พระโพธิสัตว์เป็นพระอริยเจ้าได้ไหม ?

ขอขมาด้วยครับถ้าผมกล่าวผิด

ถ้าการเป็นพระโสดาบัน..ยังต้องไปอบาย

ท่าน..อนาถะ..และพระนางหลายท่านคงจะต้อง

หนาวๆร้อน..คงจะต้องบอกคำเดียวว่า

เด็ดดอกไม้ดอกหนึ่ง..สะเทือนถึงดวงดาว

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงแสดงว่าพระไตรปิฎกชุดนี้

ต้องถึงกับยกเลิกเลยน๊ะครับ.

 

การเป็นโสดาบันทำให้มีโอกาสหลุดพ้นได้ภายในเจ็ดชาติ แต่จะเกิดอีกกี่ชาติก็ได้ เพราะกำลังบารมีและแรงปรารถนาไม่ถดถอย จึงไม่เป็นข้อจำกัดของสายพระโพธิสัตว์ เหมือนการศึกษา แค่ตรีก็พอ แต่ถ้าด๊อกเตอร์ก็ต้องอุตสาหะเข้าไปอีก เป็นความเห็นส่วนตัวครับ

 

เอ้...แล้วการที่ tjs เคยบอกว่า พระพุทธเจ้า คือ อวตาร ของพระนารายณ์

เช่นนี้แล้ว ท่านที่ได้ชื่อว่าเป็นชาวพุทธ
ที่กำลังทำให้พุทธศาสนาเสื่อมสลายลงไปทุกขณะ หรือไม่อย่างไร

ดังนั้น วันหนึ่งๆ ท่านได้ปฏิบัติกระทำความเห็นตรงตามความเป็นจริง

ชื่อว่าเป็นการเคารพในสัจธรรม ได้สักข้อหรือไม่

ปฏิบัติมายังไงเนี่ยะ ขัดแย้งกันเอง

 

เริ่มต้นพระพุทธองค์จะเป็นอะไรไม่สำคัญ
แต่สิ่งสำคัญคือการที่ควรจะต้องรู้มากที่สุดคือ พระองค์ ปฏิบัติมาอย่างไร นี่คือแก่นแท้แห่งธรรม เพราะการที่เราทราบว่าพระองค์ปฏิบัติมาอย่างไร แล้วนั้นไซร้ จะเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญญา รู้แจ้งในวิธีการปฏิบัติ เพื่อการเดินตามรอยพระพุทธบาท เพื่อให้สามารถเป็นผู้ปฏิบัติที่สามารถก้าวล่วงไปสู่ความพ้นทุกข์ ได้

บุคคลผู้มีปัญญาย่อมทราบดีว่า ควรปล่อยวางเรื่องที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไร และย่อมรู้ดีว่าควรให้ความสำคัญกับเรื่องที่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไร หากยังไม่เข้าใจก็ควรรับฟังผู้อื่นที่อาจจะทำให้เกิดปัญญาเห็นทางเลือกที่ดีกว่า ก็จะเกิดประโยชน์แก่ตนสืบเนื่องต่อไปครับ สาธุ

 

==============

กรณีที่กระผมเคยตอบคำถาม ว่าพระพุทธเจ้าอาจจะเคยเป็น พระนารายน์ อวตาล นั้น กระผมก็ตอบโดยความเห็นส่วนตนและมิได้ประกาศให้ใครมายึดมั่นถือมั่นในเรื่องนี้ และกระผมเองก็มิได้ยึดมั่นอะไรเช่นกัน อนึ่งมันจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไร ความสำคัญคือเราควรรู้ว่าพระองค์สร้างบารมีมาอย่างไร ท่านปฏิบัติอย่างไร

สุดท้ายจึงอยากให้พิจารณาว่า ความเชื่อเรื่องการอวตาลของพระพุุทธเจ้านั้น เกี่ยวข้องอย่างไรกับ
1 ไม่เคารพพระพุทธเจ้า
2 ไม่เคารพพระธรรม
3 ไม่เคารพพระสงฆ์
4 ไม่ศึกษาพระธรรม
5 ไม่ปฏิบัติธรรม
ซึ่งหากพิจารณาแล้วไม่ได้เกี่ยวอะไรกัน เมื่อไม่เกี่ยวอะไรกัน ความเสื่อมของพระพุทธศาสนาก็ไม่เกี่ยวกันแต่อย่างใด

