สิ่งที่ควรศึกษาก่อนทำกรรมฐาน(สมาธิ)

ปัจจุบันมีสำนักกรรมฐานมากมายหลายสำนัก แต่ละสำนักก็สอนแนวทางต่างกันไป เช่น สติปัฏฐาน พุทโธ กสิณต่าง ฯลฯ
ข้าพเจ้าเคยมีประสบการณ์ปฏิบัติแบบสติปัฏฐาน ก็ทำไปตามที่ทำได้ อยู่มาวันหนึ่งได้ยินคำสอนของพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง สอนว่าการทำกรรมฐานโดยมีพระรัตนตรัยและศีลไม่สมบูรณ์ทำให้มีส่วนเป็นบ้าหรือเพี้ยน เป็นมิจฉาสมาธิ(สมาธิที่ผิด)
ข้าพเจ้าจึงสำรวจตัวเอง พบว่าตนทำผิดขั้นตอนเพราะยังไม่มีพระรัตนตรัยและศีลบริบูรณ์ก็มาทำกรรมฐาน จึงมีอาการชอบคิดว่าตนดี ตนรู้กว่าคนอื่น เห็นใครทำอะไรผิดจะขัดใจมาก และอยากคุยอยากบอกให้ผู้อื่นรู้ว่าตนเป็นอย่างไร นี่คืออาการเพี้ยนของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจึงหันมาอ่านพระไตรปิฏกศึกษาคำสอนและเลิกทำกรรมฐานไปเลยเพราะตนยังไม่พร้อม จึงอยากนำความรู้มาให้ผู้เริ่มศึกษาได้อ่านดู(โดยย่อ)

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนพราหมณ์ เราอาจบัญญัติการศึกษาโดยลำดับ การกระทำโดยลำดับ การปฏิบัติโดยลำดับ ในธรรมวินัยนี้ได้ เปรียบเหมือนคนฝึกม้าผู้ฉลาด ตถาคตได้บุรุษที่ควรฝึกแล้วเริ่มต้นย่อมแนะนำอย่างนี้ว่า ดูก่อนภิกษุ มาเถิด เธอจงเป็นผู้มีศีล สำรวมด้วยปาติโมกขสังวร ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจรอยู่ จงเป็นผู้เห็นภัยในโทษเพียงเล็กน้อย สมาทานศึกษาในสิกขาบททั้งหลายเถิด(พระไตรปิฎกเล่ม 22/บรรทัด144)����ص�ѹ��Ԯ� �Ѫ����ԡ�� �ػ�Իѳ��ʡ� ���� � �Ҥ � - ˹�ҷ�� 101(ลิ้งค์พระไตรปิฎก)

เธอจงปัดกวาดโอกาสที่เงียบสงัด แล้วนั่งพักกลางวันชำระศีลให้บริสุทธิ์ จงมนสิการอาการ ๓๒ ดูก่อน. ถ้าศีลของภิกษุนั้นไม่ด่างพร้อยไซร้,กรรมฐาน ย่อมสืบ, สังขารทั้งหลาย ก็เป็นของปรากฏชัดขึ้น, จิตก็เป็นเอกัคคตา(ศีลไม่ดี กรรมฐานย่อมไม่เจริญ (ปฐมปาราชิกวรรณนา) เล่ม1/หน้า763/บรรทัด6)


[กุลบุตรจะเรียนกรรมฐานต้องบำเพ็ญศีลให้บริสุทธิ์ก่อน]
กุลบุตรควรชำระศีล ๕ อย่างให้หมดจดก่อน. ในศีลนั้น มีวิธีชำระให้หมดจด ๓ อย่าง คือ ไม่ต้องอาบัติ๑ ออกจากอาบัติที่ต้องแล้ว๑ ไม่เศร้าหมองด้วยกิเลสทั้งหลาย๑. จริงอยู่ ภาวนาย่อมสำเร็จแก่กุลบุตรผู้มีศีลบริสุทธิ์อย่างนั้น. กุลบุตรควรบำเพ็ญแม้ศีลที่ท่านเรียกว่าอภิสมาจาริกศีล(ระเบียบปฏิบัติ ขนบธรรมเนียมประเพณี อันดีงามของสงฆ์) ให้บริบูรณ์ดีเสียก่อน

