ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ทำไมดิฉันพิมพ์แล้ว กดส่งไม่ได้ค่ะ ข้อความหายไปกลาางอากาศ
ปล.เป็นแบบนี้3-4ครั้ง.(วันนี้มีเหตุรุนแรงบางอย่าง ต้องทำใจค่ะ)

 

ข้อความสื่อสารจาก The Team
เรื่อง: เรียกมันว่าปาฏิหาริย์ (Label it a miracle)

วันที่ 11 ธันวาคม 2013
ผู้รับสาส์น: Peggy Black
ที่มา: Morning Messages


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ตอนที่ 1:

พวกเราอยู่ที่นี่และกำลังรับรู้ถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของพวกคุณอยู่
พวกเราเฝ้าสังเกตการณ์ดูกระบวนการหดตัวของจิตสำนึกของพวกคุณ
แล้วขยายตัวขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่งอยู่ ซึ่งปรากฎการณ์ที่ว่านี้
เกิดขึ้นทั้งกับเมตริกซ์ระดับปัจเจกบุคคลและกับเมตริกซ์ระดับโลกด้วย

พวกเราได้อุทิศตัวเอง เพื่อมาให้ความช่วยเหลือพวกคุณ
ในกระบวนการตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่ของพวกคุณ
และในกระบวนการกลับคืนมามีพลังอำนาจอย่างเต็มพิกัดใหม่
อีกครั้งหนึ่งของพวกคุณ และพวกเราก็ได้เชื้อเชิญให้พวกคุณ
รับเป็นเจ้าของพลังอำนาจของตัวเอง มาโดยตลอดด้วย

พวกเราทราบดีถึงข้อจำกัดหลายอย่างที่พวกคุณพากันจินตนาการขึ้นมา
ซึ่งมันก็ได้ส่งผลกระทบในแง่ลบกับคนทั้งโลกมาโดยตลอดด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีชาวโลกจำนวนหนึ่ง เช่น ตัวพวกคุณเองเป็นต้น
ที่กำลังก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดเหล่านี้อยู่ เพราะรู้แล้วว่าพวกมัน
ก็เป็นแค่ความเชื่อที่ผิดๆที่ถูกสืบทอดต่อๆกันมา จากรุ่นสู่รุ่นเท่านั้น

นี่คือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่และน่าพิศวง
เพราะว่าสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเรื่องลึกลับมาก่อน
แต่บัดนี้กลับกลายมาเป็นเรื่องที่ทุกๆคนเข้าใจกันแล้ว

เพราะว่าเมื่อใดที่พวกคุณยกย่องและให้เกียรติแก่ความเลอเลิศของตัวเองแล้ว
และเมื่อใดที่พวกคุณยืดขยายขอบเขตของจินตนาการของตัวเอง
ที่เกี่ยวกับว่าตัวเองเป็นใคร ออกไปให้มากขึ้นแล้ว
และจดจำได้แล้วว่าพวกคุณสามารถสร้างสรรค์อะไรขึ้นมาได้บ้าง หรือทำอะไรได้บ้าง
พวกคุณก็จะเริ่มประจักษ์ได้อย่างแท้จริงว่า พวกคุณมีพลังอำนาจ
มากเกินกว่าที่จะประมาณได้

พวกเราจะยังคงเตือนความทรงจำของพวกคุณอยู่ต่อไป
ให้บ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จำเป็น เกี่ยวกับความเป็นจริงที่น่าทึ่งในข้อนี้
จนกว่าพวกคุณจะยอมรับเอาพลังอำนาจสูงสุดของตัวเองกลับคืนมาได้แล้ว
เพราะว่ามันต้องอาศัยความเป็นจริงในข้อนี้เท่านั้น
พวกคุณจึงจะสามารถเริ่มเปลี่ยนแปลงรูปแบบโลกของตัวเองได้
พวกคุณรู้ว่ามันคือความจริง เพราะว่าพวกเราเพิ่งเตือนความทรงจำ
ให้แก่พวกคุณอยู่เดี๋ยวนี้เอง ด้วยการกระทุ้งพวกคุณเบาๆ
ให้พวกคุณรับเป็นเจ้าของมัน ให้พวกคุณนำเอามันออกมาใช้
และให้พวกคุรแสดงมันออกมาด้วย

โลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ ถูกสร้างขึ้นมา
จากความสั่นสะเทือนของพลังงานจำนวนมากมาย
และพวกคุณก็กำลังประทับรอย “ความคิด” ของตัวเอง
และ “อารมณความรู้สึก” ของตัวเอง
ลงไปในสนามพลังงานที่ว่านี้อยู่ตลอดเวลาอยู่ด้วย

ซึ่งถ้าพวกคุณถูกปลูกฝังให้มีแต่ความเชื่อที่ผิดๆมา
และมีแต่อารมณ์ความรู้สึกที่มีระดับคลื่นความถี่ที่หยาบๆอยู่หละก็
สิ่งที่พวกคุณจะประทับลงไปในสนามพลังงานดังกล่าวนี้
ก็จะมีแต่คลื่นความสั่นสะเทือนเหล่านี้แหละ
แล้วผลลัพธ์ที่จะปรากฎออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณเอง
ก็จะเป็นสิ่งที่ไม่น่าพึงพอใจของพวกคุณตามไปด้วย
ซึ่งพวกคุณก็รู้เรื่องนี้ดีแล้ว เพราะว่าพวกเราได้บอกพวกคุณไปแล้ว
หลายต่อหลายครั้ง

มันคือกฎข้อหนึ่งของจักรวาล ซึ่งก็คือกฎที่บอกว่า
“พลังงานจะเป็นไปตามความคิดเสมอ!”

และก็เพราะว่ามันเป็นเช่นนี้เอง จึงทำให้พวกคุณ
มีข้อจำกัดเรื่อยมา เพราะว่ายิ่งพวกคุณ
จดจ่ออยู่กับข้อจำกัดของตัวเองมากเท่าไหร่
ข้อจำกัดเหล่านั้น ก็จะยิ่งถูกเนรมิตออกมา
สู่ประสบการณ์ชีวิตของพวกคุณเองมากเท่านั้นด้วย

ซึ่งเรื่องนี้เป็นความจริงทั้งในประสบการณ์ระดับโลก
และในประสบการณ์ระดับชีวิตประจำวันของพวกคุณแต่ละคนด้วย

และอีกครั้งหนึ่ง นี่ไม่ใช่ข้อมูลใหม่สำหรับพวกคุณแต่อย่างใดเลย
เพราะว่า..ถ้าพวกคุณกำลังอ่านข้อความนี้อยู่
พวกคุณก็จะรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราได้เคยบอกพวกคุณไปแล้ว

พวกเราขอสนับสนุนให้พวกคุณรับรู้ถึงข้อมูลนี้ แล้วเป็นเจ้าของมัน
และนำเอาข้อเท็จจริงนี้ไปใช้ ในวิถีทางที่ทรงพลังอำนาจมากที่สุด
และน่าทึ่งมากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้

โดยเริ่มต้นจากการยอมรับความเป็นจริงที่ว่า
พวกคุณกำลังอาศัยอยู่ในสนามพลังงาน
ที่มีศักยภาพแห่งความเป็นไปได้
อันไร้ขีดจำกัด และไม่มีที่สิ้นสุด

โดยเริ่มต้นจากการยอมรับว่า
พวกคุณคือพลังงานอันบริสุทธิ์
และคือศักยภาพอันบริสุทธิ์
และพวกคุณก็คือสิ่งที่ไร้ขีดจำกัดและไม่มีที่สิ้นสุดด้วย

พวกเราขอเชิญพวกคุณ ให้ก้าวเข้ามาสู่การรับรู้อันนี้
แล้วเล่นกับความเป็นไปได้ทั้งหลาย
และยืดขยายขอบเขตความคิดของตัวเองออกไป
ที่เกี่ยวกับว่าพวกคุณจะสามารถเนรมิตอะไรออกมาได้บ้าง
ถ้าพวกคุณสามารถจดจ่อความสั่นสะเทือนอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ได้อย่างแจ่มชัดจริงๆแล้ว แล้วทำให้มันเกิดขึ้น

อันที่จริงแล้ว ในแต่ละวัน พวกคุณก็ทำเช่นนี้กันอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่าพวกคุณไม่ได้ติดตามดูผลของมันเท่านั้นเอง
พวกคุณเพียงแค่ไม่รับรู้ว่า มันเป็นผลมาจากความสั่นสะเทือน
ของอารมณ์ความรู้สึกอันนั้น บวกกับความคิด, คำพูด และการกระทำ
ที่คิด-พูด-ทำ ซ้ำไปซ้ำมาอันนั้น เท่านั้นเอง

(หมายเหตุ: กฎแห่งการเนรมิตมีอยู่ว่า
“ความคิดที่จดจ่อแน่วแน่ + อารมณ์ความรู้สึก
= สิ่งที่จะถูกเนรมิตออกมา – ผู้แปล)

แต่จงจำไว้ว่ากระบวนการสร้างสรรค์โลกแห่งความเป็นจริง
ของพวกคุณกระบวนการนี้ มันสามารถที่จะทำให้เกิด “ปัญหา”
ซึ่งก็คือสิ่งที่มีข้อจำกัดทั้งหลาย ขึ้นในชีวิตของพวกคุณก็ได้
และก็สามารถที่จะทำให้เกิดประสบการณ์ชีวิตที่เป็นเรื่องที่เบิกบานใจ
ขึ้นในชีวิตของพวกคุณก็ได้ด้วย

เพราะว่าพวกคุณคือผู้สร้าง! บริสุทธิ์และเรียบง่าย!

