ตอบข้อสงสัยทุกเรื่องเกี่ยวกับพุทธภูมิ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย สุดทั่รัก, 9 ตุลาคม 2013.

  1. สุดทั่รัก

    สุดทั่รัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2013
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +102
    ให้ใช้ปัญญาเอานะ

    พระแก้วประจำองค์ของผู้ปราถนาพุทธภูมิ เป็นพุทธนิมิต ที่แสดงให้รู้ถึง

    ระดับสภาวะธรรมของผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิ ตามระดับสภาวะจิต ณ

    ขณะนั้น ลักษณะ สี จะบ่งบอกสภาวะธรรม ของผู้นั้น

    เป็นลักษณะสายวิชาของท่านทวด

    -จะปรากฎพระแก้วเมื่อระดับสภาวะจิต หรือ สภาวะธรรมเริ่มอยู่ใน

    ระดับพระจักรพรรดิราช หรือ พระธรรมิกราช เป็นหนึ่งในทิพยสมบัติ

    ของสวรรค์ชั้นดุสิตหรือของพระโพธิสัตว์ท่านนั้น

    -ทำไมถึงต้องมีพระแก้ว เพื่อเป็นนิมิตให้ได้รู้

    และเป็นกำลังใจให้กับพุทธภุมิท่านนั้นในการบำเพ็ญบารมีต่อไป

    -พระแก้วแต่ละสีแตกต่างกันอย่างไร

    ขึ้นอยู่กับว่าระดับสภาวะจิตของผู้นั้นอยู่ในระดับไหน

    เป็นไปตามระดับและลำดับของสภาวะธรรม ที่สุดเลย จะเป็น

    ฉัพพรรณรังสี หรือแสงวรรณะทั้ง ๖ เหมือนแสงอาทิตย์

    นั้นคือ สภาวะจิตจะอยู่ในระดับสัมมาสัมพุทธะ หรือ เรียกว่า

    เทียบเท่าในระดับพระพุทธเจ้า
     
  2. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ถามเรื่องพระยามาร องค์ที่มาขัดขวางกลั่นแกล้งการตรัสรู้ธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จากการศึกษาค้นคว้าและได้อ่าน พบว่าท่านปรารถนาพุทธภูมิ และพระยามารท่านนี้เป็นหัวหน้าพระยามาร หรือ พระยามาราธิราช หรือ ท้าวปรนิมมิตวสวัตตี หรือ พระยาวสวัตตีมาร

    ในสมัยพระพุทธองค์ยังพระทรงชีพอยู่ ท่านไม่ทรงทรมานสั่งสอนพยามาร เพราะรู้ด้วยอนาคตญาณ ว่ากา่ลต่อไปจะมีพระภิกษุอรหันต์ซึ่งเป็นคู่ปรับพยามาร นามว่า "พระอุปคุตเถระ" จะมาเป็นผู้ทรมานสั่งสอน

    จากการศึกษาค้นคว้า เรื่อง พระอนาคตวงศ์ 10 พระองค์ ในโสตัตถกีมหานิทาน ก็ดี หรือใน ทสโพธิสัตตุปปัตติกถ ก็ดี ได้กล่าวว่า พระยามารจะมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นลำดับที่ 3 ต่อจากพระศรีอริยเมตตรัย มีพระนามว่า "พระธรรมสามีสัมมาสัมพุทธเจ้า"

    และจากการศึกษาค้นคว้าต่อไปอีก พบว่า มีการกล่าวว่า พระยามาร ท่านได้ลาพุทธภูมิ แต่ผมก็ยังหาหลักฐานมาอ้างอิงไม่ได้ ว่าคำกล่าวอ้างนั้นอยู่ในหนังสือเล่มไหน เรื่องอะไร

    คำถาม

    1. พระยามารท่านนี้ ท่านลาพุทธภูมิแล้วจริงหรือ
    ข้อนี้ในจิตทราบดีแต่ไม่ควรกล่าวออกไปครับเพราะมีเหตุบางอย่างที่ไม่ควรกล่าวออกไปครับ