ผมขอสรุปให้เห็นแก่แท้จริงอันเป็นไปตามพระพุทธพจน์ว่า ให้ยึดเอาพระธรรม แทนพระพุทธองค์

การยึดเอาพระธรรมหมายถึง ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ หากเราชาวพุทธเจริญไตรสิกขา กระผมเชื่อว่าศาสนาพุทธจะไม่เสื่อมสลายไปไหนครับ สาธุ

 

tjs พิจารณาตนเองบ้างไหม พอเวลาใครมีคำถาม

tjs มักจะแถตอบไม่ตรงคำถาม เพียงเพื่อให้ดูดี เท่านั้นเองหรือ

ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญญาอะไรขึ้นมาได้เลย

สิ่งเหล่านี้นั่นแหละคือความเสื่อม

อย่างนี้ถ้าลองไปในสังคม ของผู้มีปัญญาเห็นต่าง อย่างเวบพันทิป ห้องศาสนา สมัยก่อนๆ หรือเวบบ้านธัมมะ

รับรองได้เลย tjs จะตอบดูดี ก็เพียงในพลังจิต ได้เท่านั้น

 

นั่นแหละ หากเป็นความเห็นส่วนตัว ก็ถือว่าเอาตนเป็นใหญ่
โดยไม่เอาธรรมเป็นใหญ่ ซึ่งเป็นสัจธรรมของผู้รู้แจ้งโลก

มีบ้างไหม ที่พระพุทธองค์ประกาศว่า พระพุทธองค์ทรงเป็นอวตาร

ของผู้นั้นผู้นี้ แต่พระองค์ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

หากผู้มีปัญญา จะไม่ตีหน้าเซ่อ มาถามหรอกว่า เกี่ยวอะไรกันกับ 5 สิ่งที่คุณได้ตั้งโจทย์ไว้

มีสติบ้างหรือป่าวนี่

 

ผมไม่ได้เฉไฉอะไร หากแต่ผมพูดเสียดแทงความจริง อันไปกระตุ้นต่อมทิฏฐิของบางท่าน ให้แตกกระจายออกมา ผู้ตั้งคำถามก็ต้องคิดดี ต้องฉลาดคิดในการที่จะถาม ในสิ่งที่เกิดประโยชน์ หรือคิดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างไร ครับ

หรือหากไม่ทันฉุกคิด ไม่มีเจตนาที่ไม่ดี เมื่อได้รับฟังคำตอบก็ควรจะยอมรับได้โดยง่ายเพราะไม่ได้มีทิฏฐิใดๆฉาบทาอยู่

ดังนั้นคำตอบผมก็ชัดเจนแล้วครับ ขอให้คิดดี ท่านก็จะเข้าใจได้ดีครับ สาธุ

 

ถ้าคนมีปัญญาน่ะ เค้าจะพิจารณาเลยว่า คนๆนี้ปฏิบัติมาได้อย่างไร ที่ว่า เป็นปัจจัตตัง ส่วนตน

จึงเข้าใจไปได้ว่า

พระพุทธองค์ เป็นอวตารของพระนารายณ์ หรือมีครูบาอาจารย์อะไรสอนสั่งมาได้อย่างนั้น

5 กระทง นั้น จึงพิจารณาได้เลยว่า คนๆนั้น ไม่แน่ว่าจะเหมาหมด

ปฏิบัติมาอย่างไรเนี่ยะ ?

 

กระผมยังมีความรู้ หรือความเห็นส่วนตัวอีกมากมายที่แม้คุณเองก็อาจจะไม่สามารถรู้เท่าที่กระผมรู้ แต่ความรู้ส่วนตัวที่กระผมมี ไม่ได้มีแก่นสาระสำคัญอะไร ยิ่งไปกว่าพระธรรมของพระพุทธองค์ เช่นเดียวกับเรื่องพระพุทธเจ้าอวตาล ซึ่งไม่ได้มีแก่นสาระอะไร และก็ไม่ได้ให้ยึดมั่นอะไร หากท่านเข้าใจท่านก็จะไม่ดื้อดันไปอย่างนี้ครับ