พวกคุณกำลังแผ่ส่งคลื่นความถี่ของตัวเอง
ออกไปสู่โลกภายนอกอยู่ทุกลมหายใจของตัวเองอยู่
ซึ่งมันก็จะไปส่งผลกระทบต่อสนามพลังงาน
ที่พวกคุณเรียกมันว่า “ประสบการณ์ชีวิตของพวกคุณเอง” ต่อไป


...................................

 

ข้อความสื่อสารจาก The Team
เรื่อง: เรียกมันว่าปาฏิหาริย์ (Label it a miracle)

วันที่ 11 ธันวาคม 2013
ผู้รับสาส์น: Peggy Black
ที่มา: Morning Messages



ตอนที่ 2:

พวกเราขอเชิญชวนให้พวกคุณ มาทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่น่าเชื่อ,
ที่สุดยอด และยอดเยี่ยม ขึ้นในชีวิตของพวกคุณเองกันเถอะ

พวกคุณได้เคยทำเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่คราวนี้พวกเราจะขอให้พวกคุณ
ทำมันอีกครั้งหนึ่ง โดยให้มีความคงเส้นคงวามากขึ้น
และให้ทำอย่างมีความตระหนักรู้มากขึ้นด้วย

โดยปกติแล้ว เมื่อมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับชีวิตของพวกคุณ
ที่เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม และไม่คาดฝัน
พวกคุณก็จะพากันเรียกมันว่า “ปาฏิหาริย์”

ดังนั้น พวกเราจึงอยากจะขอใช้เวลาสักครู่
เพื่อบอกถึงคำจำกัดความ ของคำที่พวกคุณเรียกกันว่า
“ปาฏิหาริย์” ตามนิยามของพวกเราสักหน่อย ว่า..

“ปาฏิหาริย์” ก็คือการตอบสนอง
ของสนามพลังงานแห่งจิตสำนึกของจักรวาล
ที่มีต่อคำร้องขอใดๆที่จดจ่ออยู่อย่างแน่วแน่และมั่นคง

แต่เมื่อใดก็ตาม ที่ความสนใจของพวกคุณ หรือคำร้องขอของพวกคุณ
ไปจดจ่ออย่างแน่วแน่และมั่นคง อยู่กับเรื่องของการมีทุนทรัพย์น้อย
หรือเรื่องของการขาดแคลน จนมันถูกเนรมิตออกมาจริงๆแล้วหละก็
พวกคุณก็จะไม่เรียกมันว่าปาฏิหาริย์ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็คือปาฏิหาริย์อยู่ดี
เพราะว่ามันใช้หลักการณ์เดียวกัน

พวกเราอยากจะขอรับประกันกับพวกคุณว่า
เหตุการณ์ที่พวกคุณเรียกกันว่า “ปาฏิหาริย์” นั้นหนะ
อันที่จริงแล้ว มันก็คือ สิ่งที่ทุกชั่วขณะของชีวิตของพวกคุณ
สมควรที่จะเป็นแบบนั้นนั่นเอง

เพราะว่าพวกคุณในฐานะที่เป็น
“รูปธรรมชีวิตแห่งดวงดาว
และเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติอันศักดิ์สิทธิ์” แล้ว
พวกคุณมีพลังอำนาจที่จะจดจ่อคลื่นความถี่ของตัวเอง
และ จดจ่อความตั้งใจของตัวเอง ไปบนสิ่งใดก็ได้
ที่พวกคุณปราถนา และเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อทุกผู้ทุกนาม
แล้วจากนั้นก็ปล่อยให้มันถูกเนรมิตออกมาเท่านั้นเอง
ง่ายๆแค่นี้เอง!

จักรวาลแห่งนี้ สนามพลังงานควอนตัม
แห่งความเป็นไปได้ทั้งมวลแห่งนี้
จะตอบสนองต่อคำร้องขอของพวกคุณเสมอ
ซึ่งโดยปกติแล้ว ก็จะตอบสนองในรูปแบบที่น่าทึ่งมากที่สุด
และง่ายดายมากที่สุดด้วย นี่แหละคือความเป็นจริง
ที่พวกเราอยากจะกระตุ้นเตือนให้พวกคุณยอมรับมันหละ

จงเป็นแรงพลังที่ก่อให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น
จงเป็นผู้เชื้อเชิญและเป็นผู้สร้างปาฏิหาริย์
จงทำให้เกิดโลกแห่งความเป็นจริงที่เอื้ออำนวยต่อการมีชีวิตอยู่
ของทั้งตัวเองและของทุกผู้ทุกนามด้วย
จงพัฒนาความสามารถของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้อย่างแท้จริง
จงจินตนาการถึงโลกที่เต็มไปด้วยความสงบสุข
และความอยู่ดีมีสุขสำหรับทุกผู้ทุกนาม

ที่พวกคุณมาอยู่ที่นี่ ในมิติแห่งนี้ และในช่วงกาลเวลานี้
ก็เพื่อที่จะมาเปลี่ยนแปลงรูปแบบของพลังงาน
ที่หนาแน่นทึบตันและวิปริตของที่นี่

แต่ว่า..เมื่อใดที่พวกคุณจดจ่ออยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง
ที่หนาแน่นทึบตันและวิปริตนี้ อย่างต่อเนื่องแล้ว
ก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังเพิ่มพลังงานให้กับมันอยู่อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
เพื่อที่จะให้มันถูกเนรมิตออกมาอย่างต่อเนื่องต่อไปอีก

ดังนั้น จงพยายามอย่าไปจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ไม่ดีไม่งามทั้งหลาย
จงพยายามอย่าไปพูดถึงมัน อย่าไปตัดสินชี้ถูกผิดมัน
และอย่าไปเติมพลังงานให้กับมันอีก

พวกเราอยากจะขอเชิญพวกคุณ ให้มาเริ่มต้นเก็บสะสม และยอมรับ
เหตุการณ์และสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของพวกคุณ
ที่พวกคุณอาจจะเรียกกันว่าปาฏิหาริย์สักหน่อย
จงมองหามัน และ จงต้อนรับมัน จงมองหาสิ่งที่ดูเหมือนว่า
มันเกิดขึ้นแบบไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ หรือที่เกิดขึ้นนอกเหนือกรอบของข้อจำกัด
หรือ นอกเหนือขอบเขตของความเป็นไปได้
แม้ว่าสิ่งนั้น มันจะเป็นเพียงแค่เรื่องพื้นๆมากที่สุดก็ตาม

และจงเริ่มต้นสังเกตการณ์ดูด้วย เมื่อมีข้อจำกัดบางอย่าง
เกิดขึ้นในชีวิตของพวกคุณ ว่าบางทีมันอาจจะเป็นผลมาจาก
ความวิตกกังวลที่พวกคุณได้ไปจดจ่ออยู่ก่อนหน้านั้นก็ได้
จงจำไว้ว่ามันใช้หลักการณ์เดียวกัน

พวกเราอยากจะเตือนความทรงจำของพวกคุณว่า
พวกคุณคือ “จิตสำนึกอันศักดิ์สิทธิ์” ที่มาอยู่ในร่างกายเนื้อนี้เท่านั้น
พวกคุณคือรูปธรรมชีวิตหลากมิติแห่งกาแล็กซี่
ที่มีความสามารถและภูมิปัญญาสูงส่งจนไม่น่าเชื่อ

จงก้าวออกมาจากขอบเขตของข้อจำกัดต่างๆที่พวกคุณเคยรับรู้มา
และที่เคยถูกโปรแกรมเอาไว้ จงยกระดับสติสัมปชัญญะของตัวเองให้สูงขึ้น
เพื่อที่จะได้เริ่มต้นสังเกตการณ์ดูได้ว่า ตัวเองกำลังจดจ่อความสนใจไปสู่ที่ไหนอยู่
เพื่อที่จะได้รู้เท่าทันว่า พวกคุณกำลังเรียกหาปัญหาต่างๆของตัวเองอยู่
โดยการไปพูดถึงมัน หรือไปคิดถึงมันอยู่บ่อยๆ อยู่หรือเปล่า?

