สมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ครับ

ครับ ผมก็ว่าแปลกฯ..

ดีนะครับ ที่ท่าน knight022 มีพลังวัตรเข้มแข็ง เลยเก็บไว้ก่อน

ไม่ทราบว่า ต้องการ..บอดี้การ์ดไหมครับ (deejai)

 

ของคนดังเทียบพิมพ์ทรงคล้ายๆกับของพี่ไนท์เหมือนกัน

 

งั้นบางขุนพรหม ไม่ได้ลงกรุ มีแน่นๆๆ ราคาหลายแสนแบบนี้ เซียนใหญ่ยังคงมีความลับเสมอครับ (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)

 

ถึงเป็นบางขุนพหรม ที่ไม่ลงกรุมันก็น่าจะมี รอยหย่น เหมือนวัดระฆังหน่อย ครับ เพราะพระในยุคไกล้กัน ผมก็ไม่เข้าใจ เซียนใหญ่ ตามขอนี้คือเรื่องจริงไหม เพราะถ้าเป็นผมคงส่งต่อเซียนใหญ่ไปแล้วราคาตามว่าก็ไม่ใช่น้อย และถ้าเซียนใหญ่ชอบพระแบบนี้ มันไม่ใช่ตามที่เราๆ ศึกษา ตามตำรา เก่า ๆ ที่ว่าเลย ..งั้นผมก็คงไม่แปลกใจที่หลายท่าน ส่งพระ ในงานประกวด โดยเซียน คนที่ท่านกล่าวถึงเป็นคนรับพระนั้น ซึ่งพระบางองค์สวยกว่าองค์เจ้าของกระทู้ มีหลายท่านผมเชื่อว่าสวยกว่าองค์เจ้า ของกระทู้แต่เซียนใหญ่ ไม่รับ ส่องแป๊บเดียว แต่ผมเห็นในงานประกวดล่าสุดส่องนาน ขึ้น แต่ก็ยั่งคง ไม่รับพระเข้าง่ายๆ เหมือนเดิม ยังกะละครปาหี่ ให้คนเสียเงินซื้อกล่องประกวด (เฉพาะรายงานสมเด็จนะครับ) หรือ ว่านี้ คือสะเปกของเซ๊ยนใหญ่ ต้องหาพระแบบนี้ ถึงรับ 555 โดยความคิดเห็น ส่วนตัวนะครับ

 

ผมอยากให้คุณหนุ่มทะเล ศึกษาให้ดีกว่านี้นะครับ จากรูปต่างกันชัดเจน วงแขน และ ความลึกของซอกอกกับวงแขน ครับ พระที่สมเด็จโตสร้างตามสากลนิยมนั้น จะมีความลึก จากรูปที่คุณหนุ่มทะะลนำมา เห็นได้ชัด ส่วนของเจ้าของกระทู้นั้น ตื้นกว่าเยอะครับ (ถ้าไม่ได้ผิดพลาดจากการให้แสงในการถ่ายภาพของเจ้าของกระทู้) ครับ และจริง ๆ ก็ยังมีส่วนที่แตกต่างกันอีกหลายจุด

 

ที่จริงผมไม่อยากจะเขียนตอบพี่หมอแบบนี้เลย เพราะจะดูเป็นว่าผมไม่ให้เกียรติพี่หมอ แต่ผมพูดด้วยความเคารพและให้เกียรติพี่หมอนะครับ

คำว่า"คล้ายๆ" นี่อาจจะฟังเหมือนกับคำว่า"เหมือน" ได้นะครับถ้าไม่นึกให้ดี แต่ี่จริงสองคำนี้มีความหมายที่ต่างกันมากอย่างชัดเจนทีเดียวครับ

ขอพูอถึงคำว่า"เหมือน"ก่อนนะครับว่าถ้าเราคิดเป็นตัวเลขแล้ว คำว่า"เหมือน"จะเท่ากับ 90-100%
แต่คำว่า"คล้าย"ถ้าตีเป็นตัวเลขแล้ว คำว่า"คล้าย"จะเท่ากับ 70-90%
และคำว่า"คล้ายๆ"ถ้าตีเป็นตัวเลขแล้ว คำว่า"คล้ายๆ"จะเท่ากับ 50-70%

ดังนั้ที่ผมว่าคล้ายๆนี่ไม่ได้หมายความว่ามันต้องตามกันเป๊ะทุกอย่างครับพี่ มันมีส่วนมือที่ประสานทำสมาธิดูเป็นก้อนคล้ายกัน มีลักษณะการตัดขอบเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเหมือนกัน ไม่มีเส้นกรอบบังคับพิมพ์หรือเส้นวาสนาเหมือนกัน หนึ่งในสามองค์ที่ลงมีวงแขนตรงรักแร้เว้าลึกคล้ายกัน เศียรพระมีลักษณะคล้ายๆกัน รวมๆแล้วมันเลยพอจะดูคล้ายๆกันครับพี่หมอ

 

อย่าไปคิดเยอะเลยครับพี่หนุ่ม เครียดป่าวๆ พี่หมดท่านก็หวังดี
เอาเจตนาเป้นหลักครับ ดึกแล้ว จะนอนไม่หลับเสียปล่าวๆ

 

อ้อครับ ขอบคุณครับที่กรุณาอธิบาย

 