ท่านก็ยังคงตั้งคำถามและรู้ว่าผมจะตอบอย่างไรและรู้ว่าจะดื้อรั้นไปอย่างไร ทำไมผมจะไม่ทราบจิตใจท่านดี แต่มันก็เป็นจิตท่านไม่ใช่จิตผม จิตผมแม้จะรู้มาก แต่ก็วางลงแล้ว เพราะจิตนี้ไม่ได้ปรุงแต่งเรื่องใดๆอีกแล้ว จึงไม่ได้ทุกข์หรือสะเทือนใจอะไร จิตผมก็ยังคงมีสติปัญญา สงบนิ่งเป็นปกติครับ สาธุ

 

เนี่ยะ ดูตอบตรงนี้ก็มั่วมาก

"เพราะจิตนี้ไม่ได้ปรุงแต่งเรื่องใดๆอีกแล้ว จึงไม่ได้ทุกข์หรือสะเทือนใจอะไร"

คำตอบตรงนี้ ถ้าคุณเป็นพระอรหันต์ ผมจะเชื่ออย่าง 100% เลย

ผู้ยังไม่ใช่พระอรหันต์ จึงเป็นไปไม่ได้ ที่จะเข้าถึงความเป็น อสังขตธาตุ อสังขตธรรม

เหตุให้มีปัจจัยปรุงแต่ง จึงยังมีอยู่ เพราะมานะอวิชชา ยังต้องมีความหวั่นไหวในโลกธรรม

ยังไม่พ้นความเป็น อภิสังขารมาร ไปได้เลย

แต่สำหรับ tjs "เพราะจิตนี้ไม่ได้ปรุงแต่งเรื่องใดๆอีกแล้ว จึงไม่ได้ทุกข์หรือสะเทือนใจอะไร"

ให้ 1%+ เชื่อไม่สนิทใจ จริงๆ

 

ขออธิบายเพื่อเป็นธรรมทานว่า
อันใบไม้ในกำมือที่กระผมมี เกือบทั้งหมดเป็นใบไม้ใบเดียวกันที่มีในพระหัตถ์ของพระพุทธเจ้า และก็ไม่แปลกที่ใบไม่ในกำมือที่กระผมมีอีกส่วนน้อยส่วนหนึ่งนั้น ไม่ใช่ใบไม้ที่มีในพระหัตถ์ของพระพุทธองค์
ถึงแม้ใบไม้ต่างชนิดเหล่านั้นจะมีปรากฏบ้างเพราะบารมีที่สร้างต่างกัน กระผมไม่สามารถและไม่ควรไปเทียบเคียง

แต่กระผมก็รู้ดี มีสติปัญญาดีมากพอที่จะรู้จักแยกแยะว่าใบไม้ในกำมือส่วนใดที่มีแก่นสาระที่สำคัญควรหยิบยกขึ้นไปแสดงแก่ผู้อื่น ส่วนใดควรปล่อยวางไว้อย่างนั้น

มิใช้กระผมเท่านั้นที่มีวิถีเป็นเช่นนี้แม้เหล่าพระสาวกทั้งหลายส่วนมากก็เป็นอย่างนี้ เพราะปัญญา คือใบไม้ในกำมือนั้นย่อมมีส่วนที่แตกต่างกันอยู่บ้าง
แต่ผู้มีปัญญาก็ย่อมสามารถแยกแยะคัดเลือกสิ่งที่ดีงามยกขึ้นเป็นพระสัทธรรมค้ำชูเหล่าสรรพสัตว์ได้ นั่นเองครับ สาธุ

 

เอางี้สิ หากคิดว่าตนมีปัญญา

ลองไปสนทนาเอาทัศนะตนเองไปสอบทานกับผู้มีปัญญาอื่นๆดูบ้าง

เวบศาสนาไม่ได้มีแต่ พลังจิต หรอกนะ ไม่ใช่มาจมกับความรู้ที่ตนมี

 

ในเวป ผมไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากนักครับ

แต่ประสพการณ์ในการไปยังสถานปฏิบัติธรรมต่างๆ การได้ไปพบสถานที่จริง ของจริง พระสงฆ์จริงๆ ทั่วสารทิศ จึงเป็นสิ่งสำคัญซึ่งกระผมได้ท่องเที่ยวมามากแล้วนับไม่ถ้วนครับ ว่างๆจึงอยากเชิญชวนให้ไปท่องยุทธภพบ้าง ซึ่งจะทำให้ทัศนะท่านเปิดกว้างมากมากยิ่งขึ้นครับ

 