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกคุณใช้เวลาซักครู่หนึ่ง เพื่อวางปัญหาเอาไว้ก่อน
แล้วหันไปเล่นเกมที่ง่ายๆแทน จงทำข้อตกลงกับตัวเองไว้ว่า
จะเล่นเกมว่า หรือ เสแสร้งว่า พวกคุณสามารถเปลี่ยนแปลง
โลกแห่งความเป็นจริงของตัวเองได้

โดยเริ่มต้นด้วยการพูดถึงความพึงพอใจที่พวกคุณรู้สึกต่อการงาน,
ต่อครอบครัว และต่อการเงินของตัวเอง
พวกเรายอมรับว่าพวกเราเพิ่งกดปุ่มแห่งการมีข้อจำกัดทุกๆปุ่ม
ของพวกคุณไป ซึ่งอาจจะพูดแบบนี้ก็ได้

มันน่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า ที่จะเริ่มเล่น “เกมแห่งการสร้างปาฏิหาริย์” นี้
ในระดับที่เล็กลงมาอีกหน่อย พวกคุณสามารถที่จะเลือกเองได้ว่า
อยากจะให้เกมมันเล็กหรือใหญ่แค่ไหนก็ได้

แต่จงเริ่มต้นด้วยการรับเป็นเจ้าของ สิ่งที่เป็นประสบการณ์ในชีวิตของตัวเองซะก่อน
ซึ่งถ้ามันไม่เป็นที่พึงพอใจของพวกคุณ หรือ ไม่ถูกใจพวกคุณ
หรือไม่ทำให้พวกคุณมีความสุขหละก็ ก็จงเริ่มต้นค่อยๆยืดขยายเข้าไป
สู่ที่ๆจะทำให้สิ่งนั้นมันเปลี่ยนแปลงไปได้เสีย ทีละน้อย ทีละน้อย
ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่และมั่นคง และด้วยความสั่นสะเทือนของอารมณ์ความรู้สึก
ที่สอดคล้องกัน พวกคุณก็จะสามารถทำให้ หรือสร้างให้ หรือเนรมิตให้
โลกแห่งความเป็นจริงในแบบที่จะทำให้พวกคุณมีความสุขและพึงพอใจมากกว่า
เกิดขึ้นมาได้

จงเริ่มต้นยินดีต้อนรับประสบการณ์ต่างๆ
ที่พวกคุณเรียกกันว่า “ปาฏิหาริย์” เหล่านี้เสีย
เพื่อให้พวกมันเข้ามาสู่ชีวิตของพวกคุณได้มากขึ้นเรื่อยๆๆ

มันคือการเปลี่ยนแปลงในระดับที่มองไม่เห็น แต่ทรงพลังอำนาจ
ของการใช้พลังงานแห่งการจดจ่อของพวกคุณ

และจงจดจำเอาไว้ว่า จักรวาล,
โลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ,
และสนามพลังงานควอนตัม
จะเป็นไปในแบบที่สอดคล้องเหมาะสม
กับพลังงานที่พวกคุณส่งออกไปเสมอ

และมันก็ขึ้นอยู่กับระดับการยินยอมของพวกคุณด้วยว่า
จะยินยอมให้ปาฏิหาริย์มันเกิดขึ้น เร็วขึ้น หรือ ช้าลงแค่ไหน

จงจัดทำลิสต์รายการของสิ่งที่พวกคุณปราถนา
โดยเน้นไปที่ความรู้สึกที่มีต่อธรรมชาติของสิ่งเหล่านี้
ที่พวกคุณอยากจะให้เกิดมีขึ้นในชีวิตของพวกคุณ
(ตรงนี้ ก็น่าจะมีความหมายเช่นเดียวกับข้อความจากครายออน
เรื่อง Synchronicity กระมังครับ ที่ว่าให้ระบุแค่คุณสมบัติของสิ่งนั้นๆ
ที่เราต้องการเท่านั้น อย่าไประบุรายละเอียดเจาะจงลงไปมากนัก
เพราะว่ามันจะไปทำให้ synchronicity ทำงานไม่ได้
เพราะว่าบางทีจักรวาลอาจจะอยากจัดสิ่งที่ดีกว่านั้นมาให้เราก็ได้ – ผู้แปล)

แล้วจากนั้น ก็จงจินตนาการให้มองเห็นมัน จงรู้สึกถึงมัน
จงรู้สึกซาบซึ้งใจที่มันกำลังจะเกิดขึ้น
จงเฉลิมฉลองให้กับมันด้วยความรู้สึกขอบคุณ
ที่ความปราถนาที่พวกคุณไปจดจ่ออยู่นี้
กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิตของพวกคุณแล้ว
ในแบบที่มหัศจรรย์มากที่สุด
และบังเอิญแบบเหลือเชื่อมากที่สุดด้วย

และนอกจากนี้ ก็จงเตรียมตัวขอบคุณตัวเองด้วย
ที่ได้ยอมรับเป็นเจ้าของความสามารถของตัวเองแล้ว
เพราะว่าพวกคุณได้เรียกหา และ นำเอามาใช้
ซึ่ง “กฎแห่งจักรวาลของการสร้างปาฏิหาริย์” ข้อนี้แล้ว

พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้แบ่งปันถ้อยคำเหล่านี้แก่พวกคุณ
พวกเรารู้สึกยินดีกับระดับจิตสำนึกของพวกคุณ
และกับความสามารถของพวกคุณ ที่ได้ขยายตัวมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
จนสามารถที่จะนำไปใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบ
ของโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณได้อย่างแท้จริงแล้ว
พวกเรารู้ว่าพวกคุณจะขยายความสามารถนี้ออกไปอีก
เพื่อสร้างปาฏิหาริย์ต่างๆให้เกิดขึ้นในแวดวงที่กว้างกว่าขึ้นไปอีก
จนถึงระดับโลก

พวกคุณจะไปรวมตัวกับคนอื่นๆอีกมากมาย ผู้ที่รู้ความจริงข้อนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
แล้วใช้ความตั้งใจที่จดจ่ออย่างแน่วแน่นี้
และรวมถึง ใช้ความสั่นสะเทือนของอารมณ์ความรู้สึกของพวกคุณเอง
เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบของโลกของพวกคุณต่อไป

พวกเรามาที่นี่เพื่อเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จของพวกคุณ
และเพื่อให้ความช่วยเหลือพวกคุณ ในการกระทำต่างๆของพวกคุณ
ที่เป็นไปเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการมีชีวิตอยู่
และที่เต็มไปด้วยเจตจำนงค์ที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกผู้ทุกนาม
และจงรู้ไว้ว่าพวกเราคอยดูพวกคุณอยู่ และพวกเราก็รู้สึกขอบคุณพวกคุณด้วย


พวกเราคือ The Team
..........................................

 

อานิสงค์แห่งทาน พุทธองค์ตรัสว่า...

บุคคลใดเก็บทรัพย์ใว้ หวงแหนทรัพย์ใว้ ไม่ถ่ายเท ไม่ให้ทานแก่ผู้อื่น เปรียบเหมือนผู้เก็บข้าวเปลือกใว้ ไม่หว่านลงดิน ย่อมไม่ได้ผลฉันใด ทรัพย์นั้นย่อมหมดไปฉันนั้น แม้ตายไปก็นำทรัพย์นั้นไปด้วยมิได้...
แต่บุคคลใด ไม่หวงแหนทรัพย์ ให้ทานแก่บุคคลอื่น ถ่ายเททรัพย์ เปรียบเสมือนผู้หว่านพืชลงดิน ย่อมได้ผลมาก หนึ่งเมล็ดย่อมออกผลเป็นร้อยขึ้นไป บุญก็เช่นกันย่อมได้ผลมาก ยิ่งทำกับผู้มีศีลมากอานิสงค์ย่อมไพศาล ทำกับผู้มีศีลน้อย ย่อมได้ผลน้อย บุญที่ให้ทานแล้ว ย่อมติดตามไป ทั้งโลกนี้และโลกหน้า บุคคลผู้มีปัญญาย่อมสั่งสมบุญ อันมีทานเป็นต้น การสร้างวิหารทานอันเป็นที่ของสงฆ์ผู้มาจากทิศทั้งสี่ ย่อมมีอานิสงค์มากไพศาล แม้สูงขึ้นไปคือธรรมทาน ให้ธรรมะเป็นทานให้เขารู้บาป บุญ คุณและโทษ นรก หรือสววรค์ ที่สุดของทาน คืออภัยทาน ไม่คิดจองเวรไครแม้เขาทำร้ายถึงชีวิต มีจิตเมตตาอย่างเดียว ย่อมเข้าสู่สุคติโลกสวรรค์เป็นที่ไป แม้สูงขึ้นไปเป็นศีล และบำเพ็ญภาวนา ยิ่งทำได้มาก ยิ่งสั่งสมเอนกอนันต์ เปรียบเสมือนผู้ไม่ประมาทในชีวิต ผู้ยังเวียนว่ายในวัฏฏะสงสาร จนกว่าได้เข้าสู่มรรคผล นิพพาน ...

