สรุปยอดกฐินไตรประทานฯ วัดโพธิญาณรังสี หน้า ๗ ค่ะ ..

ในห้อง 'กฐิน - ผ้าป่า - งานวัด' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 22 สิงหาคม 2013.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. id_idea

    id_idea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    577
    ค่าพลัง:
    +1,564
    เนื่องด้วย สมเด็จพระฌาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่19 สิ้นพระชนม์
    ในวันที่ 24 ตุลาคม 2556 เวลา 19.30น. พระชันษา 100 ปี
    ข้าพเจ้าในนามพุทธบริษัทที่ได้รับพระเมตตาประทานผ้าไตรกฐิน เพื่อทอดถวาย ณ วัดโพธิญาณรังสี ปี2556
    ข้าพเจ้าขอน้อมกราบขอขมากรรมทั้งหมดอันเกิดจาก กาย วาจา ใจ ก็ดี ทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ดี
    ที่ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินท่านไปไม่ว่าจะในภพชาติใดก็ตามต่อองค์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
    ขอพระองค์ได้โปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด บุญกุศลใดๆที่ข้าพเจ้าได้สั่งสมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ขอน้อมถวายสักการะบูชา และกราบนมัสการลาส่งเสด็จสู่แดนพระนิพพาน เทอญ

    "เมื่อมีเหตุย่อมมีผล เมื่อทำเหตุย่อมได้รับผล และผลย่อมตรงตามเหตุเสมอ ผู้ใดทำผู้นั้นจักเป็นผู้รับผลเที่ยงแท้แน่นอน
    ชีวิตนี้น้อยนัก ฉะนั้นเราจึงต้องรีบขวนขวายสร้างเหตุแห่งความดีไว้เสมอๆ"

    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2013
  2. Paktawadee

    Paktawadee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2012
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,570
    "เมื่อมีเหตุย่อมมีผล เมื่อทำเหตุย่อมได้รับผล และผลย่อมตรงตามเหตุเสมอ ผู้ใดทำผู้นั้นจักเป็นผู้รับผลเที่ยงแท้แน่นอน
    ชีวิตนี้น้อยนัก ฉะนั้นเราจึงต้องรีบขวนขวายสร้างเหตุแห่งความดีไว้เสมอๆ"

    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช[/QUOTE]

    ข้าพเจ้านางพักตราวดี ถมกลาง พร้อมครอบครัวขอน้อมกราบนมัสการส่งเสด็จสู่สวรรค์แดนพระนิพพาน และ ข้าพเจ้าขอน้อมกราบขอขมากรรมทั้งหมดอันเกิดจาก กาย วาจา ใจ ก็ดี ทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ดี
    ที่ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินท่านไปไม่ว่าจะในภพชาติใดก็ตามต่อองค์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ขอพระองค์โปรดงดโทษให้แก่ข้าพเจ้าและครอบครัวด้วยเทอญ
     
  3. Dueanchai

    Dueanchai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +54
    โมทนาบุญกับน้องทั้งสองและทุกๆท่านที่มีจิตเป็นกุศลด้วยค่ะสาธุ... พีเดือนกำลังรวบรวมกองบุญอยู่จ๊ะ
     
  4. Dueanchai

    Dueanchai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +54
    ในนามกองบุญแก้วบรมจักรพรรดิ ร่วมบุญกฐินสร้างหน้าบรรณโบสถ์ เป็นจำนวน ๑๖,๕๙๙ บาทค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
    โมทนาบุญด้วยค่ะสาธุ ...
     
  5. id_idea

    id_idea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    577
    ค่าพลัง:
    +1,564
    โมทนาบุญด้วยนะคะพี่เดือน สาธุค่ะ
     
  6. id_idea

    id_idea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    577
    ค่าพลัง:
    +1,564
    รายชื่อผู้ร่วมบุญกฐินสร้างลวดลายหน้าบรรณโบสถ์ วัดโพธิญาณรังสี
    คุณสุเพียว สายยศ และครอบครัว ร่วมบุญ500บาท
    เพื่อนคุณหมู ร่วมบุญ300บาท
    คุณนก และครอบครัว ร่วมบุญ300บาท
    คุณศิรภัทร โรจนฤทธิกร และกัลยาณมิตร ร่วมบุญ200บาท
    คุณกานต์ ร่วมบุญ1,000บาท
    คุณสิริณญา อารีรัตน์ และครอบครัว ร่วมบุญ100บาท