ดูก่อนคฤหบดี ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ประกอบด้วยมิจฉาสมาธิ เห็นปานใด เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาตนรก

อีกอย่างหนึ่ง พึงทราบว่า ผู้ปฏิบัติไม่ทำกิจที่ต้องทำก่อนมีการตัดปลิโพธเป็นต้น อย่างนั้นให้สำเร็จก่อนแล้วเจริญภาวนา การปฏิบัติของเขา เป็นทุกขา โดยปริยายตรงกันข้าม เป็นสุขา

ว่าด้วยสัมมาสมาธิอันประเสริฐ
[๘๑] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงสัมมาสมาธิอันประเสริฐ พร้อมทั้งเหตุ พร้อมทั้งเครื่องประกอบแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้หลายจงฟังเรื่องนั้น.
[๘๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาสมาธิอันประเสริฐ พร้อมทั้งเหตุพร้อมทั้งเครื่องประกอบเป็นไฉน คือ (๑)สัมมาทิฐิ(๒)สัมมาสังกัปปะ(๓)สัมมาวาจา(๔) สัมมากัมมันตะ (๕) สัมมาอาชีวะ(๖)สัมมาวายามะ (๗)สัมมาสติ
[๘๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความที่จิตมีอารมณ์เป็นอันเดียว ความที่จิตมีเครื่องประกอบด้วยองค์ ๗ ประการเหล่านี้นั้น เรียกว่าสัมมาสมาธิอันประเสริฐ พร้อมทั้งเหตุบ้าง พร้อมทั้งเครื่องประกอบบ้าง(30/56/6)

อีกอย่างที่สำคัญมากในการไม่ทำสมาธินอกศาสนาคือการถือสรณะ
การขาดสรณคมน์ ของบุคคลผู้ถึงสรณคมน์อย่างนี้มี ๒ อย่าง คือมีโทษและไม่มีโทษ การขาดสรณคมน์เพราะการตาย ชื่อว่าไม่มีโทษ
การขาดสรณคมน์เพราะหันไปนับถือศาสดาอื่น และประพฤติผิดในพระศาสดานั้น ชื่อว่ามีโทษ
ชาวพุทธที่ไตรสรณะขาด (พรรณนาพระสรณตรัย) 39/12/11

http://www.tripitaka91.com/index.php

จบกระทู้

 

ไม่ทราบว่าอาจารย์ ท่านใดสอนให้ทำแบบนี้นะ่กว่าจะนั่งสมาธิได้ช่างยากเย็นมีพิธีรีตองมากจริงๆ นั่งตามแบบพระพุทธเจ้า อานาปานสติ ง่ายดี นั่งรู้ลมหายใจ เอาจิตอยู่กับกาย อยากทำเมื่อใหร่เวลาไหนก็ทำได้ พระพุทธเจ้าทรงสอนว่าขณะนั่ง เอาจิตมารู้อยู่กับกาย จิตไม่ได้คิดอกุศล ใด ก็ถือว่ามศีลครบอยู่แล้ว จิตไม่คิดร้ายกับผู้ใด ก็มีสัมมาสังกัปอยู่แล้ว

 

อาจารย์ที่สอนท่านเป็นพระอรหันต์ แต่ไม่อยากเอ่ยในตอนนี้เพราะกลัวคนที่ไม่เข้าใจปรามาสท่านจะเกิดบาปได้