 

ววันนี้ผมมทำงานบนคอมพิวเตอร์ และกำลังจะเปิดไฟล์ๆนึงครับ แต่มือมันไวเกินไปดันไปกดไฟล์อื่นขึ้นมาผมก็เลยกดเครื่องหมายกากบาทปิดไฟล์นั้นลง แต่พอปิดไฟล์นั้นลงผมกลับเห็นไฟล์ที่ผมต้องการซ้อนอยู่ด้านหลังไฟล์ที่เพิ่งปิดลงไป ผมพยายามหาเหตุผลก่อนว่าเราไปคลิ๊กมันหรือเปล่าหรือมันเป็นไปได้ยังไง สิ่งที่จำได้ก็คือมีแค่ตาเท่านั้นที่มองมันอยู่แต่มือดันไปคลิ๊กไฟล์ที่ผิดขึ้นมาครับ วันนี้อ่านเรื่องปฏิหาร ถึงแม้มันจะเล็กน้อยแต่มันก็คือปฏิหารสำหรับผมครับ เรื่องประมานนี้เคยเกิดขึ้น 3 ครั้งบนหน้าจอคอมของผมแต่ไม่เหมือนกันเลยทีเดียวครับแต่ผมหาเหตุผลอื่นของการเกิดขึ้นไม่ได้ครับ เลยเอามาเล่าให้เพื่อนๆฟัง ก็ด้วยหวังว่าสิ่งที่พวกเราสนใจอยู่นี้มันมีความจริงสนับสนุนอยู่ครับ มันเกิดขึ้นจริง และจริงๆแล้วชีวิตผมก็มีเรื่องปฏิหารอื่นๆอีกแต่มันยาวครับเลยไม่อยากเล่าแค่จุดประสงค์ของการบอกก็เพื่อให้ทุกคนมีกำลังใจในความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ามีอยู่จริงครับ ปัจจุบันผมทำงานวันนึงไม่กี่ชั่วโมงโดยที่ไม่กลัวจะลำบากไม่มีเงินใช้เพื่อทดสอบว่าข้อความต่างมิติจะมีความน่าจะเป็นแค่ไหนครับ ผมกลับมีรายได้มากกว่าเมื่อก่อนที่ขยันทำงานอีกชีวิตมันเปลี่ยนไปครับมีอิสระมากขึ้นและรายได้กลับมากกว่าเดิม

 

ลืมบอกไปครับ ในระยะเวลาประมาณ 1 เดือนที่ผมเริ่มต้นเลิกทานเนื้อสัตว์ (มันเป็นแรงบันดาลใจจากข้อความต่างมิติเนี่ยแหละครับ) รายได้มันก็เข้ามาครับผมแทบไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลยครับมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ที่ผมเคยได้หลายเท่าตัว ไม่รู้มันคือความบังเอิญ ปฏิหาร หรือมันคืออะไรแต่ผมจะรอเรื่องต่อๆไปครับว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นอีก........

 

THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 2013
December 15-22, 2013
วันที่โพสท์ _Mon ,Dec/16/2013
ผู้แปล: อจิตตะ

ในขณะที่ช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่สุด(solstice)กำลังจะมาถึง
และจะส่งผลต่อสนามพลังงานของการเลื่อนระดับขึ้นไปของมวลมนุษย์
ที่แต่ละคนต่างก็กำลังเพิ่มขีดความสามารถมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา
ก็สืบเนื่องจากการปรากฏตัวของดินแดนแห่งคุณงามความดี
ที่ไหล่บ่าเข้ามาเพื่อเป็นการเปิดทางให้เหล่าปัจเจกทั้งหลาย
ที่กำลังเปิดจิตวิญญาณ ได้ download ข้อมูลจากเบื้องบน
เพื่อเพิ่มความถี่ของแสงสว่างและความรักในหัวใจ
ทั้งยังเพิ่มระดับปัญญาให้เฉียบคมยิ่งขึ้น
เพื่อจัดการกับความเปลี่ยนแปลงที่เริ่มมีนัยยะ
และส่งผลต่อชีวิตประจำวันของพวกเขา

นี่เป็นการเริ่มต้นของการปรากฏตัวในการเป็นสมาชิกของหมู่มวลมนุษย์
ที่มีสัมพันธภาพร่วมกัน มีการติดต่อซึ่งกันและกัน
และจะมีการแสดงออกมากยิ่งขึ้น
ในเรื่องของความสงบสุข ความรัก ความเมตตาและความปรารถนาดี
จากคนหนึ่งไปสู่อีกหลายคน
ที่จะทำให้มนุษย์เริ่มเข้าใจวัตถุประสงค์ที่แท้จริงในหลายๆเรื่อง
ที่พวกเขาเคยไม่เข้าใจมาก่อน.

"ความรัก"ที่ประกอบด้วยสติจะเริ่มส่องสว่างไปทั่วโลก
การรับรู้ในจุดมุ่งหมายที่แท้จริง
โดยการหยั่งรู้ของมนุษย์ที่มีการเพิ่มระดับขึ้นนั้น
จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้
เรื่องราวที่ไม่น่าเชื่อมากมายจะถูกเปิดเผยขึ้น
และเริ่มที่จะเข้ามาสู่จิตสำนึกของแต่ละคน
เพื่อสะท้อนถึงกระจกเงาของความรัก
ในการแสดงออกมากยิ่งขึ้นของจิตสำนึก
ในความสามัคคีของสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้

ผู้คนจะเลิกขลาดกลัวหรือเลิกรู้สึกว่าถูกจำกัด
ในการแสดงออกถึงความรักที่เต็มไปด้วยพลังที่อยู่ภายในใจของเขาในทุกขณะ
คุณภาพของความงดงามทั้งหลายภายในจิตวิญญาณที่เพิ่มมากขึ้น
จะแสดงออกมาภายนอกด้วย ความสุข สนุกสนาน
ทั้งเหล่าปัจเจกก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการเปลี่ยนวิถีทาง
ของการให้สิ่งดีดีแก่ผู้คนและตนเองเป็น “การลงมือกระทำ”
ต่อจากนี้ไป…การเป็น “ผู้ให้ก่อน” จะกลับกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา
ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เหล่าปัจเจกต่างก็เข้าใจดีอยู่แล้วว่า
“ผลของการเป็นผู้ให้ย่อมจะย้อนกลับมาสู่ตนอยู่ดี”

การตอบสนองด้วยการยกระดับกับคลื่นความถี่ที่สูงขึ้นของมนุษย์
ทำให้เรามองเห็นกฏของจักรวาลได้ชัดขึ้น
ทั้งผู้คนก็เริ่มพบว่ามันง่ายกว่าที่ผ่านมา
กับการลงมือปฏิบัติในระดับจิตที่ลึกที่สุด
และกับการจัดการกับความฝันที่แสนหวานนั้นด้วย
เพราะ“ความเข้าใจ”ของจิตวิญญาณแต่ละดวง
จะเป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งดีดีที่ปรากฏขึ้นในชีวิตของเขา
ซึ่งมันก็คือสิ่งที่เขาได้ปล่อยให้มันออกกลายเป็นจริงนั่นเอง
กฏของจักรวาลข้อนี้ย่อมมีผลต่อสรรพสิ่งเสมอ
แต่ด้วยความหนาแน่นของโลก
จึงทำให้ความเป็นจริงมันปรากฏออกมาช้าเกิน
แต่สำหรับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในตอนนี้
ซึ่งเป็นสิ่งที่วิเศษสุดของมวลมนุษยชาติ
ที่จะได้เห็นในขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่นี้
คือการยอมรับและรู้คุณค่าของ “ความจริงใจ”
โอ้ละหนอ…มันช่างสวยงามและแสนวิเศษเหลือเกินสำหรับโลกในจักรวาลนี้
และยังทำให้มนุษย์ต่างพากันเก็บความมีศักยภาพที่ดี
ไว้ภายในเซลล์และ ในระบบ DNAของเขา
ซึ่งนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการเปิดเผยที่เป็นธรรมชาติ
และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข

ทั่วโลกจะพากันเปล่งเสียงร้องขอ”ความสงบสุขและความสามัคคี”
จิตวิญญาณทั้งหลายที่เลือกที่จะเกิดใหม่ในลักษณะกายเนื้อนี้อีก
ต่างพากันตัดสินใจที่จะมีประสบการณ์ชีวิตที่ดีกว่า
เพื่อนำความสำเร็จมาสู่วัตถุประสงค์ที่เขาได้วางแผนไว้ในชีวิตของการเป็นมนุษย์