    ขอผลบุญนี้จงส่งผลให้กำลังใจของท่านและครอบครัวจงเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
    ถึงความพร้อมทุกเมื่อ และมีความบริบูรณ์สมบูรณ์ ไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่องนับแต่นี้เป็นต้นไปจนตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานนะคะ ขอโมทนาบุญด้วยค่ะ
     
  7. Dueanchai

    Dueanchai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +54
    คุณยายสมพงษ์ พงษ์ประเสริฐ ร่วมบุญมากลับพี่เดือน 100 บาท
    คุณจิตต์ปรื้ม ทรงทิมไทย และครอบครั ร่วมบุญมากลับพี่เดือน 500 บาท
    เงินทั้งหมดจะรวบรวมไปให้ 10 พ.ย 2556 จ้า
    ขอโมทนาบุญด้วยค่ะ
     
  8. id_idea

    id_idea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    577
    ค่าพลัง:
    +1,564

    โมทนาค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  9. id_idea

    id_idea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    577
    ค่าพลัง:
    +1,564
    วันที่31ตุลาคม56
    คุณมะยุลี แมนสถิตย์ และครอบครัว ร่วมบุญ 100 บาท

    ขอโมทนาบุญด้วยนะคะ
     
  10. id_idea

    id_idea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    577
    ค่าพลัง:
    +1,564
    รายชื่อผู้ร่วมบุญกฐินสร้างลวดลายหน้าบรรณโบสถ์ ปี ๕๖ วัดโพธิญาณรังสี
    คุณยุบล อายุวัฒน์ ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณวสันต์ - คุณวนิดา - คุณชนิดา สูงสันเขต ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณรองรัตน์ แก้วนาคูณ ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณวิเชียร - คุณสนธยา กี่ไพบูลย์ ร่วมบุญ 100 บาท
    โรงเรียนกวดวิชา อาร์ ซี ร่วมบุญ 300 บาท
    คุณวาสนา วิวาสุขุ ร่วมบุญ 100 บาท
    ด.ญ.กัญญาภัทร วาหลา ร่วมบุญ 40 บาท
    คุณสมจิต อินทรชาติ ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณสุรินทร์ ทวยหมื่น ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณยายทองใบ - คุณบุญส่ง กระเบา ร่วมบุญ 140 บาท
    คุณปรีชา เถาว์ทิพย์ ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณผดุงชัย โคตรสุวรรณ ร่วมบุญ 200 บาท
    คุณเฉลิมพักตร์ สุ่มมาตย์ ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณนิรันดร์ โคตรสุวรรณ และครอบครัว ร่วมบุญ 1,000 บาท
    คุณสุนันทา ด่านวันดี ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณวชิราพร ภูริพันธุ์ภิญโญ ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณปรีชา - คุณปราชญ์บดี สุวรรณศรี ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณแก้วพนมพร คำภักดี ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณถวาย - คุณพุธ พิมพ์ดี ร่วมบุญ 200 บาท
    คุณกิจจา - ด.ญ.ลักษณา ศรสุทธิ์ ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณนันทพร - คุณเยาวภา ยิ่งรัตนสุข ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณอรรถพร - ด.ญ.ปัญจพร แก้วมนตรี ร่วมบุญ 300 บาท
    คุณเกศินี ปริปุณณะ และครอบครัว ร่วมบุญ 1,000 บาท
    คุณวิทยา ภาวลี ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณวิชยะ - คุณสัมฤทธิ์ บุญยะโพธิ์ ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณสุรางค์ทิพย์ นครไพร ร่วมบุญ 100 บาท
    คุณจุฬาลักษณ์ พงษากิจ ร่วมบุญ 300 บาท

    ขอโมทนาบุญด้วยนะคะ
    ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ท่านและครอบครัวมีความสวัสดีอันเป็นมงคลในจิตใจ
    ให้จิตของท่านมีสภาพแจ่มใส บริสุทธิ์ และพร้อมไปด้วยสติสัมปชัญญะทุกเมื่อ
    ให้สิ้นเคราะห์ สิ้นโศก สิ้นโรคภัยไข้เจ็บ มีลาภสักการะมากมายเหมือนดั่งหลวงพ่อพระสีวลี
    ขอความเป็นสิริมงคลทั้งหมดนี้จงสำเร็จแก่ท่านนับตั้งแต่บัดนี้จนตราบเท่าเข้าพระนิพพาน เทอญ
     
  11. id_idea

    id_idea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    577
    ค่าพลัง:
    +1,564
    รายงานยอดเงินบัญชีทำบุญกฐินสร้างลวดลายหน้าบรรณโบสถ์ ปี ๕๖ วัดโพธิญาณรังสี
    วันที่ 24ต.ค.-1พ.ย. 2556ค่ะ

    ยอดเงินอยู่ที่ 76,335.76 บาท

    ***อัพโหลดรูปไม่ได้ ขอลงLinkแทนนะคะ

    http://www.4shared.com/download/n2yL9cXY/24-1.png?tsid=20131101-094206-9705e313
     
  12. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ๊

    จันทรกาล
     
  13. widya

    widya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,095
    ค่าพลัง:
    +13,214
    ร่วมบุญกฐินวัดโพธิญาณรังสี


    วันจันทร์ ที่ ๔ พ.ย.๕๖ เวลา ๑๔.๓๐ น.