    2. ปัจจุบัน ตำแหน่งพระยามาราธิราช หรือท่านท้าวปรนิมมิตวสวัตตี ยังเป็นพระองค์เดิม องค์เดียวที่มาคอยขัดขวางรังควานพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ทั้งก่อนหน้าและหลังตรัสรู้ ใช่หรือไม่
    ตำแหน่งนี้อาศัยอายุไข ของท่านหมดลงหรือยัง หากยังไม่หมดอายุไข ท่านก็ยังต้องทำหน้าที่ต่อครับ และหากนับเวลาก็ผ่านมาเพียง2556ปี ไม่กี่วันของท่านเท่านั้นครับ ท่านยังทำหน้าที่ของท่าน และคุณก็สามารถสื่อจิตถึงท่านได้ หรือสักการะท่านได้ครับท่านสามารถมาโปรดได้ตามกาละเทศะอันเหมาะสมครับ

    3. เป็นธรรมเนียมประเพณี ปฏิบัติสืบต่อกันมาหรือว่า จะต้องมีเทวดาในชั้นปรนิมมิตวสวัตตี คือพยามาร หรือท้าวปรนิมมิตวสวัตตี มาคอยขัดขวางกลั่นแกล้งไม่ให้พระโพธิสัตว์ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ส่วนนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติ หากแต่อาศัยวิบากกรรมที่ทำเอาไว้นั่นเองเป็นตัวกำหนดครับ

    4. ถ้าเป็นธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติ ดังนั้น พระศรีอริยเมตตรัย ต้องถูกพระยามาร หรือท่านท้าวปรนิมมิตวสวัตตี คอยรังควานขัดขวาง เช่นนั้นหรือ จะมีวิธีหาหนทางแก้ไขเปลี่ยนแปลงธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติ เช่นนี้ได้หรือไม่อย่างไร
    เมื่อไม่ใช่ประเพณีปฏิบัติ จึงตอบไม่ได้ว่า อนาคตพระศรีอาริย์ท่านจะมีมารอะไรบ้างมาผจญครับยังตอบไม่ได้ครับ

    5. พระยามารที่จะทำหน้าที่ขัดขวางพระศรีอริยเมตตรัย ใช่พระยามารองค์ปัจจุบัน ที่ดำรงตำแหน่งในขณะนี้ ใช่หรือไม่[/QUOTE]
    ข้อนี้ตอบว่าไม่ใช่เพราะพระยามารท่านมีดวงตาเห็นธรรมแล้ว ท่านจักไม่ใช่มารผู้จ้องล้างผลาญอีกต่อไปครับ และไม่แน่ใจว่าเมื่อคราวที่พระศรีอาริย์ท่านสำเร็จโพธิญาณ ท่านพระยามาร ท่านยังอยู่หรือลงไปจุติเกิดแล้วไม่อาจทราบได้ครับ สาธุ
     
  3. สุดทั่รัก

    สุดทั่รัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2013
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +102

    เมตตา บารมี เป็นหนึ่งใน ๑๐ บารมี หรือ พุทธการกธรรม หรือ

    ธรรมของพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ ต้องบำเพ็ญให้บริบูรณ์

    รายละเอียด น่าจะไปหาอ่านได้ในเว็บ หรือ หนังสือของ

    คุณบรรจบ บรรณรุจิ หรือ ใน มุนีนาถทีปนี น่าจะมี

    เราจะแจงพอสังเขป

    จิตที่มีเมตตา ย่อมไม่แบ่งพรรค แบ่งพวก เป็นจิตที่กว้างขวาง ไม่

    คับแคบ ต่อ ชนชั้นหมู่ใด เหล่าใด หรือในสรรพสัตว์ทั้งหลาย เปรียบดัง

    น้ำให้ความสดชื่นกับทุกชีวิต พระโพธิสัตว์ ต้องมีจิตแบบนั้น

    ถึงจะเรียกได้ว่า มีจิตที่เมตตา เป็นคุณธรรม ในระดับแรกและสำคัญ

    ในการปรารถนาพระโพธิญาณ และ

    จะเป็นคุณธรรมที่เกื้อกูลต่อการบำเพ็ญพระโพธิญาณของผู้นั้นเอง

    เรัยกประเภทจิต นี้ว่า จิตที่เมตตาไม่มีประมาณ กว้างไกล .