พลังงานของ”ความรัก”จะรับรู้ได้ว่ามีคลื่นความถี่ที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ทั้งยังมีความรุนแรงกว่าที่ผ่านมา
และเพราะสิ่งนี้แหละ...
ที่ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนภายในของแต่ละคนอย่างไม่คาดฝัน
จะรู้สึกได้ถึงความเป็นสมถะ และรู้ดีว่าอะไรคือโอกาสอันยิ่งใหญ่
ที่พวกเขาจะได้รับในภพชาตินี้ ในโลกใบนี้ และในขณะนี้
และสิ่งนี้...เท่ากับเป็นการช่วยฟื้นตัวคุณภาพของการแสดงออก
ของเหล่าปัจเจกชนให้สูงยิ่งขึ้น
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็อยู่ในระบบที่ได้รับการปฏิบัติการบนโลกใบนี้แล้ว

เหล่ามนุษยชาติจะเติบโตขึ้นไปพร้อม ๆ กับโลกใบนี้
โดยการเลื่อนระดับด้วยพลังงานที่กระจายไปทั่วสู่ทุกสรรพสิ่ง
ทั้งมีความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะแก้ไข
ในสิ่งที่ได้ทำความเสียหายไว้ต่อโลกและต่อพระแม่ธรณี
ด้วยความโลภและเห็นการแสวงหาความมั่งคั่งเป็นความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
และนี่เป็นหนทางที่ดีกว่าในการมองหาการจัดการที่จำเป็นต่อมวลมนุษย์
ที่ต้องอยู่ร่วมกันกับสรรพสิ่งด้วยความสามัคคีบนโลกใบนี้
ซึ่งทำให้เกิดความคล่องตัวและเห็นผลลัพธ์ของการใช้เทคโนโลยี่สมัยใหม่
ที่ทำให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกนี้ดูเรียบและอยู่ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
และผู้ที่ยอมรับกับความรู้ใหม่นี้ก็คือผู้ที่ตัดสินใจแล้ว
ที่จะมีอิสระในการแบ่งปันการปรับเปลี่ยนนี้สู่มิติที่สูงกว่าของจิตสำนึก
เพื่อให้บังเกิดผลอย่างรวดเร็ว
และนี่เป็นการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของกระบวนการเลื่อนระดับของโลกคุณเลยนะ...

Until next week…
I AM Hilarion
©2013 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of Grace
Permission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety and nothing has been changed, or altered in any way and Scribe's credit, copyright and website is included. WELCOME! - The Rainbow Scribe

Thank you for including the above website link when posting this message.

 

ขอเรียนเชิญพี่ๆน้องๆชาวแสงสว่างทุกท่าน
นัดมาทำสมาธิหมู่ร่วมกัน ในวันที่ 21/12/13
เวลา: 21:21 น. ณ.ที่พำนักของตัวเอง
เพื่อต้อนรับพลังงานของฤดูเหมายัน (Solstice)
ที่กำลังจะหลั่งไหลเข้ามาสู่โลกของเรานี้
เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกของเราให้ดีขึ้น
โดยให้ใส่ความตั้งใจไปว่าเราขอเป็นหนึ่งเดียวกัน
กับคนอื่นๆที่กำลังทำสมาธิอยู่ในขณะนี้ทุกๆคน
และให้จินตนาการว่าโลกของเราเต็มไปด้วย
ความรัก ความจริงใจ ความเห็นอกเห็นใจ
ความสงบสุข ความสามัคคีปรองดองกัน
ความมั่งคั่งร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์
ความสะอาดบริสุทธิ์ ความสวยสดงดงาม
และความมีสุขภาพที่ดี สมบูรณ์ แข็งแรง ของทุกผู้ทุกนาม
.................................................................

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: พวกคุณกำลังเอิบอาบอยู่ในสนามพลังงานที่พวกคุณไม่เคยประสบมาก่อน

ผู้รับสาส์น: Ron Head
วันที่: 12/12/2013

ที่มา: You are immersed in a field of energy that you have never experienced before. – channeled by Ron Head | Oracles and Healers



วันนี้พวกเราจะมาพูดถึงฤดูเหมายัน (Solstice) ที่กำลังจะมาถึง
ของพวกคุณกันซะหน่อย (Solstice คือ วันที่ 21/12/12 นี้ – ผู้แปล)
เพราะว่าพวกเราอยากจะให้มีพวกคุณจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เตรียมตัวเองให้พร้อมเพื่อรับมือกับเหตุการณ์นี้

มันเป็นความจริงที่ว่า พวกคุณมีฤดู solstice ทุกๆปีๆละ 2 ครั้ง
และมันก็เป็นความจริงที่ว่าสำหรับพวกคุณหลายๆคนแล้ว ถ้าไม่ใช่ส่วนใหญ่นะ
ก็จะรู้สึกว่าฤดูเหมายันของปีนี้ จะไม่มีอะไรแตกต่างไปจากของปีก่อนๆเลย

แต่พวกเราก็อยากจะบอกให้พวกคุณรู้ว่า
ตอนนี้พวกคุณกำลังอยู่ในส่วนหนึ่งของจักรวาล
ที่มีความพิเศษเฉพาะและไม่เหมือนใครโดยสิ้นเชิงอยู่
เพราะว่าพวกคุณกำลังเอิบอาบอยู่ในสนามพลังงาน
ที่พวกคุณยังไม่เคยประสบมาก่อน
และพวกคุณก็กำลังจะได้พบกับ
ความเข้มข้นรุนแรงที่มากขึ้นไปอีก
จนเกินกว่าที่พวกคุณจะตระหนักรู้ได้
ของสนามพลังงานอันนั้นอยู่ด้วย


ซึ่งแม้แต่พวกคุณบางคนที่มีญาณหยั่งรู้แบบต่างๆ
จนสามารถคาดหวังถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้
แต่ญาณหยั่งรู้เหล่านั้น ก็ยังจะไม่ช่วยให้พวกเขาเข้าใจ
ถึงผลกระทบของมัน ที่จะมีต่อตัวของพวกเขาเอง
และที่จะมีต่อโลกทั้งโลกของพวกคุณได้เลย

หลายๆคนที่สามารถรู้สึกถึงมันได้
แต่ไม่สามารถที่หาอะไรมาเทียบเคียงกับมันได้
ก็เลยแปลความหมายของมันออกมาในทางที่น่ากลัวแทน
แต่นั่นก็ไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใดเลย

พวกคุณหลายๆคน อาจจะรู้สึกราวกับว่า
ได้รับของขวัญที่ล้ำค่าและยิ่งใหญ่มา
จนเกินกว่าที่ตัวเองจะคู่ควร และนี่ก็ไม่ใช่ความจริงอีกด้วยเช่นกัน
เพราะว่าพวกคุณพากันตัดสินชี้ถูกผิดกันไปเอง
เพราะว่าจักรวาลไม่ได้ปฏิบัติการอยู่บนพื้นฐาน
ของการตัดสินชี้ถูกผิดแต่อย่างใดเลย
จักรวาลมีแต่จะปฏิบัติการอยู่บนพื้นฐานของเหตุและผล
(cause and effect) เท่านั้น

พวกคุณเป็นอะไรที่ มีข้อจำกัดในการสามารถจดจำ
“เหตุ” ทั้งหมดที่ตัวเองได้เคยกระทำลงไปแล้วได้
และพวกคุณก็เป็นอะไรที่ มีข้อจำกัด
ในการเข้าใจความเป็นจริงที่ว่า “จริงๆแล้วพวกคุณเป็นใคร” อีกด้วย

แต่พวกเราก็เห็นแล้วหละว่า
ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ของพวกคุณ
กำลังจะขยายตัวมากขึ้นอีกเล็กน้อยแล้วหละ ในอนาคตอันใกล้นี้

สิ่งที่พวกเราอยากจะให้พวกคุณ
นำไปพิจารณาและลงมือกระทำก็คือ
การหาเวลามานั่งสมาธิ ในวัน Solstice ที่กำลังจะมาถึงนี้
ซึ่งถ้าเป็นไปได้ก็ให้ทำสมาธิหมู่
แต่ถ้ามีความจำเป็นจริงๆก็ให้ทำสมาธิเดี่ยวก็ได้
และให้รับเอาพลังงานแสงสว่าง ที่จะหลั่งไหลเข้ามา
สู่โลกของพวกคุณในช่วงเวลานั้นด้วยความรู้สึกขอบคุณ

ถ้าในช่วงเวลานั้น พวกคุณกำลังนั่งสมาธิอยู่คนเดียว
ก็ให้ตั้งเจตจำนงค์เอาไว้ว่า ขอเป็นส่วนหนึ่งของคนทั้งโลก
ที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นก็ใช้ได้เหมือนกัน

แล้ววันเพียงวันเดียวนี้ ก็จะเปลี่ยนแปลงโลกของพวกคุณ
ให้ไปอยู่บนเส้นทางที่พวกคุณปราถนาได้เร็วขึ้น


ซึ่งเรื่องนี้เป็นความจริงเสมอ แต่ว่าพวกเรา และพวกคุณด้วย
ก็มักจะมองหาแต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ที่จะทำสมาธิหมู่แบบนี้เสมอ

ถ้าพวกคุณสามารถทำสมาธิหมู่ได้
ก็ขอให้ตั้งใจเอาไว้ว่าคนทั้งกลุ่มนี้เป็นคนๆเดียวกัน

ซึ่งด้วยวิธีการนี้ ก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นได้
และแน่นอนว่า พวกเราก็จะเฉลิมฉลองเหตุการณ์นี้ร่วมกับพวกคุณด้วย

นี่คือช่วงเวลาแห่งความเบิกบาน นี่คือช่วงเวลาแห่งความสงบสุข
นี่คือช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง
พวกเราขอโอบกอดพวกคุณด้วยความรักในช่วงฤดูกาลนี้

ขอให้มีวันที่สวยงาม


Archangel Michael
...........................................