    ได้โอนปััจจัยเข้า ธ. กรุงไทย ๐๓๑ - ๐๓๐ - ๗๓๙๒

    ๒,๕๐๐ บาท
     
  14. id_idea

    id_idea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    577
    ค่าพลัง:
    +1,564


    สาธุ อนุโมทนามิ
     
  15. id_idea

    id_idea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    577
    ค่าพลัง:
    +1,564
    มีธรรมะมาฝากค่ะ

    รวมคำสอนปฏิปทาผู้เฒ่า*

    โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ


    อย่าทะนงตน

    อย่าทะนงตน คิดว่าเราเป็นคนดี ถ้าคิดว่าดีเป็นผู้วิเศษเมื่อไร เมื่อนั้นแหละกรรมใหญ่ อันตรายใหญ่จะมาถึงท่าน ที่เราเรียกกันว่าความประมาท
    ขอจงพยายามคุมตนไว้ตามคำแนะนำขององค์สมเด็จพระบรมโลกนาถ นั่นก็คือทรงอิทธิบาท ๔ ให้ครบถ้วน มีจรณะ ๑๕ ครบถ้วน ผมว่าเท่านี้ก็เหลือกินเหลือใช้ มีบารมี ๑๐ ครบถ้วนเท่านี้ก็เหลือแล้ว ถ้าครบเท่านี้อาการของความโลภไม่มี อาการของความทะเยอทะยานในเรื่องเพศในลักษณะของกามคุณไม่มี อารมณ์ที่จะผังไว้กับความโกรธไม่มี การที่จะยึดถืออะไรเป็นเราเป็นของเราไม่มี ที่ยังมีอยู่ก็เพราะว่าเพียงแต่รับฟังไว้เฉยๆ ดีไม่ดีก็จำไว้ เอาไว้เป็นเครื่องข่มขู่คนอื่น ทะนงตนอวดว่าเป็นผู้ทรงคุณธรรมด้านปริยัติ ถ้าอารมณ์อย่างนี้เขาเรียกว่าปฏิบัติเหลว ไม่มีอะไร แดนที่จะไปก็คือ อเวจีมหานรก หรือว่า โลกันตนรก
    (ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า หน้า ๒-๓)

    อย่าสนใจร่างกาย

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า “เธอทั้งหลายจงอย่าสนใจร่างกายของตนเอง จงอย่าสนใจในร่างกายของคนอื่น จงอย่าสนใจในทุกสิ่งทุกอย่างในโลก เพราะว่าสิ่งทั้งหลายในโลกนี้มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ร่างกายถ้าเป็นเราจริงมันก็ทรงสภาพอยู่ตลอดกาลตลอดสมัย แต่ทว่าร่างกายของเราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ทรงสภาพ ในที่สุดมันก็เข้าขั้นสลายตัว เมื่อเราจะต้องตาย ทรัพย์สมบัติของเราทั้งหลายในโลกมันก็ไม่ตามเราไป แม้แต่ร่างกายที่เรารักที่สุดมันก็ไม่ตามเราไป มันคงจมอยู่ในพื้นปฐพีเป็นปรกติ” อย่างนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแนะนำให้คิดไว้อยู่เสมอ อย่าเผลอไปในด้านความโลภ อย่าเผลอไปในด้านความทะเยอทะยาน อย่าเผลอให้จิตใจมีความโกรธ ความพยาบาท อย่าเผลอให้ความนึกคิดว่านั่นเป็นเราเป็นของเรา อารมณ์อย่างนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงต้องการ ฉะนั้น ขอทุกท่านจงรักษากำลังใจอย่างนี้ไว้เป็นปกติ
    ถ้าหากว่าใจของท่านกระสับกระส่าย
    จงรักษาอานาปานสติกรรมฐาน มีกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกให้ทรงตัว ยังไม่ต้องคิดอะไรทั้งหมด กำหนดจิตรู้เฉพาะลมหายใจเข้าหายใจออกเท่านั้น หายใจเข้ายาวหรือสั้น หายใจออกยาวหรือสั้นรู้อยู่ถ้าทำอย่างนี้อารมณ์จิตของท่านจะไม่ฟุ้งซ่าน
    (ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า หน้า ๘)

