กำลังท่านเป็นอย่างไรในตอนนี้

เราเป็นเพียงสัตว์แห่งปถุชนคนธรรมดาที่บารมียังไม่แก่กล้า กำลังของความขันติ อุเบกขามีน้อยเหลือเกิน มีความเกิดขึ้นของความแตกแยกในสังคมแบ่งออกเป็นฝักฝ่าย มีความคิดว่าข้างนี้ที่ถูกต้องที่สุด เป็นธรรม ในสิ่งที่เราอยากได้ อยากเห็นให้มันเกิดความถูกต้อง พยายามหาเหตุผลข้อมูลว่าสิ่งที่เราได้รับมา มีน้ำหนักเพียงไรที่จะให้เราเชื่อได้สนิทใจว่าสิ่งที่เราคิดและเชื่อในการกระทำของบุคคลเหล่านี้ว่าเขาเหล่านั้นมีความจริงใจจริงๆ เราไม่มีฌาณหรือญานใดๆที่จะไปล่วงรู้ในสิ่งเหล่านี้ได้ถูกต้องตามความเป็นจริง เรามีเพียงแค่ความคิดจินตนาการ สามัญสำนึก สิ่ง หรือสื่อ ที่เราได้รับรู้มา ว่าสิ่งนี้ถูก ผิด นั้นเป็นประการใด เราจึงได้ปักใจเชื่อว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกต้องที่สุดแล้ว ความคิดนี้เกิดขึ้นได้กับสัตว์ปถุชนได้ทั่วไปในการนี้ก็สามารถแบ่งออกเป็นฝักฝ่ายได้ ความมีขันติอุเบกขา ย่อมส่งผลดีต่อคนประพฤติปฏิบัติ ที่ขึ้นชื่อว่าผู้ที่มีความเป็นอริยะรออยู่เบื้องหน้า แต่สำหรับผู้ที่ไต่เต้ากำลังสะสมอบรมปัญญา ศรัทธา วิริยะนั้น มองสิ่งเหล่านี้ว่า เราต้องกระทำเพื่อความถูกต้อง ให้คุณธรรมความจริงความสุข สงบให้เกิดขึ้นในสังคมให้ปรากฏ ในบางครั้งไม่มีกำลังจะไปกระทำการให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม เพียงมีใจจดจ่อในนามธรรมว่าต้องการสิ่งนี้ อยากให้เป็นแบบนี้ เพื่อให้ความสุข สงบ ยุติธรรมเกิดขึ้นในสังคม มันเป็นกุศลกรรมที่เกิดขึ้นกับจิตดวงนี้เป็นเหตุมาจากกุศลจิตคิดปรุงแต่งแห่งความมีอคติที่มีทัศนะคติที่แตกต่างจากฝ่ายตรงข้าม แม้เรามองว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่เราอยากให้มันเกิดขึ้นมา แต่สิ่งเหล่านี้มันได้ข้อมูลมาที่ผิด แต่เรามีความจริงใจที่จะให้มันสงบสุข ในบางครั้งเราอาจจะทำในสิ่งที่เราคิดว่าถูกแต่มันผิด เราไม่มีกำลังที่จะไปพาสัตว์บุคคลทั้งหลายให้มีความคิดเห็นที่เป็นจริงหนึ่งเดียว ได้อย่างเดียวกันเป็นเอกฉันท์ เราเพียงได้มองดูสิ่งที่ว่ามันถูก มันผิด ด้วยกำลังอันน้อยนิดว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง เป็นกรรมของสัตว์บุคคลที่ได้กระทำมันขึ้นมาในปัจจุบัน หรือร่วมกันแล้วจากอดีต ปล่อยไปตามกรรมของธรรมชาติที่สร้างสรรค์ ให้สัตว์นั้นได้เวียนว่ายในวัฎฎะได้เป็นสีสันแห่งความมีอยู่ในโลกธาตุให้แสดงความมีตัวตนยึดมั่นในสิ่งที่สัตว์กระทำตามเหตุปัจจัยที่ตนเองได้อบรมกระทำตามกำลังกุศล อกุศลต่างๆ ผู้มีสติปัญญาบารมีแก่กล้าแล้วเท่านั้นจึงมองเหตุเหล่านี้ได้ว่าควรจะกระทำตนเองให้ถูกที่ถูกทางในเหตุสมควรแห่งกาลว่าจะกระทำตนเองให้อยู่ในสถานะใด เราแค่เพียงภาวนาว่าอยากให้สังคมในโลก มีความสุขสงบ มีความเห็นเป็นอยู่ ความคิดที่มีความเห็นเหมือนกันรู้ในสิ่งที่ถูกต้อง ให้สิ่งที่ถูกต้องเป็นจริงปรากฏ แล้วสิ่งที่ถูกต้องที่สุดในความมีตัวตนนั้นควรทำอย่างไรเพื่ออะไรแล้วกำลังของพวกท่านล่ะเป็นอย่างไร