 

ขอบคุณสำหรับข้อความดีๆ...ขอร่วมทำสมาธิตามวัน เวลา

 

แล้วมันจะส่งผลกระทบด้านอื่นยังงัยมั้งไหมเน้อ
วันที่ 21 ต้องขึ้นเครื่องเดินทางไกลซะด้วยสิ

 

21:21 น.
21:12 น.

เห็นเลขพวกนี้มาหลายเดือนแล้ว

 

ขอเรียนเชิญพี่ๆน้องๆชาวแสงสว่างทุกท่าน
นัดมาทำสมาธิหมู่ร่วมกัน ในวันที่ 21/12/13
เวลา: 21:21 น. ณ.ที่พำนักของตัวเอง
เพื่อต้อนรับพลังงานของฤดูเหมายัน (Solstice)
ที่กำลังจะหลั่งไหลเข้ามาสู่โลกของเรานี้
เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกของเราให้ดีขึ้น
โดยให้ใส่ความตั้งใจไปว่าเราขอเป็นหนึ่งเดียวกัน
กับคนอื่นๆที่กำลังทำสมาธิอยู่ในขณะนี้ทุกๆคน
และให้จินตนาการว่าโลกของเราเต็มไปด้วย
ความรัก ความจริงใจ ความเห็นอกเห็นใจ
ความสงบสุข ความสามัคคีปรองดองกัน
ความมั่งคั่งร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์
ความสะอาดบริสุทธิ์ ความสวยสดงดงาม
และความมีสุขภาพที่ดี สมบูรณ์ แข็งแรง
ของทุกผู้ทุกนาม
.................................................................

ผมได้ร่างขั้นตอนคร่าวๆเอาไว้แล้ว เพื่อจัดทำเป็นไฟล์เสียงหนะครับ
ซึ่งตอนนี้ไฟล์เสียงกำลังอยู่ในระหว่างการจัดทำอยู่
เสร็จแล้วจะเอาไปอัพโหลดไว้ที่ไหนซักแห่ง
เพื่อให้ทุกๆท่าน เข้าไปดาวน์โหลดได้นะครับ

เพราะว่า ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากจะให้พวกเราทำสมาธิ
ไปทีละขั้น พร้อมๆกัน เสมือนเป็นบุคคล คนเดียวกันเลย
เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ ที่น่าทึ่งมากที่สุดหนะนะครับ

แต่ว่า ถ้าหากท่านใดไม่ชอบ หรือไม่อยากจะทำตามขั้นตอนพวกนี้
ก็ไม่เป็นไรหรอกนะครับ แค่ตั้งใจจะนั่งสมาิธิร่วมกัน
เพื่อขอให้เกิดสิ่งดีงามขึ้นบนโลกใบนี้ ก็ดีมากอยู่แล้ว

ขั้นตอนการทำสมาธิที่ผมร่างไว้คร่าวๆ ก็จะประมาณนี้นะครับ
..................................................................

Script คร่าวๆสำหรับการทำสมาธิหมู่ในวันที่ 21/12/13 นี้
(ใช้เวลาทั้งหมด ประมาณ 30 นาที)

สวัสดีครับชาวแสงสว่างทุกๆท่าน วันนี้พวกเราจะมาร่วมใจกันทำสมาธิหมู่
เพื่อช่วยโลกของพวกเรากันนะครับ

แต่ก่อนอื่น ทุกๆท่านจะต้องทราบก่อนว่า คำบรรยายทั้งหมดในไฟล์เสียงชุดนี้
จำเป็นจะต้องใช้หูฟังฟังด้วยนะครับ เพราะว่ามันมีไฟล์คลื่นเสียงต่างๆอยู่ด้วย
ในช่วง 3 นาทีแรกนี้ พวกเราจะมาจดจ่ออยู่กับ ลมหายใจเข้าออกของตัวเองกันก่อนนะครับ
เพื่อให้พวกเราเริ่มมีสมาธิกันก่อน

(เริ่มเปิดไฟล์.. “Tibetan Chakra Meditations - 08.Sonic Massage” ความยาว 2:49 นาที)

ให้แต่ละท่านกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกของตัวเอง ตามความถนัดของใครของมัน
ให้ทำตัวให้ผ่อนคลาย นั่งหลังให้ตรง และจะต้องไม่เครียดเป็นอันขาด
ไม่ว่าคำแนะนำต่อจากนี้ไป ท่านจะทำได้มากน้อยแค่ไหนก็ตาม ก็ห้ามเครียด
ให้ปล่อยมันไป ให้เข้าใจสภาวะของตัวเอง ซึ่งถ้าหากท่านตามไม่ทัน
หรือทำตามไม่ได้ตามนั้น ก็ให้ยอมรับตัวเอง ให้รักตัวเอง และให้อภัยตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไข
เพื่อให้พลังงานของท่านสามารถรื่นไหลไปตามกระแสพลังงานของคนอื่นๆได้
เพราะว่าอารมณ์ความรู้สึกด้านลบทั้งหลาย ก็คือสิ่งกีดขวาง กระแสการไหล
ของพลังงานแห่งความรักดีๆนี่เอง

และขอได้โปรดจำไว้ว่า การทำสมาธิหมู่ในครั้งนี้ของพวกเรา
พวกเราจะผสานรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน เสมือนเป็นคนๆเดียวกัน
ดังนั้น ขอให้พวกเราทำตามขั้นตอนไปพร้อมๆกันทีละขั้นตอน เสมือนเป็นคนๆเดียวกัน
เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าทึ่งมากที่สุดนะครับ

(จบไฟล์เสียง... “Tibetan Chakra Meditations - 08.Sonic Massage”)
(เปิดไฟล์เสีย...”Morality Stream” ความยาว 11:16 นาที
แต่ให้เปิดไปจนถึงนาทีที่ 1:06 ก่อน แล้วค่อยเริ่มพูด)

เมื่อพวกเราเริ่มมีสมาธิกันแล้ว เราก็จะมาอาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์กัน
เพื่อขอให้มาช่วยเหลือพวกเรา ในการทำสมาธิหมู่ในครั้งนี้ ขอให้ทุกท่านตั้งใจฟัง
และน้อมจิตน้อมใจ คิดคล้อยตามไปด้วยนะครับ

“สาธุ ข้าพเจ้าขออาราธนา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระผู้เป็นเจ้า พระผู้สร้าง
ตัวตนที่สูงส่งกว่าของข้าพเจ้า เทพผู้นำทางของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระมหาโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย
ครูบาอาจารย์ของข้าพเจ้าทั้งหลาย ท่านมหาเทพเมตาตรอน ท่านมหาเทพมิคาเอล
พระแม่ไกอา และรูปธรรมชีวิตทรงภูมิปัญญาชั้นสูงแห่งแสงสว่างทั้งหลาย
ได้โปรดประทานพร ประทานพลัง ประทานแสงสว่าง และความรักแบบไม่มีเงื่อนไข
ให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด และขอได้โปรด มาร่วมในการทำสมาธิหมู่
ของพวกข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด
และขอได้โปรด ช่วยขยายความแรง และขยายความกว้างไกล
ของพลังงานแห่งความคิด อารมณ์ความรู้สึก ความรัก และแสงสว่าง ของพวกข้าพเจ้าทั้งหลาย
ที่กำลังจะร่วมใจกันแผ่ส่งออกมา เพื่อขอให้เกิดสิ่งดีงามขึ้น ในโลกของพวกข้าพเจ้าในครั้งนี้
ให้มีความเข้มข้นขึ้น และแผ่ขยายออกไปได้กว้างไกลมากขึ้น เป็นล้านๆเท่าด้วยเถิด
และขอได้โปรด ช่วยผสานรวมพลังงานของพวกข้าพเจ้าทั้งหลาย ทุกๆคน
ให้รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันด้วยเถิดเจ้าข้า สาธุ”