    พิจารณาร่างกาย องค์สมเด็จพระจอมไตรได้ทรงแนะนำบรรดาพระภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกขเวดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เมื่อท่านปฏิบัติร่างกายของท่าน พิจารณาร่างกายของท่าน ใคร่ครวญขยายออกกระจายออกคือ พิจารณาอันดับแรกเป็นธาตุสี่ ว่าร่างกายของเรานี้เป็นธาตุดิน ธาตุลม ธาตุไฟ ธาตุน้ำ มันประกอบเข้ามาเป็นร่างกาย เรามีความเข้าใจว่า ร่างกายเป็นแท่งทึบ แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ ร่างกายของเราแบ่งออกเป็นอาการสามสิบสอง มีผม ขนเล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เป็นต้น ทั้งหมดนี้รวมเข้าแล้วเป็นร่างกาย แต่ทว่าร่างกายเหล่านี้มันเต็มไปด้วยความสกปรกโสโครก มันเต็มไปด้วยความ อนิจจัง คือหาความเที่ยงไม่ได้ มันเต็มไปด้วยทุกขัง คือเต็มไปด้วยความทุกข์ไม่มีความสุข มันเต็มไปด้วยอนัตตา คือมันสลายตัวไปทีละน้อยๆ ทุกเวลาที่เคลื่อนที่ไป เธอทั้งหลายจงอย่าสนใจในร่างกายของเธอ จงอย่าสนใจในร่างกายของคนอื่น จงอย่าสนใจในทรัพย์สินทั้งหลาย

    จงทำลายความรักในเพศด้วยอำนาจอสุภสัญญา

    จงทำลายความโลภด้วยการตัดความอยากได้ด้วยการให้ทาน อย่าทะเยอทะยานในทรัพย์สินที่ไม่ใช่ของดี เป็นปัจจัยในเราเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร อย่าสนใจในความโกรธ ความพยาบาท ในบุคคลทั้งหลาย ใครเขาจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา เขาจะนินทาว่าร้ายว่าเรา ถ้าบังเอิญเราเป็นคนดีก็ไม่เลวไปตามคำพูด ถ้าเขาสรรเสริญว่าเราดี ถ้าเราเลวเราก็ไม่ดีไปตามคำพูด ความดีและความชั่วอยู่ที่ความประพฤติปฏิบัติเป็นสำคัญ ถ้าเราประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ใครจะว่าดีว่าเลวก็ช่าง อย่าสนใจทั้งสองประการ เราปฏิบัติตามคำแนะนำขององค์สมเด็จพระพิชิตมารเท่านั้นเป็นพอ” เป็นว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนอย่างนี้
    (ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า หน้า ๘)


    สังขารุเปกขาญาณ

    กำลังใจของเราจะทรงได้ดีจริงๆ ต้องน้อมใจของเรานี้ฝึกไปด้วยปัญญาพิจารณาหาความจริง จิตใจตั้งอยู่ในสังขารุเปกขาญาณ นั่นก็คือมีอาการวางเฉยตามสภาวะของสังขาร คือร่างกายและทุกสิ่งทุกอย่างในโบก มีความรู้ตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นอนิจจัง คนเป็นอนิจจัง วัตถุในโลกก็เป็นอนิจจัง คำว่า “อนิจจัง” แปลว่า มันไม่เที่ยง เรารู้ตามความเป็นจริงของมันว่ามันไม่เที่ยง ในเมื่อมันไม่เที่ยง เรายอมรับนับถือความไม่เที่ยงของมัน มีความรู้สึกอยู่เสมอว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกหาอะไรเที่ยงไม่ได้ แต่ว่าเมื่อมันไม่เที่ยง เราก็ทำใจของเราให้เที่ยง มันเที่ยงตรงไหน เที่ยงตรงที่มันมีความรู้สึกตามกฎของธรรมดาอยู่เสมอว่า ร่างกายก็ วัตถุธาตุก็ดี ที่เกิดมาในโลกนี้มันไม่เที่ยง มันมีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น และมีความแปรปรวนไปในท่ามกลาง มีความแตกสลายตัวไปในที่สุด
    (ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า หน้า ๙)