 

เป็นโอกาสที่ดีที่เราได้รู้ว่า พระโพธิญาณยังไม่คู่ควรแก่เรา ณ ตอนนี้
เรายังต้องผ่านหนทางแห่งการบำเพ็ญอีกไกล แต่ก็ต้องไป และไม่ย่อท้อ

ในฐานะปุถุชน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมรับสิ่งที่เราคิดว่าไม่ถูกต้อง
ถือโอกาสนี้สำรวจใจตัวเองว่า

ทานมีพอไหม ที่จะให้อภัย
ศีลมีพอไหม ที่จะไม่ด่าทอว่าร้าย
เนกขัมมะมีพอไหม ที่จะไม่สนใจเรื่องวุ่นวายของโลกนี้
ปัญญามีพอไหม ที่จะสั่งสอนตัวเอง และ เข้าใจความจริงที่สูงขึ้นไป
วิริยะมีพอไหม ที่จะไม่ยอท้อต่อวิถีพระโพธิญาณ
ขันติมีพอไหม ที่จะรับฟังความเห็นต่าง
สัจจะมีพอไหม ที่ต้องเดินให้ตรงทางแห่งพระโพธิญาณ
อฐิษฐานมีพอไหม ที่เป้าหมายแห่งเราคือพระโพธิญาณ จะไม่วอกแวก
เมตตามีพอไหม ที่จะอภัยและมีไมตรีได้ในผู้ที่เห็นเหมือนและเห็นต่าง
อุเบกขามีพอไหม ที่จะทนเห็นความเดือดร้อนของสรรพสัตว์ ซึ่งเกิดจากเวรและกรรมของพวกเขาเอง

แต่ในฐานะพระโพธิสัตว์ เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ บำเพ็ญบารมีต่าง และวางตัวให้สม สำหรับผู้ที่จะต้องเป็นบรมครูของมนุษย์ และ เทวดา ในอนาคตกาล

 

สั้นๆ อยากฆ่าไอ่เหลี่ยม

 

... สงสารคนไทย ถูกเขาเสี้ยมสอนให้แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งพรรคแบ่งพวก โกรธเกลียดชิงชังกันเอง ทำลายความสามัคคีของคนในชาติ บั่นทอนความเข้มแข็งของไทยไปเยอะ

... คนไทยยุคนี้เป็นยังไงไม่รู้ เหมือนจะฉลาดแต่ทำไมให้เขาเป่าหูจูงจมูกไปตามความชอบใจได้ง่ายๆเหมือนคนไร้การศึกษาก็ไม่รู้ น่าจะคิดเองได้แล้วนะว่าผิดชอบชั่วดีอย่างไร

... แต่ก็น่าจะให้พวกแกนนำมาต่อยกันเลย จะสากล มวยไทย หรือคาดเชือกตามแต่ถนัด เอาให้ตายไปข้างหนึ่งเลย จะได้รู้แล้วรู้รอดกันไป จะได้ไม่เดือดร้อนกันทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างนี้

... ขอพระบารมีคุณพระศรีรัตนตรัย พรหมและเทวดาทั้งหมด พระสยามเทวาธิราช บูรพมหากษัตราธิราชเจ้าทุกพระองค์ บรรพบุรุษไทยทั้งหมดที่พลีชีพเลือดเนื้อปกป้องประเทศไทยให้อยู่เย็นเป็นสุข เป็นเอกราชตราบเท่าทุกวันนี้ จงช่วยปกป้องบ้านเมืองให้ผ่านวิกฤติไปได้ด้วยดี ใครคิดร้ายทำลายประเทศไทย ขอจงฉิบหายตายโหงตลอดเจ็ดชั่วโคตรภายในสามวันเจ็ดวันอย่าพลันช้าที ถ้าหากบุญมันยังมีก็จงอย่าเกินสามปีเถิด สาธุ สาธุ สาธุฯ.