(ค่อยๆหรี่ และปิดเพลง ...”Morality Stream” ที่นาทีที่ 03:54 นาที)

เสร็จแล้ว พวกเราก็จะมาทำการเชื่อมต่อด้านพลังงาน กับพระแม่ไกอากันก่อนนะครับ
ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะว่าตัวเรากับโลกคือหนึ่งเดียวกัน
เราจะเริ่มด้วยการชำระสะสางจักระของเราก่อน ทีละจักระ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเชื่อมต่อที่ว่านี้

(เริ่มเปิดไฟล์ “Tibetan Chakra Meditations - 15.Crown Chakra” ความยาว 5:26 นาที)

ให้พวกเราจินตนาการว่า มีลำแสงสีขาวสว่างไสวเจิดจ้า พุ่งตรงลงมาจากเบื้องบน
จากพระผู้สร้าง ลงมาในแนวดิ่ง แล้วส่องลงมาที่กลางกระหม่อมของพวกเราพอดี
จนพวกเรารู้สึกถึงอะไรบางอย่างได้ ที่กลางกระหม่อมของตัวเอง ให้จดจ่ออยู่ที่
กลางกระหม่อมของตัวเอง สักครู่หนึ่ง แล้วให้จินตนาการว่าจักระที่ 7 ของเรา
มีดวงกลมๆของแสงสว่างสีขาวสว่างไสวเจิดจ้าอยู่ตรงนั้น

(ค่อยๆหรี่ และปิดไฟล์ “Tibetan Chakra Meditations - 15.Crown Chakra” ที่นาที่ 2:00 นาที)
(เริ่มเปิดไฟล์ “Tibetan Chakra Meditations - 14.Brow Chakra” ความยาว 3:14 นาที)

แล้วจากนั้นก็ให้เรานึกจินตนาการต่อไปว่า ลำแสงสีขาวนี้ พุ่งตรงต่อลงมายังจักระที่ 6 ของเรา
ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างคิ้วทั้งสองของเรา จนเรารู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนหรือแรงหน่วงๆที่จุดนั้น
ให้จินตนาการว่า จักระที่ 6 ของเรา มีดวงกลมๆของแสงสว่างสีขาว สว่างไสวเจิดจ้าอยู่ตรงนั้น

(ค่อยๆหรี่ และปิดไฟล์ “Tibetan Chakra Meditations - 14.Brow Chakra” ที่นาที่ 2:00 นาที)
(เริ่มเปิดไฟล์ “Tibetan Chakra Meditations - 13.Throat Chakra” ความยาว 5:07 นาที)

แล้วจากนั้น ก็ให้เรานึกจินตนาการต่อไปว่า ลำแสงสีขาวนี้ พุ่งตรงต่อลงมายังจักระที่ 5 ของเรา
ซึ่งอยู่ตรงกระดูกสันหลังบริเวณลำคอ ตรงข้ามกับลูกกระเดือกของเราพอดี แล้วจากนั้น
ก็ให้จินตนาการว่า จักระที่ 5 ของเรา มีดวงกลมๆของแสงสว่างสีขาว สว่างไสวเจิดจ้าอยู่ตรงนั้น

(ค่อยๆหรี่ และปิดไฟล์ “Tibetan Chakra Meditations - 13.Throat Chakra” ที่นาที่ 2:00 นาที)
(เริ่มเปิดไฟล์ “Tibetan Chakra Meditations - 12.Heart Chakra” ความยาว 3:26 นาที)

แล้วจากนั้นก็ให้เรานึกจินตนาการต่อไปว่าลำแสงสีขาวนี้ พุ่งตรงต่อลงมายังจักระที่ 4 ของเรา
ซึ่งอยู่ตรงกลางทรวงอก ภายในลำตัว ระดับเดียวกับหัวใจของเรา แล้วจากนั้นก็ให้
จินตนาการว่า จักระที่ 4 ของเรามีดวงกลมๆของแสงสว่างสีขาวสว่างไสวเจิดจ้าอยู่ตรงนั้น

(ค่อยๆหรี่ และปิดไฟล์ “Tibetan Chakra Meditations - 12.Heart Chakra” ที่นาที่ 2:00 นาที)
(เริ่มเปิดไฟล์ “Tibetan Chakra Meditations - 11.Solar Plexus Chakra” ความยาว 5:11 นาที)

แล้วจากนั้นก็ให้เรานึกจินตนาการต่อไปว่าลำแสงสีขาวนี้ พุ่งตรงต่อลงมายังจักระที่ 3 ของเรา
ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างสะดือของเรากับจักระที่ 4 ของเรา ซึ่งเป็นจุดที่เรียกว่า
Solar Plexus แล้วจากนั้นก็ให้จินตนาการว่าจักระที่ 3 ของเรามีดวงกลมๆของแสงสว่างสีขาว
สว่างไสวเจิดจ้าอยู่ตรงนั้น

(ค่อยๆหรี่ และปิดไฟล์ “Tibetan Chakra Meditations - 11.Solar Plexus Chakra” ที่นาที่ 2:00 นาที)
(เริ่มเปิดไฟล์ “Tibetan Chakra Meditations - 10.Sacral Chakra” ความยาว 3:54 นาที)

แล้วจากนั้นก็ให้เรานึกจินตนาการต่อไปว่าลำแสงสีขาวนี้ พุ่งตรงต่อลงมายังจักระที่ 2 ของเรา
ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ตรงข้ามกับสะดือของเราพอดี แล้วจากนั้นก็ให้จินตนาการว่าจักระที่ 2 ของเรา
มีดวงกลมๆของแสงสว่างสีขาวสว่างไสวเจิดจ้าอยู่ตรงนั้น

(ค่อยๆหรี่ และปิดไฟล์ “Tibetan Chakra Meditations - 10.Sacral Chakra” ที่นาที่ 2:00 นาที)
(เริ่มเปิดไฟล์ “Tibetan Chakra Meditations - 09.Root Chakra” ความยาว 5:36 นาที)

แล้วจากนั้นก็ให้เรานึกจินตนาการต่อไปว่าลำแสงสีขาวนี้ พุ่งตรงต่อลงมายังจักระที่ 1 ของเรา
ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ตรงปลายสุดของกระดูกสันหลังของเรา ตรงบริเวณก้นกบ แล้วจากนั้น
ก็ให้จินตนาการว่าจักระที่ 1 ของเรามีดวงกลมๆของแสงสว่างสีขาวสว่างไสวเจิดจ้าอยู่ตรงนั้น

(ค่อยๆหรี่ และปิดไฟล์ “Tibetan Chakra Meditations - 09.Root Chakra” ที่นาที่ 2:00 นาที)
(เริ่มเปิดไฟล์ “Chakra Delight - 16 - Uniting and harmonisation - The Return” ความยาว 2:54 นาที)

แล้วจากนั้น ก็ให้พวกเรา สัมผัสรู้ถึงจักระทุกๆจักระของตัวเอง พร้อมๆกันหมด
ในเวลาเดียวกัน และให้พวกเรา จินตนาการให้เห็นท่อลำแสงสว่าง ที่พุ่งตรงลงมาจากเบื้องบน
แล้วทะลุทะลวงลงไปสู่จักระ ทุกๆจักระของพวกเรา จนทำให้จักระทุกๆจักระของพวกเรา
สว่างไสวตามไปด้วย แล้วจากนั้น ก็ทะลุทะลวงต่อลงไปยังแกนกลางของโลก
ซึ่งเป็นคริสตัลใส และสว่างไสวเรืองรอง

ให้นึกง่ายๆว่า พระผู้สร้าง ก็คือดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ดวงหนึ่ง ที่ใหญ่มากๆ
และมีแสงสว่างสีขาวสว่างไสวเจิดจ้า พวยพุ่งออกมาอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ที่ว่านี้ ก็อยู่เหนือศรีษะของเราขึ้นไป ไม่สูงเท่าไหร่เลยด้วย
และด้วยเหตุนี้ ภาพในจิตของเรา เราก็จะเห็นว่า เบื้องบน เหนือศรีษะของเราขึ้นไปไม่สูงนัก
ก็จะมีดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ ที่สว่างไสวเจิดจ้าของพระผู้สร้างอยู่ และกำลังส่องลำแสง
สว่างไสวสีขาวเจิดจ้า ทะลุทะลวงตัวเราเองลงมา สู่แกนกลางของโลกอยู่ จนบัดนี้
ร่างกายของเราทั้งร่าง กลายเป็นแสงสว่างไปซะแล้ว ไม่เหลืออีกแล้ว
ความเป็นวัตถุธาตุที่หนาแน่นทึบตัน แบบที่มันเคยเป็นมาก่อน

