ขอคำแนะนำค่ะ..อยากขอข้อสังเกตุถ้าหากเราได้พบหลวงปู่เทพโลกอุดรด้วยค่ะ

เมื่อไม่นานมานี้ได้ไปตรวจดูบารมีและเทพที่ปกป้องคุ้มครองประจำตัวปรากฏว่าเป็น หลวงปู่เทพโลกอุดร แล้วเผอิญมีหนังสือเกี่ยวกับท่านอยู่ก็เลยเอามาอ่าน
และคิดในใจว่าอยากมีโอกาสได้พบท่านสักครั้งไม่รู้จะมีบุญบารมีพอหรือเปล่า
เช้าวันต่อมาหลังจากซื้อของในตลาดประมาณ 8 โมงเช้ากำลังเดินกลับไปที่รถปรากฏว่ามีพระสงฆ์รูปหนึ่งเดินมาด้านหลัง เรากำลังจะขึ้นรถก็หันไปเห็นท่าน ลักษณะท่านรูปร่างล่ำสันห่มจีวรสีน้ำตาลสะพายบาตร ท่านเดินมาหยุดตรงหน้าเราแล้วก็ยิ้มน้อยๆให้..เราก็งงๆอยู่เหมือนท่านจะเดินมาหาแต่ก็ไม่ได้เดินมาได้แต่มองเราแล้วยิ้มสักพักท่านก็เดินไปแล้วก็หันมามองเราอีกรอบยิ้มๆให้แล้วก็เดินจากไปเลย เรายังรู้สึกอึ้งๆอยู่ประมาณว่าทำตัวไม่ถูกได้แต่สังเกตุท่านจากด้านหลังมองไปที่ข้อเท้าท่าน ท่านเดินเท้าเปล่าแล้วก็ตรงช่วงข้อเท้ากับขาที่พ้นจีวรออกมาใหญ่มากแต่ท่านไม่สูงรูปร่างเหมือนกับพระในรูปด้านล่างองค์กลาง
ไม่รู้ว่าใช่หลวงปู่หรือเปล่าลักษณะอาการที่แสดงกับเรานั้นคืออะไร..ถ้าใช่จริงๆ ก็เสียใจมากที่ไม่ได้แม้แต่ยกมือไหว้ท่าน ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคะ มีความรู้สึกว่าพลาดโอกาสสำคัญไปแล้ว...

 

 ขอกราบอนุญาติ  หลวงปู่ใหญ่ ตอบคำถาม แด่ผู้ที่สงสัยโดยธรรม

 หลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงพ่อดำ หลวงพ่อในดง หรือ หลวงปู่ใหญ่ 

หลวงปู่เทพโลกอุดร ท่าน มีหลายชื่อ มากมาย จะมีโอกาส พบท่านก็ต่อเมื่อ

ท่านปฏิบัติธรรม จนเข้าถึงขั้น ฌาน ๔ ขั้นละเอียดได้ ส่วนใหญ่ จะพบท่านหรือ

สัมผัสกระเเสจิตของท่าน ในสมาธิขั้นละเอียดเท่านั้น  ข้อส้งเกตนั้น เป็นเรื่อง

อาจินไตย  หมั่นเจริญสติภาวนา เมื่อถึงเวลาอันควร คงได้มีโอกาสพบท่านเอง

ส่วนที่พบเห็นท่านด้วยตาเนื้อนั้น มีเฉพาะพระอริยสงฆ์ และศิษย์ท่านโดยตรง

เท่านั้น เป็นความเห็น ส่วนตัวครับ

ต่อท้าย มีของมงคลที่ หลวงปู่ใหญ่ ได้มอบไว้ให้ เป็นอุปกรณ์ธรรม โดยการอธิฐานจิต

นำมาให้ท่านได้ชมบารมี

ชุดแรก ลูกประคำงาช้าง และ สมเด็จดำ เหล็กไพรดำ

ชุดที่สอง เป็น พระที่ท่าน อธิฐานจิตไว้สมัย ร ๔  ชมครับ 

 เจริญในธรรม

 

ขอบคุณที่ชี้แนะค่ะ...หวังว่าสักวันคงมีโอกาสได้พบท่านค่ะ.......

 

มันก็ไม่แน่เหมือนกันหรอกค่ะ คุณจับความรู้สึกแรกที่พบกับพระภิกษุรูปนั้นได้อย่างไรล่ะค่ะ อาจจะเป็นท่านก็ได้นะค่ะ มันไม่เสมอไปนะค่ะ ถ้ามีบุญสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับท่าน ท่านจะมาให้เห็นเองค่ะ อย่างของดิฉันท่านมาในนิมิตรค่ะ ท่านมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อไม่ให้พวกเรายึดอัตตา ในตัวท่านค่ะ

 

หลวงตาดำ ในรูปท่านเคยเข้ามาหาที่บ้านท่านมาก้มกราบมาที่ปลายเท้า ตกใจตื่นเพราะกำลังหลับ พึ่งกลับมาจากกาญจนบุรี
หลวงตาดำไม่เห็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ เพราะองค์ท่านหลวงตาดำไม่มี อัสมิมานะแล้วครับ หมายถึง ความถือตัวว่าเป็นเรา ความถือเขาถือเรา จัดเป็นกิเลสอย่างหนึ่งที่ทำให้คน เราเกิดความหยิ่งผยองตน หรือเกิดความหดหู่ท้อแท้

 

ภาพนั้นยังติดตาติดใจอยู่เลยค่ะ..ถึงจะใช่หรือไม่ใช่ท่านก็จะน้อมจิตระลึกถึงท่านอยู่เสมอค่ะ..