    ความตายเป็นของเที่ยง ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง

    ความตายเป็นของเที่ยง ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง จงจำไว้ให้ถึงที่สุด เมื่อจำไว้ทุกวัน ลืมตาขึ้นมาเช้ามีความรู้สึกไว้เสมอว่า เราอาจจะไม่ได้กินข้าวเข้า อาจจะตายก่อนก็ได้ ความตายไม่มีนิมิต ความตายไม่มีเครื่องหมาย ถ้าเราตายเลว ก็ดูตัวอย่างในอบายภูมิ มีนรกและเปรตเป็นต้น ก่อนจะตายถ้าเราทำความดี นั่นก็เป็นเรื่องที่เราจะฟังต่อไปข้างหน้าในเรื่องวิมานวัตถุ จะเห็นผลมีความสุข ถ้าเป็นมนุษย์ก็เป็นมนุษย์ที่เต็มไปด้วยทรัพย์มีความสุข ถ้าเป็นเทวดาก็เป็นเทวดาที่มีความสุขสมบูรณ์ ไม่ต้องเป็นเปรตไปก่อนแล้วจึงเป็นเทวดา (ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า หน้า ๒๘)

    เห็นกระดูกลอยมา

    ท่านกล่าวว่า สมัยที่ท่านได้อสุภสัญญา เห็นกระดูกลอยมาและก็พิจารณาเห็นคนทั้งหมด ทั้งหมดเป็นกระดูก ก็จับกระดูกเป็นภาพนิมิต จนกระทั่งจิตทรงด้วยฌาน ๔
    เป็นอันว่าอสุภกรรมฐานที่เขาบอกว่าเป็นกรรมฐานพิจารณา ทรงจิตไว้อย่างสูงแค่ปฐมฌานเขาว่ากันอย่างนั้น แต่ในทางปฏิบัติจริง ถ้าเราฉลาดเราก็เอาปฐมฌานมาเป็นฌานเสียอย่างสบายๆถึง ฌาน ๔


    อัฏฐิกัง ปฏิกุลัง ท่านผู้เฒ่าท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านจบเอาอสุภทั้งหมด เมื่อได้ “อัฏฐิกัง ปฏิกุลัง” แล้ว ท่านก็ไล่เบี้ยไปเลยตั้งแต่ ๑ ถึง ๑๐ จับภาพไปเลยให้จิตทรง มันเน่าแบบไหน มันเหม็นแบบไหน มันเละแบบไหน มันขึ้นแบบไหน มันพองแบบไหน ท่านทำเป็นฌาน๔ ได้หมดทุกอสุภ ๑๐ อย่าง จิตใจทรงตัว เห็นคนเมื่อไหร่ เห็นเมื่อไหร่ เน่าหมด เห็นวัตถุธาตุต่างๆ เห็นโครงกระดูกไม่มีความติดในความสวยสดงดงาม แต่ว่าเวลานั้นเป็นเรื่องของสมถภาวนา เวลานั้นความรู้สึกในระหว่างเพศไม่มี เห็นคนเน่าๆ เห็นเน่าๆ เห็นคนเป็นกระดูก มีสภาพน่าเกลียด แต่จิตยังไม่น้อม ไปในด้านวิปัสสนาอย่างสูง มัวเล่นแต่สมถภาวนาธรรมดา เห็นว่าเน่า เห็นว่าเหม็น เห็นว่าน่าเกลียด เห็นว่าโสโครก นี่เป็น สมถภาวนา ถ้าเป็นวิปัสสนาต้องพิจารณาเห็นความเสื่อมความโทรมของร่างกาย มีสภาพไม่เที่ยง เสื่อมไปทีละเล็กทีละน้อย แล้วในที่สุดมันก็สลายตัว จิตไม่เข้าไปยึดไปถือ ท่านบอกว่าเวลานั้นอารมณ์วิปัสสนาญาณท่านมีนิดหน่อย เล่นเฉพาะสมถภาวนาให้มันช่ำใจเพราะความเข้าใจผิด ตามบันทึกท่านบอกว่า ถ้าเราคิดควบกับวิปัสสนาเสียเวลานั้น ความจริงท่านบอกว่าหลวงพ่อปานก็สอนวิปัสสนา แต่ว่าท่านเป็นคนใจเดียว ถ้าจะเอาอะไรเอาให้มันฟังไปเป็นด้านๆ ถ้าไม่ได้ยอมตายเสียดีกว่า ขึ้นชื่อว่าไม่สามารถในชีวิตนี้จะไม่มีเป็นอันขาดสำหรับท่าน ท่านรู้สึกว่ามีกำลังใจเด็ดเดี่ยวมาก ในสมัยกำลังเล่นอนุภกรรมฐาน แล้วก็มีวิปัสสนาญาณเจือปนนิดหน่อยกันฌานเสื่อม สิ่งที่เป็นศัตรูกับอารมณ์อย่างนี้มันก็เกิด นั่นก็คือ อิสตรีที่เป็นเพศตรงกันข้าม สตรีก็ระวังบุรุษ ถ้าบุรุษก็ระวังสตรีจะเข้ามาเล้าโลมด้วยเหตุต่างๆ มาติดต่อสร้างความสัมพันธ์ในฐานะที่อยากจะเป็นคนรักด้วย ดีไม่ดี แก่ก็พูดเปิดเผยชวนรักชวนแต่งงาน แต่ต้องระวัง และจงอย่าไปโทษใครเขา เราไปหลงละเมอในคำป้อยอทั้งหลายเหล่านั้น คำชักชวน ความดีของเรามันจะด้วน ฌานจะสลายตัว
    (ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า หน้า ๒๙)