 

ผมก็เป็นหนึ่งในโพธิสัตตั้งใจไปการเมืองอีกไม่กี่เดือนจบการปกครองเเล้ว
เเน่นอนพวกเราต้องไปด้วยกัน ผู้นำของเราอายุใกล้เคียงกันกับผมที่ได้ยิน
มา30อัพ รอหน่อยเเล้วกัน

 

ใจจริงก็อยากทำอะไรกับการเมืองนะครับเเต่ผู้ใหญ่ให้อยู่เงียบเงียบก่อนรอให้พร้อมค่อยลุย ใช้มโนถามนะครับข้างบน

 

quote=ธัมมะสามี;8582376]... สงสารคนไทย ถูกเขาเสี้ยมสอนให้แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งพรรคแบ่งพวก โกรธเกลียดชิงชังกันเอง ทำลายความสามัคคีของคนในชาติ บั่นทอนความเข้มแข็งของไทยไปเยอะ

... คนไทยยุคนี้เป็นยังไงไม่รู้ เหมือนจะฉลาดแต่ทำไมให้เขาเป่าหูจูงจมูกไปตามความชอบใจได้ง่ายๆเหมือนคนไร้การศึกษาก็ไม่รู้ น่าจะคิดเองได้แล้วนะว่าผิดชอบชั่วดีอย่างไร

... แต่ก็น่าจะให้พวกแกนนำมาต่อยกันเลย จะสากล มวยไทย หรือคาดเชือกตามแต่ถนัด เอาให้ตายไปข้างหนึ่งเลย จะได้รู้แล้วรู้รอดกันไป จะได้ไม่เดือดร้อนกันทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างนี้

... ขอพระบารมีคุณพระศรีรัตนตรัย พรหมและเทวดาทั้งหมด พระสยามเทวาธิราช บูรพมหากษัตราธิราชเจ้าทุกพระองค์ บรรพบุรุษไทยทั้งหมดที่พลีชีพเลือดเนื้อปกป้องประเทศไทยให้อยู่เย็นเป็นสุข เป็นเอกราชตราบเท่าทุกวันนี้ จงช่วยปกป้องบ้านเมืองให้ผ่านวิกฤติไปได้ด้วยดี ใครคิดร้ายทำลายประเทศไทย ขอจงฉิบหายตายโหงตลอดเจ็ดชั่วโคตรภายในสามวันเจ็ดวันอย่าพลันช้าที ถ้าหากบุญมันยังมีก็จงอย่าเกินสามปีเถิด สาธุ สาธุ สาธุฯ.

อือ น่าจะเดี่ยวกันตัวต่อตัว อย่างที่ว่านะ

แต่ว่าไม่ค่อยมี มันมีแต่ยุให้คนอื่นไปตาย แล้วตัวเองคอยจะเผ่นท่าเดียว ไม่ยักกะพาคนอื่นเผ่นด้วย ผู้ใหญ่ขัดแย้งกันแล้วก็พาเด็กเล็กๆมาด้วยเห็นมีไม่ใช่น้อยเลย สงสารเด็กเล็กๆนะไม่รู้ว่าจะลำบากกันแค่ใหน

 

เหตุการณ์บ้านเมืองในตอนนี้เหมือนกับในพุทธกาลที่พระเทวทัตทำสังฆเภท พาพระสงฆ์

บริวารแยกออกไปตั้งศาสนาใหม่ยกตัวขึ้นเป็นพระพุทธเจ้า ภายหลังพระพุทธเจ้า่ส่งอัคร

สาวก ซ้าย,ขวา ไปเกลี้ยกล่อมบริวารพระเทวทัตจนกลับใจ นี่แหละคือการต่อสู้อหิงสาคือ

การใ้ห้ปัญญาแก่ฝ่ายตรงข้าม

 