คุณต้องเข้าใจด้วยว่า ผู้ก่อตั้งเวบแต่ละเวบขึ้นมา เพื่อการเผยแผ่ มีบอร์ดสนทนาแลกเปลี่ยน ความเห็นถูกผิด ไร้พรมแดน

แต่การที่มาบอกว่า ตนมีประสบการณ์ไปยังสถานนั้นสถานนี้

ใช่ว่าคนอื่นเขาไปเคยไปอย่างคุณ ยุทธภพนี่ท่องมานักต่อนักแล้วขอรับ

อย่าทำให้เสื่อมไปกว่านี้เลย หากไม่เข้าถึงจริง คนที่รู้จักพิจารณาเขาดูกันออก

นั่นแสดงให้เห็นว่า เป็นการไม่รู้จักประมาณตน หรือที่เรียกว่า ไร้ซึ่ง "อัตตัญญุตา"

หรือเพียงเพื่อจะเปลี่ยนประเด็น คนละเรื่อง

"เพราะจิตนี้ไม่ได้ปรุงแต่งเรื่องใดๆอีกแล้ว จึงไม่ได้ทุกข์หรือสะเทือนใจอะไร"

 

อาจจะเป็นเพราะว่า tjs ยังสะสมบารมีมาน้อย จึงใส่ใจแต่เรื่องใบไม้นอกกำมือ

จึงไม่ใส่ใจในธรรมของจริง ที่พระศาสดาชี้ทางไว้ดีแล้ว เพื่อตรงต่อธรรม ที่มีในตน

 

=================

คุณนั้นไม่เปิดกว้างทางความคิด คุณนำน้ำผึ้งเพียงหยดเดียวมาเป็นเครื่องชี้วัด ความดีงามของคนอื่น ทั้งๆที่น้ำผึ้งหลวงของพระพุทธเจ้าและน้ำผึ้งบ้านของผม ย่อมต่างกัน

แต่ทำไมไม่มองว่า แล้วธรรมโดยส่วนรวมที่กระผมกล่าว มันผิดหลักธรรม หรือขาดความเป็นเหตุเป็นผลที่ดีงามอย่างไร

คนเราไม่ควรมองโลกในแง่ที่ร้ายเกินไป เพราะเพียงน้ำผึ้งหยดเดียว แม้น้ำผึ้งหยดเดียวที่ต่างกัน แต่มันก็คือน้ำผึ้งเหมือนกัน หากมีสติปัญญามากพอย่อมเข้าใจโดยง่ายรู้แจ้งโดยง่าย ย่อมวางลงโดยง่าย แต่เพราะสักกายะที่มีในตนที่ฉาบทาเอาไว้จึงทำให้มอดบอดอย่างนี้

อนึ่งที่ผมคุยเรื่องนี้กับคุณเพราะไม่ได้ต้องการเอาชนะหรือเพื่อสนองกับมานะทิฏฐิของตน แต่ที่คุยกันและหลายท่านที่อ่านโพสคงทราบดีว่า เหตุมันเกิดจากจุดใด ใครก่อไว้ แต่กระผมก็ไม่ได้สนใจตรงนั้น หากแต่คุยกันเพื่อแสดงเหตุผลที่เป็นจริงก็เท่านั้น ครับ

ดังนั้นก็สุดแต่คุณจะพิจารณาก็แล้วกัน เพราะเป็นเรื่องจิตของคุณเองครับ
ขอให้มีดวงตาสัมมาปัญญารู้แจ้งในธรรมครับ สาธุ

 

=============

ใครก็ไม่มีทางรู้ดีว่า ผมนั้นเลือกใบไม้แบบไหนเพื่อยกขึ้นเชิดชูเพื่อประโยชน์แก่ตนและแก่คนอื่น
ขอให้คุณหยุดยัดเยียดความเป็นโน่นเป็นนี่ให้ผมได้แล้ว ไม่มีใครจะมาบอกให้ผมเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ได้ เพราะแม้แต่กิเลสที่มีอำนาจควบคุมผมมาหลายภพชาติ ผมก็ทำลายชนะมาได้มากแล้ว จิตผมเป็นอิสระมากพอสมควรแล้ว เป็นที่พึ่งแก่ตนเองได้ตามสมควรแล้วจึงมีชัยชนะเหนือตนเองพอสมควรแล้ว
หากแต่คุณละ คุณนั้นได้พิจารณาตนเองบ้างหรือยังเพื่อจะได้รู้แจ้งเห็นจริง ในความจริงของตนครับ สาธุ