 

ผมว่าใช่ครับ ท่านอาจมาเจริญศรัทธาก็ได้ครับ ท่านอยากให้เรายึดมั่นในพระรัตนตรัยครับ เรื่องบังเอิญไม่มีในโลก ขอให้คุณจำภาพท่านไปตลอดชีวิตของคุณนั่นก็จัดเป็นสังฆานุสติแล้วครับ มีหลายๆคนก็เกิดเหตุการณ์คล้ายๆคุณครับ เพราะฉะนั้นต้องตอบแทนท่านด้วยนะครับ ด้วยการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ด้วยครับ

 

คนที่นุ่งเหลืองคนนั้นคงคิดในใจ ว่าเมื่อไหร่คุณจะใส่เงินหรือว่าอะไรให้เขาบ้างไง ถ้าเป็นพระจริงๆคงไม่ไปยืนเฉยๆรอรับข้าวรับเงินในตลาดหรอกครับ ไม่น่าจะเป็นพระแท้

 

ผิดแล้วค่ะ..ท่านไม่ได้ยืนรอรับเงินรับของ..ท่านเดินผ่านมาแล้วหยุดยืนมองดิฉัน..ไม่ได้อุ้มบาตรรอรับเงินมีเพียงย่ามบาตรที่ปิดสนิทใบเดียวไม่ได้เปิดรอรับเงิน.ไม่ได้หิ้วข้าวของ..ดิฉันยังไม่ทันได้สังเกตุเห็นว่าท่านเดินตามมาข้างหลังด้วยซ้ำ..แล้วพอท่านเดินจากไปท่านก็เดินดุ่มๆไปโดยไม่ได้สนใจใครอีกเลยดิฉันเฝ้ามองจนสุดสายตา ถ้าท่านต้องการเงินหรือของก็คงจะขอผู้คนตามทางเรื่อยไป..และพระเทียมที่อยู่ในตลาดดิฉันก็เคยเห็น
หน้าเดิมๆ ทุกวันทำไมจะจำไม่ได้..ดิฉันไม่ได้มีจิตอุปาทานขนาดนั้นหรอกค่ะถึงจะแยกไม่ออกว่าไหนพระเทียมไหนพระแท้..

 

มั่นใจว่าใช่หลวงปู่ใหญ่จริงๆแล้วค่ะ..หลังจากวันนั้นผ่านมาหลายเดือนจนลืมเรื่องที่เคยได้เจอพระภิกษุรูปนั้นไปแล้ว..ดิฉันก้อฝันเห็นท่านในรูปลักษณ์นั้นอีก และอีกสองครั้งที่ฝันใกล้รุ่งเช้าว่าได้สนทนาธรรมกับพระภิกษุชราและท่านเมตตาสอนเรื่องการสวดมนต์และการนั่งสมาธิด้วย แต่จำหน้าไม่ได้ได้ยินแต่เสียงท่าน รู้สึกศรัทธามากยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ

 

พระอริยะสงฆ์ ที่จาริกไป ในป่า ในภูเขา ในถ้ำ ที่เงียบ สงบ ยังมีอยู่มากครับ
ใครที่เคยมี กรรมผูกพัน กับพระท่าน ท่านก็จะมีออกมาโปรดบ้าง
พระที่ออกมาโปรด ชื่อของท่านอาจไม่ตรงกับที่ เราคาดคะเนก็ได้
เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น นำมาซึ่ง จิตที่เป็นกุศล และจิตอันผ่องใส
ก็เป็นเรื่องอันน่า อนุโมทนา สาธุ ครับ

 

ข้อสังเกตุนั้นเป็นแบบเฉพาะตน บ้างท่านก็สัมผัสทางสมาธิ ยกตัวอย่างหลวงพ่อพระอุบาลีแห่งวัดจันทร์ตะวันตก หลวงปู่ใหญ่ท่านมารักษาโรคภายในทางสมาธิจนหายแต่มีข้อแม้ว่าให้บวชตลอดชีวิตห้ามสึก...จนทุกวันนี้ท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงมากในจังหวัดพิษณุโลก ท่านเข้านิโรธสมาบัติทุกปี!
ถ้าจำไม่ผิดหลวงพ่ออุบาลีท่านถ่ายทอดรูปร่างสรีระกายขององค์หลวงปู่ใหญ่ ที่พบเห็นในสมาธิเป็นผู้เฒ่าหนวดเคราสีขาวยาวรุงรัง!