    หาขอบเขตไม่ได้ หรือ อัปมัญญาเมตตาจิต แผ่ไปทุกทิศทุกทาง จน

    ครอบคลุมทั่วโลกธาตุ นี้คือ เมตตาบารมี

    เมตตาบารมี เป็น บารมีในลำดับที่ ๙ ก่อนจะวาง

    อุเบกขาบารมี นั้นคือ วางโลก จึงจะดับขันธ์

    คนที่มีเมตตาบารมี จะสามารถตั้งอยู่ใน กุศลธรรม

    ทั้ง กาย วาจา และใจ โดยง่าย

    มีวาจาเป็นมธุรสวาจา มีวาจาไพเราะเสนาะหู นิ่มนวล

    มีวาจาเป็นสุภาษิต

    เป็นเสน่ห์แก่ผู้ได้ยินได้ฟัง

    มีผิวพรรณ วรรณะผ่องใส ไม่มัวหมอง เพราะมีความเย็นในจิตใจ

    มีสง่า ราศี กว่าบุคคลทั่วไป

    ย่อมเป็น คนที่อ่อนโยน ไม่แข็งกระด้าง เป็นผู้ที่น่าคบหาสมาคม

    อานิสงส์ของเมตตา ๑๑ ประการ ย่อมเข้าถึง และเป็นเหตุให้เข้าถึง

    อรหันตภูมิธรรม ปัจเจกภูมิธรรม และพุทธภูมิธรรม ได้โดยง่าย
     
  4. ดำฤษณา

    ดำฤษณา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +205
    ขออนุญาติถามนะครับที่ท่านกล่าวว่าตรัสรู้ก็ได้ไม่ตรัสรู้ก็ได้
    กับเป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้าเป็นภูมิจิตเดียวกันหรือไม่
    เหตุใดจึงมีการลาพุทธภูมิได้กับลาพุทธภูมิไม่ได้
     
  5. สุดทั่รัก

    สุดทั่รัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2013
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +102

    คนละภูมิจิตกัน

    ผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า หมายถึง ผู้ที่จะได้ตรัสรู้ เป็นพระสัมมา

    สัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลแน่นอน เริ่มตั้งแต่ ได้รับพุทธพยากรณ์

    จากพระพุทธเจ้าที่ได้พยากรณ์เป็นพระองค์แรกของแต่ละคน จนถึงองค์สุด

    ท้าย และถึงวาระที่ตนจะได้ลงมาอุบัติ ซึ่งจะเป็นพระโพธิสัตว์ท่านใด

    ก็ได้ ที่มี เหตุและปัจจัยพร้อม หรือ บุญญาภิสมภาร หรือ

    บารมี พร้อม

    การที่กล่าวว่า "ตรัสรู้ก็ได้ไม่ตรัสรู้ก็ได้" หมายถึงว่า

    จะตรัสรู้หรือไม่ได้ตรัสรู้ ได้วางตรงนี้ลงแล้ว

    เราปล่อยแล้ว

    เหตุใดจึงมีการลาพุทธภูมิได้กับลาพุทธภูมิไม่ได้

    การลาพุทธภูมิ คงจะหมายถึง เลิกล้ม การปรารถนา

    พระโพธิญาณ หรือ ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล

    เหตุและปัจจัยมีได้หลายอย่าง ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวเองเป็นหลัก



    การลาพุทธภูมิ ไม่ใช่เรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ และสำคัญมาก

    เรื่องนี้ให้ใช้ปัญญาเอานะ

    การลาพุทธภูมิ ใช่ว่าจะลาได้ง่ายๆ มิฉะนั้น พุทธพยากรณ์

    จะผิดพลาด ซึ่ง ก็เป็นไปไม่ได้ ตรงนี้เรายืนยันนะว่า

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า

    มีวาจาเป็นสัจจะ การเอ่ยอะไร ย่อมเล็งพระญาณตามเหตุและปัจจัย

    การลาพุทธภูมิ ถ้าถามว่า เคยมีไหม ตอบว่า..... มี

    แต่จะเป็นช่วงที่บารมีต้นๆจนถึงก้ำกึ่งที่จะได้รับพุทธพยากรณ์

    แต่ถ้าได้รับพุทธพยากรณ์แล้วหายาก
    (อย่าถามว่า รู้ได้อย่างไร เพราะเป็นพุทธวิสัย)

    การจะลาได้ หรือ ลาไม่ได้ จะขึ้นอยู่กับ ครูอาจารย์ท่านจะแนะนำ
     
  6. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    =======================