    การเป็นพระโสดาบัน

    การเป็นพระโสดาบันก็ดี การเป็นพระสกิทาคา อนาคา อรหันต์ก็ดี เขาศึกษากันตัวเดียวคือ สักกายทิฏฐิ เมื่อตัดสักกายทิฏฐิได้ตัวเดียวก็เป็นพระอรหันต์ แต่ทว่าตอนที่จะตัดสักกายทิฏฐิเธอจงปฏิบัติตามนี้นะ
    ก่อนที่จะใช้อารมณ์วิปัสสนาญาณ อันดับแรก เข้าฌานให้ถึงที่สุดที่เธอทรงได้ เข้าฌานออกฌานสลับกันมาสลับกันไปให้มันมีความทรงตัว แล้วทำจิตใจให้ทรงในฌานให้แนบสนิททรงตัวมีความสุขที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฮะทั้งหมดได้สมาบัติแปดมาแล้ว แล้วก็ศึกษาด้านอภิญญามาแล้วอย่างนี้เป็นของไม่ยาก ในด้านวิปัสสนาญาณ ใช้กำลังสมาบัติแปดเป็นกำลังใหญ่ ทรงใจห้ทรงตัวแล้วถอยหลังไปถึงอุปจารสมาธิ พิจารณาขันธ์ ๕ มันเป็นภัยสำหรับเรา เป็นวัตถุธราตุที่สร้างด้วยทุกข์สร้างด้วยโทษไม่มีอะไรเป็นปัจจัยของความสุข มองดูขันธ์ ๕ คือร่างกาย เราต้องเลี้ยงมันเท่าไร มันชอบอะไรเราให้มันกินทั้งหมด แต่เราไม่ต้องการจะป่วยมันก็ยังขืนป่วย เราไม่ต้องการจะเพลียมันก็เพลีย เราไม่ต้องการจะแก่อย่างฉันนี่ ฉันไม่เคยต้องการให้มันแก่มันก็แก่ คนที่เขาตายไปก่อนเรา เขาไม่ต้องการตายมันก็ตาย ในเมื่อขันธ์ ๕ มันเลวทรามอย่างนี้จะคนค้าสมาคมกับมันเพื่อประโยชน์อะไร อันดับแรก จับจุดความเป็นพระโสดาบัน ระงับความพอใจในขันธ์ ๕ เสีย คิดว่ามันจะตายเสมอ แล้วทรงศีลให้บริสุทธิ์ ศีลควรทำเป็นศีลานุสสติกรรมฐาน ทรงศีบให้เป็นกำลังฌาน คำว่า เป็นกำลังฌาน ก็คือทรงอารมณ์อยู่ในศีลตลอดวันตลอดคืน ไม่ยอมให้ศีลบกพร่องจากใจ ไม่ใช่ว่าต้องไปนั่งหลับตาปี๋ เดินไปเดินมาเลี้ยงหมูเลี้ยงหมา คุยกับหมาคุยกับแมว ศีลทรงตัวใช้ได้ เจอหน้าคนเขา ด่าคนเขา ว่าเขา นินทาศีลไม่ด่างใช้ได้ น้อมใจเคารพในคุณพระรัตนตรัย ๓ ประการ คือทรงพระกรรมฐาน ๓ อย่าง ให้ฌานคือ พุทธานุสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ ให้ทรงตัว ความจริงสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เธอทรงได้หมดแล้วนี่ จะต้องมานั่งสอนอะไรกัน เว้นไว้แต่จิตอย่างเดียว คือ อารมณ์พระนิพพาน เธอยังไม่มั่นใจเท่านั้นเพราะฉะนั้นจงตัดสินใจทรงอุปสมานุสสติให้ทรงตัว
    (ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า หน้า ๕๓)