ในขณะที่แม่ชีรุ่งนภา กำหนดศรี ท่านมีโอกาสได้ใส่บาตรองค์หลวงปู่ใหญ่ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ท่านเล่าว่า "บาตรหลวงพ่อโลกอุดรใหญ่มาก หลังจากใส่บาตรแล้วหันกลับไปดูด้วยความสงสัยปรากฎว่าท่านได้หายตัวไปแล้ว"...แม่ชีรุ่งนภา ท่านเป็นอีกผู้หนึ่งที่เข้านิโรธสมาบัติเป็นประจำทุกปี!

ชะรอยว่าผู้ที่มีบุญสัมพันธ์กับองค์หลวงปู่ใหญ่ จะเป็นผู้เจริญก้าวหน้าทางฌานสมาบัติเป็นแน่(ความเห็นส่วนตัว)

 

ไร้รูปลักษณ์ ไร้ข้อจำกัด

ขออนุญาตครับ

ถ้าคุณมีความเกี่ยวพันกับองค์หลวงปู่ใหญ่จริง คุณก็จะได้มีโอกาส พบเจอกลุ่มคนที่เกี่ยวพันกับท่านได้เอง

เพราะแต่ละกลุ่ม ก็ไร้รูปแบบ องค์ท่านจะเปิดโอกาสให้พบให้เจอกัน ให้เกื้อกูลกันได้หรือไม่

องค์หลวงปู่ใหญ่นั้น ท่านเข้มงวดกวดขันยิ่งนัก คนที่จะพบ คนที่จะเจอองค์จริงท่านนั้น หายากยิ่ง

เพราะส่วนมากองค์ท่านจะพบเจอเฉพาะผู้ที่ ปฏิบัติแบบเอาจริงเอาจัง
แบบรวดเดียวจบเท่านั้น

ท้อเมื่อไร ช้าเมื่อไร ชะงักเมื่อไร องค์ท่านจะทิ้งทันที
ดูประวัติ ครูบาอาจารย์ ต่างๆก็ได้

ถ้าคุณพบองค์ท่านจริงๆ จะสามารถมองสบตาองค์ท่านได้

แต่ถ้าพบแล้วสบตาไม่ได้ แสดงว่าองค์ท่านให้ครูบาอาจารย์องค์อื่นจำแลงมา
ซึ่งส่วนมากจะเป็นองค์หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต

คนที่เคยพบ ที่เคยเจอ องค์ท่านจะไม่มีใครกล้าเรียกชื่อองค์ท่านตรงๆ
เพราะเชื่อว่า เอ่ยชื่อองค์ท่านเมื่อไร องค์ท่านจะรับรู้ทันที

แม้แต่บุคคลจำนวนหนึ่ง ที่เคยได้รับเมตตาเข้าอบรมในป่ากับท่าน
จนป่านนี้ผ่านไปเป็นสิบๆปี

ก็ยังไม่มีท่านผู้ใดกล้าเปิดเผยตัวออกมา บอกเล่าอะไร

ลูกศิษย์ของท่านส่วนมาก มักจะบอกว่า องค์ท่านจะมาในฝัน ปีละไม่เกินสามหน

ท่านที่ไม่ได้เอาจริงเอาจังมากมายอะไร ควรจะเลือกไปเป็นหลานศิษย์ของท่านจะดีกว่า

เพราะบอกตั้งแต่ต้นแล้วว่า คนที่จะเป็นศิษย์ของท่านนั้นต้อง
ปฏิบัติ อย่างเข้มข้น รวดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบเท่านั้น

เกิดบุญบารมีไม่ถึง ปฏิบัติรวดเดียวไม่จบ ชีวิตอาจจะยุ่งยากกว่าเดิม
หรือ ชาตินี้ทั้งชาติ ไม่ต้องได้ทำอย่างอื่นอีกเลย

แถมยังมีภาระกิจ ที่ต้องรับผิดชอบ งานของท่านอีกมากมาย

อยากได้แบบไหนก็เลือกเอา หรือจะไปด้อมๆมองๆ ศิษย์ของท่านท่านอื่นๆก็ลองเลือกดู

แต่ถ้าจะมาหาในเว็บบอกได้เลยว่าไม่มี

เพราะองค์ท่านเข้มงวดกวดขันยิ่งนัก

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะทุกๆท่านนะคะ..ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่แต่จิตที่เกิดกุศลจากศรัทธาแค่นี้ก้อเพียงพอแล้วค่ะ..ขอบคุณค่ะ

 

ขออภัย ที่มาตอบช้าไป 2 ปี

การที่ท่านมาปรากฎให้คุณเห็นก็เพื่อเป็นการสงเคราะห์ ถ้าพูดให้ชัดเจนก็คือรับเป็นศิษย์นั่นล่ะครับ การมาปรากฎกายให้เห็นก็เพื่อเป็นอนุสติ ต่อไปเมื่อติดขัด มีปัญหาอะไร ท่านก็จะมาสอนให้ในสมาธิครับ

ผมบอกได้เลยนะครับว่า ตอนนี้อย่างน้อยคุณต้องทรงมโนยิทธิแล้ว และในอนาคตคุณต้องทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาต่อไป

บางทีเราอาจได้ร่วมงานกันในอนาคตนะครับ