และนับจากนี้ไป ก็ให้พวกเรา จดจำสภาวะนี้ของตัวเองเอาไว้ให้ดี
เพราะว่าเราจะพยายามคงอยู่ในสภาวะนี้ให้ได้ตลอด ทั้งในระหว่างการทำสมาธิในครั้งนี้
และหลังจากนี้ เมื่อเราใช้ชีวิตตามปกติด้วย

นี่แหละคือภาระกิจหนึ่งของพวกเรา ที่พวกเราอาสากันลงมาทำในภพชาตินี้หละ
ซึ่งก็คือการมาทำหน้าที่เป็นผู้นำเอาพลังงานจากเบื้องบนมาตรึงไว้กับเบื้องล่าง
ซึ่งก็คือดาวเคราะห์โลกดวงนี้นั่นเอง

(จบไฟล์ “Chakra Delight - 16 - Uniting and harmonisation - The Return” ที่ความยาว 2:54 นาที)

เมื่อพวกเราทำการเชื่อมต่อกับพระแม่ไกอาสำเร็จแล้ว ต่อจากนี้ไป
พวกเราก็จะเริ่มแผ่ส่งพลังงานไปช่วยโลกกัน

(เริ่มเปิดไฟล์ “Brain Sync - 01.Faith [Music + Theta Waves]” ความยาว 28:52 นาที)

ให้เรายังคงรู้สึกถึงการเชื่อมต่อกับพระแม่ไกอาอยู่ แต่ให้เราย้ายจุดจดจ่อสมาธิ
มาไว้ที่จักระที่ 4 ของเราแต่เพียงจุดเดียว ซึ่งถ้าใครที่จักระที่ 4 เปิดมากพอแล้ว
ก็จะสามารถสัมผัสถึงพลังงานที่เข้มข้นรุนแรงที่กำลังหลั่งไหลอยู่ตรงจุดนี้ได้
ซึ่งไม่ว่าท่านจะรู้สึกอะไรก็ตามที่ตรงจุดนี้ ก็ให้รับรู้ถึงมัน ให้ยอมรับมัน ให้รู้สึกขอบคุณมัน
เพราะว่านั่นคือกุญแจสำคัญ ในการทำให้มันมีมากขึ้นเรื่อยๆหละครับ

แล้วจากนั้น ก็ให้เรานึกแผ่แสงสว่างสีชมพู ซึ่งเป็นสีแห่งความรักและการบำบัดรักษา
ออกไปจากจักระที่ 4 ของเรา แผ่ส่งออกไปพร้อมๆกับความรู้สึกรักแบบไม่มีเงื่อนไข
ของเราเอง ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก เพราะจินตนาการบวกอารมณ์ความรู้สึก
จึงจะทำให้เกิดการเนรมิตขึ้นมาได้

ให้พวกเราแผ่ส่งแสงสว่างสีชมพูและอารมณ์ความรู้สึกแห่งความรักแบบไม่มีเงื่อนไขออกไป
ทุกทิศทุกทาง แผ่ออกไปให้กว้างไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ แผ่ออกไปให้โอบล้อมโลกใบนี้ไว้
จนมองเห็นว่าทุกๆอณูของอากาศของโลกใบนี้ เต็มไปด้วยแสงสว่างสีชมพูที่พวกเรากำลังแผ่ออกไปอยู่นี้

และให้พวกเราตระหนักรู้เอาไว้ด้วยว่า ในขณะที่พวกเรากำลังทำเช่นนี้อยู่นั้น
เบื้องบน เหนือศรีษะของเราก็คือพระผู้สร้างที่กำลังเชื่อมต่อกับเราอยู่
และดูพวกเราอยู่ และรวมถึงทวยเทพทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
ที่พวกเราได้อาราธนามาแล้วนั้น ก็กำลังให้ความช่วยเหลือพวกเราอยู่
ก็กำลังร่วมกับเราอยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้น แม้ว่าพลังงานของพวกเราอาจจะมีไม่เข้มข้นมากนัก
แต่พวกท่านเหล่านั้นก็กำลังช่วยทำให้มันเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิมอยู่ เป็นล้านๆเท่า
และพวกท่านเหล่านั้น ก็กำลังช่วยผสานรวมพลังงานของพวกเราแต่ละคน
ให้มารวมเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่ด้วย ดังนั้น ให้เรารับรู้ไว้เลยว่า ตอนนี้กระแสพลังงาน
ที่พวกเรากำลังแผ่ส่งออกไปอยู่นี้กำลังผสานรวมกับของคนอื่นๆทุกๆคนอยู่ตลอดเวลา

อันที่จริงแล้ว เพียงแค่ขั้นตอนที่พวกเราได้ทำไปแล้วนั้น ก็ถือว่าเป็นการเพียงพอแล้ว
เพราะว่าความรักแบบไม่มีเงื่อนไข ที่พวกเราแผ่ส่งออกไปแบบไม่ระบุจุดประสงค์แบบนั้น
มันจะไปเสาะแสวงหาประโยชน์สูงสุดต่อทุกผู้ทุกนามของมันเอง และมันก็จะไปผสานรวม
กับพลังงานชนิดเดียวกันนี้ จากที่อื่นๆด้วย จนกลายเป็นสนามพลังงานแห่งความรักแบบไม่มีเงื่อนไข
ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆในที่สุด

และพวกเราต้องตระหนักรู้ไว้ด้วยว่า กระแสพลังงานที่เราแผ่ส่งออกไปนี้
มันจะไม่มีวันหมดสิ้น แต่ในทางตรงกันข้าม ยิ่งเราแผ่ส่งออกไปมากเท่าไหร่
มันก็จะยิ่งไหลวนเวียนกลับคืนมาหาเรามากขึ้นตามไปด้วย เป็นเท่าทวีคูณ
และจงมั่นใจได้เลยว่า พลังงานแห่งความรักและแสงสว่างที่เราแผ่ส่งออกไปนี้
จะไปก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นแก่โลกใบนี้อย่างแน่นอน
โดยเฉพาะในทางที่เกี่ยวเนื่องกับความรักและการบำบัดรักษา
เพราะว่าพวกเราแผ่ส่งแสงสว่างสีชมพูออกไปนั่นเอง

ขอขอบพระคุณและขอกราบอนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะครับ

สวัสดีครับ
............................................

 

ขอบคุณมากๆ แล้วจะรอโหลดไฟล์นะครับ

 

จะพยามค่ะ

 

วันนี้ครับ ผมเห็นเลข คู่กันหลายรอบมากๆ 19:19 20:20 ผมก็เลยคิดในใจว่า มันคือไรเนี่ยจะบอกอะไรก็บอกมา แล้วไม่กี่ชั่วโมงต่อมาผมก็ มีเรื่องที่โชคดีมากๆ เป็นอีกครั้งกับ ความบังเอิญที่เหลือเชื่อที่แปลมาให้อ่าน แค่แวะมาเล่านะครับ ถ้ายังไม่เกิดกับตัวเองจังๆแบบนี้คงยังสองจิตสองใจแต่ตอนนี้เชื่อเต็มที่เลย ขอบคุณครับ ขอให้ทุกคนแข็งแรงสุขภาพดี

 

อาจารย์ โนวา อนาลัย กล่าวไว้ว่า

"เมื่อเราคิดอย่างไร เราก็รู้สึกอย่างนั้น"

เมื่อเรารู้สึก เราจะเปล่งพลังงานออกมาในโลกกายภาพ ตัดกับกาลเวลา

แท้จริงแล้ว ความรู้สึกจะพาเราไปสู่ โลกคู่ขนาน ให้คล้องจองกับความรู้สึกของเราเวลานั้น


:boo:

 

ผมอ่านดูแล้ว ขั้นตอนเยอะไปไหมครับพี่? แต่ผมจะร่วมขบวนด้วยล่ะกัน(ในแบบฉบับของผม5555)

 

จะเลือกใช้วิธีไหน หรือเวลาไหน ก็ได้ทั้งนั้นแหละครับ
เพียงแต่ว่า พลังงานของการทำสมาธิคนเดียว
มันจะได้ไม่มากเท่ากับการทำเป็นหมู่คณะเท่านั้นเองครับ

ดังนั้น ท่านมิคาเอลถึงได้บอกเอาไว้แล้วไงหละครับว่า
แม้ว่าเราจะทำคนเดียวก็ตาม ก็ให้เรานึกตั้งใจเอาไว้ว่า
เราขอเป็นส่วนหนึ่งของหมู่คณะ ที่กำลังทำสมาธิร่วมกันอยู่ในขณะนั้นๆ
ตามวัน-เวลาดังกล่าวนั้น เพื่อให้พลังงานของเรา
ไปผสานรวมกันกับของคนอื่นๆได้
นอกเหนือขอบเขตของช่องว่างและกาลเวลา

................................................