    ขออนุโมทนาครับ ส่วนนี้กล่าวได้ชอบดีแล้วครับ
    อนึ่งกระผมเองก็จะมีลูกแก้ว แต่ไม่กล้าคิดว่าเป็นของผม
    ผมคิดว่าเป็นของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ครับ ท่านให้ผมดูแลเก็บรักษาให้ท่าน
    และรอเวลาที่เหมาะสม แก้วสารพัดนึก องค์นี้ ก็จะถูกจัดเก็บในที่ที่เหมาะสมเพื่อการสักการะบูชาต่อไป ตามแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะบัญชาครับ เป็นลูกแก้วที่พิศดารมาก มีลำแสงเกิดเป็นเส้นเป็นแนวรอบลูกแก้วครับ มีแสงสว่างกระจายออก สีเขียว่ออนแกมเหลืองใสแต่ข้างในขุ่นครับ มีประกายเกิดจากผลึกแก้วที่แสงตกกระทบภายในครับ ดังรูปครับ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC05989.jpg
      DSC05989.jpg
      ขนาดไฟล์:
      263.3 KB
      เปิดดู:
      125
  7. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,403
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    แก้วสีเขียวอ่อนแกมเหลืองมีแถบแสงสว่างสะท้อนขยับไปมาได้ของคุณ tjs สวยดีครับ แก้วชนิดนี้คนไทยเรียกว่าแก้วตาแมว ฝรั่งเรียกว่า Cat’s Eye มีหลายสีครับ จัดเป็นแร่ไพฑูรย์ หรือแร่คริสโซเบอริล อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ ไม้กลายเป็นหิน (หน้าที่ 4)
     
  8. สุดทั่รัก

    สุดทั่รัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2013
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +102
    แก้วนี้ เป็นแก้ว ที่เหมือนจะธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา ถ้าดูไม่ละเอียด

    จะเหมือนลูกแก้วธรรมดา ไม่มีอะไร แต่ถ้าดูดีๆ แล้ว เป็น รัตนะ

    สมบัติ ของผู้ถือครอง อานุภาพคล้ายแก้วจินดามณี

    ยังไม่ถึงแก้วจินดามณี ถ้าเป็นแก้วจินดามณี จะมีลักษณะดัง

    เพชรแต่จะสวยกว่ามาก ลักษณะสีแก้วถ้าพัฒนาสภาวะธรรมไปได้มากกว่านี้

    สีจะเปลี่ยน แต่ถ้า สภาวะธรรมถดถอย อานุภาพ จะลดตาม จนเป็นแค่

    แก้วธรรมดา ไม่มีอะไรเลย

    สีสัน วรรณะของแก้ว อานุภาพ

    จะเป็นไปตามระดับสภาวะธรรมของผู้ถือครอง

    มีพรหม และ เทวา ดูแลรักษาอยู่ สามารถ

    อธิษฐานใช้ได้ ตามเหตุและปัจจัย

    แนะนำให้ผู้ถือครอง ไปบำเพ็ญ สภาวะธรรมให้สูงกว่านี้ แล้วลอง

    ดูที่แก้วนี้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง? ดูในความเป็นทิพย์

    อย่าไปดูในลักษณะวัตถุธาตุ เขาให้เอามาเป็นตัวช่วย
     
  9. wayokasin

    wayokasin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +277
    ตามที่ข้าพเจ้า รู้สึกได้ ถึงความกลัว ความตกใจอย่างกระทันหัน นั้น ก็เป็นเพียงอารมณ์ความรู้สึกที่ เราท่าน รู้สึกกันไปเอง ความกลัวทั้งหลาย ทำงานแบบ วูบ วาบ เดี๋ยวมาเดี๋ยวไป สุดท้ายก็ คืออารมณ์ที่ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน ที่เรารู้สึก กันไปเอง

    ตามที่ครูอาจารย์ท่านได้กล่าวไว้คือ กลัวอะไรให้เข้าไปหาสิ่งนั้น ใช้ป้ญญาทำให้แจ้ง ให้ได้ว่า เรากลัวอะไร กลัวทำไม และหาเหตุเพื่อทำให้ รู้ชัดถึงความกลัวนั้น และทำให้ความกลัวนั้นหมดไป ถ้าไม่วิ่งเข้าหา ก็ไม่รู้ซะที... ก็ต้องกลัวแบบนั้นไปทั้งชีวิต.....:cool:
     
