล่าวไปเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ แม่ชีพิมพา เป็นแม่ชีที่หลวงปู่เทศน์ยกย่องว่าเป็นแม่ชีใจเพชร โดยส่วนตัว(เป็นความเห็นส่วนบุคคล)คิดว่าท่านน่าจะเป็นพระอริยเจ้าไปแล้ว
     
  18. กระเจียว

    กระเจียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,353
    ค่าพลัง:
    +2,011
    แม่ชีแถวรามอินทรา


    รามอินทราส่วนไหนคะ กิโลอะไร (กิโล1-8)
     
  19. เมฆคล้อยอนิจจัง

    เมฆคล้อยอนิจจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +150
    วิสุทธิปั__าเป็นเครื่องปลดบ่วงร้อยรัดทั้งปวง

    เรื่องใดก็ตามหากไตร่ตรองด้วยวิสุทธิปั__าเองแล้ว
    เรื่องนั้นย่อมน้อยนักที่จะผิดพลาด ซึ่งวิสุทธิปั__าจะเกิดขึ้นได้
    ต้องผ่านการขัดเกลาตัวเอง จากธรรมซึ่งพิจารณาได้รอบตัว
     
  20. ผไท

    ผไท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +257
    ผมก็ไปมาเหมือนกันครับ ก็ได้เผาบั_ชีบาปไป 3 เล่ม แม่ชีท่านบอกอย่างนั้นนะครับ ก็แปลกๆดีเหมือนกันครับ ไม่รู้ว่าจะสรุปอย่างไรดี แต่ผมก็ไม่กล้าไปวิจารณ์ท่านหรอกครับ เพราะกลัวจะไปปรามาสท่านผู้ทรงฌานเข้า แต่ก็ดีเหมือนกันครับได้ไปนั่งสมาธิต่างสถานที่บ้าง เปลี่ยนบรรยากาศ :)
     

แชร์หน้านี้

Loading...