    อย่าลืมคุมกำลังใจให้เป็นสมาธิ

    สำหรับการแนะนำในการเจริญพระกรรมฐานในวันนี้ จะขอนำปฏิปทาท่านผู้เฒ่ามาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหรือการทรงกำลังใจ แต่ทว่าบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลายหรือว่าพระโยคาวจรทุกท่าน อย่าลืมคุมกำลังใจให้เป็นสมาธิ เรื่องการรักษาอารมณ์ให้เป็นสมาธินี่มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะอานาปานสติกรรมฐานนี่ให้ทรงตัว แล้วก็จริต ๖ ประการ ใคร่ครวญอยู่เสมอ จงอย่าเป็นผู้ยอมแพ้นิวรณ์ นี่อันดับต้น ถ้าอันดับต้นเรายอมแพ้นิวรณ์ เราก็ไม่อาจจะทรงฌานได้ แล้วก็จงอย่าเป็นผู้ยอมแพ้กิเลส ถ้าเรายอมแพ้กิเลสแล้ว เราก็ไม่สามารถเป็นพระอริยเจ้าได้ คุณธรรมที่เป็นเครื่องบำรุงใจ ดูตัวอย่างท่านมหาบาลที่ผ่านมาแล้ว ใช้กำลังใจส่งนนี้ให้เหมือนท่าน จงคิดว่าท่านเป็นฆราวาส ท่านเป็นกฎุดพี หรือว่าเป็นเศรษฐีมีทรัพย์มาก ท่านยังสามารถตัดสินใจอย่างนั้นได้แล้วก็เรา ถ้าจะกล่าวกัน ท่านมีกี่นิ้ว เรามีกี่นิ้ว หรือว่าท่านมีรูปร่างลักษณะอย่างไร มีอาการสามสิบสามหรือสามสิบห้า ความจริงท่านก็มีอาการสามสิบสองเป็นร่างกายเท่ากับเราเราก็มีกาอากรสามสิบสอง ท่านกินข้าว เราก็กินข้าว ท่านเป็นคนเราก็คน ถ้าหากว่าท่านเป็นคนดีได้ เราเป็นคนดีไม่ได้ เรามันก็เลวเกินไป
    (ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า หน้า ๕๖)

    ถ้าทำไม่ได้ยอมตายเสียดีกว่า

    ในเมื่อท่านปฏิบัติความดีมีความตายเป็นเดิมพัน ทั้งนี้ก็หมายความว่า ถ้าทำไม่ได้ยอมตายเสียดีกว่า อันนี้เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์บอกไว้ด้วยถึงแม้ว่าเวลานั้นจะไม่ได้อรหันต์ แต่ต้องได้อรหันต์แน่ถ้าท่านคิดอย่างนั้น อะไรบ้างที่ท่านยอมให้บกพร่อง ภารกิจหน้าที่ทั้งหมดที่เป็นคันถธุระทุกอย่างทั้งทางด้านวิชาการและการงานไม่ยอมให้บกพร่อง เพราะถือว่าจะต้องมีอารมณ์จิตเข้มข้น ไม่ใช่จะมานั่งภาวนาอย่างเดียวให้เป็นอรหันตผล อันนี้มันไม่ได้เพราะอารมณ์ใจไม่มีการสัมผัสกับฝ่ายที่เป็นตรงกันข้าม ไม่มีการต่อสู้ ทั้งนี้เพราะว่า รู้ตัวอยู่ว่าคนที่หลีกเลี่ยงจากคันถธุระ หลีกเลี่ยงจากโลกธรรม เวลาอยู่คนเดียวสงบสงัด แต่เวลามาสัมผัสกับโลกธรรมเข้า จิตปลิวหวอย ตั้งสติไม่อยู่ ถ้าเราจะทำบ้างทำอย่างไร เริ่มจับจุดเช้ามืด ทรงอารมณ์สมาธิให้สูงสุดที่มันจะสูงได้ ทรงให้นานเท่าไรได้ก็ยิ่งดี อย่ารีบถอน เวลาคลายมาแล้วจิตตั้งอยู่ในอุปจารหรือปฐมฌานอยู่ตลอดทั้งวัน ถ้าอารมณ์จะซ่านหลบเข้าสู่ที่สงัดนิดหนึ่งทำจิตให้ทรงอารมณ์จุดสูงสุดเท่าที่จะทำได้ จะทำงานทำการอะไรอยู่ก็ตาม ไอ้สมาธิอย่าไปนั่งขัดสมาธินั่งพับเพียบอยู่เสมอ มันไม่มีผล มันต้องการได้ทุกขณะ แม้แต่กิจการงานที่เราทำอยู่ให้จิตมันทรงอยู่ในอารมณ์ของความดีอยู่ในขั้นอุปจารหรือปฐมฌาน วันทั้งวันอย่างนี้ความเป็นพระอรหันต์มันไม่ใช่จะเป็นของยาก ถ้าภายหลังจะบอกว่าง่ายเหลือเกิน เวลาจิตจะคลายจากสมาธิก็จับวิปัสสนาญาณตามที่ศึกษามาแล้ว
    เราศึกษามาจนท่วมหัวแล้ว ไม่ใช่แค่พอดี ถ้าจิตมันฟุ้งซ่านอีกที ทิ้งวิปัสสนามาจับอารมณ์สมาธิสลับกันไปสลับกันมาอย่างนี้ ความดีมันก็จะปรากฏ คำว่า “ทุกข์” ที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอนท่านผู้เฒ่า มันเป็นของไม่ยากสำหรับเราจะเอาดี แต่ว่าน่าสลดใจอยู่นิดนะ บางทีเดินไปเดินมา เห็นพระบางทานเก็บตัวมากเกินไปก็น่าสงสาร คำพยากรณ์ใดๆ จงอย่าคิดว่ามันจะได้ตามคำพยากรณ์นะ ถ้าไม่ปฏิบัติตนอย่างดีมันจะไม่ได้อะไรเลยเพราะเราหมกมุ่นเกินไป
    (ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า หน้า ๗๖)
     
