ขอเชิญร่วมทำบุญสร้าง ศาลาปฏิบัติธรรม และศาสนาสถาน วัดไชยผาบ อ.เทิง เชียงราย

สืบเนื่องจากคณะศรัทธา และ ครูบาเจ้าปองพล แห่งวัดไชยผาบ มีดำริสร้าง ศาลาปฏิบัติธรรม เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดในกิจของสงฆ์ และสาธารณะประโยชน์ แห่งวัดไชยผาบ รัตนมัคคาโพธิญาณ แต่ยังขาดปัจจัย เพื่อใช้ในงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จ

จึงขอบอกบุญมายังพี่น้อง ชาวเว็บพลังจิต เพื่อช่วยทำนุบำรุงศาสนา ชำระหนี้สงฆ์ เติมบุญบารมี สะสมในชาตินี้เพื่อเกิดประโยชน์ในชาตินี้แลชาติเบื้องสูงต่อไป ครับ

ติดต่อร่วมทำบุญได้ที่..
พระวัชระ สีลสุทโธ..เจ้าอาวาสวัดไชยผาบ รัตนมัคคาโพธิญาณ
083-1179228

 

ศาสนสถาน ที่ดำเนินการสร้าง ยังไม่แล้วเสร็จครับ

 

พระครูบาเจ้า ปองพล สีลสังวโร ผู้เปี่ยมไปด้วย เมตตา บารมี
แห่งวัดไชยผาบ ต.เชียงเคี่ยน อ.เทิง จ.เชียงราย

 

เชิญร่วมงานเข้ากรรม ปฏิบัติธรรม ครูบาเจ้าปองพล สีลสังวโร ณ วัดไชยผาบ ต.เชียงเคี่ยน อ.เทิง จ.เชียงราย ระหว่างวันที่ 15 -23 กุมภาพันธ์ 2557



การเข้ากรรม หรือ นิโรธกรรม หมายถึง การกระทำให้ถึงซึ่งความดับทุกข์ วิธีการที่ปฏิบัตินั้น ผู้เข้านิโรธกรรมจะต้องนั่งภาวนาในท่าเดียวตลอด ๗ วัน ๗ คืน หรือ ๙ วัน ๙ คืน ตามแต่การอธิษฐานจิตในแต่ละครั้ง โดยไม่ฉันภัตตาหารใด ๆ นอกจากน้ำเปล่า และไม่ถ่ายหนักถ่ายเบา ไม่พูดจาหรือสนทนากับใครทั้งสิ้น จนกว่าจะสิ้นสุดการเข้านิโรธกรรม

การเข้านิโรธกรรม ก็คือ การดับสัญญาความจำได้ หมายรู้ในอารมณ์อันเกิดจากประสาทสัมผัสทั้ง ๖ (ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) เป็นการดับอารมณ์เหล่านั้นลงชั่วขณะ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งนั่นเอง

เมื่อคราวครูบาชุ่ม โพธิโก อดีตเจ้าอาวาสวัดชัยมงคล (วังมุย) อดีตพระเกจิชื่อดังล้านนายังไม่ละสังขาร ท่านก็ยึดแนวปฏิบัติตามวิถีปฏิบัติของ ครูบาศรีวิชัย ด้วยการเข้านิโรธกรรมนี้ ได้รับการกล่าวขานไปทั่วสารทิศ ขนาดพระราชพรหมญาน หรือ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี สหายธรรม ยังนำไปเล่าขานในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาว่า “ครูบาชุ่ม ท่านเข้านิโรธสมาบัติ”

ความหมายของ นิโรธกรรม และนิโรธสมาบัติ ต่างกัน ผู้ที่เข้านิโรธกรรม จะนั่งภาวนาโดยฉันเพียงน้ำเปล่า ไม่ถ่ายหนัก ถ่ายเบา ไม่พูดจาใด ๆ แต่การเข้านิโรธสมาบัตินั้น ผู้ปฏิบัติจะต้องดับสัญญา ดับเวทนา เพื่อบรรลุญาณสมาบัติขั้นสูง กายและจิตจะระงับไป แทบไม่มีลมหายใจ ไม่มีความรู้สึกทางกายและใจ โดยผู้ที่สามารถเข้านิโรธสมาบัติ พระบาลีระบุว่า ต้องเป็นพระอริยบุคคลขั้นพระอนาคามี หรือพระอรหันต์เท่านั้น ต่ำกว่านั้นจะทำมิได้ เพราะผู้ที่เข้านิโรธสมาบัติได้จะต้องสำเร็จฌานสมาบัติ ๘ ในคราวเป็นสามเณรจำพรรษาอยู่ที่วัดชัยมงคล (วังมุย) ครูบาอริยชาติ ได้พบตำราปั๊บสา (สมุดหรือตำราโบราณที่ทำขึ้นใช้เอง เพื่อบันทึกความเชื่อ คาถา บทสวด ตำราอักขระยันต์ และความรู้แขนงต่าง ๆ ถ้าเป็นภาคกลางจะเรียกว่า สมุดข่อย) ซึ่งเป็นบันทึกการเข้านิโรธกรรมของครูบาชุ่ม ที่คัดลอกมาจากตำรา ครูบาศรีวิชัย ตำราปั๊บสาเล่มนี้ มีบันทึกการปฏิบัติเน้นธุดงควัตร ๑๓ และการเข้านิโรธกรรมเอาไว้ ครูบาอริยชาติ จึงตั้งใจดำเนินตามรอยวัตรปฏิบัติของโบราณจารย์และตั้งสัจอธิษฐานไว้ว่า “ในชาตินี้ขอกระทำนิโรธกรรมเพียง ๙ ครั้ง” และคราวนี้เป็นครั้งที่ ๙ ครบตามคำอธิษฐาน

การเข้านิโรธกรรมตามแบบ ครูบาศรีวิชัย ท่านให้ขุดหลุมลึก ๑ ศอก กว้าง ๒ ศอก พอดีเข่า แล้วสร้างซุ้มฟางครอบให้มีความสูง แค่เลยศีรษะ ๑ ศอก ไม่สามารถยืนได้ ห้ามถ่ายหนัก ถ่ายเบา ฉันได้แต่น้ำเปล่า ๑ บาตร สิ่งของที่นำไปด้วยมีผ้าขาว ๔ ผืน ปูรองนั่ง แทนความหมาย อริยสัจ ๔ ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค มีเสาซุ้ม ๘ ต้น แทนความหมาย มรรค ๘ ยอดซุ้มปักธงฉัพพรรณรังสี หมายถึง ปัญญา ราชวัตรล้อมซุ้ม มี ๙ ชั้น แทนความหมายโลกุตรธรรม ๙ คือ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ รวมเป็น ๙

การเข้านิโรธกรรมของครูบา จะเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ จนถึงเวลา ๐๔.๐๐ น. ของวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เมื่อออกจากนิโรธกรรมจะเปิดโอกาสให้ญาติโยมทำบุญครั้งใหญ่

 

กระผมขอมองเหรียญ อาร์ม ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ครูบาวง ให้สำหรับ ท่านที่ ร่วมทำบุญ ตั้งแต่ 500 บาท ขึ้นไป ครับ โอนแล้วส่งหลักฐาน การโอนพร้อมที่อยู่มาให้กระผมได้เลยครับ

 

ประมวลภาพ งานเข้ากรรม ปฏิบัติธรรม ครูบาเจ้าปองพล สีลสังวโร ณ วัดไชยผาบ ต.เชียงเคี่ยน อ.เทิง จ.เชียงราย ระหว่างวันที่ 15 -23 กุมภาพันธ์ 2557