  10. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    =================

    ท่านกล่าวได้ถูกต้องครับ ขออนุโมทนาครับ
    เพราะกระผมทราบในจิตของกระผมดี ปกติที่กระผมสวดมนต์ภาวนาทุกคืนก่อนนอน จะนิมิตเห็นดวงแก้วดวงนี้สว่างไสวสวยงามเป็นปรกติ และบางโอกาสก็จะนิมิตเห็นพระพุทธเจ้าในดวงแก้ว ก็มี เห็นหลวงปู่ทวด สมเด็จโต พระกษิติ หลวงปู่มั่นหลวงพ่อปาน หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อเดิม พ่อท่านคล้าย และบางโอกาศก็นิมิตเห็นตนเองใส่ชุดขาวนั่งสมาธิอยู่ในดวงแก้วลูกนี้ที่ใสสวยงาม แรกๆเห็นให่มๆก็มีปิติ แต่หลังๆมาก็สักแต่ว่าเห็นมุ่งเน้นรักษาสมาธิของตนให้สงบนิ่งรวมเป็นหนึ่ง พร้อมกับพิจารณาจิตตานุสติ ดูจิต ดูอารมณ์ความนึกคิดที่เกิดดับกับจิต จิตว่างสว่างใสเหมือนดวงแก้วเป็นปรกติครับ

    กระผมตั้งใจไว้แล้วว่าเมื่อเวลานั้นมาถึงการบวชพระของผมจะเกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไข ขอตัดละกิเลสตั้งมั่นในศีล ชีวิตที่เหลือของการเป็นนักบวชสาวก จะไม่ใช่ชีวิตของผม แต่จะเป็นเรื่องของสภาวะธรรม หมดสิ้นแล้วในตัวตนของกระผม ที่เหลือเป็นเรื่องของสภาวะธรรม จิตคือธรรม ธรรมคือจิตเป็นหนึ่งเดียว ไม่สามารถผิดศีลหรือบทบัญญัติของพระพุทธเจ้าได้ นี่คือความตั้งใจถวายชีวิตที่เหลือครับ สาธุ

    ขอให้จบเรื่องลูกแก้วไว้เท่านี้นะครับ ขอบคุณครับ เพื่อจะได้ให้ท่าน สุดที่รัก2ได้ทำหน้าที่ของท่านต่อไปครับ สาธุ
     
  11. หมอมด

    หมอมด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +208
    .... 1 ใน 4 ที่เป็นอจินไตย คือเรื่องของพระพุทธเจ้า ไม่ควรเอามาคิดว่าเรื่องลาพุทธภูมิภายหลังจากได้รับคำพยากรณ์มาแล้ว บางครั้งความรู้เรื่องพระโพธิญาณนั้น อาจจะเป็นความรู้จากนอกพระไตรปิฏกก็ได้ ผมเห็นพวกเราชอบเอาพระไตรปิฏกมานั่งถกเถียงกันจัง
    ศาสนาพุทธเองก็ยังมีตั้งหลายนิกาย ต่างฝ่ายต่างก็ว่าตนนั้นทำถูกต้อง ทำมาตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้า.... ผมว่าความรู้ที่ดีที่สุดคือความรู้ที่มาจากฌานสมาบัติ โดยเฉพาะในสมัยที่คนผู้นั้นได้สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นแหละจะรู้ได้จริง รู้ทั้งหมด
    ปล. ถ้าสำเร็จแล้ว ขอเมตตาได้มาโปรดมาสงเคราะห์มาสั่งสอนผมด้วยครับ ท่านโพธิญาณทุก ๆ ท่าน
     
  12. หมอมด

    หมอมด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +208
    ...และขอขอบคุณ ข้อธรรมของท่านสุดที่รัก2 ด้วยครับ ที่ได้มีคำตอบ คำแนะนำดี ๆ มาชี้แนะกัน
    ...บางครั้งอาจจะมี โต้แย้ง กันบ้าง แต่อย่าโกรธกันเลยครับ ยิ่งท่านที่ปราถนาจะเอาโพธิญาณ ยิ่งควรต้องระวังสังวรณ์ เพราะถ้าเกิดว่า คู่กรณีของท่านได้สำเร็จก่อน จิตที่ยังขุ่นเคืองกันจะชักนำให้ท่านเป็นมาร หรือ อย่างเบาๆ ก็ อาจจะพลาดไม่ได้เกิดมาในช่วงที่เป็นศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์นั้น ( คู่กรณี ) พลาดแล้วเสียดายครับ พระพุทธเจ้ากว่าจะได้มาตรัสแต่ละองค์นั้นแสนยาก แสนนาน จนแทบจะนับระยะเวลาไม่ได้ พวกท่านเองนั้นก็ยังต้องเกิดมาสร้างบารมีกันอีกยาวนานนัก
     
  13. สุดทั่รัก

    สุดทั่รัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2013
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +102