ขออนุญาตครับ

ถามแบบทะลุกลางปล้องเลยนะครับ

เป็นไปได้หรือไม่ว่าพระแท้ที่ขุดขึ้นจากกรุมาด้วยกัน 10 องค์

ผ่านไป 100 ปี ไปอยู่ในมือเศษฐีไม่กี่องค์

นอกนั้นเร่ร่อนอยู่ในนามพระเก๊​

 

อะไรก็เป็นไปได้ทุกอย่าง เพราะเราเกิดไม่ทันท่านครับ

บางขุนพรหมกรุเก่า เท่าที่ทราบแบบที่ลงกรุแล้วแทบไม่เจอคราบกรุเลยก็มีอยู่ให้เห็นเยอะ ส่วนสมเด็จเร่ร่อนในนามพระเก๊ก็มีมั๊ง ปัจจุบันคงหายาก สมัยก่อนเคยได้ยินมาว่าคนที่หาสมเด็จจากกองพระเก๊ตามแผงลอยได้ มีครูเอื้อ กับ อ.ประจำ อู่อรุณ

 

อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ ขึ้นอยู่กับจังหวะ โอกาส ที่สำคัญต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญมากพอครับ ผมเชื่อว่าพระสมเด็จที่ทันหลวงปู่มีอยู่ทุกที่ครับ แต่ว่าหาไม่ง่าย ถ้าจังหวะไม่ดี ความเชี่ยวชาญไม่พอก็หาท่านไม่เจอครับ
อย่างองค์ของท่านเจ้าของกระทู้ ถ้าเป็นเราๆท่านๆถือมาแล้วบอกว่าเป็นบางขุนพรหมกรุเก่า เชื่อเลยครับว่าโดนสวดมาแต่ไกล แต่ถ้าเซียนใหญ่ถือมา กลับเป็นหนังคนละม้วน
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าพระสมเด็จศึกษาไม่มีวันจบ ที่คิดว่าเป็นของหลวงปู่สร้างวันหนึ่งอาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่องค์ที่เรามองข้ามอาจจะใช่ขึ้นมาก็ได้ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆอย่าด่วนถอดใจนะครับพระสมเด็จที่เราเก็บไว้ ถ้าไม่ได้เก๊จนน่าเกลียดหมั่นศึกษาให้มาก และปฏิบัติธรรมบ้างตามสมควร รักษาศีลอย่าได้ขาด บางที่พระของหลวงปู่อาจอยู่ใกล้ๆเรานี่เองครับ

 

พระเซียนใหญ่ ในหนังสือ เล่มล่าสุด ของนิตรสารพระฉบับหนึ่ง ที่ออกล่าสุด เส้นขอบ มีสองเส้น ด้วย ผมละงง ไหนว่าถ้ามีสองเส้น จะเป็นพระแกะพิมพ์

 

ถ้างั้นผมก็งงตามท่านด้วยคนนะครับ

 

องค์นี้ก็ได้จากข้างถนน..เจ้าของบอกวางขายเป็นเดือนแหล่ะ ก่อนเอามาให้ผม

 

ท่านไนท์ปรับแสง และความคมชัดน้อยไปเลยทำให้ดูยากครับ ผมว่าน่าพระเป็นสมเด็จบางขุนพรหมไม่ลงกรุ ที่เป็นบางขุนพรหมเพราะพิมพ์วงแขนบาง และมีรอยปริข้างจากด้านหน้าด้านให้เห็นทั้ง4ด้านน่าจะเกิดจากการตัดขอบจากหน้าไปหลัง และที่ว่าไม่ได้ลงกรุเพราะเห็นรูพรุนปลายเข็มทั่วทั้งองค์(ตอนแรกดูแบบมึดๆนึกว่ามวลสารสีดำอย่างเดียว) และไม่เห็นคราบกรุ เห็นแต่แป้งลองพิมพ์ แต่ที่แปลกใจก็คือเห็นมวลสารเยอะเป็นพิเศษสันนิฐานว่าพระองค์นี้น่าจะเป็นของคนที่ไปช่วยกดพิมพ์พระสมเด็จแล้วนำมาเก็บไว้ใช้เอง

 

ขออนุญาตพี่Knight002 ปรับภาพแสงให้สว่างนะครับ ขอร่วมศึกษาด้วย อยากรู้เหมือนกัน

 

ผมบอกข้างต้นแล้วนะครับว่าเป็นพระล้างผิว ก่อนล้างมีคราบกรุครับ องค์นี้ซื้อจากคนงานพม่ามาครับ ตอนไปรื้อถอนบ้านเก่าเจอสร้อยพระองค์บนหลังคาบ้าน มีพระเลี่ยมทองสามองค์ มีสมเด็จเกศไชโย(ขายไปแล้ว6หลัก) สมเด็จปิลัน(ขายไปแล้ว) แล้วก็องค์นี้

ด้วยความไม่รู้พยายามล้างคราบกรุออก(แช่น้ำยา) จนคราบกรุออกหมด แล้วไปส่งประกวดกรรมการตีเป็น 09 แต่ตามมาถามซื้อที่บ้าน มันก็แปลกดีนะครับ

 

ท่านไนท์ได้ลงแปรงด้วยหรือเปล่าครับ

 

เต็มๆครับ 555

 

ว่าแล้วเชียว