  16. id_idea

    id_idea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    577
    ค่าพลัง:
    +1,564
    แสดงบัญชีบุญกฐินไตรประทานฯ วัดโพธิญาณรังสี
    วันที่1-6 พ.ย.2556

    ยอดเงินอยู่ที่ 84,994.76 บาท

    โมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะคะ
    ขอขอบพระคุณ คุณพระวัดหัวเขา, ท่านwidya, พี่น้ำใส, พี่เดือน, พี่นู๋ดี, Miss Brown,
    พี่Winny(ศิษย์วัดเขาวง) และกัลยาณมิตรทั้งหลายที่ไม่ได้เอ่ยนามทุกท่านที่มีส่วนในบุญกฐินวัดโพธิญาณรังสีครั้งนี้

    ขอบุญนี้จงส่งผลให้กิจการงานของท่านทั้งหลายจงเป็นไปด้วยความรุ่งโรจน์ เจริญงอกงามเสมอ
    ขอให้ทุกๆคนที่ได้เห็นจิตอันเป็นกุศลทั้งหลายนี้จงมีความยินดีและเมตตา
    ได้ก้าวเข้ามาช่วยเหลือท่านให้การงานต่างๆจงสัมฤทธิ์เป็นผลดังใจ
    และคำอธิฐานใดที่ท่านทั้งหลายได้ตั้งความหวังไว้ในการทำบุญกฐินไตรประทานฯ วัดโพธิญาณรังสี ปี2556นี้
    ก็ขอให้ความปรารถนาอันนั้นของท่านจงได้สัมฤทธิ์เป็นผลโดยพลันทันที ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปด้วยเทอญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    สาธุ สาธุ สาธุ

    ขออนุโมทนาบุญกับน้อง id_idea เป็นอย่างยิ่งในความอุตสาหะ วิริยะในการเป็นสะพานบุญ ช่วยเหลือกิจการงานบอกบุญกฐินวัดโพธิญาณรังสีได้สำเร็จงดงามค่ะ

    ขอผลบุญในการถวายกฐินไตรประทานครั้งนี้ ส่งผลให้น้อง Id_idea และทุก ๆ ท่านมีความคล่องตัวในการเงินการงาน อุปสรรคทั้งหลายในชีวิต ขอให้มลายหายสิ้นไป ขอให้มีความสุขกายสุขใจ ปราศจากความทุกข์ด้วยประการทั้งปวง

    ขอให้เจริญด้วยโภคทรัพย์ และอริยทรัพย์ เดินทางไปไหนขอให้มีแต่ความปลอดภัย คำว่า ไม่รู้ ไม่มี ไม่สำเร็จ ขออย่าได้บังเกิดแต่ท่านทั้งหลาย นับแต่บัดนี้ ตราบเท้าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ..สาธุ..


    ขออนุโมทนาบุญกับน้อง Id_idea และทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2013
  18. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...