แล้วแต่จะจินตนาการ ว่ากันไป

 

เป็นเรื่องของโลก...ถ้ามองดี ๆ โลกนี้เคยเป็นที่บำเพ็ญเพียร ของท่านทั้งหลาย แต่ก็เป็นดงกิเลส เป็นป่ารกแห่งกิเลส เอาคนมีกิเลสมาอยู่รวมกัน เอาคนมีกิเลส มาปกครอง คนมีกิเลส มีหรือที่จะไม่วุ่นวาย...หากเอาคนมีธรรม มากำหลาบ มนุษย์กิเกสเหล่านี้ ย่อมเป็นไปในอีกทางหนึ่ง...

ถูก-ผิด เหลือง-แดง จริง-เท็จ ใช่-ไม่ใช่
ใครเล่ากำหนด ก็มนุษย์ คิดเอาเอง เชื่อเอาเอง กำหดกันไปเอง และ ก็ พากันยึดมั่นไปตามนั้น ตามความคิดตน ตามใจตน บ้างก็เอาวิถีแห่งสังคมมากำหนดผู้อื่น ให้เห็นไปตามตนเอง เข้าใจไปตามตนเอง เมื่อไม่เป็นไปตามกระแสสังคม ก็วิวาทกันบ้าง หาว่าผู้อื่นบ้า บ้าง เพราะคิดไม่เหมือนตนเอง.....

ก็เป็นเรื่องของผู้คน ที่ไปตามคำบัญชาของกิเลสในใจตน ก็แค่นั้นเอง....
อุปโหลกเอา อุปทานไปเองว่า ถูก-ผิด สมมุติไปเอง ว่าคนนั้้เป็นไอ้นั่น คนนี้เป็นไอ้นี่
กลายเป็น เหลือง-แดง
catt15 catt8
มองเห็นสีอะไรกันบ้างหรือ

 

เพราะความไม่รู้ทั้งนั้นชักนำไป..สังคมของเราทุกวันนี้ถูกชักจูงโดยข้อมูลที่บิดเบือนเสมือนจริงมานานแล้ว..มันบิดเบี้ยวผิดเพี้ยนเพียงเพราะนักการเมืองไม่ยอมรับเงื่อนไขกันเอง จึงกระทำทุกวิถีทางเพื่อดึงมวลชนคนรักชาติมาเป็นพวกของตนให้มากที่สุด..เพียงเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง..เมื่อก่อนอ่านเกมส์การเมืองไม่ออก แต่พออกมาเป็นผู้ดูจึงมองเห็นอะไรๆได้อย่างชัดเจนค่ะ

 

อ่อนแรงลงทุกทีๆ ทั้งด้านความดีและความชั่ว ไม่อยากทำอะไรเลย...เหนื่อยเหลือเกิน แต่ก็ต้องฝืนเดินต่อ

 

กำลังใจเป็นรูปแบบเฉพาะตนใช่จะเห็นชอบตรงกันได้หมดปัจจุบันขณะจะเร้าการบำเพ็ญของเราเองตามวาสนา^_^

 

กำลังใจตอนนี้อยู่กับปัจจุบัน..มองสถานการณ์รอบตัวก็สามารถจะรับมือได้ในหลายๆเรื่องมึสติมากขึ้นและสุดท้ายมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้นค่ะ

 

ถึงจะเป็นยังไงเราก็ต้องต่อสู้ ไม่ถอย เดินตามพุทธโอวาทที่พระองค์ทรงประทานไว้ เมื่อเจออุปสรรค ก็ฟันฝ่าอุปสรรคนั้น ด้วยกำลังของสติและปัญญา ผมเชื่อในใจว่า ธรรมย่อมชนะอธรรมเสมอ ไม่ว่ายุคใด สมัยใด

 