    ความบังเอิญ ไม่มีในโลก ทุกอย่างมี เหตุ และ ปัจจัย

    ในตัวของมันเอง แต่ขึ้นอยู่กับว่า จะรู้ ในเหตุและปัจจัยนั้นๆหรือไม่

    การเตือนตนเองดีที่สุด
     
  14. หมอมด

    หมอมด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +208
    ...ดั่งคำสอนของครูบาอาจารย์ท่านว่า พระโพธิสัตว์เปรียบเสมือนดังหน่อกล้วย ต่างต้น ต่างคน ก็ ต้องคอยที่จะสงเคราะห์กัน ใครจบหลักสูตรก่อน ก็ต้องมาสงเคราะห์หน่อพุทธะ ที่จะสำเร็จตามทีหลัง ณ ตอนนี้ หน่อโพธิญาณที่อาวุโสที่สุดคือ พระศรีอาริย์บรมโพธิสัตย์ พวกเราที่สร้างสมบารมีมาควรอธิฐานขอสร้างบุญบารมีให้ได้พบกับท่าน ได้เรียนรู้ จากท่านโดยตรงในช่วงศาสนาของท่าน เพื่อเป็นการสืบสานมหาปณิธาน ที่จะช่วยพาเวนัยสัตว์ข้ามพ้นวัฎสงสาร พ้นจากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย และเรียนรู้ ต่อเนื่องจาก พระพุทธอนาคตวงศ์ ทั้งหลายที่สั่งสมบารมีพร้อมที่จะมาตรัสสืบต่อกันไป และสุดท้าย ท้ายที่สุด โพธิญาณทุก ๆ ท่าน ก็จะรู้ได้ด้วยตัวเอง ในวันที่ท่านบรรลุสัมโพธิญาณ ฉนั้น อย่าทะเลาะกันเลยครับ ช่วยประคับประคองกันไปดีกว่า พี่ ๆ น้อง ๆ กัน ทั้งนั้นครับ
     
  15. toypo

    toypo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2011
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +131
    ใครๆในโลกนี้อาดทายถูกทายผิดได้
    แต่ไม่ใช้ พระพุทธเจ้า หากพยากรใครแล้ว
    จะเป็นตามนั้นใม่มีวันผิดพระองศ์จึงเป็น
    เอกในโลกาธาตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 ตุลาคม 2013
  16. สุดทั่รัก

    สุดทั่รัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2013
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +102
    ก็ถูกแล้ว...
     
  17. silverraion

    silverraion Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +49
    ขออนุญาตถามครับ
    1.ฝึกสติอย่างไรให้จิตทันกับอายตนะภายนอก
    2.ทำอย่างไรให้จิตด้านในยอมรับกับความจริง
    3.จะลดการเกิดอีกหลายชาติต้องทำอย่างไรบ้าง
    ขอบคุณครับ
    สิงห์
     
  18. สุดทั่รัก

    สุดทั่รัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2013
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +102
    1.เธอต้องทันอายตนะภายในก่อน จึงจะทันกับอายตนะภายนอก

    ตราบใดถ้าเธอยังไม่แจ้งธรรมภายในได้ การที่จะไปแจ้งธรรมภายนอกนั้น

    จะเป็นเรื่องลำบากและยากมาก

    เพราะความไม่รอบรู้และความไม่บริบูรณ์ในสติและปัญญา

    อาจพาหลงทางได้ง่าย ธรรมภายในคือ ธรรมในใจของเราเอง

    2. ต้องยอมรับความจริง อย่าฝืน อย่าหลอกตัวเอง

    3. ถ้าเข้าใจและจบในชาติปัจจุบัน ก็ไม่ต้องมาเกิดอีก

    ยกเว้นยังปรารถนาต่อ
     
  19. ดำฤษณา

    ดำฤษณา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +205
    ในยุคนี้มีพุทธภูมิมาบำเพ็ญบารมีประมาณเท่าไหร่ครับ
    แล้วแต่ละท่านมีหน้าที่สำคัญๆอะไรบ้างครับ
     
  20. สุดทั่รัก

    สุดทั่รัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2013
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +102
    เยอะเฉพาะมนุษย์ ในส่วนโลกทิพย์ต่างหาก

    ทุกๆด้าน ให้ประเทศไทย และ ทางศาสนา

    ทั้งที่เปิดเผย และไม่เปิดเผยตัว

    ต่างประเทศก็มี แต่จะไม่ค่อยรู้ตัว เพราะกรรมบัง หรือ กั้นไว้

    เช่น อองซาน ซัดดัม บินลาเดน ปูติน ท่านผู้นำทั้งหลาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 ตุลาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...