ท่านเคยสอนกรรมฐานโดยตรงแล้วลูกศิทย์เป็นบ้าหลายคนท่านจึงค้นหาคำตอบ แล้วท่านไปเจอหลักฐานในพุทธพจน์หลายเรื่องมากว่าการปฏิบัติที่ลัดขั้นตอนทำให้เป็นบ้า ท่านจึงมาสอนใหม่โดยให้เริ่มจากการรู้จักพระพุทธเจ้า ธรรม พระสงฆ์ ว่าคืออะไร สอนการเลือกให้ทาน ตัดกังวล10ไปตามลำดับ คนที่แก้ตามก็อาการดีขึ้น
แล้วอานาปานสติก็ไม่ง่ายเป็นกรรมฐานอย่างหนึ่งเช่นกัน ต้องทำไปตามลำดับตามที่อ้างไว้ในกระทู้

ได้ยินว่า ในที่นั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกรรมฐาน อันอนุกูลแก่จริตจำนวน ๘๔,๐๐๐ประเภท กรรมฐานทั้งหลายมีอานาปานัสสติและปฐวีกสิณเป็นต้น สำหรับผู้วิตกจริตทั้งหลาย(พระไตรปิฎกเล่ม46/หน้า364/บรรทัด12)
http://www.tripitaka91.com/

 

ที่เห็นไม่ปฏิบัติธรรมก็เป็นบ้า
ที่เห็นผู้ปฏิบัติธรรมก็ไม่ได้บ้ากันทุกคน
ตรงนี้ผมเห็นว่ากรรมเก่าของเขาเองนั้นละที่ทำให้เขาเป็นอย่างนั้น
ผมก็ปฏิบัติมาร่วม 20 ปี ก็ไม่ได้เป็นบ้าอะไร
ตรงนี้ก็ว่ากันไปตามจริต ชอบแบบไหนก็ว่ากันไปอย่างนั้น
ผมก็ปฏิบัติมาหลายแบบ หลายวิธี และรู้อยู่ว่าทำแบบไหนแล้วเป็นบ้า ประเภททำเพื่ออย่างอื่นที่ไม่ใช่การละวางจากกิเลส ติดในฤทธิธาศักดาเดช ติดอะไรต่อมิอะไรร้อยแปด ทั้งบ้าหวยรวยเบอร์ พวกนี้ละบ้าเกือบทุกรายครับ
หากคุณชอบแบบนี้ก็ขออนุโมทนาครับ

 

ข้าเจ้าเลือกมาโพสห้องพุทธศาสนา สำหรับผู้เริ่มต้น เพราะคิดว่าผู้ศึกษาใหม่ๆคงไม่มีใครเริ่มจากการนั่งสมาธิเลย น่าจะได้อ่านแนวทางก่อน ส่วนผู้ที่ทำสมาธิไปแล้วข้าพเจ้าไม่กล้าไปบอกเพราะกลัวว่าเขาจะโกรธไม่พอใจหรือด่า กลัวว่าเขาจะบาป เพราะข้าพเจ้าไม่ได้พูดเองเป็นคำสอนพระพุทธเจ้าและพระอาจารย์ ข้าพเจ้าแค่นำมาเล่าให้ฟัง แม้จะไม่ได้บ้าทุกคนแต่จะมีอาการที่เพี้ยนไปเยอะและเป็นสมาธินอกศาสนา

การทำสมาธิที่ผิดขั้นตอนนอกคำสอนพุทธศาสนาเป็นมิจฉาสมาธิมีโทษ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เป็นสมาธิเพราะก่อนพระพุทธองค์จะตรัสรู้ก็มีคนทำสมาธิได้มากมาย แต่มันเป็นสมาธินอกพุทธศาสนา


ดูก่อนคฤหบดี ปุถุชนผู้ไม่ได้ฟัง ประกอบด้วยมิจฉาสมาธิ เห็นปานใด เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาตนรก (ปฐมทสีลยสูตร) 31/346/3

ข้าพเจ้าต้องการให้ผู้เริ่มศึกษาได้รู้ไว้และอ่าน คำที่พุทธองค์สอนมิใช่ใครอื่น