เพราะไอ้หน้าดำคนเดียว อะไรก็ไม่เอา ความถูกต้อง จะเอาความบ้าของตัวเองฝ่ายเดียว สั่ง รร หยุด สั่งข้าราชการหยุดไม่ต้องทำงาน สั่งนายกปูออกนอกประเทศ ไม่รู้จะบ้าถึงไหน ขาดสติสิ้นดี นึกว่าประเทศเป็นของมันคนเดียว ชาวต่างชาติงงไปหมด ได้แต่นึกถ้าเป็นประเทศกรู เมิงหม่องเซ็กไปนานละ พวกเต้าแย้วๆๆ นึกแล้วก็น่าสงสาร ไม่รู้ที่เต้นอยู่ถูกหรือผิด ยุบสภาก็ไม่เอา ลาออกก็ไม่เอา บ้าตามมันอยู่ได้ ประเทศชาติเลยเคว้งคว้าง เมื่อไหร่มันจะตายซะที

 

กำลังเราตอนนี้กำลังแย่ เต็มที่ เพราะรอบข้างเต็มไปด้วยคนบ้า ทำเอาหนาวๆร้อนๆเหมือนกัน แต่ยังไงก็อย่าลืมพุทธานุสติละกัน เด๋วหลวมตามพวกมัน

 

พอเข้าเวปพลังจิต ตรงด้านขวามุมบนจะมีรูป สมเด็จองค์ปฐม แห่งวัดอุทัยธานี เรียกแต่วัดหลวงพ่อฤาษี เลยลืมชื่อวัดเลย ท่านองค์ใหญ่ขื้น ดูสวยขึ้นมาก ขอบคุณท่านเวปบอร์ดที่ขยายใหญ่ให้ดูชื่นตา เป็นบุญตา

 

วัฏฏสงสาร วนเวียนไปมา เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น สุดท้ายเอาอะไรไปด้วยไม่ได้สักอย่าง มีแต่บุญกับบาปติดตัวข้ามภพ ข้ามชาติกันไป ใดๆในโลกล้วนไม่เที่ยงแท้ อนิจจัง โลกนี้เช่นเวทีที่ต่อสู้ ธรรมกับอธรรมต่อกรกันอยู่ กุศลกรรมกับอกุศลกรรมช่วงชิงกันส่งผลอันไหนได้ช่อง ก็ส่งเป็บวิบากศักดิ์สิทธิ์แก่คนนั้นๆ บางคนบาปอกุศลได้ช่องก็หลงมัวเมา เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ถ้ากุศลกรรมได้ช่องส่งผลก็ทำแต่สิ่งมีประโยชน์เป็นบุญบารมีแก่ตนเองและบุคคลอื่นหรือโลกใบนี้ ไม่เบียดเบียนใคร ........ ใครทำกรรมอันใดไว้ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นก็ ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว อัตตนา โจทยัตตานัง จงเตือนตนด้วยตนเอง เพื่อเตือนสติตนเอง ก็จะทำให้เราดีขึ้นหรือมีปัญญา พละกำลังฯ ต่างๆเพื่อสร้างบารมี บุญกุศลแก่ตนเองและบุคคลอื่น สิ่งไหนที่ไม่ดีหรือเป็นบาปอกุศลก็ต้องหยุดหรือละเว้นเสีย หรือที่ไปสร้างเวรสร้างกรรมแก่ตนเองหรือส่วนรวม.....การเจริญเมตตาแผ่บุญกุศลไปแบบไม่มีประมาณให้เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ให้มีความสงบสุข ร่มเย็น มีความรักความเมตตาต่อกัน ฯลฯ ก็จะทำให้จิตใจเราและบุคคลอื่นสงบร่มเย็นได้ มีธรรมะคำสอนของหลวงพ่ออยู่องค์หนึ่งท่านสอนหรือกล่าวได้น่าคิด พิจารณา ดังนี้

"ในแต่ละวันเมื่อเจอใครก็ตาม ให้มองหาความดีของเขาให้ได้ ถ้าเรามองคนอื่นมีความดี แสดงว่าใจเราสะอาดเพียงพอ ใจจะซึบซับแต่สิ่งที่ดีๆ ถ้ามองอะไรไม่ดีต้องมาฟอกใจใหม่ การปฏิบัติธรรมคือ.....การฟอกใจ ขยันฟอกใจตัวเอง เราจะได้สิ่งที่ดีๆ มาใส่ตัว" ...เจริญในธรรมครับ

 

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/uLFAUtw-q20" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>